คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : CHAPTER 09 : Past Time I - Our Past
CHAPTER 9
Past Time I : Our Past
สามปีก่อน
ณ บ้านเด็กกำพร้าที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองหลวงอย่างเซเรเทย์ สถานที่สำหรับเด็กหลายคนที่ถูกทอดทิ้งอย่างไร้เยื้อไย แต่ทุกคนล้วนมีความสุขที่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ ถึงแม้จะไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน แต่พวกเขาต่างก็รักกัน ผูกพันธ์กันยิ่งกว่าครอบครัวแท้ๆ เด็กเหล่านี้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและเรียบง่าย จนกระทั่งมีใครคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตของพวกเขา
"จริงเหรอคะแม่ จะมีคนมารับเจ้าพวกนั้นไปเลี้ยงจริงๆเหรอคะ"
เสียงใสของเด็กสาวร่างเล็กเจ้าของผมสีดำเข้มดังขึ้นถาม โซเดะโนะ ชิรายูกิ หญิงสาวเจ้าของบ้านเด็กกำพร้าแห่งนี้ ด้วยความตกใจ
"ใช่แล้วล่ะ ลูเคีย"
เธอคนนั้นยิ้มตอบลูเคียด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยนเช่นเคย พลางใช้มือลูบเรือนผมดำของเด็กสาวเบาๆเมื่อเด็กสาวทำหน้าเศร้าจนจับสังเกตได้อย่างชัดเจน
"อย่าเศร้าไปสิ ลูกควรจะดีใจไม่ใช่เหรอที่เพื่อนๆของลูกจะได้มีครอบครัวเสียที"
"ดีใจก็ดีใจอยู่หรอกค่ะ แต่ก็ใจหายนิดนึง... ว่าแต่ ใครจะมารับเจ้าพวกนั้นไปเป็นลูกบุญธรรมกันคะ" ลูเคียพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ก่อนถามผู้เป็นแม่บุญธรรมของเธออีกครั้ง
"เขาชื่อ... ไอเซ็น โซสึเกะ"
ลูเคียพยักหน้ารับรู้และเข้าใจ ภาวนาขอให้คนๆนั้นเป็นคนดีที่สามารถเลี้ยงดู และดูแลเพื่อนๆของเธอให้มีความสุขได้ก็พอ เพียงเท่านี้เธอก็พอใจแล้ว แต่ทุกอย่าง...กลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอหวังเลยแม้แต่น้อย
หลังจากนั้นไม่นานก็มีรถมารับเพื่อนๆของพวกเขาไป ทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงหลายคนที่คนคนนั้นขอรับไปเลี้ยง โดยมีเร็นจิ ลูเคีย และคนอื่นที่เหลือมายืนส่งจนลับสายตา แม้เธอพยายามคิดในแง่ดีว่าชายที่ชื่อไอเซ็นจะสามารถเลี้ยงดูเด็กเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี แต่ลางสังหรณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นภายใจ ไม่ได้ทำให้เธอหายเศร้าหรือสบายใจได้เลยสักนิด
"ทำหน้าอย่างนั้น ไม่ดีใจรึไงห้ะ ลูเคีย...” เร็นจิที่ยืนอยู่ข้างๆเธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงติดเล่นแต่แอบจริงจัง เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของลูเคียที่ดูหมองลงไปถนัดตา ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าลูเคียคิดอะไรอยู่
“เด็กอย่างเธอไม่มีใครรับไปเลี้ยงหรอกน่า"
ประโยคที่ทำให้ลูเคียถึงกับนึกฉุนอยู่ในใจ พลางขมวดคิ้วแสดงความไม่พอใจใส่เร็นจิ แล้วใช้ศอกกระทุ้งเข้าที่หน้าท้องของเขาอย่างแรง
"โอ้ย...ทำบ้าอะไรของเธอน่ะลูเคีย"
เด็กหนุ่มผมสีแดงเพลิงร้องโอดครวญ พลางใช้มือกุมท้องที่กำลังเจ็บปวดเพราะฝีมือคนตรงหน้า แต่ก็แอบดีใจที่เห็นลูเคียมีปฎิกิริยาตอบโต้เขาบ้าง
"สมน้ำหน้า เจ้าบ้าเร็นจิ"
ลูเคียพูดเยาะเย้ยแต่ดวงตายังไม่ละจากถนนที่รถคันนั้นเพิ่งขับลับสายตาไป
"ฉันแค่คิดว่ามันมีอะไรแปลกๆนิดหน่อย ทำไมต้องรับเด็กไปเยอะขนาดนั้นด้วย ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ นายไม่คิดบ้างเหรอ เร็นจิ"
"มันก็จริงที่เธอพูด แต่ช่างเถอะน่ะ พวกนั้นจะได้มีชีวิตที่ดีแล้วนี่"
เร็นจิบอกแล้วเดินไปข้างกายเด็กสาว พลางใช้มือตบไหล่เล็กเบาๆไม่ให้เธอคิดมาก
"อืม..."
อีกด้านหนึ่ง โซเดะโนะ ชิรายูกิ ก็กำลังต้อนรับแขกผู้มาเยือนคนใหม่
"สวัสดีค่ะ คุณชิบะ"
"แหม... ไม่ต้องพูดขนาดนั้นหรอกครับคุณน้า เรียกไคเอ็นก็ได้" ชายที่ชื่อไคเอ็นยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตรให้กับหญิงสาวตรงหน้า พลางเอ่ยเรียกอีกฝ่ายด้วยสรรพนามที่ดูสนิทสนมกันดี
โซเดะโนะ ชิรายูกิ ยิ้มรับ ก่อนถามถึงธุระที่ต้องทำให้เจ้าบ้านตระกูลชิบะ อย่างไคเอ็นมาถึงที่นี่ได้
"ลุงอิชชินเขาให้ผมเอาของมาแจกให้เด็กๆน่ะครับ แล้วก็...”
“เรื่องของผู้ชายที่ชื่อไอเซ็นด้วย"
จู่ๆใบหน้าที่กำลังยิ้มกว้างของไคเอ็นกลับแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังทันใด ทำให้โซเดะโนะ ชิรายูกิ ถึงกับเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยและแปลกใจทันที
สักพักไคเอ็น กับโซเดะโนะ ชิรายูกิ ก็เดินออกมาจากห้องรับแขก ชายหนุ่มค้อมหัวลงเล็กน้อยอย่างเคารพ ก่อนเดินออกมาห้องรับแขกของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
ลูเคียและเร็นจิที่ยืนมองอยู่ห่างๆก็สงสัยว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร แถมเขายังจ้องมองมาที่ลูเคียอย่างไม่วางตา พลางฉีกยิ้มกว้างให้เธออย่างเป็นมิตร
"เจ้านี่เป็นใครฟะ" เร็นจิถามขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ พลางใช้มือเท้าเอวตัวเองด้วยความไม่พอใจ
"ฉันจะไปรู้ได้ไงล่ะ"
ลูเคียตอบ ในขณะที่หัวใจของเธอกำลังเต้นแรงอย่างประหลาดกับรอยยิ้มที่ดูจริงใจแบบนั้น ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครเข้ามาทักเธอก่อน ยิ้มให้เธอก่อน หรือกล้าเข้ามาคุยกับเธอ เพราะเธอดูเป็นคนเงียบๆจนคนอื่นมองว่าเธอเป็นคนที่หยิ่งยโสไม่ใช่น้อย แต่ความจริงแล้วเธอไม่ใช่คนแบบนั้นเลย
ลูเคียไม่ได้ยิ้มตอบ เพียงแต่ทำสีหน้าตามปกติ ก่อนจะหันหน้าหนีหลบสายตาและรอยยิ้มที่คนๆนั้นส่งมาให้ แล้วเดินออกไปจากตรงนั้น
สายลมเย็นอ่อนๆพัดไปมาตามทิศทาง กระทบเข้ากับใบหน้านวลของเด็กสาวอย่างแผ่วเบา ผมดำขลับของเธอพัดปลิวไสวไปตามแรงลม เธอหลับตาพริ้มอย่างสบายอารมณ์อยู่ในห้วงนิทราที่แสนเงียบสงบ แต่แล้ว...
โป๊ก!
จู่ๆก็ก้อนแข็งๆบางอย่างลอยมาโดนหัวเธออย่างจัง จนคนที่ถูกกระทำถึงกับลืมตาขึ้นแทบไม่ทัน แถมมันยังทำให้เธอเกือบเสียหลักตกต้นไม้อีก
"โอ๊ยยย...มันเจ็บนะ เจ้าบ้า"
ลูเคียร้องอุทานออกมาด้วยความเจ็บปวดก่อนจะมองลงไปเบื้องล่างเพื่อหาตัวต้นเหตุที่ปาของอย่างนี้ใส่หัวเธอ
เด็กสาวขมวดคิ้วเข้าหากันทันใด เมื่อคนที่ปาก้อนหินใส่เธอ คือผู้ชายคนนั้นที่เพิ่งส่งยิ้มให้เธอเมื่อกี้นี้
"นาย! ปาก้อนหินใส่ฉันทำไมเนี่ย"
ลูเคียถามคนที่เอาแต่ยืนยิ้มให้เธออยู่ข้างล่างต้นไม้นั่นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอย่างมาก แต่คนๆนั้นกลับเอามือป้องหูหันมาทางเธอราวกับไม่ได้ยินว่าเธอพูดอะไร จนคนที่อยู่ข้างบนคิ้วกระตุกอีกครั้งอย่างหงุดหงิดกับท่าทางแบบนั้น
"ห้ะ ว่าอะไรนะ"
"ฉันถามว่า 'นาย ปาก้อนหินใส่ฉันทำไม'ห้ะ"
"ว่าไงนะ ฉันไม่ได้ยิน"
ลูเคียหลับตานิ่งอย่างข่มอารมณ์โกรธ พลางคิดว่าจะจัดการคนๆนี้ยังไงดี เพราะด้วยความสูงของต้นไม้เพียงเท่านี้ อีกทั้งเธอยังตะโกนสุดเสียง มีหรือที่เขาจะไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูด ดูก็รู้ว่าเขากำลังกวนประสาทเธออยู่ชัดๆ
เด็กสาวตัดสินใจกระโดดลงไปยังพื้นเบื้องล่างทันทีเพื่อเผชิญหน้ากับเขา แต่กิ่งไม้ที่เธอใช้นั่งเล่นเกือบทุกวันกลับหักเสียง่ายๆ ทำให้ร่างของเธอตกลงมาจากที่สูงทันที และชายคนนั้นก็เบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น
ลูเคียหลับตาแน่นด้วยความหวาดกลัว และไม่อยากนึกถึงสภาพของตัวเธอเองที่ตกลงไปกระทบกับพื้นข้างล่างว่าจะเจ็บปวดแค่ไหน ไม่กล้าลืมตามองสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้เลยสักนิด
"อั่ก..."
เสียงที่บ่งบอกได้ถึงความจุกและเจ็บนี้ไม่ใช่เสียงของลูเคียแน่นอน เพราะเธอไม่ได้ปริปากร้องออกมาซักแอะ แต่เธอกลับรับรู้ได้ถึงสัมผัสอันอบอุ่นที่โอบล้อมรอบกายเธอเอาไว้
ลูเคียลืมตาขึ้นเมื่อไม่ได้รู้สึกเจ็บตัวอย่างที่คิด ทันทีที่ลืมตา เธอก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นชายคนนั้นโอบกอดเธอเอาไว้แล้วนอนราบลงกับพื้นโดยใช้แผ่นหลังของตัวเองรับแรงกระแทกที่พื้นไปเพียงคนเดียว พร้อมกับทำสีหน้าเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเห็นดังนั้นเธอจึงรีบลุกขึ้นทันที
"น...นาย เป็นอะไรรึเปล่า"
ลูเคียพูดก่อนยื่นมือให้ชายหนุ่มจับ เขามองอย่างลังเลก่อนยิ้มแล้วยื่นมือไปจับกับมือเล็กๆของเธอ จากนั้นเธอก็ออกแรงดึงเขาให้ลุกขึ้นจากพื้น
"แค่นี้ไม่ตายหรอกน่า ยัยเด็กมีปัญหา"
"ว่าใครเป็นเด็กมีปัญหากันห้ะ!"
"ก็เธอไง"
"นาย..."
"ไคเอ็น ฉันชื่อ ชิบะ ไคเอ็น"
ลูเคียทำท่าจะเถียง แต่ชายที่ชื่อไคเอ็นกลับพูดสวนขึ้นมาก่อนที่เธอจะได้พูด
"อีกอย่างนะ ฉันอายุมากกว่าเธอตั้งเยอะ เรียกฉันว่าพี่สิ ยัยเด็กมีปั..."
"ลูเคีย ฉัน...ลูเคีย"
ลูเคียขัดเขาบ้าง อย่างน้อยบอกชื่อไปเขาจะได้เลิกเรียกเธอว่าเด็กมีปัญหาซักที อีกฝ่ายเพียงแต่กระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยอย่างพอใจที่เด็กสาวยอมบอกชื่อของเธอให้เขารู้
"ยินดีที่ได้รู้จักนะ ลูเคีย"
ไคเอ็นยิ้มกว้างอีกครั้ง แล้วย่างเท้าเข้าไปใกล้เธอ ก่อนยกมือข้างหนึ่งวางไว้บนหัวเธอ พลางขยี้หัวเธอเบาๆอย่างนึกเอ็นดู
ลูเคียยืนนิ่ง ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครทำกับเธอแบบนี้มาก่อน แต่น่าแปลกที่คนอารมณ์เดือดง่ายอย่างเธอ ไม่รู้สึกโกรธที่เขาทำแบบนี้ แต่กลับรู้สึกแปลกๆ ความรู้สึกที่เธอไม่เคยมีให้ใครมาก่อน ใบหน้าหวานของเธอขึ้นสีแดงอมชมพูระเรื่อบางๆ ก่อนตอบรับเขาในลำคอเบาๆ
"อืม พ...พี่ไคเอ็น"
"โอ๊ย!"
ไคเอ็นสบถออกมาอีกครั้งด้วยความเจ็บปวด พลางนำมือที่ลูบหัวลูเคียอยู่มาจับที่แขนข้างซ้ายของตัวเองที่มีบาดแผล และเลือดซึมออกมาเล็กๆ อีกทั้งเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้าอ่อนของเขายังขาดวิ่นเล็กน้อยเหมือนกับถูกอะไรขูดมา
"สงสัยจะโดนหินที่พื้นล่ะมั้ง"
ลูเคียตกใจเล็กน้อย ก่อนดึงแขนเขาให้เดินตามเธอไป แล้วไปนั่งที่ม้านั่งของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า พร้อมกับนำกล่องยาออกมา เตรียมทำแผลให้เขา
"ทำไมถึงเรียกฉันว่าเด็กมีปัญหาล่ะ"
ลูเคียถามขึ้นด้วยความสงสัย ขณะที่นั่งทำแผลให้เขาสักพัก
"ก็เด็กคนอื่นเขาไปรับของแจกอยู่ตรงโน้นกันหมด ไม่เห็นรึไง มีแต่เธอคนเดียวนี่แหละที่แยกตัวออกมา"
ลูเคียยังคงทำแผลให้ไคเอ็นต่อไป โดยไม่คิดเอาคำพูดของเขามาใส่ใจ เพราะเธอก็เป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“ฉันมองเธอออกนะ เธอชอบทำตาเศร้าแปลกๆรู้ตัวมั้ย ลูเคีย เธอน่ะ...ไม่มีนามสกุลใช่มั้ย”
“...”
ลูเคียเงยหน้าสบตาเขาด้วยความแปลกใจ ตอนแรกที่เธอบอกชื่อกับเขาไป เขากลับไม่ถามเธอเรื่องนามสกุล เพราะคิดว่าเขาคงไม่อยากรู้ แต่เขารู้อยู่แล้วเหรอว่าเธอไม่มีนามสกุลเหมือนกับคนอื่นๆ
"พอดีว่าฉันไปคุยกับคุณโซเดะโนะมาซักพักน่ะ"
ไคเอ็นเห็นลูเคียทำหน้าสงสัยจึงพูดต่อเพื่อให้เธอเข้าใจ
เขาสังเกตมองเธอตั้งแต่ก้าวเข้ามาเหยียบที่นี่แล้ว แววตาของเธออาจจะดูปกติในสายตาคนอื่นก็จริง แต่ไม่ใช่สำหรับเขา เขาจึงออกปากถามเจ้าของบ้านเด็กกำพร้าไป
จนได้รู้ว่าโซเดะโนะ ชิรายูกิได้พบลูเคียที่ข้างถนนในคืนฝนพรำตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กทารกในห่อผ้าเก่าๆ ไม่มีอะไรบ่งบอกได้ซักอย่างว่าเธอเป็นใคร มาจากที่ไหน อย่าว่าแต่นามสกุลเลย แม้แต่ชื่อก็ไม่มี โซเดะโนะ ชิรายูกิจึงตัดสินใจตั้งชื่อให้เด็กน้อยคนนี้ว่า ‘ลูเคีย’ ที่แปลว่า แสงสว่าง... แสงสว่างของทุกคน
หลังจากนั้นโซเดะโนะ ชิรายูกิก็พาลูเคียกลับมาเลี้ยงดูที่นี่เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ต่างคนก็มาจากต่างที่ แต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ แม้ว่าจะแตกต่างกันแค่ไหนก็ตาม ทุกคนมีความสุขก็จริง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่าความรู้สึกเหงามันเกิดขึ้นมาในจิตใจตั้งแต่เมื่อไร
"งั้นเหรอ"
ลูเคียตอบก่อนก้มหน้าก้มตาทำแผลให้เขาต่อ
"เอ่อ แล้ว พ...พี่ไคเอ็น รู้จักผู้ชายที่ชื่อไอเซ็นรึเปล่า"
หลังจากที่ต่างคนต่างเงียบอยู่นาน ลูเคียจึงตัดสินใจถามเขา เพราะคิดว่าเขาคงจะรู้จักผู้ชายคนนั้นไม่มากก็น้อย ส่วนไคเอ็นก็มีอาการตกใจเล็กน้อยที่เธอถามถึงไอเซ็น ก่อนปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ภาวนาให้เธอไม่อยากรู้อะไรไปมากกว่านี้ก่อนตอบเธอไป
"อืม รู้จักสิ ทำไมเหรอ"
"เปล่า ฉันแค่คิดว่าเขาดูไม่น่าไว้ใจ ถ้านาย เอ่อ... ถ้าพี่ไคเอ็นคุยกับแม่มาแล้วก็น่าจะรู้สิ ว่าเขารับเด็กจากที่นี่ไปเลี้ยงน่ะ"
ไคเอ็นขมวดคิ้วตึงเครียดทันใด ไม่อยากให้เธอมายุ่งกับเรื่องนี้ เพราะกลัวว่าเธอจะตกอยู่ในอันตราย
"ฉันว่าเธออย่ายุ่งเรื่องนี้จะดีกว่านะ มันอันตราย"
ลูเคียที่เพิ่งทำแผลให้เขาเสร็จชะงักค้างทันที ถ้าเขาบอกว่าอันตราย งั้นเพื่อนๆของเธอที่ถูกรับไปเลี้ยงก็ต้องตกอยู่ในอันตรายน่ะสิ จะไม่ให้เธอเข้าไปยุ่งได้ยังไง
"ทำไม?" ลูเคียถามขึ้นอย่างหัวเสีย
"เฮ้อ... ไหนๆเธอก็รู้เรื่องแล้ว ไว้ฉันจะเล่าให้ฟังนะ แต่ว่ายังไม่ใช่ตอนนี้"
ไคเอ็นถอนหายใจให้กับความช่างสงสัยของเด็กคนนี้ ก่อนลุกขึ้นจากม้านั่งแล้วดึงมือเธอให้เดินตามเขาไป
"มากับฉันสิ... ฉันจะสอนอะไรให้เธอ"
เขาว่าพลางหยิบดาบไม้ขึ้นมา แล้วโยนให้เธอ ลูเคียรับมันไปอย่างเก้ๆกังๆเพราะไม่เคยจับดาบมาก่อน ถึงจะไม่ใช่ดาบจริงก็เถอะ
"เอาไว้ป้องกันตัวน่ะ" เขาว่าพลางฉีกยิ้มให้เธออีกครั้ง
จากนั้นเกือบทุกวันที่ไคเอ็นมีเวลาว่าง เขาก็จะมาหาลูเคีย มาฝึกดาบให้เธอ ใช้เวลาอยู่กับเธอ และทุกครั้งมันทำให้ลูเคียมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เหมือนกับผู้ชายคนนี้เข้ามาทลายกำแพงที่เธอสร้างไว้ลงอย่างง่ายดาย ซึ่งความรู้สึกนี้ก็ไม่ต่างจากไคเอ็น เขาต้องการทำให้เธอมีความสุข เขาไม่อยากเห็นแววตาเศร้าหมองของเธอ เขาอยากอยู่ข้างเธออย่างนี้เรื่อยไป
จนเวลาล่วงเลยผ่านไปเกือบ 4 เดือน ลูเคียได้รับรู้เรื่องราวทุกอย่างจากปากของไคเอ็น ว่าผู้ชายที่ชื่อไอเซ็นเป็นคนที่เขาคอยติดตามอยู่ เพราะไอเซ็นมีพฤติกรรมน่าสงสัยอยู่หลายอย่าง เขาได้รับหน้าที่จากหน่วยพิทักษ์แห่งเซเรเทย์ให้มาสืบเรื่องนี้อย่างลับๆ และเรื่องนี้อาจเกี่ยวพันกับเด็กๆที่ถูกรับไปเลี้ยงด้วย ซึ่งมันทำให้ลูเคียไม่สบายใจเอาซะเลย
ลูเคียได้เล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนชายคนสนิทของเธอเพียงคนเดียวฟังเท่านั้น เร็นจิเองก็ตกใจ แต่ทั้งสองคนก็ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่ดี
จนกระทั่ง...
Loading...100
To Be Con.
ความคิดเห็น