[SF]Online Friend [Minho xOnew] - [SF]Online Friend [Minho xOnew] นิยาย [SF]Online Friend [Minho xOnew] : Dek-D.com - Writer

    [SF]Online Friend [Minho xOnew]

    ผู้เข้าชมรวม

    689

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    689

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  19 มิ.ย. 54 / 19:28 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
          
    credit : blod.naver



    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Author :: Lee_Jinki

      ปี๊บ ปี๊บๆ~

      มือเรียวล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อจะหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อเปิดอ่านข้อความดู

      From :: สายลม
      เจอกันวันเสาร์นะเต้าหู้ ^__^;

      - - - -

      ลี จินกิ เป็นคนที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ไม่ค่อยสนใจคนรอบข้างซักเท่าไร เป็นคนที่ชอบหาเพื่อคุยทางเมล์ตามอินเตอร์เน็ต

      “เจอกันวันจันทร์นะจินกิ”
      “อื้ม แล้วเจอกัน จงฮยอน คีย์บอม”
      “นัด เจอเพื่อนในอินเตอร์เน็ตวันเสาร์ ระวังตัวด้วยนะจินกิ” จงฮยอนพยายามตะโกนไล่หลังด้วยความเป็นห่วงเพื่อน มันส่งถึงจินกิก็จริง แต่เจ้าตัวกลับไม่ได้สนใจอะไรกับมันเลยแม้แต่น้อย เพื่อนทั้งสองคนที่คอยยืนมองอยู่ก็ได้แต่ถอนหายใจกับความเป็นตัวของตัวเอง ของลี จินกิ

      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .

      เช้าที่แสนสดใสของวันเสาร์ จินกิกำลังยืนรอเพื่อนทางอินเตอร์อยู่หน้าสถานีรถไฟ
      “ขอ โทษนะครับ เต้าหู้รึเปล่า” ผู้ชายรูปร่างสูงสีผิวก็ไม่จัดว่าจะขาวนัก ก็อยู่ในขั้นที่ว่าดูดีเลยทีเดียว กำลังเอียงคอถามจินกิ เพื่อขอความแน่ใจ

      “อ๊ะ!!! เต้าหู้? ฮะ ใช่ครับๆ” ด้วยความที่ตกใจว่าทำไมอีกคนถึงได้มาถึงเร็วกว่าที่คิดไว้เยอะ แต่จินกิก็ยังตั้งตัวทันได้ ยังโค้งให้อีกคนน้อยๆ

      ....โอ้โห หน้าตาดีกว่าที่คิดไว้อีกแฮะ....
      …..ว่าแต่ ใช่รึเปล่า ใช่สายลมจริงๆเหรอ.....


      “จะเป็นใครก็ได้ที่คุยกันถูกคอก็พอ” จินกิพูดลอยๆพึมพำขึ้นมาคนเดียว แต่ก็ต้องตกใจที่อีกคนคว้าข้อมือจูงเขาไปอย่างรวดเร็ว

      “จะไปดูหนังกันไม่ใช่เหรอ งั้นรีบไปกันเถอะ” ชายคนนั้นรีบคว้ามือของจินกิรีบสาวเท้าก้าวยาวๆ จนเจ้าตัวเกือบจะสะดุดหกล้มไปซะเอง
      “เป็นไรมากมั๊ยครับ ไม่เห็นต้องรีบเลยนี่น่า” จินกิคว้าแขนของอีกคนแล้วถามอย่างเป็นห่วงกลัวว่าจะเป็นอะไรไปเพราะตัวเอง

      “พอดีว่าตอนลงจากรถไฟรีบไปหน่อยผมเลยล้มที่สถานีน่ะ คอนแท็กเลน มันเลยหลุดหายไปไหนก็ไม่รู้”


      “แล้วทำไมนายไม่บอกตั้งแต่แรกห๊ะ ถ้างั้นไม่ไปดูหนังก็ได้” จินกิเห็นอีกฝ่ายเป็นแบบนั้นเลยรีบบออกอย่างงั้นไป
      “ถ้านายอยากดูหนังก็ไปก็ได้นินะ เรื่องนั้นน่ะ” ร่างสูงส่งรอยยิ้มให้อีกคน

      เต้าหู้ : ฉันไม่ค่อยชอบให้ใครมาคอยดูแลเอาใจใส่หรอก กลัวเขาจะลำคาญ
      สายลม : ฉันก็เหมือนกัน เป็นคนไม่ค่อยเอาใจใส่ใครเลยน่ะ

      “นี่ นายน่ะ เอาใจใส่ฉันมากเกินไปรึเปล่า” จินกิที่ทำหน้ายู่หันหน้าหนีไปอีกทาง ร่างสูงก็ได้แต่ยิ้มกับท่าทางนั้น
      “ถ้าอย่างงั้นไม่ไปดูหนังละกันเนอะ” สุดท้ายก็เป็นจินกิซะเองที่สรุปว่าไม่ไปดูหนัง

      ทั้งสองคนเดินไปเรื่อยบนทางเท้า ไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ
      ซื้อไอศกรีมชื่อดังแถวย่านนั้น เดินกินแล้วคุยสัพเพเหระกันไปเรื่อยๆ จนกระทั้ง
      หยุดพักหาอะไรที่อยู่ท้องกินที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง

      เต้าหู้ : ฉันเป็นคนไม่ค่อยเล่าเรื่องตัวเองให้ใครฟังน่ะ กลัวจะโดนคนอื่นจะล้อ!
      สายลม : จริงด้วย ฉันเองก็ประมาณนั้น

      “ฉัน น่ะนะ ไม่ค่อยจำคนรอบข้างเท่าไรหรอก แม้แต่เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างหน้ายังจำไม่ได้เลยนะ” จินกิได้แต่พูดแจ้วๆ ให้อีกคนฟัง ร่างสูงที่นั่งอยู่อีกฝังก็คีบโน้น คีบนี้เข้าปากพยักหน้าฟังจินกิพูดเรื่อยๆ พร้อมทั้งคอยที่จะส่งรอยยิ้มให้จินกิเสมอๆ

      เต้าหู้ : ฉันไม่ชอบพึ่งใครน่ะ กลัวเขาจะลำบาก ฉันเลยพยายามพึ่งตัวเองเสมอๆเลย
      สายลม : นี่ เธอมีหลายๆอย่างเหมือนฉันนะ เราเข้ากันได้เลยแหละ

      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      “บาง ทีก็คิดว่าพอสนิทกับใครๆแล้ว ถ้ามีอะไรที่ผิดใจกันนิดหน่อย มันก็รู้สึกลำบากใจนะ” จินกิยังคงเล่าต่อไปเรื่อยๆพลางยกโก้โก้ปั่นขึ้นดูดไปอึกหนึ่ง
      “เพราะอย่างงั้นฉันเลยชอบคุยกับเพื่อนทางเมล์มากกว่า เพราะถ้าเราไม่อยากติดต่อใครก็ลบเมล์ออกไปได้เลย”
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      “ฮึ!....นายเนี่ยนะ ช่างอ่อนโยนจังเลย” สุดท้ายร่างสูงก็เป็นฝ่ายพูดบ้าง
      “เป็นห่วงความรู้สึกคนอื่นจนตัวเองลำบากขนาดนี้”

      ....เอ๊ะ!....

      ประโยคนั้นทำให้จินกิถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก มือที่เคยถือตะเกียบอยู่เมื่อกี้กับเหมือนอยู่ๆก็ไม่มีแรงขึ้นมา

      “นายน่ะเป็นห่วงคนอื่นจนถึงขนาดไม่ยอมดูหนังเรื่องที่อยากดู เพราะอีกคนทำคอนแท็กเลนหาย”
      ร่างสูงพูดด้วยท่าทางอ่อนโยนพร้อมกับส่งยิ้มให้อีกคน พลางยกกาแฟในแก้วขึ้นจิบ
      “นึกถึงคนอื่นมากไปจนทำให้ตัวเองลำบาก”
      “เพราะงั้นฉันถึงบอกนายว่านายน่ะ เป็นคนอ่อนโยนจังนะ”

      .....ไม่เห็น เหมือนที่เคยคุยกันเลย.....

      “บางทีการตัดขาดกับใครมันก็ไม่ง่ายเหมือนในเมล์หรอกนะ อยู่ใกล้ๆกับใครบ่อยๆ
      ก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันเป็นธรรมดา ถ้าอย่างงั้น นายน่ะ อย่าพยายามคิดว่าตัวเองเป็นแบบนั้นเลย”

      “นะ” รอยยิ้มที่อ่อนโยนนั้นส่งมาถึงจินกิได้อย่างรวดเร็ว เล่นเอา จินกิที่ใครหลายๆคนว่าช่างเป็นคนที่มั่นใจตัวเองสูงอย่างนั้น อึ้งไปเลย เหมือนกับว่าตอนนี้ สติ หลุดลอยไปที่ไหนแล้ว

      ปี๊บ ปี๊บๆ~

      …..เอ๋!?!! เมล์มา....

      From : สายลม
      นี่เต้าหู้

      จินกิที่รีบคว้ามือถือขึ้นมาเปิดอ่านเมล์ก็ต้องตกใจกับข้อความที่ตัวเอง เงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าตัวเองอย่างตกใจ

      From : สายลม
      นี่เต้าหู้ทำไมนายไม่มาตามนัดล่ะ!!!??!!

      “นายโกหกฉัน!!!” จินกิลุกขึ้นจากเก้าอี้ ตะคอกใส่ร่างสูงที่นั่งอยู่อีกฝัง
      “นายพูดเองนะ ว่าจะเป็นใครก็ได้น่ะ”


      เมื่อร่างสูงพูดจบจินกิก็รีบวิ่งไปที่ที่สถานีรถไฟ ที่ที่นัดกับ ‘สายลม’ เอาไว้ แต่ภาพที่เห็นกลับกลายเป็นอย่างที่ไม่เคยคาดคิด

      กลุ่มผู้ชายสี่ห้าคนกำลังตามหาคนที่ชื่อเต้าหู้....
      “นี่นายน่ะ ใช่เต้าหู้รึเปล่า” น้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตร ส่อแนวลวนลาม
      “ไม่ใช่ครับ” เด็กผู้ชายที่รีบวิ่งหนีผู้ชายกลุ่มนั้น
      “ไหนว่าจะใส่ผ้าพันคอสีน้ำเงินไงว่ะ”

      .....ใช่ลืมสนิทเลย เค้าบอกว่าจะใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว.....
      …..นั้นไงคนนั้น.....

      จินกิที่ค่อยๆเดินเลี่ยงออกมากำลังค่อยถอดผ้าพันคอของตัวเองออก แต่ก็ยังคอยฟังว่าพวกนั้นจะพูดว่าอะไร

      “นี่เต้าหู้ของแกอยู่ไหนว่ะ เห็นแกว่านัดเพื่อนทางเมลมาได้ นึกว่าจะได้ทำอะไรสนุกๆซะแล้ว”
      ชายรูปร่างสูงไว้นวดตรงนั้นยกบุหรี่ขึ้นมาจุด
      “ตั้งชื่อ ‘เต้าหู้’ เชยก็เชย นึกว่าจะมาแล้วนะ ชักหงุดหงิดแล้วนะเนี่ย”
      “แต่คงไม่เชยเท่าคนที่ล้มที่สถานีหรอกว่ะ ฮ่าๆๆๆ ไปกินเหล้ากันเหอะ”

      …..หกล้มที่สถานี......

      “พอดีว่ารีบไปหน่อยเลยล้มที่สถานีน่ะ”

      .....หมอนั่นรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา เลยรีบวิ่งมางั้นเหรอ......

      เมื่อนึกได้อย่างงั้นจินกิเลยรีบวิ่งไปที่ร้านอาหารร้านเดิม.....

      แต่ก็เหลือเพียงเก้าอี้ตัวเดิม ไม่ทันซะแล้ว ผู้ชายคนนั้นกลับไปแล้ว......

      .....ผู้ชายคนนั้นช่วยเราไว้ ไม่รู้แม้แต่ชื่อจริงๆของเค้าเลย แล้วจะทำยังไงดี.....

      “ลองกลับไปหาที่สถานีรถไฟดีกว่า”

      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .

      เมื่อถึงสถานี จินกิกำลังจะเดินไปถามยามที่อยู่แถวนั้น แต่ยามดันหันมาเจอจินกิก่อนพอดี
      “ขอโทษนะ มีคนมาขอให้ตามหาผู้ชายที่ใส่ผ้าพันคอสีน้ำเงิน เห็นว่าเขาตกอยู๋ในอัตรายน่ะ”
      “แล้วผู้ชายคนนั้นไปหาไหนเหรอครับ” จินกิเมื่อได้ยินอย่างนั้นจึงรีบหันไปถามลุงยามทันที
      “เห็นบอกว่าจะไปตามหาทางนั้นน่ะ” ลุงยามชี้ไปทางชานชาลา

      สิ้นเสียงของลุงยามจินกิก็รีบวิ่งไปที่ทางนั้นหวังไว้ว่าจะไปรอที่ชานชาลาคงจะเจอ

      .....คนคนนั้น.....

      .
      .
      .
      .
      .
      .

      เมื่อเห็นว่าเริ่มรอนานแล้ว ตัวจินกิเองก็เริ่มถอดใจ นั่งแหม่ะ ลงกับเก้าอี้แถวนั้น
      แต่ ยังไม่ทันที่ก้นจะสำผัสกับเก้าอี้ ก็เจอผู้ชายหน้าคุ้นตาที่ตัวเองกำลังตามหาอยู่พอดี จินกิรีบกระโดดโผเข้ากอดผู้ชายร่างสูงคนนั้นทันที

      “ขอบคุณนะ ฮึก!” ร่างสูงสัมผัสได้ถึงหยดน้ำที่ซึมผ่านเสื้อของเขา จินกิกำลังร้องไห้ ด้วยความตื้นตัน
      “ฉันขอโทษนะที่หลอกนายน่ะ แหม พอจะแก้ตัวก็ไม่ทันซะละ” ร่างสูงได้แต่ยกมือเกาท้ายทอยแก้เก้อ

      - - รถไฟสายที่ 4 กำลังจะเทียบชานชาลา กรุณายืนหลังเส้นสีเหลืองด้วยค่ะ - -

      “ฉันไปก่อนล่ะ ไว้เจอกันนะ ‘ลี จินกิ’ “ร่างสูงที่กำลังบอกลากำลังก้าวเท้าเข้าประตูรถไฟพอดี
      “ดูแลตัวเองด้วยนะ” จบประโยคร่างสูงก็เอียงคอยิ้มอย่างอ่อนโยนให้จินกิ
      “เดี่ยว!! นายชื่ออะไรเหรอ ฉันยังไม่รู้เลย” จินกิเอื้อมมือคว้าชายเสื้อร่างสูงเอาไว้
      “เอาไว้ไปคิดเป็นการบ้านส่งพรุ้งนี้ล่ะกันนะ”
      แล้วสัญญาณ ปิดประตูก็ดังขึ้น จินกิเลยถอยออกห่างจากตัวรถไฟ มองรถไฟที่ค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากชานชาลา


      .....ไปคิดเป็นการบ้านงั้นเหรอ.....
      .....แสดงว่าคงจะได้เจอกันอีกสินะ.....

      .
      .
      .
      .
      .

      “ไงจินกิ นัดเพื่อนทางเมล์เป็นไงบ้าง” เช้าของอีกวันที่ทั้งจงฮยอนแลละคีย์บอมต่างรอคอยจะถามเรื่องของเมื่อวันเสาร์ด้วยความเป็นห่วง
      “ก็โอเคนะ” จินกิได้แต่ส่งยิ้มไปเพราะกลัวเพื่อนจะเป็นห่วง
      “พวกฉันเป็นห่วงนายจะแย่รู้มั๊ย”
      “คร๊าบบบบบบบบ วันหลังไม่ทำแบบนี้แล้ว”
      “เฮ้ย จงฮยอนโน้นๆ คนนั้นเดินมาโน้นแล้ว” คีย์บอมที่มองออกไปที่หน้าประตูโรงเรียนเห็นผู้ชายรูปร่างสูงที่จงฮยอนปลื้ม นักปลื้มหนา ว่าทั้งหน้าตาดี ทั้งเรียนเก่ง อาจจะค่อนไปทางอิจฉานิดๆซะด้วยซ้ำนะ
      “ไหนๆๆ อ้อ~~ ชเว มินโฮ” จงฮยอนก็หันไปเออออด้วย
      “วันนั้นฉันเห็นไม่ได้ใส่แว่นด้วย หล่อมากเลยอ่ะ อิจฉาคนแบบนี้จริงๆเลย” จงฮยอนจะก็ วิจารณ์ไปเรื่อย จนจินกินึกสงสัย
      “ใครเหรอ? จงฮยอน คีย์บอม”
      “ก็คนที่นั่งข้างหน้านายไง ชเว มินโฮ”
      “เอ๋? =_=” คนที่ใส่แว่นหนาๆอ่านะ” แล้วก็พยายามนึกหน้าสุดชีวิต

      “ฉันน่ะนะ ไม่ค่อยจำคนรอบข้างเท่าไรหรอก แม้แต่เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างหน้ายังจำไม่ได้เลยนะ”

      แต่แล้วผู้ชายที่กำลังพูดถึงก็เดินริ้วๆๆๆ มาทางจินกิ
      “ไงจินกิ ทำการบ้านได้รึเปล่า?”
      “นี่นาย!!!”

      แล้ว จินกิก็ต้องตกใจเมื่อผู้ชายที่ถามเมื่อกี้หันมา หน้าตาคล้ายคนเมื่อวานเหลือเกิน.......ไม่ใช่คล้ายหรอก แต่เป็นคนเดียวกันเลย เพียงแต่ว่านี้ใส่แว่นกรอบสีดำ หนาๆมาด้วยเท่านั้น...

      END..!!



      http://youtu.be/JO4QrxE3hIM   <<<  คลิดเพลงเลยค่ะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×