คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : [OS] CHEN X BAEKHYUN : CONFESSION
[OS] CHENBAEK : CONFESSION #บีเกิ้ลสารภาพ
SONG : CONFESSION – STANDING EGG
เราอยู่ด้วยกันแล้วไม่สนุกตั้งแต่เมื่อไหร่กันวะ ?
วันเลี้ยงฉลองการจบการศึกษาจบลงด้วยเศษซากขวดเหล้ามากมายที่เรี่ยราดอยู่ตามพื้น รวมทั้งร่างของผองเพื่อนไม่ต่ำกว่าสี่ห้าคนที่นอนเกลื่อนกลาดเต็มห้อง โชคดีที่ห้องของจุนมยอนนี่มีขนาดใหญ่พอที่จะยัดร่างมนุษย์มากมายมากกว่าสิบคนให้นอนได้สบายๆ ถึงคนที่นอนอยู่ตอนนี้จะกระจัดกระจายจัดรูปร่างการนอนแบบปกติเป็นมนุษย์ไม่เมาไม่ได้ก็ตาม นับรวมๆแล้วจากเพื่อนห้าในแปดสลบอยู่บนพื้น นอนแผ่ราอัดกันบนเตียงก็อีกสาม และที่กำลังพยายามหอบหิ้วกันไปตรงโซฟาตรงนี้ก็อีกสองคน
แบคฮยอนนิ่วหน้าทั้งแบกร่างผอมๆของจงแดมายังโซฟา... จงแดยังไม่เมาหรอก
ไอ้เพื่อนตัวผอมคอทองแดงที่กินเท่าไหร่ก็ไม่เคยเมากับชาวบ้าน แตกต่างจากตัวของแบคฮยอนที่แค่สองแก้วทั้งตัวก็แดงราวกับเกิดอาการแพ้ จนโดนจากทั้งกลุ่มลงมติห้ามแบบนี้ โยนร่างของจงแดลงโซฟาเสียงดังตุบ จัดให้อีกคนอยู่ในสภาพที่น่าจะสบายที่สุดแล้วจึงผละออกมาเดินตรงไปยังร่างแฟนหนุ่มที่ตอนนี้กำลังนอนหน้าจมพรมที่พื้นอย่างชานยอล ใช้เท้าเขี่ยสองสามทีที่บั้นท้ายคนตัวใหญ่เบาๆ ปฏิกิริยาที่ได้รับมีเพียงมือที่เอื้อมมาดึงกางเกงให้เข้าที่กับเสียงงึมงำในลำคอ
“แบคฮยอนอา... แจ๊บๆ”
คนโดนเรียกชื่อทั้งเมาส่ายหน้า เหลือบมองสภาพเพื่อนๆที่นอนไม่ได้สติกันซักรายก็ถอนหายใจอีกครั้ง เดินไปดูคนนู่นที นี้ที่ จัดท่าทางให้นอนกันสบายมากขึ้น รวมทั้งเดินเก็บขวดเหล้าที่เต็มพื้นไปหมดมากองไว้ข้างห้อง เหลือบมองไปหัวเตียงเห็นกระป๋องเบียร์ที่ยังไม่ได้เปิด มือเรียวจัดการคว้าหมับมาไว้กับตัวก่อนสาวเดินมาหย่อนกายลงที่หน้าโซฟาที่มีร่างของเพื่อนสนิทตัวผอมนอนอยู่
แก๊ก..
เปิดเบียร์กระป๋องสุดท้ายออกอย่างง่ายดาย ก่อนจะยกมันขึ้นดื่มอึกใหญ่ รสชาติที่ขมปนซ่าที่ปลายลิ้นกำลังไหลลงลำคอช้า เป้าหมายในการดื่มที่คิดว่ารวดเดียวหมดหายไปเมื่อกระป๋องในมือถูกใครบางคนที่คิดว่านอนหมดสติแย่งไปไว้ในมือ
“ซ่านะมึง บอกแล้วว่าห้ามแดก”
มือใหญ่นั้นชูกระป๋องอย่างล้อเลียน ริมฝีปากรูปกระจับนั้นยกยิ้มขึ้นอย่างล้อเลียนเพียงครู่ก่อนจะจรดลงกับปากกระป๋องแล้วดื่มน้ำต้องห้ามของเพื่อนสนิทลงไปรวดเดียวจนหมดกระป๋องแทน ส่งเสียงอ๊าอย่างสดชื่อในตอนท้าย และโยนกระป๋องน้ำเมาเจ้ากรรมลงพื้นอย่างไม่ใยดี
“ไอ้เหี้ย..”
ก่นด่าไล่หลังอย่าไม่ใส่ใจ ตาเรียวของแบคฮยอนมองตามกระป๋องที่ถูกปาลงพื้น ก่อนจะเหลือบไปมองเพื่อนสนิทที่ตอนนี้อยู่ในท่านั่งขัดสมาธิอยู่บนโซฟาเรียบร้อย
“สร่างเมาแล้วหรอมึงอะ”
มันไม่ใช่ความเป็นห่วง... จงแดสัมผัสมันได้ดี อันที่จริงเขารู้อยู่แล้วว่า แบคฮยอนรู้ว่าเขาเองไม่ได้เมาตั้งแต่แรก เพียงแต่การดื่มมากๆมันทำให้การควบคุมร่างกายให้เดินหรือทำอะไรได้ดังใจมันลำบาก สติของจงแดยังครบถ้วนไม่ขาดเสียด้วยซ้ำ คนโดนหาว่าเมาเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะจัดการใช้มือยีหัวเพื่อนที่นั่งอยู่ต่ำกว่า
“ตอแหลนะมึงอะ รู้ว่ากูไม่เมาแล้วยังจะถาม..”
“กูทำเชี่ยไรก็ไม่ดีเนาะ สัสเอ๋ย”
การบ่นอุบอิบนั้นเรียกเสียงหัวเราะของคนคอแข็งได้อย่างดี จงแดกวาดสายตามองรอบห้องอีกครั้ง ห้องขนาดใหญ่กั้นแยกแค่ห้องน้ำ เป็นเพียงห้องสี่เหลี่ยมขนาดกว้างใหญ่ที่เตียงนอนขนาดคิงไซส์ที่มีเพื่อนๆนอนเมาหลับกันอยู่ตรงมุมห้องอีกฝั่ง มีโซฟานั่งรับรองแขกกลางห้อง ก็ตามประสาอพาร์ทเม้นต์ราคาสูงแต่ไม่สูงมากแบบที่จะขอพ่อแม่มาอยู่ได้ของจุนมยอนนั้นแหละ ตอนนี้เจ้าของห้องเองก็ยังไม่นอนบนเตียงตัวเองเสียงด้วยซ้ำ ร่างเล็กๆที่นอนแผ่เกาไข่อยู่หน้าทีวีนั้นแหละ... เจ้าของห้อง โครตเท่
“กูชมมึงก็ได้อะ ดีมากที่ไม่แดก จะได้เก็บเรื่องพวกมันไปเผาตอนมีลูก”
พูดจบก็สามารถดึงสายตาคู่สนทนาไปยังเพื่อนคนอื่นๆได้ แบคฮยอนหัวเราะขึ้นแทบจะทันทีเมื่อเห็นสภาพการนอนของแต่ละคนที่ตัวเองเพิ่งจัดให้เรียบร้อยเมื่อครู่... ทุกอย่างเละเทะหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงตู้เย็น หันกลับไปมองถึงรู้ว่าจงแดกำลังรื้อค้นอะไรบางอย่างอยู่อย่างขะมักเขม้น
“มึงหาไรอีกละ ?”
“หิว...”ว่าจบก็หยิบน้ำอัดลม เบียร์ และอะไรที่พอประทังชีวิตมาไว้ในอ้อมอก หันมายักคิ้วให้เพื่อนสนิทเชิงถามด้วยกระแสจิตว่าต้องการอะไรอีกไหม พอเห็นอีกคนส่ายหน้าก็พยักหน้ารับ สาวเท้าที่เคาท์เตอร์หยิบถุงขนมมาอีกสามสี่ถุงก่อนจะเดินไปตรงประตูระเบียง ส่งขนมในมือข้างนึงงับไว้ในปากแล้วบิดลูกบิดประตูเสียงเบา ใช้เท้าเขี่ยให้ประตูอ้าออก ขยับหัวเล็กน้อยเป็นการเรียกให้เพื่อนสนิทออกไปทานขนมรับลมข้างนอกด้วยกัน..
นาฬิกากำลังบอกเวลาตีสามกว่าๆ..
ลมเย็นกำลังปะทะกับตัว แต่ทั้งสองที่นั่งกินขนมก็ไม่ได้สะทกสะท้าน ไม่มีบทสนทนาใดเกิดขึ้น นอกจากการนั่งดูดาวและแสงไฟยามค่ำคืนอย่างเงียบๆ มีเพียงเสียงดื่มเครื่องดื่มและการเคี้ยวขนมเป็นระยะๆเท่านั้น
“นี่ถ้าเข้ามหาลัยไป มึงอย่าแดกเยอะนะ ไม่มีใครเลี้ยงเหมือนเหี้ยจุนมัน”
แบคฮยอนเป็นคนเปิดบทสนทนาเมื่อได้ยินเสียงแกะห่อขนมใหม่ของจงแด คนโดนทักหัวเราะ ส่งขนมที่เพิ่งเปิดเข้าปาก ยื่นมันแบ่งให้คนเตือนข้างตัวซึ่งก็รับมันเข้าปากอย่างว่าง่าย
“เออๆ ไม่แดกเยอะหรอกสัส มึงแหละ เข้ามหาลัยอย่าแรดแดกเหล้าเบียร์ละ”
“.....”
“กูไปช่วยแดกแทนมึงไม่ได้นะเว้ย เลี่ยงได้ก็เลี่ยง”
เตือนจบก็ชูกระป๋องเบียร์ล้อเลียนอีกคน และจรดมันกับริมฝีปากตัวเอง ปล่อยให้น้ำภายในกระป๋องไหลลงไปในลำคออย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอ่ยต่อเสียงเรียบ
“น้ำเหี้ยนี่ ไม่อร่อยหรอกสัส”
“ไม่อร่อยแล้วแดกทำเหี้ยไร ไอ้ควาย”
จงแดหัวเราะอีกครั้ง ปฏิเสธไม่ได้ว่าการอยู่กับแบคฮยอนนั้นมันสนุกทุกครั้งที่ได้เล่นมุขต่อกัน ด่ากัน เถียงกัน ล้อเลียนคนอื่นๆไปพร้อมกัน ความสุขที่มีกันอยู่ข้างๆมันทำให้ชินว่าทุกที่ที่มีจงแดนั้นจะมีแบคฮยอนอยู่ด้วยเสมอ มือใหญ่หยิบกระป๋องเบียร์ที่เพิ่งซดแล้ววางไปเมื่อครู่ ยื่นให้เพื่อนสนิทและเอ่ยเชิญชวน
“พิสูจน์ไหมมึง..”
แบคฮยอนไม่ตอบ นอกจากหยิบเบียร์ในมืออีกคนมากระดกเข้าปากไปสองสามอึก ส่งเสียงอ๊าอย่างที่อีกคนเคยทำเมื่อตอนอยู่ในห้อง ไม่มีคำตอบเรื่องรสชาติอยู่ในหัวแม้แต่ตอนที่ความขมของน้ำเมานั้นสัมผัสที่ปลายลิ้น สมองของแบคฮยอนกำลังคิดในเรื่องที่สวนทางกับทุกอย่าง เมื่อแอลกอฮอล์เริ่มเข้ามาอยู่ในตัวเพียงครู่เดียว
“มึงว่า... ช่วงนี้เราไม่สนิทกันป่ะวะ ?”
“เหอะ... เพิ่งรู้ตัวไงวะ กูบ่นกับพวกจงอินตั้งนานแล้วสัส”
จงแดตอบเสียงเรียบ หันมามองหน้าคนที่เหมือนถามคำถามไม่ไตร่ตรองที่ตอนนี้กำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างไม่เข้าใจอยู่ ร่างผอมส่ายหน้าหยิบขนมในถุงส่งเข้าไป เคี้ยวอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยต่อ
“ก็ตั้งแต่มึงคบกับชานยอล กูกับมึงไม่ได้ไปไหนด้วยกันเลยนี่หว่า”
ความเงียบเข้าครอบงำ เพราะบรรยากาศความอึดอัดเริ่มเคลื่อนที่มาทับความสนุกสนานของบทสนทนา แบคฮยอนเบนสายตาจากเพื่อนสนิทไปที่ท้องฟ้ามืดแทน จงแดกระตุกยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นแบบนั้น
“อย่าคิดมาก ยังไงมึงก็เพื่อนกู”
แบคฮยอนส่ายหน้าและถอนหายใจกับตัวเองน้อยๆ เป็นครั้งแรกที่เห็นด้วยกับความเชื่อที่ว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นทำให้คนเรามีความกล้าที่จะพูดในเรื่องที่ไม่กล้า และกล้าจะทำในเรื่องที่ไม่อยากทำในวันนี้
“อันที่จริง.. กูก็เคยคิดกับมึงมากกว่าเพื่อนนะ”
ทุกอย่างเงียบลงจนต้องหัวเราะกลบเกลื่อนถ้อยคำทั้งหมดให้หายไปด้วยท่าทางตลกๆ แบคฮยอนหันไปหาจงแดที่ตอนนี้ดูนิ่งเสียจนน่าตกใจ เอื้อมมือไปตบที่บ่าของร่างผอมเบาๆ
“แต่ตอนนั้นมึงมีพี่มินซอกแล้วไง กูก็เลยตัดใจ..”
“....”
“ตอนนี้ก็เหมือนเดิมล่ะมึง ยังไงมึงก็เพื่อนกู”
จงแดยิ้มตอบ แต่ไม่ได้พูดอะไร นอกจากส่งน้ำในกระป๋องลงไปในลำคออีกครั้ง ปล่อยให้รสชาติที่เขาประนามเมื่อครู่ว่าไม่อร่อยนั้นครอบครองสติและความคิดตัวเอง หันไปมองหน้าเจ้าของมือเรียวที่กำลังตบบ่าตัวเองเบาๆอยู่
“หึ... บอกซะดราม่าเลยนะมึงอ่ะ”
“ดราม่าเหี้ยไรละ..”
“สุดท้ายมึงก็คบกับไอ้ชานป่ะวะ ทำเป็นเหมือนกูทิ้งมึงสัส”
จงแดปัดมือเพื่อนสนิทอย่างลวกๆ หัวเราะในลำคอกับความรู้สึกซึ่งไหลเวียนไปทั้งในสมองและหัวใจตัวเองที่กำลังพยายามจะออกมาจากปาก ถ้าไม่มีการรั้งของสติที่กำลังจะหมดไปในไม่ช้านี้เสียแล้ว
“กูผิด ?”
“เปล่า... กูก็ไม่ได้ว่ามึงผิด”
“.....”
“เอาจริงๆ... กูก็ชอบมึงนะ”
ไม่มีคำต่อบทสนทนาใดออกจากปากของใครอีกเลย ความอึดอัดทั้งหมดเหมือนหายไปในอากาศ กลายเป็นความเงียบที่บอกไม่ได้ว่ามันคือความโล่งใจ ดวงตาสองคู่ของคนที่เรียกกันว่าเพื่อนสนิทประสานกันเนิ่นนานไม่มีใครหลบ เหมือนกับหัวใจสองดวงที่ตอนนี้ไม่มีอะไรปิดบังกัน เหมือนกับจงแดและแบคฮยอนตอนนี้ไม่มีคำว่าเพื่อนสนิทกั้นอีกต่อไป
สายลมที่พัดเบาๆผ่านตัวไปเหมือนกำลังพัดพาความรู้สึกและความผูกพักในวันวานเพื่อตอกย้ำให้หัวใจทำในสิ่งที่ควรทำในตอนนี้ให้มากกว่าเดิม ระยะห่างระหว่างตัวเริ่มลดลงเรื่อยๆจนจมูกโด่งรั้นทั้งสองชนกันเบาๆ ได้ยินเสียงหัวใจเต้นของกันและกันชัดเจนมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้น... จนริมฝีปากนั้นสัมผัสกันแผ่วเบา ไม่มีการรุกร้ำ ไม่มีการปรับองศา เหมือนกับที่ไม่มีความชัดเจนในความสัมพันธ์ เหมือนเนิ่นนานหากเพียงชั่ววินาทีทุกอย่างก็เหลือเพียงสายตาที่ประสานกันท่ามกลางเสียงลมหายใจ...
“เราอยู่ด้วยกันไม่สนุกเลยเนาะมึงว่าไหม...”
เราอยู่ด้วยกันไม่สนุกเลยตั้งแต่.... รักกันแบบนี้
_________________________________________________________
ขอลงฟิคที่ไม่มีหมินซักเรื่องคงไม่ว่ากันนะคะ...
คือบังเอิญเปิดไปเจอโอพีวีในยูทูป กลายเป็นว่ากรี๊ดคู่นี้มากเลยคะพี่น้อง
โอโหวววว.. คือแบบบบบบ ไม่มีคนจิ้น เราก็จะจิ้นแล้วนิดนึงอะคะ
ส่วนใหญ่ก็มากันแบบความสัมพันธ์เพื่อนๆกันตลอด จนเราลืมไปเลยว่า เพื่อนกันก็รักกันได้
ทำไมอะ.. งื้อออ ทำไมเพื่อนกันจะรักกันไม่ได้ ? นั่นสิ อ่านขั้นเพลินๆกันก่อนก็ได้นะคะ
หวังว่าจะชอบคู่แปลd (?) แบบไรท์กันมั้งนะคะ แต่งไปแต่งมามันหน่วงในใจเนาะ
เพราะยังไงเราก็รู้ว่าเขาทั้งสองคน... คงรักกันไม่ได้ใช่ไหม ??
ความคิดเห็น