คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : [OS] LUHAN X MINSEOK : MAN NEXT DOOR
[OS] LUMIN : BOY NEXT DOOR #คุณคนชั้นบน
SONG : GIRL NEXT DOOR – BROTHERSU
( ควรฟังเพลงตามเพื่ออรรถรสในการอ่านที่มากขึ้นของทุกท่าน )
ฤดูใบผลิมาถึงแล้ว อากาศข้างนอกอบอุ่นกว่าเดิมขึ้นเล็กน้อย ไม่ได้หนาวไปและก็ไม่ได้อุ่นจนเกินไป บรรยากาศแบบนี้ไม่มีอะไรดีเกินไปกว่าที่นอนนุ่มๆ ผ้าห่มอุ่นๆ และการขดตัวนอนหลับอยู่ในนั้นอีกแล้ว ซึ่งก็แน่นอนว่า “ลู่หาน” ไม่ยอมปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป วันนี้ไม่มีอะไรให้เร่งรีบมากนัก ชั่วโมงเรียนจะเริ่มในภาคบ่าย เหลือบตามองนาฬิกาก็พบว่าอีกราว 4 -5 ชั่วโมง ปล่อยตัวไปกับเตียงนุ่มๆแบบนี้อีกสักพักคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
ตึง ตึง !
เสียงฝีเท้าที่ดังมาจากบนเพดานนั้น ทำเอาคนที่กำลังเคลิบเคลิ้มในบรรยากาศสะดุ้ง ส่งเสียงครางในลำคออย่างหัวเสีย ก่อนจะพยุงตัวขึ้นแล้วยกหมอนอีกใบที่วางอยู่ข้างตัวมาบีบปิดหูทั้งสองข้างของตัวเอง
ครืด ครืด !
คราวนี้เสียงวัตถุลากกับพื้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง หมอนใบใหญ่ถูกปาทิ้งลงที่พื้น ลู่หานยันตัวลุกขึ้นจากที่นอน ใช้เท้ายันผ้าห่มออกจากตัว ก่อนจะทึ้งหัวตัวเองเพื่อระบายอารมณ์อีกครั้ง หันขวับไปมองนาฬิกาก็พบว่าเวลาไม่ได้ต่างจากตอนแรกที่ลืมตาขึ้นมาเสียเท่าไหร่
ข้างบนทำเหี้ยไรนักหนาวะ !!!!
ได้แต่สบถกับตัวเองในใจ แล้วแสดงมันออกมาด้วยการเดินไปเปิดประตูระเบียงเสียงดังปัง แล้วยื่นหน้าออกจากระเบียงไปพร้อมป้องปากตะโกนเสียงดังพอประมาณบอกสมาชิกร่วมหอห้องข้างบนตัวเองที่กำลังส่งเสียงดัง รบกวนเวลานอนคนอื่นอยู่
“คุณคร้าบบบบบบ เบาๆหน่อยนะคร้าบบ เมื่อคืนผมอ่านหนังสือดึกคร้าบบบบ....”
น้ำเสียงอู้อี้ที่พูดออกไปนั้นแฝงไปด้วยคำโกหกคำโต อันที่จริงแล้วต้องบอกว่า “เชียร์บอล” จนดึกเสียมากกว่า แถมยังเสียเวลานั่งร่ำไห้อีกเพราะทีมโปรดเล่นพ่ายแพ้เสียราบคาบ พูดจบก็แอบเงี่ยหูฟังว่าอีกฝ่ายจะตอบรับมาว่าอย่างไร เมื่อเห็นว่าไม่มีทั้งเสียงตอบรับ อีกทั้งเสียงฝีเท้าและการเคลื่อนย้ายวัตถุเองก็เงียบลง รอยยิ้มก็เลยถูกวาดขึ้นมาบนใบหน้า หนุ่มจีนบิดขี้เกียจอีกครั้ง ก่อนจะเดินกลับที่เตียง ก้มเก็บผ้าห่มผืนใหญ่ แล้วล้มตัวลงนอนอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันจะเข้าไปในห้วงนิทราเสียงเพลงที่ดังมาจากข้างบนนั้นก็ทำให้เส้นความอดทนของลู่หานขาดผึง ลุกพรวดจากเตียงเดินไปตรงระเบียงอีกครั้ง ก่อนจะเปล่งเสียงที่ดังขึ้นกว่าครั้งที่แล้วออกไป
“คุณคร้าบบบ... เปิดเพลงเบาๆด้วยครับ !!!!!!!!!”
สิ้นประโยค เสียงเพลงก็เบาลง คราวนี้ไม่มีรอยยิ้มใดๆประดับบนใบหน้าอีกแล้ว ความจริงความง่วงมันหายไปตั้งแต่เดินออกจากเตียงมาตรงระเบียงนี่เรียบร้อย ลู่หานถอนหายใจ ส่ายหัวกับตัวเองแล้วเสยผมให้เข้าทรง และคงเป็นเพราะเช้าแบบนี้ไม่มีเสียงใดๆมารบกวนมากนักนอกจากนก หูเลยได้ยินเสียงเพลงที่ถูกลดระเสียงดังเบาๆมาจากห้องข้างบน
‘就這樣牽著你一直走這路沒有盡頭’
เสียงเพลงภาษาที่คุ้นเคยนั้นทำให้หลุดร้องคลอออกมาเบาๆ ... ตั้งแต่ย้ายมาจากจีน นานๆจะได้ยินคนฟังเพลงจีนแบบนี้ และที่แปลกก็คือ เป็นเพลงเก่าขนาดนี้ จำได้ว่าลู่หานร้องล่าสุดก็ตอนตัวเองกำลังเรียนอยู่ชั้นมอต้นละมั้ง นี่ก็ปาไปมหาลัยปีท้ายๆแล้วเสียด้วยสิ หรือว่าคนข้างบนจะเป็นคนจีนเหมือนเขากันนะ ?
‘就是喜歡你偷瞄著我的害羞’
“讓我緊緊牽著你的手望著星空”
เนื้อเพลงหวานๆ ทำนองเพราะๆ นั้นทำเอาเจ้าของภาษาเคลิบเคลิ้ม จนเผลอมองวิวที่ระเบียงแล้วร้องตามไปอย่างเพลิดเพลิน ถึงปากจะโวยวายเมื่อครู่ว่าเสียงเพลงมันดังไป แต่ในยามนี้เขากลับคิดว่ามันเบาไปเสียแล้วสิ ก่อนที่สติจะหลุดลอยไปมากกว่านี้ เสียงหวานๆ กับสำเนียงแปลกๆก็เรียกสติ และเสียงหัวเราะขบขันของเขาได้อย่างดี ดูเหมือนว่าสมาชิกร่วมหอคนนี้จะพยายามไม่น้อยกับการร้องเพลงต่างภาษา ถึงจะฟังดูแปลกๆ แต่ก็สร้างรอยยิ้มให้กับลู่หานในวันนี้ได้อีกครั้ง หนุ่มจีนเลยเผลอร้องคลอตอนจบของท่อนฮุคไปพร้อมกับคนที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาแบบนี้
“直到我們心靈相通”
_______________________________________________________
ลู่หานจดกระดุมเม็ดสุดท้ายอย่างไม่รีบร้อน เพราะเหลือเวลาอีกราวชั่วโมงก่อนจะถึงเวลาเรียน อันที่จริงการโดนปลุกด้วยเพียงในยามเช้านั้นก็ไม่ได้ไม่ดีไปเสียหมด เขามีเวลาในการเดินลงไปหาอาหารเช้ามาเลี้ยงท้องตัวเอง ไม่พอยังมีเวลาทำความสะอาดห้อง ถึงแม้จะสะลึมสะลือในบางครั้ง แต่ก็ยังรู้สึกกระปรี่กระเป่าเช่นกัน
อืมม... คงได้แต่ขอโทษคุณนาฬิกาปลุกยามเช้าแค่ในใจแล้วละ
คิดแล้วก็อมยิ้ม แล้วก็ฮัมเพลงที่ร้องเพลงเมื่อเช้าออกมา อันที่จริงเขาควรยินดีสินะ ที่มีคนมีรสนิยมการฟังเพลงที่คล้ายคลึงกับตัวเองแบบนี้ หวังว่าถ้าพรุ่งนี้เปิดเพลงอีกครั้ง คุณห้องข้างบนคงจะจัดเพลงเพราะๆมาเป็นนาฬิกาปลุกแทนเสียงฝีเท้าและเคลื่อนย้ายของนะ
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องนั้นเรียกความสนใจของหนุ่มจีนได้เป็นอย่างดี ร่างโปร่งหันมาตรวจตราสภาพหน้าและการแต่งกายของตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปที่ประตูห้องแล้วส่งเสียงถามคนที่อยู่หลังประตูด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“ใครคร้าบ ?”
“เอ่อ... ผม ห้อง 411 ครับ...”
เสียงหวานๆที่ร้องเพลงเมื่อเช้านั้น ทำให้ลู่หานมั่นใจว่าเป็นคนห้องข้างบนไม่ผิดแน่ๆ ยิ่งมั่นใจไปอีกเมื่ออีกคนกล่าวหมายเลขห้องของตัวเอง คิ้วเรียวถูกเลิกขึ้น ก่อนที่มือเรียวนั้นจะหมุนลูกบิดประตูแล้วเปิดมันออก ทำให้เห็นร่างเล็กๆกับใบหน้าน่ารักรับกับผมสีชมพูอ่อนหลังประตูบานใหญ่
“ครับ.. ?”
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนตรงหน้านี่น่ารักเสียเหลือเกิน ดวงตาคู่เรียวทว่ากลมโตมีเสน่ห์นั้นชวนมอง แก้มเนียนใสๆนี่ดูมีเนื้อน่าบีบเล่นนั้นทำให้ดูน่าชังเป็นพิเศษ อีกทั้งส่วนสูงและรูปร่างที่กะทัดรัดนั้นอีก ประโยคมากมายที่คิดเอาไว้ว่าต่อว่าเรื่องเมื่อเช้าเล็กน้อยนั้นถูกกลืนลงคอไปหมด
“ผมซื้อนี่มาให้ครับ.. เป็นการขอโทษเรื่องเมื่อเช้า พอดีเพิ่งย้ายมา เมื่อเช้าเลยจัดของเสียงดังไปหน่อย ผมเดินลงส้นเท้าด้วยเสียงเลยดังลงมาข้างล่าง แถมยังเปิดเพลงเสียงดังอีก ขอโทษนะครับ..”
ถุงบรรจุซาลาเปาสองลูกถูกยื่นมาให้ พร้อมทั้งคำอธิบายที่ยาวเหยียดนั้นทำให้คนโดนขอโทษได้แต่ยืนกระพริบตาปริบๆ
ยื่นมือไปรับซาลาเปาร้อนๆในถุงมาไว้ในมือ ส่งยิ้มให้คนตัวเล็กกว่าอ่อนๆ พร้อมเอ่ยประโยคที่เหมือนจะเป็นการปลอบใจ
เพื่อนร่วมหอพักได้ดีที่สุด
“อ๋อ ไม่เป็นไรครับ.. ผมไม่ถือ”
แค่เห็นหน้าก็ถือไม่ลงแล้วละครับ อยากจะวางลงบนเตียงเสียจริง...
“ขอบคุณมากนะครับ เอ่อ.. ผมขอตัวก่อนนะครับ”
คุณซาลาเปาก้มหัวเป็นการขอโทษอีกครั้งแล้วกำลังหันหลังเดินออกไป หัวใจของลู่หานที่เต้นตุบๆนั้นสั่งการได้เร็วกว่า
สมอง ปากเจ้ากรรมเลยเผลอพูดออกไปเสียงดังลั่น จนร่างเล็กๆนั้นสะดุ้งเฮือกแล้วค่อยๆหันหลังกลับมา
“ครับ ?”
“คือ... คือ”
ก็เพราะว่าหัวใจมันไปเร็วกว่าทั้งความคิดและมาช้ากว่าสติ ถ้อยคำมากมายก็เลยเหมือนถูกบดบังไปด้วยความน่ารักของ
คนตรงหน้าจนกลับมาหาเจ้าของร่างไม่ถูก
“ผม.. ต้องไปเรียนนะครับ”
“คือซาลาเปามันมีตั้งสองลูก ผมก็ตัวคนเดียว ไม่มีใคร.. ถือว่าเป็นการผูกมิตรกัน แบ่งกันคนละลูกนะครับ”
ถึงมันจะเหมือนการโฆษณาสถานะโสดไปซักหน่อย แต่ตอนนี้ประโยคที่คิดได้ก็นับว่าแถจนอีกคนเห็นใจนั้นแหละ รับรู้ได้จากรอยยิ้มที่เผยให้เห็นฟันกระต่ายเล็กๆคู่นั้น คนตัวเล็กพยักหน้าแล้วแบมือเป็นการขอเจ้าลูกสีขาวร้อนๆในถุงที่ยังอยู่มือเขา ลู่หานกุลีกุจอหยิบให้อีกฝ่าย พร้อมเอ่ยแนะนำตัวเองเพื่อต่อบทสนทนา
“ลู่หานครับ.. คุณ ?”
“โอ๊ะ ! คนจีนหรอครับ มินซอกครับ คิมมินซอก”
เหมือนมินซอกจะตกใจไม่น้อยที่รู้ว่าลู่หานเป็นชาวต่างชาติ มือเล็กรับซาลาเปามาไว้ในมือ ทั้งที่ดวงตายังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าเพื่อนใหม่อย่างพิจารณา
“ลู่หานดูเหมือนคนเกาหลีมากเลยนะ ไม่นึกว่าจะเป็นคนจีน”
พอได้ยินแบบนั้น ลู่หานเลยหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ อันที่จริงแล้วตัวเขาเองก็คิดเหมือนกันว่ามินซอกเองก็ดูไม่เหมือนคนเกาหลีเลยซักนิด นี่เกิดกันผิดที่หรือเปล่านะ ?
“มินซอกก็เหมือนคนจีนเหมือนกันนะ ไม่นึกว่าเป็นคนเกาหลี”
คราวนี้กลายเป็นมินซอกเองที่หัวเราะเสียงใส พยักหน้าขึ้นลงเชิงว่าเห็นด้วย ก่อนจะขอตัวลาอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้หนุ่มจีนเองที่ไม่มีอะไรจะต่อบทสนทนาก็เลยได้แต่มองตามหลังอีกคนด้วยสีหน้าเสียดาย ก่อนที่หนุ่มซาลาเปาจะลับสายตาไป ลู่หานเลยรวบรวมความกล้าตะโกนถามคำถามที่ตัวเองรู้คำตอบอยู่แล้วออกไปเสียงดัง
“เพลงเมื่อเช้าชื่อเพลงอะไรนะมินซอก ?!!”
คนโดนเรียกหันมากตามเสียง ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา นอกจากส่งยิ้มหวานๆ.. ไม่เป็นไร แค่นี้ก็พอแล้วมั้ง ลู่หาน
_______________________________________________________
นาฬิกากำลังบอกเวลา 07.15 น.
อันที่จริงมันเช้าตรู่มากเลยสำหรับนักศึกษาที่มีเรียนภาคบ่ายทุกวันแบบลู่หาน แต่เพราะเสียงเพลงเพราะๆที่ดังมาจากห้องข้างบนนี่แหละ วันนี้เสียงเบาลงกว่าเมื่อวาน แต่หัวใจเจ้ากรรมดันได้ยินมันชัดเจนเสียจริง ร่างโปร่งยันตัวลุกขึ้นจากเตียง บิดขี้เกียจหน่อยๆ ก่อนจะเปิดประตูระเบียงออกมารับอากาศภายนอก อีกนัยหนึ่งเพราะอยากฟังเพลงที่หนุ่มซาลาเปาตัวน้อยของเขากำลังเปิดอยู่ให้ชัดอีกนิด... วันนี้เพลงอะไรกันนะ ?
‘只怕我自己会爱上你’
โถ่.. คุณซาลาเปาซอกฟังเพลงน่ารักน่าชังจังเลยครับ ช่างเป็นเพลงที่ตรงกับใจของผมตอนนี้เสียเหลือเกิน ลู่หานเท้าคางกับระเบียงโยกหัวไปมาตามจังหวะเพลง โดยไม่ลืมร้องเพลงคลอตามเบาๆ
“不敢让自己靠的太近”
สายลมอ่อนๆปะทะเข้าที่ใบหน้า บรรยากาศสดชื่นชวนให้สูดหายใจเข้าให้เต็มปอดเพื่อรวบรวมความกล้าเพื่อนจะทำอะไรบางอย่าง เช่นการทักทายนาฬิกาปลุกตัวเล็กข้างบนห้อง...
“เพลงเพราะนะครับวันนี้ !”
ลู่หานยิ้ม แม้ไม่ได้รับคำตอบใดๆกลับมาในทันที แต่ในหัวของหนุ่มจีนก็แอบคิดเพลงที่มินซอกเปิดวันนี้จะมีความหมายอะไรแฝงไว้แบบที่ในใจของเขาภาวนาให้เป็นหรือเปล่านะ
难以忘记初次见你 一双迷人的眼睛
在我脑海里 你的身影 挥散不去
ยากจะลืมเลือน เมื่อพบเธอในครั้งแรกกับดวงตาอันน่าหลงใหลคู่นั้น
เงาของเธอยังติดตรึงอยู่ในใจของฉัน ไม่ลบเลือนหายไปไหน
ไม่หายไปไหนเลยครับ... มินซอก
เพลงยังคงเล่นต่อไป หากแต่สิ่งที่เรียกรอยยิ้มกว้างๆของลู่หานไม่ใช่เนื้อเพลงท่อนไหนๆเหมือนเดิม กลับเป็นเสียงใสๆกับคำขอบคุณที่มาพร้อมคำตอบของคำถามเมื่อวานนี้ละมั้ง
“ขอบคุณลู่หาน เพลงเมื่อวานชื่อ 橘子汽水 นะ”
“ครับผม แล้วเพลงวันนี้ชื่ออะไรหรอ ?”
ก็เหมือนเดิมนั้นแหละ.. สไตล์การฟังเพลงของคนห้องข้างบนนั้นเหมือนกับของลู่หานไม่มีผิดเพี้ยน ทำไมเขาจะไม่รู้ละว่าเพลงที่อีกคนฟังนั้นชื่ออะไร แต่ก็อย่างว่า การต่อบทสนทนานั้นถ้าอวดฉลาดคงไม่มีอะไรจะคุยแล้วละมั้ง แต่ดูเหมือนมินซอกจะเงียบไปนานกว่าเมื่อครู่เสียอีก หนุ่มจีนเลยถอดใจกับคำตอบแล้วตั้งใจจะเดินเข้าห้องไป ทว่าเสียงใสๆที่ลอยมาตามลมเอือยๆนั้นดึงร่างโปร่งให้ยืนยิ้มที่จุดเดิมไม่ไปไหน
“情非得已”
“ทำไมมินซอกชอบตอบช้าจัง”
ตะโกนถามไปด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกชัดเจนว่าน้อยใจ แอบได้ยินเสียงหลุดหัวเราะของอีกฝ่ายเบาๆ ซักพักก็ได้รับกระดาษม้วนเล็กๆที่ถูกผูกเชือกหย่อนลงมาให้ ลู่หานจัดการแกะปมเล็กๆที่มัดกระดาษเอาไว้ออกก่อนจะคลี่มันออกเพื่ออ่านข้อความภายใน
‘ไม่อยากโดนด่าว่าเสียงดังแล้ว’
เหมือนโดนมีดปลายแหลมแทงเข้าที่ใจ คนที่เคยว่าคนอื่นว่าเสียงดังยกมือขึ้นทึ้งหัวตัวเองเหมือนเป็นการทำโทษที่ทำให้เพื่อนใหม่คิดมาก รีบสาวเท้าไปหยิบปากกาบนโต๊ะเขียนหนังสือมาตอบอีกคนกลับ โดยไม่ลืมม้วนกระดาษมัดปมและกระตุกที่เชือกเบาๆ ซึ่งไม่นานนัก กระดาษใบน้อยก็ถูกดึงขึ้นไปข้างบน เสียงเพลงเงียบไปและไม่นานก็เปลี่ยนเป็นเพลงใหม่ เพลงที่ลู่หานคนนี้แนะนำอีกคนนั่นแหละ
Good Morning 윗 층에 사시죠
여기 오래 살았는데 얼굴은 처음 보네요
지난 주에 낮잠 자느라 누워있는데
큰 음악 소리가 가끔 위에서 들리더라구요
อรุณสวัสดิ์ครับ.. คุณอยู่ชั้นบนใช่ไหมครับ ?
ผมอยู่ที่นี่มานานแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นคุณ
เมื่อวานผมงีบหลับอยู่ แต่ก็ได้ยินเสียงเพลงดังกระหึ่มมาจากชั้นของคุณนะ
요새 아파트나 빌라는 층간소음 없다던데
여긴아닌가봐요
เขามักจะบอกว่าอพาร์ทเม้นต์หรือคอนโดจะไม่ค่อยมีคนทำเสียงดัง
แต่ผมว่าที่นี่มีนะครับ...
사실 제가 제일 좋아하는 노래라서요
음악 취향이 저랑 참 비슷하신 것 같아요
지금 바쁘신 거 아니면 요 앞 카페 가서
얘기나 할까요, 그 쪽을 조금 더 알고 싶어요
เพลงที่คุณเปิดนั่นมันเพลงโปรดผมเลยนะ
ผมว่าเราชอบแนวเพลงเหมือนๆกันเลยนะ
ถ้าหากตอนนี้คุณไม่มีธุระอะไร เราไปนั่งคุยที่คาเฟ่ใกล้ๆนี่ดีไหมครับ ?
ผมอยากจะรู้จักคุณให้มากกว่านี้จัง..
ยืนฟังเพลงเพลินๆ กระดาษกับเชือกเส้นเล็กก็ถูกส่งลงมาอีกรอบ หนุ่มจีนรีบจัดการแก้ปมและเปิดอ่านข้อความด้วยความเร็วไม่แพ้กัน อ่านจบก็เม้มริมฝีปากเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างแล้วจึงจรดปากกาลงบนพื้นที่ว่างของกระดาษตอบกลับไป จัดการมัดกระดาษใบน้อยไว้ดังเดิม กระตุกเชือกเบาๆให้อีกฝ่ายรู้ โดยที่แอบฮัมเพลงที่ตนแนะนำคนตัวเล็กไปด้วยในลำคอ
사실 제가 제일 좋아하는 노래라서요
음악 취향이 저랑 참 비슷하신 것 같아요
지금 바쁘신 거 아니면 요 앞 카페 가서
얘기나 할까요, 그 쪽을 조금 더 알고 싶어요
เราเป็นเพื่อนกันนะ เพราะเราเป็นเพื่อนบ้านกันนี่
เขาว่ากันว่าคนสมัยนี้ไม่ค่อยรู้จักเพื่อนบ้านกันหรอก
เรามานัดเจอกันตอนว่างๆกันไหม
ผมยินดีมากเลยนะที่จะได้มีเพื่อนอายุใกล้ๆกัน
우리 이웃사촌인데 친하게 지내요
요새 사람들은 삭막하게
옆집 사람 얼굴도 모른다는데
ถึงแม้ว่าวันนี้เราเพิ่งจะพบกันครั้งแรก
แต่ผมว่าเรามีอะไรเหมือนๆกันเยอะเลยนะครับ
มันทำให้ผมสงสัยว่าทำไมเราเหมือนกันขนาดนี้
ไม่มีกระดาษอะไรถูกส่งลงมากินเวลานานพอสมควรแล้วละ ลู่หานถอนหายใจเพราะถอดใจที่จะรอคอยกระดาษของอีกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเลยเดินกลับเข้ามาในห้องทิ้งตัวลงบนเตียงก่อนจะนอนแผ่ร่าไม่สนใจสิ่งใดเลยแม้แต่น้อย นี่คิดถูกคิดผิดที่เขียนไปแบบนั้นกันนะ..
사실 제가 제일 좋아하는 스타일이세요
활짝 웃는 모습이 참 귀여우신 것 같아요
오늘 바쁘신 거 아니면 영화 어떠세요
오늘은 제가 살게요, 그 쪽이랑 자주 보고 싶어요
จริงๆผมชอบสไตล์ของคุณมากเลย
ผมว่าคุณน่ารักมาก เวลาที่คุณยิ้มออกมา
ถ้าหากว่าวันนี้คุณไม่มีธุระอะไร เราไปดูหนังกันสักเรื่องไหมครับ
วันนี้เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง ผมแค่อยากพบคุณบ่อยๆน่ะ
ตอนนี้ในใจของลู่หานกำลังเต้นแรงขึ้น มันพูดไม่ถูกว่าเพราะความเขินหรือความกลัวกันแน่ สมองของเขากำลังตอกย้ำตัวเองว่าไม่น่าเลย ไม่น่าเขียนอะไรแบบนั้นลงไปเลย ไม่รู้ว่าป่านนี้คนห้องข้างบนจะรู้สึกยังไง คิดว่าชาวจีนเป็นแบบเขาทุกคนหรือเปล่า ที่เขาทำไปส่งผลเสียต่อทรัพยากรชายจีนในประเทศเกาหลีหรือไม่..
윗집 사는 그녀, 내 발걸음을 가볍게 만들어
어제와는 다른 나를 보곤 해
(가끔 내가 날 보고 놀라곤 해)
คุณที่อาศัยอยู่ชั้นข้างบนครับ คนที่ทำให้ผมตื่นแม้จะเดินด้วยฝีเท้าเบาๆ
คุณทำให้ผมแปลกไป
(บางครั้งผมก็ยังแปลกใจกับตัวผมเอง)
윗집 사는 그녀, 자꾸 노랠 부르게 만들어
So Igotta say
คุณที่อาศัยอยู่ชั้นข้างบน ที่ทำให้ผมอยากร้องเพลง
เพราะงั้นผมอยากบอกคุณว่า
เพลงกำลังจะจบลง พร้อมกับความสัมพันธ์ที่คงกลายเป็นคนรู้จักกันเท่านั้นของมินซอกและลู่หาน เอาเถอะ... สงสัยว่าคิวปิดอาจจะยังไม่กำหนดให้เขามีความรักในตอนนี้ก็ได้ ลู่หานถอนหายใจอีกครั้ง เหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าผ่านมาเพียงไม่นานเท่านั้นแหละ เหลืออีกหลายชั่วโมงจะนอนต่อ... ก็ไม่ง่วงแล้วเสียด้วย ตื่นเต็มตาเพราะหัวใจตัวเองแท้ๆ
ก๊อก ก๊อก !
เสียงเคาะประตูดังขึ้น คนที่นอนหมดอาลัยอยู่ก็รีบรุดขึ้นจากเตียง วิ่งด้วยความเร็วโดยแทบไม่มองทางจนบั้นท้ายไปชนเข้ากับขอบโต๊ะดังปึ๊กแถมขายังไปเกี่ยวเก้าอี้ที่ตั้งไว้เฉยๆจนแทบจะล้มขมำ มือเรียวเลยคว้าไว้ที่โต๊ะเพื่อพยุงร่างตัวเอง ลู่หานซี๊ดปากกลั้นความเจ็บปวด เดินกะเผลกๆไปที่ประตู กลั้นหายใจสักครู่ก่อนจะหมุนลูกบิดช้าๆ ภาวนาให้คนที่อยู่หลังประตูของวันนี้เป็นคนเดียวกับเมื่อวาน
แก้วกาแฟที่บรรจุกาแฟกลิ่นหอมกรุ่นถูกยื่นมาให้ พร้อมกับร่างเล็กๆของ “คุณคนชั้นบน” ที่ยืนยิ้มพร้อมกับแก้วกาแฟในมืออีกข้าง โดยที่ข้อมือเองก็มีถุงบรรจุซาลาเปาสองลูกซึ่งไอร้อนกำลังระเหยเต็มถุงไปหมดอยู่ มินซอกยิ้มจนตาหยี ชูกาแฟในมือทั้งสองข้างขึ้นให้อีกฝ่ายเห็นชัดๆอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยชวนเสียงใส
“มื้อเช้ากันสักหน่อยไหม ?”
‘ไม่อยากโดนด่าว่าเสียงดังแล้ว’
‘งั้นเปิดเพลง 윗집 여자 ให้ผมฟังแทนนะ’
‘เพลงนี้ให้เราหรอ ?”
‘อื้อ.. ให้มินซอกได้คนเดียวด้วย’
“ร้านกาแฟกับโรงหนังตอนเช้าทั้งชุดนอนคงไม่เหมาะหรอกใช่ไหม ?”
ลู่หานยิ้มตอบ ยื่นมือไปรับแก้วกาแฟนั้นมาไว้ในมือ ผายมือเชิญอีกคนเข้ามาในห้องของตัวเอง และหวังว่าวันนี้คงจะได้รู้จักกับ “คุณคนชั้นบน” หรือคิมมินซอกคนนี้มากขึ้น มากขึ้น... และมากขึ้นในวันต่อๆไป
_______________________________________________________
:) Shalunla
ความคิดเห็น