ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    UNagain ขอเกิดใหม่,พระเจ้า(ไม่)ให้

    ลำดับตอนที่ #90 : Ep.08 - Arthur

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.46K
      56
      6 มิ.ย. 60

    UNagain.08 – Arthur

    โชคดีนะที่เจ้าพวกนี้มีชุดเหลือไว้

    แพทตี้เปรย พลางจีบชายผ้าทูนิคขึ้น ในตอนนี้ทั้งสองล้วนสวมใส่ผ้าทูนิคหยาบสีน้ำตาลอยู่ ทั้งนี้เป็นเพราะเฒ่ากระดูกหายตัวไปบวกกับพวกลูกสมุนต่างตายกันหมด ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถเข้าไปยังคลังส่วนกลางของพวกมัน ภายในนั้นมีเสื้อผ้าเล็กน้อย กับอาวุธบิ่นๆซึ่งพอจะเอามาใช้แก้ขัดได้อยู่

    กริชและแพทตี้ต่างเลือกดาบยาวมาคาดหลังไว้คนละเล่มหนึ่ง กระทั่งไม่พบเห็นสิ่งอื่นใดอีก ทั้งสองจึงตัดสินใจจะออกจากถ้ำ ใช่ อย่างน้อยกริชในตอนนี้ก็พอมั่นใจว่าตนสามารถหนีออกจากขุมนี้ได้

    ด้วยพลังของธนูอาคม เขาก็เหมือนกับเสือติดปีก

    .....กระนั้นด้านแพทตี้กลับต่างกันออกไป

    หลังจากที่วีดสอนบทร่าย กริชก็คิดจะสอนอาคมนี้ต่อให้กับแพทตี้เช่นเดียวกัน ทว่าพอทำอย่างนั้นแล้ว ผลลัพธ์กลับลงเอยด้วยความว่างเปล่า——

    เธอไม่สามารถเรียกธนูออกมาได้

    ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย

    คงเป็นเพราะชั้นไม่มีตราศาสนาสินะ? กระทั่งค่าเมอร์ริธและคาร์ม่าก็เหมือนกัน เพราะแบบนี้ล่ะมั้ง? ถึงไม่สามารถใช้อาคมได้

    อืม ก็เป็นไปได้ล่ะนะ แต่พวกเราเองก็ไม่ใช่รู้อะไรเลยซักอย่างนี่นา ถ้าเจออาจารย์อีกชั้นจะลองสอบถามให้แล้วกัน

    แม้จะเอ่ยเรียบๆแต่น้ำเสียงของกริชนั้นแสดงออกถึงความเป็นห่วงอย่างเด่นชัด นี่เรากลายเป็นภาระรึเปล่านะ? พอคิดอย่างนั้นเธอก็ได้แต่ถอนหายใจเบาๆ ส่วนเขาก็ได้แต่ตบหลังให้กำลังใจเท่านั้น

    ———ทั้งคู่เดินออกจากตัวถ้ำ

    แม้จะพูดอย่างนั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเดินออกมาอย่างทื่อด้านเลยซะเดียว พวกเขากำลังเหลือบมองอยู่ข้างๆมุมถ้ำ รอเวลาที่ดงหอกกำลังรีโหลดกระสุน กระทั่งทุกอย่างเงียบเสียงลง

    เอาเลย..!”

    ทั้งสองคนจึงวิ่งทะยานสวนกลับไปสุดแรง

    ———จวบจนมวลหอกเริ่มพวยพุ่ง

    หมอบ!”

    แพทตี้กับกริชจึงฟุบตัวลงแนบพื้นทันที เป็นเช่นนี้อยู่พักหนึ่ง กระทั่งพวกเขาย้อนกลับมาถึงจุดเกิดที่เดิมอีกครั้ง เธอจึงถามอย่างเหนื่อยหอบ

    แฮ่ก...นี่นาย...แฮ่ก...มีแผนจะออกจากที่นี่ยังไงกัน?”

    ฟู่...เห็นตรงนั้นไหม?”

    เขาเป่าปากพลางชี้นิ้ว ณ จุดๆนั้นก็คือบังเกอร์เหล็กนับไม่ถ้วนซ้อนกันเป็นกำแพงขนาดใหญ่ แม้จะเหมือนคุกปิดตาย แต่หากสังเกตดีๆก็จะพบรอยแยกเล็กๆอยู่ตรงนั้น

    กำแพงนี้เป็นเครื่องยิงหอกพวกนี้ ส่วนทางแยกนั่นก็เป็นทางออก ชั้นน่ะเคยไปถึงตรงนั้นมาหนหนึ่งแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถหนีออกไปจากที่นี่ได้อยู่ดี

    หะ? หมายความว่าไง?”

    หลังรอยแยกนั่นมีนิรยบาลอยู่

    หญิงสาวถึงงุนงง แล้วเอ่ยทวน นิรยบาล?” จนลำบากชายหนุ่มจำต้องอธิบายสำทับ มันคือผู้คุมนรก จำไม่เหรอ? ไอ้ตัวที่มีเขามีหางผิวแดงๆที่เจอตอนไปตัดสินความผิดกับยามะไง ก็ไม่รู้แปลว่าอะไร แต่พวกที่พาชั้นหนีคราวก่อนเรียกกันอย่างนั้น

    ———ไอ้ความจำตอนนั้นชั้นมีที่ไหนเล่า!?

    แล้วพวกที่พานายหนีไปรอดไหม?”

    ไม่มีซักคน นิรยบาลฆ่าพวกเราทุกคนไม่มีใครรอด

    เฮ้ย!? งั้นเจ้านั่นก็ต้องแกร่งมากน่ะสิ แล้วไปเอาความมั่นใจว่าจะชนะมาจากไหน?”

    จากเจ้านี่ไงล่ะ

    ว่าจบชายหนุ่มก็ร่ายมุทราทันที วู้ม! ทันใดนั้นผืนเพลิงพลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้า ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นธนูเหล็กคันหนึ่ง กริชเงียบไปครู่ จากนั้นจึงว่า

    นิรยบาลมีตนเดียว แต่ว่าระยะยิงตรงนี้น่ะไกลไปเขาหันมองจ้องเธออย่างจริงจัง เล้วเอ่ยซ้ำ เธอต้องไปล่อมันเข้ามาในกำแพง จากนั้นชั้นจะลอบยิงมันจากตรงนี้เอง แล้วไม่ต้องห่วงว่าจะตายฟรี เพราะหากพลาด เจ้านั่นก็คงรีบเข้ามาเล่นงานชั้นด้วยแน่ๆ อย่างมากก็แค่ตายทั้งคู่

    .....เอางั้นจริงเหรอ?”

    แน่นอน

    เธอไม่ได้กลัวตาย ขณะเดียวกันก็ไม่ได้กลัวเจ็บ กระนั้นก็ไม่ได้แปลว่าจะสามารถตายได้เรื่อยๆโดยไร้ความรู้สึก ทว่าพอหันมองไปเจอสายตาของอีกฝ่าย แพทตี้ก็รู้สึกไม่มีน้ำหนักในการจะโต้แย้ง

    เฮ้อ...การลงทุนมีความเสี่ยงสินะ เอางั้นก็ได้ ชั้นจะไปล่อมันเอง

    ถ้าไม่อยากทำก็––

    แต่ว่า!” เธอโพล่งขัดแล้วชี้หน้ากริช ต้องสัญญาก่อน ว่าหากสถานการณ์มันเลวร้ายจริง นายจะต้องหนีไป! ไม่ว่าตอนนั้นชั้นจะเป็นยังไงก็ตาม

    พูดอะไร!? ไอ้แบบนั้นน่ะ––

    สัญญาสิ!”

    .....ก็ได้ชายหนุ่มกำธนูในมือแน่น ก่อนจะเปล่งประกายวาวโรจน์ออกมาอย่างคับคั่ง ชั้นสัญญาว่าจะกำจัดเจ้านั่นให้ได้!”

    แพทตี้ยิ้มมุมปากตอบรับต่อคำพูดนั้น กระทั่งกระสุนหอกหยุดพักลง เธอจึงหุบยิ้ม พร้อมกันนั้นก็สะบัดหน้าไปยังทางแยก สองเท้าพลันเกร็งแน่น ก่อนจะวิ่งสุดตัวเพื่อไปให้ถึงก่อนเวลาจะหมดลง

    สาม...สอง...หนึ่ง

    ฟุ่บ!

    ทันใดนั้นกระสุนหอกพลันพวยพุ่ยออกจากกำแพงเหล็กคล้ายกับเม็ดฝนห่าหนึ่ง เสียงดังถี่ยิบนี้ดังสอดผสานกับลมหายใจอันหนักหน่วงของแพทตี้ผ่านชั้นบรรยากาศ ท่ามกลางฝุ่นควันตลบ กลับเผยให้เห็นหญิงสาวยืนตระหง่านอยู่ตรงรอยแยก แพทตี้หันกลับไปมองกริชซึ่งหมอบกับพื้นพลางโบกมือให้

    เธอปลอดภัยไร้ซึ่งรอยขีดข่วน พอเห็นแบบนั้นชายหนุ่มจึงเบาใจลง

    ———ทางด้านหญิงสาวยามนี้กลับพบทิวทัศน์ใหม่

    เบื้องหน้าคือดินส่วนที่เหลือก็เป็นป่าสูงสุดขอบฟ้า ท้องนภาสีแดงฉานยังคงอยู่ ส่วนตรงหน้าก็เป็นทางถนนบวกกับป้ายเหล็กต่างๆ แน่นอนว่าตรงหน้าเธอตอนนี้ก็มีป้ายเหล็กขนาดใหญ่แขวนอยู่

    นรกแห่งการเกิดใหม่งั้นเหรอ?”

    แพทตี้เอ่ยพึมพำช้าๆ ทว่าตอนนั้นเองที่สุดสายตาเหลือบไปเห็นบางสิ่งทะยานเข้าใส่ เชียะ! วัตถุมีคมพุ่งเลยผ่านแก้มเธอไป จนปรากฏเลือดสีสดไหลรินเป็นทางยาว แพทตี้ตื่นตะลึง ก่อนจะชักดาบวาดออกไป วูบ! มีเพียงเสียงแหวกอากาศเท่านั้น เจ้าตัวที่ทำร้ายเธอกลับหลบรอดคมดาบไปได้อย่างง่ายดาย

    ทั้งชุดและอาวุธนั่น ดูเหมือนจะเตรียมตัวมาพร้อมเลยทีเดียวนี่

    ผู้พูดนั้นมีเขา ขณะเดียวกันก็มีหางและผิวกายสีแดงดุจโลหิต เธอหรี่ตาลง

    .....นิรยบาลสินะ

    โฮ่? รู้จักพวกข้า แล้วเหตุใดจึงยังอุตส่าห์เอาชีวิตมาทิ้งเล่า?”

    แกนั่นแหละที่เอาชีวิตมาทิ้ง!”

    แพทตี้ตวาดลั่น จากนั้นจึงตบเท้านำพาตนเองกลับสู่เส้นทางเดิมของรอยแยกอีกครั้ง นิรยบาลเห็นจึงแสยะยิ้ม คิดจะหนีเรอะ?” จากนั้นจึงเลียเล็บที่เปื้อนเลือด แล้วทะยานเข้าตามติด

    มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก..!”

    เปรี้ยง!

    ทันใดนั้นระเบิดเพลิงพลันปะทะเข้าใส่กลางของมันเต็มรัก ส่วนแพทตี้กำลังหลบหนีอยู่ก็กระเด็นออกมาร่วม 3-4 เมตร ห่างออกไปไม่ไกลนักเผยให้กริชกำลังค้างตัวอยู่ในท่าคุกเข่าผ่อนสายธนูอยู่

    สำเร็จ..!”

    เขาร้องออกมาอย่างยินดี จากนั้นจึงเลิกมือลงหมายจะเดินเข้าไปหาแพทตี้ ทว่าตอนนั้นเองที่สายตาพลันกระตุกวูบ ท่ามกลางฝุ่นควันจากแรงระเบิดของท่าพลังจิต ภายในเผยให้เห็นมวลแสงสะท้อนขึ้นวูบหนึ่ง วงแสงดังกล่าวสำหรับกริชนั้นกลับรู้สึกคุ้นตาอยู่แปดในสิบส่วน

    ทันใดนั้นศรเพลิงแบบเดียวกันก็พลันทะลวงผ่านม่านหมอก

    อะไรกัน..!?”

    เปรี้ยง!

    กริชกระเด็นไปสิบกว่าเมตร แม้จะยกธนูขึ้นกันไว้ ทว่าท่าพลังจิตที่ระเบิดออกมานั้นรุนแรงพอๆกับของวีดเลยทีเดียว ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็นชายหนุ่มที่แขนขาดกระจุยทั้งสองข้าง ก่อนจะปลิวว่อนออกไป ทางด้านแพทตี้ยามนี้กลับถ่างตาค้างอย่างตื่นตระหนก

    ไม่จริงน่า!”

    นี่แหละความจริงยัยหนู

    เสียงแหบแห้งดังลอดผ่านฝุ่น กระทั่งม่านหมอกนั้นเลือนหายจนหมด

    .....จึงเผยให้เห็นนิรยบาลที่ไร้ซึ่งบาดแผลกำลังง้างธนูอาคมอยู่

    กลับไปชดใช้กรรมในขุมนรกเถอะ!”

    เปรี้ยง!

    ۞۞۞

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×