พิสูจน์รักด้วยเวลา - พิสูจน์รักด้วยเวลา นิยาย พิสูจน์รักด้วยเวลา : Dek-D.com - Writer

    พิสูจน์รักด้วยเวลา

    ก็ใครมันจะไปเข้าใจ.. เรื่องรักไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นี่นา

    ผู้เข้าชมรวม

    361

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    361

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 ต.ค. 49 / 03:05 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



       "เราเลิกกันเถอะนะ"         หนุ่มรูปร่างสูง ผอม เขาสวมกางเกงยีนส์ เสื้อยืดคอกลม อายุสิบแปดปีเท่ากันกับสาวน้อยที่แต่งกายคล้าย ๆ กัน เขากำลังยืนหันหลังให้เธอ และเอ่ยประโยคดังกล่าวออกมาด้วยเสียงสั่นพร่า


      "............."   ไม่มีคำพูดใดจากเธอ ผู้ชายหลอกหลวง ก็ไหนบอกว่าจะรักกันตลอดไป ไหนบอกว่าเธอชื่อเพลงพิณ เสียงที่บรรเลงไพเราะจนจับใจเขา เพราะการชอบอะไรที่เหมือน ๆ กัน เพราะหน้าตาเธอสดใสของเธอเคยสะกดใจเขาเอาไว้ไม่ใช่หรือ 'เราจะรักกันตลอดไปนะเพลง' สาบานได้ว่าเขาพูดแบบนั้นจริง ๆ เพลงพิณน้ำตาคลอเบ้า หันหลังให้แล้วเดินออกจากตรงนั้นเงียบ ๆ


      ผ่านไปเหมือนชั่วกัปชั่วกัลป์ ที่วิรุธไม่ได้ยินเสียงตอบจากคนข้างหลัง พอเขาหันกลับมามองพบแต่ความว่างเปล่า หัวตาของลูกผู้ชายร้อนผ่าว
      จริง ๆ แล้วเขารักเพลงพิณ รักมากที่สุด ไม่มีผู้หญิงคนไหนเข้าถึงหัวใจเขาได้มากเท่าเธอ แต่ทว่าเมื่อทางบ้านให้ตัดสินใจ เขาจำเป็นต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ สิ่งเดียวที่จะทำให้เพลงพิณเจ็บน้อยที่สุดก็คือ การบอกเลิกเธอ เขาไม่อยากให้เธอเป็นกังวลเมื่อเขาต้องไปไกลตาขนาดนั้น เขาเป็นห่วงและรักเธอเกินกว่าจะเห็นแก่ตัว โดยการบอกให้เธอรอจนกว่าเขาไปเรียนต่อกลับมา ซึ่งกินเวลาถึงสี่ปี


      'พ่อสัญญา วิรุธถ้าหากว่าแกกลับมาแล้วแฟนแกยังไม่มีผัวไปเสียก่อน พ่อจะให้แกแต่งกับเธอ'


      หลังจากล้อเครื่องบินแตะรันเวย์ ลูกชายนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเข้าบ้านเมื่อไหว้บิดา-มารดา เรียบร้อยแล้ว เขาก็เอ่ยปากขอทวงสัญญาลูกผู้ชายจากบิดาคืน


      วิรุธผิวปากอย่างอารมณ์ดี เมื่อขับรถออกจากบ้าน ข่าวคราวที่เขาได้รับจากเพื่อนสนิทที่คุยกันสม่ำเสมอ บอกเขาว่าขณะนี้เพลงพิณยังโสด เธอเปิดร้านตัดเย็บเสื้อผ้าอยู่ในจังหวัดบ้านเกิดของเขา แน่นอนว่าเธอยังรักเขาเหมือนเดิม ตลอดเวลาถึงแม้มีคนมาจีบมากมาย เพลงพิณไม่เคยตกลงปลงใจกับใครหน้าไหนทั้ง เขาและเธอต้องเกิดมาเป็นเนื้อคู่กันโดยเนื้อแท้ ชายหนุ่มร้องเพลงคลอตามวิทยุในรถอย่างสบายใจ


      ++++*-.......-*+*-........-*+*-........-*+*-.........-*++++


                 
      เพลงพิณหยิบนิตยสารบนแผงมาเล่มหนึ่ง เมื่อจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ ก็เดินเล่นเรื่อยมาถึงชั้นล่างสุดของห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีอยู่แห่งเดียวในจังหวัด สายตาเธอไปเจอกับบอร์ดที่ติดอยู่ข้างฝา มีรายการอาหารและเมนูแนะนำ เกือบลืมไปว่าที่ห้างฯ นี้มีบาร์ที่ซ่อนอยู่ในซอกตึก ติดกับลานจอดรถนี่ด้วย เธอตัดสินใจผลักบานประตูกระจกติดฟิล์มทึม ๆ นั้นเข้าไป มีเสียงเพลงเบา ๆ คงดังมาจากเครื่องเล่นเสียงซึ่งคงซ่อนตัวอยู่ไหนสักแห่งหลังเคาน์เตอร์ที่ตั้งเด่นตระหง่านอยู่กลางร้านนั่นกระมัง โคมไฟสีขาว ดวงกลมห้อยระย้าจากเพดานเป็นลูกกลม ๆ ต่างขนาดกันไป ทำให้ไม่มืดทึมจนเกินไป แต่กระนั้นก็ยังได้กลิ่นอับนิด ๆ  โต๊ะและเก้าอี้สีขาวเข้าชุดกัน ถูกจัดวางอย่างคุ้มเนื้อที่ มีทางเดินระหว่างโต๊ะแคบ ๆ เธอกวาดสายตาคร่าว ๆ ไม่มีแขกอื่นเลย นอกจากพนักงานสองสามคนที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ เธอตัดสินใจเลือกที่นั่งติดผนัง ห่างจากเคาน์เตอร์มากที่สุด เธอก้าวเท้าเดินไปไม่รีบร้อน ได้ยินเสียงผู้หญิงทักทายมาจากด้านหลัง ขณะเดินไปยังโต๊ะที่หมายตาไว้ พอนั่งลงเสียงดังกล่าวก็ตามมาถึงพอดี อนงค์นั่นเอง เธอเป็นหนึ่งในลูกค้าของเพลงพิณที่มักจะไปใช้บริการตัดเสื้อผ้าเสมอ ๆ หญิงสาวสองคนยิ้มทักทายกันตามมารยาท


      "ขอกาแฟเย็นก็แล้วกันนะคะ"     เพลงพิณปฏิเสธเมนูที่อีกฝ่ายยื่นให้


      "ไม่รับเป็นชุดโปรโมชั่นหรือคะพี่ มีอาหารจานเดียวกับน้ำ แค่ห้าสิบหกบาทเองสำหรับคนที่มาเดี่ยวแบบนี้"


      "ไม่ล่ะค่ะ เพิ่งอิ่ม เพียงแต่หาที่เงียบ ๆ นั่งเล่น อาจจะอ่านหนังสือเล่น ๆ ฆ่าเวลาเปลี่ยนบรรยากาศจากที่ร้านค่ะ นั่งทั้งวันก็อุดอู้"     เจอประโยคเด็ดเข้า อนงค์จึงยอมเดินกลับไป หญิงสาวมองตามเธอไป ก็ดีไปอย่างขณะนี้มีเธอเป็นลูกค้าอยู่คนเดียวในขณะนี้ คงผ่อนคลายได้สักพักล่ะ เธอเปิดหนังสือที่ซื้อติดมือมา แสงไฟไม่สว่างนักแต่ก็ไม่ได้มืดจนมองไม่เห็นอะไร อ่านคร่าว ๆ พลิกดูรูปเสียมากกว่า แบบเสื้อสวย ๆ ทั้งนั้น อนงค์นำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟแล้วจากไป  


      เพลงพิณถอนหายใจ จิบเครื่องดื่มเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างผ่านกระจกทึม ๆ ที่ติดฟิล์มทึบเสียจนมองแทบไม่ออกว่านี่เป็นใต้ถุนตึก อยู่ข้างที่จอดรถ ความคิดถึงแผ่กระจายสามปีกว่าแล้วจากวันที่เขาบอกเลิก แต่เธอไม่เคยลืม วิรุธเพลงยังคิดถึงคุณนะรู้ไหม


      ผู้ชายใจร้าย

      คุณยังมีความหมายต่อฉันนะ รู้ไหม

      รักที่ฝังแน่น ติดตรึงใจ

      ทำอย่างไรก็มิอาจจะลืมเลือน

      ผู้ชายใจร้าย

      ไหนบอกว่า..ฉันมีความหมายเสมอเหมือน

      ดวงตา ดวงใจ เด่นกว่าดาวและเดือน

      ไฉนเลยจึงบิดเบือน .. แล้วจากไป

      ผู้ชายใจร้าย

      คิดถึงคนเคยมีความหมายคนนี้บ้างไหม


      ++++*-.......-*+*-........-*+*-........-*+*-.........-*++++


      "แล้วพอจะเดาได้ไหมครับ"    วิรุธหน้าเสีย เมื่อเด็กสาวในร้านบอกว่าเพลงพิณออกไปข้างนอก ติดต่อไม่ได้ หลุดคำถามโง่ ๆ ออกไปจนแทบจะกัดลิ้นตัวเอง เมื่อเห็นรอยยิ้มและอาการส่ายศีรษะที่ตอบกลับมา


      "เอ่อ..ไว้ผมค่อยมาอีกทีก็แล้วกันนะครับ"  เขาถอยหลัง โค้งศีรษะให้สาว ๆ ที่อยู่ในร้าน


      "จะฝากบอกอะไรถึงพี่เพลงไหมคะ"    ชายหนุ่มยิ้ม


      "ไม่เป็นไรครับ เอาไว้มาใหม่สะดวกกว่า อยากเซอร์ไพร้ส์เขาน่ะครับ"   เขายิ้มแล้วเดินหันหลังจากมา หน้ายุ่ง คิ้วขมวด เข้าไปนั่งในรถแล้วตั้งสติ


      ++++*-.......-*+*-........-*+*-........-*+*-.........-*++++


                 
      เพลงพิณตื่นจากภวังค์ เมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือ เธอหยิบมันออกมาจากกระเป๋าถือ ไมค์นั่นเอง เขาเป็นชาวอิตาลี่ ที่ติดใจเมืองไทย จนยอมทำงานอยู่โรงเรียนเอกชนจังหวัดชายทะเลแห่งนี้


      "สวัสดีค่ะ"


      "สวัสดีขรั่บ "      เสียงเหน่อ ๆ ไมค์พูดไทยได้ แต่ก็ไม่ชัดนัก


      "เพิร์ล คุณอยู่ไหนขรั่บ"  เขาล่ะ เรียกเพลงไม่ชัด เพี้ยนไปเป็นเพิร์ลจนเธอชินกับมันเสียแล้ว


      "ในเมืองค่ะ"


      "โพ้มไปหาได้ไหม"


      "อย่าเลยค่ะ เพลงกำลังจะกลับแล้วล่ะ"


      "แล้วเพิร์ลอยู่ไหนล่ะ"


      "ร้าน......"      เธอบอกชื่อร้านและสถานที่ให้เขาไป ชายหนุ่มร้องอ๋อ แล้วรีบวางสายไป หญิงสาวออกจะงง ๆ กับอาการของเขา การคบกับไมค์ก็ดีไปอย่างเพราะเขากระเดียดไปทางผู้หญิง คบแล้วสบายใจ ไม่มีเสียงนินทา เพราะรู้ว่าเขาเป็นเกย์


      บรรยากาศสงบ ๆ คืนมาได้ไม่นาน ก็มีเสียงคนเปิดประตูเดินเข้ามา เพลงพิณไม่ได้สนใจผู้มาใหม่รู้แต่ว่าเป็นผู้ชาย เพราะได้ยินเสียงพูดคุยกับอนงค์ อีกอย่างเธอนั่งหันหลังให้ประตู  ทั้งไม่อยากหันไปมองให้เสียมารยาท เธอยังคงนั่งเปิดหนังสือต่อไปเงียบ ๆ   เสียงโต๊ะโน้นคุยกันเบา ๆ ฟังไม่ได้สรรพอะไร  สักพักก็ได้ยินเสียงเปิดประตูอีก สงสัยลูกค้าคงเริ่มเข้า เห็นทีเธอคงต้องกลับแล้วกระมัง หันไปหวังจะเรียกเช็คบิล


      สายตาของเธอปะทะกับสายตาคม ๆ ที่มองตรงมาอย่างท้าทาย สองสายตาประสานกันกลางอากาศ เพลงพิณเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย แก้มร้อนผ่าว สายตาของเขาคมกล้าเสียจนต้องเสหลบ


      'อีตาบ้า   ไม่มีมารยาท' หัวใจของเธอระรัวมันเต้นตึ้กตั้ก ๆ แรงผิดจังหวะ บอกไม่ถูกจริง ๆ กับการได้เจอเขาอีกครั้งอย่างกะทันหันแบบนี้
      ดูเหมือนเขาจะเดินเข้ามาใกล้ กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ ลอยมากระทบจมูก เธอเงยหน้าขึ้น มองผ่านเขาไปเหมือนไม่เห็นอะไร เรียกอนงค์มาเช็คบิล เขาล้วงกระเป๋าหยิบแบ้งค์สีแดงมาวางบนโต๊ะ แล้วฉวยข้อมือเธอ ดวงตากลมโตกระพริบอย่างตระหนก ไม่คิดว่าเขาจะถึงตัวโดยไม่เกรงใจอย่างนี้ อ้าปากจะพูด แต่พอเจอสายตาของเขาก็เข่าอ่อน พูดอะไรไม่ออก  วิรุธก้มมากระซิบ


      "เดินตามผมไปสงบ ๆ ถ้าไม่อยากอายคนแถวนี้"   เธอพยายามจะดึงแขนออกให้พ้นการเกาะกุมแต่ไม่สำเร็จ  อนงค์เดินมามองคู่นี้ งง ๆ


      "ไม่ต้องทอนนะครับ"   ชายหนุ่มยิ้มให้หญิงสาวที่มาใหม่ 


      "พี่เพลงจะกลับเลยหรือเปล่าคะ"    อนงค์ซึ่งเป็นคนช่างพูดอยู่แล้ว อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้เมื่อเห็นท่าทีแปลก ๆ ระหว่างหนุ่ม-สาว  เพลงพิณได้แต่ยิ้มพยักหน้าแล้วปล่อยให้เขาจูงมือ ลุกออกจากตรงนั้น


      "พี่เพลง เดี๋ยวนงจะแวะไปที่ร้าน"   อนงค์ยังไม่ละความพยายาม


      "อ๋อจ้ะ  ถ้ายังไงพี่อาจจะไปกับเพื่อนพี่ก่อน ถ้าอนงค์ไปถึงก่อนก็ให้น้องยาจัดการให้ก็ได้นะ"


      "ค่ะ ๆ "    เมื่อได้ยินว่าเป็นเพื่อนก็ปล่อยเลยตามเลย ไม่ยุ่งเรื่องหนุ่ม ๆ สาว ๆ อีก  เขาจูงมือเธอมาจนถึงลานจอดรถ เปิดล็อคจากรีโมท  พาเธอไปแล้วเปิดประตูฝั่งซ้ายให้ กระซิบย้ำ


      "ถ้าไม่อยากอายใครก็ไปกับผม  แค่มีเรื่องอยากจะคุยด้วย"  เขารีบวิ่งอ้อมกลับมาทางฝั่งคนขับแล้วขับออกจากที่ตรงนั้นอย่างรวดเร็ว  ทั้งรถนอกจากเสียงเครื่องยนต์ก็ได้ยินแต่เสียงเพลงจากวิทยุ ไม่มีใครพูดอะไรกัน เขาใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาที พาเธอมายังสวนสาธารณะใจกลางเมือง ซึ่งขณะนี้ผู้คนไม่พลุกพล่านนัก จอดรถใต้ร่มไม้  แต่ยังไม่ดับเครื่อง


      "ผมมีเรื่องจะอธิบายนะเพลง"  เขาละมือจากพวงมาลัยมากุมมือเธอไว้ แต่เพลงพิณก็ชักกลับ สะบัดหน้า มองออกไปนอกหน้าต่างยังดีเสียกว่าจะมองหน้าเขา


      "ผมไม่ได้หวังว่าเพลงจะยกโทษให้ แต่อยากบอกว่าวันที่ผมบอกเลิกกับเพลง ผมเองก็เจ็บปวดแทบขาดใจ แต่ผมก็รักเพลงเกินกว่าจะใจร้ายให้เพลงรอผม โดยไม่ให้โอกาสเพลงได้คบคนอื่น"   หญิงสาวหันขวับมาทางเขา


      "เดี๋ยวสิ ฟังผมให้จบก่อน"   วิรุธใจดีสู้แม่เสือสาว ซึ่งตอนนี้สายตาเธอหากเป็นไฟ คงเผาเขาวอดวายคาที่ไปแล้ว


      "แม่กับพ่อ บอกว่าระหว่างเราเป็นเพียงปัปปี้เลิฟ ซึ่งหากว่าผมกับเพลงพิสูจน์ได้ว่าเรารักกันจริง ท่านก็จะยอมรับและไม่ขัดขวาง"   เพลงพิณสะบัดหน้ามองไปนอกหน้าต่างรถ เขาได้โอกาสดึงมือนุ่ม ๆ นั้นมากุมอีกครั้ง คราวนี้เธอไม่ได้ดึงกลับแต่อย่างใด


      "ผมขอโทษเพลงจริง ๆ ตลอดเวลาผมได้ข่าวเพลงมาตลอด ไมค์เป็นเพื่อนผมเอง"   ปลายเสียงสารพภาพอ่อย ๆ


      "คุณ !!!"   เธอหันกลับมา  แต่สายตาออดอ้อนเหมือนวิรุธคนเก่าบาดใจเหลือเกิน จนไม่อาจจะออกปากบริภาษได้อย่างใจ


      "ฉันไม่รับคำขอโทษอะไรทั้งนั้นนะวิรุธ  ไหน ๆ คุณก็ให้เวลาพิสูจน์ใจมาได้ตั้งนาน คุณก็รอต่อไปก็แล้วกันนะคะ ทีนี้จะพาฉันไปส่งบ้านได้หรือยัง"


      "เพลงรับปากก่อนสิ ว่าเข้าใจผม"   หญิงสาวถอนหายใจ เธอรู้จักวิรุธดีพอที่จะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่รับปาก


      "ค่ะ แต่ไม่ได้หมายความว่า.."


      "ไม่เป็นไร ๆ แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว"   เขายิ้มเหมือนเด็กได้ของเล่นที่ถูกใจ


      "พาฉันไปส่งบ้านได้แล้วค่ะ"


      "ได้ครับ นายหญิง"    เขายิ้มกว้าง ขยับตัวมาทำหน้าที่คนขับรถอย่างกระฉับกระเฉง เพลงพิณแอบช้อนตามองท่าทางของเขา ไม่ต่างอะไรกับเด็กที่ได้ของเล่นที่ถูกใจ เธอเองแม้จะมีใจให้แต่ก็คงต้องให้เวลาพิสูจน์อะไรต่อมิอะไรต่อไปอีกสักพัก อาจจะเป็นปี สองปี หรือตลอดไปเธอเองก็ไม่อาจจะรู้ได้ ใครจะไปแน่ใจได้ว่านี่ล่ะ คือความรักถ้ายังไม่ได้รับการพิสูจน์จนแน่ใจระหว่างคนสองคน


      ++++*-.......-*+*-........-*+*-........-*+*-.........-*++++


      เรื่องราวระหว่างเรา

      แม้มันไม่ใช่เรื่องแปลกของโลก

      ผ่านกันมาแล้วทั้งสุข ทั้งโศก

      กามเทพเล่นตลกหรือเปล่าก็ไม่รู้


      เรื่องราวระหว่างเราสองคน

      ถ้ากามเทพเล่นกล ก็ต่างคนต่างอยู่

      โลกยังคงหมุนต่อไป.. ต้องคอย..ต้องดู

      ฉันไม่อาจบอกให้รู้ได้..ว่ารักไหม


      แต่ให้มันเป็นเรื่องราวระหว่างเรา

      จะสุข จะเศร้า หรือจบด้วยฉากไหน

      อย่าเพิ่งคิด ค่อยเรียน ค่อยรู้กันไป

      ไม่วันหนึ่ง วันใด... ก็ต้องลงเอย


      เรื่องราวของความรักไม่ใช่เรื่องแปลกของโลก

      จะสุข จะโศก.. สักวันก็ต้องลงเอย

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×