คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #40 : Ep.40 - Syndrome
UNagain.40 – Syndrome
เพลิงสีขาว———
ซากปรักหักพัง.....ผู้คนกรีดร้อง.....และศพเงียบงัน
ท่ามกลางสมรภูมิอันมอดไหม้รู้ตัวอีกทีทิวทัศน์ก็กลับกลายเป็นขาวโพลนดั่งเถ้าธุลี
ในความโกลาหลนี้ยังคงมีชายผู้หนึ่งยืนอยู่ ณ ใจกลางเมือง
เป็นเกล.....เกลซึ่งมีผมสีขาวดั่งคนชรา
เกลซึ่งมีผิวซีดสีขาวดั่งคนตาย และเกลซึ่งมีดวงตาขาวดั่งคนขลาดเขลา ทั้งหมดนั่นก็คือเขาในตอนนี้
“เกล..!”
แล้วตอนนั้น,ชายอีกคนก็โพล่งขึ้น——เป็นโคงั้นเหรอ? เกลคิดอย่างนั้นพร้อมกับหันตามไปยังต้นเสียง
ทว่าสิ่งที่รอคอยอยู่นั้นกลับเป็นเกล
‘ทำไมแกทำแบบนี้,แกฆ่าทุกคนทำไม..!?’
“ฆ่า..? พูดเรื่องอะไร—”
ชายหนุ่มสะดุดคำ,เนื่องจากมีบางสิ่งกระตุกเข้าที่แขนเสื้อ
ส่งผลให้เขาต้องก้มมองตาม....ซึ่งตัวต้นเหตุนั้นก็คือเด็กสาวที่เขารู้จักเป็นอย่างดี
เกลเลิกคิ้วว่า
“มีอะไรเหรอ,คลาร่า..?”
‘ทำไมคะ?’
“เอ๋..?”
‘คุณทรยศพวกเราทำไมคะ..!?’
เฮือก!
ทันใดนั้นใบหน้าเธอก็งองุ้มกลายเป็นเกลอีกคนหนึ่ง
.....เกลเหงื่อแตกพลั่กตาค้าง
ขณะเดียวกันความรู้สึกหวาดกลัวก็พลันผุดขึ้นมาในใจจนเผลอถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว แปะ!——ตอนนั้นก็มีมือหนึ่งมายันไว้แนบที่กลางหลัง
นั่นคือเทียนเหมย....กระทั่งเกลคิดอย่างนั้น,ใบหน้าของเธอจึงกลายเป็นบิดเบี้ยวแปรเปลี่ยนไป
——กลายเป็นเกล
“เหวออออออ....!!?”
เกลสะดุ้งสุดตัวพร้อมกับเซถลาล้มลงไปกองกับพื้น——พื้นซึ่งยามนี้กลับเต็มไปด้วยเลือดและขี้เถ้าพลิ้วไหวไปตามลม
เกลถึงกับจุกคำปรากฏความกลัวสุดหยั่งและความสะอิดสะเอียนขึ้นภายใน
.....พื้นที่เขานั่งทับอยู่นี้คือ <ภูเขาศพ> ของผู้คนนับร้อยพัน
และก่อนจะทันได้คิดสิ่งอื่นใด
ดวงตานับร้อยก็พลันเบิกโพลงขึ้นพร้อมเพรียง——พวกมันจ้องมองเกลด้วยใบหน้าสงบนิ่งจนเขาถึงกับหวาดหวั่น
ทันใดนั้นซากศพจึงแปรเปลี่ยนกลายเป็นเกล
‘ฆ่าเราทำไม....?’
‘แกฆ่าพวกเราทำไม...!?’
‘เอาชีวิตชั้นคืนมา.....เอาคืนมา!!’
“ว–เหวออออออ...!?”
เกลถูกซากศพชุดรั้ง——จมลง....จมลง....ร่างกายของเขาถูกนิ้วมือนับร้อยฉุดกระชากดำดิ่งลงในกองศพขนาดใหญ่
เลือด,น้ำเหลือง,หนองต่างเปรอะเปื้อนเลอะทั่วสรรพางค์อย่างไม่อาจต้าน
“หยุดนะ! ชั้นไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนี้..! ชั้นไม่ได้อยากให้ทุกคนตายซะหน่อย!”
‘โกหก! แกตั้งใจฆ่าพวกเรา! แกมันเห็นแก่ตัว,แกมันสารเลว——’
‘ไอ้ฆาตกร..! ทุกอย่างมันเป็นความผิดของแก!’
‘จงมากับพวกเรา! แกต้องชดใช้..!!’
“อึก..! ย–อย่า——” เกลเอ่ยได้แค่นั้น,ก่อนจะถูกลากลงไปในกองศพนับพันอย่างไร้แรงต้าน ที่นั่น——ภายในซากศพจำนวนมหาศาลนี้เขาไม่อาจมองเห็นสิ่งใดได้ดีนัก
ของเสียเน่าเหม็นจากศพมนุษย์ล้วนพรั่งพรูเข้าหูตาจมูกปากจนเกลต้องคายของเก่า
ทรมาน....อึกอัด....และหายใจไม่ออก
หากยังติดอยู่ภายในซากภูเขานี้,ไม่ช้าเร็วเกลคงได้ขาดใจตายแน่
กระนั้นคิดก็ส่วนคิด——ตัวเขานั้นไม่อาจขัดขืนต่อศพนับร้อยนี้ได้
แถมพอยิ่งต่อต้านก็เห็นจะมีแต่จมสู่ก้นบึ้งลึกลงไปเรื่อยๆ
ขณะรอบข้างถูกปกคลุมด้วยซากศพ
สุดสายตานั้นกลับมองเห็นแสงสีขาว ณ แห่งหนึ่ง
.....แสงสีขาวนี้นับว่าเจิดจ้ายิ่งกว่าสิ่งใด
ทั้งบริสุทธิ์และอบอุ่น——จนเกลถึงกับหลงลืมสภาวะรอบข้างไปโดยไม่รู้ตัว
.
.
บุ๋ม...บุ๋ม...บุ๋ม...
ติ๊ด~ติ๊ด~ติ๊ด~ติ๊ด....
ฟองอากาศและเสียงบีทของชีพจร เกลเริ่มได้สติพร้อมกับตื่นขึ้นมาอย่างสับสน.......สภาพแวดล้อมตรงหน้าคือห้องสีขาวโพลนซึ่งวางอุปกรณ์ดูทันสมัยอยู่เต็มไปหมด
ซึ่งหากเปรียบเปรยแล้วก็คงเหมือนกับศูนย์วิจัย
ที่นี่.....ที่ไหน?——เกลตั้งคำถามแบบนั้น,โดยคิดจะมองดูรอบห้องเพื่อหาคำตอบ
ทว่าร่างกายกลับนิ่งไม่ไหวติง
เกลเผยแววมึนงง,ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
เขาพยายามตั้งสติ,พร้อมกับฝืนขยับตัวไปมาอีกครั้ง——ซึ่งผลที่ได้ก็นับว่าเท่าทุนไม่ต่างจากเดิม นอกจากมองตรงแล้ว,การกระทำอื่นๆล้วนถูกปิดผนึกหมดจนเกลเคร่งเครียด.....นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเรากัน? พอเขานึกอย่างนั้น,จึงทำให้สมองเริ่มย้อนความกลับไป
เหตุการณ์ครั้งล่าสุดที่เขาจำได้ก็คือตอนที่หนีออกมาจากเมือง
จากนั้นก็ล้มลงกับพื้น——จดจำเรื่องราวหลังจากนั้นไม่ได้อีก
“.........”
หากให้คาดเดา ตอนนั้น,เขาคงกลายเป็น <ดัคน่า> แล้วสูญเสียความเป็นตัวเองไป ดังนั้นความทรงจำในหัวนี้ถึงได้ขาดหายไปส่วนหนึ่ง.........ระหว่างที่เกลยังคงขบคิดไม่ตกอยู่นั้น——
ประตูห้องจึงถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับการปรากฏตัวของชายคนหนึ่ง
ซึ่งชายดังกล่าวนั้นเป็นคนผิวสีสวมแว่นแฟชั่นดูมีเอกลักษณ์ให้ความรู้สึกสะดุดตาไม่ซ้ำใคร
หมอนั่นเองก็หันมามองเกลแวบหนึ่ง
ก่อนจะละสายตาไปดูมอนิเตอร์บนตู้ทรงเหลี่ยมแปลกๆพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับฉีกยิ้ม
“โอ้! ดูเหมือนจะตื่นแล้วสินะ..?”
ชายผิวสีว่าอย่างนั้น,ก่อนจะกลับมามองเกลอีกครั้ง
นายเป็นใคร?——ถึงเกลอยากจะถามเช่นนั้น,ทว่าปากกลับไม่อาจขยับได้เช่นเดียวกับทุกสัดส่วนบนร่างกาย
แม้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
กระนั้นในจิตใต้สำนึกเขากลับปักใจเชื่อว่าชายตรงหน้านั้นย่อมเป็นต้นเหตุไม่ก็รู้ส่วนเกี่ยวข้องซักทางใดทางหนึ่ง
บุ๋ม...บุ๋ม...บุ๋ม...
“......?”
พอสังเกตดีๆก็พบว่าตรงหน้าตนนั้นมีฟองอากาศผุดมาเป็นจังหวะสูงต่ำไล่เลี่ยกัน
เมื่อเห็นแบบนี้,เกลถึงกับตระหนก คาดเดาไปกว่า 8 ใน 10 ส่วน,ว่าตนกำลังนอนแช่อยู่ในผืนน้ำ
แถมพอชายผิวสีเข้ามาใกล้,เกลจึงมองเห็นเงาแบบรีเฟลกขึ้นจางตรงหน้าทำให้คาดเดาว่าตอนนี้ตนกำลังถูกขังไว้อยู่ในแทงค์กระจก
“ขอแนะนำตัวก่อนเลยละกัน.....ชั้นชื่อ【บ๊อบ】อย่างที่เห็นว่าทางนี้น่ะเป็นหมอ,เห็นไหม?”
บ๊อบว่าพร้อมกับชูชุดกาวน์ที่พาดบ่าขึ้นสู่สายตา
ก่อนจะวางลงแล้วกล่าวต่อ
“ตามหลักจิตวิทยา——เวลามีใครมาพูดว่าตัวเองเป็นหมอ,จะทำให้คู่สนทนา 7
ใน 10 เชื่อใจในตัวอีกฝ่าย และถึงแม้จะเป็นหมอเถื่อน,แต่โดยรวมชั้นก็เป็นหมอที่แค่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ
เพราะงั้นเรื่องที่ชั้นจะพูดจากนี้ไป,ก็ช่วยไว้เนื้อเชื่อใจกันด้วยล่ะ”
.....ทางนั้นพูดเองเออเอง
ปล่อยให้เกลที่ไร้เสียงได้แต่รับฟัง
“เรื่องแรก,คือชั้นกำลังทำการทดลองอยู่ ซึ่งเหยื่อทดลองที่ว่าก็คือนายน่ะแหละ——ก็ไม่ใช่อะไรนะ แต่เพราะเป็นการทดลองอะไรหลายๆอย่าง
ชั้นถึงต้องทำโน่นทำนี่กับร่างของนายไปโดยไม่ได้รับอนุญาต”
“...........”
เกลถึงกับอึ้งไปชั่วเสี้ยววิ——กระนั้น,อีกฝ่ายก็ยังคงพล่ามต่อ
“เรื่องที่สอง,คือนายมันพิเศษชั้นถึงได้เลือกทดลองกับร่าง <อสุภะ> ของนาย ก็อย่างที่เข้าใจใช่ไหมล่ะ? ว่า <อสุภะ> จะพูดภาษามนุษย์ไม่ได้
แต่ตอนที่นายเป็น <อสุภะ> เนี่ย,กลับพูดคล่องปรื๋อจนถึงขั้นร่าย <อาคม> ออกมาได้เลย——ซึ่งเคสนี้,สำหรับชั้นก็ยังไม่เคยเจอมาก่อน”
บ๊อบว่าทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินไปหยิบของสิ่งหนึ่งติดมือมาไว้เบื้องหน้า
สิ่งนั้นก็คือกระจกบานหนึ่ง.....
“ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามา——ชั้นจึงตัดสินใจจับตัวนาย,แล้วก็ทำการทดลองอะไรนิดๆหน่อยๆ
ตั้งแต่ลองสารละลายยันไปถึงขั้นชำแหละแยกองค์ประกอบ
เพราะงั้นตัวนายถึงได้มีสภาพแบบนี้ล่ะนะ”
“...............”
“อ่อ,แต่ชั้นก็รักษาสติคืนมาให้แล้วนา
คิดซะว่าแทนน้ำใจละกัน,ชั้นไม่ถือ”
เกลเงียบกริบทั้งทางกายภาพและทางใจ
ตัวเขาในยามนี้ถึงกับอื้ออึงไปอย่างยาวนานจนแทบไม่รับรู้สิ่งใดอีก
ทีนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมร่างกายถึงไม่อาจขยับและทำไมถึงต้องถูกแช่ตัวอยู่ในแทงค์น้ำ
ภาพในกระจกนั้นคือ สมองก้อนหนึ่งและลูกตาสองข้างซึ่งยึดติดกันด้วยเส้นประสาทจำนวนหนึ่ง
ขณะเดียวกันก็มีสายรยางค์จากเครื่องกลนอกแทงค์เชื่อมต่อกับก้อนสมองพันยั้วเยี้ยอยู่เต็มไปหมด
บุ๋ม...บุ๋ม...บุ๋ม...
————เจ้าสิ่งนั้นก็คือ【เกล】ในตอนนี้
۞۞۞
ความคิดเห็น