หักมุมแป้ก - หักมุมแป้ก นิยาย หักมุมแป้ก : Dek-D.com - Writer

    หักมุมแป้ก

    ม่ายรู้จาอาธิบายยางงาย เข้ามาอ่านแล้วจารู้เอง

    ผู้เข้าชมรวม

    876

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    876

    ความคิดเห็น


    20

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  หักมุม
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  13 ต.ค. 47 / 12:31 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      “ผวัะ!!!” (เสียงตบหน้านะนี่)
      “ทำไมแกเป็นคนอย่างนี้ พ่อนึกว่าแกจะทำตัวเป็นเด็กดี ไม่ทำให้พ่อผิดหวัง แต่แกกลับทำตัวอย่างพี่สาวที่ไม่ได้ความของแก…พ่อบอกแล้วว่าอย่าคบเพื่อน อย่าตามเพื่อนมากไป แล้วเป็นไง…” เสียงผู้เป็นพ่อด่าลูกอย่างหัวเสีย
      “มันเจ็บนะลูก” ผู้เป็นแม่บอกลูกสาวอย่างเข้าอกเข้าใจ
      “แต่ยังไงหนูก้อต้องทำ ขืนปล่อยไว้นานกว่านี้ ทุกคนก็ต้องรู้ความจิงอยู่ดี เรื่องอย่างนี้ปิดบังยังไงมันก็ไม่มิดหรอก มันถึงเวลาแล้วล่ะค่ะแม่” เกด ผู้เป็นลูกสาวบอกแม่
      “ถึงยังไง พ่อก็ไม่ให้แกทำอยู่ดี” พ่อพูดเสียงเรียบ แต่แสดงถึงความเด็ดขาดไว้
      “พ่อไม่เข้าใจเกด!” เกดบอกทั้งร้องไห้ และวิ่งทั้งน้ำตาขึ้นห้องไป
      “ถึงยังไง สักวัน เรื่องนี้ก็ต้องแดงออกมา คุณปิดบังมันไม่ได้หรอกค่ะ” ภรรยาแสนดีบอกกับสามีที่กำลังอารมณ์บ่จอย

      1 เดือนต่อมา
      “เพื่อนๆเกดเริ่มรู้เรื่อง เริ่มสังเกตเห็นแล้วอ่ะค่ะแม่ เพื่อนๆถามเกดใหญ่เลย” ลูกสาวมาปรับทุกข์กับผู้เป็นแม่
      “พวกเพื่อนแม่ก็ถามถึงเกดกัน แม่ว่าความจิงมันเริ่มเปิดเผยออกมาแล้วล่ะ”
      “งั้นเราจะทำยังไงดีละคะ พ่อเค้าก้อไม่ยอมด้วย”
      “เดี๋ยวแม่จะลองพูดกับพ่อเค้าดูอีกทีแล้วกัน” ผู้เป็นแม่บอกด้วยหน้าไม่มั่นใจนัก

      “คุณคะ คนอื่นๆ เค้าเริ่มสังเกตเห็นเรื่องเกดแล้วนะคะ”
      “ยังไงผมก็ไม่ยอมให้เกดทำเด็ดขาด!!”
      “แล้วคุณจะปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนี้เหรอคะ”
      “………………….”
      “คุณก็น่าจะรู้ เรามีลูกสาว ไม่ได้มีลูกชาย วันนึงความสาวก็ต้องแสดงออกมา มันถึงเวลาแล้วล่ะคะ ขืนปล่อยไว้นานกว่านี้ไม่ดีแน่”
      “แต่ครูจะให้ผมต้องขายหน้าในที่ทำงาน และสังคมของผมเหรอ… หึ.. คงจะขึ้นพาดหัวข่าวใหญ่โตแน่  “ผู้ว่าจังหวัดพาลูกสาวเข้าคลินิก เป็นครั้งที่ 2 คงมีเรื่องเหมือนเมื่อ 2 ปีที่แล้วอีกแน่….” แล้วชาวบ้านเค้าจะคิดยังไง แค่ลูกสาวตัวเอง ยังปกครองไม่ได้ ก็อย่าคิดไปปกครองบ้านเมืองมันเลย!!”
      “แล้วคุณจะปล่อยให้ลูกเราต้องขายหน้าเหรอคะ”
      “ผมก็ขายหน้าเหมือนกันนี่ นี่มันครั้งแรกที่ไหนกันล่ะ ครั้งที่แล้วแก้ว(พี่สาวของเกด) ก็เป็นอย่างนี้ ทำให้ผมต้องเป็นข่าวดังไปทั่ว เท่านี้คุณยังไม่พออีกเรอะ!”
      “ชั้นเข้าใจคุณค่ะ แต่ยังไงมันก็เกิดเรื่องขึ้นมาแล้ว เราก็ควรสู้กับปัญหา อย่าหันหน้าหนีปัญหา คุณเป็นคนพูดเองไม่ใช่เหรอคะ”
      “……………..”

      1 อาทิตย์ต่อมา
      “ได้…! ได้พ่อจะพาแกไปคลินิก”พ่อบอกเกดอย่างไม่สบอารมณ์นัก


      ตลอดทางมีแต่คนมอง 2 พ่อลูกคู่นี้ด้วยสายตาแปลก ๆ (เอามอไซด์ไปอ่ะ  (โห…เป็นตั้งผู้ว่าฯ มีแค่มอไซด์ จอกว่ะ))

      เมื่อถึงคลินิก พ่อบอกกับเกดว่า”พ่อเชื่อใจหมอ ลูกไม่ต้องกังวล พ่อจะอยู่ข้าง ๆ ลูกเอง”
      เกดกอดพ่อทั้งน้ำตา (ไม่รู้มันจะดีใจหรือเสียใจ)


      “คุณแน่ใจเหรอครับ”หมอถาม
      พ่อพยักหน้า
      “งั้นกรุณาเซ็นชื่อตรงนี้ครับ” หมอบอก พร้อมยื่นปากและเอกสารให้กรอก
      “เชิดชูวงศ์…นามสกุลคุ้น ๆนะครับ” (นามสกุลใครไม่รู้อ่ะ แต่งมั่ว แต่ถ้าดั๊นไปตรงกับใครก้อขอโทดด้วยน้า)
      “ฮ่ะ ฮ่ะฮ่ะ ผมว่าหมอรีบทำเหอะครับเดี๋ยวจะมืดค่ำเสียก่อน” พ่อหัวเราะกลบเกลื่อน
      “ครับ งั้นเดี๋ยวขอให้คนไข้เตรียมตัวที่ห้องนู้นนะครับ” หมอบอกพร้อมกับชี้มือไปทางห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

      ก่อนไป
      เกดหันมากอดพ่ออีกครั้ง และร้องไห้ (มันจะอะรัยกันนักกันหนา)
      “ลูกจะต้องไม่เป็นไร”พ่อบอก (น้ำตาเล็ด)



      ตอนนี้ เกดอยู่ในห้องผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว นอนบนเตียงพร้อม
      “พร้อมนะครับ ทนหน่อยนะครับ เจ็บนิดเดียวเอง เท่ามดกัด” หมอบอก น้ำเสียงใจดี
      “ไม่ฉีดยาชากะยาสลบหน่อยเหรอคะหมอ”
      “อ๋อ…พ่อคุณไม่ได้เซ็นให้ต้องฉีดยาชาครับ ถ้าคุณฉีดยาชากับยาสลบต้องเพิ่มอีกอย่างละ 1,000 บาทน่ะครับ”
      (กำของกูแท้…มีพ่องก)
      “จะรับน้ำชาแทนดีมั้ยครับ ชาเหมือนกัน” หมอหยอดมุข (มุขเหรอเนี่ย)แต่เกดขำไม่ออกแล้ว

      “ทนนิดนะครับ แป็บเดียวเอง”
      (มึงจะทำอะไรก้อเริ่มซะทีเหอะ กูเกร็งจนเมื่อยแล้ว)



      พ่อนั่งรอเกดอยู่ข้างนอก ด้วยใจไม่ดี เหมือนอกจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ให้ได้
      “โอ๊ยยยยยยยยย” ไม่ใช่ดิ ดูไม่ค่อยเท่าไหร่ ต้อง “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
      เกดแผดเสียงสุดชีวิต ด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส
      พ่อได้ยินเสียงเกดร้องด้วยความเจ็บก็เจ็บแทนลูก (แต่หนวกหูมากกว่า) ในใจก็นึกภาวนาให้เกดรอดมาอย่างปลอดภัย


      เลือดแดงฉานไหลออกมาตามรูแผล….
      เกดเจ็บปวดสุดขีด (เจ็บตัวไม่เท่าไหร่ แต่เจ็บใจทำไมพ่อกูงกงี้ฟะ) แผดเสียงร้องดังไปถึงหน้าปากซอย ราวกับลำโพงโรงหนังเซอร์ราวด์รอบด้าน มีเสียงแอคโคต่ำสูงอีกแน่ะ
      หมอก็ทำงานต่อไป นังเกดก็ร้องไม่หยุดซะทีน่ารำคาญ!

      บทความต่อไปโดนเซนเซอร์ (เนื่องจากคนเขียนไม่รู้จะพิมพ์ยังงัย)

      เมื่อเสร็จ
      เกดแทบจะเดินไม่ไหว (ไม่ใช่เจ็บแผล แต่เหนื่อยจากการแหกปาก)
      ปากก็บ่นพึมพำไป “ไม่เอาแล้ว ไม่เอาอีกแล้ว”

      พอออกมาจากห้องผ่าตัดพ่อก็เข้าไปช่วยพยุงเกด

      “เดี๋ยวคงต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกซักระยะนะครับ เพื่อรอดูอาการ ค่าห้องก็คืนละ 3,000 บาทครับ” หมอคนละคนกับเมื่อกี้บอก เพราะหมอคนนั้นหูหนวกไปแล้ว (เพราะเสียงของเกด)
      “เอ่อ…อ๋อ..ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมพาลูกกลับไปดูแลที่บ้านดีกว่า เดี๋ยวถ้ามีปัญหาอะไร ผมจะมาหาใหม่นะครับ” (จิง ๆ แล้วค่านอนแพง ก็เลยพาเกดไปนอนบ้าน)

      ตลอดทางกลับบ้านมีแต่คนมอง 2 พ่อลูกด้วยสายตาแปลก ๆ (โถ…ต้องนั่งมอไซด์กลับ อนาถาแท้)



      เช้าวันรุ่งขึ้น
      พาดหัวข่าวใหญ่ หนังสือพิมพ์ทุกฉบับลงข่าวเรื่องเกด


      “ผู้ว่าราชการจังหวัดพาลูกสาวไปคลินิก…เพื่อเจาะหู”




      ps. เหตุที่บอกว่าหากปล่อยไว้นานกว่านี้ไม่ได้เพราะเกดกลัวเพื่อนล้อ
      ส่วนเหตุที่พ่อต้องไม่พอใจขนาดนั้นเพราะพ่อไม่อยากให้เกดเจาะหู
      และพี่สาวเกด(แก้ว)ก็เจาะหูไปแล้ว ทั้งที่พ่อไม่อนุญาติ จึงทำให้พ่อไม่พอใจที่เกดทำตัวแบบแก้ว
      และที่ชาวบ้านมองด้วยสายตาแปลก ๆ นั้นเพราะอะไรม่ายรู้เหมียนกัลล์
      ทำไม่พ่อถึงไม่อยากให้ลูกเจาะหูเพราะแพงและ กลัวติดโรค(ที่มากะเข็ม ประมาณว่าเข็มไม่ฉะอาด)

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×