Frozen Secret สืบซ่อนปมลับ - นิยาย Frozen Secret สืบซ่อนปมลับ : Dek-D.com - Writer
×

    Frozen Secret สืบซ่อนปมลับ

    กับดักร้ายล่อลวงให้ 'พวกเขา' มาติดอยู่ท่ามกลางป่าสนลึกลับ... ซึ่งไม่มีใครอาจคาดเดาได้เลยว่า... มันจะนำพามาซึ่งความหายนะที่ไม่มีที่สิ้นสุด!

    ผู้เข้าชมรวม

    2,135

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    11

    ผู้เข้าชมรวม


    2.13K

    ความคิดเห็น


    36

    คนติดตาม


    12
    จำนวนตอน :  30 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  8 ก.พ. 57 / 20:44 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     






    Please Welcome

    To The Damn’

     

    ‘Frozen Secret’
















     

    ‘A Half-Truth is A Whole Lie…’

     

    Yiddish Proverb

     

     





    Status : End!

     




     
     
     



    Please Remember - Leann Rimes








    เลวิส…” ฉันเอ่ยออกไปอย่างแผ่วเบา ขอบตาของฉันเหมือนกับมีน้ำอุ่นๆ เอ่อออกมาอย่างไม่ทันรู้ตัว นายเป็นอะไรไป
     

    “…” ไม่มีคำตอบจากบุคคลที่ฉันสนทนาด้วย ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าฉันไปทำอะไรให้เขาเขาถึงได้มาทำแบบนี้กับฉัน ทำไมเขาต้องทำเย็นชาเย็นชาจนดูเหมือนว่าไม่ใช่เขาคนเดิมที่ฉันเคยรู้จัก หึ…”

     

    “…” ฉันได้แต่นิ่งเงียบ หยดน้ำตาอุ่นๆ หยดลงมาอีกจนได้ ฉันนี่มันอ่อนแอจริงๆ

     

    ฉันไม่มีคำตอบให้เธอหรอก…” ทว่าเลวิสกลับเอ่ยออกมาเพียงแค่นั้น ก่อนที่จะสะบัดฉันให้หลุดจากแขนของเขาและเดินจากไป ทิ้งให้ฉันล้มลงบนพื้นถนนที่เย็นเฉียบ

     

    สร้อยในมือของฉันหลุดจากมือและกระทบกับพื้นจนส่งเสียงดังออกมาเรียกสติของฉัน สร้อยเส้นนี้เป็นสร้อยที่ฉันซื้อให้เขาตอนที่เราคบกับครบหนึ่งเดือน แต่ตอนนี้ทำไมทำไมเขาถึงได้เอามาคืนฉัน

     

    เขารักยัยนั่นมากเลยหรือไงกันนะถึงได้ต้องทำแบบนี้กับฉัน

     

    ฉันยกมือทาบอกด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะสะอื้นออกมาน้อยๆ มันเจ็บเจ็บเมื่อเห็นว่าสิ่งที่ฉันให้เขาไปมันไม่มีคุณค่าอะไรกับเขาเลยสักนิด มันเหมือนกับว่ามีแต่ฉันที่โง่งมไปกับความรักที่ฉันหลอกตัวเองมาตลอดว่ามันจะไม่มีวันจางหายไป

     

    แต่สุดท้ายเขาก็จากฉันไปจากฉันไปโดยที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัว


     



    ---------------------------------------------------------------------------



     

    ฉันลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ ในขณะที่หันมองไปรอบตัว ท่ามกลางความมืดที่ดูเหมือนจะไม่ใช่เวลากลางวันเลยสักนิดทำให้ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมานิดหน่อย บรรยากาศเงียบที่โรยราไปรอบตัวทำให้แม้แต่เสียงลมที่พัดเข้ามาในรถเบาๆ ยังทำให้ฉันตกใจได้ ฉันพบว่าไม่มีใครสักคนอยู่บนรถเลย และนั่นทำให้ฉันแปลกใจมาก

     

    หายไปไหนกันหมดนะ ฉันพูดออกมาเบาๆ ก่อนที่จะเอื้อมมือไปเปิดประตูรถออก หน้าต่างรถถูกเปิดทิ้งไว้ทำให้ความเย็นยะเยือกและลมที่พัดโกรกด้านนอกพัดเข้ามาในรถอย่างจัง ไม่น่าแปลกเลยที่มันทำให้ฉันเย็นจับใจได้ถึงขนาดนี้

     

    ทันทีที่ฉันเดินลงมาจากรถ ฉันก็ต้องตกใจยิ่งกว่าเก่าเมื่อพบว่ารถของเราติดอยู่ท่ามกลางแผ่นน้ำแข็งที่เริ่มแตกออก ตัวของฉันเริ่มสั่นระริกอย่างควบคุมไม่ได้ฉันไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความตกใจหรือความกลัว ท่ามกลางความมืดที่ปราศจากแสงอาทิตย์และสายลมที่เย็นอย่างไม่น่าเชื่อ ฉันมองไม่เห็นใครสักคนที่อยู่ตรงนี้กับฉัน สิ่งที่ฉันสามารถมองเห็นได้มีเพียงแค่ทิวของต้นสนที่อยู่ลิบออกไปไกลๆ และแผ่นน้ำแข็งที่เต็มไปด้วยรอยแตกร้าวที่นิ่งสนิทจนฉันรู้สึกระแวง

     

    นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย…” ฉันสบถออกมาอย่างหัวเสีย และในวินาทีนั้นเองที่ฉันสังเกตถึงวัตถุแปลกๆ กำลังยืนอยู่ข้างหลังของฉัน ฉันหันหลังกลับไปทันทีตามสัญชาตญาณ

     

    ใครน่ะ!” ฉันพูดออกมาเสียงดัง แต่สายตาของฉันกลับมองไม่เห็นสิ่งใดนอกจากรถตู้ที่ว่างเปล่าของฉัน ไม่จริงน่าฉันแน่ใจว่าฉันไม่ได้ตาฝาดไปแน่นอน มีอะไรบางอย่างเคลื่อนที่ไปด้านหลังฉัน

     

    ฉันเดินกลับขึ้นไปรถอีกครั้ง ก่อนที่จะเริ่มสอดส่องสายตาไปตามเบาะที่นั่ง เบาะที่นั่งของทุกคนว่างเปล่าไม่เหลือสิ่งของหรือแม้แต่สัญลักษณ์ที่จะบอกว่าเคยมีคนอยู่ที่นี่ ฉันพยายามจะกดเปิดไฟที่ติดตั้งอยู่ภายในรถตู้ แต่มันกลับเปล่าประโยชน์ไม่มีแสงไฟใดๆ ลอดออกมาจากหลอดเลย

     

    หืม…” ฉันย่นจมูกด้วยความรู้สึกแปลกๆ ฉันได้กลิ่นอะไรบางอย่างที่คุ้นจมูกมาก มันเป็นกลิ่นคาวแปลกๆ ที่ฉันรู้สึกว่าฉันเคยดมมันมาก่อน และกลิ่นมันโชยมาจากภายในรถ ฉันค่อยๆ เดินตามกลิ่นนั้นไป กลิ่นคาวของมันเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ ทุกก้าวที่ฉันขยับเข้าไปใกล้หลังรถ และทันทีที่ฉันก้าวมาหยุดอยู่ที่เบาะหลังสุด กลิ่นของมันก็แรงขึ้นมากจนฉันต้องยกแขนเสื้อขึ้นมาปิดจมูก

     

    กลิ่นของมันแรงและเหม็นมาก ฉันพยายามขยับตัวเข้าใกล้ที่วางสัมภาระด้านหลังเพื่อจะเช็คดูว่ามันคืออะไรกันแน่ ฉันขยับตัวขึ้นไปบนเบาะที่นั่งหลังสุด ก่อนที่จะก้มหน้าลงไปมองบางสิ่งที่วางไว้อยู่ที่เก็บสัมภาระ

     

    เอเลน่า…” เสียงเรียกชื่อจริงของฉันที่แสนแผ่วเบาและเย็นเยือกอย่างน่ากลัวดังขึ้น ทำให้ฉันสะดุ้งขึ้นก่อนที่จะมองไปรอบตัวด้วยความหวาดกลัว แต่ก็ไม่พบสิ่งใดที่ผิดปกติ มันทำให้ฉันรู้สึกกลัวจนอยากจะร้องไห้ออกมา ฉันพยายามตัดเสียงต่างๆ ออกไปให้หมด และเอื้อมมือไปหยิบผ้าคลุมสีน้ำเงินเข้มที่น่าจะคลุมสัมภาระของพวกเราออก และเมื่อผ้าผืนนั้นถูกหยิบออก สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ก็ปรากฏ

     

    พระเจ้า…!” ฉันอุทานออกมาโดยไม่รู้ตัว เมื่อพบว่าภายใต้ผ้าผืนนั้นคือเลวิส

     

    เอเลน่า…” เสียงของเลวิสแผ่วเบา เย็นชา แต่มันกลับแฝงไปด้วยข้อความอะไรบางอย่างที่ฉันเดาความหมายไม่ออก ฉันเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของเขาเบาๆ ใบหน้าของเขาซีดเซียวอย่างน่ากลัว ริมฝีปากของเขาซีดจนเป็นสีขาว พระเจ้านี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน

     

    เลวิสเกิดอะไรขึ้นน่ะ ฉันเอ่ยปากถามอย่างร้อนรนในขณะที่พับเบาะหลังลงและประคองเขาขึ้นมาบนตัก สาบานได้ว่าฉันลืมเรื่องที่เขาทำกับฉันไว้สนิท มีอะไรเกิดขึ้นกันแน่!”

     

    หึ…” เลวิสพึมพำอะไรสักอย่างออกมาเบาๆ ก่อนที่จะใช้แขนสองข้างของเขากอดรัดฉันแน่นขึ้นเรื่อยๆ แน่นขึ้นจนฉันเริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก

     

    อะอะไร ฉันพึมพำออกมาอย่างไม่เป็นคำ ก่อนที่กลิ่นเหม็นอย่างรุนแรงจะเริ่มโชยมาอีกครั้ง ฉันก้มลงมองพื้นที่เลวิสนอนอยู่เมื่อครู่ก่อนจะพบว่ามันเต็มไปด้วยเลือด!

     

    กรื๊ดดดด!!” ฉันกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจและนั่นทำให้เลวิสยิ่งกอดรัดฉันแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของฉันแทบจะแหลกไปในวินาทีนั้น ฉันพยายามดิ้นให้หลุดออกจากอ้อมกอดของเขาแต่มันกลับไม่ได้ผลเลยสักนิด และในวินาทีที่ฉันกำลังกลัวสุดขีด เลวิสก็เงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยแววตาว่างเปล่า ก่อนที่จะยิ้มออกมาน้อยๆ

     

    กลัวหรอเอเลน่า…” คำพูดที่แสนเย็นเยือกของเขาทำให้ฉันกลัวจนแทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

     

    อย่าอย่าทำอะไรฉัน…” ฉันเอ่ยออกไปขณะที่น้ำตาเริ่มจะไหลออกมา ฉันกลั้นมันเอาไว้ไม่อยู่แล้วในวินาทีนี้นี่มันบ้าอะไรกัน! “ปะปล่อยฉันไป

     

    น้ำตาอุ่นๆ ของฉันหยดลงมาอย่างไม่ขาดสายและทำให้ฉันเริ่มสติแตก แต่เลวิสกลับไม่สนใจฉันเลยสักนิด เขารัดฉันด้วยแรงที่มากขึ้นเรื่อยๆ จนฉันเจ็บไปทั้วตัว ก่อนที่จะเอื้อมใบหน้าเข้ามาและหยุดลงที่ตรงหน้าฉัน แววตาว่างเปล่าของเขาช่างน่ากลัวเหลือเกิน

     

    ฉันเดาไม่ออกจริงๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกัน

     

    หึ…” เลวิสแค่นหัวเราะออกมา ก่อนที่จะหยุดริมฝีปากของเขาไว้ที่ริมฝีปากของฉัน และเอ่ยออกมาอย่างเบาเฉียบ แต่กลับทำให้ฉันรู้สึกขวัญผวา กลัวงั้นสินะ…”

     

    “…” ฉันไม่อาจหลุดปากพูดอะไรออกไปได้ มีเพียงน้ำตาของฉันเท่านั้นที่เป็นเพียงคำตอบเดียวในตอนนี้

     

    ลงนรกซะเถอะเอเลน่า"




     

    -------------------------------------------------------------------------------







     

    รู้สึกเหมือนทั้งร่างกายของฉันเย็นเยือกไปด้วยของเหลวและไอเย็นที่หนาวเหน็บรัดกุมไว้อยู่ ฉันไม่สามารถขยับตัวลืมตาหรือแม้กระทั่งหายใจ

     

    สติรับรู้ของฉันค่อยๆ กลับคืนมา หากแต่รอบตัวของฉันมีเพียงความมืดไม่มีที่สิ้นสุดห้วงว้างของความว่างเปล่าและความเย็นที่จับขั้วหัวใจฉันไม่อาจส่งเสียงร้องอะไรออกไปได้ อย่างว่าแม้แต่ลมหายใจฉันยังไม่สามารถรับมันไว้ได้

     

    นี่ฉันตายไปแล้วหรือไงกัน

     

    เอเลน่า…” เสียงสั่นๆ ที่ฟังแล้วทำให้ฉันรู้สึกขนลุกและหวาดกลัวขึ้นโดยไม่มีเหตุผลดังขึ้นที่ข้างตัวฉัน แต่ฉันไม่สามารถมองเห็นหรือรับรู้ได้ว่าเป็นเสียงของใคร มีเพียงความมืดที่ชวนให้ฉันประสาทและน้ำเสียงเย็นเฉียบคล้ายคนโรคจิตที่ดังขึ้นอย่างไม่มีที่มา “…หึ!”

     

    ฉันพยายามขยับริมฝีปากเพื่อเอ่ยออกไปแทนความอัดอั้นในใจ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ความรู้สึกอึดอัดแล่นแทนที่ในหัวสมอง ฉันไม่สามารถโต้ตอบได้เลย แม้แต่สิ่งที่เอ่ยคำพูดออกมาฉันก็ยังไม่สามารถมองเห็นมันได้ ฉันพยายามจะกรีดเสียงลั่นออกไปเพื่อระบายความรู้สึกหวากกลัวในใจ แต่ฉันไม่อาจทำอะไรได้เลยนอกจากจมปลักอยู่ในความมืด!

     

    เธอมันสอดรู้…” เสียงเย็นเยือกนั้นยังคงดังต่อไปและรั้งแต่เพิ่มความหวาดกลัวของฉันให้มากทวีคูณ เธอรู้มากเกินไปเอเลน่าคำพูดนั้นตามมาด้วยน้ำเสียงแค่นหัวเราะที่ฟังดูไม่น่าไว้ใจ ก่อนที่เสียงหัวเราะจะจางหายไปและตามมาด้วยถ้อยคำที่เปล่งออกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ไม่น่าเลย…"

     

    ราวกับความรู้สึกบางอย่างมันกดดันและอัดแน่นอยู่ในใจ น้ำตาของฉันไหลออกมาอย่างช้าๆ แต่ฉันกลับไม่อาจแสดงสีหน้าอย่างอื่นได้เลย มีเพียงน้ำตาน้ำตาของฉันเท่านั้นที่ไหลออกมาและอาบไปบนใบหน้าที่ซีดเผือดและเย็นเฉียบ

     

    ลาก่อนนะเอเลน่า เสียงนั้นเอ่ยขึ้นก่อนจะเว้นวรรคไปครู่หนึ่ง และสัมผัสยะเยือกของโลหะปลายแหลมบางอย่างก็ปรากฏขึ้นที่แผ่นหลังของฉันนี่มัน… “ไม่น่าเลยจริงๆ…”

     

    ดวงตาของฉันเบ่งกว้างค้างออกในวินาทีที่ปลายโลหะแหลมแทงเข้าที่แผ่นหลังของฉัน ถ้อยคำกรีดร้องที่หลุดออกมาจากปากของฉันได้แล้วไม่อาจส่งไปถึงสิ่งใดได้เลย ราวกับเป็นเพียงสายลมแผ่วเบาที่ไหลผ่านไป ความเจ็บปวดและความแสบร้อนที่ไหลเข้าแทนที่ความเย็นเยือกค่อยๆ แผ่กระจายเป็นวงกว้างและหลอมละลายร่างของฉันให้กลายเป็นเถ้าถ่าน ความเจ็บของมันทำให้ร่างของฉันระเบิดออกและถ้อยคำที่กรีดร้องดังอยู่เพียงในหัวสมองของฉัน...







    SPECIAL THANKS
    THEME : THE FARRY
    SONG : YOUTUBE
    PICTURE : ANYWHERE IN GOOGLE



    LET THE HIDDEN BLOOD DROP...
    EVERY WEEK!
    FOR MORE INFORMATION : ADD FAV...!


    ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Frozen Secret...
    สถานที่ที่ความลับดำมืด... ถูกปิดตายไว้...
    ใต้ผืนหิมะ... แห่งความตาย!

     

     










    ---------------------------------------------------------------------------

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น