ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ขโมยหัวใจหนุ่มเจร็อค

    ลำดับตอนที่ #2 : ทาคาดะ มิยะ ในที่สุดเราก็ได้เจอกัน

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 52


    2
     
    .               ..นี่ฉันกำลังฝันอยู่หรือเปล่า
                    “เคียวโกะ..!”
                    “^^เห็นลุงเคตะบอกว่าลูกสาวของเขาที่จะมาอยู่ญี่ปุ่น ชอบฉันมาก ติดตามผลงานของฉันมาตลอดสามปีเต็ม ฉันดังไปถึงประเทศไทยเชียวเหรอ เธอน่ารักดีนะ ไม่เสียแรงที่ฉันรีบเคลียร์งานเพื่อมาเจอแฟนคลับคนสำคัญ ที่เป็นลูกของลุงเคตะ
                    O_O มิยะ ตัวเป็นๆ อยู่ตรงหน้าฉันเขากำลังพูดคุยกับฉัน ฉันไม่ได้ฝันไป กรี๊ดดดด :>{}<: เท่ชะมัดเลยใบหน้าของมิยะที่เพิ่งเห็นเป็นครั้งแรกที่ไม่มีเครื่องสำอางสีใดๆ มาประดับตกแต่งบนใบหน้าของเขา >O< โห หล่อมากๆ ไม่ไหว ฉันต้องไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดฉันคิดได้แค่นั้นก็รีบลุกแล้ววิ่งพรวดพราดออกมาจากห้องนั้นท่ามกลางความงงของทุกคนที่กำลังรุมตัวฉันหลังจากที่สลบไปเมื่อสักพัก
                    “เคียวโกะ นั่นลูกจะไปไหนไว้เดี๋ยวเคียวโกะค่อยให้คำตอบกับพ่อนะ ตอนนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ คะ
                    “ฮ่ะๆ เคียวโกะเป็นลมไปเลยที่เห็นหน้าหลานมิยะไม่เสียแรงเลย ที่ลุงจัดพิธีนี้ขึ้นมาเพื่อเซอร์ไพรส์เคียวโกะ ให้เจอหลานเคตะเอ่ยขึ้นเมื่อเคียวโกะลุกพรวดพราดออกไปได้สักพัก
                    “ผมเองก็ตกใจเหมือนกันครับ นึกไม่ถึงเลยว่าเคียวโกะจะคลั่งผมขนาดเป็นลมไปขนาดนั้นมิยะหัวเราะในลำคอก่อนจะทำหน้านิ่งตอบกลับไป
                    “เคตะ แล้วคุณจะตามเคียวโกะมาดื่มชาต่อมั้ย ซายาโกะพลางเอ่ยขึ้น
                    “หนูว่าไม่ต้องหรอกคะ คุณน้า ขืนให้เคียวโกะมาดื่มชาด้วยกันต่อ เธอต้องวางตัวไม่ถูกแน่ๆ ก็เธอคลั่ง พี่มิยะ ขนาดนั้น ฮิโตมิเอ่ยขึ้น ในขณะที่เธอเองกำลังกลั้นขำเต็มที
                    “แล้วเรื่องเรียนล่ะคะ คุณเคตะ จะให้เคียวโกะเริ่มเรียนวันไหนคุณซากุระที่เงียบอยู่นานเอ่ยขึ้นบ้าง
                    “พรุ่งนี้เลยน่ะครับผมคุยกับ ผ.อ.โรงเรียนฮิเซนโตะ เรื่องที่เคียวโกะต้องเข้าเรียนกลางคันเอาไว้แล้ว โดยจะให้อยู่ห้อง 2-B ห้องเดียวกับ ฮิโตมิและมิโดริ พรุ่งนี้ผมจะขอฝากให้ ฮิโตมิ รับผิดชอบพาเคียวโกะเอาหลักฐานไปให้ที่โรงเรียนสักหน่อย...ฮิโตมิ ได้ใช่มั้ย?”
                    “ได้คะ
                    มิโดริเมื่อรู้ว่าเคียวโกะต้องเรียนห้องเดียวกับเธอก็ ฉุนกึก ขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา
                   
                    ครืน ครืน...
                    “ยังไม่นอนอีกเหรอเคียวโกะ                                            
                     “นอนไม่หลับคะ ก็ > / / /< ” หน้าฉันจะแดงไหมนะ กรี๊ดดดด >O< มิยะ
                    “เซอร์ไพรส์ ใช่ไหม^ ^ ที่พ่อจัดพิธีชงชาขึ้นมา ก็เพื่อจะให้ลูกสมหวังที่ได้เจอมิยะตัวเป็น ๆ ไง
                    “แล้วทำไมพ่อไม่บอกหนูล่ะคะ ว่า มิยะเป็นหลานพ่อ
                    “-O- ก็เซอร์ไพรส์อีกนั่นแหละ พ่อพลางยิ้มเจื่อนๆ มาให้ฉัน -_-
                    “แม่เขาเอาสร้อยเส้นนั้นให้ลูกหรือยัง
                    “สร้อยที่มี รูปหนูกับรูปของมิยะน่ะหรอคะ แม่ให้มาแล้วคะ ^^ นี่ไง เพิ่งใส่เมื่อกี้นี้เองคะ ฉันว่าพลางเอาสร้อยที่อยู่ในเสื้อออกมาให้พ่อดู พ่อยิ้มพอใจ
                    “สร้อยเส้นนั้น มิยะเขาสั่งทำเพื่อลูกนะ พอพ่อบอกว่าลูกชอบเขา เขาก็สั่งทำให้ลูกเลย ที่จริงมิยะ เขารู้มาตั้งสองปีกว่าแล้วว่าลูกชอบเขา จนกระทั่งพ่อบอกว่าลูกจะมาอยู่ที่ญี่ปุ่นเขาก็ส่งสร้อยเส้นนั้นฝากพ่อไปให้ลูก
                    “........
                    O_O มิยะเป็นเจ้าของสร้อยเส้นนี้ จริงๆ เหรอ...มิยะรู้จักฉันมาสองปีกว่าแล้วสิ แล้วอย่างนี้ฉันจะทำสีหน้าอย่างไงดีล่ะ ในเวลาที่ต้องเจอกัน อ๊ะ - / / / - ชักเขินซะแล้วสิ 
                    นี่ก็ดึกแล้ว ลูกนอนซะเถอะ เอ๊ะ..! พ่อเกือบลืมพรุ่งนี้ลูกต้องเอาหลักฐานไปให้ที่โรงเรียน ฮิเซนโตะด้วยในตอนเช้า พรุ่งนี้ฮิโตมิจะเป็นคนพาลูกไปโรงเรียนแล้วลูกจะต้องเริ่มเรียนพรุ่งนี้เป็นวันแรก อีกเรื่อง.. เย็นนี้ลูกไม่ต้องคิดมากนะทุกคนไม่ได้โกรธลูกหรอก ที่จู่ๆ ก็ลุกพรวดพราดไปแบบนั้นทุกคนเข้าใจ ว่าลูกคงจะตกใจมากที่จู่ๆ ก็เห็นหน้านักร้องที่ตัวเองชอบ
                    “=O= ค่ะพ่อ
                    ฉันมองพ่อจนกระทั่งประตูถูกเลื่อนปิดลง แต่หัวสมองของฉันนั้นกลับครุ่นคิดต่อไป สร้อยเส้นนี้เป็นของมิยะจริงๆ เหรอ ฉันใช้มือเรียวๆของตัวเองลูบสร้อยและเปิดล็อกเกตออก เผยให้เห็นรูปฉันกับมิยะ  ฉันอดที่จะอมยิ้มอย่างมีความสุขไม่ได้ ก็ในเมื่อ
                    มิยะเป็นเจ้าของสร้อยเส้นนี้อย่างไงล่ะ
                    “ฉันจะเก็บสร้อยเส้นนี้ไปชั่วชีวิต
     
                    โรงเรียนมัธยมปลายฮิเซนโตะ
                    ห้อง 2-B
                    ภายในห้องเรียนสีขาวสะอาดตา นักเรียนส่วนใหญ่กำลังนั่งคุยกัน แข่งกับบรรยากาศในห้องที่เปิดแอร์และค่อนข้างเย็น  แต่ก็ต้องหยุดเสียงลงเมื่อ อาจารย์วัยกลางคนรูปร่างผอมสูง กำลังเดินมาพร้อมกับนักเรียนที่เพิ่งเข้าใหม่
                    วันนี้ห้อง 2-B ของเรามีนักเรียนย้ายมาจากประเทศไทย อาจารย์หยุดพูดลงพยักหน้าเชิงให้ฉัน   >O< ให้ตาย ตอนนี้ฉันรู้สึกตื่นเต้นชะมัด
                    “ฉัน ฮิสุมิ เคียวโกะนะ ^^” ฉันว่าพลางโน้มตัวลง ในขณะที่เพื่อนในห้องทุกคนต่างมองมาที่ฉันด้วยความสนใจ บ้างก็ส่งเสียงเจี๊ยว จ๊าว หลังจากที่ฉันแนะนำตัวเสร็จจึงเดินเข้าไปหาที่นั่ง
                    ฮิสุมิ เคียวโกะ น่ารักจังเลยที่ตรงนี้ยังว่างนะนั่งได้นะครับ^^”เสียงของผู้ชายคนหนึ่งที่เอ่ยเสียงทักฉัน ฉันยิ้มให้
                    ขอบคุณนะ แต่ไม่เป็นไร ฉันหาที่ใหม่ดีกว่า
                    ในขณะที่เพื่อนในกลุ่มของนายนั่นต่างส่งเสียงกิ้วก๊าวมาให้ฉันที่ฉันกล้าปฏิเสธเขา เพราะอะไรน่ะเหรอ ถ้าให้ฉันเดา เขาต้องเป็นหนุ่มป๊อปประจำห้องแน่ หน้าตาดีขนาดนี้แล้วดูถ้าเรื่องผู้หญิงก็ใช่ย่อยด้วย -O- นักเรียนหญิงบางคนก็ส่งสายตาอาฆาตมาให้ฉัน แต่สายตาของมิโดริฉันอ่านไม่ออกจริงๆ ว่าเธอหมายถึงอะไรหรือว่าเธอจะชอบนายนี่ =o= ฉันหยุดความคิดไว้แค่นี้ เมื่อเห็นว่ามีเก้าอี้ในห้องว่างอยู่ แต่คนที่ฉันต้องนั่งด้วยนั้นเป็นผู้ชายที่ดูแล้ว คงแก่เรียนน่าดู น่าคบแฮะหมอนี่ใส่แว่นซะดูมิดชิดเลย -O-
                    ขอโทษนะ ตรงนี้มีใครนั่งด้วยมั้ย?” หนุ่มแว่นหันมามองหน้าฉันแล้วส่ายหน้าช้าๆ ที่หมายถึงว่าไม่มีคนนั่งก่อนจะหันไปสนใจกับวิวนอกหน้าต่าง -_-
                    งั้นฉันขอนั่งด้วยคนนะ ^^”หนุ่มแว่นหันมาพยักหน้าให้ฉันอีกครั้งก่อนจะกลับไปสนใจสิ่งเดิม =O=
                    “แล้วนายชื่ออะไรล่ะ เขาหันมามองหน้าฉันอีกครั้งประมาณแปดวิ ฉันถึงได้คำตอบ -O-^
                    เรียกฉันว่า อิจิโร่ แล้วเขาก็หันไปมองวิวหน้าต่างเหมือนเดิม =_= นี่ฉันกำลังนั่งกับหุ่นยนต์หรือเปล่าเพราะเขาไม่พูดอะไรกับฉันเลยสักคำตลอดที่นั่งเรียนมาครึ่งวัน ในที่สุดก็ถึงเวลาพักกลางวันสักที ฮิโตมิรีบเดินมาฉุดฉันขึ้นเพื่อพาไปโรงอาหาร พร้อมกับเพื่อนเธอ มากิโนะ กับ ยูรินะ
                    “เคียวโกะ เธอนั่งกับอิจิโร่เป็นไงบ้างน่ะ
                    ก็ดีจ๊ะ แต่เขาไม่ค่อยคุย ดูเหมือน พวกเลื่อนลอย ^^”
                    อิจิโร่เขาไม่ค่อยเหมือนคนอื่นนะ เขาเป็นแบบนั้นมาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว ในห้องไม่ค่อยมีใครกล้าคุยกับเขาหรอก เพราะเขาค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสูง แต่ฉันอึ้งเขา ตรงที่เป็นนักเรียนดีเด่นเมื่อปีที่แล้ว แต่นั่นไม่เท่าไหร่ เพราะอิจิโร่ก็ดูเรียบร้อยดี ถ้าเทียบกับผู้ชายคนอื่นในห้องและต่างห้องแล้ว แต่ที่ฉันไม่เข้าใจเลย ก็คือ อิจิโร่ได้รับรางวัลนักเรียนที่ฉลาดที่สุดในชั้นปี นี่แหละ ทั้งๆ ที่เขา เอาแต่นั่งมองวิวหน้าต่างทั้งวัน ทำได้ไงกันนะ
                    ทานด้วยคนสิ
                    เสียงของอีกคนที่เข้ามาร่วงลงสนทนาด้วยทำให้เราทั้งหมดต้องเงยหน้าไปดูเจ้าของเสียงพร้อมกัน
    แล้วรอยยิ้มแบบเขินอายก็ปรากฏขึ้น ของใบหน้า ฮิโตมิ ทำให้ฉันต้องแปลกใจ
                    เอจิ ทำไมนาย - / / / - ไม่ไปทานข้าวกับกลุ่มของนายล่ะ
                    ไม่ล่ะ ฉันเบื่อหน้าไอ้พวกนั้นแล้ว อีกอย่างฉันอยากมานั่งทานด้วย มันผิดด้วยเหรอ
                    เอ๊ะ นายหน้าหล่อที่ชื่อเอจิ เป็นแฟนฮิโตมิงั้นเหรอ แหมเสียดายจัง -.,- ในขณะที่จิตของฉันกำลังฟุ้งซ่านอยู่นั้น ก็พบว่าเอจิโน้มตัวลงมานั่งข้างๆ กับฮิโตมิแล้ว
                    นี่เอจิ นายอย่าทำให้ฮิโตมิแก้มแดงบ่อยๆ ได้มั้ย
                    มากิโนะเอ่ยขึ้นพลางเอามือไปจิ้มๆ แก้มของฮิโตมิที่ตอนนี้ก้มหน้างุดๆด้วยความเขินเห็นแล้วก็อดอิจฉาไม่ได้แฮะ 
                    “O_O นั่นใครน่ะ ฮิโตมิเอจิว่าพลางพยักพเยิดหน้ามาที่ฉัน ที่ตอนนี้กำลังก้มหน้าก้มตาทานอย่างเดียว
                    เพิ่งเข้าใหม่น่ะ ฮิสุมิ เคียวโกะ...แล้วเคียวโกะจ๊ะ ^^ นี่เอจินะ อยู่ห้อง 2-A เรากำลังคบกันอยู่
                    ฮิโตมิพลางหันมาพูดกับฉัน ประโยคหลังน้ำเสียงเธอเบาลง คงเขินน่าดู
                    ยินดีที่ได้รู้จักนะฉันว่าพลางโน้มตัวเป็นเชิงทักทายก่อนจะกลับมาสนใจกินอาหารที่อยู่ตรงหน้าต่อ
                    จากวันนั้นมาฉันก็มาอยู่ที่ญี่ปุ่นได้สามอาทิตย์แล้วล่ะ ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยได้เจอมิยะเลยเศร้า T^T เพราะ เขากำลังเตรียมตัวออกอัลบั้มใหม่ ปกติก็ไม่ได้เจอกันอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งไม่ได้เจอใหญ่เลย ในระหว่างที่ฉันนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยคนเดียวอยู่ ก็ต้องตกใจเมื่อเอจิเข้ามานั่งข้างๆ ฉันในขณะที่ฉันกำลังนั่งอยู่ที่ระเบียงหน้าห้องคนเดียว
                    ทำไมมานั่งอยู่คนเดียวล่ะ
                    ลมเย็นดีน่ะ แล้วชั่วโมงนี้ นายไม่มีเรียนเหรอ
                    ชั่วโมงโฮมรูม ว่างน่ะ
                    นายจะมาหาฮิโตมิใช่มั้ย เธออยู่ในห้อง เดี๋ยวฉันไปตามมาให้ รอแป๊บนะ ^^”
                    ขณะที่ฉันกำลังจะลุก เอจิจับแขนฉันไว้ทำให้ฉันตกใจ แต่นั่นไม่เท่าไหร่ที่ฉันตกใจก็คือ ฮิโตมิเธอ มาเห็นภาพนั้นพอดี
                    ทำอะไรกันน่ะฉันรีบสะบัดมือเอจิออกทันที
                เอ่อ...เคียวโกะจะไปตามเธอน่ะ แต่ว่าเธอเดินออกมาซะก่อนฉันเลยฉุดมือเคียวโกะไว้ แบบว่าไม่ต้องไปตามแล้ว เพราะเธอเดินออกมาจากห้องพอดี^^”
                    “ฉัน ขอตัวนะถ้าฉันไม่ได้เข้าข้างตัวเองฉันว่านายจงใจจับมือฉันนะ -O-+ เอจิ                                             ฉันว่าพลางรีบเดินออกมาจากตรงนั้น ช่วงนี้เอจิดูเขาเข้ามายุ่งกับฉันมากกว่าแต่ก่อน และบางทีก็ชอบมาหยีหัวฉันเล่นเหมือนฉันเป็นเด็กๆ=_=จนฉันต้องกลับบ้านทุกวันโดยสภาพหัวเหมือนเพิ่งโดนรุมโทรมมา -O-ฉันเดินมานั่งที่โต๊ะของตัวเองในขณะที่เอจิกับฮิโตมิยังง๋องๆ แง๋งๆ ใส่กัน เฮ้อน่าเบื่อคู่นี้จริงๆ พอหันไปดูคนข้างๆ อิจิโร่ -_- เขาไม่ค่อยอยู่ในห้องเลย ไม่สินายนั่นออกไปทุกชั่วโมงเลย เมื่ออาจารย์เข้าสอนสาย หรือทุกคาบที่อาจารย์ออกก่อนเวลา หรือชั่วโมงโฮมรูมฉันก็ไม่เห็นเขา
                    เคียวโกะ นั่งเงียบไปนานเลย กำลังคิดถึงพี่มิยะของฉันอยู่เหรอ
                    คำถามที่ฮิโตริเอ่ยขึ้น ทำเอาฉันหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาก็แหงล่ะฉันนั่งเงียบอยู่เฉยๆ ทุกครั่งก็เพราะว่าฉันกำลังคิดถึงพี่เธออยู่น่ะแหละอิโตมิ >O<
                    เอ่อ...อืม >/ /<”ฉันพยักหน้าแทนคำตอบ ตอนนี้ฉันกำลังกลับบ้านโดยนั่งรถลีมูซีนคันเดิม โดยที่ฮิโตมิกับมิโดรินั่งขนาบข้างๆฉัน 
                    คิดถึงพี่มิยะ แล้วอยู่ๆ ก็หน้าแดงขึ้นมา ทำอย่างกับว่าพี่มิยะเขาจะคิดถึงเธอกลับ
                    “ฉันคิดถึงเขา ก็เพราะว่าฉันชื่นชมเขา ฉันไม่ได้ต้องการให้เขาคิดถึงฉันตอบแทนสักหน่อย   ฉันจะคิดถึง
    มิยะ ไม่ได้งั้นเหรอ ก็ในเมื่อเขาเป็นนักร้องที่ฉันชอบ
                    แน่ใจเหรอ ว่าเธอไม่ต้องการอะไรจากพี่มิยะ กิริยาท่าทางที่เธอแสดงต่อหน้าทุกคน ตอนเจอหน้าพี่มิยะ รู้มั้ย ว่ามันทำให้ฉัน ไม่ชอบเธอเอาอีกล่ะยัยนี่ หาเรื่องฉันอีกแล้ว ยัยมิโดริ =_=
                    ฉันไม่ได้ต้องการอะไรจากมิยะ ฉันก็แค่ทำตัวไม่ถูก ตอนอยู่ต่อหน้าเขา หรือไม่ก็เวลาที่มิยะคุยกับฉัน
                    “เธอคิดแค่นั้นใช่ไหม งั้นก็ดี แต่สิ่งที่ฉันจะพูดต่อไปนี้ เธอจำใส่สมองเอาไว้นะ! ว่าพี่มิยะเขามีคนที่เขาคบด้วยอยู่แล้ว และอาจจะแต่งงานกันก็ได้และฮิโตมิ ฉันจะเตือนอะไรเธออย่างหนึ่งนะ ระวังเอจิไว้ให้ดีก็แล้วกัน ตลอดสามอาทิตย์ที่ผ่านมาฉันเห็น เอจินั่งมองเคียวโกะตลอดเลย ไม่ว่าจะเป็นตอนทานข้าวกลางวัน ปากเขาคุยกับเธอ แต่สายตานายนั่นกลับไม่ได้มองที่เธอแต่กลับมองยัยเคียวโกะแทน เอจิเข้ามาในห้องก็มักจะเดินมาทักเคียวโกะก่อน แทนที่จะเป็นเธอทั้งๆ ที่ก็เป็นแฟนกัน ฉันคิดว่าบางที...เอจิอาจจะสนใจเคียวโกะแทนเธอขึ้นมาก็ได้ ก็ในเมื่อของใหม่ต้องดีกว่าของเก่าอยู่แล้ว...
                    มิโดริ..!”
                    ฮิโตมิเอ่ยขึ้นด้วยความไม่พอใจ ในขณะที่มิโดริลงจากรถไปแล้ว เมื่อรถเข้ามาจอดในบ้านการสนทนาจึงหยุดลงเพียงแค่นั้นหลังจากวันนั้นดูเหมือนฮิโตมิคุยกับฉันน้อยลง เอจิกลับเข้ามายุ่งกับฉันมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นยิ่งทำให้ฮิโตมิไม่คุยกับฉันเลย หนึ่งอาทิตย์แล้วที่เป็นแบบนี้ แล้วพ่อกับคุณซายาโกะก็บินไปฝรั่งเศสเมื่อสามวันที่แล้วสักสามเดือนถึงจะบินกลับญี่ปุ่น แต่ฉันก็ได้ทำสงครามประสาทมิโดริเกอบทุกครั้งที่เจอหน้ากัน แต่ก็ยังโชคดีที่มิยะดูว่างมากขึ้น และมักจะเจียนหาเวลามาทานข้าวที่บ้านฉันบ่อยๆ ซึ่งนั่นฉันก็จะทำตัวไม่ถูก
                    และตอนนี้ฉันก็กำลังเผชิญกับสถานการณ์นี้อยู่ -_-
                    “หน้าเธอแดงๆ นะเคียวโกะมิยะถามฉันในขณะที่เขากำลังครีบเส้นราเม็งและดูเหมือนว่ามิยะกำลังครีบเส้นเดียวกับฉันอยู่ -_-^และนี่ก็คือสาเหตุที่ฉันหน้าแดงอย่างไงล่ะ >O<
                    “ก็มั้งคะฉันตอบกลับมิยะไปด้วยคำใบหน้าที่นิ่งแต่ในใจนี่เต้นไม่เป็นระส่ำ -_- ดีนะที่มิโดริไม่อยู่
                    “วันนี้ฉันว่าง ออกไปเดินเล่นถนนฮาราจุมั้ย เธอมาอยู่ที่นี่ก็เกือบเดือนแล้วยังไม่ได้ไปเปิดหูเปิดตาอย่างเป็นทางการเลย
                    พรวดดมิยะชวนฉันไปเที่ยวเหรอเนี่ย นี่ฉันไม่ได้ฝันไปสินะ >O<
                    “ฮ่ะๆ อะไร กันแค่เนี่ยเธอถึงกับสำลักเส้นราเม็งเลยเหรอ ^^”นิ่งไว้ รอยยิ้มของมิยะมันช่างๆ มีเสน่ห์แล้วน่ารักอะไรขนาดนี้ >_<
                    แต่งแบบไหนไปดีนะไปข้างนอกกับมิยะทั้งที เสื้อตัวนี้กับกางเกงสีขาวตัวนี้จะเข้ากันหรือเปล่า เสื้อผ้าที่เอามาด้วยก็เชยสะบัดช่อซะด้วยสิ ผึ่ง ~ หมดความอดทนในการเลือกเสื้อผ้า หาเสื้อผ้าที่มันแมทๆ เข้ากันไม่ได้ได้สักที -_-
                    งั้นเลือกๆ แบบสุ่มๆ ก็แล้วกัน และหลังจากที่ฉันเลือกมากเรื่องเสื้อผ้าอยู่นาน ก็เสร็จสักทีแต่พอสายตาฉันเลื่อนไปดูนาฬิกาที่ผนังห้องก็ต้องตกใจ O_O นี่ฉันแต่งตัวนานเกือบชั่วโมงเลยเหรอเนี่ย อ๊ากกก ต้องรีบมัดผมแล้ว >.< ในระหว่างที่ฉันวุ่นๆ อยู่กับหัวของตัวเองอยู่ ประตูห้องก็ถูกเลื่อนออก พร้อมกับเจ้าของใบหน้า ที่คิ้วขมวดพันกันยุ่งไปหมด
                    O_O มิยะ !
                    “เฮ้อ...ฉันรอเธอเกือบชั่วโมงแล้วนะ แต่งตัวเร็วๆ กว่านี้หน่อยได้มั้ยมิยะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ -_-
                    “จะเสร็จแล้วคะแล้วมือฉันก็ยังคงจับผมตัวเองไว้อยู่ ก็ต้องตกใจเมื่อมิยะเลื่อนประตูปิดลง -..- และเดินเข้ามาหาฉัน พลางเข้ามารวบผมฉันไว้ ทำให้มือเรียวยาวของมิยะสัมผัสเข้ากับมือเรียวสวยของฉันเต็มๆ >O<
                    “ขอโทษ
                    ไม่เป็นไรคะหัวใจเต้นรัวอีกแล้ว -_- พักนี้มิยะทำให้หัวใจฉันเต้นเร็วบ่อยๆ ฉันก็ไม่ได้ไปเต้นบีบอยที่ไหนสักหน่อย แล้วทำไมถึงได้เต้นเป็นจังหวะแร็ฟโยว่เรียกพี่แบบนี้ล่ะ –O- มิยะหยิบหวีมาหวีผมให้ฉันก่อนจะม้วนผมของฉันขึ้น แล้วรวบมันเอาไว้ก่อนจะเอายางมัดให้อย่างเบามือ -.- ฉันในตอนนี้ก้มหน้างุดด้วยความเขิน
                    เธอน่าจะสงสาร คนรออย่างฉันบ้างนะมิยะว่าพลางโน้มหน้าลงมากระซิบที่ข้างหูฉันเบาๆ  ระ...รู้สึก อึ๊ย ~O~ ขนลุก...-..- มิยะโน้มหน้าลงมาต่ำเรื่อยๆ จนลมหายใจของมิยะเป่ารดอยู่ที่คอของฉัน
                    เธอใช้น้ำหอมกลิ่นดอกซากุระเหรอ กลิ่นเดียวกับฉันเลย ฉันก็ใช้กลิ่นนี้อยู่
                    “…....”ใครจะกล้าบอกเล่าว่าที่ฉันใช้น้ำหอมกลิ่นนี้ก็เพราะว่าฉันอ่านบทสัมภาษณ์ของมิยะว่ามิยะชอบ กลิ่นซากุระมาก ฉันก็เลยใช้น้ำหอมกลิ่นนี้
                    หน้าเธอแดงมากเลยนะเคียวโกะ ไปกันเถอะ
                    ”คะหน้าแดงแล้วทำไมฉันต้องทำหน้านิ่งทุกครั้งที่ตอนตอบมิยะด้วยนะไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ >O<
                     ถนนฮาราจุกุ !
                    ฉันจะไปหาที่จอด เธอรออยู่ตรงนี้นะ
                    คะมิยะว่าพลางเลี้ยวสปร์อตคันสีดำเพื่อไปหาที่จอดหลังจากที่ฉันลงจากรถแล้ว ชุดที่มิยะใส่มาวันนี้มิดชิดพอสมควร และดูไม่ออกเลย (หรือเปล่า ?) ว่าเขาเป็นนักร้องนำวง Diskizan วงร็อคชื่อดังของญี่ปุ่น สักพักมิยะก็เดินมาพร้อมกับฉุดมือฉันและเดินนำไปในขณะที่จังหวะการเต้นหัวใจของฉัน เร็วขึ้นเรื่อยๆ –_- และมือของมิยะก็กุมมือของฉันไว้แน่น
                    เอ่อ ไม่ต้องรีบก็ได้คะ ฉันเดินตามไม่ทัน
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×