ตำนานพระอาทิตย์ พระจันทร์ - ตำนานพระอาทิตย์ พระจันทร์ นิยาย ตำนานพระอาทิตย์ พระจันทร์ : Dek-D.com - Writer

    ตำนานพระอาทิตย์ พระจันทร์

    เหตุใดพระอาทิตย์กับพระจันทร์ จึงจำต้องอยู่คนละฟากฟ้าเสมอมา....

    ผู้เข้าชมรวม

    2,666

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    9

    ผู้เข้าชมรวม


    2.66K

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    7
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  31 ม.ค. 52 / 21:05 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ... ว่ากันว่าเนิ่นนานมาแล้ว ก่อนที่โลกจะมีกลางวัน กลางคืน 

       

      พระอาทิตย์อยู่เคียงคู่กับพระจันทร์ ทั้งสองพระองค์ต่างฉายรัศมีสีเปลวไฟ โชติช่วง

       

      ส่องแสงสว่าง  เปล่งประกายไปทั่วทุกหนทุกแห่งบนผืนพิภพ

       

      ทั่วทุกอณูต่างสว่างไสวไปด้วยรังสีของพระอาทิตย์และพระจันทร์ 

       

      มีพระอาทิตย์ ณ ที่แห่งใด ย่อมมีพระจันทร์ ณ ที่แห่งหนนั้น

       

      ทั้งพระอาทิตย์และพระจันทร์ต่างก็รักกันมาก ยากจะหาสิ่งใดมาเปรียบเปรย

       

      แล้ววันหนึ่งพระอาทิตย์ได้ตรัสถามพระจันทร์ว่า เหตุใด โลกจึงมีแต่ความสว่างไสว

       

      พระจันทร์จึงตรัสตอบไปว่า เพราะมีพระอาทิตย์อยู่กับพระจันทร์ไม่ว่าที่แห่งใดก็จักสว่างไสว

       

      พระอาทิตย์ไม่ว่ากระไร...ทรงถามต่อไปว่า แล้วถ้าวันหนึ่งเราทั้งสองต้องจากกันไปเล่า

       

      พระจันทร์ทรงตกพระทัยแล้วตอบไปว่า เหตุใดพระองค์จึงทรงดำรัสเช่นนี้ เราสองจะไม่มีวันจากกันชั่วกัลปาวสาน

       

      พระอาทิตย์ทรงยิ้มอย่างอบอุ่นแล้วไม่ตรัสว่ากระไร...ทรงปลอบพระทัยพระจันทร์แล้วตรัสเบาๆว่าเปนเพียงแค่การสมมุติ

       

      .....

       

      แล้วต่อมาไม่นาน ก็มีเรื่องไม่คาดฝันเมื่อจู่ๆ พระจันทร์ก็เปลี่ยนสีไป ทรงอ่อนแสงลง

       

      พระวรกายทรุดโทรม ซีดเซียว จากที่วรกายสีเปลวเพลิงกลับซีดโทรมลง เป็นสีแสด และค่อยๆอ่อนสีลงเรื่อยๆ

       

      พระอาทิตย์ทรงตกพระทัยและครุ่นคิดถึงวิธีที่จะรักษาพระชายาของพระองค์ ทรงทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาชายาของตน

       

      หมอที่เก่งที่สุดในจักรวาล ยาที่ดีที่สุดในกาแล็คซี และสมุนไพรต่างๆนาๆ

       

      ...ไม่อาจทำให้พระวรกายของพระจันทร์ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย กลับมีพระวรกายทรุดโทรม ซีดเซียวลงอย่าน่าใจหายกลายเป็นสีแสดจางๆ

       

      พระอาทิตย์ทรงกลัดกลุ้มพระทัยมาก ยิ่งนานวันเข้าอาการของพระชายาก็มีแต่จะหนักขึ้น..ทรงเปลี่ยนสีไปมาก

       

      พระองค์แทบไม่เปนอันทำอะไร ทรงห่วงพระชายาและดูแลพระองค์ตลอดเวลา จนไม่มีเวลาออกไปส่องประกายให้กับผืนภิภพอย่างเช่นเคย

       

      ....ทั่วทุกหนทุกแห่งมืดสนิท

       

      ไม่มีแม้ลำแสงสักเพียงน้อยนิด

       

      ....เป็นเหตุให้พระผู้เป็นเจ้าทรงพิโรธพระอาทิตย์กับพระจันทร์

       

      ทรงมีดำรัสให้พระอาทิตย์เข้าเฝ้าพระองค์โดยด่วน

       

      เมื่อพระอาทิตย์เข้าเฝ้าพระผู้เจ้าแล้วทรงตรัสถามพระอาทิตย์ว่าเหตุใด เจ้าจึงละทิ้งหน้าที่ของตนเอง

       

      พระอาทิตย์จึงเล่าให้พระเจ้าฟังว่าเหตุที่พระองค์ต้องละทิ้งหน้าที่นั้นเป็นเพราะอาการประชวรของพระจันทร์ผู้เป็นพระชายา

       

      ...พระเจ้าทรงครุ่นคิด..และบอกออกมาว่ามีวิธีรักษาพระจันทร์จากโรคที่กำลังประชวร แต่มีข้อแม้บางประการ

       

      พระอาทิตย์ตอบตกลงทันที..ไม่ว่าเช่นไรพระองค์ก็ทรงอยากให้พระจันทร์หายจากโรคร้าย

       

      พระจันทร์เปรียบเสมือนพระทัยของพระองค์ ไม่ว่าจะให้พระองค์ปฏิบัติเช่นไรก็ยอม

       

      พระเจ้าจึงตรัสออกไปว่า ข้อแม้ที่ว่านี่ก็คือ

       

      พระอาทิตย์จะไม่สามารถพบกับพระจันทร์ได้อีกต่อไป  ตราบชั่วฟ้าดินสลาย และพระอาทิตย์ต้องทำหน้าที่ส่องแสงให้กับผืนภิภพตลอดกาล

       

      พระอาทิตย์เจ็บปวดพระทัยแทบแตกสลาย แต่ก็ทรงตอบตกลง..ด้วยพระทัยอันร้าวร้าน

       

      พระองค์ไม่สามารถกลับไปร่ำลา และอธิบายให้กับพระชายาได้ฟัง

       

      ทรงได้แต่กล้ำกลืน และออกไปทำหน้าที่ตามที่ได้สัญญาไว้กับพระเจ้า

       

      ....เกิดเป็นกลางวัน

       

       

       

      ...

       

      ฝ่ายพระจันทร์เมื่อทรงหายจากอาการประชวร พระวรกายของพระองค์ก็ไม่กลับมามีสีเปลวเพลิงดุจดังเดิม

       

      กลับกลายเป็นสีเหลืองนวลอร่ามไปทั่วพระสรรพางค์กาย

       

      พระองค์ทรงทุกระทม และเศร้าใจว่าเหตุอันใดพระอาทิตย์จึงหายไปจากพระองค์ไปโดยมิได้ร่ำลา

       

      ไม่ว่าพระจันทร์จะถามใครๆ ก็ไม่มีใครสามารถบอกได้

       

      แต่ทุกคนจะชี้ไปยังที่เดียวกันคือ ด้านทิศตรงข้ามกับที่ของพระจันทร์เสมอ

       

      พระจันทร์ไม่รอช้า พระองค์รีบเสด็จออกติดตามพระอาทิตย์..ทรงเห็นแต่แสงรางๆทุกคราที่ตามใกล้จะถึง

      ......... เกิดเป็นกลางคืน

       

      พระจันทร์แทบหัวใจสลาย พระองค์ทรงพระกรรแสงออกมาในทุกค่ำคืนที่มืดมืด

       

      เกิดเป็นหมู่ดาวนับร้อยนับพันดวง ส่องแสงระยิบระยับเต็มท้องฟ้า

       

      ไม่ว่าพระองค์จะติดตามพระอาทิตย์สักแค่ไหน ก็ไม่มีวันที่จะได้พบเจอ หรือเคียงคู่กันดุจเดิม

       

      ทรงเห็นเพียงเงารางๆ และความหวังที่ปลายขอบฟ้า

       

      แต่พระองค์ก็ไม่เคยย่อท้อที่จะติดตามพระสวามีเลยแม้เพียงสักวันเดียว...

       

      ทรงเฝ้าเพียรพยามติดตามพระอาทิตย์เพื่อถามว่าเหตุใดจึงหนีจากนางไป..

       

      หรือทรงไม่รักนางแล้วเพราะนางเปลี่ยนสีไปไม่เหมือนดุจดังเดิม

       

      แต่นางก็ไม่เคยพบคำตอบเลยสักครั้ง...

       

      พระเจ้าจึงเห็นแก่ความรักที่ทั้งสองพระองค์มีให้กัน

       

      ทรงอธิษฐานเอาไว้ว่าหากความรักที่ทั้งสองนั้นมีให้กันด้วยใจอันบริสุทธิ มั่นคง ไม่เสื่อมคลาย

       

      ทั้งสองพระองค์จะได้มีโอกาสมาพบกัน แม้เพียงชั่วครู่ยาม

       

      จักให้กลางวันเปลี่ยนเป็นกลางคืน...เกิดเป็นสุริยุปราคา

       

      ทั้งสองพระองค์จะได้พบเจอกันชั่วเวลาเพียงสั้นๆ...ในระยะเวลาหลายร้อยปี

       

      ...............................

       

      แต่ชั่วเพียงเวลาสั้นๆที่สองพระองค์ได้พบเจอกัน พระอาทิตย์และพระจันทร์ต่างก็รับรู้ด้วยใจ

       

      ....ว่าไม่มีวันใดที่รักของทั้งสองพระองค์จะเสื่อมคลายลง แม้เพียงสักเสี้ยววินาที

       

      ...

       

      แม้จะพบกันเพียงไม่นาน แต่ทั้วสององค์ก็เพียรตามหากันและกัน เพื่อหวังว่าสักวัน จะเกิดสุริยุปราคาอีกสักครา... 


      : กลอน จากพระจันทร์ ถึงพระอาทิตย์ :

      ตะวัน เคลื่อนคล้อย ลอยลับ

      แดดับ สิ้นแสง สุริยนฉาย

      มืดมิด หมองมัว โรยราย

      จันทร์ฉาย ลอยเด่น กลางนภา

       

      ดังใจ ในคืน ที่มืดมิด

      เฝ้าคิด คำนึง ละเมอหา

      ใจหนอใจ หายไป ใยไม่ลา

      เจ้าจันทรา ยังอยู่ เพียงเดียวดาย

       

      เคว้งคว้าง ล่องลอย ไร้แสง

      เรี่ยวแรง พลันหมด หดหาย

      รอยบุหลัน คืนฟ้ามืด แสงรำไร

      มีแต่เสียง ลมหายใจ ไร้วิญญาณ

       

      แม้เพียง  เสี้ยวเวลา อันน้อยนิด

      ใกล้ชิด ตรึงจิต สอดประสาน

      แม้เป็นเพียง วินาที มิช้านาน

      ให้พานพบ ตราตรึง ในดวงใจ

       

      แล้วใย หัวใจ เจ้ากรรม

      รักล้ำ หาเป็น เช่นใจหมาย

      รู้ทั้งรู้ ว่ารักแล้ว ชอกช้ำใจ

      ก็มิคลาย ลงหลัก รักเธอ

       

      แต่บนฟ้า มีแต่จันทร์ ดวงเก่าเก่า

      จันทร์เจ้าเศร้า เฝ้ารอ ไร้ความหมาย

      เพียงเพราะเธอ มาพบเจอ แล้วจากไกล

      พร้อมหัวใจ จันทร์เจ้า ที่หลุดลอย

       

      เหมือนเพียง เจ้าจันทร์ ในคืนเหงา

      พระจันทร์เศร้า ไร้หมู่ดาว ให้เหงาหงอย

      เฝ้าตามหา พระอาทิตย์ ที่รอคอย

      ยังล่องลอย มิพานพบ เจ้าดวงใจ

       

       

      คนอื่น หมื่นแสน พันล้าน

      อธิษฐาน ขอพร ให้สมใจ

      แต่ใครเล่า จะรู้ใจ จันทร์เจ้าใย

      เพียงขอให้ พบรักแท้ อีกสักครา

       

      เจ็บปวด รวดร้าว เพียงลำพัง

      เหมือนดัง เดือนแรม มืดฟ้า

      มืดบอด อำพราง ดวงตา

      อุรา โหว่หง่าง กลางใจ

       

      ถึงจันทร์ จะไม่เคย ได้พานพบ

      พระอาทิตย์ เช่นเดิม ก็หาไม่

      ละมานะ พยายาม อยู่ร่ำไป

      รอวันไหน คงสักวัน หวังได้เจอ

       

      หากสุริยน ได้ฟัง จงโปรดรู้

      จะขออยู่ ดูแล เจ้าเสมอ

      ขอเป็นเพียง กำลังใจ ไม่ไกลเธอ

      เพื่อพบเจอ สิ่งดีงาม ทุกเวลา

       

      ทุกครั้งครา เพลา นภาหม่น

      ใครหนึ่งคน ยังรอเจ้า ที่ปลายฟ้า

      รอยบุหลัน เร่งล้ำ ตามเจ้ามา

      อีกฟากฟ้า สุริยา ลอยลับไป

       

      แม้จะเป็น หมุนเวียนไป ดังเช่นนี้

      ขอคนดี เข้าใจ ปรารถนา

      ว่าจันทร์เจ้า ดวงนี้คอย แสงสุริยา

      จะเก็บเจ้า ตรึงตรา เสมอใจตราบนิรันดร์

      -----------------------------------------------------------------------------

      เรื่องนี้แต่งไว้นานพอสมควรแล้วนะคะ
      ไม่มีมูล ไม่มีเค้า อยู่ดีดีนึกจะเขียนก็เขียนเลย
      เคยอัฟขึ้นเสปซ แต่พอมาอ่านใหม่ก็แก้ไขนิดหน่อย
      บวกกับแต่งกลอนบทของพระจันทร์เพิ่มเข้าไป


      วู้ๆๆ
      ^w^ ไม่ได้เขียนหนังสือตั้งนานแล้ว
      รู้สึกกระฉับกระเฉงดีจัง
      หวังว่าคนอ่านทุกคนคงชอบนะคะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×