ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNagain ขอเกิดใหม่,พระเจ้า(ไม่)ให้

    ลำดับตอนที่ #23 : Ep.23 - Sandbag

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.23K
      111
      29 ธ.ค. 59

    UNagain.23 – Sandbag

    ไม่ใช่เวลาเตะเธอต้องกดเอวลงต่ำแล้วขาก็ต้องขึ้นสูงให้มากกว่านี้!”

    ครับ!”

    บรรยากาศเช่นเดิมแต่เวลาคือช่วงเช้า 6 นาฬิกา————เกลในตอนนี้กำลังฝึกสิ่งเรียกว่า <เทควันโดอยู่

    แน่นอนว่าผู้สอนก็ไม่มีทางเป็นใครอื่นได้นอกจากฉี

    แปะแปะ!

    พอเท่านี้ก่อนพักได้

    ขอบคุณครับ!”

    ทั้งโคและเกลต่างตะโกนขึ้นสุดเสียง ฉีเผยแววพอใจก่อนจะเดินไปนั่งจิบกาแฟอยู่มุมหนึ่ง ทางด้านสองหนุ่มพอได้รับสัญญาณให้พักทั้งคู่จึงลงไปนอนแผ่กับพื้นหญ้าแทน————สถานที่ๆเขาฝึกอยู่นี้ก็คือสวนหลังบ้าน แม้จะมีพื้นที่ราวๆ 4-5 เสื่อ ทว่าตรงจุดนั้นกลับไม่ใช่ปัญหาต่อการฝึกเลยแม้แต่น้อย

    ......ย้อนกลับไปวันก่อน,เพราะฉีบอกจะสอนวิชาให้ ด้วยเหตุนี้พอเช้ามืดเกือบตีห้า เกลจึงถูกปลุกขึ้นมาอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นัก

    อีกเรื่องหนึ่งที่ชวนตงิดใจก็คืออาหารเมื่อวาน

    เพราะพูดคุยอะไรไปเรื่อยเปื่อยถึงได้รู้ความจริงว่าเนื้อสัตว์ของที่นี่ก็คือซาก <อสุภะดูเหมือนว่าการล่า <อสุภะเองก็จะเป็น <ภารกิจด้วยเช่นกัน กระนั้น,โดยส่วนใหญ่อาหารของที่นี่ก็คือพืชผักเสียซะมากกว่า แม้เขาจะไม่รู้ว่าคนที่นี่ไปเอาเมล็ดพืชพันธุ์มาจากไหน ทว่าโดยรวม,เพราะการเก็บพืชผักมันไม่มีความเสี่ยงเหมือนกับการล่า <อสุภะดังนั้นทุกคนจึงนิยมทานอาหารจำพวกนี้เสียซะเป็นส่วนใหญ่

    แฮ่ก...แฮ่ก...เหนื่อยเป็นบ้า..แฮ่ก...”

    ฮะฮะ.....แต่เพราะแบบนั้นแหละ..การฝึกของคุณฉีถึงได้ผลไงล่ะ

    ก็นะ,อย่างที่โคว่า ทั้งที่เพิ่งซ้อมได้เพียงแค่ชั่วโมงกว่าๆ ทว่าวิธีการสู้และความคิดอ่านต่างๆกลับผิดแผกไปจากเดิม ทั้งเข้าใจหลักการและการปฏิบัติได้ดียิ่งกว่าเก่าจนเห็นได้ชัด

    ตอนนี้หากให้สู้กับลิโป้ใหม่ก็คิดว่าคงพอหลบการจู่โจมแบบนั้นได้บ้าง

    แปะแปะ!

    เอ้า,ครบ 5 นาทีแล้ว.....ลุกๆๆ

    ฉีกลับมาอีกครั้ง,หนนี้มาพร้อมกับเทียนเหมยและในมือก็ถือดาบไม้อยู่สองเล่ม เล่มหนึ่งส่งให้โคส่วนอีกเล่มก็ยื่นให้เกล “คราวนี้ชั้นจะให้พวกเธอสู้กัน,ใครดาบโดนตัวก่อนก็ถือว่าแพ้ ไม่ต้องห่วงว่าจะตาย,เพราะทางนี้มีแพทย์ฝีมือดีมาด้วย ดังนั้นก็สู้ให้เต็มที่ล่ะ” ว่าอย่างนั้นแล้วเทียนเหมยจึงยิ้มหวานขึ้นมุมปาก

    โคจับดาบไม้พลิกไปมาแล้วว่า

    ถ้าชั้นชนะก็อย่างมาโทษกันล่ะ

    มั่นใจจังเลยนะ...

    โคหัวเราะในคอก่อนจะก้าวเว้นระยะออกไปราว 10 เมตร หว่างกลางปรากฏพวกฉียืนอยู่,เขายกมือขึ้นเหนือหัว จากนั้นจึงประกาศเสียงดังชัด

    เริ่มได้..!”

    พร้อมเพรียงกับเสียง โคพลันทะยานออกชี้ดาบไม้เข้าใส่ในท่าแทงตรง เพราะฝึกอ่านความเคลื่อนไหวมาจึงพอรู้ได้ว่าควรทำเช่นไร เขาปล่อยให้โคจู่โจมมาในลักษะนั้นอย่างทื่อด้าน....กระทั่งก่อนที่ปลายดาบเกือบสัมผัสอกเพียง 6 เซนฯ เกลจึงพลิกตัวออกข้างทำให้ดาบของโคนั้นกลายเป็นจั่วลม

    จังหวะนี้คือโอกาส————เกลเผยประกายวาวโรจน์ง้างดาบขึ้นเตรียมฟาดลงกลางหลัง

    อย่าฝัน!”

    พลั่ก!

    ไม่ทันคาดคิด,โคกลับทิ้งตัวลงโดยยันพื้นไว้มือหนึ่ง พริ้มกันกับปลายเท้าซึ่งเสยเท้าขึ้นฟ้าเตะเกลจนหน้าหัน

    อ่อก..!?”

    ชายหนุ่มพอถูกเคาท์เตอร์แอทแทคอย่างจังจึงกลายเป็นความมึนงงผสมกับความเจ็บปวด ทว่าเพียงชั่วเสี้ยววิที่เสียไปก็กลับกลายเป็นโอกาสให้โคได้ตั้งตัวอีกครั้ง

    เปรี้ยง!

    นับว่าโชคดีที่เกลเองก็เดาสถนการณ์ได้ถูกต้อง————หลังจากเตะเสยแล้วการวาดดาบก็คงจะเป็นแบบหวดขึ้น ดังนั้นเขาจึงตั้งรับด้วยดาบไม้อย่างทันท่วงที กระนั้นแม้พอจะอ่านกระแสเกมได้,ทว่าโคซึ่งฝึกนักมาก่อน อย่างไรก็ย่อมมีเทคนิคหรือแบบแผนที่แยบยลกว่า.....หมอนั่นฉีกยิ้มเหี้ยม

    พร้อมกับเตะตัดขาเกลจนล้มหน้าคะมำพื้น

    เสร็จชั้นล่ะ..!”

    อีกฝ่ายแผดร้องอย่างหมายมั่น ดาบในมือถูกวาดทแยงเฉียงเข้าชายโครงเกลอย่างหมดจดในขณะที่เสียหลัก เสียงตีของวัตถุดังแผ่ซ่านเข้าเนื้อหนังจนเกลร้อง ‘โอ๊ย!’ ออกมาคำหนึ่ง

    ชั่วขณะผลการตัดสินจึงกลายเป็นกระจ่างชัด

    จบการแข่งขัน,โคเป็นฝ่ายชนะ!”

    .

    .

    ชั้นชนะว่ะเกล,เพราะงั้นขอเนื้อในส่วนของนายล่ะนะ

    เออๆๆ...เฮ้อ~”

    ฮ่าฮ่าฮ่าเอาน่า,ร่าเริงไว้สิ....ยังไงนายก็สามารถแข็งแกร่งขึ้นได้มากกว่านี้อยู่แล้วล่ะนะ

    มันจะจริงเร้อ..?”

    มื้ออันสงบสุข,เกลกำลังทำหน้าเซ็งจ้องมองข้าวในจานซึ่งมีแต่ผักสดคล้ายกับยำสลัด

    ก็ไม่แปลกนะ,คุณน่ะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีประสบการณ์ต่อยตีมาก่อนเลยนี่ฉะนั้นการจะแพ้โคซึ่งอยู่ที่นี่มาเกือบ 2 ปีได้น่ะยังไงก็แทบจะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

    คลาร่าว่า,สาวน้อยคนนี้แม้จะพูดเหมือนตำหนิ ทว่าส่วนหนึ่งหากฟังดีๆก็คือการปลอบใจว่าอย่าไปคิดมากอะไรทำนองนั้น ดูเหมือนท่าทางปากไม่ตรงกับใจนั่น....ดูๆไปก็ไม่ได้เลวร้ายมากนัก

    หยุดมองชั้นซักทีค่ะ,มันน่าขยะแขยงนะคะ

    .......เลวร้ายสุดๆเลยนี่หว่า

    แต่ก็ไม่เลวเลยนะ ทั้งที่ไม่มีประสบการณ์แท้ๆแต่เกลเกลก็ยังอุตส่าห์สู้ได้ขนาดนั้น” เทียนเหมยว่า,ส่งให้ฉีฉีกยิ้มขึ้น “ก็เพราะชั้นเป็นสอนยังไงล่ะ” ว่าเช่นนั้น,แล้วจึงหัวร่อออกมาส่งให้เกลฝืนยิ้มตามเล็กน้อย

    ว่าแต่,ทั้งที่ฝึก <เทควันโดแท้ๆ แต่ไหงถึงมาสู้กันด้วย <ดาบล่ะเนี่ย?

    แม้จะข้องใจตรงจุดนั้น ทว่าเกลก็ไม่คิดจะเอ่ยออกมาให้มันเสียมารยาท จากนั้นเทียนเหมยจึงทัก “จริงด้วยสิ,เกลเกล เมื่อกี้นี้น่ะมี <ภารกิจส่งมาถึงนายแล้วล่ะ” เธอว่าแล้วยื่นซองจดหมายให้ พอรับมาเปิดดูเขาจึงเห็นเอกสารใบหนึ่ง ในนั้นถูกเขียนเป็นตารางงานคร่าวๆต่อวัน

    Mon.

    Tues.

    Wed.

    Th.

    Fri.

    Sat.

    Su.

    ล่า <อสุภะ>

    9.00-18.00

    ประตูหลัก

     ลาดตระเวน

    9.00-20.00

    ประตูหลัก

     ขนส่ง

    N/A

    เขต 4

      

    -

     จิปาถะ

    N/A

    เขต 7

    เกษตร

    8.00-N/A

    เขต 10

     

    -

     

    นี่คือภารกิจ...สำหรับผมงั้นเหรอครับ?”

    อืม,ส่วนช่องวันที่มี <-> อย่างพฤหัสกับอาทิตย์น่ะหมายถึงฟรีไทม์ให้นายได้หยุดพักยังไงล่ะ...อืม,วันนี้คือวันจันทร์ ดูเหมือนว่านายจะต้องเหนื่อยหน่อยล่ะนะ

    เกลผงกศีรษะรับฟัง จากนั้นทานอะไรเสร็จสรรพเขาจัดการอาบน้ำล้างหน้าแต่งตัวให้เรียบร้อย หนนี้เสื้อผ้าที่สวมอยู่คือเสื้อคอกลมแขนกุดกับกางเกงวอร์มผ้ายืด เพราะฉีเล่าว่าหากเป็น <ภารกิจต่อสู้ก็ควรใส่ชุดที่มันเคลื่อนไหวสะดวกหน่อย ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเลือกชุดนี้มาโดยเฉพาะ

    หลังจากแต่งตัวเสร็จเทียนเหมยก็เข้ามาทัก

    ตะกี้นอกจากจดหมายแล้วก็ยังมีพัสดุส่งมาเป็นดาบกระดูกของนายด้วยล่ะ แต่ของแบบนั้นมันไม่ค่อยจะทนซักเท่าไหร่หรอก....เพราะงั้นเอานี่ไปสิ

    เธอยื่นดาบมาให้————เป็นดาบจีนคมเดียวซึ่งสวมฝักหนังเอาไว้ดูกระชับมือ

    ดาบจริงคงมีประโยชน์กว่าล่ะนะ

    ...นั่นสินะครับ

    เกลยื่นมือไปรับพลางกล่าวขอบคุณ ดูเหมือนวันนี้นอกจากฉีกับคลาร่าแล้ว,คนอื่นๆก็ต้องไปทำ <ภารกิจกันหมด กล่าวคือทั้งสามคนอันได้แก่ โค,เทียนเหมย และเกลนั้นล้วนต้องออกไปข้างนอกกันทั้งสิ้น

    เทียนเหมยไปเขต 7 รับงาน <จิปาถะส่วนโคนั้นทำงาน <ลาดตระเวนจึงต้องไปยังประตูหลักเช่นนั้นกับเกล เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้วทั้งสามจึงบอกลาฉีกับคลาร่าก่อนจะแยกย้ายกันไปตามทางของตนเอง

    งั้นชั้นไปก่อนนะ

    เทียนเหมยว่าก่อนจะแบกทางกับโคและเกลไป ทั้งสองเองก็โบกมือลาแล้วก้าวเดินไปยังประตูหลักของเมือง ซึ่งประตูหลักของเมืองนั้นมีทั้งสิ้นสี่ทิศ สำหรับพวกเขาการเลือกไปยัง <ประตูตะวันออกไม่ก็ <ประตูตะวันตกจะถือว่าเป็นทางที่ใกล้สุด————ดังนั้นพอเลือกไปทาง <ประตูตะวันออก>

    .....เพียงครู่เดียวพวกเขาก็มาถึง

    คนเยอะน่าดูเลยนะ

    ก็เป็นงี้แหละ”————โคหัวเราะร่วนจากนั้นจึงอุทานขึ้น

    อ๊ะ,เฉียดลืมไปเลย...เอ้านี่!” เขาว่าพลางยื่นแผ่นโน้ตมาให้

    นี่มัน..?”

    อาคมน่ะ,ชั้นจดบทร่ายสำคัญๆเอาไว้ให้....เพราะกลัวนายจำไม่ได้ยังไงล่ะ

    เห๋งั้นก็ขอบใจนะ

    เกลรับไว้,พอมองดูในนั้นก็พบว่าจดไว้ถึง 3 บทด้วยกัน คือจิวาลกาจอล์】【พานีเบนนี่และพานีทัลวาลถ้าจำไม่ผิด....บทสุดท้ายนั่นน่าจะเป็น <อาคมเรียกอาวุธล่ะมั้ง?————เกลนึก

    แล้วเจอกันเว้ย..!”

    โคว่าก่อนจะเดินไปยังป้อมซึ่งอยู่บริเวณมุมหนึ่งของประตูหลัก ตรงจุดนั้นมีป้ายเขียนว่า <กลุ่มลาดตระเวนเอาไว้ซึ่งพอมองไปอีกฝั่งก็จะพบป้อมที่เหมือนกันแบบไม่มีผิดเพี้ยนเขียนว่า <กลุ่มล่าอสุภะเอาไว้อยู่เช่นกัน

    เราเองก็ต้องไปแล้วสิ

    เกลพึมพำกับตนก่อนจะวิ่งเยาะไปยังป้อมฝั่งซ้ายอย่างแช่มช้า————ขณะเดียวกันที่มุมมืดหนึ่งกลับปรากฏเค้าร่างของบุคคลที่ยากระบุว่าเป็นชายหญิงขึ้นอย่างลับๆ

    คนๆนี้กำลังจ้องเกลอย่างมีเลศนัยบางอย่าง

    ......พร้อมกับฉีกยิ้มออกมาราวกับขบขันในบางสิ่ง

    ۞۞۞

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×