คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : Ep.24 - Sandbag
UNagain.24 – Sandbag
“ยินที่ได้รู้จัก,ชั้น【เบธ】แล้วนายคือ...?”
“【เกล】...เรียกชั้นอย่างนั้นแหละ”
เธอผงกศีรษะเข้าใจ————เบธนั้นเป็นสาวผมทองวัย
20 เศษๆ
แม้จะดูเด็กทว่าอายุเองก็ไล่เลี่ยกับเกลไม่มากก็น้อย......หลังจากที่เขามาถึงป้อมฝั่ง <ล่าอสุภะ> เกลก็ไปรายงานตัวต่อคนที่คล้ายกับหัวหน้าฝ่าย
จากนั้นจึงได้ทราบว่าโดยปกติแล้วกลุ่ม <ล่าอสุภะ> จะมีการแบ่งทีมกันเป็น 4 ต่อหนึ่ง
ซึ่งทางเกลเองก็ถูกจัดทีมมาให้เรียบร้อยอยู่ก่อนแล้ว
ดังนั้นสิ่งที่เหลือให้เขาทำ
ก็คือการเข้าไปแนะนำตัวต่อเหล่าเพื่อนใหม่ทั้งหลายแหล่
ซึ่งกลุ่มของเขาหากให้นับรวมตัวเองก็จะมีชาย 2 หญิง 2 เท่าเทียมกัน
แล้วก็ตอนที่มารวมกลุ่มกันจู่ๆผู้หญิงที่ชื่อว่าเบธก็อาสาว่าขอเป็นหัวหน้ากลุ่ม
ซึ่งทางนี้และคนๆอื่นก็ไม่ได้คัดค้านทุกอย่างจึงลงเอยได้ด้วยดี
จวบจนไม่มีปัญหาอะไรอีก,พวกเราจึงถูกสั่งให้ทำ <ภารกิจ> ทันที
การเดินทางนั้น————ดูเหมือนเส้นทางจะได้รับการบุกเบิกมาก่อน
จึงทำให้พื้นที่รอบด้านกลายเป็นโล่งเตียนเดินไปมาได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะหลงกลับเมืองไม่ถูก
อีกอย่างก็เพราะมีทีมอื่นอยู่รอบด้าน,ยังไงซะความเป็นไปได้ที่จะหลงทางก็นับว่าน้อยนิด
ระหว่างทางเกลก็พูดคุยกับคนในทีมซึ่งทางหนึ่งเป็นชายสวมชุดดำแบบโค้ทหนังกับหญิงสาวซึ่งสวมชุดสีแดงสดแบบช็อตเดรส
ทั้งคู่นั้นเด็กกว่าเกลอยู่หลายปี,คาดคงอายุ 16-17 เห็นจะได้
“ผม【คุเรไน】ส่วนยัยนี่【อาคาเนะ】ยินดีที่ได้พบนะ”
“เห๋? จะว่าไปพวกนายหน้าคล้ายๆกันนะ..?”
“อ่า,พวกเราเป็นแฝดน่ะ”
อย่างนี้นี่เอง————เกลส่งเสียงอื้มๆในลำคอ
รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นว่าเดินทางมาเกือบ 5
กิโลเมตร รอบข้างยามนี้กลับไม่เหลือทีมอื่นให้เห็น
ด้านเบธซึ่งเป็นหัวหน้าทีมนั้นกำลังจดจ่ออยู่กับแผนที่
กระทั่งพึงพอใจเธอจึงพับแผนที่เก็บเข้าอกเสื้อ
“เอาล่ะ,เรามาพักกันซักหน่อยเถอะ”
เพราะไม่มีใครคัดค้าน
ทุกคนจึงก้าวไปยังไม้ใหญ่ใกล้ๆแล้วค่อยนั่งพิงอยู่กับพื้นอย่างสบายใจเฉิบ
ช่วงเวลานี้เกลจึงได้สังเกตพฤติกรรมของทุกคน ในสายตาของชายหนุ่ม,เบธนั้นมีเอกลักษณ์ของผู้นำสูง
ทว่าตรงนั้นกลับทำให้เธอดูเป็นคนจริงจังและขึงขังชวนให้หวั่นใจไม่น้อย
ส่วนคุเรไนก็เป็นชายอารมณ์ดีที่เหมือนจะไม่ใส่ใจอะไรมากนัก
ต่างกับอาคาเนะซึ่งดูจะเป็นคนเงียบออกแนวขี้อายอย่างเห็นได้ชัด
แปะ! แปะ!
“หมดเวลาพักแล้ว
เดินทางกันต่อเถอะ,อย่างน้อยวันนี้ควรจะได้ <อสุภะ> มาซักตัว”
เบธเหยียดกายยืนขึ้นอย่างแข็งขัน ทุกคนเองพอเห็นเธอลุกจึงต้องกระทำตามโดยคาดหวังว่าหากไม่เจอ <อสุภะ> เลยเสียคงจะดีกว่า เธอหยิบแผนที่ขึ้นมาดูอีกครั้งแล้วเอ่ย
“จุดต่อไปคือ B2 ถึงตรงนั้นก็คงประมาณ 6-7 กิโลฯได้ หวังว่าพวกนายจะไปไหวนะ?”
ชายหนุ่มพยักหน้าก่อนจะตามด้วยคุเรไนและอาคาเนะตามลำดับ
จบคำ,การเดินทางจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง หนนี้สภาพแวดล้อมเริ่มกลายเป็นแห้งแล้ง
ต้นไม้รอบด้านเองก็ดูซูบเซียวอยู่เต็มไปหมด
......นี่คือสัญญาณว่าพวกเราได้ออกมาจากเขตเมือง
ด้วยเหตุนี้,ทุกคนจึงอยู่ในสภาพที่ระมัดระวังตัวเต็มที่....ซึ่งก็ไม่ผิดจากที่คาดเอาไว้นัก————
ฮู่มมมมมมมมมมมม~~!
ทันใดนั้นก็พลันเกิดเสียงคำรามลั่นไปทั่ว
“ตั้งรูปขบวน..!” เบธสั่งการโดยอัตโนมัติ แม้อีกฝ่ายจะยังไม่ปรากฏตัว,ทว่าการตั้งเตรียมพร้อมไว้ก่อนนั้นย่อมดีกว่า
ทุกคนยืนนิ่งกับที่ขณะเดียวกันก็ช่วยกันสาดส่องสายตาค้นหาเค้าร่างของ <อสุภะ> แม้เป็นเช่นนั้น,ทว่าพวกเขากลับรอคอยอยู่เกือบนาทีเศษก็ยังไม่พบเค้ารางของสิ่งอื่นใด
“....เอ่อ––บางทีมันอาจจะไม่ได้อยู่แถวนี้ก็ได้นะ? ไม่งั้นป่านนี้มันคงโผล่หัวมาแล้วล่ะ” คุเรไนทัก
ทว่าพริบตานั้นก็บังเกิดสิ่งที่ย้อนแย้งต่อคำกล่าว————เหนือศีรษะนั้นปรากฏเงาขนาดใหญ่ขึ้นกลางวงจนสะดุ้งเฮือก
เบธกับเกลหน้าเปลี่ยนสีแหงนมองขึ้นฟ้าพร้อมเพรียงกัน
....เป็น <อสุภะ>
สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่กำลังร่วงลงมาด้วยความสูงเกือบ
10 เมตร————
“หลบเร็ว..!!”
ปึงงงงงง!
เสียงกัมปนาทดังสะท้านไปทั่วสรรพางค์ ณ จุดเดิมที่เคยยืนอยู่เมื่อครู่ถึงกับยุบลงไปกลายหลุมเกือบ
2 ฟุต ตรงจุดนั้นกลับเผยร่างของ <อสุภะ> ขึ้นตัวหนึ่ง ร่างอันหยาบกร้านนั้นดูน่าเกลียดและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน
“ฟิ้ว~เฉียดไปๆ.....”
คุเรไนเป่าปากอย่างโล่งอก
ทว่าเกลกลับเผยท่าทีที่ต่างกันออกไป,เขาจ้องอีกฝ่ายด้วยสายตาตื่นตระหนกพร้อมกับเผยเหงื่อกาฬขึ้นหน้าอย่างหวาดหวั่น————น้ำเสียงนั้นกลายเป็นสั่นเครือจนแหบพร่า
“ค–คุเรไน.....น–นาย...”
“เอ๋?”
คู่สนทนาเผยแววงุนงงก่อนจะก้มมองร่างตนตามที่อีกฝ่ายกระทำอยู่
.....สิ่งที่ปรากฏ,ก็คือคุเรไนที่ตัวแหว่งไปครึ่งซีก
น้ำเหลือง,เลือด,กระดูก,ลำไส้,ปอด,ไต
ล้วนปลิ้นทะลักออกมาชวนให้สำรอก
เจ้าตัวที่อื้ออึงอยู่ทำได้เพียงแค่เปล่งเสียงในลำคอคำหนึ่ง
แล้วจึงล้มลงไปกองกับพื้นสิ้นใจตายไปทั้งอย่างนั้น
“พี่....!!”
อาคาเนะเองก็ตะลึงไม่แพ้กัน,เธอกรีดร้องออกมาดังลั่น
และด้วยเสียงนี้จึงทำให้เธอตกเป็นเป้าของ <อสุภะ> ทันทีที่มันตั้งตัวได้
เท้าขนาดใหญ่จึงตบออกไปเบื้องหน้าพร้อมกับกางเล็บมือหมายบดขยี้เหยื่อตรงหน้าตน
เปรี้ยง!
เสียงแหวกอากาศดังปะทะจนเกิดเป็นเสียงกระทบ
ทว่านี่เป็นเพียงแค่เสียงจั่วลมเท่านั้น เพราะร่างบางหญิงสาวที่ควรแหลกเละนั้นได้ถูกเกลคว้าเข้ามาจนรอดพ้นไปอย่างเฉียดฉิว
“อย่าเหม่อสิ..!”
เกลก่นเสียงหนัก
แล้วจูงมืออาคาเนะมารวมกลุ่มกับเบธซึ่งอยู่ห่างไปไม่ไกลนัก
ขณะเดียวกันก็ร่ายมุทราใน <ท่าขจัดมาร> แบบร็อคเมทัล,แล้วว่า “น้ำเงินแทนโลหิต คมดาบแทนชะตากรรม,ไม่ว่าผู้ใดก็มิอาจรอดพ้นต่อชะตากรรมนี้————”
“จงปรากฏต่อหน้าข้า【พานี•ทัลวาล】”
วู้ม!
บังเกิดสายน้ำก่อตัวขึ้นเบื้องหน้า
เกลเข้าคว้าไว้อย่างไม่ลังเล,แล้วมวลน้ำจึงแตกโพลงกลายเป็นดาบ <สคิมิต้าร์> แบบเดียวกับของเอแคร์อย่างไม่มีผิดเพี้ยน
จังหวะนั้นจึงมารวมกลุ่มเบธได้สำเร็จ ตัวเธอในตอนนี้กำลังเผยแววกังวลอย่างเด่นชัด,เกลว่า “จะเอายังไงดี?”
“....คงต้องสู้ล่ะนะ”
เธอตอบ,พลางร่าย【พานี•ทัลวาล】ออกมา————เธอกระชับดาบไว้แน่นพร้อมกับจ้อง <อสุภะ> โดยไม่ละสายตาราวกับกลัวว่ามันจะหายไป
ทางด้านเกลเองก็เช่นกัน,เขาได้แต่เฝ้าดูความเคลื่อนไหวของศัตรูอย่างหวาดวิตก
ทันใดนั้นอีกฝ่ายจึงเริ่มเคลื่อนไหว
“ฮู่มมมมมมมมม~~!”
มันคำรามออกมาดังไปทั่วสารทิศ,จนทุกคนสะดุ้งเฮือก
แล้วพริบตานั้นมันจึงทะยานออกพร้อมกับประโคมหมัดเข้าใส่เกลอย่างหมายมั่น
ทว่าทางนี้เองก็เตรียมตัวมาดีเช่นกัน
เกลมองเห็นสิ่งที่เรียกว่า <ความคิดของศัตรู> อย่างเด่นชัด
ดังนั้นพอหมัดใกล้ปะทะเขาจึงฉีกตัวหลับโดยพลัน,ปล่อยให้กำปั้นนี้รับลมเปล่า
พร้อมเพรียงกันเกลจึงแทงดาบจากล่างขึ้นบนเข้ากลางท้อง <อสุภะ> จนทะลุออกหลัง
“กี๊ซซซซซ~!”
มันกรีดร้องพร้อมกันก็ดิ้นพล่านด้วยความเจ็บปวด
จนเกลต้องผละถอยออกมายืนมอง <สคิมิต้าร์> เสียบคาอยู่กลางท้องของอีกฝ่าย ตาขาวของมันปูดโปนขึ้นมาจนดูน่าขยะแขยง
“กี๊ซ..กี๊ซ..กรี๊กกกก......”
มันส่งเสียงแปลกๆออกมา
ก่อนจะลงไปเข่าแตะพื้นเผยท่าทีเหนื่อยอ่อนใกล้ตายเต็มทน จังหวะนั้นเบธจึงเดินเข้าไปใกล้
เธอง้างดาบขึ้นเหนือศีรษะ————แล้วฟาดลงกลางคอของมันไร้ซึ่งความลังเล
ฉัวะ!
เสียงตัดผ่านเยื่อวัตถุดังขึ้น
แม้หัวกับตัวจะไม่แยกออกจากกัน,ทว่าเจ้าของร่างก็ถึงกับกระตุกสั่น
แล้วซักพักจึงเอนตัวล้มพับไม่ไหวติงอีก เธอปาดแก้มที่เปื้อนเลือดอสุภะออกแล้วหันมามองเกล
“ช่วยชั้นชำแหละหน่อย”
“....อ่า”
เกลตอบรับความต้องการนั้นแล้วเดินเข้าไปหาเบธ
ทางด้านอาคาเนะก็เดินไปดูศพของคุเรไนพร้อมกับเผยแววเศร้าสลดออกมา
สภาพแบบนั้นหากไม่เข้าไปยุ่งซะคงจะดีกว่า คิดอย่างนั้น,แล้วชายหนุ่มจึงหันไปชำแหละเนื้ออสุภะลงกล่องทัปเปอร์แวร์ทีละส่วน————แล้วตอนนั้นเอง...
ซากศพของคุเรไนก็พลันเปล่งเสียงออกมา
เสียงร้องอันโหยหวน
۞۞۞
ความคิดเห็น