คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : - CHAPTER 1 : THE 1ST LETTER
THE LETTER ❤
Pairing : -------- x YOUNGJAE
Range : Romance – Monotone
Rate : PG
- CHAPTER 1 : THE 1ST LETTER –
'ส่วนที่ดีที่สุดของการเขียนจดหมายไม่ได้อยู่ที่ตอนมานั่งนึกว่าเขาจะอ่านจดหมายของเราหรือเปล่า แต่เป็นตอนที่เราคิดจะเขียนถึงเขาซะมากกว่า'
"ยองแจอ่า ยองแจ!" เสียงเล็กดังขึ้นมาจากในครัว ทำเอาเจ้าของชื่อที่กำลังนอนอยู่ที่ห้องรับแขกต้องลุกขึ้นเดินไปหาต้นเสียงอย่างช่วยไม่ได้
"คร้าบบบบ? มีอะไรฮยอง" ยองแจเอ่ยถามอูยองผู้เป็นพี่ชายทันทีที่พาขาตัวเองก้าวมาถึง แปลกใจเล็กน้อยเพราะโดยปกติแล้วอูยองมักไม่ชอบให้เขาเข้ามายุ่งวุ่นวายในเวลาที่ตัวเองกำลังทำอาหารอยู่ซักเท่าไหร่ เหตุผลก็เพราะว่าทุกครั้งที่ยองแจเข้าไปในครัว อาหารมักจะเสร็จช้าและทำให้อูยองต้องเหนื่อยกว่าเดิมประมาณสองเท่า กับการจัดการด่าลิงทะโมนตัวนี้ไม่ให้แอบชิมหรือเล่นอะไรแผลงๆในขณะที่เขากำลังตั้งใจปรุงอาหารอยู่
กลิ่นหอมของเบคอนทอดและออมเล็ตโชยขึ้นมาปะทะกับจมูกยองแจเต็มๆ ทำให้ร่างเล็กอดไม่ได้ที่จะขอยื่นหน้าเข้าไปดมกลิ่นหอมใกล้ๆ แต่ก็ถูกคนเป็นพี่ดันออกมาทันที
"โห อย่างหอมเลยฮยอง ทำอะไรกินอ่ะ" ตาเรียวเล็กเป็นประกายในขณะที่ถาม ทำจมูกฟุดฟิดไม่ยอมหยุด กลิ่นหอมที่ลอยมาจากอาหารฝีมือของอูยองทำให้ยองแจรู้สึกตื่นเต้นได้ทุกครั้ง
"เออน่า ไปดูจดหมายหน้าบ้านให้ฮยองหน่อยดิ" อูยองตัดบท พร้อมกับเอื้อมมือไปจับไหล่ทั้งสองข้างของคนอายุน้อยกว่าให้หันกลับไปทางประตู
ยองแจยอมเดินไปตามแรงที่คนเป็นพี่ผลักอย่างว่าง่าย ร่างเล็กหัวเราะออกมาเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเหตุผลที่อูยองวานให้เขาไปดูจดหมายให้ คงเป็นอะไรไม่ได้นอกจากรอจดหมายจากคนสำคัญสินะ เพราะอูยองมีหน้าที่ต้องทำอาหารเช้าอยู่เสมอจึงทำให้ไม่สามารถออกมาหยิบจดหมายได้ด้วยตัวเอง หน้าที่รับผิดชอบนี้เลยตกเป็นของชเวยองแจผู้ทำอาหารไม่เป็นแต่เพียงผู้เดียว
แสงแดดอ่อนๆยามเช้ากระทบใบหน้าของร่างเล็กทันทีที่เปิดประตูออกไป ยองแจบิดขี้เกียจไปมา ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นคันโยกของตู้จดหมายสีแดงหน้าบ้านถูกยกขึ้น เป็นสัญลักษณ์ให้รู้ว่ามีจดหมายเดินทางมาถึงเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเห็นดังนั้นจึงรีบพาขาตัวเองก้าวไปยังตู้จดหมายทันที มือเล็กกดคันโยกให้ต่ำลงพร้อมเปิดตู้จดหมายดู ภายในมีจดหมายประมาณห้าฉบับ แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นจะต้องเป็นจดหมายที่เขียนถึงพี่ชายของเขาแน่ๆ นิ้วเรียวค่อยๆไล่ดูจดหมายในมือทีละฉบับ
ฉบับแรกเป็นซองจดหมายสีเหลืองอ่อน เป็นไปตามที่ยองแจคาด เพราะฉบับนี้จ่าหน้าซองถึงอูยองอย่างชัดเจน เป็นจดหมายจากประเทศฝรั่งเศส ที่ๆคนสำคัญของอูยองอยู่ตอนนี้ ยองแจมองว่ามันเป็นความสัมพันธ์และการรอคอยที่น่ารักดี ทั้งที่สมัยนี้เทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก สามารถเฟสไทม์หรือสไกป์คุยกันก็ได้ แต่ทั้งคู่กลับเลือกใช้วิธีเขียนจดหมายหากันแทน เขาเคยถามอูยองว่าทำไมถึงเลือกวิธีการติดต่อหากันแบบนี้ แต่ก็ได้รับคำตอบเพียงแค่ว่า เพราะจดหมายทำให้เรารู้คุณค่าของการรอคอยมากขึ้น ยองแจได้แต่พยักหน้ารับอย่างงงๆ
ฉบับที่สองเป็นจดหมายจากโรงเรียนมัธยมปลายที่เขาเรียนอยู่ ร่างเล็กขมวดคิ้วยุ่ง เพราะรู้ดีว่าเป็นจดหมายประกาศผลการเรียนในเทอมที่แล้ว เอ่ยปากบ่นกับตัวเองก่อนจะรีบพับและเก็บมันลงกระเป๋าเสื้อทันที
ฉบับที่สามเป็นโบร์ชัวร์โฆษณาร้านสะดวกซื้อที่พึ่งมาเปิดใหม่ใกล้ๆบ้านได้ไม่นาน คงส่งมาให้เพราะพี่ชายเขาไปสมัครเป็นสมาชิคตอนซื้อของมาทำอาหารล่ะมั้ง
ฉบับที่สี่เป็นแคตตาลอคสินค้าของร้านขายเสื้อผ้าที่เขามักจะไปอุดหนุนอยู่บ่อยครั้ง ยองแจเปิดดูผ่านๆอย่างไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่นัก แต่ด้วยความไม่ระวัง ทำให้มือเล็กพลาดทำจดหมายร่วงลงมาหนึ่งฉบับ จดหมายที่ตกลงมาเป็นฉบับสุดท้ายที่เขายังไม่ได้ดูพอดี
มือเล็กเอื้อมลงมาหยิบจดหมายซองสีแดงบนพื้นขึ้นมาดู ตาเรียวเล็กหรี่ลงด้วยความงุนงน เพราะจดหมายฉบับนี้ไม่ได้ระบุชื่อของผู้ส่งเอาไว้หน้าซองแถมยังเป็นลายมือที่ไม่เคยเห็นอีกตังหาก จะบอกว่าเป็นของพี่ชายเขาหรือเป็นเพื่อนเขาที่ส่งมาก็ไม่ได้ เพราะในยุคไอทีแบบนี้ไม่มีใครยังส่งจดหมายคุยกันหรอก เว้นแต่พี่ชายเขาน่ะนะ
ร่างเล็กตัดสินใจพาขาทั้งสองข้างเดินกลับเข้าไปในตัวบ้านเพื่อถามเรื่องจดหมายฉบับนี้กับคนเป็นพี่อย่างไม่รอช้า หรือว่าจะเป็นเด็กแถวนี้มาแกล้งกันนะ … แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเด็กๆแถวบ้านยังอ่านหนังสือกันไม่คล่องเลยด้วยซ้ำ ยองแจสะบัดหน้าไปมาเพื่อไล่ความคิดไร้สาระออกไปจากหัว เป็นจังหวะเดียวกับที่อูยองยกอาหารออกมาวางบนโต๊ะพอดี
"มีจดหมายของฮยองรึเปล่า แล้วเป็นอะไรล่ะนั่น หน้ายุ่งเชียว" ถามขึ้นพลางเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนไปด้วย
"
"พูดมากจริง น้องใครวะ" คนเป็นพี่พูดพลางผลักไหล่คนอายุน้อยกว่าเบาๆ
"
"
ยองแจมองอูยองก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดังเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเกิดอาการเถียงต่อไม่ได้ แต่ไม่นานก็ต้องเงียบเสียง
หัวเราะลง เนื่องจากมีสายตาพิฆาตจากคนที่เถียงต่อไม่ได้มองมาเป็นเชิงถามว่า ‘หัวเราะอะไร’ ยองแจได้แต่ส่งยิ้มแฮะๆกลับไปแทนคตอบ ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินมื้อเช้าของตัวเองต่อไป
"เออฮยอง เมื่อกี้อ่ะ นอกจากจดหมายของฮยองอ่ะ มันยังมีอีกฉบับนึงนะ"
"
"
"
อูยองรับจดหมายที่ยองแจพูดถึงไปดู พลิกไปพลิกมาอยู่หลายครั้ง แต่ไม่นานก็ส่งคืนให้เหมือนเดิม
"
"
"
ร่างเล็กได้แต่อ้าปากพะงาบๆเพราะเถียงไม่ออก สรุปแล้วคือจดหมายบ้านี่เป็นของเขาใช่มั้ยเนี่ย โถ่ รู้งี้ไม่น่าบอกเลยอ่ะ เขาน่าจะแกล้งทำเป็นตีหน้าซื่อไม่รู้แล้วยัดใส่มือคนเป็นพี่ไปเลยตั้งแต่แรก ไม่น่าหวังดีทักท้วงแบบนี้เลยอ่ะ
"งั้นถ้าผมเปิดอ่านจะมาว่าผมเสียมารยาทไม่ได้นะเว้ย"
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
หลังจากมื้อเช้าจบลง ร่างเล็กตัดสินใจหยิบจดหมายเจ้าปัญหาฉบับนั้นเข้ามาวางไว้ในห้องด้วย คิ้วเรียวยังคงขมวดกันยุ่ง ในขณะที่จ้องจดหมายบนโต๊ะอย่างไม่ละสายตา จับมันพลิกไปพลิกมาก็แล้ว นั่งมองก็แล้ว หน้าซองจดหมายก็ระบุเพียงที่อยู่ของเขาเท่านั้น
มือเล็กเริ่มลงมือแกะจดหมายตรงหน้าทันทีหลังจากที่นั่งมองมาเป็นเวลาร่วมชั่วโมง ค่อยๆคลี่กระดาษข้างในออกมา ข้อความถูกเขียนด้วยลายมือที่ไม่ค่อยบรรจงเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากซักเท่าไหร่ในการอ่าน …
ฤดูใบไม้ร่วง
18 กันยายน 201X
สวัสดีครับ คุณคนที่ได้รับจดหมายฉบับนี้
ผมเดาว่าคุณเองคงแปลกใจไม่น้อยที่จู่ๆก็พบซองจดหมายสีแดงอยู่ในตู้ไปรษณีย์ (แต่ผมคงไม่สามารถเดาได้ว่าตอนที่คุณอ่านจดหมายฉบับนี้เป็นกลางวันหรือกลางคืน เพราะกว่าจะส่งไปถึงมือคุณมันก็คงนานโขเลยทีเดียว)
เวลาของผมในตอนนี้ ตอนที่เริ่มลงมือเขียนจดหมายคือเวลาบ่ายโมงสี่สิบห้านาที ที่ๆผมอยู่กำลังเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงพอดี เพราะฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจ หากมีเศษกิ่งไม้หรือใบไม้ติดไปกับจดหมาย ผมพยายามปัดมันออกหลายครั้ง แต่พวกมันหล่นลงมาเยอะเหลือเกิน
ผมไม่สามารถบอกเหตุผลของการเขียนจดหมายในครั้งนี้ได้ อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ผมเพียงแต่ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เขียนมันก็เท่านั้น หวังว่าคุณจะเข้าใจและไม่ขยำมันทิ้งไปซะก่อนนะครับ
--------------
xxxx
ทันทีที่ยองแจอ่านข้อความในจดหมายจบ มือเล็กรีบพลิกซองจดหมายขึ้นมาเช็คอีกรอบเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นจดหมายที่จ่าหน้าซองระบุถึงที่อยู่ของตัวเองจริงๆ ไม่ใช่เป็นการเข้าใจผิดของบุรุษไปรษณีย์ ร่างเล็กได้แต่ขมวดคิ้วอยู่คนเดียวเป็นรอบที่ล้านของวัน เมื่อพบว่าที่อยู่ตามหน้าซองตรงกับความจริงทุกอย่าง
"
... หรือจะลองเขียนตอบกลับไปดู ...
ร่างเล็กเดินออกมาจากห้องตัวเอง ตัดสินใจเล่าเรื่องราวในจดหมายทั้งหมดให้พี่ชายที่อยู่ห้องนอนข้างๆฟัง ยองแจเป็นคนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองและขี้กังวล เพราะแบบนั้นเวลาจะตัดสินใจทำอะไร เขามักจะขอคำปรึกษาจากอูยองก่อนเกือบทุกครั้ง รวมถึงครั้งนี้ด้วย
“สรุปจดหมายมันก็ไม่ใช่ของผมอ่ะฮยอง คนที่เขียนเขาตั้งใจจะส่งให้ใครก็ไม่รู้”
“แล้วเราจะทำยังไงต่อ? จะเขียนตอบกลับเขาไปอย่างนั้นเหรอ? ” อูยองถามขึ้นอย่างรู้ทัน เขารู้นิสัยของยองแจดี เด็กที่ดูเหมือนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองนั่นแหละ จริงๆแล้ววางแผนทุกอย่างไว้ในหัวหมดแล้ว เพียงแต่ต้องการมาปรึกษาเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองเท่านั้น ถึงคำแนะนำจะตรงข้ามกับความคิดของยองแจ ยังไงเด็กคนนี้ก็จะงัดเหตุผลมาใช้ทุกอย่างจนเขายอมอยู่ดี
“ก็..จะเขียนไปบอกว่าเขาส่งมาผิดเฉยๆ” พูดทั้งๆที่หลบตา กลัวอีกฝ่ายจะรู้ความคิดกัน
“ฮยองห้ามเราไม่ได้อยู่ดีใช่มั้ยล่ะ” หยุดพูดครู่หนึ่ง ก่อนที่คนเป็นพี่ส่ายหน้าให้กับความรั้นของคนตรงหน้าเบาๆ
“ระวังๆหน่อยก็แล้วกัน ฮยองไม่ห้ามเพราะเห็นว่าเราโตแล้ว เพราะงั้นรับผิดชอบเองนะยองแจ”
“อื้ม ฮยองไม่ต้องห่วงหรอก ผมแค่เขียนไปบอกเขาฉบับนี้ฉบับเดียวเอง”
พูดจบยองแจก็รีบวิ่งกลับไปที่ห้องตัวเอง หยิบกระดาษฉีกที่วางอยู่ข้างตัวมาเตรียมเขียนจดหมายเพื่อตอบกลับไป ยองแจไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่รู้สึกว่าคนที่ส่งจดหมายฉบับนี้มาจะเป็นคนเลวร้าย บางทีอาจเป็นเพราะเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นผ่านตัวอักษรเหล่านั้น หรืออาจเป็นเพราะนี่ยังเป็นตอนเช้า ทำให้สมองของเขาประมวลผลได้ช้าลงกว่าเดิม
และยองแจเองก็หาคำตอบไม่ได้เช่นกัน ว่าทำไมถึงต้องอยากเขียนตอบกลับไปขนาดนี้ แต่เขาเองก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ตอบกลับไปนี่นา
“ถ้าจะมีใครซักคนเป็นบ้า ก็คงเป็นแกแล้วล่ะยองแจ….”
10 : 00 AM
25 กันยายน 201X
ถึง คุณเจ้าของจดหมาย
น่าตกใจที่คุณเดาถูกจริงๆว่าผมแปลกใจมากตอนที่เห็นจดหมายฉบับนี้ ผมกับพี่ชายเกี่ยงกันไปมาอยู่นานเรื่องที่ว่าใครเป็นเจ้าของจดหมายฉบับนี้ จะหัวเราะก็ได้นะครับ คิดเสียว่าเป็นเรื่องตลกประจำวันก็ได้ เวลาที่จดหมายฉบับนี้เดินทางมาถึงผม มันไม่ดึกมากหรอกครับ เพราะที่นี่พึ่งจะ 10 โมงเช้าเท่านั้นเอง สำหรับเรื่องกิ่งไม้และใบไม้ที่คุณกังวล อย่าห่วงเลยครับ เพราะมีแค่ใบเมเปิ้ลสีน้ำตาลติดมากับจดหมายเพียงใบเดียวเท่านั้น ผมออกจะชอบมันนะ เพราะที่นี่ต้นเมเปิ้ลยังไม่เปลี่ยนสีเลย มันพึ่งผลิใบออกมาเมื่อไม่นานมานี้เอง
ถ้าให้ผมเป็นฝ่ายเดา เราคงจะอยู่กันคงละซีกโลกเลยล่ะมั้ง เพราะฤดูกาลของเราไม่ตรงกันซักเท่าไหร่ ผมอยู่ในที่ๆใบไม้สีเขียว ส่วนคุณอยู่ในที่ๆใบไม้เป็นสีส้ม สีแดง และสีน้ำตาล เป็นเรื่องบังเอิญที่น่าขำนิดหน่อยนะครับ และไม่ต้องห่วงเรื่องที่ผมจะขยำจดหมายทิ้งนะ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นผมคงไม่เขียนมาจนถึงบรรทัดนี้หรอก จริงมั้ยครับ? J
PS. ผมชื่อ ชเวยองแจ ครับ หวังว่าในฉบับหน้าคุณคงเขียนชื่อกำกับมาไว้ด้วยนะ ผมกับพี่ชายจะได้เลิกเกี่ยงกันเวลาที่บุรุษไปรษณีย์เอาจดหมายมาส่งซะทีㅋㅋㅋ
ยินดีที่ได้รู้จักครับ
ยองแจ
........................................................................................
★TALK★
:: 05.00 AM
โอยยยย น้ำตาไหล ฮืออออออ
เผามากก TT__TT คือร่างๆพล็อตไว้ตั้งแต่วันพฤหัสที่แล้ว
ความจริงแล้วนี่เป็นพล็อตของช็อทฟิคอีกเรื่องนึงด้วยนะ555555555555555555
แต่ว่าตอนนั้นคิดแล้วมันออกทะเลไปเยอะมาก เลยคิดว่าถ้าไปแต่งเป็นช็อทฟิคคงจบยากอ่ะ
สุดท้ายจากพล็อตที่ขูดๆเขียนๆไว้เล่นๆก็กลายมาเป็นเรื่องยาวบบนี้ TT_____TT
นี่เป็นพวกบ้าพลังด้วยอ่ะ ถ้าแต่งคือแต่งยาวเลย ตั้งแต่ห้าทุ่มยันตีห้า
ถ้ามีตรงไหนผิดพลาดแจ้งได้นะคะ Y___Y แล้วก็คอมเม้นท์ได้นะ คอมเม้นท์ยาวๆก็ได้ อ่านได้ค่ะ555555555
แอบเอาจางอูยองมารับบทพี่ชาย...
สารภาพว่าแต่งยากมากกกกกก
เพราะปกติแต่งแต่ให้คนมาโอ๋อูยอง พอมาเรื่องนี้กลายเป็นต้องโอ๋ยองแจ กร้ากกก
สำหรับเรื่องนี้คงอาจจะค่อยเป็นค่อยไปหน่อยนะคะ
เนื้อเรื่องอาจจะดำเนินไปแบบเอื่อยๆ ก็อย่าพึ่งเบื่อไปก่อนนะ
มาลุ้นดีกว่าว่าใครคือเจ้าของจดหมายสีแดงน้าา (คนอ่านบอกเค้ารู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้วโว้ยยย)
แต่ก็ไม่แน่เนาะ... อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นค่ะ เคี้ยกๆๆๆๆ
ความคิดเห็น