คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #51 : Ep.51 - Slaughter
UNagain.51 – Slaughter
เพลิงร้อนระอุและอาคารเหล็กพุพัง
สถานการณ์ตอนนี้แทบไม่ต่างจากโลกาวินาศเลยแม้แต่น้อย
ตามพื้นกระเบื้องใสล้วนมีคราบเลือดและซากศพนอนเกลื่อนอยู่กับพื้น เกลหอบหายใจหนัก
บัดซบ! บัดซบ!
บัดซบ!
ทั้งที่นึกว่าตัวเองแข็งแกร่งขึ้นแล้วแท้ๆ แต่ทำไมกัน?
———ทำไมตอนนี้เราถึงเอาแต่หนีล่ะ?
ขณะลอบรำพึงในใจนั้น
เบื้องหน้าก็เผยให้อันเดตชั้นล่างปรากฏตัวขึ้นกันเป็นทิวแถว
เกลขบฟันแน่นพร้อมกระชับดาบอาคมในมือวาดออกไปเป็นกระสุนพลังจิต เปรี้ยง! พวกมันถึงกับลอยละลิ่วไปตามแรงปะทะ
“อย่ามาขวางทางชั้น!”
ดาบในมือถูกกระแสน้ำครอบคลุมจนบางเฉียบ แล้วจึงถูกฟาดฟันออกไปไร้ความปราณี
ฉัวะ! แม้อีกฝ่ายจะเกราะแข็งก็จริง
ทว่าหากใช้ท่าพลังจิตแล้วล่ะก็นั่นจึงเป็นอีกเรื่องนึง อันเดตตัวแล้วตัวเล่าถูกเกลสังหารไปอย่างเลือดเย็น
แม้จะเอ่ยเช่นนั้น ทว่าตัวเขาในตอนนี้เองก็มีสภาพสะบักสะบอมไม่แพ้กัน
เปรี้ยง!
ทันใดนั้นเขาก็พลาดท่าถูกจู่โจมเข้ามุมอับ
กรงเล็บของมันรุนแรงเสียซะจนเกลผละถอยไปสี่ห้าก้าว ทั้งนี้คงต้องโทษภาระในมือของชายหนุ่มซึ่งเป็นอิสตรีสาวหลับใหลไม่ได้สติ
“จะนอนกินบ้านกินเมืองเลยรึไงวะ? หา!?”
———เขาสบถออกมาก่อนจะสวนดาบสนองคืนแก่อันเดตเมื่อครู่จนศีรษะหลุดกระเด็น
ฉึก! เกลแทงดาบลงดินต่างไม้ค้ำแล้วพักหายใจ กระทั่งพอทำเนาแล้ว
เขาจึงก้าวเดินต่อไป สุดสายตานั้นก็คือทางออกจากสถานวิจัยแห่งนี้ ปึง! ประตูถูกเปิดด้วยแรงขาของกึ่งอสุภะเผยให้เห็นภาพเหตุการณ์เบื้องหน้า
ศพเมดนับร้อยนอนกองเกลื่อนอยู่กับพื้น หนึ่งในนั้นมีคุณเมดที่บอกให้เขาไปหาบ๊อบด้วย
ภาพเหล่านี้ล้วนทำให้เกลนึกย้อนไปถึงอดีต——
ที่ครั้งหนึ่งเมืองเกือบล่มสลายไปด้วยน้ำมือของเขา
“.....กรอด!”
เกลกัดฟันแน่นอย่างไม่สบอารมณ์ ขณะกำลังเหม่อลอยอยู่นั้น
เบื้องหลังของเขาก็ปรากฏแสงสีกัมปนาทขึ้น วี้ดดดดดด! เมื่อหันกลับไปมองก็พบเข้ากับลำแสงสีขาวดำหมุนวนสลับไปมาอยู่ภายในโดมสถานวิจัย
บางทีนี่อาจเป็นฝีมือของบ๊อบกับพวกอันเดตนั่น เกลลอบขบคิด
มวลลมมหาศาลแผ่สยายไปทั่วบ่งบอกถึงความรุนแรงของท่าพลังจิตดังกล่าว
เห็นทีการอยู่ที่นี่จะไม่เป็นผลดีสำหรับเขา เมื่อตระหนักเช่นนั้นชายหนุ่มจึงมุ่งหน้าออกไปทันที
มีเสียงปะทะกันเรื่อยๆ
มีเสียงปะทุของเปลวไฟอยู่ตลอด
มีเสียงกรีดร้องโหยหวนดังกึกก้องอยู่ภายใน
.....เหมือนกับเมื่อสองปีก่อนไม่มีผิด
———กึก! สองเท้าของเกลพลันชะงักกึก เขาก้มหน้าหลุบตาต่ำ
จากนั้นก็หันมองไปยังสถานวิจัยอีกครั้ง
ภายในใจนั้นบังเกิดความคิดอันสบสนยากแก่การสาธยายให้เข้าใจ
มันคือปมในใจ ความรู้สึกผิดเมื่อสองปีก่อนที่เขาได้ทอดทิ้งให้คนไม่รู้อีโหน่อีเหน่มาตายแทนนั้นกำลังกู่ก้องอยู่ภายใน
เกลรู้สึกผิด ไม่สิ...ความจริง——
ตัวเขาก็แค่อยากปกปิดบาปที่ตนเองได้ก่อเอาไว้ก็เท่านั้น
“ใช่ เหตุผลที่เรายังมีชีวิตอยู่น่ะ”
ก็เพื่อชดใช้บาปที่ตัวเองได้ก่อไว้ไม่ใช่รึไง!
.
.
“ฮะฮะฮะ.....สภาพชั้นดูไม่จืดเลยแฮะ
ค-ค่อก!”
บ๊อบสำลอกเลือดออกมาคำใหญ่
บาดแผลจำนวนมากบนเรือนร่างพร้อมจะทำให้เขาหลับไม่ตื่นได้ทุกเมื่อ ชายผิวสีคืนร่างกลับสู่สภาพเดิมอีกครั้ง
ส่วน《โมกขศักดิ์》ก็เลือนหายไปเพราะไม่อาจคุมสติให้คงรูปไว้ได้ ทั่วสรรพางค์รู้สึกหนักอึ้งราวกับมีรถทับอยู่เบื้องบน
ด้วยเหตุนี้บ๊อบเข่าอ่อนทรุดลงไปกองกับพื้น แล้วว่า
“ไม่คิดเลยจริงๆว่าแกจะมาด้วย
รู้งี้ชั้นคงหนีไปซะตั้งแต่ทีแรก”
เขาเหม่อมองไปยังอันเดตอัศวินตรงหน้า
ซึ่งอีกฝ่ายก็เผยท่าทีเย็นชาตอบกลับไป
“ตำแหน่ง <แจ๊ค>
น่ะมีแค่ชั้นคนเดียวก็พอแล้ว”
“หึ! เป็นคำพูดที่ไม่อยากได้ยินจากปากแกเลยจริง
<เชสเซอร์ • แจ๊ค> ของเหล่าอันเดต”
“.............”
อีกฝ่ายเงียบไม่ต่อคำ บ๊อบเห็นดังนั้นจึงเอ่ยสำทับ
“ไอ้พวกลอบกัดเอ๊ย” ส่งผลให้โดมินิคกระตุกคิ้วก้าวอาดเข้ามาอย่างเอาเรื่อง มันว่า “เฮ้ยๆ จะตายอยู่แล้วยังจะมาทำปากดีอีก”
พร้อมง้างสันเท้าออกเตรียมซัดใส่ใบหน้าของอีกฝ่าย ทว่าตอนนั้นเองอันเดตอัศวินกลับยื่นมือเข้าขวางกั้น
มันกล่าว
“บอกที่อยู่ของ <คิง> มาซะ”
“โฮ่? แค่ก...แค่ก...จะเอาที่อยู่ของ <คิง> ไปทำอะไรเรอะ?”
“ก็เอาไปเพื่อฆ่ามันน่ะสิ”
คำพูดนั้นส่งผลให้บ๊อบได้แต่ยักไหล่ด้วยความละอาใจ
เขาว่า “แกก็รู้คำตอบอยู่แล้วนี่?
ชั้นไม่ทรยศคิง,ควีน หรือโฟลทเอชของตัวเองหรอกนะ”
“.....งั้นเหรอ” อัศวินขาวเอ่ยเสร็จก็ง้างดาบอาคมขึ้นเหนือศีรษะ มันว่า
“ถ้างั้นก็ตายซะ!”
เชียะ! คมดาบฟาดสัมผัสไร้ซึ่งความปราณี
แต่แล้วเป้าหมายซึ่งควรแยกออกเป็นสองเสี่ยงถูกเคลื่อนย้ายออกไป
บุคคลที่สามซึ่งกระชากบ๊อบหลบวิถีดาบนั้นย่อมไม่ใช่ใครอื่น
———นั่นก็คือเกล
“.....!?”
อันเดตอัศวินเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเหลือบมองศัตรูตรงหน้ายากคาดเดาอารมณ์
ส่วนโดมินิคเมื่อเห็นเข้าก็จดจำได้ “ไอ้ผ้าพันแผล!? นี่แกอีกแล้ว?” ก่อนจะย่ำเท้าเข้าไปหาเตรียมปลิดชีพอีกฝ่ายทิ้ง
ทว่าก่อนที่มันจะทันได้เคลื่อนไหวนั้นเอง เกลก็โพล่งว่า “ลาก่อน!” พร้อมกับซัดหอกอาคม《นารากะ • พาระห์》เข้าใส่
กระนั้นโดมินิคกลับมองวิถีหอกทะลุปรุโปร่ง
มันโยกตัวหลบเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะร่วนว่า
“ฮ่าฮ่าฮ่า เล็งไปที่ไหนของแกกัน?”
“ก็เล็งไปตรงนั้นไงล่ะ”
ชายหนุ่มชี้นิ้วออกไป จากนั้นกลิ่นหืนขึ้นจมูกก็ลอยคว้างปนมากับอากาศ
โดมินิคขมวดคิ้วหันมองไปยังที่มาดังกล่าว สิ่งนั้นก็คือหอกอาคม ไม่สิ
ควรเรียกว่าสิ่งที่หอกอาคมปักอยู่ต่างหาก
สิ่งนั้นก็คือถังแก๊สขนาดใหญ่
“เฮ้ย!?”
โดมินิคถึงกับตื่นตระหนก
เมื่อมองออกไปก็พบว่าในห้องนี้มีถังแก๊สวางอออยู่เต็มไปหมด
ทั้งนี้เป็นเพราะที่นี่เป็นห้องทดลองซึ่งจำต้องจ่ายไฟและแรงดันน้ำนู่นนี่นั่นอยู่ตลอด
ดังนั้นถังแก๊สร่วมสิบกว่าหลักจึงตั้งตระหง่านให้อยู่แบบนี้
ท่ามกลางสีหน้าตะลึงของโดมินิค จังหวะนี้จึงเป็นโอกาสให้ทั้งสองคนหนีออกไป
“ไม่ง่ายงั้นหรอก!”
เสียงคำรามดังก้อง
อันเดตอัศวินเหมือนรับรู้ถึงแผนการอยู่ก่อนแล้ว
มันจึงขับเน้นท่าพลังจิตจนสุดปลายดาบถูกห่อหุ้มด้วยลำแสงขนาดใหญ่ร่วม 10 เมตร
แจ๊คของเหล่าอันเดตไม่รีรอวาดดาบเข้าใส่ทั้งคู่ทันที
ในชั่วเสี้ยววิก่อนที่คมดาบจะแผดเผาพวกเขาให้เป็นเถ้าถ่าน
เกลกลับตบเท้าแน่นกระโดดหมุนตัวเผชิญหน้าต่อลำแสงขนาดใหญ่ ดาบอาคม《พานี • ทัลวาล》ได้ถูกลั่นไกออกไปเป็นกระสุนน้ำนับสิบ
ไม่ใช่เพื่อต่อกรกับลำแสงท่าพลังจิตหรือคิดลอบจู่โจมทำร้ายใคร
แต่การกระทำนี้มีไว้เพื่อเติมเต็มความเร็วที่ขาดหายไป
ป่ง!
แรงดันจากกระสุนน้ำส่งผลให้ร่างของทั้งสองลอยละลิ่วไปตามแรงคล้ายกับมีวอเตอร์เจ็ทติดหลัง
ฟู่! เมื่อได้รับไอพ่นเสริมความเร็วร่างของพวกเขาจึงทะยานออกไปร่วม
10 เมตรทันที
เปรี้ยง!
เพราะอย่างนั้นการจู่โจมของอันเดตอัศวินจึงล้มเหลวลงไม่เป็นท่า
เมื่อเห็นว่าการจู่โจมนี้พลาดเป้า มันจึงกระชับดาบเตรียมทะยานเข้าไปซ้ำด้วยตนเอง
ทว่าก่อนจะทันได้กระทำสิ่งใดนั้น——
บรึ้ม!
ผลของแก๊สรั่วและหอกไฟที่ปาคาอยู่นั้น
ทำให้เกิดแรงระเบิดขนาดใหญ่ขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น
หากสังเกตดูก็จะพบว่าระเบิดระลอกแรกนี้กำลังส่งผลกระทบต่อแก๊สถังอื่นๆดุจปฏิกิริยาลูกโซ่
ระเบิดลูกแรกนั้นจะนับว่าบังเอิญรึโชคก็ดีเพราะแรงสั่นสะเทือนอย่างหนักนี้จึงทำให้ชั้นคอนกรีตถล่มลงมาปิดทางอันเดตอัศวิน
แน่นอนว่ามันสามารถทำลายกำแพงเบื้องหน้าได้
ทว่าแจ๊คแห่งอันเดตกลับลดมือลงแล้วปลดมุทราปล่อยให้ดาบอาคมเลือนหายไป
“รีบหนีเถอะครับท่าน!”
ทันใดนั้นโดมินิคก็ร้องเรียกพร้อมกับเปิดประตูมิติขึ้นเบื้องหน้า
ทางด้านอันเดตอัศวินเมื่อเห็นดังนั้นจึงผงกศีรษะขึ้นลงแล้วก้าวเดินเข้าสู่หลุมดำตามคำของโฟลทเอช
เมื่อหลบหนีเข้ามาครบประตูมิติจึงเริ่มปิดลง
มันเหม่อมองออกไปยังทางเดินตรงหน้า แล้วเอื้อนเอ่ย
“.....เกล”
บรึ้มมมมม!
ทันใดนั้นสถานวิจัยจึงระเบิดโพลง
แรงสั่นสะเทือนแหวกอากาศออกไปไกลร่วม 100 เมตร
เศษซากวัตถุต่างปลิวว่อนไปมาดุจกระสุนลูกปราย ผืนเพลิงและเขม่าควันได้ทิ้งร่องรอยของความพินาศเอาไว้
นี่คือสงคราม———
และสงครามก็เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น
۞۞۞
ความคิดเห็น