ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNagain ขอเกิดใหม่,พระเจ้า(ไม่)ให้

    ลำดับตอนที่ #115 : Ep.33 - Anemone

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 598
      37
      19 ก.พ. 61

    UNagain.33 - Anemone

    พวกเชสเซอร์จัดเตรียมเก้าอี้ให้ ขณะเดียวกันในคฤหาสถ์หลังนี้ก็มีคนใช้ให้เห็นอยู่ คาดว่าพวกเขาเองก็เป็นอันเดธ แต่น่าจะเป็นรูปแบบทั่วไปเท่านั้น “เชิญพูดเลย” บลูซชร่างสูงว่าอย่างนั้น

    อยากให้เป็นพันธมิตรด้วยน่ะ

    ———ตอนนั้นทุกคนจึงหยุดชะงัก

    โดยเฉพาะสายตาของรูปแบบควีนบนชั้นสองนั้นยิ่งแล้วใหญ่ เต็มไปด้วยแรงอาฆาต เกลตระหนักเช่นนั้นก่อนจะเอ่ย “ชั้นไม่ติดค้างเรื่องที่พวกนายฆ่าบ็อบหรอกนะ” จากนั้นมาร์กาเร็ตหนึ่งในโฟลทเอชจึงพูดเสียงเรียบ “นั่นหาใช่เหตุสำคัญ ประเด็นคือทำไมพวกข้าต้องเป็นพันธมิตรกับเจ้า?”

    เพื่อโค่นล้มยามะ

    ว่าไงนะ?”

    สายตาคมเข้มตวัดมอง “เจ้ายังสติดีอยู่รึไม่ยามะนั้นเป็นถึงเจ้านรกแห่งนารากะ ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้ามีปัญหาอะไร แต่ยังไงซะนี่ก็ไม่ใช่ปัญหาของคนจากเฮลอย่างพวกข้า

    ไม่ได้ให้ทำฟรีหรอก ทางนี้น่ะยินดีมอบสินสงครามทั้งหมดให้เลย ที่ดินของพวกนิรยบาลน่ะเอาไปได้เลยแน่นอนว่ารวมถึงทรัพยากรในนั้นด้วย” จากนั้นเกลจึงชูนิ้ว “ทว่าสิ่งเดียวที่ชั้นต้องการ––”

    .

    .

    ก็คือประตูภพ

    เป็นหนที่สองที่พวกอันเดธเหล่านี้ถึงกับคิ้วกระตุก “หมายความว่าไง?” โดมินิคถาม “นี่แกมีเป้าหมายจะไปภพมนุษย์งั้นเหรอนี่คิดจะฝืนกฏธรรมชาติรึไง?”

    .....จะใช้ทำอะไรมันก็เรื่องของชั้น

    นี่แก!”

    โดมินิค

    ทันใดนั้นเสียงเปล่งไปด้วยอำนาจก็ดังขึ้น คำพูดนั้นดังมาจากปากของควีนแห่งอันเดธ เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเธอพูด หล่อนซึ่งอยู่ในร่างแปลงก็พลันปลดอาคมออก เผยให้ผิวเกราะละเหยไปกลายเป็นควันดำ

    สุดสายตานั้นคือหญิงงามซึ่งมีผมบลอนด์เงางามกำลังยืนอยู่ตรงนั้น

    ———เธอกระโดดลงจากชั้นสองแล้วหยุดอยู่ตรงหน้าผม

    ชื่อของคุณคืออสูรแปดชั้น...เกลสินะ?”

    “......อ่า

    พวกเราตกลงเป็นพันธมิตร––”

    ควีน!?”

    แต่ว่า..! ชั้นขอเพิ่มเงื่อนไขเข้าไปอีกหนึ่ง” หญิงสาวยิ้ม “คุณจะต้องให้ชั้นใช้ประตูภพด้วย” เหล่าเชสเซอร์ถึงกับตะลึงหนัก มาร์กาเร็ตเอ่ย “ป-โปรดพิจารณาใหม่ด้วยค่ะการที่ท่าน––”

    ดิชั้นคิดดีแล้วค่ะ มาร์กาเร็ต” เธอหันมาถามย้ำ “คำตอบล่ะคะ?”

    ตกลง” เกลไม่เสียเวลาคิด เขาทำสีหน้าไร้อารมณ์ก่อนจะสะบัดผ้าคลุมแล้วหันหลังเดินกลับไป “เราจะบุกเมืองของยามะอีกสองเดือนข้างหน้า

    ———ชายหนุ่มเปิดประตูเดินออกไป

    ถึงตอนนั้นชั้นจะมารับพวกนายเอง

    .

    .

    โฮ่!? ยันต์ระดับสองงั้นเหรอ? ไม่เลวเลยนี่จิวซือเมี่ยวร้อง ในมือของแพทตี้กำลังถือกระดาษซึ่งมีอักขระยันต์สีเขียวกำกับอยู่ สิ่งนั้นก็คือยันต์ระดับสอง

    หากให้เทียบ บุคคลากรซึ่งสามารถเขียนยันต์ได้มีอยู่น้อยนิด การเขียนยันต์ระดับสองก็ยิ่งน้อยนิดลงเข้าไปใหญ่ ข้าเองก็สามารถเขียนได้แค่ระดับสามเท่านั้นนางว่าอย่างนั้น ส่วนแพทตี้ก็นั่งยิ้มอย่างยินดี

    แต่นี้ไปข้าขอรับเจ้าไปเป็นศิษย์เอก เจ้าสามารถเข้าออกหออักขระได้ทุกเมื่อ

    จริงเหรอคะ!?”

    ฮึฮึฮึ! แน่นอน ข้าพูดคำไหนคำนั้น

    หญิงสาวถึงร้องเยสออกมาในท่ากำหมัด จิวซือเมี่ยวยิ้มให้กับความไร้เดียงสานั้น ฝีมือเจ้าช่างรุดหน้าได้รวดเร็วนักหญิงชราชี้ ยันต์มีทั้งสิ้นห้าระดับ แต่ละระดับย่อมมีขีดจำกัดในตัวมัน

    จิวซือเมี่ยวกวักมือ

    ตามข้ามาสิครืด! บานเลื่อนถูกเปิดออก ภายในเผยให้เห็นศาสตราจำนวนมากวางเรียงรายอยู่ เช่นเดียวกับยันต์หลายปึก นี่คือห้องทำงานของเธอ ทันทีที่แพทตี้เห็นสีหน้าอื้ออึงก็ปรากฏ รับ!”

    เอ๊ะ? ว-เหวออ..!?”

    เธอสะดุ้งกระนั้นก็รับสิ่งของที่หล่อนโยนมาให้อย่างทันท่วงที สิ่งนั้นคือดาบยาวสีดำขลับทั้งเล่มๆหนึ่ง นั่นคือดาบดำซึ่งสร้างจากแร่ออบซิเดียน อย่างที่เจ้าทราบ ยันต์ระดับหนึ่งสามารถใช้ได้กับเงินหรือเหล็กซึ่งมีความแข็งระดับ 4 ทว่ายันต์ระดับสองนั้นแตกต่างออกไป

    สตรีเฒ่ายื่นเอกสารให้แผ่นหนึ่งในนั้นมีตารางความเข้ากันของวัตถุและยันต์อยู่

    ———นี่คือสมการสำหรับการใช้วิชายันต์!

    ยันต์ระดับสองนั้นจะต้องใช้กับแร่ระดับ 5 เป็นอย่างต่ำ ไม่อย่างนั้นผลลัพธ์จะกลับตาลปัตรได้ ดาบเล่มนั้นข้ายกให้เป็นของขวัญสำหรับการเป็นศิษย์เอกของเจ้า

    ขอขอบคุณท่านอาจารย์จิว

    แพทตี้คารวะให้มารยาทอันสมควร ทว่านางกลับสะบัดชายผ้าแล้วเอ่ย ไม่ต้องมากพิธี ต่อจากนี้ต่างหากคือของจริงจิวซือเมี่ยวเปิดคลังซึ่งปรากฏไปด้วยพู่กันหลากชนิดและยันต์จำนวนมากให้เห็น

    จากนี้ไปงานของเจ้าคือการสร้างยันต์ระดับหนึ่ง 100 ใบให้กับสำนัก

    ......เอ๊ะ?”

    .

    .

    อีกด้านหนึ่งกริชก็กำลังออกปฏิบัติภารกิจ

    กรี๊ซซซ..!อสุภะกรีดร้อง จากนั้นจึงสิ้นใจตายลงกับพื้น กริชปลดอาคมออกก่อนจะว่า เก็บซากศพซะจากนั้นเหล่าชนผู้น้อยจึงร้อง ฮ่ะห์!” แล้วทำหน้าที่ตน

    ———เขาในตอนนี้นับว่ามีตำแหน่งที่สูงอยู่ไม่น้อย

    ฝีมือท่านช่างล้ำลึกนัก นับถือๆหนึ่งในลูกทีมพูดเยินยอ กระนั้นอีกฝ่ายกลับส่ายหน้าเอ่ย ไม่หรอก ฝีมือแค่นี้น่ะถือว่ายังอ่อนแอเกินไป

    .....กริชกำหมัดแน่น

    ชั้นในตอนนี้ยังไม่สามารถเป็นที่หนึ่งได้หรอก

    .

    .

    .


    และไม่มีวันเป็นได้ด้วย

    ท่ามกลางลานโล่งซึ่งเต็มไปด้วยความแห้งแล้ง เบื้องหน้ากลับปรากฏให้เห็นชายโพกผ้าพันแผลผู้หนึ่งกำลังยืนจ้องอย่างไร้แก่นสารอยู่

    .....แกเป็นใคร?”

    เกล

    ทันใดนั้นฝ่ามือของชายหนุ่มก็พลันปรากฏละอองแสงสีทองขึ้น

    ———คลื่นกัมปนาทถูกวาดออกไปเป็นวงในชั่วเสี้ยววิ

    อะไร..!?”

    คว้ากก!

    พรรคพวกทั้งสี่พลันถูกสะบั้นขาดครึ่งตัวในชั่วอึดใจ

    อ๊ากกกก..!”

    กริชแม้จะสามารถป้องกันด้วยโล่พลังจิต ทว่าทันทีที่ปะทะกลับเป็นฝ่ายเขาเสียเองที่กระเด็นออกไป

    ค-ค่อก..!? พ-พลังขนาดนี้มันอะไรกัน?”

    ทั่วทั้งร่างของชายหนุ่มถึงกับบอบช้ำ

    กริชทรุดตัวกับพื้นยากจะลุกขึ้น เลือดสีแดงสดไหลรินออกจากทั่วสรรพางค์ ชายเจ้าของหอกสีทองดำซึ่งสลักลวดลายวิจิตรก้าวเดินออกไป

    ใช้ได้นี่ ถ้างั้นจะให้ทางเลือกหน่อยก็แล้วกัน

    ———หอกในมือถูกตวัดขึ้นชี้หน้า

    จะติดตามชั้นหรือว่าจะตายที่นี่?”

     ۞۞۞

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×