[[because...you\'re my friend]] ...สักวันนึง... - [[because...you\'re my friend]] ...สักวันนึง... นิยาย [[because...you\'re my friend]] ...สักวันนึง... : Dek-D.com - Writer

    [[because...you\'re my friend]] ...สักวันนึง...

    ถ้าเธอไม่ใช่ \'เพื่อน\' ฉันก็อาจจะบอกรัก และกล้าที่จะเผชิญหน้ากับเธอ แต่เพราะเธอคือ...เพื่อน ฉันจึงต้องทำแบบนี้ สักวันนึงนะ ขอให้ฉันได้มีหัวใจดวงใหม่ แล้วฉัน...จะกลับมา

    ผู้เข้าชมรวม

    250

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    250

    ความคิดเห็น


    10

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  3 ต.ค. 48 / 22:47 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      “เพื่อน” คำๆนี้มีค่ามากมายสำหรับฉัน ถ้าให้เลือกระหว่างคนรัก กับ เพื่อน ฉันก็เชื่อว่าตัวฉัน จะเลือกเพื่อน และเพราะฉันกลัวที่จะต้องเสียเพื่อนคนหนึ่งไป แต่ฉันก็ไม่อาจห้ามความรู้สึกตัวเองที่มันแปรเปลี่ยนจากคำว่า “เพื่อน” เป็นคำว่า “รัก” ได้ ฉันจึงได้แต่ซ่อนความรู้สึกเกินเลยนี้ไว้ และไม่แสดงหรือเอื้อนเอ่ยใดๆออกมา...

      กริ๊งๆ กริ๊งๆ กริ๊งๆ!!!

      “ฮัลโหล” ฉันรับสายโดยพยายามสกัดกั้นความโกรธไว้ ก็คนเข้าห้องน้ำอยู่อ่ะ โทรมาอยู่ได้

      “เฮลโหล เพื่อนรัก มารับสายช้าจังเลยน้า” คนๆเดียวที่ฉันคิดถึง คนๆเดียวที่ฉันอยากเจอ คนๆเดียวที่ฉันอยากพูดคุย และอยู่เคียงข้างตลอดไป แต่ฉันก็ไม่อาจทำอย่างนั้นได้ เพราะเธอคือ...เพื่อน

      “...เอ่อ...คือว่า...เอมเข้าห้องน้ำอยู่อ่ะ ไม่มีใครอยู่บ้านเลยด้วย ก็เลยมารับสายช้า แหม มารับก็ดีแล้วน่า ว่าแต่...บาสเพื่อนรักมีอะไรเหรอจ้ะ ทั้งปีทั้งชาติไม่เคยโทรมา วันนี้นึกไงโทรมาเนี่ย”

      “บาสคิดถึงเอมอ่ะ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน เอมไม่ติดต่อใครเลยอ่ะ ไม่โทรหาบาสเลยด้วย บาสก็เลยโทรมาเอง อยากจะชวนไปเที่ยวกันด้วยอ่า”

      ถ้าฉันไปเจอเธออีกครั้ง ฉันก็อาจจะไม่สามารถห้ามความรู้สึกนี้ให้ยุติได้เลย แต่หากฉันไม่ไปเจอเธอในครั้งนี้ ฉันก็อาจจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต

      “...ไปก็ไปสิ”

      “เคๆ ตอบช้าจังเลยนะ เหมือนไม่อยากเจอบาสงั้นแหละ”

      “ไม่ใช่สักหน่อย ก็แค่กำลังคิดอยู่ว่าช่วงนี้มีธุระอะไรรึเปล่า ว่าแต่วันไหนล่ะ”

      “พรุ่งนี้เลยเป็นไง เร็วดี บาสอยากเจอเอมไวๆ 10 โมงเช้า ที่หน้าแฟชั่น โอเคป่ะ มีคนอื่นไปด้วยเยอะแยะเลยนะ”

      “ใครบ้างอ่ะ?”

      “ไม่รู้เหมือนกัน แหะๆ ยังไม่ได้ชวนเลยอ่ะ แต่พวกนั้นคงไปอยู่แล้วล่ะ”
          
      “ซี้ซั้วต่านี่น่า ยังไม่ได้ชวนใคร แล้วมาบอกว่าไปกันเยอะ”
          
      “อ่ะนะ แต่บาสมั่นใจว่าคนไปเยอะแน่ เอมก็รีบไปให้ตรงเวลาด้วยนะ อย่าเลทล่ะ ไม่งั้นให้เลี้ยง MK ด้วย แค่นี้นะ บาสต้องรีบโทรหาคนอื่นต่อ เจอกันพรุ่งนี้นะ บ๊ายบายคร้าบบบบบบบบบ”
          
      “บ๊ายบายจ้ะ” เธอคิดถึงฉันจริงๆน่ะเหรอ อยากเจอฉันจริงๆใช่มั้ย ถ้าเธอคิดเหมือนฉัน ฉันอาจไม่ต้องทรมานอยู่แบบนี้ อาจไม่ต้องเก็บซ่อนความรู้สึกของตัวเอง และฝืนยิ้มทำตัวปกติ เมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ

      ด้วยความฝันที่แตกต่าง ทำให้เราต้องแยกคนละทางที่ไป ทำให้เราต้องจากกันไกล แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ฉันหยุดรักเธอเลย...

      ฉันตัดสินใจใช้ความห่างไกล หยุดการติดต่อกับบาส ไม่เจอ หรือพูดคุยกันอีก แต่ความรู้สึกเกินเลยนี้ ก็ยังไม่ถูกลบเลือนหายไปสักที มีคนเคยบอกไว้ว่า ความห่างไกลจะช่วยทำให้เราลืมใครบางคนได้ และเวลาจะช่วยรักษาจิตใจให้ดีขึ้นและไม่เจ็บปวดอีก แต่มันต้องห่างไกลกันขนาดไหน ต้องใช้เวลามากมายสักเท่าใด ฉันก็ไม่อาจรู้ได้เลย และสุดท้าย...ฉันก็ห้ามตัวเองไม่ให้พบเจอคนที่อยากเจอได้ สุดท้าย...ฉันก็ต้อง...นับหนึ่ง...อีกครั้ง
          
      “เอม!!! อยู่นี่!!!” นุ่น เพื่อนรักสุดเลิฟของฉันกำลังเรียกฉันอยู่ เพราะฉันมัวแต่ยืนเอ๋ออ๋า เพราะหาใครไม่เจอ
          
      “ว่าไงยัยนุ่น และคนอื่นๆล่ะ”
          
      “หมายถึงบาสอ่ะเหรอ” นุ่นไม่รู้หรอกว่าฉันคิดยังไงกับบาส ไม่มีใครรู้เลยจริงๆ แต่ที่แซวก็แค่ล้อกันเล่นๆเท่านั้นแหละ
          
      “หมายถึงทุกคนต่างหาก ก็เห็นบาสบอกว่ามากันเยอะไม่ใช่เหรอ”
          
      “ใช่ มากันเยอะ คนอื่นน่ะ เขาร้อนกัน ก็เลยไปเดินเล่นในห้าง บาสบอกว่าให้เธอมาให้ตรงเวลาไม่ใช่เหรอ นี่มันเลยมา 1 ชั่วโมงแล้วนะ”     
          
      “บ้าน่ะ ก็บาสนัดเอมให้มา 10โมง นี่น่า”
          
      “เออๆ เอาเหอะ เถียงกันไปก็เท่านั้น เพราะยังไงซะ บาสก็ยังไม่มาอยู่ดีนั่นแหละ”
          
      “อ้าว!! ก็บาสเป็นคนนัดคนอื่น แล้วทำไมมาสายล่ะ”
          
      “เห็นบาสบอกว่า จะไปรับใครสักคนนึงนี่แหละ ไม่รู้เหมือนกันว่าใคร เอมเป็นแฟนบาสไม่ใช่เหรอ ไม่รู้รึไง”
          
      “จะบ้ารึไง ล้อกันอยู่ได้ ไม่มีวันเป็นอย่างนั้นหรอกน่า” ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก คำว่าเพื่อนน่ะ มันแปรเปลี่ยนเป็นคำว่าแฟนไม่ได้หรอกนะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะบาสไม่ได้คิดแบบฉัน ฉันถึงต้องเป็นแบบนี้ไง
          
      “อ๊ะ! นั่นไง มาแล้ว” ฉันหันไปตามการชี้นิ้วของนุ่น และฉันก็ได้เห็นคนที่ฉันอยากเจอมากที่สุด แต่ก็ต้องห้ามตัวเองไม่ให้เจออยู่ตลอดเวลา จนในวันนี้ฉันก็ได้เจอเขาจนได้ แต่ฉันเห็นเขามากับผู้หญิงคนนึง เพื่อนใหม่เหรอ หรือว่า...แฟน
          
      “เอมจ๋าาาาาาาา”

      และทันทีที่บาสเห็นฉัน เขาก็เข้ามากอดฉันทันที ฉันรู้สึกใจเต้นอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆที่ครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่บาสกอดฉัน เรามักจะกอดคอกันเสมอ จนโดนคนอื่นล้อเป็นประจำ แต่นั่นก็เป็นความรู้สึกแบบเพื่อน อาจเป็นเพราะฉันไม่ได้กอดเขามานานก็ได้ มันเลยรู้สึกตื่นเต้นสักเล็กน้อย แต่ฉันสังเกตเห็นว่าผู้หญิงที่มากับบาส เธอมีท่าทีไม่พอใจเล็กน้อย ซึ่งฉันก็คิดว่าบาสคงจะเห็นเหมือนกัน เขาถึงได้ผละออกจากฉัน
          
      “เอ่อ...แหะๆ เอม นุ่น นี่น้องน้ำ เป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนบาส...” ฉันรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกที่บาสพูดว่าเธอเป็นรุ่นน้อง แต่ความสุขของฉันก็ไม่เคยอยู่ได้นานเลยสักครั้งเดียว
          
      “...และก็เป็น...แฟนบาสด้วย”

      ใจที่มันเพิ่งเต้นตึกตักอย่างแรงเมื่อสักครู่ มันเหมือนกับว่าได้หล่นหายไป เหมือนหัวใจมันหยุดเต้น ฉันจึงได้แต่ยืนอยู่นิ่งๆ ไม่สามารถขยับไปไหน หรือพูดอะไรได้อีกเลย และเมื่อบาสประกาศตัวเธอเสร็จ เธอจึงแสดงท่าทีเป็นเจ้าของบาส ด้วยการควงแขนบาส ซึ่งบาสก็ไม่ขัดขืน บาสจะขัดขืนทำไมล่ะ ในเมื่อเขาเป็นแฟนกัน...
          
      “สวัสดีคะ พี่เอมใช่ไหมค่ะ พี่บาสเคยเล่าให้น้ำฟังบ่อยๆ ว่าพี่เอม...เป็นเพื่อนสนิทของพี่บาส”

      ถ้าฉันได้ยินไม่ผิด ดูเหมือนว่าน้ำจะเน้นคำว่าเพื่อนสนิทมากไปหน่อยนะ แต่มันก็คือเรื่องจริง ที่ฉันต้องเผชิญ แล้วมันจะผิดอะไรล่ะ ถ้าคนๆนี้ที่มีฐานะเป็นแฟนบาส จะช่วยเน้นย้ำความเป็นจริง ให้ช่วยเตือนสติฉันอยู่เสมอ
          
      “นี่ ฉันร้อนแล้วอ่ะ เข้าไปข้างในกันเถอะ พวกนั้นรออยู่นะ”

      ดูเหมือนว่านุ่นจะสังเกตเห็นความเงียบที่เกิดขึ้น เธอจึงพูดชวนให้ทุกคนเข้าไปข้างในห้าง ฉันจึงรีบเดินอยู่ข้างๆนุ่น ด้วยไม่อยากไปเป็นส่วนเกินของบาสกับแฟนของเขา และไม่อยากให้ใครเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตัวฉัน เพราะนุ่นคือคนเดียวที่มักจะไม่ค่อยเห็นความเปลี่ยนไปในตัวคนอื่นสักเท่าไร เพราะเธอมักจะไม่ค่อยใจจดใจจ่ออยู่กับสิ่งใดนานนัก และตอนนี้เธอก็กำลังมองหาเพื่อนคนอื่นๆอยู่ โดยไม่ได้สังเกตเลยว่า ฉันกำลังยืนอยู่ข้างๆเธอ และน้ำตากำลังคลอเบ้า ฉันจึงก้มหน้าลง ใช้ผมที่แสนยาวของฉัน ปกปิดใบหน้าไม่ให้ใครเห็น ฉันคิดถูกหรือเปล่าที่มาพบเขาในวันนี้ นอกจากมันจะทำให้ฉันลืมเขาไม่ได้แล้ว มันยังทำให้ฉันเจ็บปวดมากยิ่งขึ้นไปอีก ฉันหวังอยากจะให้ เขาพบกับใครสักคน ที่เขารักและคนๆนั้นก็รักเขา แต่ฉันก็ไม่สามารถยืนดูความสุขของเขาทั้งสองได้จริงๆ ฉันรักคนๆนี้มากจริงๆ ฉันจึงไม่อาจแสดงความยินดีกับเพื่อนรักของฉันได้ ฉัน...ทำไม่ได้จริงๆ
          
      ทั้งๆที่ฉันมาที่นี่ เพื่ออยากจะมาพบกับบาส แต่ฉันก็ไม่ได้พูดกับบาสอีกเลย นับตั้งแต่เดินออกจากบริเวณหน้าห้าง น้ำยังคงเกาะแขนบาสอยู่ตลอดเวลา เธอเข้ากับคนอื่นได้ดีเหมือนกันนะ ส่วนฉันก็ได้แต่แกล้งร้องเพลงอย่างมีความสุข อยู่กับเพื่อนผู้หญิงของฉัน และก็แอบมองความสุขของเพื่อนรักเป็นระยะๆ และเราก็ไปเล่นเกมชั้นบนกัน แวะนู่น กินนี่ ซื้อนั่นอยู่ตลอดเวลา ภาพของบาสกับน้ำ ดูแล้วก็ไม่ได้อะไรมากมาย แค่จับมือถือแขนกันธรรมดา และบาสก็จะพูดคุยและเล่นกับเพื่อนผู้ชายซะส่วนใหญ่ แต่ฉันก็ยังรู้สึกอิจฉา และเจ็บปวดอยู่ลึกๆ ใครไม่เป็นฉันก็ไม่มีทางรู้หรอก ว่ามันทรมานแค่ไหน กับการเห็นคนที่เราไม่สามารถรักได้ แต่ก็รักไปแล้ว ยืนอยู่กับคนรักของเขา และเวลาแห่งความเจ็บปวดที่สุดก็ได้กำลังจะผ่านพ้นไป เพราะมันหมดเวลาของฉันแล้ว...
          
      “เฮ้!ทุกคน เอาไว้วันหลัง บาสจะโทรไปชวนมาเที่ยวกันอีกนะ คราวหน้าต้องมาด้วยน้า รู้รึเปล่าเอม” ฉันสะดุ้งเฮือกทันที ที่บาสเรียกชื่อฉัน
          
      “อืม...ดูก่อนล่ะกัน” แล้วคนอื่นๆก็แยกย้ายกันกลับไป เหลือแต่ฉันที่คิดอะไรได้อย่างหนึ่ง นุ่นบอกว่าเธอจะรอกลับพร้อมฉันอยู่ข้างนอกห้าง ถึงเวลาแล้วสินะ ที่ฉันจะต้องพูดอะไรสักอย่าง
          
      “...บาส”
          
      “อ้าวเอม ไม่กลับพร้อมนุ่นเหรอ”
          
      “นุ่นรออยู่ข้างนอกน่ะ เอมมีอะไรจะพูดนิดหน่อย”

      น้ำ ที่ตอนแรกก็แค่ยืนฟังอยู่เฉยๆ ตอนนี้ก็กลับเอาแขนขึ้นมาควงแขนบาสอีกครั้ง เธอคงคิดว่าฉันจะบอกรักบาสสินะ แต่...ไม่ใช่หรอก บาสคงเห็นสายตาของฉันล่ะมั้ง เขาถึงได้บอกให้เธอ ไปที่อื่นก่อน แต่เธอก็ไม่ขัดขืนอะไร แต่ก็แสดงสีหน้าที่ไม่ค่อยดีเท่าไร ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นแหละนะน้องน้ำ  
          
      “ต่อไปนี้ มันคงยากที่เอมจะได้มาเที่ยวแบบนี้อีก เพราะเอมมีเรียนเยอะแยะเต็มไปหมดเลยล่ะ เอมก็เลยอยากจะอวยพรให้...เพื่อนรักซะหน่อย ขอให้...รักกันนานๆนะจ้ะ แล้วก็สักวันนึง เราคงจะได้พบกันอีกนะ สักวันนึงแหละ”
          
      “แล้วบาส...จะรอวันนั้นนะ” ฉันดีใจ ที่เธอจะรอวันนั้น แต่เธออาจต้องรอนานมาก หรือไม่ ก็อาจจะไม่มีวันนั้นอีกเลยก็ได้นะ
          
      “อืม เอมไปล่ะนะ นุ่นรอนานแล้ว...บ๊ายบาย” ฉันโบกมือให้บาส พร้อมรอยยิ้มน้อยๆ โบกมือให้เหมือนกำลังจะจากไปไกล แต่มันก็คือเรื่องจริง เราอาจต้องไกลกันกว่านี้ ขอโทษนะ
          
      “บ๊ายบาย” บาสเองก็โบกมือให้ฉันพร้อมรอยยิ้มเช่นเดียวกัน

      ฉันไม่อยากที่จะหันหลังกลับไป เพราะฉันอาจจะไม่ได้เห็นหน้าเขาอีกแล้ว ฉันอยากจะมองหน้าเขาให้เต็มตา ให้จำขึ้นใจ เพราะมันอาจจะนาน หรือไม่ก็ไม่มีวันที่ฉันจะได้พบเขาอีกเลยก็ได้ แต่ฉันก็จำต้องฝืนตัวเอง หันหลังเดินจากไป แล้วฉันก็ได้ยินเสียงของเขาอีกครั้ง
          
      “แล้วเจอกันนะ!!!!”

      ฉันไม่อาจหันกลับไปได้อีก เพราะฉันไม่อยากให้เขาเห็นน้ำตาของฉัน ทำไมเธอต้องผูกมัดฉัน ด้วยคำๆนี้ด้วย ทำไมต้องทำให้ฉัน รู้สึกเจ็บไปมากกว่านี้ด้วย ทำไมมันถึงต้องเป็นแบบนี้ ทำไมฉันถึงต้องเดินจากไปแบบนี้
          
      ฉันแวะเข้าห้องน้ำ เพื่อล้างหน้า ไม่ให้เป็นที่สงสัยของใคร และเมื่อฉันเดินออกมาจากห้องน้ำ ฉันก็พบนุ่น...
          
      “ฉันกะแล้ว ว่าเธอต้องมาที่ห้องน้ำ”
          
      “...นุ่น”
          
      “ไอ้บาสนี่มันโง่ แล้วก็เลวจริงๆ ยัยเอม เธอก็ซื่อบื้อชะมัดเลย ไม่น่าถึงเป็นแค่เพื่อนแบบนี้อ่ะ”
          
      “นุ่น...เธอ...รู้เหรอ”
          
      “ฉันไม่ได้โง่นี่ย่ะ เหอะ ใครๆก็ชอบหาว่าฉันไม่เข้าใจจิตใจคนอื่น ไม่รู้จักสังเกตชาวบ้านเค้ามั่ง เป็นไง อึ้งล่ะสิ แต่ตอนนี้ ฉันว่าเราออกจากห้องน้ำกันก่อนเหอะ” แล้วฉันก็เดินตามนุ่นไป ถึงนุ่นจะรู้ แต่เธอก็ไม่เคยยุ่งเรื่องคนอื่น ฉันจึงสามารถสบายใจได้เลย ว่าเธอจะไม่บอกบาส
          
      “...นุ่น เธอจะไม่บอกบาสใช่มั้ย?”
          
      “เรื่องแบบนี้อ่านะ ฉันไม่เคยยุ่งอยู่แล้ว ความรัก ก็ต้องคนที่รักเท่านั้น ถึงจะบอกได้”
          
      “ฉันก็คิดอยู่แล้ว ว่าเธอคงไม่บอก”
          
      “ยัยเอม...ฉันก็ไม่รู้หรอกนะ ว่าไอ้ความรักแบบเนี่ย มันเจ็บปวดแค่ไหน แต่ถ้าเธอไม่บอก บาสก็จะไม่มีวันรู้ แล้วเธอ ก็ต้องเป็นคนเดียวที่เจ็บปวด”
          
      “สักวันนึง ฉันคงจะบอกเขาได้ แต่ตอนนี้...”
          
      “หือ?”
          
      “...ฉันอยากไปให้ไกลบาสที่สุด ฉันอยากลืมบาสให้ได้”
          
      “พูดน่ะมันง่าย แต่เธอจะทำยังไง”
          
      “ฉันจะไปเมืองนอก แม่ฉันอยากให้ฉันไปเรียนที่นั่นอยู่แล้ว”
          
      “เฮ้ย! ไม่ได้นะ ยัยเอม ยังมีสติอยู่รึเปล่า” นุ่นบีบไหล่ฉันแน่น เมื่อฉันบอกสิ่งที่ฉันตัดสินใจแล้ว
          
      “ฉันอยากไปให้ไกล ถ้าฉันเจอสิ่งใหม่ๆ ฉันก็ต้องลืม...บาส” ความจริง ฉันไม่คิดว่าจะทำได้ แต่ฉันก็คิดว่า อย่างน้อยมันก็คงดีกว่าอยู่ที่นี่ ทุกๆที่ฉันมีความทรงจำเกี่ยวกับบาสมากมาย ถ้าฉันได้อยู่ในที่ใหม่ๆ ฉันก็อาจจะสามารทำได้ ก็ได้นะ...
          
      “...ยัยเอม ทำไมเธอต้องเป็นคนที่น่าสงสารอย่างนี้ด้วยนะ”
          
      “ถ้าเธอสงสารฉัน ก็ให้ฉันไปเถอะนะ” นุ่นไม่พูดอะไรต่อไป เพราะเธอรู้ดี ว่าไม่อาจห้ามฉันได้ เธอจึงได้แต่กอดฉัน เพื่อให้กำลังใจ คนที่กำลังเจ็บปวด และร้องไห้อยู่ในขณะนี้

      สักวันนึง...

      ...ที่ฉันมั่นใจว่าฉันจะสามารถยิ้มและแสดงความยินดีกับเธอได้ เมื่อเห็นเธออยู่กับคนที่เธอรัก ซึ่งไม่ใช่ฉัน
          
      ...ที่ฉันมั่นใจว่าฉันจะไม่ร้องไห้ เมื่อทำได้เพียงแค่มองเธอจากไปไกลแสนไกล
          
      ...ที่ฉันมั่นใจว่าฉันจะไม่คิดถึงเธอ ในทุกๆช่วงเวลาของชีวิต
          
      ...ที่ฉันมั่นใจว่าฉันมีหัวใจดวงใหม่ ที่ไม่ได้รักเธออีกแล้ว
          
      ...ฉันจะกลับมาหาเธอ พร้อมรอยยิ้มอีกครั้งหนึ่ง
          
      ...และฉันจะเป็นคนบอกเธอด้วยตัวของฉันเอง...
          
      ...ว่าฉัน...เคยรักเธอมากแค่ไหน...ฉันจะบอกในทุกๆสิ่ง...ที่ฉันบอกเธอในตอนนี้ไม่ได้...ฉันสัญญา

      สิ่งประดิษฐ์จากมนุษย์สามารถบินได้ ที่เรียกว่าเครื่องบิน กำลังเหินขึ้นสู่ฟ้า พร้อมด้วยหัวใจของฉัน ที่ทิ้งความทรงจำทุกๆอย่างไว้ที่นี่ แต่ความรักที่มีให้เธอ มันยังคงอยู่ในใจของฉัน ฉันจะนำมันไปไว้ในที่ๆไกลแสนไกล และจะกลับมาพร้อมหัวใจดวงใหม่ มานำความทรงจำนี้เก็บไว้นึกถึงอีกครั้ง โดยที่ไม่ต้องเจ็บปวดอีก ฉันจะนึกถึงมันด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ไม่นานนักหรอก ที่ฉันจะกลับมา ลาก่อนนะ...

                                                             ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
      อาจจะเป็นเรื่องสั้นที่ยาวนิดนึงนะ ต้องขอโทษด้วย พอดีตอนนี้เห็นมีหนังเรื่องเพื่อนสนิทเข้าโรง ก็เลยอยากแต่งอะไรที่เกี่ยวกับความรักที่เป็นไปไม่ได้ หรือเป็นได้ยาก ซึ่งนั่นก็คือการรักเพื่อนตัวเอง หวังว่าอาจจะถูกใจใครบางคน...

      ซาบิชี่ยังยึดคติเดิม ว่าไม่หวังว่าจะมีคนอ่านหรือโหวตให้มากมาย แต่อยากจะถ่ายทอดความรักเศร้าๆให้ใครได้รับรู้กันบ้าง เรื่องนี้ซาบิชี่คิดว่าใช้ภาษาได้ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ดีทีเดียว [ซาบิชี่ชอบตรง...สักวันนึง..มากๆ] ก็จะพัฒนาต่อไป สุดท้าย...

      ใครที่ได้อ่านเรื่องนี้จนจบ หรือแค่คอมเม้นเฉยๆไม่ได้อ่าน หรือจะอะไรก็ตาม ซาบิชี่ขอบคุณมากคะ ถึงแม้จะไม่มีใครอ่านเลย นักเขียนคนนี้ก็จะแต่งต่อไป จนกว่าจะไม่มีความคิดเหลืออยู่...^_^

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×