ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (FIC) GOT7 :: THE LETTER (편지) ❤️

    ลำดับตอนที่ #1 : - CHAPTER 1 : THE 1ST LETTER –

    • อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 57


    THE LETTER

     

     

    Pairing : -------- x YOUNGJAE

    Range : Romance – Monotone

    Rate : PG

     



     

    - CHAPTER  1 : THE 1ST LETTER –

     

     

     
     

     

     

    'ส่วนที่ดีที่สุดของการเขียนจดหมายไม่ได้อยู่ที่ตอนมานั่งนึกว่าเขาจะอ่านจดหมายของเราหรือเปล่า แต่เป็นตอนที่เราคิดจะเขียนถึงเขาซะมากกว่า'

     

                                                                                       
     

     ........................................................................................
     

     

     

                        

    "ยองแจอ่า ยองแจ!"    เสียงเล็กดังขึ้นมาจากในครัว ทำเอาเจ้าของชื่อที่กำลังนอนอยู่ที่ห้องรับแขกต้องลุกขึ้นเดินไปหาต้นเสียงอย่างช่วยไม่ได้

     

     

    "คร้าบบบบ? มีอะไรฮยอง"  ยองแจเอ่ยถามอูยองผู้เป็นพี่ชายทันทีที่พาขาตัวเองก้าวมาถึง แปลกใจเล็กน้อยเพราะโดยปกติแล้วอูยองมักไม่ชอบให้เขาเข้ามายุ่งวุ่นวายในเวลาที่ตัวเองกำลังทำอาหารอยู่ซักเท่าไหร่ เหตุผลก็เพราะว่าทุกครั้งที่ยองแจเข้าไปในครัว อาหารมักจะเสร็จช้าและทำให้อูยองต้องเหนื่อยกว่าเดิมประมาณสองเท่า กับการจัดการด่าลิงทะโมนตัวนี้ไม่ให้แอบชิมหรือเล่นอะไรแผลงๆในขณะที่เขากำลังตั้งใจปรุงอาหารอยู่

     

                           กลิ่นหอมของเบคอนทอดและออมเล็ตโชยขึ้นมาปะทะกับจมูกยองแจเต็มๆ ทำให้ร่างเล็กอดไม่ได้ที่จะขอยื่นหน้าเข้าไปดมกลิ่นหอมใกล้ๆ แต่ก็ถูกคนเป็นพี่ดันออกมาทันที

     

     

    "โห อย่างหอมเลยฮยอง ทำอะไรกินอ่ะ"  ตาเรียวเล็กเป็นประกายในขณะที่ถาม ทำจมูกฟุดฟิดไม่ยอมหยุด กลิ่นหอมที่ลอยมาจากอาหารฝีมือของอูยองทำให้ยองแจรู้สึกตื่นเต้นได้ทุกครั้ง 

     


    "เออน่า ไปดูจดหมายหน้าบ้านให้ฮยองหน่อยดิ" อูยองตัดบท พร้อมกับเอื้อมมือไปจับไหล่ทั้งสองข้างของคนอายุน้อยกว่าให้หันกลับไปทางประตู





                         ยองแจยอมเดินไปตามแรงที่คนเป็นพี่ผลักอย่างว่าง่าย ร่างเล็กหัวเราะออกมาเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเหตุผลที่อูยองวานให้เขาไปดูจดหมายให้ คงเป็นอะไรไม่ได้นอกจากรอจดหมายจากคนสำคัญสินะ เพราะอูยองมีหน้าที่ต้องทำอาหารเช้าอยู่เสมอจึงทำให้ไม่สามารถออกมาหยิบจดหมายได้ด้วยตัวเอง หน้าที่รับผิดชอบนี้เลยตกเป็นของชเวยองแจผู้ทำอาหารไม่เป็นแต่เพียงผู้เดียว

     
     

                          แสงแดดอ่อนๆยามเช้ากระทบใบหน้าของร่างเล็กทันทีที่เปิดประตูออกไป ยองแจบิดขี้เกียจไปมา ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นคันโยกของตู้จดหมายสีแดงหน้าบ้านถูกยกขึ้น เป็นสัญลักษณ์ให้รู้ว่ามีจดหมายเดินทางมาถึงเรียบร้อยแล้ว

     
     

                         เมื่อเห็นดังนั้นจึงรีบพาขาตัวเองก้าวไปยังตู้จดหมายทันที  มือเล็กกดคันโยกให้ต่ำลงพร้อมเปิดตู้จดหมายดู ภายในมีจดหมายประมาณห้าฉบับ แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นจะต้องเป็นจดหมายที่เขียนถึงพี่ชายของเขาแน่ๆ  นิ้วเรียวค่อยๆไล่ดูจดหมายในมือทีละฉบับ

     




     

    ฉบับแรกเป็นซองจดหมายสีเหลืองอ่อน เป็นไปตามที่ยองแจคาด เพราะฉบับนี้จ่าหน้าซองถึงอูยองอย่างชัดเจน เป็นจดหมายจากประเทศฝรั่งเศส ที่ๆคนสำคัญของอูยองอยู่ตอนนี้ ยองแจมองว่ามันเป็นความสัมพันธ์และการรอคอยที่น่ารักดี ทั้งที่สมัยนี้เทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก สามารถเฟสไทม์หรือสไกป์คุยกันก็ได้ แต่ทั้งคู่กลับเลือกใช้วิธีเขียนจดหมายหากันแทน เขาเคยถามอูยองว่าทำไมถึงเลือกวิธีการติดต่อหากันแบบนี้ แต่ก็ได้รับคำตอบเพียงแค่ว่า เพราะจดหมายทำให้เรารู้คุณค่าของการรอคอยมากขึ้น  ยองแจได้แต่พยักหน้ารับอย่างงงๆ

     
     

    ฉบับที่สองเป็นจดหมายจากโรงเรียนมัธยมปลายที่เขาเรียนอยู่ ร่างเล็กขมวดคิ้วยุ่ง เพราะรู้ดีว่าเป็นจดหมายประกาศผลการเรียนในเทอมที่แล้ว เอ่ยปากบ่นกับตัวเองก่อนจะรีบพับและเก็บมันลงกระเป๋าเสื้อทันที

     


    ฉบับที่สามเป็นโบร์ชัวร์โฆษณาร้านสะดวกซื้อที่พึ่งมาเปิดใหม่ใกล้ๆบ้านได้ไม่นาน  คงส่งมาให้เพราะพี่ชายเขาไปสมัครเป็นสมาชิคตอนซื้อของมาทำอาหารล่ะมั้ง


     

    ฉบับที่สี่เป็นแคตตาลอคสินค้าของร้านขายเสื้อผ้าที่เขามักจะไปอุดหนุนอยู่บ่อยครั้ง ยองแจเปิดดูผ่านๆอย่างไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่นัก แต่ด้วยความไม่ระวัง ทำให้มือเล็กพลาดทำจดหมายร่วงลงมาหนึ่งฉบับ  จดหมายที่ตกลงมาเป็นฉบับสุดท้ายที่เขายังไม่ได้ดูพอดี

     




                                มือเล็กเอื้อมลงมาหยิบจดหมายซองสีแดงบนพื้นขึ้นมาดู ตาเรียวเล็กหรี่ลงด้วยความงุนงน เพราะจดหมายฉบับนี้ไม่ได้ระบุชื่อของผู้ส่งเอาไว้หน้าซองแถมยังเป็นลายมือที่ไม่เคยเห็นอีกตังหาก จะบอกว่าเป็นของพี่ชายเขาหรือเป็นเพื่อนเขาที่ส่งมาก็ไม่ได้ เพราะในยุคไอทีแบบนี้ไม่มีใครยังส่งจดหมายคุยกันหรอก เว้นแต่พี่ชายเขาน่ะนะ

     
     

                             ร่างเล็กตัดสินใจพาขาทั้งสองข้างเดินกลับเข้าไปในตัวบ้านเพื่อถามเรื่องจดหมายฉบับนี้กับคนเป็นพี่อย่างไม่รอช้า หรือว่าจะเป็นเด็กแถวนี้มาแกล้งกันนะ แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเด็กๆแถวบ้านยังอ่านหนังสือกันไม่คล่องเลยด้วยซ้ำ ยองแจสะบัดหน้าไปมาเพื่อไล่ความคิดไร้สาระออกไปจากหัว เป็นจังหวะเดียวกับที่อูยองยกอาหารออกมาวางบนโต๊ะพอดี

     


    "มีจดหมายของฮยองรึเปล่า แล้วเป็นอะไรล่ะนั่น หน้ายุ่งเชียว ถามขึ้นพลางเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนไปด้วย



    "
    มีอยู่แล้วน่า พี่คุณเขาส่งกลับมาหาฮยองทุกเดือนนั่นแหละ" ยองแจย่นจมูกด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะหยิบจดหมายซองสีเหลืองในมือส่งให้คนเป็นพี่พร้อมกับโบร์ชัวร์ของร้านสะดวกซื้อที่ถูกส่งมาพร้อมกันด้วย
     

    "พูดมากจริง น้องใครวะ" คนเป็นพี่พูดพลางผลักไหล่คนอายุน้อยกว่าเบาๆ

     

    "
    น้องใครล่ะ ก็น้องฮยองไง"

     

    "
    รีบๆกินข้าวไปเถอะไป"

     



                         ยองแจมองอูยองก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดังเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเกิดอาการเถียงต่อไม่ได้ แต่ไม่นานก็ต้องเงียบเสียง
    หัวเราะลง เนื่องจากมีสายตาพิฆาตจากคนที่เถียงต่อไม่ได้มองมาเป็นเชิงถามว่า
    หัวเราะอะไรยองแจได้แต่ส่งยิ้มแฮะๆกลับไปแทนคตอบ ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินมื้อเช้าของตัวเองต่อไป

     


    "เออฮยอง เมื่อกี้อ่ะ นอกจากจดหมายของฮยองอ่ะ มันยังมีอีกฉบับนึงนะ"



    "
    หือ จดหมายอะไรอ่ะ ผลการเรียนเราเหรอ"

     

    "
    ..ไม่ช่าย" สิ้นคำถามจากปากอูยอง ทำเอายองแจแทบสำลักออมเล็ต เขาอุส่าห์ทำเป็นเนียนๆเรื่องนี้ไปแล้วนะ จะพูดขึ้นมาทำไมเล่า  ร่างเล็กรีบหยิบจดหมายที่พูดถึงให้อูยองดูทันที ก่อนที่คนเป็นพี่จะถามเรื่องผลการเรียนของเขาไปมากกว่านี้

     

    "
    ..อันนี้ตังหากฮยอง ซองสีแดงเนี่ยไม่รู้ว่าของใคร ใช่ของฮยองรึเปล่า มันไม่ได้เขียนจ่าหน้าซองอะไรไว้เลยอ่ะ"  

     

    อูยองรับจดหมายที่ยองแจพูดถึงไปดู พลิกไปพลิกมาอยู่หลายครั้ง แต่ไม่นานก็ส่งคืนให้เหมือนเดิม



    "
    ไม่ใช่อ่ะ ไม่ใช่ของฮยอง เราได้เปิดอ่านดูข้างในยัง อาจจะเป็นของเราก็ได้"

     

    "
    เพื่อนผมมันไม่มีใครเขียนจดหมายกันแล้วนะ"

     

    "
    เอาหน่า มันไม่ใช่ของฮยองก็ของเรานั่นแหละอูยองเพยิดหน้าใส่ เป็นเชิงบอกปัดว่าจดหมายฉบับนั้นยังไงก็เป็นของยองแจแน่ๆ ก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับจดหมายของตัวเองต่อ ทิ้งให้ยองแจทีที่นั่งตรงข้ามกันทำหน้าเหวออยู่คนเดียว

     



                          ร่างเล็กได้แต่อ้าปากพะงาบๆเพราะเถียงไม่ออก สรุปแล้วคือจดหมายบ้านี่เป็นของเขาใช่มั้ยเนี่ย โถ่ รู้งี้ไม่น่าบอกเลยอ่ะ เขาน่าจะแกล้งทำเป็นตีหน้าซื่อไม่รู้แล้วยัดใส่มือคนเป็นพี่ไปเลยตั้งแต่แรก ไม่น่าหวังดีทักท้วงแบบนี้เลยอ่ะ

     




    "งั้นถ้าผมเปิดอ่านจะมาว่าผมเสียมารยาทไม่ได้นะเว้ย"

     

     

     

     

    …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

     

     

     

     

     

                                   หลังจากมื้อเช้าจบลง ร่างเล็กตัดสินใจหยิบจดหมายเจ้าปัญหาฉบับนั้นเข้ามาวางไว้ในห้องด้วย  คิ้วเรียวยังคงขมวดกันยุ่ง ในขณะที่จ้องจดหมายบนโต๊ะอย่างไม่ละสายตา  จับมันพลิกไปพลิกมาก็แล้ว นั่งมองก็แล้ว หน้าซองจดหมายก็ระบุเพียงที่อยู่ของเขาเท่านั้น

     

                                    มือเล็กเริ่มลงมือแกะจดหมายตรงหน้าทันทีหลังจากที่นั่งมองมาเป็นเวลาร่วมชั่วโมง ค่อยๆคลี่กระดาษข้างในออกมา ข้อความถูกเขียนด้วยลายมือที่ไม่ค่อยบรรจงเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากซักเท่าไหร่ในการอ่าน

     

             

                

    ฤดูใบไม้ร่วง

    18 กันยายน 201X

     

    สวัสดีครับ คุณคนที่ได้รับจดหมายฉบับนี้

     

    ผมเดาว่าคุณเองคงแปลกใจไม่น้อยที่จู่ๆก็พบซองจดหมายสีแดงอยู่ในตู้ไปรษณีย์ (แต่ผมคงไม่สามารถเดาได้ว่าตอนที่คุณอ่านจดหมายฉบับนี้เป็นกลางวันหรือกลางคืน เพราะกว่าจะส่งไปถึงมือคุณมันก็คงนานโขเลยทีเดียว)

     

    เวลาของผมในตอนนี้ ตอนที่เริ่มลงมือเขียนจดหมายคือเวลาบ่ายโมงสี่สิบห้านาที ที่ๆผมอยู่กำลังเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงพอดี เพราะฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจ หากมีเศษกิ่งไม้หรือใบไม้ติดไปกับจดหมาย ผมพยายามปัดมันออกหลายครั้ง แต่พวกมันหล่นลงมาเยอะเหลือเกิน

     

    ผมไม่สามารถบอกเหตุผลของการเขียนจดหมายในครั้งนี้ได้ อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ผมเพียงแต่ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เขียนมันก็เท่านั้น หวังว่าคุณจะเข้าใจและไม่ขยำมันทิ้งไปซะก่อนนะครับ


                                                                                                                                                                  --------------
                                          xxxx

     

     

     

     

                         ทันทีที่ยองแจอ่านข้อความในจดหมายจบ มือเล็กรีบพลิกซองจดหมายขึ้นมาเช็คอีกรอบเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นจดหมายที่จ่าหน้าซองระบุถึงที่อยู่ของตัวเองจริงๆ ไม่ใช่เป็นการเข้าใจผิดของบุรุษไปรษณีย์ ร่างเล็กได้แต่ขมวดคิ้วอยู่คนเดียวเป็นรอบที่ล้านของวัน  เมื่อพบว่าที่อยู่ตามหน้าซองตรงกับความจริงทุกอย่าง 

     

     

    "
    เดี๋ยวนะ ล้อกันเล่นป่ะเนี่ย"  เอื้อมมือไปหยิบปฏิทินตรงหน้ามาดูเพื่อย้ำกับตัวเองว่าวันนี้ไม่ใช่วันโกหกแต่อย่างใด  วางปฏิทินลงบนโต๊ะเสียงดัง ก่อนจะเลื่อนมือขึ้นมายีกลุ่มผมสีเข้มของตัวเองไปมา

     

     

     

     

     

     

     

     

    ... หรือจะลองเขียนตอบกลับไปดู ...

     

     




     

     

     

     

     

                               ร่างเล็กเดินออกมาจากห้องตัวเอง ตัดสินใจเล่าเรื่องราวในจดหมายทั้งหมดให้พี่ชายที่อยู่ห้องนอนข้างๆฟัง  ยองแจเป็นคนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองและขี้กังวล เพราะแบบนั้นเวลาจะตัดสินใจทำอะไร เขามักจะขอคำปรึกษาจากอูยองก่อนเกือบทุกครั้ง รวมถึงครั้งนี้ด้วย

     

     

    สรุปจดหมายมันก็ไม่ใช่ของผมอ่ะฮยอง คนที่เขียนเขาตั้งใจจะส่งให้ใครก็ไม่รู้

     
     

    แล้วเราจะทำยังไงต่อ? จะเขียนตอบกลับเขาไปอย่างนั้นเหรอ? อูยองถามขึ้นอย่างรู้ทัน  เขารู้นิสัยของยองแจดี เด็กที่ดูเหมือนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองนั่นแหละ จริงๆแล้ววางแผนทุกอย่างไว้ในหัวหมดแล้ว เพียงแต่ต้องการมาปรึกษาเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองเท่านั้น ถึงคำแนะนำจะตรงข้ามกับความคิดของยองแจ ยังไงเด็กคนนี้ก็จะงัดเหตุผลมาใช้ทุกอย่างจนเขายอมอยู่ดี

     
     

    ก็..จะเขียนไปบอกว่าเขาส่งมาผิดเฉยๆ”  พูดทั้งๆที่หลบตา กลัวอีกฝ่ายจะรู้ความคิดกัน

     

     

    ฮยองห้ามเราไม่ได้อยู่ดีใช่มั้ยล่ะ”  หยุดพูดครู่หนึ่ง ก่อนที่คนเป็นพี่ส่ายหน้าให้กับความรั้นของคนตรงหน้าเบาๆ

     

     

    ระวังๆหน่อยก็แล้วกัน ฮยองไม่ห้ามเพราะเห็นว่าเราโตแล้ว เพราะงั้นรับผิดชอบเองนะยองแจ

     

     

    อื้ม ฮยองไม่ต้องห่วงหรอก ผมแค่เขียนไปบอกเขาฉบับนี้ฉบับเดียวเอง

     



                               พูดจบยองแจก็รีบวิ่งกลับไปที่ห้องตัวเอง หยิบกระดาษฉีกที่วางอยู่ข้างตัวมาเตรียมเขียนจดหมายเพื่อตอบกลับไป ยองแจไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่รู้สึกว่าคนที่ส่งจดหมายฉบับนี้มาจะเป็นคนเลวร้าย บางทีอาจเป็นเพราะเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นผ่านตัวอักษรเหล่านั้น  หรืออาจเป็นเพราะนี่ยังเป็นตอนเช้า ทำให้สมองของเขาประมวลผลได้ช้าลงกว่าเดิม

     

    และยองแจเองก็หาคำตอบไม่ได้เช่นกัน ว่าทำไมถึงต้องอยากเขียนตอบกลับไปขนาดนี้ แต่เขาเองก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ตอบกลับไปนี่นา

     

     

     

    ถ้าจะมีใครซักคนเป็นบ้า ก็คงเป็นแกแล้วล่ะยองแจ….”

     

     

     

     

     

     

    10 : 00 AM

    25 กันยายน  201X

     

    ถึง คุณเจ้าของจดหมาย

     

    น่าตกใจที่คุณเดาถูกจริงๆว่าผมแปลกใจมากตอนที่เห็นจดหมายฉบับนี้  ผมกับพี่ชายเกี่ยงกันไปมาอยู่นานเรื่องที่ว่าใครเป็นเจ้าของจดหมายฉบับนี้  จะหัวเราะก็ได้นะครับ คิดเสียว่าเป็นเรื่องตลกประจำวันก็ได้ เวลาที่จดหมายฉบับนี้เดินทางมาถึงผม มันไม่ดึกมากหรอกครับ เพราะที่นี่พึ่งจะ 10 โมงเช้าเท่านั้นเอง สำหรับเรื่องกิ่งไม้และใบไม้ที่คุณกังวล อย่าห่วงเลยครับ เพราะมีแค่ใบเมเปิ้ลสีน้ำตาลติดมากับจดหมายเพียงใบเดียวเท่านั้น ผมออกจะชอบมันนะ เพราะที่นี่ต้นเมเปิ้ลยังไม่เปลี่ยนสีเลย มันพึ่งผลิใบออกมาเมื่อไม่นานมานี้เอง

     

    ถ้าให้ผมเป็นฝ่ายเดา เราคงจะอยู่กันคงละซีกโลกเลยล่ะมั้ง เพราะฤดูกาลของเราไม่ตรงกันซักเท่าไหร่ ผมอยู่ในที่ๆใบไม้สีเขียว ส่วนคุณอยู่ในที่ๆใบไม้เป็นสีส้ม สีแดง และสีน้ำตาล เป็นเรื่องบังเอิญที่น่าขำนิดหน่อยนะครับ และไม่ต้องห่วงเรื่องที่ผมจะขยำจดหมายทิ้งนะ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นผมคงไม่เขียนมาจนถึงบรรทัดนี้หรอก จริงมั้ยครับ? J

     

    PS. ผมชื่อ ชเวยองแจ ครับ หวังว่าในฉบับหน้าคุณคงเขียนชื่อกำกับมาไว้ด้วยนะ ผมกับพี่ชายจะได้เลิกเกี่ยงกันเวลาที่บุรุษไปรษณีย์เอาจดหมายมาส่งซะทีㅋㅋㅋ

     

    ยินดีที่ได้รู้จักครับ

    ยองแจ

     

     





     

     ........................................................................................





     

    TALK

    :: 05.00 AM
    โอยยยย น้ำตาไหล ฮืออออออ
    เผามากก TT__TT คือร่างๆพล็อตไว้ตั้งแต่วันพฤหัสที่แล้ว
    ความจริงแล้วนี่เป็นพล็อตของช็อทฟิคอีกเรื่องนึงด้วยนะ555555555555555555
    แต่ว่าตอนนั้นคิดแล้วมันออกทะเลไปเยอะมาก เลยคิดว่าถ้าไปแต่งเป็นช็อทฟิคคงจบยากอ่ะ
    สุดท้ายจากพล็อตที่ขูดๆเขียนๆไว้เล่นๆก็กลายมาเป็นเรื่องยาวบบนี้ TT_____TT
    นี่เป็นพวกบ้าพลังด้วยอ่ะ ถ้าแต่งคือแต่งยาวเลย ตั้งแต่ห้าทุ่มยันตีห้า
    ถ้ามีตรงไหนผิดพลาดแจ้งได้นะคะ Y___Y แล้วก็คอมเม้นท์ได้นะ คอมเม้นท์ยาวๆก็ได้ อ่านได้ค่ะ555555555

    แอบเอาจางอูยองมารับบทพี่ชาย...
    สารภาพว่าแต่งยากมากกกกกก
    เพราะปกติแต่งแต่ให้คนมาโอ๋อูยอง พอมาเรื่องนี้กลายเป็นต้องโอ๋ยองแจ กร้ากกก


    สำหรับเรื่องนี้คงอาจจะค่อยเป็นค่อยไปหน่อยนะคะ
    เนื้อเรื่องอาจจะดำเนินไปแบบเอื่อยๆ ก็อย่าพึ่งเบื่อไปก่อนนะ
    มาลุ้นดีกว่าว่าใครคือเจ้าของจดหมายสีแดงน้าา (คนอ่านบอกเค้ารู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้วโว้ยยย)
    แต่ก็ไม่แน่เนาะ... อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นค่ะ เคี้ยกๆๆๆๆ




     

    :) Shalunla


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×