ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Bleach] For you forever - Ichiruki

    ลำดับตอนที่ #12 : CHAPTER 10 : Past Time II - Our Promise

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 312
      8
      5 ก.ย. 58

    CHAPTER 10

    Past Time II – Our Promise

     

     


     

     

     

     

     

              "คืนนี้ พี่จะต้องไปจัดการเรื่องของไอเซ็น"

     

     

              น้ำเสียงทุ้มของไคเอ็นบอกกับเด็กสาวข้างกายที่นั่งพักเหนื่อยอยู่บนม้านั่งหินอ่อน หลังจากการฝึกซ้อมดาบเมื่อครู่ ลูเคียหันมามองหน้าชายหนุ่ม ก่อนเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย

     

     

              "จัดการ? คืนนี้..."

     

     

              "เรื่องนี้มันต้องจบภายในคืนนี้ เพื่อนๆของเธอจะต้องปลอดภัย เอาเป็นว่าขอให้เธอเชื่อใจพี่ก็พอ ตกลงมั้ย"

     

     

              สายตาของไคเอ็นฉายแววความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า พร้อมกับคำพูดที่เปล่งออกมาราวกับคำมั่นสัญญา และยิ้มกว้างให้เธอ

     

     

              "ฉันน่ะเชื่อใจพี่ไคเอ็นอยู่แล้วล่ะ"

     

              ลูเคียพูดพร้อมกับสบตาเขา และยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน เพื่อให้กำลังใจ

     

     

     

     

     

     

              หลายวัน หลายเดือนที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างลูเคียและไคเอ็นพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ  เขาเริ่มใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า'พี่' ซึ่งมันทำให้ลูเคียรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เพราะนอกจากโซเดะโนะ ชิรายูกิ กับเร็นจิแล้ว เหมือนเธอได้มีครอบครัว ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนแปลงไปช้าๆ ความรู้สึกเธอเปลี่ยน ความรู้สึกเขาเปลี่ยน จนเกิดเป็นความรู้สึกบางอย่างที่ทั้งคู่ก็อธิบายไม่ได้เช่นกัน...

     

     

     

     

     

              "แต่ว่ามันจะอันตรายรึเปล่า ถ้าเกิด..."

     

              เด็กสาวขัดขึ้น แต่ยังพูดไม่ทันจบก็ต้องชะงัก เมื่อชายหนุ่มตรงหน้ายกมือขึ้นมายีหัวเธอเบาๆ

     

     

              "พี่น่ะ ชิบะ ไคเอ็น เชียวนะ อย่าดูถูกฝีมือกันสิ ยัยเด็กมีปัญหา"

     

              เขายิ้มกว้างอีกครั้ง พร้อมชูนิ้วโป้งขึ้นประกอบคำพูด 

     

     

              ไคเอ็นไม่ต้องการให้ลูเคียรู้สึกกังวล เขาอยากให้เธอสบายใจ ถึงแม้จะรู้ว่าภารกิจที่ได้รับมันจะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต และอาจจะไม่สามารถรอดชีวิตกลับมาพบหน้าเธออีกครั้งก็ได้ และที่เขาพูดออกไปนั้นเพื่อความสบายใจของลูเคียล้วนๆ

     

     

              ลูเคียยิ้มบางรับ แม้ว่าเขาจะบอกเธอแบบนั้น แต่ก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี ไม่ใช่ว่าเธอไม่เชื่อใจเขา แต่เธอไม่ไว้ใจไอเซ็นต่างหาก จากการที่เขาเล่าให้เธอฟัง ไอเซ็น โซสึเกะ ผู้ชายคนนี้เป็นคนเจ้าเล่ห์ เหลี่ยมจัด แถมหาตัวจับยากสุดๆ แบบนี้ยิ่งทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยดีเข้าไปใหญ่

     

     

              หลังจากนั่งคุยได้สักพัก ลูเคียก็รู้ว่าไคเอ็นจะไปจัดการเรื่องของไอเซ็นที่ภูเขาแห่งหนึ่งในเมืองลูคอนที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากเซเรเทย์มากนัก 

     

     

              จากนั้นเธอก็เดินไปส่งเขาที่หน้าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เพราะเวลานี้ก็เย็นมากแล้ว แถมเมฆยังตั้งเค้ามาเรื่อยๆ จนท้องฟ้าครึ้มไปหมดเหมือนฝนจะตกลงมาได้ทุกเมื่อ

     

     

              "ไปนะ พี่สัญญา...พรุ่งนี้พี่จะกลับมาหาเธอให้ได้"

     

     

              "อื้อ...โชคดีคะพี่ไคเอ็น"

     

     

              ทั้งสองบอกลากัน พลางยิ้มให้กัน และโบกมือร่ำลากันเป็นครั้งสุดท้าย... 

     

     

     

     

     

     

              ลูเคียยืนเหม่อมองรถยุโรปสีดำคันหรูที่ไคเอ็นเพิ่งขับออกไปจนลับสายตา วันนี้ฟ้าครึ้มแปลกๆ ชวนให้รู้สึกถึงลางสังหรณ์ร้ายอย่างบอกไม่ถูกยังไงก็ไม่รู้

     

     

              "เฮ้อ..."

     

              ลูเคียถอนหายใจออกมาด้วยความไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัด

     

     

              "เป็นห่วงเหรอ?"

     

              จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังของลูเคีย จนเธอเผลอพูดตอบรับไปโดยยังไม่ทันได้หันไปมองว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร

     

     

              "ใช่ ฉันเป็นห่ว...อ๊ะ"

     

              ลูเคียนึกได้ ก่อนหันควับกลับไปมองต้นเสียงนั้น

     

     

              "เร็นจิ นายเองเหรอ"

     

     

              "ก็ฉันน่ะสิ เธอคิดว่าเป็นใครล่ะ" 

     

              เร็นจิพูดเสียงเขียว พลางขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น

     

              "ไปกันเถอะ ดูท่าฝนคงจะเทลงมาแน่"

     

     

              "อืม..."

     

              ลูเคียพยักหน้ารับคำ แต่สายตายังจับจ้องเหม่อมองไปยังทางเดิม ก่อนหลุบตาลงต่ำเพื่อหลบสายตาเพื่อนชายคนสนิท แล้วเดินเข้าไปในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า โดยมีเร็นจิเดินตามไปห่างๆ

     

     

     

     

     

              เร็นจิลอบแอบมองลูเคียอยู่ตลอดเวลา ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเพื่อนสาวของเขารู้สึกยังไงกับผู้ชายที่ชื่อไคเอ็น  ถึงแม้เขาจะรู้สึกเจ็บปวด และเสียใจแค่ไหนก็ตาม เขาก็ไม่ได้เข้าไปขัดขวางความสัมพันธ์นั้น เพียงเพราะได้เห็นลูเคียมีความสุข แค่นี้เขาก็พอใจแล้ว และที่ลูเคียบอกเล่าเรื่องทุกอย่างให้เขาฟัง หมายความว่าเธอยังเชื่อใจ และไว้ใจเขา ทำให้เขารู้สึกดีใจไม่น้อยที่ลูเคียไม่ได้มีเรื่องอะไรปิดบังกับเขา 

     

     

              เร็นจิเองก็ได้ฝึกดาบไปพร้อมๆกับลูเคีย แต่ส่วนใหญ่มักจะฝึกฝนด้วยตัวเอง โดยที่อาศัยความจำจากการสังเกตเอา ถึงจะบอกว่าไม่ได้เข้าไปขัดขวางความสัมพันธ์ระหว่างสองคนนั้น แต่เขาก็รู้สึกหมั่นไส้ และไม่ชอบขี้หน้าไคเอ็นอยู่ดี

     

     

              เขาได้ยินมาว่าไคเอ็นจะไปปฏิบัติภารกิจเรื่องของไอเซ็นคืนนี้ ซึ่งดูท่าทางลูเคียเป็นห่วงผู้ชายคนนั้นไม่น้อย และถ้าหากผู้ชายคนนั้นเป็นอะไรไป ลูเคียต้องเสียใจมากอย่างแน่นอน เขาก็ทำได้เพียงแต่ภาวนาให้ไคเอ็นปลอดภัยจากการทำภารกิจเท่านั้น เขากลัว... กลัวลูเคียจะเสียใจ และต้องเสียน้ำตาให้กับผู้ชายคนนั้น

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              ณ คฤหาสน์ตระกูลชิบะ

     

     

     

              รถยุโรปหรูคันหนึ่งวิ่งชะลอเข้ามาจอดในคฤหาสน์ สักพักร่างสูงของเจ้าของคฤหาสน์ก็เดินลงมาจากที่นั่งคนขับ เขาเดินเข้าไปในตัวคฤหาสน์ โดยมีคนรับใช้หลายคนคอยต้อนรับลูกชายคนโตของตระกูลชิบะอย่างเขา

     

     

     

     

     

     

              "ไง...ไคเอ็น"

     

              เสียงทุ้มจากปากเด็กหนุ่มผมส้มดังขึ้นทักทายทันทีที่เขาก้าวเข้ามาในห้องนั่งเล่น

     

     

              "อ้าว ว่าไง อิจิโกะ"

     

              ไคเอ็นหันมองต้นเสียง ก่อนยิ้มทักทายเด็กหนุ่มผู้ที่มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขา คุโรซากิ อิจิโกะ

     

     

              "นายไปที่บ้านเด็กกำพร้านั่นอีกแล้วเหรอ รู้มั้ยว่าฉันมารอนายตั้งแต่บ่าย"

     

              เด็กหนุ่มที่ชื่ออิจิโกะพูดคุยกับเขาด้วยความเป็นกันเอง ราวกับเป็นเพื่อนกัน ทั้งๆที่เขาอายุมากกว่าอิจิโกะ

     

     

              แต่ไคเอ็นก็ไม่ถือสาว่าความแต่อย่างใด เพราะคิดว่าเด็กคนนี้เหมือนเพื่อนคนหนึ่งเช่นกัน 

     

     

              คุณอาอิชชิน พ่อของอิจิโกะเป็นน้องของพ่อไคเอ็น ทำให้เขาสนิทกับครอบครัวคุโรซากิมากเป็นพิเศษ แต่พ่อของเขายอมละทิ้งธุรกิจทุกอย่างเพื่อไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่ต่างประเทศหลังจากที่อิชชินแยกตัวออกไปแต่งงานกับ คุโรซากิ มาซาคิ แล้วก่อตั้งตระกูลขึ้นมาโดยใช้นามสกุลของภรรยา และประสบความสำเร็จในธุรกิจต่างๆอย่างเกินความคาดหมาย จนได้เป็นตระกูลชนชั้นสูง จากที่ตระกูลใหญ่ของเซเรเทย์มี 4 ตระกูล คุจิกิ ชิบะ ชิโออิน ไอเซ็น ก็เพิ่มตระกูลคุโรซากิเข้ากลายเป็น 5 ตระกูลใหญ่แห่งเซเรเทย์ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน 

     

     

              เพราะเหตุนี้ทำให้ไคเอ็นต้องรับช่วงดูแลรับผิดชอบธุรกิจของตระกูลชิบะต่อจากพ่อของเขา และที่เขาไม่ต้องการไปอยู่กับพ่อที่ต่างประเทศ เพราะเขาต้องการที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ นั่นก็คือการเป็นสายลับของหน่วยพิทักษ์แห่งเซเรเทย์

     

     

     

     

     

              "อืม ฉันไปฝึกดาบให้เด็กที่นั่นน่ะ"

     

              ไคเอ็นยักไหล่ ก่อนตอบอิจิโกะด้วยใบหน้ายิ้มๆ แล้วเดินไปนั่งโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ ซึ่งอิจิโกะก็มองตามเขาด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

     

     

              "จริงเร้อออ... ไม่ใช่แอบไปหาสาวที่ไหนรึไง"

     

     

              "ถ้าบอกว่าใช่ แล้วจะทำไม"

     

              ไคเอ็นตอบอิจิโกะ พลางยักคิ้ว และส่งสายตาเจ้าเล่ห์กลับไปหาอิจิโกะ ในขณะที่ภายในใจก็นึกถึงใบหน้าหวานของเด็กสาวเจ้าของเรือนผมสั้นสีดำเข้มระต้นคอ และดวงตาสีไพลินเป็นประกายงดงามคู่นั้น ก่อนจะยิ้มบางๆกับตัวเอง

     

     

              อิจิโกะมองท่าทางนั้นแล้วก็อดเบะปากให้กับความหน้าหมั่นไส้ของผู้ที่เปรียบเสมือนพี่ชายของตนไม่ได้ 

     

     

              ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าช่วงนี้ไคเอ็นมักจะไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่หนึ่งทุกครั้งที่มีเวลาว่าง จนเขาแทบจะกลายเป็นหมาหัวเน่าไปแล้วก็ว่าได้ เพราะปกติเขากับไคเอ็นมักจะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด แต่ตอนนี้เขากลับต้องไปไหนมาไหนกับกลุ่มเพื่อนของตัวเองแทน อิชิดะ อาชิโดะ อุลคิโอร่า และกริมมจอว์ ซึ่งเพื่อนของเขาแต่ล่ะคนนั้น...

     

     

              "นายสอนดาบให้ฉันบ้างสิ ไคเอ็น"

     

              อิจิโกะโพล่งบอกกับไคเอ็นด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริงแกมขอร้อง โดยไม่ได้หวังว่าชายหนุ่มตรงหน้าเขาจะตอบรับ แต่ถึงยังไงเขาก็ยังอยากให้พี่ชายคนนี้ฝึกให้เขาอยู่ดี เพราะเขารู้ว่าฝีดาบของไคเอ็นนั้นร้ายกาจมากแค่ไหน

     

     

              "ฉันไม่สอนนายหรอกนะอิจิโกะ ถ้านายอยากเก่งล่ะก็ เอาชนะฉันให้ได้สิ"

     

     

              อิจิโกะได้ยินคำตอบก็ถึงกับตีหน้ายุ่งคิ้วขมวดแน่นขึ้นทันใด พลางทำสายตาประชัดประชัน

     

              "เหอะ ทีกับน้องไม่เห็นจะสอนให้บ้างเลยนะ"

     

     

              "นายเก่งอยู่แล้ว จะให้สอนอีกทำไม"

     

     

              "ได้...ไคเอ็น คอยดูนะ ซักวันฉันจะต้องชนะนายให้ได้"

     

     

              "เอาสิ แล้วฉันจะรอวันนั้นนะ"

     

              ไคเอ็นยิ้มกว้างอีกครั้งอย่างพอใจ ถึงเขาจะมองอิจิโกะเป็นเพื่อน แต่ยังไงอิจิโกะก็ยังเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งอยู่ดี

     

     

              "คืนนี้น่ะ ฉันจะไปทำภารกิจ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับฉันจริง..."

     

              จู่ๆแววตาขี้เล่นของไคเอ็นก็แปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง แถมยังพูดราวกับว่าเป็นคำสั่งลา จนทำให้อิจิโกะอดใจหายขึ้นมาไม่ได้

     

     

              "เฮ้ อย่ามาพูดเป็นลางอย่างนี้สิ คนอย่างนายต้องรอดมาได้อยู่แล้วล่ะน่า"

     

     

              "ชีวิตมันก็ไม่แน่นอนเสมอไปหรอกนะ แล้วก็ฉันอยากให้นาย..."

     

              'ปกป้องเด็กคนนั้นแทนฉันที'

     

     

              ก่อนที่ไคเอ็นจะพูดจบประโยค อิจิโกะก็ลุกขึ้นจากโซฟาโดยไม่บอกไม่กล่าวเหมือนจะรู้ว่าเขาจะพูดอะไร ทำให้เขาต้องเงียบไป

     

     

              "ฉันไม่รับฝากอะไรทั้งนั้นแหละ ถ้านายอยากทำอะไร ก็ทำเองสิ ฉันกลับล่ะ"

     

     

              ไคเอ็นเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจกับท่าทางของอิจิโกะ

     

     

              "จะกลับแล้วเหรอ?"

     

     

              "ก็ใช่น่ะสิ เดี๋ยวป๋ากับน้องฉันเป็นห่วง ขี้เกียจฟังคนบ่นด้วย ฉันบอกแล้วไงว่าฉันมารอนายตั้งแต่บ่าย จนตอนนี้ฟ้ามืดแล้วเนี่ย พรุ่งนี้ฉันจะมาใหม่ หวังว่าฉันจะเห็นหน้านายวันพรุ่งนี้นะ แล้วนายก็ต้องรอดกลับมาให้ฉันชนะนายให้ได้ล่ะ"

     

              อิจิโกะพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนเล่นๆ แต่ฟังดูหนักแน่น ก่อนเขาจะหันหลังแล้วเดินออกไป 

     

     

              เขาไม่รู้หรอกว่าไคเอ็นไปทำภารกิจเกี่ยวกับอะไร แต่รู้ว่ามันต้องอันตรายและเสี่ยงภัยแน่ๆ เพราะนอกจากไคเอ็นจะต้องคอยดูแลธุรกิจของตระกูลชิบะแล้ว เขายังเป็นคนของหน่วยพิทักษ์แห่งเซเรเทย์ ซึ่งอิจิโกะเองก็เคยถามไปหลายครั้งแล้ว แต่ไคเอ็นไม่ยอมบอกว่าภารกิจนี้คืออะไร พอเขาไปถามพ่อของเขาเอง ตาแก่นั่นก็ไม่ยอมบอก จนเขาจนปัญญาจริงๆ จึงไม่ได้ถามอีกเพื่อความสบายใจของพวกผู้ใหญ่

     

     

     

     

     

              ไคเอ็นมองตามผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของตัวเองเดินออกไปแล้วก็ต้องอมยิ้มเล็กๆ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าคำพูดที่ดูเหมือนข้ออ้างนั่น เป็นคำพูดที่เด็กคนนั้นพยายามให้กำลังใจเขาอยู่

     

     

              ที่ไคเอ็นไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับอิจิโกะ เพราะเห็นว่าตระกูลคุโรซากิ และไอเซ็นสนิทกันมาก อีกทั้งอิจิโกะยังเป็นเพื่อนสนิทกับลูกบุญธรรมของไอเซ็น จนกว่าเรื่องนี้จะจบลงจริงๆ เขาจะให้อิจิโกะรู้ไม่ได้เด็ดขาด

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              ท้องฟ้ายามนี้ถูกปกคลุมไปด้วยความมืด ทั้งยังมีเมฆหมอกเคลื่อนตัวมาบดบังแสงสว่างจากดวงจันทร์ ทำให้รอบๆเมืองแทบจะไร้แสงสว่าง ถ้าหากไม่มีแสงไฟจากไฟฟ้า สายลมหนาวเย็นยะเยือกพัดไปตามทิศทางแต่ดูอ้อยอิ่ง และเลื่อนลอยกว่าทุกๆคืน

     

     

              ไคเอ็นเหม่อมองท้องฟ้าและบรรยากาศรอบกายอยู่ริมระเบียงชั้นหนึ่งของคฤหาสน์ ก่อนก้มหน้ามองนาฬิกาที่อยู่บนข้อมือของตน ก็พบว่าใกล้เวลานัดหมายกับคนๆนั้นแล้ว  เขาจึงเตรียมตัวที่จะออกจากคฤหาสน์อย่างใจเย็น และไม่รีบร้อน

      

     

              ชายหนุ่มเดินตรงไปยังรถคันเดิม แล้วขึ้นรถขับออกไปด้วยแววตามุ่งมั่นอย่างเห็นได้ชัด

     

     

              นั่นสินะ... เขาจะต้องผ่านคืนนี้ไปให้ได้ เพราะเขาได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับคนๆหนึ่งแล้วนี่






















    Loading...100

    To Be Con.






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×