ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNagain ขอเกิดใหม่,พระเจ้า(ไม่)ให้

    ลำดับตอนที่ #16 : Ep.16 - Seraph

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.13K
      155
      29 ธ.ค. 59

    UNagain.16 – Seraph

    เอื๊อก..!”

    เมืองในนรกเนี่ยนะ?...ดูไม่น่าไว้ใจเลยแฮะ แม้เขาจะคิดอย่างนั้น ทว่าสภาพการณ์กลับไม่เอื้ออำนวย หากไม่อยากอดตายหรือถูก <อสุรกายฆ่าระหว่างทาง เมืองตรงหน้าก็นับว่าเหมาะแก่การปักหลักมากที่สุด

    กระนั้นเรื่องที่ว่าเมืองนี้ไม่ปลอดภัยก็อาจเป็นจริงได้เช่นกัน ตอนที่ตัดสินโทษ,จากคำพูดของ <หญิงสาวบนบัลลังก์จึงทำให้เกลคาดเดาได้ว่าในนรกนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ขุมเดียว

    บางทีเมืองตรงหน้าอาจเป็นนรกอีกขุมหนึ่ง

    ชายหนุ่มกลืนน้ำลายอึก————ทางเลือกของเขามีแต่ต้องเผชิญเท่านั้นหากให้ย้อนกลับไปอะไรๆก็คงไม่เปลี่ยนแปลงขึ้นมาแน่ เกลหลับตาลงทำใจชื้น,แล้วจึงก้าวออกไปด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น

    พอเดินเข้ามาถึงระยะ 50 เมตร เกลจึงมองเห็นทางเข้าประตูเมืองปรากฏชายฉกรรจ์สองคนยืนเฝ้าไว้อยู่————สังเกตได้จากดาบในมือของทั้งคู่ จึงคาดว่าพวกเขาคงเป็นยามหรืออะไรทำนองนั้น

    ที่สำคัญคือพวกนั้นไม่มีปลอกคอและถือดาบแบบเดียวกับ <อาคมของเอแคร์อย่างไม่มีผิดเพี้ยน เกลถึงกับเลิกคิ้วคาดว่ากลุ่มคนตรงหน้าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเอแคร์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

    จะเดินเข้าไปคุยดื้อๆเลยดีไหมนะ?

    แม้เขาจะลังเล ทว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่อาจเลี่ยงได้ เกลจำใจเดินเข้าไปใกล้ กระทั่งพวกมันสังเกตเห็นจึงตะโกนว่า “หยุดอยู่ตรงนั้นหากเข้ามามากกว่านี้เราจะไม่ปราณี..!” ว่าอย่างนั้นจนเกลขมวดคิ้วแน่นพลางตอบกลับ

    ทำไมชั้นเข้าเมืองไม่ได้รึไง..?”

    ....

    เงียบงั้นเหรอเกลขบคิด,หากเป็นเช่นนี้ต่อให้เขาพยายามโน้มน้าวเพียงใด อีกฝ่ายก็คงจะยืนกรานเช่นเดิมแน่ กระนั้นจะให้ฝ่าเข้าเมืองไปมันก็ใช่เรื่อง พวกมันซึ่งอาวุธครบมือแถมกำลังคนมากกว่า การที่เกลคิดจะแตกหักก็คงไม่ต่างจากการฆ่าตัวตายอย่างเห็นได้ชัด————ดังนั้นเขาจึงลองเสี่ยงพูดออกไป

    พวกนายรู้จักเอแคร์ไหมเธอเป็นคนแนะนำให้ชั้นมาที่เมืองนี้เอง

    ว่าอย่างนั้น,แล้วทั้งคู่จึงเลิกคิ้วเผยแววตระหนก อย่างที่คิด,ดูเหมือนเอแคร์จะมีความเกี่ยวข้องกับคนกลุ่มนี้ ความจริงแค่ดูจากดาบ <อาคมซึ่งเป็นบทเดียวกันก็น่าจะชี้ชัดอยู่แล้วด้วยซ้ำ แล้วหนึ่งในนั้นจึงว่า

    ถ้างั้นนายก็ปลด <อาคมออกซะ,วางอาวุธไว้กับพื้นด้วย!”

    เมื่อไม่มีทางเลือก,เกลจึงทำตามอย่างว่าง่าย ถอดดาบและมีดลงกับพื้น ส่วนหอกเพราะไม่รู้วิธีทำให้มันหายไปนอกจากเขาจะสลบ ดังนั้นเกลจึงวางมันลงข้างๆดาบและมีดด้วยเช่นกัน

    อีกฝ่ายแม้แคลงใจทว่าพวกเขาก็ไม่ได้กล่าวอะไรเพิ่มเติม ขณะเดียวกันหนึ่งในนั้นจึงเข้ายึดอาวุธบนพื้นส่วนอีกคนก็นำกุญแจมือออกจากกระเป๋ากางเกง “ยื่นมือมา

    มันว่า,ซึ่งเกลก็ตระหนักว่าหากไม่ทำตามเรื่องราวคงได้ยุ่งยากขึ้นแน่

    แกร๊ก!

    เสียงลงล็อกกุญแจมือดังลอดผ่านชั้นไก แม้จะงุนงงว่าเหตุใดคนพวกนี้ถึงมีของอย่างกุญแจมือได้ ทว่าโดยรวมตั้งแต่บ้านพักของเอแคร์,เสื้อผ้า,เมือง หรือ <อาคมแล้วหากมีกุญแจมือเพิ่มมาด้วย เขาก็คงไม่แปลกใจเท่าไหร่นัก

    และก็ดูเหมือนนารากะพาราห์จะร้อนเกินกว่าที่พวกเขาจะจับต้องได้ สุดท้ายหนึ่งในนั้นจึงหันมาว่า “เฮ้ยปลด <อาคมของนายได้แล้ว” เกลที่ไม่รู้วิธี <ปลดดังกล่าวจึงเอียงคอเอ่ย “ชั้นไม่รู้วิธีปลดน่ะ

    อีกฝ่ายเผยแววเซ็งระอา จากนั้นจึงตอบ “ตอนร่าย <มุทรานายทำยังไง?”

    มุทราคือการจีบนิ้วเชิงสัญลักษณ์,จะว่าเคราะห์ดีที่เขาจบคณะสังคมศาสตร์หรือเปล่านะจึงทำให้เกลเข้าใจความหมายของ <มุทราที่อีกฝ่ายกล่าว ชายหนุ่มครุ่นคิด,เท่าที่เขาจำได้ ก่อนใช้ <อาคมตอนร่ายบทเขาจำเป็นต้องจีบนิ้วอย่างที่ทางนั้นว่าจริง เกลทำมือตั้งนิ้วชี้กับก้อยขึ้นเป็นเมทัลร็อคโดยที่นิ้วอื่นพับเก็บไว้

    ท่า <ขจัดมารสินะถ้างั้นนายลองพับนิ้วชี้กับก้อยลงแล้วตั้งนิ้วที่พับอยู่ขึ้นแทนสิ จากนั้นก็พูดว่า ‘จงหายไป’ แล้วตามด้วยชื่อของ <อาคม> ”

    เกลผงกศีรษะแล้วทำตามคำของชายตรงหน้า นิ้วมือจากท่าเมทัลร็อคจึงแปรเปลี่ยนเป็นชี้กลาง,นาง และโป้งขึ้นราวกับรูปปืน จากนั้นจึงเปล่งเสียงว่า “จงหายไปนารากะพาราห์

    วูบ!

    ทันใดนั้นตัวหอกจึงลุกไหม้ด้วยผืนเพลิง ก่อนจะแตกโพลงออกเหลือแต่เพียงความว่างเปล่า————ทั้งสองพยักหน้าพึงพอใจแล้วจึงนำตัวเกลเข้าประตูเมืองแต่โดยดี

    ในสภาพที่เหมือนกับนักโทษนี้ ชายหนุ่มได้แต่เหม่อมองไปรอบข้างเท่านั้น ทางเข้าประตูเมืองนั้นเป็นซุ้มอิฐซึ่งมีรั้วเหล็กกั้นเอาไว้ พอมาถึง,พวกเขาทั้งสองก็ส่งตัวเกลให้กับยามอีกคนหนึ่ง พวกเขาแจงรายละเอียดให้เล็กน้อยก่อนยื่นอาวุธของเกลให้ แล้วจึงกลับไปยืนประจำตำแหน่งตามเดิม

    หลังจากพลัดตัวผู้คุมแล้ว,เกลจึงถาม “ไม่ทราบว่าพวกเราจะไปไหนกันเรอะครับ?”

    เพราะชายคนนี้ดูเหมือนจะเป็นรุ่นลุงอายุมากกว่าเขาร่วม 15-16 ปีได้ เกลจึงเลือกที่จะเอ่ยคำสุภาพออกไป,อีกฝ่ายเหลือบมองแล้วตอบกลับ “ไปหาท่านผู้นำ

    ท่านผู้นำ?”

    พอไปถึงเดี๋ยวแกก็รู้เอง

    ว่าจบ,ทั้งสองจึงไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก นอกจากลุงแกจะสั่งให้เกลเดินหน้าหลังหรือซ้ายขวาเพื่อบอกทิศทางเพียงเท่านั้น ซึ่งหลังจากลอดผ่านประตูรั้วมาได้ เกลก็ถึงกับเบิกตากว้างอ้าปากค้าง

    นี่มัน..?”

    ตรงหน้าเกลคือเมืองอันแสนสงบ มันดูร่มรื่นราวกับเป็นหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง รอบข้างเต็มไปด้วยอาคารเรือนสมัยใหม่และเก่าปนเปกันส่วนใจกลางเมืองก็ปรากฏบ่อน้ำพุดูสวยงามอลังตา รวมถึงข้างทางก็มีเด็กเล็กวิ่งซนไปทั่วรอบผืนหญ้าและดอกไม้อย่างสนุกสนาน ทางฝั่งม้านั่งก็มีหญิงวัยกลางคนนั่งจิบกาแฟพลางอ่านหนังสืออะไรซักอย่างควบคู่ไปด้วย————ผู้คนส่วนใหญ่ล้วนกำลังใช้ชีวิตประจำวันอย่างปกติสุข

    ..อะไรวะเนี่ย?” เขาพึมพำเล็กน้อย

    ขณะเดียวกันพอเกลย่างเท้าเข้าในเมือง,ชายหนุ่มก็พลันกลายเป็นจุดสนใจของผู้คนรอบข้าง มีหลายคนหันมามองด้วยความสนใจเพียงครู่ และมีบ้างบางคนซึ่งจับตาดูเกลทุกฝีเท้าที่ย่างก้าวออกไป ขณะที่ลุงยามกำลังไล่หลังให้เกลเดินไปข้างหน้า ตอนนั้นตรงหน้าเขาจึงปรากฏชายชราคนหนึ่งเดินเข้ามาขวางไว้,ชายชราว่า

    คุณเจ้าหน้าที่,ผมขอคุยกับเขาหน่อยจะได้ไหม?” ซึ่งลุงยามก็ผงกศีรษะรับ ส่งให้ชายแก่หันมาจ้องหน้าเกลแล้วเอ่ยถาม “ผอมโซถึงกระดูก ดูท่าเธอคงไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้วสินะ?”

    คำถามนี้ไม่ต้องการคำตอบ ขณะที่เกลจะเอ่ยกลับไป————ชายชราก็ยื่นกล่องแซนด์วิชในมือให้ “รับไว้สิ,ถึงจะเป็นของถูกๆแต่ก็คงทำให้เธออิ่มท้องได้

    ...

    เกลกระพริบตาปริบๆ

    ให้ฟรีงั้นเหรอ..?

    ระหว่างที่คิดอย่างนั้น————ลุงยามจึงสมทบว่า “คนเขาอุตส่าห์ให้แกก็รับไว้สิ” จึงทำให้เกลเกิดอาการลังเลก่อนจะยื่นมือไปรับ

    ขอบคุณครับ...แล้วก็ขอโทษด้วยที่ต้องรบกวนคุณตา

    ฮะ..ฮะ..ไม่เป็นไร,ของแค่นี้เดี๋ยวตาซื้อใหม่เอาก็ได้

    เขาว่าอย่างนั้น,ก่อนจะขอตัวลาโดยทิ้งท้ายด้วยเสียงหัวเราะอันแผ่วเบา เกลได้แต่มองไล่หลังสลับกับแซนด์วิชในมืออย่างอื้ออึง ลุงยามจี้หลังแล้วว่า “เอ้าจะยืนอีกนานไหมรีบเดินไปได้แล้ว

    “...ผมเดินไปกินไปได้ไหม?”

    นั่นมันสิทธิของแก

    ลุงยามว่า,ส่งผลให้เกลฉีกยิ้มขึ้น หยิบแซนด์วิชชิ้นหนึ่งเข้าปากพลางเดินต่อไปเบื้องหน้าไม่พูดไม่จาอะไร

    ...บางทีในนรกก็อาจจะยังมีคนดีๆหลงเหลืออยู่————

    ชายหนุ่มคิดเช่นนั้น,พร้อมกับผุดยิ้มขึ้นในใจ

    ۞۞۞

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×