คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #116 : Ep.34 - Anemone
UNagain.34 - Anemone
ปัง!
ประตูสำนักเปิด ร่างกายสะบักสะบอมของกริชปรากฏขึ้นให้เห็น
ผู้คนจำนวนมากแห่มามุงก่อนจะนำตัวเขาไปรักษา
ทหารประจำการซึ่งแบกตัวชายหนุ่มมาได้แจ้งให้แก่เจ้าสำนักว่าพบกริชนอนสลบอยู่หน้าทางเข้าเมือง
ต้วนฮุ่ยตาเบิ่งโพลงร่ำร้อง “ศิษย์ข้า!?” มันหันขวับ
“เกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร!”
“รอถามจากศิษย์ท่านเถอะ”
จางลี่เจ้าสำนักยืนมองอย่างวิตก “มีคนเพียงเท่านี้เรอะ?” ส่วนทหารยามก็พยักหน้า
สุดท้ายเมื่อไม่ได้ความอะไรอีก เขาจึงปล่อยตัวไป “มีศิษย์ซึ่งติดตามมันไปสี่คน
ดูท่านี้คงเป็นเรื่องใหญ่เสียแล้ว”
ทุกคนได้แต่รอเวลาให้ชายหนุ่มตื่นขึ้น
———กระทั่งวันถัดมา
“อ-อึก...” เสียงครางของกริช
ส่งผลให้คนรับใช้สะดุ้งตื่น จากนั้นไม่นานพวกผู้อาวุโสก็พลันปรากฏขึ้นรายล้อมเขา “...ขอคารวะท่านประมุข” จางลี่ผ่อนมือไม่ยี่ระ
“พักผ่อนเถอะ
ทว่าก่อนหน้านั้นเจ้าช่วยเล่าเรื่องได้รึไม่?”
“ครับ ในระหว่างที่ปฏิบัติภารกิจ
ผมได้ถูกลอบโจมตีจากศัตรูผู้หนึ่ง”
“ผู้เดียวงั้นเรอะ!? เป็นไปไม่ได้!
เจ้าในตอนนี้นับว่าแข็งแกร่งระดับ 1ใน3
ของสำนักหากไม่นับเหล่าผู้อาวุโส” ต้วนฮุ่ยทำท่าตกตะลึง “ซ้ำเจ้ายังพาศิษย์อีกสี่คนไปด้วย คนที่ทำร้ายเจ้ามันเป็นใครกัน!”
“เป็นอสูรแปดชั้น...เกลครับ”
ทันใดนั้นทุกคนก็ถึงกับอื้ออึง
ระดับอสูรแปดชั้นนั้นต่อให้เป็นเจ้าสำนักก็ยังต้องยำเกรงและหวาดหวั่น
เขากลืนน้ำลายเอื้อก “ที่เอ่ยมาเป็นเรื่องจริงเรอะ?”
“ครับ
มันบอกจะทำลายล้างเมืองนิรยบาลแล้วขึ้นปกครองแทนท่านยามะ
โชคดีนักที่ผมสามารถหลบหนีออกมาได้ กระนั้นบาดแผลก็ถือว่าสาหัสไม่น้อย”
“บัดซบ! เจ้าอสูรนั่นนับเป็นตัวอะไร!?
กล้าดีขนาดไหนถึงมาเทียบชั้นกับท่านยามะ!”
ต้วนฮุ่ยแผดร้องอย่างเดือดดาล หนึ่งในผู้อาวุโสอังกอร์ทำท่าคำนึง
“นี่ถือเป็นเรื่องใหญ่
ความสามารถของมันเคยบุกเมืองนิรยบาลสำเร็จมาแล้วหนหนึ่ง แม้จะไม่สำเร็จ แต่ก็ไม่ถึงขนาดเป็นไปไม่ได้”
ผู้อาวุโสมาคัสเอ่ยสำทับ
“ความสามารถของมันไม่ใช่เรื่องที่จะล้อเล่นได้
ประมุขจาง”
“อ่า ข้าจักนำเรื่องนี้ไปแจ้งแก่ท่านยามะเอง
ส่วนเจ้าก็พักผ่อนตามเดิมเถิด”
ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด เหล่าอาวุโสก็รีบมุ่งหน้าออกจากหอพักของกริช
หลงเหลือเพียงแค่ชายหนุ่มซึ่งกำลังนั่งนิ่งเงียบมองตามหลังไป
“......”
.
.
.
“เป็นเช่นนั้นเรอะ?”
“ขอรับ”
จางลี่ซึ่งกำลังคุกเข่ากับพื้นก้มหน้าลง
ส่วนหญิงสาวนามว่ายามะก็กำลังเคี้ยวมันฝรั่งทอดดังหงับๆอยู่ “เอาเถอะ
ข้าขอบใจเจ้าแล้วกันที่มาเตือน” นางเหลือบมองราฟาเอล “ฝากด้วยล่ะ”
“น้อมรับคำสั่งครับ”
ท่าทีเฉยชาของหญิงสาวทำเอาจางลี่ต้องอึ้งนิดๆ
———สมแล้วที่เป็นท่านยามะ!
“อ่อ แต่เผื่อไว้ด้วยล่ะว่าอาจเกิดเหตุฉุกเฉิน” ยามะชี้ “เจ้าจงเตรียมกลุ่มศิษย์ที่จะทำหน้าที่ปกป้องเมืองไว้จำนวน
500 ตน ส่วนอีกสองสำนักที่เหลือ ข้าจักนำเรื่องไปบอกเอง”
“ขอรับ!”
จางลี่คารวะหนหนึ่งก่อนจะก้าวเดินออกมา มันคิดวิตก ศิษย์ 500 คนเชียว?
จากนั้นจึงเหลือบมองกระบี่ข้างกายอย่างเงียบงัน “หวังว่าทุกอย่างจะราบรื่น”
มันพึมพำ
ทางด้านสำนักกริชนั้นกำลังเดินสวมผ้าแล้วก้าวเดินออกจากห้องเพื่อไปยังโรงฝึก
“กริช!”
ทันใดนั้นเขาจึงผมกับแพทเข้าอย่างพอดิบพอดี
ชายหนุ่มยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะสังเกตเห็นผู้ที่ตามหลังมาด้วย
ใบหน้าของมันกลับกลายเป็นถมึงทึง
“.....คารวะศิษย์พี่หลิว”
“อืม”
———เป็นหลิวฟงเหนือที่มันเกลียดชัง!
“อาการนายเป็นยังไงบ้าง?”
“อ่า ก็ไม่เท่าไหร่หรอก สบายๆน่ะหายห่วง”
“งั้นเหรอ? แล้วนี่นายจะไปไหนน่ะ
อาการหายดีแล้วไง?”
“ก็ไม่อยากจะนั่งนอนเฉยๆ
เลยคิดจะออกไปยืดเส้นยืดสายที่โรงฝึกน่ะ ไปไหม?”
“หา!? นี่นายเพี้ยนรึไง! อาการก็ยังไม่หายดีแท้ๆ แล้วชั้นเองก็มีซ้อมกับศิษย์พี่ด้วย เพราะงั้น––”
“ว่าไงนะ?”
“.........!?”
ทันใดนั้นสายตาแข็งกร้าวเต็มไปด้วยแรงอาฆาตก็พลันปรากฏออกมาจากสายตาของชายหนุ่ม
แพทถึงกับสะดุ้งเฮือก ส่วนหลิวฟงก็หรี่ตาลง แล้วทัก
“เช่นนั้นเจ้าก็มาด้วยกันสิ”
———กริชหันมองอย่างฉงน ก่อนจะเปล่งประกายวาวโรจน์
“ศิษย์น้องพร้อมรับคำชี้แนะ!”
.
.
“ข้าจะต่อให้ โดยใช้เพียงแค่มือเดียว”
“.....แล้วแต่ศิษย์พี่เถอะ
หากท่านไม่กลัวเสียใจภายหลังก็อย่าหาว่าศิษย์น้องไม่เตือน!” ตอนนี้ทั้งคู่กำลังกำศาสตราในมือไว้แน่น
จากนั้นชายหนุ่มจึงตวัดดาบทะยานเข้าหลิวฟง
ป่ง!
หนุ่มแดนมังกรรับไว้อย่างเฉยเมย “ไร้น้ำหนักเสียจริง” จากนั้นมันจึงหมุนควงเบี่ยงวิถีดาบ
ฟาดเข่าตอกลงกลางอก “อุ๊ก..!?” กริชถึงกับจุก
กระนั้นเขาก็ตั้งสติหวดดาบกลับไป วืด! ผลที่ได้คือจั่วลม
“ฝีมือเจ้าด้อยกว่าศิษย์น้องแพทเสียอีก”
“ว่าไงนะ!?”
ทันใดนั้นสีหน้าไม่พอใจทุนเดิมก็พลันเพิ่มทบทวียิ่งขึ้นไปอีก “ฮ่าห์!” กริชแทงดาบไม้ออกไป
กระนั้นหลิวฟงก็พริ้วหลบอย่างสบาย แล้วสวนด้วยกำปั้น กริชรับไว้
ก่อนจะเตะเสยปลายคางสวน เพราะคาดการณ์อยู่แล้วก็ดีอีกฝ่ายจึงสามารถหลบพ้น
“จงปรากฏต่อหน้าข้า【วาตะ】!”
ทว่าตอนนั้นสายลมหอบหนึ่งกลับปรากฏขึ้นที่ปลายฝ่าเท้า
จนกลายเป็นการเพิ่มระยะจู่โจม หลิวฟงเหนือไม่ทันระวังลอบเบิกตากว้าง เปรี้ยง! มันถูกเตะเสยจนล้มกระเด็น
“ศิษย์พี่!? กริช! นี่นายทำบ้าอะไรเนี่ย!?”
“ทำอะไร? ชั้นก็แค่ใช้อาคมพวกนายไม่ได้ตั้งกฏเอาไว้นี่
ถูกไหม?”
“ดูท่าเจ้าจะเป็นพวกเจ้าเล่ห์เพทุบายดังที่เขาว่าไว้จริงๆ”
หนนี้กลับเป็นหลิวฟงที่แย้งขึ้น “เหอะ! พูดไปเถอะสุดท้ายนายก็แพ้ชั้นอยู่ดีนี่
จริงไหม!?” ทันใดนั้นสายตาของอีกฝ่ายกลับกลายเป็นคมกร้าว
แล้วในชั่วพริบตานั้น
“เช่นนั้นข้าขอใช้อาคมด้วยก็แล้วกัน”
เปรี้ยง!
ทันใดนั้นร่างของกริชก็ถึงกับลอยละลิ่วไปปะทะกับกำแพงหนา “อ่อก..!” ชายหนุ่มน้ำลายกระเซ็นก่อนจะทรุดกับพื้นสะกดความเจ็บปวดไว้
“ก-แก...”
“ไม่ต้องห่วง ข้ายั้งมือไว้ให้แล้ว นี่คืออาคมระดับ 12
จุด【วาตะ • พาระห์】”
ในมือของมันปรากฏหอกสีเขียวมรกตให้เห็น
———หลิวฟงคำราม
“มาต่อยกสองกันเถิด ศิษย์น้อง”
۞۞۞
ความคิดเห็น