EXO Short Fic :: Redolence2 [HunLay] - 30% - EXO Short Fic :: Redolence2 [HunLay] - 30% นิยาย EXO Short Fic :: Redolence2 [HunLay] - 30% : Dek-D.com - Writer

    EXO Short Fic :: Redolence2 [HunLay] - 30%

    พี่ถามผมบ้างไม่ได้เหรอ...?

    ผู้เข้าชมรวม

    1,688

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    1.68K

    ความคิดเห็น


    16

    คนติดตาม


    33
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  9 ธ.ค. 56 / 21:05 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น











    เรื่องนี้เป็น ชายรักชายนะคะ
    ไม่ชอบเช็ญกด X



    ภาค 2 อยู่ต่อจากภาค 1 เลยนะคะ ไม่อยากเปิดเรื่องใหม่ เดี๋ยวมันจะรก  แฮะๆ




    ขอบคุณทีมจาก

    Code Theme บทความ











                       photo 263119_5023312.gif data-config="'playback':{'autostart':'true','shuffle':'true','volume':'50'},'playlist':[{'id':'21236211','player_id':'2960631','title':'Hello / How are you','url':'http://www.youtube.com/watch?v=pHH47lpaVUc'},{'id':'21236221','player_id':'2960631','title':'Kimi He','url':'http://www.youtube.com/watch?v=lIkJGgjxW9I'},{'id':'21236231','player_id':'2960631','title':'Orange','url':'http://www.youtube.com/watch?v=c4iSZzfKgqM'}]" >Elegant Rose - Working In Background
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Title :: Redolence
      Couple :: 
      HunLay
      Rate :: ทุกเพศทุกวัย 
      Talk :: ช็อตฟิคเรื่องแรก แต่งไม่ค่อยเก่งมากแต่เพื่อฮุนเลย์เราทำ 









         กลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่จากการที่พึ่งอาบน้ำเสร็จผสมกับกลิ่นหอมอ่อนๆเฉพาะตัวลอยมาแตะจมูกโด่ง เสียงเตาะแตะเบาๆของฝีเท้าทำให้รู้ได้ทันทีว่าคนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ไม่ใช่คนร่างใหญ่อะไรนัก

        นัยน์ตาคมเป็นประกายขึ้นมาเบาบางจนไม่มีใครสังเกตุเห็น ร่างสูงรีบซ่อนความรู้สึกแปลกๆที่พุ่งขึ้นมา แล้วทำเป็นไม่สนใจคนที่ทรุดนั่งลงกับพื้นข้างๆ

        "อี้ชิง~ เห็นเปาจึป้ะ~?" เจ้าของชื่อที่พึ่งเข้ามาร่วมวงหันไปสบตาพี่ชายคนสนิทแล้วจึงส่ายหัวทั้งยิ้มๆ

        "อ๊า~ ไหนว่าจะไปเล่นฟุตบอลด้วยกันไง" ลู่หานยู่ปากงอแงก่อนจะเอนไปซบไหล่น้องชายผิวคล้ำข้างๆ ถึงจะถูกผลักหัวออกแต่ก็เอนซบลงไปใหม่จนคนเป็นน้องระอา ปล่อยให้พี่ชายทำตามใจ เพราะพวกเขานั่งล้อมเป็นวงกลมทำให้เรามักจะสังเกตุเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า

        "กินข้าวรึยัง?" ตาคมที่กำลังเหม่อลอยกระตุกวาบ ก่อนจะเบนสายตาไปยังข้างๆตัว ก็พบว่าเลย์หรือจางอี้ชิงกำลังหันหน้าไปคุยกับแพคฮยอน นักร้องนำของฝั่งเค ทำให้เซฮุนหันกลับมาทางเดิมช้าๆ 

        พี่ถามผมบ้างไม่ได้เหรอ...?









       

        เสียงเพลงแทบจะถูกกลบด้วยเสียงกรีดร้องกึกก้องของบรรดาแฟนเพลง

        ชายหนุ่ม 12 คน ทั้งเต้นทั้งร้องบนเวทีในชุดยูนิฟอร์มนักเรียนท่ามกลางกล้องและแสงไฟที่รายล้อม จนดำเนินมาถึงท่อนสุดท้ายของเพลง...

        "เฮ้อ วันนี้ได้อัดแก้แค่รอบเดียว โชคดีชะมัด" พยอนแพคฮยอนนักร้องนำของวงพูดอย่างเนือยนาดขณะกระแทกตัวลงกับเบาะรถ ตามด้วยปาร์คชานยอลแร็ปเปอร์ของวงที่ระริกระรี้ลงมานั่งข้างๆ

        ผู้ที่อายุน้อยที่สุดในวงอย่างเซฮุนก็ส่ายหัวเบาๆด้วยความเหนื่อยล้าจัดการปีนขึ้นรถตู้ของพวกเขาแล้วเลือกที่จะแทรกตัวไปนั่งที่เบาะในสุดริมสุด

        จะหลับเป็นตายเลยคอยดู

        เมื่อซูโฮหรือจุนมยองขึ้นมาเป็นคนสุดท้าย ก็เกิดเสียงประตูรถปิดลงพร้อมเปลือกตาของโอเซฮุน เสียงเจี้ยวจ้าวเล็กน้อยของชานยอลกับแพคฮยอนไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการนอนของเขา แต่ไม่นานก็มีเสียงเปิดประตูรถและเสียงเอะอะมะเทิ่งดังกว่าเดิมพร้อมรถตู้ที่สั่งโคลงเคลงที่น่าจะมีสาเหตุจากการที่มีคนเดินเข้าเดินออกกันในควั่ก

        แต่ความอ่อนเพลียก็กดเปลือกตาของเซฮุนเอาไว้แน่น ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องหลับให้ได้

        เมื่อความง่วงถูกประคับประคองมาจนได้ที่ สติของเด็กหนุ่มก็ทำท่าจะเลือนหายไป แม้เสียงปิดประตูจะดังมากจนมีเสียงบ่นจากผู้จัดการตามมา เพราะเบาะหลังสุดเป็นเบาะยาวจึงไม่ยากถ้าจะรู้สึกได้ว่ามีการลุกหรือนั่งโดยไม่จำเป็นต้องมอง

        ที่นั่งข้างๆเซฮุนทรุดยวบลง

        กลิ่นหอมอ่อนๆคุ้นจมูกค่อยๆเรียกสติน้องเล็กให้กลับคืนมาอีกครั้ง เปลือกตาหนักอึ้งเบิกโพลงอย่างไม่ใยดีความง่วงงนใดๆ แล้วก็พบเจ้าของกลิ่นหอมที่เขาจำได้ดีนั่งอยู่ข้างๆ

        "ทำให้ตื่นเหรอ? ขอโทษนะ" วิธีการพูดและการคลี่ยิ้มอันอ่อนโยนทำให้เซฮุนค้างจนนิ่ง เลือดในกายเผลอซูบฉีดจนไม่กล้าขยับตัว

        "เซฮุน...เซฮุน?" อี้ชิงเอามือขึ้นมาโบกไปมาเพื่อเช็คสติของน้องเล็กที่มองหน้าเขานิ่ง ไม่นานเซฮุนก็หลบตาแล้วมองไปรอบๆคันรถ พบว่าบนรถตู้คันนี้ไม่ได้มีเพียงเม็มเบอร์ฝั่งเคอีกต่อไปแล้ว หากแต่มีฝั่งเอ็มและเมเนเจอร์เข้ามาอัดกันด้วย

        "เมื่อกี้เซฮุนนอนอยู่คงไม่รู้เรื่องสินะ จู่ๆรถตู้เอ็มมันเสียน่ะ เลยมาขอขึ้นฝั่งนี้ อึดอัดนิดนึงนะ" ที่ว่าอึดอัดไม่ได้ไกลจากความเป็นจริงเลยสักนิด เพราะพวกเขามีตั้ง 12 คน เมเนเจอร์อีกสาม รถตู้พวกเขาก็ใช่ว่าจะใหญ่อะไรมากเพราะทีแรกมีสองคันเลยแบ่งกันนั่ง ตอนนี้สภาพรถเลยดูคับแคบไปถนัดตา ซ้อนสามบ้าง นั่งตักกันบ้าง

        เซฮุนเหลือบตากลับมามองคนข้างๆอีกครั้ง อี้ชิงก็ดูเหนื่อยอ่อนไม่แพ้กัน เริ่มไถลตัวลงกับเบาะเตรียมจะนอนพักผ่อน 

        บนรถเหลือเพียงความเงียบสงบ หลายคนนอนพักเพราะความเพลีย แต่ก็มีบางคนที่ยังไม่นอน แต่จะใส่หูฟังเพลงหรือหาอะไรเล่นในโทรศัพท์มือถือเงียบๆ เพื่อไม่ให้รบกวนคนอื่นที่ต้องการพักผ่อน

        ที่นั่งด้านหลังสุดมีคนอัดกันอยู่สี่คนคือเขาและอี้ชิง ถัดจากอี้ชิงคือจุนมยองและเทาที่งีบหลับซบกันอยู่ เซฮุนพินิจมองใบหน้าคนข้างๆที่ดูจะหลับไปแล้ว

        ใบหน้าคมตามฉบับคนจีนแท้ๆ แต่ความเล็กของรูปหน้า ดวงตาและจมูกกลับกลั่นให้ดูอ่อนหวาน เซฮุนก้มหน้าลงไปจนชิดใบหน้าของผู้เป็นพี่จนหายใจรดกัน หยุดอยู่เพียงครู่เดียว แล้วริมฝีปากของทั้งคู่ก็แตะกันเบาๆเพราะเซฮุนไม่อยากให้อีกคนรู้ตัว

        เซฮุนฝืนผละออกแล้วรีบหันหน้าหนีออกหน้าต่างเพื่อข่มเปลือกตาให้ปิดลง ใบหน้าของเด็กหนุ่มก่อตะกอนริ้วแดงๆจนเจ้าตัวรู้สึกได้

        กลิ่หอมอ่อนๆที่ยิ่งใกล้ก็ยิ่งหอมยังคงวนเวียนอยู่ในจมูก

        เมื่อเข้ามาในตัวหอพัก หลังจากฝ่ากลุ่มแฟนคลับที่มารอหน้าหอ ทุกคนอยู่ในสภาพเดียวกันนั่นคือ ถ้าคลานได้คลานถ้ากลิ้งได้กลิ้ง ขึ้นหอ

        เพราะช่วงนี้พวกเขามีตารางงานและฝึกซ้อมแน่นเอี๊ยดทำให้แทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนและวันนี้หลังจากอัดเพอฟอร์แมนซ์รายการเพลงเสร็จ พวกเขาก็ต้องซ้อมต่อจนถึงตีหนึ่ง แต่ก็ยังมีข่าวดีอยู่ตรงที่หลังจากวันนี้พวกเขาทุกคนไม่มีตารางงานที่ไหนเลย

        หลังจากฉุดกระชากลากถูกันจนถึงห้อง หลายๆคนก็พุ่งเข้าหาเตียงทันที แต่ใครที่เริ่มตาสว่างก็จะเข้าครัวไปหามื้อดึกบ้าง อาบน้ำชำระเหงื่อไคลบ้าง เซฮุนเดินงัวเงีย ไม่สนใจคิมจงแดเจ้าของเสียงแหลมสูงนักร้องนำอีกคนของวงที่กำลังถูกน้องเล็กฝั่งเอ็มบังคับขืนใจลากเข้าห้องอาบน้ำ

        เซฮุนเดินเหมือนซอมบี้เข้าห้องเพราะประตูทุกบานจะถูกเปิดทิ้งเอาไว้เพื่อความสะดวก(?) และล้มตึงลงบนเตียงหลับไปโดยไม่สนใจสายตาที่มองอย่างประหลาดใจจากคนที่อยู่ในห้องก่อนแล้ว

       

       















        กลิ่นหอมอ่อนๆคุ้นจมูกทำให้เซฮุนค่อยๆได้สติ จากแดดที่ลอดผ้าม่านเข้ามาเดาว่าตอนนี้คงเป็นเวลาสายมากแล้วเมื่อขยับตัวลุกขึ้นก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องที่แปลกปะหลาดจากเดิม ขณะกำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ก็มีคนเดินเข้ามาในห้องผ่านประตู่ที่เปิดกว้างทิ้งไว้เป็นปรกติ

        "ไง ไอ้ตัวดี" อี้ชิงเท้าสะเอวแล้วแหย่อย่างสนุกสนานกับคนที่นอนบนเตียงของตัวเอง

        "เอ่อ..." เซฮุนงุนงงกับสภาพรอบตัวและท่าทีของคนตรงหน้า อี้ชิงที่ดูจะจับสังเกตได้ก็รีบเฉลย

        "เมื่อคืนนายเดินเข้าผิดห้องนะ นี่ห้องพี่กับผู้จัดการ ไม่ใช่ห้องนาย แล้วที่นายนอนน่ะก็เตียงพี่ ง่วงจนเบลอล่ะสิ" อี้ชิงพูดเหมือนจะกล่าวหาแต่ใบหน้ากลับยิ้มแบบทีเล่นทีจริง

        เซฮุนอ้าปากค้าง ถึงแม้ว่าการสับเปลี่ยนแลกห้องนอนในบางครั้งเป็นปกติสำหรับพวกเขา แต่เซฮุนก็เป็นหนึ่งในคนที่ไม่เคยแลกห้องหรือที่นอนเพราะคิดว่ามันยุ่งยาก

        "ไปกินข้าวได้แล้ว ก่อนที่ชานยอลกับจื่อเทาจะเขมือบหมด ยิ่งผอมเป็นก้างอยู่" อี้ชิงว่าจบแล้วก็เดินหายออกไปจากห้อ

        ว่าคนอื่นเขาไม่ดูตัวเองเลย เซฮุนเถียงในใจแต่ก็ลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยล้าก่อนจะเดินออกไปทานอาหารเช้าอย่างที่ว่า

        ถึงจะบอกว่าเช้าแต่นี่ก็จวนเที่ยงแล้ว แต่รอบโต๊ะก็ยังเต็มไปด้วนคนที่พึ่งทานอาหารเช้า น่าจะตื่นมาไล่เลี่ยกันเนี่ยแหละ เซฮุนจึงหยิบจานข้าวผัดกิมจิออกมาห่างจากห้องครัวแล้วไปนั่งทานบนพื้นห้องนั่งเล่นแทน 

        โทรทัศน์จอยักษ์ข้างหน้าเขาไม่ได้กำลังฉายรายการตามปกติ หากแต่ถูกแทนที่ด้วยวิดีโอเกมส์ โดยมีสองผู้อาวุโสเล่นไปโวยวายไปอย่างออกรสชาติ แข่งกับเสียงสู้รบของเทาหรือน้องเล็กฝั่งเอ็มกำลังฉุดแพคฮยอนเข้าห้องอาบน้ำโดยมีชานยอลหน้าแดงก่ำเพราะความโกรธกระทืบเท้าเหมือนเด็กดิ้นเร่าๆพยายามจะดึงแพคฮยอนออกมา คริสนอนต่ออีกยกแผ่หลากลางห้อง ส่วนพวกที่เหลือก็ส่งเสียงเอะอะกันอยู่ในห้องครัว

        สงบสุขแบบแปลกๆกันดีจริง...

        เซฮุนกินจนเกลี้ยงแล้วจึงเอาจานไปให้จุนมยองล้างในครัว ก่อนจะกลับมานั่งดูลู่หานกับมินซอกเล่นเกมส์กันอีกครั้งแต่ดูเหมือนว่า ทันทีที่เขานั่งลงกับพื้นมินซอกกลับกระโดดจนตัวลอย แต่ลู่หานกลับโขกหัวลงกับพื้นแล้วกรีดร้องอย่างทรมาณแทบกลบเสียงโห่ดีใจของมินซอก

        พี่ลู่หานแพ้ล่ะสิ...

        "...เออ เซฮุน คราวก่อนฉันบอกจะสอนนายเล่นเกมส์นี้นี่ มานี่มาๆ" ลู่หานที่เงยหน้าขึ้นมาพบกับรุ่นน้องคนสนิท กวักมือเรียกอย่างร่าเริง

        เซฮุนไถตูดไปนั่งข้างๆ ลู่หานยัดจอยใส่มือเขา แล้วเริ่มสอนปุ่ม กฎกติกา และเทคนิคต่างๆ 

        "เหอะ แพ้แล้วยังจะไปสอนคนอื่นเขาอีก" 

        "เงียบไปเลยชานยอล!" ลู่หานเอ็ดชานยอลที่ยืนเท้าสะเอวหน้ามุ่ยอยู่ รอบๆตัวไม่มีแพคฮยอนเหมือนอย่างเคย เดาว่าคงแพ้เทา พี่แพคฮยอนเลยโดนลากเข้าไปอาบน้ำด้วย

        "นี่ๆๆลองเล่นดูสิ ลองเล่นดูสิ" ลู่หานเซ็ตเกมส์ให้เขา

        "อ๊าา~ เผลอไปเลือกแบบเล่นสองคนอ่ะ เอ..." ลู่หานยิ้มแห้ง เริ่มมองหาคนมาเล่นกับน้องชายคนสนิทแทนเขาเพราะนัดว่าจะไปร้านกาแฟกับจุนมยอง

        "นี่ๆๆ อี้ชิง มานี่หน่อย" ตาของเซฮุนเบิกกว้าง เลือดสูบฉีดจนหัวใจเต้นหนักหน่วงและถี่กระชั้นขึ้น ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่ชินสักที กลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

        ลู่หานดึงอี้ชิงลงมาแล้วยัดจอยใส่มือ ก่อนจะวิ่งตามจุนมยองที่รออยู่หน้าประตู โดยไม่พูดอะไร อี้ชิงที่แม้จะงุนงงแต่ก็ยอมเล่นกับเขาแบบมึนๆ

        เซฮุนเล่นอย่างยากลำบาก เพราะสายตาเอาแต่เหลือบมองคนข้างๆ นิ้วก็พันกันจนกดมั่วซั่ว สมองก็เอาแต่คิดฟุ้งซ่านจนมึนตึ้บ หากแต่อาการแปลกๆของเซฮุน ทำให้อี้ชิงคิดว่าคงเพราะพึ่งจะเริ่มเล่นเป็นครั้งแรก ไม่นานอี้ชิงก็ชนะอย่างง่ายดาย

        "นายต้องใจเย็นกว่านี้นะ" อี้ชิงเท้าคางกับตักของตัวเองแล้วหันมาทางเซฮุน อี้ชิงอยู่ในชุดกึ่งจะสบายๆ กางเกงขาเดพสีขาวกับเสื้อยืดสกรีนธรรมดา 

        "พี่นั่นแหละ ใส่เดพรัดขนาดนั้นนั่งกับพื้นได้ยังไง?" เซฮุนแทบจะตบปากตัวเองดังเพี๊ยะ แต่คำพูดคำจาล้อเลียนกลับทำให้อี้ชิงหัวเราะออกมาจนตัวโยน

        "หนอยแน่ะ" อี้ชิงกระโดดใส่ร่างน้องเล็ก มือหนึ่งล็อกคอ อีกมือหนึ่งขยี้ผม ถึงเซฮุนจะพยายามขัดขืนแต่ดูเหมือนว่าร่างบางๆนี่จะแรงเยอะใช่ย่อย

        อี้ชิงปิดท้ายด้วยการฝังหน้าลงกับกลุ่มผมของเซฮุนอย่างหมั่นเขี้ยวแล้วเลื่อนตำแหน่งลงมาที่แก้มขาวๆก่อนจะผละออก อี้ชิงลุกเดินเข้าไปในครัวเพราะจงอินเรียกโดยไม่ได้สนใจสิ่งที่ตัวเองก่อเอาไว้เบื้องหลังเลยซักนิด

        น้องเล็กสุดที่สติสตางค์ดูจะพังเละเทะไปแล้วนั่งนิ่งหน้าแดงก่ำอยู่ที่เดิม

        เหตุการณ์ที่ดูไม่น่าจะมีอะไรอยู่ในสายตาของใครคนหนึ่งที่แกล้งหลับมาโดยตลอด...












       

       

       

       

        เช้าของอีกวันต่อมา สมาชิกในหอดูเบาบางลงกว่าเดิมมากเพราะแทบทุกคนมีตารางงานที่ต่างๆกันออกไป ที่เหลืออยู่มีเพียงเซฮุน แพคฮยอน และจุนมยอนเท่านั้น 

        ดูโทรศัพท์มือถือก็บอกเป็นเวลาบ่ายสองโมงแล้วแต่ก็ยังไม่อยากลุก นึกถึงเรื่องเมื่อวานแล้วก็อดหน้าแดงไม่ได้จนต้องคลุมโปงแล้วดิ้นไปมา พอดิ้นจนเหนื่อยก็กลับมาเครียดอีกครั้ง

        พี่อี้ชิงทำแบบนั้นเพราะกำลังคิดอะไรกับผมอยู่รึเปล่า...? หรือแค่เอ็นดูตามประสาพี่น้อง..? พี่น้องเขาทำกันแบบนี้เหรอ? ฮือ~ แต่เราก็เคยหอมแก้มพี่ๆในวงนี่หว่า...

        ความคิดตีกันไปมาในหัวจนวุ่นนวาย และเป็นซ้ำๆอยู่เกือบชั่วโมง แต่ทั้งหมดก็ต้องสะดุดลงเมื่อได้ยินเสียงเข้มๆแว้ดอยู่ปลายเตียง เมื่อโผล่หัวขึ้นมาจากผ้าห่มก็พบแพคฮยอนยืนเท้าเอวอยู่ด้วยสีหน้าหงุดหงิด กับจุนมยองหัวหน้าของฝั่งเคกำลังทำหน้ายุ่งๆ

        "จะนอนกินประเทศกินทวีปรึไง? ลุกมานี่เดี๋ยวนี้ เรามีเรื่องต้องคุยกัน" พูดจบทั้งสองคนก็เดินออกไปจากห้องปล่อยให้น้องเล็กมองตามอย่างงุนงง

        จะดุเรื่องที่ช่วงนี้ชอบโยนหน้าที่ล้างจานให้พี่จุนมยอนรึเปล่าเนี่ย...

        แต่ก็สำนึกได้ว่าคิดไปเองคนเดียวก็คงไม่รู้เรื่องหรอก รอไปฟังจริงๆจากเจ้าตัวดีกว่า เซฮุนผุดลุกจากเตียง คว้าเสื้อนอนมาใส่ลวกๆโดยไม่ติดกระดุม

        "ย่า! แต่งตัวให้เรียบร้อยหน่อยสิ!" เป็นแพคฮยอนอีกครั้งที่แหวลั่น ก็ในเมื่อสภาพมันเล่นใส่กางเกงบอกเซอร์ตัวเดียวนอน กับเสื้อนอนแขนยาวตัวโคร่งเล็กน้อยแต่ไม่ติดกระดุมเผยให้เห็นแผงหน้าอกที่ดูแน่นกำยำจากการเต้นลงมาจนถึงหน้าท้องขาวละเอียดแบนเรียบมีกล้ามเนื้อนูนออกมาเป็นรูปถึงจะไม่ถึงกับเรียกว่าซิ๊แพ็คแต่ก็นับว่าดูเซ็กซี่ไม่น้อย

        "เฮ้อ ถ้าแฟนคลับมาเห็นนายในสภาพนี้ได้สลบกันเป็นแถบๆ" จุนมยองส่ายหัวเครียด พยายามจะไม่มองน้องเล็กที่ดูราวกับหลุดออกมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นให้ตัวเองตาร้อนเล่น เพราะตัวเขากับแพคฮยอนยังมีแค่เนื้อ เนื้อขาวๆล้วนๆ ยังไม่มีกล้าม เวลาเต้นจนเสื้อเปิดแล้วแฟนคลับแคปมาแต่ละรูปนี่เจอแต่พุง...

        "เห้อ! เอาละ! พี่จุนมยอง เอาเลย!" ใบหน้าขาวจัดสะบัดกลับไปมองน้องชายที่สูงกว่าเพียงสองสามเซ็นฯ

        ทำท่าอย่างกับตัวเองจะเป็นคนพูดเอง...

        "อ่ะแฮ่มๆ คืองี้นะเซฮุนอา..." จุนมยองเว้นช่วงเหมือนกำลังคิดว่าจะพูดดีหรือไม่ดี แต่สุดท้ายก็ต้องยอมเปิดปาก

        "คือพวกฉันอยากจะรู้ว่า...ว่า ว่า ว่านาย ชอบอี้ชิงรึเปล่า?"

        ...

        เกิดระเบิดลูกโตภายในหัวของเซฮุน แต่พี่ชายทั้งสองคนกลับไม่สังเกตถึงอาการนี้เพราะมัวแต่จดจ่ออยู่กับการรอคำตอบ

        "ผม...ผม..." เซฮุนอ้าปากพะงาบพะงาบเมื่อคำตอบที่อยู่ในใจมันล้นจนแทบจะทะลัก นั่นยิ่งเป็นตัวขับดันเลือดให้มาเลี้ยงใบหน้า หูและลำคอจนแดงเถือก ตาคมกระพริบปริบๆอย่างเลิ่กลั่ก

        "ทะๆๆ ทำไมพี่รู้.. ไม่ใช่ๆ พี่ไปรู้.. ไป..ไปเอาที่ไหนมาพูด" เสียงทุ้มต่ำตะกุกตะกักอย่างชัดเจนกับเนื้อหาประโยคที่ไม่เป็นธรรมชาติอย่างแรงทำให้แพคฮยอนและจุนมยอนหันไปสบตากัน

        อาการหนักขนาดนี้ไม่ต้องบอกก็รู้แล้ว...

        "นายไม่ชอบอี้ชิงเหรอ? ประมาณว่า แค่พี่ชายอะไรงี้" แพคฮยอนลองทิ้งระเบิดซ้ำ คราวนี้น้องเล็กถึงกับยกมือทั้งสองขึ้นมาปิดหน้า

        "ก็พี่ชายไงเล่า...ก็บอกว่าแค่พี่ชาย...ชอบ..ชอบแบบพี่ชาย ก็แค่ชอบแบบพี่ชายแค่นั้นเอง พี่ชาย ใช่ๆ พี่น้องกัน" 

        พอเถอะเซฮุนเอ๊ย...มันยิ่งซะกว่าแก้ตัวน้ำขุ่นๆซะอีก

        "ตุ้ยจาง ชัดเลย ได้ยินใช่ป้ะ?" แพคฮยอนหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาแนบหูโดยไม่ได้แตะหน้าจอหรืออะไรใดๆทั้งสิ้น นั่นหมายถึงสายถูกต่อเอาไว้อยู่แล้ว และปลายทางก็จะต้องได้ยินสิ่งที่พวกเขาคุยกันแน่ๆ

        "เออ แน่ใจใช่ไหม?" เสียงทุ้มเข้มของหัวหน้าวงฝั่บเอ็มกรอกมาตามสาย

        "ถ้านายมาเห็นหน้าไอ้ฮุนตอนนี้นายจะรู้เลยว่าชัวร์ล้านเปอร์เซ็น" แล้วแพคฮยอนก็วางสาย เป็นเวลาเดียวกับที่ประตูห้องพักถูกเปิดออกพร้อมกับสมาชิกวงฝั่งเอ็มทั้งหมด เมื่อเผลอไปสบตากับใครคนหนึ่งกลางวงเซฮุนก็กลืนน้ำลายเอื้อกวิ่งโร่กลับเข้าห้องนอนทันที ปิดประตูอย่างแรงพร้อมเสียงกลอนที่แสดงว่าเซฮุนล็อกห้องจากข้างใน

        แหม...ทำอย่างกับเด็กสาวโดนพรากเวอจิ้น แพคฮยอนแอบแซะในใจเป็นพิธีแล้วเสตากลับมามองคนที่ยืนอยู่กลางวงสมาชิกฝั่งเอ็ม

        "แล้วนี่จะเอายังไง?" ทุกคนในห้องรวมสายตาไปที่ตัวต้นเหต

        "ฉันจัดการเอง..." อี้ชิงเดินเลาะออกจากกลางวงมาถึงหน้าห้องนอนที่เซฮุวิ่งเข้าไปเมื่อครู่แล้วเคาะเบาๆ

        "เซฮุน...เซฮุนอา"

        ถึงแม้จะไร้เสียงตอบรับแต่อี้ชิงก็ไม่ละความพยายาม

        "เซฮุน นี่พี่เองนะ"

        ประตูห้องนอนเปิดผ่างออกมาอย่างรุนแรงทำให้แทบทุกคนสะดุ้งจนตัวลอย

        อี้ชิงที่ไม่ทันจะได้มองหน้าน้องเล็กก็ถูกมือแกร่งคว้าเอวเขาไว้และกระชากไปจนชิดแผ่นอก มืออีกข้างประคองท้ายทอยคนเป็นพี่ขึ้นมารับจูบหนักหน่วง

        ทุกคนรวมทั้งอี้ชิงเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนก แต่เซฮุนก็ยังไม่พอใจ เอียงคอให้ได้องศาแล้วบดขยี้หนักหน่วงกว่าเดิมเหมือนจะกลืนกินปากอิ่มเข้าไป รุนแรงแต่เต็มไปด้วยความรู้สึก อี้ชิงตอบสนองด้วยการคล้องแขนไว้ที่ลำคอของน้องเล็ก 

        ไม่นานบทจูบอันหนักหน่วงก็ปิดฉากลงพร้อมกับน้ำตาลูกผู้ชายของโอเซฮุนที่ทุกคนเห็นแล้วถึงกับไปไม่เป็น

        "ผมขอโทษ..ขอโทษครับ ผมขอโทษ.." เซฮุนพูดอย่างยากลำบาก ไหล่หนาสั่นด้วยแรงสะอื้น เหมือนสัตว์ตัวเล็กๆที่กำลังบาดเจ็บ จนอี้ชิงใจหาย

        "เซฮุน ขอโทษเรื่องอะไรน่ะ พี่ไม่ได้โกรธอะไรเซฮุนซักหน่อย" อี้ชิงปลอบโยน พยายามใช้มือทั้งสองข้างประคองใบหน้าคมของคนเป็นน้องที่ก้มหน้าร้องไห้งุดๆให้เงยขึ้นมา

        ตาแดงก่ำสบกับดวงตาใสๆเหมือนลูกแก้ว

        "ร้องไห้ทำไมไอ้ตัวดี? เจ็บตรงไหนรึเปล่า? มีใครทำอะไรนาย?" อี้ชิงเอื้อมมือไปปัดผมที่ระหน้าเซฮุนออกเบาๆ แล้วเปลี่นนเป็นลูบหัวอย่างอ่อนโยน

        "ผม..รัก..พี่.. รักมานาน...มาก..แล้ว แต่ผมกลัว..ว่าพี่จะ..ฮึก..รังเกียจผม เพราะผมเป็น..ผู้ชาย..มันไม่ควร..เกิด..ขึ้น.." 

        เสียงสะอื้นอย่างเจ็บปวดของน้องเล็กเริ่มทำให้หลายๆคนรู้สึกเป็นห่วง

        "พี่...อย่าเกลียดผม..ฮึก..นะ อย่าเกลียด...อย่าไปไห..น ไม่ต้องสนใจ..ผม..ผมก็ได้..แต่อย่า..อย่าเกลียดผม...นะ ผมจะ..รีบตัด..ตัดใจ ให้เร็วที่สุด" เสียงสะอื้นดูจะดังขึ้นเรื่อยๆจนอี้ชิงต้องรีบปาดน้ำตาให้เซฮุนยกใหญ่

        "พี่ไม่เกลียดนายหรอก"

        เซฮุนพยักหน้ารัวๆทั้งที่ยังสะอึกสะอื้นไม่หาย

        "แต่ถ้านายตัดใจฉันจะเกลียดนายโอเซฮุน" 

        ตาคมที่เต็มไปด้วยหยดน้ำตาเบิกโพลงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับอี้ชิงอย่างฉงนเพราะ    เขามั่นใจว่าตัวเองได้ยินอะไร แต่ไม่แน่ใจในความหมาย
       
        "ทำหน้าแบบนั้นทำไม?"

        "พี่...ที่พี่พูดหมายความว่าไง?"

        "ก็ตามที่พูดนั่นล่ะ"

        "..."

        "เซฮุุน พี่ชอบมาเลยนะเวลาที่เซฮุนแอบมองพี่ หน้าแดงเวลาพี่เข้าไปใกล้ ตอนแรกก็ไม่เข้าใจหรอก พี่ก็เลยชอบเข้าแหย่เซฮุนเล่น ขอโทษนะ พี่ทำให้นายสับสนใช่ไหม?"

        "เอ๊ะ? หมายความว่า..."

        "แต่ถ้านายจะตัดใจไม่เอาด้วยหรอก พี่ชอบนะ ชอบมากเลย ชอบทุกๆอย่าง ตอนที่เซฮุนทำท่าเก้ๆกังๆ ตอนที่เซฮุนมานั่งเฝ้าพี่ที่ห้องซ้อมทุกวัน ตอนที่เซฮุนจูบ...อื้ม!"

        ปากสีสดถูกปิดทับลงอีกครั้ง อี้ชิงเกือบจะผละออกด้วยความตกใจแต่ก็ทีท่อนแขนมาล๊อกเอวไว้ทำให้ขยับไปไหนไม่ได้ แต่สุดท้ายคยเป็นพี่ก็จูบตอบกลับไป นานหลายนาที ในที่สุดทั้งสองก็ผละจากกัน ร่างบางขยับเข้าไปชิดกับร่างของน้องเล็กมากกว่าเดิมแล้วกระซิบเบาๆข้างหู

        ให้นายดูแลพี่ได้ไหม

        ครับ
















       

          หลังจบเหตุการณ์ช๊อควงอย่างนักเต้นเท้าไฟของฝั่งเอ็มมากอดจูบลูบคลำ(?)กับน้องเล็กฝั่งเคกลางห้องพักจนตกเป็นแฟนกันในที่สุด ทำให้สมาชิกที่เหลือที่เพิ่งกลับมาถึงหอได้ยินถึงกับอ้าปากค้าง

        "อะ..อี้ชิงกับเซฮุนอ่ะนะ" นิ้วอันสั่นเทาของชานยอลชี้หน้าแพคฮยอนเหมือนจะกล่าวหา 

        "ก็เออซิฟะ ดูนู่น!" แพคฮยอนปัดมือชานยอลทิ้งแล้วพยักเพยิดหน้าไปทางคนสองคนที่นั่งเหยียดขากับพื้นหลังพิงกำแพง ทั้งสองคนนั่งชิดกันมากและกำลังแบ่งหูฟังคนละข้างพลางดูอะไรซักอย่างในโทรศัพท์มือถือที่เซฮุนถือไว้เพระจอหน้าจอที่เล็กเกินไปทั้งสองคนจึงต้องเอาหัวพิงกัน

        "ถ้าจะชิดขนาดนี้นอนทับแล้วปรี้กันไปเลยก็น่าจะง่ายกว่านะ" หัวหน้าวงฝั่งเอ็มที่นอนกลิ้งอยู่กับพื้นกลางห้องอดแขวะอย่างเสียไม่ได้ ทำให้น้องเล็กแยกเขี้ยวใส่

        "ให้มันน้อยๆหน่อย ฉันเป็นคนทำให้พวกนายสมหวังอย่าลืมซะล่ะ"

        "คร้าบๆๆ ขอบคุณคร้าบตุ้ยจาง~" คราวนี้เป็นอี้ชิงที่เงยหน้าขึ้นมาเหยียดยิ้มประชดประชันเต็มที่ จนคนที่นอแผ่ต้องกลิ้งไปอีกทาง


       

       

        







         ย้อมกลับไปเมื่อวาน 

         05.35 AM

        "เร็วหน่อยเด็กๆ การอัดรายการจะเริ่มตอนเก้าโมง ถ่ายแบบจะเริ่มตอนแปดโมง" เสียงห้าวของผู้จัดการเอ็ดอยู่หน้ารถตู้สองคัน พลางบ่นถึงตารางงาน กว่าจะแต่งหน้าแต่งตัวกัน เฮ้อ เครียด

        "เฮ้ยๆๆ จงอินรถตูคันนั้นของพวกที่ไปถ่ายแบบ นายอัดรายการต้องขึ้นคันนี้ เฮ้ย! ฟังอยู่รึเปล่า คยองซูมาลากมันไป!" สิ้นเสียงผู้จัดการ ร่างเล็กๆที่พึ่งเดินออกจากหอก็วิ่งดุ๊กดิ๊กมาลากท่อนแขนผู้มีศักดิ์เป็นน้องที่หลับคาเบาะรถตู้สำหรับพาไปถ่ายแบบไปแล้วให้กลับมาขึ้นอีกคัน

        "ให้ตายสิ เมื่อวานนี้ก็อุตสาห์เคลียร์ให้พักทั้งวันแล้วนะ มันทำอะไรกันอยู่เนี่ย" ผู้จัดการขยี้หัวเพราะความเครียดเล็กน้อยถึงมาก เมื่อดูว่าสมาชิกที่มีตารางงานมากันครบแล้วจึงมาเช็กรถตู้ทั้งสองคันก่อนจะโดดขึ้นรถตู้ของฝั่งที่ต้องอัดรายการไป

        ในรถตู้ของฝั่งถ่ายแบบ มีเพียงสมาชิกฝั่งเอ็ม ผู้จัดการอีกคนและคนขับรถ

        คริสเรียกคนที่ทำท่าจะยัดหูฟังใส่หู

        "อี้ชิงมานี่" เจ้าของชื่อชะงักมือขณะกำลังแกะสายหูฟังที่พันกันยุ่งหันกลับไปมองเบาะหลังสุด

        "มานี่" คริสเรียกซ้ำพร้อมกวักมือเร่งเร้าจนสุดท้ายอี้ชิงก็ยอมลุกเดินมาหาเขาอย่างทุลักทุเล ยังไม่ทันถึงตัวคริสจงแดที่นั่งอยู่ตรงกลางก็ลุกขึ้นและเดินสวนไปนั่งทับที่ของอี้ชิง ซึ่งอดีตเจ้าของที่นั่งก็มองพฤติกรรมนั้นงงๆ แต่งงได้ไม่นานแขนทั้งสองข้างก็ถูกคว้าแล้วลากให้มานั่งตรงกลางระหว่างคริสและลู่หาน คนนึงล๊อกแขนฝั่งนึง อีกคนก็ล๊อกอีกฝั่ง

        "นี่เล่นอะไรกันเนี่ย?" อี้ชิงตื่นตระหนกขึ้นมาทันที เมื่อจู่ๆก็ถูกจับล๊อกแถมคนอื่นๆในรถยังหันมามองเขาเป็นตาเดียวอีกด้วย(เว้นคนขับรถ)

        "เรามีเรื่องจะถามนาย อี้ชิง" ลู่หานเก๊กเสียงเข้มขณะบีบต้นแขนอี้ชิงแล้วคลายเป็นการกระตุ้น แต่เหมือนจะทำให้อี้ชิงตกใจยิ่งกว่าเดิม

        "นายคิดยังไงกับเซฮุน?" อี้ชิงตาเบิกกว้าง สะบัดหน้าไปทางต้นเสียงอย่างแรง

        "หมายความว่ายังไง?"

        "นายคิดยังไงกับเซฮุน หมายถึงชอบรึเปล่าอะไรประมาณนี้" ตุ้ยจางของวงขมวดคิ้วหมุ่น 

        ...ความเงียบสงบปกครองในรถอยู่หลายนาที ทำให้ลู่หานที่ดูจะมีความอดทนในการอยู่นิ่งๆต่ำต้องเป็นฝ่ายออกตัว

        "จางอี้ชิง ตอบมาเดี๋ยวนี้นะ" 

        "นายรู้รึเปล่าว่าเซฮุนชอบนาย" พี่ใหญ่หน้าเด็กอย่างคิมมินซอก นั่งชันเข่ายืดตัวแล้วเกาะเก้าอี้หันหลังให้ทิศหน้ากระจกรถ

        "ก็...เคยสงสัยอยู่หรอก ...แต่คิดว่ารู้แล้วล่ะ" อี้ชิงเอ่ยอย่างเหม่อลอย

        "ตอนไหน? เมื่อไหร่? ยังไง?" 

        "นายเงียบๆไปเถอะลู่หาน"

        "หุบปากฮวางจื่อเทา อีกอย่าง ฉันเป็นพี่นายนะ!"

        "ก็ซักพักแล้วล่ะ ประมาณเมื่อเดือนก่อน เซฮุนชอบมองฉันแปลกๆ ไม่รู้สิ แต่ที่แน่ใจเพราะเมื่อวานซืนเซฮุนแอบจูบฉันตอนหลับน่ะสิ"

        "หา!" ทุกคนเบิกตากว้างกับข่าวใหม่สดๆร้อนๆ

        "ได้ยังไง? ตอนไหน?" เสียงแหลมๆของเฉินโหวกเหวกมาจากเบาะหน้าสุด
       
        "จำได้รึเปล่าที่รถเราเสียเลยต้องมาขึ้นรถของเคน่ะ"

        ทุกคนพยักหน้ารับด้วยสายตาเร่งเร้าให้เล่าต่อ

        "ฉันนั่งข้างเซฮุนที่เบาะหลังสุดนี่ แล้วฉันก็กะจะงีบ ฉันต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะหลับลงเพราะที่มันแคบ เลยอึดอัด แต่เซฮุนท่าทางจะนึกว่าฉันหลับไปแล้วน่ะก็เลย.." อี้ชิงยกมือเกาท้ายทอยหลบสายตาทุกคนที่จ้องมองมา

        "แล้ว แล้วยังไงเนี่ย นายชอบเซฮุนรึเปล่า ชอบรึเปล่า" จบคำของลู่หาน ทำให้คนถูกยิงคำถามใส่หน้าแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

        "อ่า ก็...มั้ง..ไม่รู้สิ" อี้ชิงยกมือเกาท้ายทอยแก้เขินอีกครั้ง

        "อย่าไม่รู้สิ ต้องชัดๆ หัวใจไม่ใช่ของเล่นนะ โดยเฉพาะกับเซฮุนด้วย" คริสเปลี่ยนบรรยากาศให้กลายเป็นกดดัน ทำให้อี้ชิงต้องหลบตาแล้วก้มหน้าลง

        "คิดดีๆ ทบทวนให้ดี" คริสพูดทิ้งท้ายแล้วก็ปล่อยให้อี้ชิงนั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเองจนกระทั่งมาถึงที่หมาย

       

       

       

       

       

       

       

       

        การถ่ายแบบนิตยาสารผ่านไปอย่างราบรื่น ยกเว้นจางอี้ชิงที่นั่งเหม่อไปแทะขนมไปจนคนอื่นๆผิดสังเกต แต่พอใครเข้ามาถามเจ้าตัวก็จะทำเพียงยิ้มและบอกว่าไม่มีอะไร

        ให้ตายสิ...

        มินซอกที่ยืนดูอาการอยู่ห่างส่ายหัวเบาๆ ขณะที่มักเน่ตัวยักษ์ฝั่งเอ็มเดินเข้าไปบริเวณฉากสวนทางกับจงแดที่เดินออกมาตามคิว และเปลี่ยนบุคลิกจากเด็กซนๆซื่อๆ กลายเป็นมาเฟียฮ่องกงหน้ากล้องแทน

        จงแดเดินเข้ามาหามินซอกที่มีท่าทีเหนื่อยหน่าย

        "อย่าทำหน้าเป็นซาลาเปาบูดงั้นซิ" มือหยาบๆหยิกแก้มนุ่มนิ่มของพี่ใหญ่จนมินซอกตาขวางปัดมือจงแดทิ้ง

        "ฉันกำลังเครียดอยู่" มินซอกโบกมือไล่คนที่มากวนเหมือนไล่แมลงวันทำให้จงแดยื่นปากเหมือเป็ดเพราะไม่พอใจ

        "เรื่องอี้ชิงใช่ไหมล่ะ ได้ เดี๋ยวผมจัดการเอง" พูดจบก็เดินไปลากเก้าอี้แถวๆนั้นไปนั่งข้างๆอี้ชิงโดยไม่ฟังเสียงห้ามของมินซอก

        "อี้ชิงเกอ มองหน้าผม" ได้ผล อี้ชิงหันกลับมามอง ถึงจะดูมึนๆไปนิดก็เถอะ 

        "พี่ชอบเซฮุนรึเปล่า" อี้ชิงเผลอขบปากล่างขณะที่เลือดสูบฉีดจนหน้าแดงแข่งกับห่อขนมที่กินอยู่

        "ไม่แน่ใจเหมือนกัน"

        "งั้น...พี่ชอบอยู่ใกล้ๆเซฮุนป้ะ"

        อี้ชิงพยักหน้า

        "แต่พี่ก็ชอบอยู่ใกล้ๆทุกคนนะ"

        "รู้สึกยังไตอนเซฮุนจูบ" อี้ชิงชะงักค้างไปแว่บนึงแต่ก็กลับเป็นเหมือนเดิม แต่ไม่ว่ายังไงก็หนีสายตาของจงแดไม่พ้น

        "ถ้าเซฮุนชอบกับลู่หานเกอล่ะ แล้วที่เซฮุนชอบพี่ก็เป็นแค่เรื่องที่พี่กับพวกเราเข้าใจผิด ความจริงแล้วเซฮุนชอบลู่หานเกอที่อยู่กับพี่บ่อยๆล่ะ" คราวนี้เหมือนมีอะไรซักอย่างดำมืดพุ่งวาบขึ้นมาดวงตาใสๆเหมือนแก้วของอี้ชิงจนขุ่นมัว

        จงแดเหงื่อตกเล็กน้อยกับปฏิกิริยาที่คาดไว้แล้วแต่น่ากลัวกว่าที่คิด จึงเปลี่ยนทิศทางของคำถาม

        "แล้วถ้าคริสเกอมาชอบพี่ล่ะ" อี้ชิงเอียงคออย่างครุ่นคิด พยายามนึกภาพกับคู่จิ้นที่แฟนๆชอบจิ้นกัน

        เป็นคำถามเดียวกับตอนที่ถามว่าชอบเซฮุนรึเปล่าแต่อาการกลับแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

        "แล้วถ้าคริสเกอคบกับลู่หานเกอล่ะ"

        "ก็ดีสิ น่ายินดีกับทั้งคู่ออก" คราวนี้แววตาของอี้ชิงมีประกายร่าเริงสว่างวิบวับจนจงแดเข้าใจอย่างถ่องแท้

        "อี้ชิงเกอ พี่เก็บคำถามของผมไปคิดดูนะ น่าจะช่วยได้" ว่าจบจงแดก็ลุกออกไปทิ้งอี้ชิงให้ นั่งจมอยู่กับความคิดตัวเองอีกครั้ง

        นั่นสินะ...

        "...คริส!" อี้ชิงผุดลุกขึ้น แล้ววิ่งตรงไปหาตุ้ยจางของวงที่กำลังเช็ครูปตัวเองผ่านจอมอนิเตอร์ จงแดจึงยักคิ้วใส่มินซอก

       

       

         "คริสเกอ!" เสียงทุ้มของหัวหน้าวงที่อารมณ์เสียเล็กน้อยตะโกนเอ็ดกลับมาเพราะน้องที่อยู่ในการดูแลดันเรียกชื่อเขาห้วนๆ

         "เออนั่นแหละ!" ไม่ได้ผล...








         14.33 PM

        "จะเอาอย่างนี้จริงดิ" เทาบ่นหน้าเครียดขณะที่จ้องโทรศัพท์มือถือที่ถูกวางอยู่กลางวงพวกเขา

        "เออ น่า" คริสบอกปัด พวกเขาทั้งหกคนนั่งล้อมวงเหมือนเล่นไพ่อยู่หน้าประตูห้องพัก ตามแผนของคริส หลังจากที่เราเรียกทุกคนที่อยู่ในห้องตอนนี้มาอธิบาย ถึงตอนแรกจุนมยอนกับแพคฮยอนจะช๊อคจนอ้าปากค้างแต่ก็ยอมร่วมแผนการด้วย

        "โทรมาแล้ว!" ลู่หานชี้โทรศัพท์เหมือนเด็กเจอของเล่นที่ถูกใจ คริสจึงกดรับและเปิดลำโพง ทำให้พวกเขาทุกคนสามารถได้ยินทุกคำสนทนาในห้อง

       










       

       

       

       

       

       

       

       

        



          ปัจจุบัน
       
        เซฮุนเนียนเอาจมูกซุกกับกลุ่มผมของคนที่พิงหัวไว้บนไหล่เขาขณะที่กำลังดูรายการเพลงในเว็บไซต์ผ่านโทรศัพท์มือถือ

        หอมจัง...

        "พี่อี้ชิง ผมรักพี่นะ"

        "...อืม ...รักเหมือนกัน.." 

        เสียงโห่แซวจากทั้งห้องทำให้คู่ข้าวใหม่ปลามันสะดุ้งเหือก เพราะพวกเขาใส่หูฟังและมัวแต่สนใจกันเองทำให้ทั้งคู่ไม่รู้สึกตัวว่าทั้งห้องเงียบเสียงลงและถูกจับตามองอยู่ ทำเอาทั้งเซฮุนและอี้ชิงหน้าแดงเถือก พยายามกลบเกลื่อนด้วยการแยกเขี้ยวใส่คนนู้นทีคนนี้ที

        อีกหนึ่งวันที่มีความสุขก็ผ่านไป แต่คนทั้งคู่ก็ให้สัญญากับตัวเองว่าพรุ่งนี้จะต้องมีความสุขยิ่งกว่า...

       

       สุกแล้วคีบใส่ปากเลย...    #ไม่ใช่

       

       

       

       

       

       

       

       
       

       

       

       

       

       
       

       

       

       

       

      ...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-

      ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ 
                             

                                    FLONN.









      [SF] Redolence 2 - 30%

       

       

                      โครม!

                      ทุกชีวิตในห้องนั่งเล่นที่นอนก่ายกันอยู่เต็มพื้นสะดุ้งและลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ เพราะเสียงจากทางห้องครัว ทุกกคนมีสีหน้าตื่นตลึง มองซ้ายมองขวาจ้องตากันเองเพื่อให้ใครสักคนลุกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น

                      “

                      แต่ไม่ทันจะได้มีผู้เสียสละ ก็มีเสียงเดินปึงปังมาจากห้องครัว น้องเล็กร่างสูงโปร่งเดินมาหยุดบริเวณห้องนั่งเล่น ใบหน้าบูดเบี้ยวด้วยความไม่พอใจ หยุดยืนไม่นานก็เดินหายไปจากห้องพักโดยไม่สบตาใครสักคน นั่นยิ่งทำให้สมาชิกคนอื่นๆงุนงงกันเข้าไปใหญ่

                      ยังไม่ทันหายสงสัยจางอี้ชิงหรือเลย์สมาชิกวงชาวจีนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของมักเน่ตัวสูงก็เดินออกมาจากครัว มาหยุดยืน ณ จุดเดียวกับเซฮุนเมื่อครู่ แต่คนนี้ไม่ได้ชักสีหน้าหรือฟึดฟัดอะไรไดๆทั้งนั้น เพียงแค่ทำหน้าเรียบเฉยและกวาดตาเหี้ยมๆใส่สมาชิกเหมือนต้องการจะพูดอะไรสักอย่างแต่สุดท้ายก็ไม่พูด หมุนตัวกลับเข้าห้องนอนไปซะงั้น สำหรับคนอื่นจะคิดว่าจางอี้ชิงดูปกติ แต่สำหรับสมาชิกที่รู้จักกันมานานแล้ว อาการเมื่อกี้เขาเรียก เดือดทะลุจุดเป็นกับระเบิดที่แค่เพียงสะกิดนิดเดียวก็พร้อมทำลายล้างทุกอย่าง จึงไม่มีใครกล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง

                      หลังจากผ่านไปสักพักสมาชิกทุกคนก็พร้อมใจกันลุกขึ้นยืนและกรูกันไปยังห้องครัว แล้วก็พบเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่งกองอยู่กับพื้นในสภาพกึ่งเละเทะ หลังจากดูกันจนพอใจแล้ว ทุกคนก็เริ่มแยกย้ายไปกลุ่มละจุดสองจุดเพื่อปรึกษากันบ้าง คุยกันบ้าน เหมือนเด็กประถมเข้าฐานกิจกรรม

                      ทางฝ่ายอี้ชิงที่เดินเข้ามาในห้องนอนเพื่อสงบสติอารมณ์ จำเป็นต้องปิดประตูห้องเพื่อตัดการรับรู้จากภายในหอพัก เขาต้องใช้เวลาอยู่กับตัวเองสักครู่ ไม่งั้นคงได้เผลอเหวี่ยงใส่สมาชิกแน่

                      ถึงตอนนี้จะอยากเหวี่ยงนิดหน่อยเพราะหมั่นไส้ที่มานั่งจับกลุ่มเมาท์กันอย่างกับแม่บ้านดูละครหลังข่าวก็เถอะ

                      ดวงตาคมกริบเมื่อเรียบนิ่งดูดุดันขึ้นอย่างไม่ตั้งใจเหลือบไปมองต้นเหตุการณ์ผิดใจกันระหว่างเขากับเซฮุนคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คสีดำบนเตียงผู้จัดการที่เมื่อครู่เซฮุนแอบหยิบมาเล่นเรื่อยเปื่อยซ้ำยังนอนไปเล่นไปราวกับเป็นเตียงของตัวเองก็ไม่ปาน แล้วไอ้ตัวดีของเขาก็นึกคึกไปเช็กเรตติ้งวง ไปๆมาๆก็เจอกระทู้คู่จิ้นของเขากับหัวหน้าวงฝั่งเอ็มของแฟนคลับซะงั้น เท่านั้นแหละพุ่งเข้ามาเค้นคอเขาเราเฉยเลย ไอ้เราก็ไม่อยากทะเลาะเลยเดินหนีมาห้องครัว ก็ยังตามมาอีก สุดท้ายมายืนเถียงกันจนเซฮุนเลือดขึ้นหน้าปัดเก้าอี้ที่คว่ำไว้บนโต๊ะเพื่อประหยัดพื้นที่จนตกมาหัก ก็ไม่ได้เลือดขึ้นหน้าเป็นคนเดียว พอเห็นน้องเล็กก้าวร้าวก็เลยเผลอโมโหและตั้นหน้าไปหมัดนึง

                      แล้วไอ้เด็กตุ๊ดนั่นก็โกรธเดินหนีไปเลย

                      อี้ชิงขยี้ผมด้วยมือทั้งสองข้างจนกระเซอะกระเซิง ก่อนจะหงายตัวนอนลงไปกับเตียง ก็เข้าใจว่าน้องมันยังเด็กเรื่องอารมณ์ชั่ววูบมันก็มีบ้าง แต่ไอ้การทำลายข้าวของนี่ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ เขาเองก็เช่นกัน ยอมรับเลยว่าที่เผลอต่อยเซฮุนเมื่อกี้ก็เพราะอารมณ์ล้วนๆ

                      ถึงจะรักกันแต่ยังไงก็ยังเป็นผู้ชายทั้งแท่งเหมือนกันนี่นา จะให้มาอารมณ์แบบซี่รีย์นางเอกแสนดีกับพระเอกเอาแต่ใจอะไรทำนองนั้นก็คงไม่ใช่

                      ถึงตอนนี้จะไม่ได้โกรธหรือโมโหอะไรแล้วแต่ก็ยังไม่รู้สึกผิดอยู่ดี ไหนๆก็อยากดัดนิสัยให้ไอ้เด็กเอาแต่ใจนั่นบ้างอยู่แล้ว

                      มาง้อเอาเองละกัน โอเซฮุน!

       

                     

       

       

       

       

       

                      อารมณ์ไม่ดีมาก และกำลังภาวนาอย่าให้บังเอิญแฟนคลับที่ไหนมาเจอเขาตอนนี้ เพราะเขากำลังอยู่ในสภาวะที่เหวี่ยงได้ไม่เลือกหน้าอินทร์หน้าพรหม จะเก๊กหน้าให้ดูอารมณ์ปกติยังทำไม่ได้เลย

                      เซฮุนกำมือที่ช้ำจนม่วงแน่น ด้วยความเย็นของอากาศทำให้มือชาจนแทบไม่รู้สึกเจ็บ ก็นับว่าโชคดี เพราะเมื่อกี้หลังจากเดินหนีออกมาจากหอพักเขาก็ชกเสาไฟฟ้าระบายอารมณ์เป็นบ้าเป็นหลังจนแทบหมดแรง ความโกรธก็พอจะทุเลาลงบ้าง แต่ความน้อยอกน้อยใจกลับไม่ลดลงเลย

                      ไม่เคยรู้สึกแย่ขนาดนี้มานานมากแล้วตั้งแต่ถูกแกล้งอย่างแรงตอนเป็นเด็กเทรนจนเกือบต้องออกจากการเป็นเด็กฝึก ถึงจะรอดมาได้และผ่านมาสองสามปีแล้วแต่พอนึกย้อนกลับไปก็ยังรู้สึกขุ่นใจไม่น้อย แต่มันเทียบไม่ได้เลยกับตอนนี้




      ---------------------------------------------------
      เดี๋ยวมาต่อเรื่อยๆนะคะ ขอบคุณที่ติดตามและให้กำลัง 
       จู่ๆอารมณ์ก็อยากแต่งภาค 2 ขึ้นมาซะงั้น มันจะรุ่งกว่าภาคแรกหรือร่วงกว่าภาคแรกอันนี้ก็ตอบไม่ได้นะคะ TT ส่วน Just1Thing กับ Quicksend อาจจะพักยาวเนื่องจากยังไม่มีอารมณ์แต่ง ขออภัยรีดเดอร์บางคนที่อ่านสองเรื่องนี้นะคะ (จะมีเรอะ...?) แต่ยังไม่ทิ้งสองเรื่องนี้แน่แค่จะพักไว้ก่อน เพราะเกิดอยากแตกก้าน Redolence เป็นช๊ื่อตฟิคของคู่อื่นด้วย 55555 

                             

                                    FLONN.
       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      "ฮุนเลย์ๆๆๆๆๆ"

      (แจ้งลบ)

      อ๊่ายยย ~ >< ฮุนเลย์ๆๆๆๆ เราชอบฮุนเลย์มากๆเลยยย นี่เมนน้องฮุนด้วยงิ นอกจากอี้ชิงแล้วเราไม่ให้ใครจิ้นน้องฮุนนะขอบอกก จะมีพี่หานบ้างบางคราว55555 แต่งเยอะๆน้าาาา เอาแบบน่ารักมุ้งมิ้งได้ยิ่งดีเลยยย เราชอบ3pนะ4pได้ยิ่งดีเลยย เอาคริสเลย์ลู่ คริสเลย์ฮุน คริสลู่เลย์ฮุน เอาแบบว่าน้องอี้มีบอดี้การ์ด มีพี่ๆหวงงิ > ... อ่านเพิ่มเติม

      อ๊่ายยย ~ >< ฮุนเลย์ๆๆๆๆ เราชอบฮุนเลย์มากๆเลยยย นี่เมนน้องฮุนด้วยงิ นอกจากอี้ชิงแล้วเราไม่ให้ใครจิ้นน้องฮุนนะขอบอกก จะมีพี่หานบ้างบางคราว55555 แต่งเยอะๆน้าาาา เอาแบบน่ารักมุ้งมิ้งได้ยิ่งดีเลยยย เราชอบ3pนะ4pได้ยิ่งดีเลยย เอาคริสเลย์ลู่ คริสเลย์ฮุน คริสลู่เลย์ฮุน เอาแบบว่าน้องอี้มีบอดี้การ์ด มีพี่ๆหวงงิ >   อ่านน้อยลง

      kanoknoina | 7 ม.ค. 57

      • 0

      • 0

      คำนิยมล่าสุด

      "ฮุนเลย์ๆๆๆๆๆ"

      (แจ้งลบ)

      อ๊่ายยย ~ >< ฮุนเลย์ๆๆๆๆ เราชอบฮุนเลย์มากๆเลยยย นี่เมนน้องฮุนด้วยงิ นอกจากอี้ชิงแล้วเราไม่ให้ใครจิ้นน้องฮุนนะขอบอกก จะมีพี่หานบ้างบางคราว55555 แต่งเยอะๆน้าาาา เอาแบบน่ารักมุ้งมิ้งได้ยิ่งดีเลยยย เราชอบ3pนะ4pได้ยิ่งดีเลยย เอาคริสเลย์ลู่ คริสเลย์ฮุน คริสลู่เลย์ฮุน เอาแบบว่าน้องอี้มีบอดี้การ์ด มีพี่ๆหวงงิ > ... อ่านเพิ่มเติม

      อ๊่ายยย ~ >< ฮุนเลย์ๆๆๆๆ เราชอบฮุนเลย์มากๆเลยยย นี่เมนน้องฮุนด้วยงิ นอกจากอี้ชิงแล้วเราไม่ให้ใครจิ้นน้องฮุนนะขอบอกก จะมีพี่หานบ้างบางคราว55555 แต่งเยอะๆน้าาาา เอาแบบน่ารักมุ้งมิ้งได้ยิ่งดีเลยยย เราชอบ3pนะ4pได้ยิ่งดีเลยย เอาคริสเลย์ลู่ คริสเลย์ฮุน คริสลู่เลย์ฮุน เอาแบบว่าน้องอี้มีบอดี้การ์ด มีพี่ๆหวงงิ >   อ่านน้อยลง

      kanoknoina | 7 ม.ค. 57

      • 0

      • 0

      ความคิดเห็น

      ×