ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNagain ขอเกิดใหม่,พระเจ้า(ไม่)ให้

    ลำดับตอนที่ #24 : Ep.24 - Sandbag

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.08K
      110
      29 ธ.ค. 59

    UNagain.24 – Sandbag

    ยินที่ได้รู้จัก,ชั้นเบธแล้วนายคือ...?”

    เกล...เรียกชั้นอย่างนั้นแหละ

    เธอผงกศีรษะเข้าใจ————เบธนั้นเป็นสาวผมทองวัย 20 เศษๆ แม้จะดูเด็กทว่าอายุเองก็ไล่เลี่ยกับเกลไม่มากก็น้อย......หลังจากที่เขามาถึงป้อมฝั่ง <ล่าอสุภะเกลก็ไปรายงานตัวต่อคนที่คล้ายกับหัวหน้าฝ่าย จากนั้นจึงได้ทราบว่าโดยปกติแล้วกลุ่ม <ล่าอสุภะจะมีการแบ่งทีมกันเป็น 4 ต่อหนึ่ง

    ซึ่งทางเกลเองก็ถูกจัดทีมมาให้เรียบร้อยอยู่ก่อนแล้ว

    ดังนั้นสิ่งที่เหลือให้เขาทำ ก็คือการเข้าไปแนะนำตัวต่อเหล่าเพื่อนใหม่ทั้งหลายแหล่ ซึ่งกลุ่มของเขาหากให้นับรวมตัวเองก็จะมีชาย 2 หญิง 2 เท่าเทียมกัน

    แล้วก็ตอนที่มารวมกลุ่มกันจู่ๆผู้หญิงที่ชื่อว่าเบธก็อาสาว่าขอเป็นหัวหน้ากลุ่ม ซึ่งทางนี้และคนๆอื่นก็ไม่ได้คัดค้านทุกอย่างจึงลงเอยได้ด้วยดี จวบจนไม่มีปัญหาอะไรอีก,พวกเราจึงถูกสั่งให้ทำ <ภารกิจทันที

    การเดินทางนั้น————ดูเหมือนเส้นทางจะได้รับการบุกเบิกมาก่อน จึงทำให้พื้นที่รอบด้านกลายเป็นโล่งเตียนเดินไปมาได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะหลงกลับเมืองไม่ถูก

    อีกอย่างก็เพราะมีทีมอื่นอยู่รอบด้าน,ยังไงซะความเป็นไปได้ที่จะหลงทางก็นับว่าน้อยนิด ระหว่างทางเกลก็พูดคุยกับคนในทีมซึ่งทางหนึ่งเป็นชายสวมชุดดำแบบโค้ทหนังกับหญิงสาวซึ่งสวมชุดสีแดงสดแบบช็อตเดรส ทั้งคู่นั้นเด็กกว่าเกลอยู่หลายปี,คาดคงอายุ 16-17 เห็นจะได้

    ผมคุเรไนส่วนยัยนี่อาคาเนะยินดีที่ได้พบนะ

    เห๋จะว่าไปพวกนายหน้าคล้ายๆกันนะ..?”

    อ่า,พวกเราเป็นแฝดน่ะ

    อย่างนี้นี่เอง————เกลส่งเสียงอื้มๆในลำคอ

    รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นว่าเดินทางมาเกือบ 5 กิโลเมตร รอบข้างยามนี้กลับไม่เหลือทีมอื่นให้เห็น ด้านเบธซึ่งเป็นหัวหน้าทีมนั้นกำลังจดจ่ออยู่กับแผนที่ กระทั่งพึงพอใจเธอจึงพับแผนที่เก็บเข้าอกเสื้อ

    เอาล่ะ,เรามาพักกันซักหน่อยเถอะ

    เพราะไม่มีใครคัดค้าน ทุกคนจึงก้าวไปยังไม้ใหญ่ใกล้ๆแล้วค่อยนั่งพิงอยู่กับพื้นอย่างสบายใจเฉิบ ช่วงเวลานี้เกลจึงได้สังเกตพฤติกรรมของทุกคน ในสายตาของชายหนุ่ม,เบธนั้นมีเอกลักษณ์ของผู้นำสูง ทว่าตรงนั้นกลับทำให้เธอดูเป็นคนจริงจังและขึงขังชวนให้หวั่นใจไม่น้อย ส่วนคุเรไนก็เป็นชายอารมณ์ดีที่เหมือนจะไม่ใส่ใจอะไรมากนัก ต่างกับอาคาเนะซึ่งดูจะเป็นคนเงียบออกแนวขี้อายอย่างเห็นได้ชัด

    แปะแปะ!

    หมดเวลาพักแล้ว เดินทางกันต่อเถอะ,อย่างน้อยวันนี้ควรจะได้ <อสุภะมาซักตัว

    เบธเหยียดกายยืนขึ้นอย่างแข็งขัน ทุกคนเองพอเห็นเธอลุกจึงต้องกระทำตามโดยคาดหวังว่าหากไม่เจอ <อสุภะเลยเสียคงจะดีกว่า เธอหยิบแผนที่ขึ้นมาดูอีกครั้งแล้วเอ่ย

    จุดต่อไปคือ B2 ถึงตรงนั้นก็คงประมาณ 6-7 กิโลฯได้ หวังว่าพวกนายจะไปไหวนะ?”

    ชายหนุ่มพยักหน้าก่อนจะตามด้วยคุเรไนและอาคาเนะตามลำดับ จบคำ,การเดินทางจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง หนนี้สภาพแวดล้อมเริ่มกลายเป็นแห้งแล้ง ต้นไม้รอบด้านเองก็ดูซูบเซียวอยู่เต็มไปหมด

    ......นี่คือสัญญาณว่าพวกเราได้ออกมาจากเขตเมือง

    ด้วยเหตุนี้,ทุกคนจึงอยู่ในสภาพที่ระมัดระวังตัวเต็มที่....ซึ่งก็ไม่ผิดจากที่คาดเอาไว้นัก————

    ฮู่มมมมมมมมมมมม~~!

    ทันใดนั้นก็พลันเกิดเสียงคำรามลั่นไปทั่ว

    ตั้งรูปขบวน..!” เบธสั่งการโดยอัตโนมัติ แม้อีกฝ่ายจะยังไม่ปรากฏตัว,ทว่าการตั้งเตรียมพร้อมไว้ก่อนนั้นย่อมดีกว่า ทุกคนยืนนิ่งกับที่ขณะเดียวกันก็ช่วยกันสาดส่องสายตาค้นหาเค้าร่างของ <อสุภะแม้เป็นเช่นนั้น,ทว่าพวกเขากลับรอคอยอยู่เกือบนาทีเศษก็ยังไม่พบเค้ารางของสิ่งอื่นใด

    ....เอ่อ––บางทีมันอาจจะไม่ได้อยู่แถวนี้ก็ได้นะไม่งั้นป่านนี้มันคงโผล่หัวมาแล้วล่ะ” คุเรไนทัก

    ทว่าพริบตานั้นก็บังเกิดสิ่งที่ย้อนแย้งต่อคำกล่าว————เหนือศีรษะนั้นปรากฏเงาขนาดใหญ่ขึ้นกลางวงจนสะดุ้งเฮือก เบธกับเกลหน้าเปลี่ยนสีแหงนมองขึ้นฟ้าพร้อมเพรียงกัน

    ....เป็น <อสุภะ>

    สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่กำลังร่วงลงมาด้วยความสูงเกือบ 10 เมตร————

    หลบเร็ว..!!”

    ปึงงงงงง!

    เสียงกัมปนาทดังสะท้านไปทั่วสรรพางค์ ณ จุดเดิมที่เคยยืนอยู่เมื่อครู่ถึงกับยุบลงไปกลายหลุมเกือบ 2 ฟุต ตรงจุดนั้นกลับเผยร่างของ <อสุภะขึ้นตัวหนึ่ง ร่างอันหยาบกร้านนั้นดูน่าเกลียดและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน

    ฟิ้ว~เฉียดไปๆ.....

    คุเรไนเป่าปากอย่างโล่งอก

    ทว่าเกลกลับเผยท่าทีที่ต่างกันออกไป,เขาจ้องอีกฝ่ายด้วยสายตาตื่นตระหนกพร้อมกับเผยเหงื่อกาฬขึ้นหน้าอย่างหวาดหวั่น————น้ำเสียงนั้นกลายเป็นสั่นเครือจนแหบพร่า

    คุเรไน.....นนาย...

    เอ๋?”

    คู่สนทนาเผยแววงุนงงก่อนจะก้มมองร่างตนตามที่อีกฝ่ายกระทำอยู่

    .....สิ่งที่ปรากฏ,ก็คือคุเรไนที่ตัวแหว่งไปครึ่งซีก

    น้ำเหลือง,เลือด,กระดูก,ลำไส้,ปอด,ไต ล้วนปลิ้นทะลักออกมาชวนให้สำรอก เจ้าตัวที่อื้ออึงอยู่ทำได้เพียงแค่เปล่งเสียงในลำคอคำหนึ่ง แล้วจึงล้มลงไปกองกับพื้นสิ้นใจตายไปทั้งอย่างนั้น

    พี่....!!”

    อาคาเนะเองก็ตะลึงไม่แพ้กัน,เธอกรีดร้องออกมาดังลั่น และด้วยเสียงนี้จึงทำให้เธอตกเป็นเป้าของ <อสุภะทันทีที่มันตั้งตัวได้ เท้าขนาดใหญ่จึงตบออกไปเบื้องหน้าพร้อมกับกางเล็บมือหมายบดขยี้เหยื่อตรงหน้าตน

    เปรี้ยง!

    เสียงแหวกอากาศดังปะทะจนเกิดเป็นเสียงกระทบ ทว่านี่เป็นเพียงแค่เสียงจั่วลมเท่านั้น เพราะร่างบางหญิงสาวที่ควรแหลกเละนั้นได้ถูกเกลคว้าเข้ามาจนรอดพ้นไปอย่างเฉียดฉิว

    อย่าเหม่อสิ..!”

    เกลก่นเสียงหนัก แล้วจูงมืออาคาเนะมารวมกลุ่มกับเบธซึ่งอยู่ห่างไปไม่ไกลนัก ขณะเดียวกันก็ร่ายมุทราใน <ท่าขจัดมารแบบร็อคเมทัล,แล้วว่า “น้ำเงินแทนโลหิต คมดาบแทนชะตากรรม,ไม่ว่าผู้ใดก็มิอาจรอดพ้นต่อชะตากรรมนี้————”

    จงปรากฏต่อหน้าข้าพานีทัลวาล

    วู้ม!

    บังเกิดสายน้ำก่อตัวขึ้นเบื้องหน้า เกลเข้าคว้าไว้อย่างไม่ลังเล,แล้วมวลน้ำจึงแตกโพลงกลายเป็นดาบ <สคิมิต้าร์แบบเดียวกับของเอแคร์อย่างไม่มีผิดเพี้ยน จังหวะนั้นจึงมารวมกลุ่มเบธได้สำเร็จ ตัวเธอในตอนนี้กำลังเผยแววกังวลอย่างเด่นชัด,เกลว่า “จะเอายังไงดี?”

    “....คงต้องสู้ล่ะนะ

    เธอตอบ,พลางร่ายพานีทัลวาลออกมา————เธอกระชับดาบไว้แน่นพร้อมกับจ้อง <อสุภะโดยไม่ละสายตาราวกับกลัวว่ามันจะหายไป ทางด้านเกลเองก็เช่นกัน,เขาได้แต่เฝ้าดูความเคลื่อนไหวของศัตรูอย่างหวาดวิตก

    ทันใดนั้นอีกฝ่ายจึงเริ่มเคลื่อนไหว

    ฮู่มมมมมมมมม~~!”

    มันคำรามออกมาดังไปทั่วสารทิศ,จนทุกคนสะดุ้งเฮือก แล้วพริบตานั้นมันจึงทะยานออกพร้อมกับประโคมหมัดเข้าใส่เกลอย่างหมายมั่น

    ทว่าทางนี้เองก็เตรียมตัวมาดีเช่นกัน เกลมองเห็นสิ่งที่เรียกว่า <ความคิดของศัตรูอย่างเด่นชัด ดังนั้นพอหมัดใกล้ปะทะเขาจึงฉีกตัวหลับโดยพลัน,ปล่อยให้กำปั้นนี้รับลมเปล่า พร้อมเพรียงกันเกลจึงแทงดาบจากล่างขึ้นบนเข้ากลางท้อง <อสุภะจนทะลุออกหลัง

    กี๊ซซซซซ~!”

    มันกรีดร้องพร้อมกันก็ดิ้นพล่านด้วยความเจ็บปวด จนเกลต้องผละถอยออกมายืนมอง <สคิมิต้าร์เสียบคาอยู่กลางท้องของอีกฝ่าย ตาขาวของมันปูดโปนขึ้นมาจนดูน่าขยะแขยง

    กี๊ซ..กี๊ซ..กรี๊กกกก......”

    มันส่งเสียงแปลกๆออกมา ก่อนจะลงไปเข่าแตะพื้นเผยท่าทีเหนื่อยอ่อนใกล้ตายเต็มทน จังหวะนั้นเบธจึงเดินเข้าไปใกล้ เธอง้างดาบขึ้นเหนือศีรษะ————แล้วฟาดลงกลางคอของมันไร้ซึ่งความลังเล

    ฉัวะ!

    เสียงตัดผ่านเยื่อวัตถุดังขึ้น แม้หัวกับตัวจะไม่แยกออกจากกัน,ทว่าเจ้าของร่างก็ถึงกับกระตุกสั่น แล้วซักพักจึงเอนตัวล้มพับไม่ไหวติงอีก เธอปาดแก้มที่เปื้อนเลือดอสุภะออกแล้วหันมามองเกล

    ช่วยชั้นชำแหละหน่อย

    ....อ่า

    เกลตอบรับความต้องการนั้นแล้วเดินเข้าไปหาเบธ ทางด้านอาคาเนะก็เดินไปดูศพของคุเรไนพร้อมกับเผยแววเศร้าสลดออกมา สภาพแบบนั้นหากไม่เข้าไปยุ่งซะคงจะดีกว่า คิดอย่างนั้น,แล้วชายหนุ่มจึงหันไปชำแหละเนื้ออสุภะลงกล่องทัปเปอร์แวร์ทีละส่วน————แล้วตอนนั้นเอง...

    ซากศพของคุเรไนก็พลันเปล่งเสียงออกมา

    เสียงร้องอันโหยหวน

                                                          ۞۞۞

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×