ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNagain ขอเกิดใหม่,พระเจ้า(ไม่)ให้

    ลำดับตอนที่ #39 : Ep.39 - Syndrome

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.55K
      99
      29 ธ.ค. 59

    UNagain.39 – Syndrome

    จงปรากฏ.....ต่อหน้าข้า———นารากะ พาราห์

    วู้ม!

    ก่อนที่คมดาบจะเข้าสัมผัสลงกลางอก หว่างกลางของทั้งสองสิ่งกลับปรากฏผืนเพลิงขึ้นสายหนึ่ง เพลิงผืนนี้เมื่อปะทะต่อพานี ทัลวาลจึงแตกโพลงออกเป็นประกายไฟ เผยวัตถุเหล็กยาวขึ้นในมือของ <ดัคน่า>.......แรงต้านจาก <อาวุธอาคมทั้งสองชิ้นส่งเสียงร้องของโลหะดังเป็นจังหวะ

    อาคาเนะรีบฆ่ามัน——”

    ฉัวะ!

    คำพูดของเบธจบลงแค่นั้น พร้อมกับศีรษะที่ปลิวไสวตามแรงขับของตัวหอกซึ่งเปลี่ยนจากต้านรับเมื่อครู่กลายมาเป็นสวนกลับภายในชั่วเสี้ยววิ หัวของเบธพอลอยคว้างไประยะหนึ่ง,จึงค่อยตกลงตามแรงโน้มถ่วงของโลก แล้วกลิ้งหลุนไปหยุดอยู่ ณ ปลายเท้าของอาคาเนะ————

    ใบหน้าสวยนั้นพะงาบปากไปมาโดยไม่รู้ว่าตนได้ตายไปแล้ว

    .....หหัวหน้า?”

    เช่นเดียวกับอาคาเนะที่อ้าปากค้างตะลึงงันกับภาพตรงหน้า รู้ตัวอีกทีร่างกายมันก็สั่นเครือด้วยความกลัว,เธอก้าวถอยหลังไปตามสัญชาตญาณ ขณะเดียวกันร่างสูงของ <ดัคน่าก็เริ่มลุกขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเดินอาดเข้าไปคว้าศีรษะของเบธมาไว้ในกำมือ

    กร้วบๆๆๆๆ..!

    จากนั้นมันจึงส่งหัวของเธอเข้าปากไปโดยลงเหลือไว้เพียงเสียงบดกระดูกกับความรู้สึกอันน่าหวาดหวั่นอยู่ภายในใจของสองสาวที่เหลืออยู่ แน่นอนว่าเพราะอาคาเนะมีประสบการณ์ที่ดีกว่า ดังนั้นสติและความคิดอ่านในการรับมือจึงเรียกได้ว่าเหนือกว่าเลเล่ที่นั่งแหมะตัวสั่นอยู่กับพื้น

    ว้ากกกกกกกก~~!”

    เธอกู่ร้องปลุกใจ,พร้อมกับวาดดาบออกไปกลางอากาศ——สิ่งนี้ก็คือ <ท่าพลังจิตซึ่งเกิดจากจินตนาการอันของมนุษย์ให้แปรเปลี่ยนเป็นรูปร่าง ดังนั้นแม้เธอจะอยู่ห่างจากมันเกือบ 6 เมตร ทว่าพอชักนำความคิดสร้างใบมีดแรงดันสูงออกมาจึงปรากฏเป็นริ้วดาบพุ่งเข้าใส่ <ดัคน่าทันที

    .....อาคาเนะมั่นใจอยู่เต็มอกว่าตนนั้นสามารถกำจัดอีกฝ่ายซึ่งเชื่องช้ากว่าได้ไม่ผิดแน่

    ————ซึ่งในความจริงแล้ว,เธอคิดผิด

    ในช่วงเวลาเกือบ 0.5 วิที่ร่างกายเฉียดปะทะต่อ <ท่าพลังจิตของอาคาเนะ <ดัคน่าก็พลันดีดตัวออกด้วยความเร็วสูงอย่างที่มันไม่เคยกระทำมาก่อนจนเกิดเป็นช็อคเวฟขึ้นราวกับภาพฉายซ้ำในชั้นบรรยากาศ ความเร็วนี้นับว่าเหนือล้ำกว่าพวก <ดัคน่าทั่วๆไปอย่างเทียบไม่ติด ขณะเดียวกันท่วงท่าที่รั้งหอกเป็นแนวตรงพร้อมกับเหยียดกายพุ่งออกไปกลายเป็นเส้นแสงนั้นก็ตัดผ่านร่างของหญิงสาวไปแล้วโผล่พ้นที่ด้านหลัง

    ............

    อาคาเนะไร้สุ่มเสียงหรือคำกล่าวใดทั้งสิ้น จากนั้นที่กลางหลังเธอจึงเผยเลือดสีฉาดขึ้นชุ่มซึมผ่านผิวเสื้อและตัวผ้า————และหากมองกลับไปที่หลังของเธอ.....

    ก็จะพบว่าเนื้อหนังนั้นกำลังเปิดโพลงออกมา เผยให้เห็นโครงร่างอันว่างเปล่าอยู่ภายใน——ร่างที่ยืนอยู่นั้นถูกค้ำยันไว้ด้วยเอ็นและกล้ามเนื้อบางส่วนก่อนจะล้มตึงลงไปกองกับพื้น

    สภาพของเธอราวกับจักจั่นลอกคราบ

    และจักจั่นที่ถูกลอกคราบก็กำลังดิ้นทุรนทุรายคาหอกของ <ดัคน่าอยู่

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด~~~!!?”

    ใบหน้าและเนื้อในสีแดงฉานนั้นก็คืออาคาเนะ

    ถลกหนังเลาะกระดูก————คำพูดนี้ก็คงไม่เกินจริงนัก อาคาเนะซึ่งเปลือยเปล่าตัวแดงราวกับหุ่นจำลองวิทยาศาสตร์นั้นแทบจะกลายเป็นเสียสติ.....เจ็บปวด,ทรมาน,หวาดกลัว สิ่งเหล่านี้กำลังประโคมถามเข้ากลางใจของหญิงสาวอย่างไม่หยุดยั้ง ผิดกับท่าทีของ <ดัคน่าซึ่งยืนมองเธอราวกับแมลงกับตัวหนึ่ง

    .....จากนั้นมันจึงฉีกยิ้มเหยียดมุมปาก

    อุฮี่ฮี่ฮี่ฮี่ฮี่ฮี่.....อุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า~~~! เฮี้อกฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า~~~~~!!”

    มันกำลังสนุก——เธอรับรู้ได้แบบนั้น

    <ดัคน่าตนนี้กำลังเล่นสนุกกับเหยื่อโดยแสร้งทำตัวเองเฉื่อยชาและอ่อนแอ ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามได้ใจว่าตนนั้นเป็นผู้เหนือกว่า มันจึงค่อยทำลายความคิดและความหวังนั้นลงแล้วเข่นฆ่าศัตรูด้วยความสนุกสนาน

    อา...อ๊าาาา...อ๊าาาาาาาาาาา~~!!”

    ก่อนที่อาคาเนะจะถูกปลิดชีวิตลง เลล่าที่เสียสติก็น้าวสายธนูขึ้นใหม่อีกครั้ง หนนี้เธอเผยแววหวาดกลัวออกมาสุดหยั่งร้องไห้ทั้งน้ำตาทั้งที่หว่างขาชื้นแฉะด้วยหยาดน้ำสีอำพันสายหนึ่ง เธอคิดอย่างเดียวว่าต้องกำจัดอีกฝ่าย,พร้อมกับดีดศรออกไปในรูปแบบของ <ท่าพลังจิต>

    ————ศรสามนัดซ้อนถูกยิงออกไปดุจปลายกระสุน

    เปรี้ยง..!

    เสียงกัมปนาทดังขึ้นในจังหวะเดียวกัน แสดงถึงผลลัพธ์ว่าเข้าเป้าอย่างหมดจด....หญิงสาวคิดอย่างนั้น กระทั่งพอผืนน้ำซึ่งแตกกระเซ็นได้จางลง เบื้องหน้าเธอจึงเผยร่างของอาคาเนะยืนค้ำอยู่ต่อหน้าของมัน

    ธนูทั้ง 3 ดอก,นั้นถูกประทับเข้าที่ร่างสีแดงฉานต่างโล่ให้กับเกล

    รุ่นพี่...ไม่จริงน่า......

    ————คันธนูผล็อยหลุดจากมือลงสู่พื้น

    เลล่าแผดร้องออกมาอย่างสิ้นหวัง

    อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาา~~~!!!”

    ขณะเดียวกัน <ดัคน่าที่หัวร่อในคออยู่ก็เขมือบร่างไร้ชีวิตของอาคาเนะไปอีกคนหนึ่ง พร้อมกันก็เดินเข้าหาหญิงสาวอย่างเนิบนาบ——จวบจนประชิดเข้าถึงตัว,มันจึงก้มลงมองเลล่าอย่างแนบชิดห่างไม่ถึง 1 เซนฯ

    ฮี่ฮี่...มาก....เฮะเฮะเฮะ...ขอมากกว่านี้......ฮะฮะฮะฮ่า~!”

    ใบเอ่ยเสียงเสียดหูพร้อมเลียใบหน้าเธอจนชุ่มน้ำลายและเศษเลือดเนื้อจากซากศพ เลล่าในตอนนี้นับว่าไม่มีสติอยู่กับตัว,แม้ไม่ถึงกับสลบ แต่เธอก็ไม่อาจรับรู้เรื่องราวใดๆได้อีก

    .............”

    เธอได้แต่เงียบกริบ,แสดงใบหน้าเลื่อนลอยออกมาอย่างไร้แก่นสาร

    “.....น่า........เบื่อ........

    เกลเปล่งเสียงแหบพร่าออกมา จากนั้นจึงอ้าปากกว้างเกิดเสียงลั่นกระดูกกรามขัดกับข้อต่อคล้ายกับปากของงูหรือสัตว์เลื้อยคลานจำพวกหนึ่ง ดังนั้นตัวมันในตอนนี้จึงมีปากที่ห้อยลงเรียดพื้นพอจะกลืนหญิงสาวเข้าไปหมดทั้งตัวได้ภายในครั้งเดียว

    .

    .

    ไอม์~อินเลิฟ~วิด,เดอะ~โค่โค....

    ————ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

    มันเป็นความรู้สึกกดดันบางอย่างจน <ดัคน่าก็สัมผัส——เสียงร้องนี้ได้เรียกความสนใจจากมัน ปากที่โน้มเข้าไปครึ่งศีรษะของเลล่านั้นได้ถูกคายออก,พร้อมกับการปรากฏตัวบุคคลที่สามซึ่งเดินเข้ามาใกล้อย่างแช่มช้า

    ไอม์~อินเลิฟ~วิด,เดอะ~โค่โค....

    บุรุษวัยกลางคนชาวผิวสี....รูปลักษณ์ของชายผู้นี้นับว่าโดดเด่นจนเป็นเอกลักษณ์ ทั้งหนวดเคราที่รกหน้าและแว่นแฟชั่นซึ่งเป็นแถบรั้วขีดในแนวขวาง ผมหนาทรงเดทร็อคนั้นกำลังผงกขึ้นลงตามจังหวะเพลงและการโยกหัว——ฝ่ามือหนานั้นยื่นไปเบื้องหน้า......

    จึงเผยให้เห็นเมอร์ริธทั้ง 25 จุด,อยู่ภายในนั้น

    ไอ~ก็อทอิท~ฟอร์,เดอะ~โลว์โลว์~”

    เกลยังคงยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน ผิดกับอีกฝ่ายที่เริ่มสาวเท้าเข้ามาทีละน้อยโดยไร้ซึ่งความลังเลและความกังวล กระทั่งทั้งสองคนอยู่ห่างกันเพียง 10 เมตร,ชายผิวสีจึงหยุดฝีเท้าลง

    ไอม์~อินเลิฟ~วิด,เดอะ~โค่โค...”

    ว่าอย่างนั้น,พร้อมกับเหยียดยิ้มออกมาอย่างขบขัน————

    จงปรากฏต่อหน้าข้าโมกขศักดิ์

    ۞۞۞

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×