พิสูจน์รักด้วยเวลา
ก็ใครมันจะไปเข้าใจ.. เรื่องรักไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นี่นา
ผู้เข้าชมรวม
361
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
"เราเลิกกันเถอะนะ" หนุ่มรูปร่างสูง ผอม เขาสวมกางเกงยีนส์ เสื้อยืดคอกลม อายุสิบแปดปีเท่ากันกับสาวน้อยที่แต่งกายคล้าย ๆ กัน เขากำลังยืนหันหลังให้เธอ และเอ่ยประโยคดังกล่าวออกมาด้วยเสียงสั่นพร่า
"............." ไม่มีคำพูดใดจากเธอ ผู้ชายหลอกหลวง ก็ไหนบอกว่าจะรักกันตลอดไป ไหนบอกว่าเธอชื่อเพลงพิณ เสียงที่บรรเลงไพเราะจนจับใจเขา เพราะการชอบอะไรที่เหมือน ๆ กัน เพราะหน้าตาเธอสดใสของเธอเคยสะกดใจเขาเอาไว้ไม่ใช่หรือ 'เราจะรักกันตลอดไปนะเพลง' สาบานได้ว่าเขาพูดแบบนั้นจริง ๆ เพลงพิณน้ำตาคลอเบ้า หันหลังให้แล้วเดินออกจากตรงนั้นเงียบ ๆ
ผ่านไปเหมือนชั่วกัปชั่วกัลป์ ที่วิรุธไม่ได้ยินเสียงตอบจากคนข้างหลัง พอเขาหันกลับมามองพบแต่ความว่างเปล่า หัวตาของลูกผู้ชายร้อนผ่าว จริง ๆ แล้วเขารักเพลงพิณ รักมากที่สุด ไม่มีผู้หญิงคนไหนเข้าถึงหัวใจเขาได้มากเท่าเธอ แต่ทว่าเมื่อทางบ้านให้ตัดสินใจ เขาจำเป็นต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ สิ่งเดียวที่จะทำให้เพลงพิณเจ็บน้อยที่สุดก็คือ การบอกเลิกเธอ เขาไม่อยากให้เธอเป็นกังวลเมื่อเขาต้องไปไกลตาขนาดนั้น เขาเป็นห่วงและรักเธอเกินกว่าจะเห็นแก่ตัว โดยการบอกให้เธอรอจนกว่าเขาไปเรียนต่อกลับมา ซึ่งกินเวลาถึงสี่ปี
'พ่อสัญญา วิรุธถ้าหากว่าแกกลับมาแล้วแฟนแกยังไม่มีผัวไปเสียก่อน พ่อจะให้แกแต่งกับเธอ'
หลังจากล้อเครื่องบินแตะรันเวย์ ลูกชายนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเข้าบ้านเมื่อไหว้บิดา-มารดา เรียบร้อยแล้ว เขาก็เอ่ยปากขอทวงสัญญาลูกผู้ชายจากบิดาคืน
วิรุธผิวปากอย่างอารมณ์ดี เมื่อขับรถออกจากบ้าน ข่าวคราวที่เขาได้รับจากเพื่อนสนิทที่คุยกันสม่ำเสมอ บอกเขาว่าขณะนี้เพลงพิณยังโสด เธอเปิดร้านตัดเย็บเสื้อผ้าอยู่ในจังหวัดบ้านเกิดของเขา แน่นอนว่าเธอยังรักเขาเหมือนเดิม ตลอดเวลาถึงแม้มีคนมาจีบมากมาย เพลงพิณไม่เคยตกลงปลงใจกับใครหน้าไหนทั้ง เขาและเธอต้องเกิดมาเป็นเนื้อคู่กันโดยเนื้อแท้ ชายหนุ่มร้องเพลงคลอตามวิทยุในรถอย่างสบายใจ
++++*-.......-*+*-........-*+*-........-*+*-.........-*++++
เพลงพิณหยิบนิตยสารบนแผงมาเล่มหนึ่ง เมื่อจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ ก็เดินเล่นเรื่อยมาถึงชั้นล่างสุดของห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีอยู่แห่งเดียวในจังหวัด สายตาเธอไปเจอกับบอร์ดที่ติดอยู่ข้างฝา มีรายการอาหารและเมนูแนะนำ เกือบลืมไปว่าที่ห้างฯ นี้มีบาร์ที่ซ่อนอยู่ในซอกตึก ติดกับลานจอดรถนี่ด้วย เธอตัดสินใจผลักบานประตูกระจกติดฟิล์มทึม ๆ นั้นเข้าไป มีเสียงเพลงเบา ๆ คงดังมาจากเครื่องเล่นเสียงซึ่งคงซ่อนตัวอยู่ไหนสักแห่งหลังเคาน์เตอร์ที่ตั้งเด่นตระหง่านอยู่กลางร้านนั่นกระมัง โคมไฟสีขาว ดวงกลมห้อยระย้าจากเพดานเป็นลูกกลม ๆ ต่างขนาดกันไป ทำให้ไม่มืดทึมจนเกินไป แต่กระนั้นก็ยังได้กลิ่นอับนิด ๆ โต๊ะและเก้าอี้สีขาวเข้าชุดกัน ถูกจัดวางอย่างคุ้มเนื้อที่ มีทางเดินระหว่างโต๊ะแคบ ๆ เธอกวาดสายตาคร่าว ๆ ไม่มีแขกอื่นเลย นอกจากพนักงานสองสามคนที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ เธอตัดสินใจเลือกที่นั่งติดผนัง ห่างจากเคาน์เตอร์มากที่สุด เธอก้าวเท้าเดินไปไม่รีบร้อน ได้ยินเสียงผู้หญิงทักทายมาจากด้านหลัง ขณะเดินไปยังโต๊ะที่หมายตาไว้ พอนั่งลงเสียงดังกล่าวก็ตามมาถึงพอดี อนงค์นั่นเอง เธอเป็นหนึ่งในลูกค้าของเพลงพิณที่มักจะไปใช้บริการตัดเสื้อผ้าเสมอ ๆ หญิงสาวสองคนยิ้มทักทายกันตามมารยาท
"ขอกาแฟเย็นก็แล้วกันนะคะ" เพลงพิณปฏิเสธเมนูที่อีกฝ่ายยื่นให้
"ไม่รับเป็นชุดโปรโมชั่นหรือคะพี่ มีอาหารจานเดียวกับน้ำ แค่ห้าสิบหกบาทเองสำหรับคนที่มาเดี่ยวแบบนี้"
"ไม่ล่ะค่ะ เพิ่งอิ่ม เพียงแต่หาที่เงียบ ๆ นั่งเล่น อาจจะอ่านหนังสือเล่น ๆ ฆ่าเวลาเปลี่ยนบรรยากาศจากที่ร้านค่ะ นั่งทั้งวันก็อุดอู้" เจอประโยคเด็ดเข้า อนงค์จึงยอมเดินกลับไป หญิงสาวมองตามเธอไป ก็ดีไปอย่างขณะนี้มีเธอเป็นลูกค้าอยู่คนเดียวในขณะนี้ คงผ่อนคลายได้สักพักล่ะ เธอเปิดหนังสือที่ซื้อติดมือมา แสงไฟไม่สว่างนักแต่ก็ไม่ได้มืดจนมองไม่เห็นอะไร อ่านคร่าว ๆ พลิกดูรูปเสียมากกว่า แบบเสื้อสวย ๆ ทั้งนั้น อนงค์นำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟแล้วจากไป
เพลงพิณถอนหายใจ จิบเครื่องดื่มเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างผ่านกระจกทึม ๆ ที่ติดฟิล์มทึบเสียจนมองแทบไม่ออกว่านี่เป็นใต้ถุนตึก อยู่ข้างที่จอดรถ ความคิดถึงแผ่กระจายสามปีกว่าแล้วจากวันที่เขาบอกเลิก แต่เธอไม่เคยลืม วิรุธเพลงยังคิดถึงคุณนะรู้ไหม
ผู้ชายใจร้าย
คุณยังมีความหมายต่อฉันนะ รู้ไหม
รักที่ฝังแน่น ติดตรึงใจ
ทำอย่างไรก็มิอาจจะลืมเลือน
ผู้ชายใจร้าย
ไหนบอกว่า..ฉันมีความหมายเสมอเหมือน
ดวงตา ดวงใจ เด่นกว่าดาวและเดือน
ไฉนเลยจึงบิดเบือน .. แล้วจากไป
ผู้ชายใจร้าย
คิดถึงคนเคยมีความหมายคนนี้บ้างไหม
++++*-.......-*+*-........-*+*-........-*+*-.........-*++++
"แล้วพอจะเดาได้ไหมครับ" วิรุธหน้าเสีย เมื่อเด็กสาวในร้านบอกว่าเพลงพิณออกไปข้างนอก ติดต่อไม่ได้ หลุดคำถามโง่ ๆ ออกไปจนแทบจะกัดลิ้นตัวเอง เมื่อเห็นรอยยิ้มและอาการส่ายศีรษะที่ตอบกลับมา
"เอ่อ..ไว้ผมค่อยมาอีกทีก็แล้วกันนะครับ" เขาถอยหลัง โค้งศีรษะให้สาว ๆ ที่อยู่ในร้าน
"จะฝากบอกอะไรถึงพี่เพลงไหมคะ" ชายหนุ่มยิ้ม
"ไม่เป็นไรครับ เอาไว้มาใหม่สะดวกกว่า อยากเซอร์ไพร้ส์เขาน่ะครับ" เขายิ้มแล้วเดินหันหลังจากมา หน้ายุ่ง คิ้วขมวด เข้าไปนั่งในรถแล้วตั้งสติ
++++*-.......-*+*-........-*+*-........-*+*-.........-*++++
เพลงพิณตื่นจากภวังค์ เมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือ เธอหยิบมันออกมาจากกระเป๋าถือ ไมค์นั่นเอง เขาเป็นชาวอิตาลี่ ที่ติดใจเมืองไทย จนยอมทำงานอยู่โรงเรียนเอกชนจังหวัดชายทะเลแห่งนี้
"สวัสดีค่ะ"
"สวัสดีขรั่บ " เสียงเหน่อ ๆ ไมค์พูดไทยได้ แต่ก็ไม่ชัดนัก
"เพิร์ล คุณอยู่ไหนขรั่บ" เขาล่ะ เรียกเพลงไม่ชัด เพี้ยนไปเป็นเพิร์ลจนเธอชินกับมันเสียแล้ว
"ในเมืองค่ะ"
"โพ้มไปหาได้ไหม"
"อย่าเลยค่ะ เพลงกำลังจะกลับแล้วล่ะ"
"แล้วเพิร์ลอยู่ไหนล่ะ"
"ร้าน......" เธอบอกชื่อร้านและสถานที่ให้เขาไป ชายหนุ่มร้องอ๋อ แล้วรีบวางสายไป หญิงสาวออกจะงง ๆ กับอาการของเขา การคบกับไมค์ก็ดีไปอย่างเพราะเขากระเดียดไปทางผู้หญิง คบแล้วสบายใจ ไม่มีเสียงนินทา เพราะรู้ว่าเขาเป็นเกย์
บรรยากาศสงบ ๆ คืนมาได้ไม่นาน ก็มีเสียงคนเปิดประตูเดินเข้ามา เพลงพิณไม่ได้สนใจผู้มาใหม่รู้แต่ว่าเป็นผู้ชาย เพราะได้ยินเสียงพูดคุยกับอนงค์ อีกอย่างเธอนั่งหันหลังให้ประตู ทั้งไม่อยากหันไปมองให้เสียมารยาท เธอยังคงนั่งเปิดหนังสือต่อไปเงียบ ๆ เสียงโต๊ะโน้นคุยกันเบา ๆ ฟังไม่ได้สรรพอะไร สักพักก็ได้ยินเสียงเปิดประตูอีก สงสัยลูกค้าคงเริ่มเข้า เห็นทีเธอคงต้องกลับแล้วกระมัง หันไปหวังจะเรียกเช็คบิล
สายตาของเธอปะทะกับสายตาคม ๆ ที่มองตรงมาอย่างท้าทาย สองสายตาประสานกันกลางอากาศ เพลงพิณเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย แก้มร้อนผ่าว สายตาของเขาคมกล้าเสียจนต้องเสหลบ
'อีตาบ้า ไม่มีมารยาท' หัวใจของเธอระรัวมันเต้นตึ้กตั้ก ๆ แรงผิดจังหวะ บอกไม่ถูกจริง ๆ กับการได้เจอเขาอีกครั้งอย่างกะทันหันแบบนี้ ดูเหมือนเขาจะเดินเข้ามาใกล้ กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ ลอยมากระทบจมูก เธอเงยหน้าขึ้น มองผ่านเขาไปเหมือนไม่เห็นอะไร เรียกอนงค์มาเช็คบิล เขาล้วงกระเป๋าหยิบแบ้งค์สีแดงมาวางบนโต๊ะ แล้วฉวยข้อมือเธอ ดวงตากลมโตกระพริบอย่างตระหนก ไม่คิดว่าเขาจะถึงตัวโดยไม่เกรงใจอย่างนี้ อ้าปากจะพูด แต่พอเจอสายตาของเขาก็เข่าอ่อน พูดอะไรไม่ออก วิรุธก้มมากระซิบ
"เดินตามผมไปสงบ ๆ ถ้าไม่อยากอายคนแถวนี้" เธอพยายามจะดึงแขนออกให้พ้นการเกาะกุมแต่ไม่สำเร็จ อนงค์เดินมามองคู่นี้ งง ๆ
"ไม่ต้องทอนนะครับ" ชายหนุ่มยิ้มให้หญิงสาวที่มาใหม่
"พี่เพลงจะกลับเลยหรือเปล่าคะ" อนงค์ซึ่งเป็นคนช่างพูดอยู่แล้ว อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้เมื่อเห็นท่าทีแปลก ๆ ระหว่างหนุ่ม-สาว เพลงพิณได้แต่ยิ้มพยักหน้าแล้วปล่อยให้เขาจูงมือ ลุกออกจากตรงนั้น
"พี่เพลง เดี๋ยวนงจะแวะไปที่ร้าน" อนงค์ยังไม่ละความพยายาม
"อ๋อจ้ะ ถ้ายังไงพี่อาจจะไปกับเพื่อนพี่ก่อน ถ้าอนงค์ไปถึงก่อนก็ให้น้องยาจัดการให้ก็ได้นะ"
"ค่ะ ๆ " เมื่อได้ยินว่าเป็นเพื่อนก็ปล่อยเลยตามเลย ไม่ยุ่งเรื่องหนุ่ม ๆ สาว ๆ อีก เขาจูงมือเธอมาจนถึงลานจอดรถ เปิดล็อคจากรีโมท พาเธอไปแล้วเปิดประตูฝั่งซ้ายให้ กระซิบย้ำ
"ถ้าไม่อยากอายใครก็ไปกับผม แค่มีเรื่องอยากจะคุยด้วย" เขารีบวิ่งอ้อมกลับมาทางฝั่งคนขับแล้วขับออกจากที่ตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ทั้งรถนอกจากเสียงเครื่องยนต์ก็ได้ยินแต่เสียงเพลงจากวิทยุ ไม่มีใครพูดอะไรกัน เขาใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาที พาเธอมายังสวนสาธารณะใจกลางเมือง ซึ่งขณะนี้ผู้คนไม่พลุกพล่านนัก จอดรถใต้ร่มไม้ แต่ยังไม่ดับเครื่อง
"ผมมีเรื่องจะอธิบายนะเพลง" เขาละมือจากพวงมาลัยมากุมมือเธอไว้ แต่เพลงพิณก็ชักกลับ สะบัดหน้า มองออกไปนอกหน้าต่างยังดีเสียกว่าจะมองหน้าเขา
"ผมไม่ได้หวังว่าเพลงจะยกโทษให้ แต่อยากบอกว่าวันที่ผมบอกเลิกกับเพลง ผมเองก็เจ็บปวดแทบขาดใจ แต่ผมก็รักเพลงเกินกว่าจะใจร้ายให้เพลงรอผม โดยไม่ให้โอกาสเพลงได้คบคนอื่น" หญิงสาวหันขวับมาทางเขา
"เดี๋ยวสิ ฟังผมให้จบก่อน" วิรุธใจดีสู้แม่เสือสาว ซึ่งตอนนี้สายตาเธอหากเป็นไฟ คงเผาเขาวอดวายคาที่ไปแล้ว
"แม่กับพ่อ บอกว่าระหว่างเราเป็นเพียงปัปปี้เลิฟ ซึ่งหากว่าผมกับเพลงพิสูจน์ได้ว่าเรารักกันจริง ท่านก็จะยอมรับและไม่ขัดขวาง" เพลงพิณสะบัดหน้ามองไปนอกหน้าต่างรถ เขาได้โอกาสดึงมือนุ่ม ๆ นั้นมากุมอีกครั้ง คราวนี้เธอไม่ได้ดึงกลับแต่อย่างใด
"ผมขอโทษเพลงจริง ๆ ตลอดเวลาผมได้ข่าวเพลงมาตลอด ไมค์เป็นเพื่อนผมเอง" ปลายเสียงสารพภาพอ่อย ๆ
"คุณ !!!" เธอหันกลับมา แต่สายตาออดอ้อนเหมือนวิรุธคนเก่าบาดใจเหลือเกิน จนไม่อาจจะออกปากบริภาษได้อย่างใจ
"ฉันไม่รับคำขอโทษอะไรทั้งนั้นนะวิรุธ ไหน ๆ คุณก็ให้เวลาพิสูจน์ใจมาได้ตั้งนาน คุณก็รอต่อไปก็แล้วกันนะคะ ทีนี้จะพาฉันไปส่งบ้านได้หรือยัง"
"เพลงรับปากก่อนสิ ว่าเข้าใจผม" หญิงสาวถอนหายใจ เธอรู้จักวิรุธดีพอที่จะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่รับปาก
"ค่ะ แต่ไม่ได้หมายความว่า.."
"ไม่เป็นไร ๆ แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว" เขายิ้มเหมือนเด็กได้ของเล่นที่ถูกใจ
"พาฉันไปส่งบ้านได้แล้วค่ะ"
"ได้ครับ นายหญิง" เขายิ้มกว้าง ขยับตัวมาทำหน้าที่คนขับรถอย่างกระฉับกระเฉง เพลงพิณแอบช้อนตามองท่าทางของเขา ไม่ต่างอะไรกับเด็กที่ได้ของเล่นที่ถูกใจ เธอเองแม้จะมีใจให้แต่ก็คงต้องให้เวลาพิสูจน์อะไรต่อมิอะไรต่อไปอีกสักพัก อาจจะเป็นปี สองปี หรือตลอดไปเธอเองก็ไม่อาจจะรู้ได้ ใครจะไปแน่ใจได้ว่านี่ล่ะ คือความรักถ้ายังไม่ได้รับการพิสูจน์จนแน่ใจระหว่างคนสองคน
++++*-.......-*+*-........-*+*-........-*+*-.........-*++++
เรื่องราวระหว่างเรา
แม้มันไม่ใช่เรื่องแปลกของโลก
ผ่านกันมาแล้วทั้งสุข ทั้งโศก
กามเทพเล่นตลกหรือเปล่าก็ไม่รู้
เรื่องราวระหว่างเราสองคน
ถ้ากามเทพเล่นกล ก็ต่างคนต่างอยู่
โลกยังคงหมุนต่อไป.. ต้องคอย..ต้องดู
ฉันไม่อาจบอกให้รู้ได้..ว่ารักไหม
แต่ให้มันเป็นเรื่องราวระหว่างเรา
จะสุข จะเศร้า หรือจบด้วยฉากไหน
อย่าเพิ่งคิด ค่อยเรียน ค่อยรู้กันไป
ไม่วันหนึ่ง วันใด... ก็ต้องลงเอย
เรื่องราวของความรักไม่ใช่เรื่องแปลกของโลก
จะสุข จะโศก.. สักวันก็ต้องลงเอย
ผลงานอื่นๆ ของ ก่ำปุ้งตั๋วอ้วน ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ก่ำปุ้งตั๋วอ้วน
ความคิดเห็น