คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 11 : เธอมาจากแดนปลาดิบ! 100% *กลับมาแล้วจ้าาาา อ่านทอล์กด้วยเน้อออ ^___^
-11-
เธอมาจากแดนปลาดิบ!
“อืม~”
ฉันส่งเสียงนิดหน่อยพรางบิดขี้เกียจสองสามที แต่ก็ต้องสะดุดเมื่อหันไปมองข้างๆ เห็นร่างเปลือยท่อนบนของของอีสเตอร์นอนคว่ำอยู่ อย่างกะศพเลย-_-; มันน่าถ่ายรูปเก็บไว้ประจานจริงๆ แต่ก็นะ ถึงเอาไปประจานคนหน้าด้านอย่างหมอนี่ก็ไม่รู้สึกกระดากอายอะไรหรอก- -*
หลังจากที่นั่งมองศพนอนอืดได้สักพัก ร่างนั้นมันก็มันเริ่มกระดุกกระดิกแล้วล่ะ ทางทีดีรีบลุกไปจากเตียงนี่จะดีกว่า- -; คิดได้ดังนั้นฉันจึงหันหลังเตรียมจะลุกออกจากเตียงทันทีแต่ยังไม่ทันจะได้ไปไหน ท่อนแขนของไอ้ศพ(?)ที่เหมือนจะฟื้นคืนชีพแล้ว-_- ก็คว้าหมับเข้ามาที่เอว จนทำให้ฉันลงไปนอนอยู่บนเตียงอีกรอบโดยมีร่างของอีสเตอร์อยู่ข้างๆ ใบหน้าของเขาซุกอยู่ตรงซอกคอของฉันเหมือนลูกหมาต้องการความอบอุ่น ทั้งๆ ที่เมื่อคืนน่ะหมาบ้าชัดๆ -*-
“อีสเตอร์ปล่อย”
“…” ร่างสูงไม่ยอมปล่อยแถมยังกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก
“นี่ อย่าดื้อสิ”
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดาต่างจากตอนแรกที่อาจจะแข็งกระด้างไปนิด
“…”
เงียบ...
ไม่มีเสียงตอบกลับมา ไอ้บ้าเอ้ย! พูดดีๆ แล้วก็ไม่ฟังกันนะ โตแล้วยังจะทำตัวเป็นเด็กสามขวบอีก - -;
เอาแต่ใจชะมัด! -*-
“ถ้านายไม่ปล่อยแล้วฉันจะลุกไปทำอาหารเช้าได้ไงล่ะ”
ฉันแกล้งพูด อันที่จริงถ้าหากอีสเตอร์ปล่อยฉันแต่โดยดีฉันก็ไม่เสียเวลาไปยืนทำอาหารให้เขากินหรอกนะ เรื่องอะไรล่ะ ?
ไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อยนี่ -3-
“ไม่เอา ฉันอยากกินเธอมากกว่า”
“…!”
“ขอกินหน่อยสิ”
อีสเตอร์พูดอย่างเด็กเอาแต่ใจพรางงับตรงหัวไหล่ฉันเบาๆ และมันก็ถึงกับทำให้ฉันสะดุ้งเล็กน้อย เพราะมันรู้สึกเจ็บจี๊ด! O_O
อะ...ไอ้บ้านี่!
เป็นผู้ชายที่อันตราย(ต่อหัวใจ)สุดๆ ไปเลย
ฉันที่ยังคงตกใจกับการกระทำของเขาเมื่อครู่ เมื่อรู้สึกตัวแล้วจึงได้พูดออกมา
“อะ..อีสเตอร์ เมื่อกี๊นะ..นาย ทำอะ..-O-;”
“ถามได้ ก็กินเธอน่ะสิ”
“…!!”
“กินต่อจากเมื่อคืนไง”
--ต่อ—
อีกด้านหนึ่ง....
@สนามบิน XX
เด็กสาวหน้าตาหน้ารักจิ้มลิ้มเดินลากกระเป๋าเดินทางสีดำใบไม่ใหญ่นักออกมาจากประตูสนามบิน และข้างหลังเธอก็มีชายหนุ่มสองคนอายุไล่เลี่ยกันเดินลากกระเป๋าตามาติดๆ
“นี่พวกนายจะตามมาทำไมน่ะ? ฉันบอกว่าฉันดูแลตัวเองได้ไง กลับไปเลย ชิ้วๆ ( -3-)/”
เด็กสาวพูดพลางทำมือไล่ชายหนุ่มสองคนที่ตามมาด้วยภาษาบ้านเกิด แต่สองคนนั้นก็หาได้สนใจไม่
“โอโต้ซัง(*พ่อ)บอกให้ตามมาดูแลเธอ ฉันก็ต้องมา-_-”
ชายหนุ่มคนแรกพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่แสดงท่าทีใดๆ และตามมาด้วยชายหนุ่มคนที่สอง
“ยูกิโกะ เธอน่ะโตแต่ตัวสมองไม่ได้โตตามไปด้วย รู้ตัวบ้างหรือเปล่า-_-”
คำพูดของชายหนุ่มบวกกับใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอาการใดๆ ทำเอาเด็กสาวที่มีชื่อว่า ‘ยูกิโกะ’ ถึงกับผงะ กำหมัดแน่นเตรียมจะวิ่งเข้าไปตั๊นหน้าคนที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘พี่ชาย’ ตัวเองซะให้รู้แล้วรู้รอด
พี่ที่ไหนเขาพูดกับน้องสาวตัวเองแบบนี้ห๊ะ! ฮึ๊ยยยย -*-
“เร็นจิ! นายด่าฉันโง่ไร้สมองหรอห๊า!!=[]=”
ยูกิโกะพูดตวาดใส่หน้าพี่ชายของเธอเสียงดั่งลั่นอย่างไม่อายใคร ปกติก็ไม่เคยอายอยู่แล้วน่ะนะ จะแคร์ทำไม-_-^
“ถ้าเธอฉลาดคงคิดเองได้ ว่าฉันได้ด่าเธอโง่ไร้สมองหรือเปล่า-_-”
“เร็นจิ!!”
ยูกิโกะเลือดขึ้นหน้าในทันที่ที่ ‘เร็นจิ’ พี่ชายของเธอตอกกลับคำถามของเธออย่างกวนบาทา และคว้าปกเสื้อของพี่ชายเอาไว้อย่างเอาเรื่อง
“พอได้แล้วเร็นจิ ยูกิ ฉันว่าเราควรจะไปได้แล้วนะ ”
เสียงของชายคนแรกดังขึ้นห้ามทัพก่อนที่จะมีสงครามขนาดย่อมเกิดขึ้นในไม่ช้า
“เงียบน่าโยชิ ฉันขอต่อยหน้าไอ้พี่ชายซักสองสามหมัดก่อน-*-”
ยูกิโกะพูดขึ้นพร้อมกับง๊างกำปั้นเล็กๆ แต่อนุภาครุนแรงขึ้นสูงและ...
หมับ!
“ยูกิ เธอมาที่นี่เพื่อมาเยี่ยมโอจีซัง(*ปู่)ไม่ใช่หรือไง ถ้ายังทำตัวแบบนี้เธอจะไร้สมองอย่างที่เร็นจิว่าจริงๆ นะ-_-”
ชายหนุ่มที่มีนามว่า ‘โยชิ’ จับแขนของยูกิโกะเอาไว้ก่อนที่เธอจะถวายหมัดเล็กๆ แต่รุนแรงยิ่งนักกระแทกหน้าเร็นจิและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเหมือนตอนแรก ผู้คนที่ทั้งกำลังเดินเข้าและออกจากสนามบินรวมไปถึงผู้คนรอบๆ ต่างยืนมองเหตุการณ์กันอยู่ห่างๆ แต่ละคนต่างคิดไปต่างๆนาๆ ว่านี่มัน ‘รักสามเส้า’ หรือเปล่า แต่ขอบอกว่าไม่ใช่เลยสักนิดเพราะว่าสามคนนี้เป็น พี่น้อง กันต่างหาก-_-
ยูกิโกะ...เด็กสาวตัวเล็กร่างบางหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มเหมือนสาวญี่ปุ่น(แน่สิ ก็ฉันเป็นคนญี่ปุ่นหนิ-_-^ : ยูกิโกะ) ถึงจะเล็กแต่ก็เล็กพริกขี้หนูผสมวาซาบิและน้ำพริกตาแดง(เกี่ยว?) คนที่โรงเรียนต่างแรกเธอว่า ‘เจ้าแม่’ ง่ายๆ เลย..
ก็ ’แยงกี้’ (*แยงกี้ : นักเลงหรืออันธพาล)ดีๆ นี่เองแหละ-_-;(นี่แกเรียกใครเป็นแยงกี้ฟร่ะ เดี๋ยวมีโบก! -*- : ยูกิโกะ)
เร็นจิ...ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเหมือนเทาเทาวงexo>//<(อีคนแต่งมันบ้าวงนี้น่ะ-_-;;) เขาไม่ได้เป็นคนจีนแต่เป็นคนญี่ปุ่นโดยแท้ เป็นพี่ชายของยูกิโกะแต่หน้าตาไม่ได้มีความเหมือนกันเลยซักนิดเดียว เป็นคนพูดน้อยต่อยหนัก ไม่ค่อยสุงสิงกับใครมีเฮดโฟนเป็นเพื่อนสนิทรู้ใจ แต่คนที่เขาชอบสุงสิงด้วยก็คือน้องสาวคนนี้นี่แหละ...การที่ได้เห็นหน้าตาตอนน้องสาวโมโหมันทำชีวิตเขาดูมีสีสันขึ้นมาหน่อย
โยชิ...ชายหนุ่มรูปงามพี่ชายคนที่สองของยูกิโกะและเร็นจิแต่ดูยังไง๊ยังไงหน้าตาก็ไม่ได้มีความเหมือนกันเลยแม้แต่ปลายเส้นผม-*- เขามีความเป็นผู้ใหญ่สูง ค่อนข้างที่จะรักสงบ และเป็นคนคอยห้ามสงครามระหว่างเร็นจิและยูกิโกะอยู่เสมอๆ ...เหมือนเมื่อกี๊ไงล่ะ-_-;
สาเหตุที่ยูกิโกะต้องมาเหยียบประเทศที่อากาศร้อนอบอ้าวเช่นนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ เหตุผลแรกคือมาเยี่ยมโอจิซังหรือคุณปู่ของเธอ ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็แค่ข้ออ้างเท่านั้นแหละ-_-; เธอไม่ได้คิดที่จะมาเยี่ยมคุณปู่ของเธอจริงๆ หรอก แต่ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้วไปเยี่ยมซักหน่อยก็คงไม่เสียหายอะไร-_-^ ส่วนเหตุผลข้อที่สอง คือมาชำระแค้นกับคนๆ หนึ่งที่เธอได้ข่าวว่า ’เขา’ ย้ายมาเรียนต่อที่นี่ และแน่นอนเหตุผลข้อนี้เธอไม่ได้บอกโอโต้ซังพ่อของเธอหรอก ขืนบอกไปแล้วจะได้มามั้ยล่ะ ใครจะโง่บอกกัน -*-
ก็พ่อน่ะชอบหมอนั่นจะตายไป ขืนบอกว่าจะไปกระทืบ เอ๊ย! ไม่ใช่ แล้วจะใช่คำไหนฟร่ะ=[]= ใช่คำว่ากระทืบนั่นแหละเหมาะที่สุดแล้ว - -* คนหน้ามึนๆ งงๆ อย่างหมอนั่นน่ะ แล้วก็ไอ้แมวหน้าปัญญาอ่อนนั่นอีก ไปถึงจะฆ่าทิ้งซะนี่ -_-^^
คนอย่างยูกิโกะศักดิ์ศรีคือที่หนึ่ง ใครกล้ามาหยามล่ะก็เตรียมตัวตายได้เลย! ในฐานะผู้สืบทอดตระกูลยากุซ่ารุ่นต่อไป คอเอาหัวสวยๆ เป็นประกัน! -^-
-อีกด้านหนึ่ง-
@โตเกียวประเทศญี่ปุ่น
ชายหนุ่มเจ้าของเลือนผมสีดำระต้นคอกำลังเดินไปยังสวนหลังบ้านของเขาที่ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นอย่างปราณีต เขาเดินไปหยุดอยู่ใต้ต้นซากุระที่มีอายุยาวนานมากว่า100ปีเห็นจะได้ ถ้ามีสายลมพัดเอื่อยๆ มาซักนิดนี่ เขาคงไม่ต่างไปจากพระเอกเอ็มวีเลยแม้แต่น้อย ประหนึ่งว่ามายืนรอคนรักอยู่ใต้ต้นซากุระแห่งนี้ -_- แต่มันติดอยู่ตรงที่ว่า…
คนรักอะไรไม่ได้มีซะหน่อย - -*
แต่ถ้าที่บอกว่ามายืนรอคนนี่ มันคงจะป็นอย่างนั้นแหละ เพราะที่เขาอุตส่าห์บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาที่นี่ก็เป็นเพราะว่า โอโต้ซัง นั่นก็คือพ่อของเขา เรียกตัวมาอย่างกระทันหัน เพื่อจะมาคุยธุระสำคัญในของครอบครัว
โทรทางไกลมาก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องให้มาเลย - -“
เสียงฝีเท้าของใครบางคนย่างกรายเข้ามาในบริเวณนั้นเรื่อยๆ และมันก็คงจะเป็นใครไม่ได้นอกเสียจากคนที่เรียกเขามานั่นแหละ และทันทีที่มาถึงเสียงอันทรงอำนาจสมกับที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘บอสใหญ่’ (ในตอนนี้) ก็กล่าวทักทายลูกชายในทันที
“ฉันคิดว่าแกจะไม่ยอมมาซะอีก”
“…”
ไม่มีเสียงใดตอบกลับมาทันทีที่เอ่ยถามไป ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีดำที่ตอนนี้กำลังยืนหันหลังให้พ่อของเขาอยู่ ทำแค่ใช่หางตาปรายมองมาแค่นิดหน่อยเท่านั้น และเพียงไม่กี่วินาทีก็มองไปยังต้นซากุระที่อยู่เบื้องหน้าดังเดิม
“โอเค ฉันรู้ว่าแกไม่ชอบอะไรที่มันยืดเยื้อ งั้นเข้าเรื่องเลยละกัน”
“…”
ผู้เป็นพ่อพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบธรรมดาพลางเดินไปหยุดอยู่ข้างๆ ตัวลูกชาย สายตามองไปยังต้นซากุระเช่นกัน
“ฉันจะให้แกกลับมาเรียนต่อที่นี่ และเรียนรู้งานที่แกจะต้องสานต่อจากฉันต่อไป เพราะฉันปล่อยให้แกไปเที่ยวเล่นตามใจชอบมามากพอแล้ว มันถึงเวลาที่แกจะต้องกลับมา...”
“…”
“อ่อ อีกเรื่องนึงที่ฉันอยากจะบอกตอนนี้หนูยูกิจังอยู่ที่ประเทศไทย ขืนถ้าแกกลับไปตอนนี้คงได้ปวดหัวไม่เว้นวันแน่ๆ เพราะฉะนั้น...”
“แล้วยังไง”
ชายหนุ่มถามหลังจากที่ได้ฟังสิ่งที่พ่อของเขาพูดมาได้สักพัก ที่เขาถามออกไปนี่ก็ไม่ใช่อะไรหรอก เพียงแค่เอาเด็กผู้หญิงคนนั้นมาอ้างแล้วคิดว่าเขาจะไม่กลับไปหรือไง แค่เด็กต๊องๆ คนเดียวทำไมจะจัดการไม่ได้ - -;
“ก็ไม่ยังไง แกก็รู้ว่ายูกิจังเป็นไม่ชอบขี้หน้าแก ถ้าหากแกกลับไปตอนนี้เดี๋ยวจะยุ่งซะเปล่าๆ ยูกิจังนี่ก็แสบไม่เบาแกก็รู้แล้ว...”
“ไร้สาระ”
“…!”
“ถ้าผมจะกลับ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับยัยนั่น-_-^”
เขายอมรับว่าแอบฉุนหน่อยๆ ทันทีที่พ่อพูดถึงผู้หญิงคนนั้น
จะไม่ให้ฉุนได้ไงก็ยัยนั่นน่ะ...เอ่อ ช่างมันเถอะ -_-^^
“-O-^”
ผู้เป็นพ่อหน้าเหวอทันทีที่ลูกชายตวัดสายตาดุๆ ใส่แต่เพียงไม่กี่วินาทีก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
“ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย ผมจะได้กลับ ทิ้งมิโสะให้อยู่กับไอ้พวกตะไลพวกนั้นมันไว้ใจไม่ค่อยจะได้-_-”
“ไซโตะนี่แกจะไม่เก็บไปคิดหน่อยเลยหรอ”
ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามลูกชายที่กำลังจะเดินออกจากสวนไป คำพูดนั้นทำให้เขาหยุดเดินและตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ โดยที่ไม่หันมามองหน้าผู้เป็นพ่อเลยแม้แต่น้อย
“รอให้ถึงเวลาก่อน แล้วผมจะกลับมา”
พูดจบไซโตะก็เดดินออกจากสวนไปในทันที ผู้เป็นพ่อถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับความเย็นชาของลูกชาย
“ไซโตะก็ยังเป็นไซโตะ ไม่เปลี่ยนไปเลยน้า...แต่ก็ดีแล้วที่ยังเข้าใจ ยูกิ..ที่เหลือก็ฝากด้วยละกัน”
8.30 AM
@ โรงเรียนคริมสันไฮสคูล
“ง่ะ =[]= ทำไมโรงเรียนมันถึงไม่มีนักเรียนเลยล่ะ หายไปไหนกันหมด หรือว่า...”
“โรงเรียนเพิ่งจะปิดไปเมื่อวาน ยัยบื้อ-_-^”
“อะไรกัน ทำไมฉันไม่รู้ล่ะ-O-”
“ก็เธอมันบื้อไง ยัยบื้อเอ๊ยยย”
“อีสเตอร์! เงียบไปเลย=O=”
ฉันกับอีสเตอร์ยืนอยู่ในโรงเรียนที่ไร้ซึ่งนักเรียน-O-;;(ยกเว้นฉันกับอีสเตอร์แต่ก็ไม่ได้มาเลยน่ะนะ-_-;) ถึงว่าล่ะทำไมก่อนออกมาเขาถึงไม่ยอมใส่ชุดนักเรียนใส่แค่เสื้อยืดกางเกงยีนเฉยๆ ผิดกับฉันที่ใส่ชุดนักเรียนเต็มยศกันเลยเชียว -[]- นี่จิตใต้สำนึกของฉันมันคงจะอยากเรียนมากเลยสินะถึงจำวันปิดเทอมไม่ได้น่ะ-_-^^
ตอนนี้ฉันยืนอยู่บริเวณสนามบาสของโรงเรียน อีตาอีสเตอร์หายหัวไปไหนก็ไม่รู้-_-; มันวังเวงแปลกๆ นะ เวลายืนอยู่คนเดียวน่ะ
สวบ!
ตุ๊บๆๆ
ขณะที่ฉันกำลังจะจิตตก=[]= เสียงเหมือนอะไรบางอย่างกำลังกระทบกับอะไรบางอย่าง(?)ก็ดังขึ้น และตามมาด้วยเสียงของอะไรบางอย่าง(อีกแล้วเรอะ!-O-^)ตกลงสู่พื้น ซึ่งฉันคาดว่ามันคงจะเป็นลูกบาสไม่ผิดแน่ (แล้วจะบรรยายทำมะเขืออะไรยาวๆฟะ=[]=) ใครมาเล่นบาสตอนนี้ อ่อ! สงสัยจะเป็นอีตาอีสเตอร์ อยากจะถาม ว่างมากป่ะเนี้ย-0-?
“โครตว่างเลย ยัยบื้อมาเล่นบาสกัน”
ฉันว่า...พี่เจน ยานบิน(?) ต้องเป็นญาติห่างๆ ของเขาแน่ๆ -_-+
“ไม่เล่น เล่นไม่เป็น นายจะทำอะไรก็ทำไปเหอะ”
ฉันพูดพร้อมกับเดินไปนั่งตรงเก้าอี้ม้าหินแถวๆ นั้น
“ฉันสอนให้ มานี่”
“ก็บอกว่ามะ...ว๊ายย-O-/”
ยังไม่ทันได้ปฏิเสธอีสเตอร์ก็เดินมาฉุดแขนฉันให้เดินเข้าไปในสนามบาสอย่างไม่ถามความสมัครใจเลยแม้แต่น้อย แถมจับซะแน่นเลยฉันเจ็บนะเฟ้ย-*-
“จับแบบนี้แล้วก็...”
ทันทีที่มาอยู่ตรงกลางสนามอีสเตอร์ก็สอนให้ฉันจับลูกแบบนั้นแบบนี้บลาๆ ~ และสอนฉันชู๊ดลูกบาสลงห่วง สิบกว่ารอบได้แล้วมั้งเนี้ยไม่ลงซักลูก สอนไปก็เสียเวลานะเชื่อสิ-_-;
“สมองช้าจังเธอน่ะ- -* ฉันบอกให้จับแบบนี้ไง คราวนี้ถ้าเธอชู๊ดไม่ลงฉันจะหอมแก้มเธอ-_-^”
“เอ๊ะ! อะไรของนาย ฉันก็บอกว่าไม่เล่นตั้งแต่แรกแล้วไง นายไม่มีสิทธิจะ...”
“ถ้ายังพูดมากฉันจะเปลี่ยนจากหอมแก้มเป็นจูบแทนนะ-_-^^”
ไอ้บ้า! เผด็จการสุดๆ พ่อนายเป็นฮิตเลอร์หรอฮ๊ะ! แล้วฉันจะชู๊ดลงมั้ยเนี้ยแป้นก็สูงแถมให้ยืนซะห่างเลย ลำพังแค่โยนก้อนกระดาษลงถังขยะที่ห่างจากตัวไม่ถึงเมตรยังไม่ลงเลย แล้วนี่แป้นบาสกับตัวฉันมันห่างกันมากเลยนะ-_-+
“ฉันไม่...”
“เร็วๆ -_-”
อย่าทำหน้าตาจริงจังจะได้มั้ย –O-;;;
เอาวะ ลองเสี่ยงดูเพื่อฟลุ๊ค!
เอ้า 1...2...3!
ฮึบ!
ปึก!
ตุ๊บๆๆๆ
โดนแป้นบาสและกระเด้งลงพื้นอย่างสวยงาม.....
ง่ะ =[]=
“-_-”
“-O-;;”
Chuuuu~♥
“O//O”
ความรู้สึกที่มีริมฝีปากสัมผัสลงที่แก้มที่มาจากอีสเตอร์โดยไม่ทันตั้งตัวทำให้ฉันหน้าแดงเป็นมะเขือเทศ แถมหลังจากนั้นก็....
จุ๊บ~♥
“ฉันเห็นเธอตั้งใจดี เลยแถมให้”
“อีสเตอร์! O//////O”
---100%---
***ทอล์ก
มาอัพให้100เปอ แล้วนะคะ หลังจากที่หายหัวไปนานมากเลย
อย่างที่รู้ๆ ว่าทุกคนก็เปิดเทอมกันแล้วใช่มั้ยล่ะ อย่างไรเตอร์ก็ยังเรียนอยู่
พอเปิดเรียนมาก็ นั่นแหละค่ะ การบ้านค่ะการบ้านท่วมหัวเลย -_-;
นี่ไรเตอร์ทำการบ้านเสร็จแล้วเลยมาอัพเห็นว่าไม่ได้อัพซะนาน เหอะๆ
อาจจะยังมีคนอ่านอยู่น่ะนะ (ทำเสียงเศร้า น้ำตาเริ่มคลอ)
ไรเตอร์สัญญาว่าถ้าไรเตอร์ว่างๆ หรือว่าการบ้านไม่เยอะจะมาอัพแน่นอนค่ะ ^^
จากที่ได้คาดการเอาไว้ว่านิยายเรื่องนี้3ปีก็แต่งไม่จบ ฮ่าๆๆๆ (ยังจะหัวเราะ- -*)
ความคิดเห็น