คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #39 : Ep.39 - Syndrome
UNagain.39 – Syndrome
“จงปรากฏ.....ต่อหน้าข้า———【นารากะ • พาราห์】”
วู้ม!
ก่อนที่คมดาบจะเข้าสัมผัสลงกลางอก
หว่างกลางของทั้งสองสิ่งกลับปรากฏผืนเพลิงขึ้นสายหนึ่ง เพลิงผืนนี้เมื่อปะทะต่อ【พานี • ทัลวาล】จึงแตกโพลงออกเป็นประกายไฟ
เผยวัตถุเหล็กยาวขึ้นในมือของ <ดัคน่า>.......แรงต้านจาก <อาวุธอาคม> ทั้งสองชิ้นส่งเสียงร้องของโลหะดังเป็นจังหวะ
“อาคาเนะ! รีบฆ่ามัน——”
ฉัวะ!
คำพูดของเบธจบลงแค่นั้น
พร้อมกับศีรษะที่ปลิวไสวตามแรงขับของตัวหอกซึ่งเปลี่ยนจากต้านรับเมื่อครู่กลายมาเป็นสวนกลับภายในชั่วเสี้ยววิ
หัวของเบธพอลอยคว้างไประยะหนึ่ง,จึงค่อยตกลงตามแรงโน้มถ่วงของโลก
แล้วกลิ้งหลุนไปหยุดอยู่ ณ ปลายเท้าของอาคาเนะ————
ใบหน้าสวยนั้นพะงาบปากไปมาโดยไม่รู้ว่าตนได้ตายไปแล้ว
“.....ห–หัวหน้า?”
เช่นเดียวกับอาคาเนะที่อ้าปากค้างตะลึงงันกับภาพตรงหน้า
รู้ตัวอีกทีร่างกายมันก็สั่นเครือด้วยความกลัว,เธอก้าวถอยหลังไปตามสัญชาตญาณ
ขณะเดียวกันร่างสูงของ <ดัคน่า> ก็เริ่มลุกขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเดินอาดเข้าไปคว้าศีรษะของเบธมาไว้ในกำมือ
กร้วบๆๆๆๆ..!
จากนั้นมันจึงส่งหัวของเธอเข้าปากไปโดยลงเหลือไว้เพียงเสียงบดกระดูกกับความรู้สึกอันน่าหวาดหวั่นอยู่ภายในใจของสองสาวที่เหลืออยู่
แน่นอนว่าเพราะอาคาเนะมีประสบการณ์ที่ดีกว่า
ดังนั้นสติและความคิดอ่านในการรับมือจึงเรียกได้ว่าเหนือกว่าเลเล่ที่นั่งแหมะตัวสั่นอยู่กับพื้น
“ว้ากกกกกกกก~~!”
เธอกู่ร้องปลุกใจ,พร้อมกับวาดดาบออกไปกลางอากาศ——สิ่งนี้ก็คือ <ท่าพลังจิต> ซึ่งเกิดจากจินตนาการอันของมนุษย์ให้แปรเปลี่ยนเป็นรูปร่าง
ดังนั้นแม้เธอจะอยู่ห่างจากมันเกือบ 6 เมตร
ทว่าพอชักนำความคิดสร้างใบมีดแรงดันสูงออกมาจึงปรากฏเป็นริ้วดาบพุ่งเข้าใส่ <ดัคน่า> ทันที
.....อาคาเนะมั่นใจอยู่เต็มอกว่าตนนั้นสามารถกำจัดอีกฝ่ายซึ่งเชื่องช้ากว่าได้ไม่ผิดแน่
————ซึ่งในความจริงแล้ว,เธอคิดผิด
ในช่วงเวลาเกือบ 0.5 วิที่ร่างกายเฉียดปะทะต่อ <ท่าพลังจิต> ของอาคาเนะ <ดัคน่า> ก็พลันดีดตัวออกด้วยความเร็วสูงอย่างที่มันไม่เคยกระทำมาก่อนจนเกิดเป็นช็อคเวฟขึ้นราวกับภาพฉายซ้ำในชั้นบรรยากาศ
ความเร็วนี้นับว่าเหนือล้ำกว่าพวก <ดัคน่า> ทั่วๆไปอย่างเทียบไม่ติด
ขณะเดียวกันท่วงท่าที่รั้งหอกเป็นแนวตรงพร้อมกับเหยียดกายพุ่งออกไปกลายเป็นเส้นแสงนั้นก็ตัดผ่านร่างของหญิงสาวไปแล้วโผล่พ้นที่ด้านหลัง
“............”
อาคาเนะไร้สุ่มเสียงหรือคำกล่าวใดทั้งสิ้น จากนั้นที่กลางหลังเธอจึงเผยเลือดสีฉาดขึ้นชุ่มซึมผ่านผิวเสื้อและตัวผ้า————และหากมองกลับไปที่หลังของเธอ.....
ก็จะพบว่าเนื้อหนังนั้นกำลังเปิดโพลงออกมา
เผยให้เห็นโครงร่างอันว่างเปล่าอยู่ภายใน——ร่างที่ยืนอยู่นั้นถูกค้ำยันไว้ด้วยเอ็นและกล้ามเนื้อบางส่วนก่อนจะล้มตึงลงไปกองกับพื้น
สภาพของเธอราวกับจักจั่นลอกคราบ
และจักจั่นที่ถูกลอกคราบก็กำลังดิ้นทุรนทุรายคาหอกของ <ดัคน่า> อยู่
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด~~~!!?”
ใบหน้าและเนื้อในสีแดงฉานนั้นก็คืออาคาเนะ
ถลกหนังเลาะกระดูก————คำพูดนี้ก็คงไม่เกินจริงนัก
อาคาเนะซึ่งเปลือยเปล่าตัวแดงราวกับหุ่นจำลองวิทยาศาสตร์นั้นแทบจะกลายเป็นเสียสติ.....เจ็บปวด,ทรมาน,หวาดกลัว
สิ่งเหล่านี้กำลังประโคมถามเข้ากลางใจของหญิงสาวอย่างไม่หยุดยั้ง ผิดกับท่าทีของ <ดัคน่า> ซึ่งยืนมองเธอราวกับแมลงกับตัวหนึ่ง
.....จากนั้นมันจึงฉีกยิ้มเหยียดมุมปาก
“อุฮี่ฮี่ฮี่ฮี่ฮี่ฮี่.....อุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า~~~! เฮี้อกฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า~~~~~!!”
มันกำลังสนุก——เธอรับรู้ได้แบบนั้น
<ดัคน่า> ตนนี้กำลังเล่นสนุกกับเหยื่อโดยแสร้งทำตัวเองเฉื่อยชาและอ่อนแอ ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามได้ใจว่าตนนั้นเป็นผู้เหนือกว่า
มันจึงค่อยทำลายความคิดและความหวังนั้นลงแล้วเข่นฆ่าศัตรูด้วยความสนุกสนาน
“อ–อา...อ๊าาาา...อ๊าาาาาาาาาาา~~!!”
ก่อนที่อาคาเนะจะถูกปลิดชีวิตลง
เลล่าที่เสียสติก็น้าวสายธนูขึ้นใหม่อีกครั้ง หนนี้เธอเผยแววหวาดกลัวออกมาสุดหยั่งร้องไห้ทั้งน้ำตาทั้งที่หว่างขาชื้นแฉะด้วยหยาดน้ำสีอำพันสายหนึ่ง
เธอคิดอย่างเดียวว่าต้องกำจัดอีกฝ่าย,พร้อมกับดีดศรออกไปในรูปแบบของ <ท่าพลังจิต>
————ศรสามนัดซ้อนถูกยิงออกไปดุจปลายกระสุน
เปรี้ยง..!
เสียงกัมปนาทดังขึ้นในจังหวะเดียวกัน แสดงถึงผลลัพธ์ว่าเข้าเป้าอย่างหมดจด....หญิงสาวคิดอย่างนั้น
กระทั่งพอผืนน้ำซึ่งแตกกระเซ็นได้จางลง
เบื้องหน้าเธอจึงเผยร่างของอาคาเนะยืนค้ำอยู่ต่อหน้าของมัน
ธนูทั้ง 3 ดอก,นั้นถูกประทับเข้าที่ร่างสีแดงฉานต่างโล่ให้กับเกล
“ร—รุ่นพี่...? ไม่จริงน่า......”
————คันธนูผล็อยหลุดจากมือลงสู่พื้น
เลล่าแผดร้องออกมาอย่างสิ้นหวัง
“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาา~~~!!!”
ขณะเดียวกัน <ดัคน่า> ที่หัวร่อในคออยู่ก็เขมือบร่างไร้ชีวิตของอาคาเนะไปอีกคนหนึ่ง
พร้อมกันก็เดินเข้าหาหญิงสาวอย่างเนิบนาบ——จวบจนประชิดเข้าถึงตัว,มันจึงก้มลงมองเลล่าอย่างแนบชิดห่างไม่ถึง 1 เซนฯ
“ฮี่ฮี่...มาก....เฮะเฮะเฮะ...ขอมากกว่านี้......ฮะฮะฮะฮ่า~!”
ใบเอ่ยเสียงเสียดหูพร้อมเลียใบหน้าเธอจนชุ่มน้ำลายและเศษเลือดเนื้อจากซากศพ
เลล่าในตอนนี้นับว่าไม่มีสติอยู่กับตัว,แม้ไม่ถึงกับสลบ
แต่เธอก็ไม่อาจรับรู้เรื่องราวใดๆได้อีก
“.............”
เธอได้แต่เงียบกริบ,แสดงใบหน้าเลื่อนลอยออกมาอย่างไร้แก่นสาร
“.....น่า........เบื่อ........”
เกลเปล่งเสียงแหบพร่าออกมา
จากนั้นจึงอ้าปากกว้างเกิดเสียงลั่นกระดูกกรามขัดกับข้อต่อคล้ายกับปากของงูหรือสัตว์เลื้อยคลานจำพวกหนึ่ง
ดังนั้นตัวมันในตอนนี้จึงมีปากที่ห้อยลงเรียดพื้นพอจะกลืนหญิงสาวเข้าไปหมดทั้งตัวได้ภายในครั้งเดียว
.
.
“ไอม์~อินเลิฟ~วิด,เดอะ~โค่โค....”
————ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
มันเป็นความรู้สึกกดดันบางอย่างจน <ดัคน่า> ก็สัมผัส——เสียงร้องนี้ได้เรียกความสนใจจากมัน ปากที่โน้มเข้าไปครึ่งศีรษะของเลล่านั้นได้ถูกคายออก,พร้อมกับการปรากฏตัวบุคคลที่สามซึ่งเดินเข้ามาใกล้อย่างแช่มช้า
“ไอม์~อินเลิฟ~วิด,เดอะ~โค่โค....”
บุรุษวัยกลางคนชาวผิวสี....รูปลักษณ์ของชายผู้นี้นับว่าโดดเด่นจนเป็นเอกลักษณ์
ทั้งหนวดเคราที่รกหน้าและแว่นแฟชั่นซึ่งเป็นแถบรั้วขีดในแนวขวาง
ผมหนาทรงเดทร็อคนั้นกำลังผงกขึ้นลงตามจังหวะเพลงและการโยกหัว——ฝ่ามือหนานั้นยื่นไปเบื้องหน้า......
จึงเผยให้เห็น【เมอร์ริธ】ทั้ง 25 จุด,อยู่ภายในนั้น
“ไอ~ก็อทอิท~ฟอร์,เดอะ~โลว์โลว์~”
เกลยังคงยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน
ผิดกับอีกฝ่ายที่เริ่มสาวเท้าเข้ามาทีละน้อยโดยไร้ซึ่งความลังเลและความกังวล
กระทั่งทั้งสองคนอยู่ห่างกันเพียง 10 เมตร,ชายผิวสีจึงหยุดฝีเท้าลง
“ไอม์~อินเลิฟ~วิด,เดอะ~โค่โค...”
ว่าอย่างนั้น,พร้อมกับเหยียดยิ้มออกมาอย่างขบขัน————
“จงปรากฏต่อหน้าข้า【โมกขศักดิ์】”
۞۞۞
ความคิดเห็น