ความรักสองเราและพรหมลิขิต - ความรักสองเราและพรหมลิขิต นิยาย ความรักสองเราและพรหมลิขิต : Dek-D.com - Writer

    ความรักสองเราและพรหมลิขิต

    เรื่องนี้มักจะมีปัญหาของครอบครัวซึ่งไรเตอร์คิดว่าคงมีหลายคนเจอปัญหานี้รวมทั้งเรื่องพรหมลิขิตคนที่รักกันฟ้าลิขิตไว้ยังไงก็ไม่แคล้วคลาดกัน ฝากด้วยน้าา*-*

    ผู้เข้าชมรวม

    99

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    99

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  9 ส.ค. 56 / 18:56 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    โชคชะตานำพาให้เขาและเธอมาเจอกัน มีปัญหาต่างๆมากมายอุปสรรคที่ทำให้เกือบท้อ แต่เขาและเธอก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมเพราะพรหมลิขิตที่ลิขิตให้เขาและเธอคู่กัน ในเมื่อเราพร้อมที่จะไม่ยอมแพ้ทุกสิ่งทุกอย่างก็ไม่สามารถมาขวางเราได้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      "น้ำทำไมไม่พับที่นอนล่ะลูก รู้ไหมว่าผู้หญิงเขาก็ต้องจัดนั่นจัดนี่น่ะ บลาๆๆ"เสียงแม่บ่นฉอดๆๆยาวยืด
      "ค่ะแม่หนูจะพยายามจัดบบ้านทุกวันค่ะ"ฉันพูดด้วยเสียงเย็นจนน่าขนลุกเพราะความรำคาญ
      "ก็ดี หัดทำซะบ้างนะ"แม่พูด
      ณ โรงเรียนซัลฟานี่ ไฮสคูล
      "แกวันนี้ไปผับกันป่ะ พี่ชายฉันพาเข้าน่ะ"
      "อื้มไปสิ ฉันมีเรื่องเครียดๆอยู่พอดีเลย"ฉันตอบรับง่ายๆดดยไม่รู้ว่าหายนะกำลังคืบคลานเข้ามา
      "ok งั้นเย็นนี้เจอกันนะ เดี๋ยวฉันไปรับแกที่บ้านละกัน"
      "อื้ม><"
      16.00น.
      ออดดดดด เสียงออดเลิกเรียนดังขึ้น
      "ยัยน้ำเย็นนี้อย่าลืมนะแก"
      "จ้าาา"
      ณ ที่บ้านของฉันเอง
      "แม่คะวันนี้หนูขอไปทำรายงานกับเพื่อนนะคะแม่"
      "บ้านใครล่ะ น้ำก็รู้นะลูกว่าไปบ้านเพื่อนเยอะๆไม่ดีหัดเกรงใจเขาบ้าง"แม่บ่น
      "บ้านซินนี่ค่ะ ไปนะคะ"
      "ไปไหนก็ไปไป"แม่พูดอย่างอารมณ์เสีย
      "ค่ะ"จากนั้นฉันจึงเดินออกมาเงียบๆ
      ปิ๊น ปิ๊น เสียงรถของพี่ยัยซินนี่ดังขึ้น
      "รีบมาเร็วๆสิยะยัยน้ำ"ซินนี่บ่น
      "จ้ะๆ"
      โอ๊ะ โทษทีค่าลืมแนะนำตัว ฉันชื่อนางสาว เอมิกา วัฒนาภัตร อายุ18ปี มีน้องสาวชื่อว่านิ้ง อายุ17ปีค่า*-*
      ณ ผับ Anime (ผับไรเนี่ย555)
      ฉันเดินตามพี่ชายยัยซินนี่ และ ซินนี่ เสียงเพลงดังกระหน่ำ ฉันเดินไปจนเห็นโต๊ะๆหนึ่ง ซึ่งมีผู้หญิงหน้าตาคุ้นๆ นั่งกอดก่ายกับผู้ชาย อ๊ะ ใช่ๆนั่นนิ้งน้องสาวฉันหนิ ฉันหันไปมองนิ้งอยู่นานจนเจ้าตัวรู้ไม่นานเธอก็หันมาสบตากับฉัน ฉันรีบหลบสายตาและเดินไปที่โต๊ะ
      0.00น.
      ซินนีมาส่งฉันที่บ้าน ฉันเห็นน้องพ่อแม่มองมาทางฉันด้วยสายตาไม่สู้ดีนัก
      "น้ำไหนแกบอกฉันว่าไปทำงานบ้านซินนี่ไง ทำไมถึงไปอยู่ในผับได้"แม่บ่น
      "แม่รู้ได้ไงคะ"
      "ก็นิ้งมาบอกแม่ ใช่ไหมจ๊ะนิ้ง"เสียงแม่อ่อนลงเวลาคุยกับน้อง
      "ฉันไม่เคยสอนให้แกไปเที่ยวผับ ไม่เคยสอนให้แกโกหก ทำไมแกถึงทำแบบนี้"เสียงพ่อตะโกนขึ้น จากนั้นจึงใช่ไม้เรียวตีฉันโดยไม่ฟังคำอธิบายจากฉันเลยแม้แต่นิด
      ฉันรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องแล้วปล่อยโฮออกมาสุดขีด
      พ่อไม่เคยเข้าใจ เคยรู้บ้างไไหมว่าฉันก็มีหัวใจเจ็บเป็นเหมือนกัน น้องก็ไปผับ แถมนั่งกอด จูบ ลูบคลำกับผู้ชาย พ่อไม่เคยดุไม่เคยตีเลย ฉันเก็บกดแค่ไหนรู้บ้างรึเปล่า ให้วันวันอยู่แต่ที่บ้านโดนบ่นไปวันๆฉันก็ไม่ไช่คนแล้ว ฮึก ฮึก น้องไปไม่เคยดุ ได้....อยากให้มันเป็นแบบนี้ใช่ไหม ถ้าพ่อและแม่ไม่รักฉัน ฉันก็จะไม่อยู่ให้เห็นหน้าอีกต่อไปTT
      จากนั้นฉันจึงตัดสินใจออกจากบ้าน และทิ้งจดหมายไว้ว่า
      ..ถึง พ่อและแม่ที่เคารพรัก..
      หนูไม่รู้ว่าหนูผิดอะไรหนักหนา หนูไม่เคยเสพยาเสพติด หนูไม่เคยโดดเรียน เกรดหนูไม่เคยต่ำ แค่หนูไปเที่ยวกับเพื่อนเพื่อระบายความเครียดในใจพ่อก็ไม่ให้ รู้ไหมหนูเก็บกด หนูโตพอที่จะคิดได้แล้วว่าอะไรดีอะไรไม่ดี แต่พ่อและแม่ก็ยังดุยังตีหนู ทำไมพ่อแม่คนอื่นเค้ารักลูก ครอบครัวเค้ามีความสุขพ่อไม่ตีไม่ดุลูกพวกเขาคุยกันด้วยเหตุผล แต่ครอบครัวเราไม่ใช่อย่งนั้น หนูทนมามากแล้วตลอด18ปีที่ผ่านมา ในเมื่อพ่อและแม่ไม่รักหนู หนูก็จะไม่มาให้เห็นหน้าอีก
      ลาก่อนนะคะ...
      น้ำ
      จากนั้นฉันจึงเก็บกระเป๋าแล้วเดินต่อไปอย่างไร้จุดหมายที่จะไปเพราะฉันไม่เหลือใครแล้ว ฉันจึงเดินไปหยุดลงที่ป้ายรถเมย์และได้เจอกับผู้ชายคนหนึ่ง เขาสูงมากและหุ่นดีราวกับลูกครึ่ง ผมสีน้ำตาล จมูกโด่ง ตาโต หล่อเพอร์เฟ็คส์ แล้วเขาก็ถามฉันว่า
      "คุณมาทำอะไรที่นี่ครับ"
      "เอิ่ม..คือฉันหนีออกจากบ้านมาน่ะค่ะ แล้วคุณล่ะคะ"
      "ผมก็หนีออกจากบ้านครับ"
      "อ้าว ทำไมล่ะคะ"จากนั้นเขาก็เงียบไปสีหน้าเศร้าอย่างเห็นได้ชัด
      "อืม ถ้าคุณไม่สบายใจก็ไม่เป็นไรนะคะ"
      "คือผม โดนทางบ้านบังคับบางอย่างที่ผมไม่อยากทำน่ะครับ แล้วคุณล่ะ"
      จากนั้นฉันก้เล่าให้เขาฟัง แล้วเราก็เริ่มสนิทกัน เขาบอกว่าเขาพอมีคอนโดส่วนตัวอยู่ โดยไม่มีใครรู้เพราะว่า พ่อเขาซื้อให้ก่อนพ่อเขาเสียชีวิต แล้วเขาก็ชวนฉันไป ฉันจึงตอบรับไปโดยดี เพราะฉันไม่มีที่ไปง่า5555
      อ้อเขาชื่อคิมฮวาจุนลูกครึ่งไทยเกาหลี
      ณ คอนโดของคิมฮวาจุน
      "เอิ่ม คุณไปนอนเตียงนะเดี๋ยวผมนอนในห้องรับแขกเอง"เขาพูดขึ้น
      "มันจะดีเหรอคะ นี่ห้องคุณนะคะ"
      "ไม่เป็นไรครับ ผมเป็นผู้ชายต้องเสียสละให้ผู้หญิง"
      "......"ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก ว้ายย ฉันเป็นอะไรไปทำไมใจเต้นอย่างนี้
      เขินอ๊าา
      "เอิ่มงั้นฉันเรียกคุณว่าฮวาจุนแล้วกันนะคะ"ฉันพูดไปอย่างเขินๆ-3-
      "ได้ครับ ว่าแต่คุณน้ำอายุเท่าไหร่ครับเนี่ย"
      "อ๋อ18ค่ะ*-* คุณล่ะคะ"
      "17ครับ"
      "หา คุณอายุน้อยกว่าฉันงั้นเหรอไม่อยากเชื่ออ่ะ คุณตัวสูงกว่าฉันมาก"
      "ก็แค่180กว่าๆนะครับ ยังไม่ถือว่าสูงมาก"
      "ฉันแค่160กว่าๆเองนะคะ-3-"
      "งั้นถ้าคุณอายุมากกว่าผม ผมขอเรียกคุณว่านูนาแล้วกันนะครับ"
      "อ้าวทำไมล่ะคะ"
      "ก็ผมว่ามันน่ารักดีนะครับ"
      อ้าย-///- ฉันเป็นไรไปเนี่ยใจเต้นเหมือนตีกลองงั้นแหละ-///-
      "หาววว ผมง่วงแล้ว good night นะครับ นูนา"เขาส่งยิ้มหวานมาให้ฉัน
      "good night เช่นกันนะคะ ฮวาจุน"ผู้ชายคนนี้ชักหน้ากลัวกับความรู้สึกฉันแฮะ55

      6.00น.
      แสงส่องเข้ามากระทบกับหน้าฉันทำให้ฉันตื่นขึ้น ฉันจึงเดินไปดูฮวาจุนเขายังหลับอยู่ฉันจึงเอื้มมือไปเลื่อนผ้าห่มขึ้นให้เขา และเดินไปทำธุระส่วนตัวของตัวเอง จากนั้นจึงไปหาของในตู้เย็นทำอาหาร เมนูวันนี้คือ ซุปไก่และไข่เจียวหมูสับ และไม่นานฮวาจุนก็ตื่นขึ้น

      "อะไรครับเนี่ยนูนา ห้อมหอมม"เขาพูดพร้อมกับสูดหายใจยาวๆ
      "อ่อมีซุปไก่กับไข่เจียวหมูสับค่ะ ฮวาจุนไปอาบน้ะเถอะจ้ะ เดี๋ยวจะได้มาทานข้าว"
      "คร้าบบบ"แล้วเขาก็วิ่งไป ไม่นานนักเขาจึงเดินมาทานข้าว เราทานกันอย่างมีความสุขและเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และถามเรื่องส่วนตัวกันเรื่อยเปื่อย เขาเรียนที่ดียวกับฉันด้วย เราแลกเบอร์กันแล้วด้วยอ้า เขินจุงง บ่องตง555

      ณ โรงเรียน ซัลฟานี่ ไฮสคูล
      "บาย ครับนูนา"

      "ค่า*-*"วันนี้เป็นวันหนึ่งที่ฉันมีความสุขมากเป็นพิเศษ โลกเป็นสีชมพูอ่ะ -3- (น้อยๆหน่อยนะยะ)
      "ยัยน้ำๆๆๆๆ"
      "ห๊ะ ว่า ว่าไง"
      "ไม่มีหรอก แต่ฉันรู้สึกว่าแกเหม่อเยอะมากเลยนะ วันเนี่ย เหมือนคนกำลัง In love เลยอ่ะ"
      "บ้า ไม่มี๊"
      "แน่ะ เอาซะสูงเลยนะยะ แนะนำมาบ้างสิ ไปล่ะ"
      ออดดดดดดดดดด เสียงออดเลิกเรียนดังขึ้น
      "นูนาคร้าบบ เรากลับกันเถอะ"จากนั้นเขาก็มาจับมือฉันไป เอิ่ม...รู้สึกว่าฉันเป็นเป้าสายตาแฮะ อิจฉากันอ่ะเด้ 555
      "นูนาวันนี้เราไปกินข้าวที่ห้างกัน"
      "อื้ม ไปสิ"แล้วฉันจึงก้มหน้าไปมองไปยังที่มือเราประสานกัน เขาเริ่มรู้ตัว แล้วรีบเอามือออก
      "ขอโทษนะฮะ นูนา"เขาพูดแล้วยกมืออขึ้นเกาท้ายทอย ดูได้ง่ายๆเลยว่าเขากำลังเขินน่าแดงเชียว เวลาเขินเขาก็น่ารักไปอีกแบบนะ -3-
      "อื้อ ไม่เป็นไรหรอก"จากนั้นเราจึงไปทานข้าวกัน
      หลายวันต่อมา...(ต่อมาก็หนีสิต่อมาแล้วว555)ความสัมพันธ์ของฉันและเขาดีขึ้นมาก เราตัวติดกันตลอดจนหลายคนคิดว่าเราแอบคั่วกันอยู่
      ณ คอนโด ของ คิมฮวาจุน
      "นูนา ครับ"
      " หืม..ว่าไงคะ"
      "คือว่า..."
      "???"
      "คือ นูนาคบกับผมได้ไหมคับ ผมคิดว่านี่คือพรหมลิขิตที่ให้เราได้มาเจอกัน เรามีปัญหาอะไรที่คล้ายๆกัน ผมรู้สึกชอบนูนาตั้งแต่แรกเห็น นูนาเป็นคนที่น่ารัก นูนาทำให้ผมมีความสุขทุกครั้ง นูนาเป็นผู้หญิงคนแรกและอาจจะเป็นผู้หญิงคนสุดท้ายที่ทำให้ผมใจเต้น ได้โปรดคบกับผมเถอะครับ"ฉันอึ้ง ตอนนี้ภายในห้องเงียบสงัด
      "เอิ่ม...ฉันขอคิดก่อนละกันนะ"แล้วฉันจึงรีบวิ่งเข้าห้องไปไม่นานนักฉันก็เผลอหลับไป
      เช้าวันรุ่งขึ้น เขามาทวงสัญญาที่ฉัน แต่ฉันกลับหลบหน้าเพราะคิดว่านี่มันเร็วไปไหม ฉันจึงรีบเข้าไปทำอาหารในครัว ไม่นานนักเสียงเพลงก็แว่วมา
      ~~อย่าบอกฉันว่าให้ไป อย่าผลักใสได้หรือเปล่า
      ความรักระหว่างนั้นยังไม่ถุงเราต้องเดินจากกัน
      ให้ตัวฉันได้พิสูจน์ ให้เข้าใจว่าฉันนั้นรักเธอเท่าไร
      อย่าใจร้านเกินไปนะเธอ~~ เสียงเพลงจบลง ฉันจึงหันหลังไป เจอเขากำลังยื่นดอกกุหลาบช่อใหญ่มาทางฉัน ฉันลังเลว่าจะรับหรือไม่ สุดท้ายฉันก็รีบและวิ่งเขาไปกอดเขาจากนั้จึงปล่อยโฮออกมาด้วยความซึ้งใจ จากนั้นฉันจึงตอบรับเขาแต่โดยดีเพราะฉันก็ชอบเขาเช่นกัน
      "ฮวาจุน คุณรู้ได้ไงว่าฉันชอบดอกกุหลาบ"
      "คือ ผมชอบดอกกุหลาบน่ะครับนูนา เลยซื้อมาให้"
      "อ่อค่ะ ยังไงก็ขอบคุณนะคะ"

      "ไม่เป็นไรครับนูนา ผมเต็มใจ รักนะนูนาคนโง่"จากนั้นเขาก็มาผลักหัวฉัน
      ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกันเต้มไปด้วยความสุข โลกเป็นสีชมพูเลย

      ณ โรงเรียน ซัลฟานี่ ไฮสคูล

      "คุณคะ คุณคือนางสาว เอมิกา วัฒนาภัตร ใช่ไหมคะ"ผุ้หญิงแปลกหน้าถามฉัน
      "เอ่อ..ใช่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ"
      "คือว่า เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่แล้วครอบครัวคุณได้เจอกับจดหมายที่คุณทิ้งไว้ พวกเขาเป็นห่วงคุณมากเลยพยายามตามหาคุณทุกวัน พวกเขารู้สึกผิด แต่มีวันนึงพวกเขาเกิดโชคไม่ดีจึงให้ประสบณ์อุบัติเหตุรถคว่ำเสียชีวิตทั้งครอบครัวค่ะ"
      "...."ฉันยืนอึ้งและช็อกมาก มันไม่จริงใช่ไหมเขาโกหกฉัน ท่านยังอยู่ ไม่ไม่ ฮึกๆ ไม่จริงงง ฉันไม่น่าหนีออกจากบ้าน ฉันมันอกตัญญู ฉันเป็นลูกทรพี ไม่นานนักภาพของฉันก็เป็นสีดำทั้งหมด
      "โอ๊ยย!!"ฉันร้องอุทานมาด้วยความปวดหัว
      "นูนาเป็นอะไรไหมครับ ลุกไหวหรือเปล่า"
      "ฮึก ฮึก คิมท่านจากไปแล้ว จากไปแล้วจริงๆ ฉันไม่เหลือใครแล้ว คิม"
      "โอ๋...ไม่เอานะครับนูนา นูนายังมีผมนะครับ"เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
      "ฮือ ฮือ ฮือ"หลังจากวันนั้น ฉันก็ซึมมาตลอด แต่คิมก็ยังอยู่เคียงข้างฉันเสมอ
      6เดือนผ่านไป...
      ฉันอาการดีขึ้นมาก วันนี้ฉันเลยอาสาเป็นคนไปซื้อของและมาทำอาหารให้ฮวาจุนทานเอง โอ๊ะลืมบอกว่าตลอด6เดือนที่ผ่านมาฮวาจุนเขาทำอาหารให้ฉันทาน แถมอร่อยมากซะด้วยย-3-
      ฉันเลือกซื้อของไปมาอย่าเพลิดเพลิน และเดินกลับคอนโด ระหว่างที่ฉันกำลังจะเปิดประตูเข้าไป ฉันก็ได้ยินเสียงการสนทนาระหว่างคน2คน ฉันเลยแอบใกล้ๆกระถางต้นไม้
      'ฮวาจุน เดือนหน้าลูกต้องหมั้นกับซันนี่แล้วนะลูก'เสียงผู้หญิงมีอายุพูดออกมา ฉันไม่รู้เป้นอะไรจึงยืนอยู่อย่างนั้นนิ่งๆอย่างนั้น ขามันไม่ไปไหนแล้ว ฟังไปน้ำตาเริ่มคลอเบ้าถ้าไม่รักกันเขาจะมาหลอกฉันทำไม
      'ครับแม่ ผมจะหมั้นกับซินนี่ครับ'ฉันอึ้งมาก เลยได้ยินไม่ค่อยชัดว่าเขากำลังใช้ความพยายามมากที่จะพูดคำนี้ออกมา
      'ดีมาก ให้ได้อย่างนี้สีลูกรัก'แล้วจากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เดินออกมา ฉันคิดว่านั่นคงเป็นแม่เค้าล่ะมั้ง
      ฉันเดินเข้าไปในห้องช้าๆ จากนั้นคิมหันมาสีหน้าเขาอึ้งมากแล้วเขาจึงถามฉันว่า
      "นูนาได้ยินเหรอครับ"
      "...."ฉันไม่ตอบและเดินหนีไป
      "นูนา คุยกับผมก่อน"แล้วเขาก็มาดึงไหล่ฉัน วินาทีนั้นน้ำตาฉันก็ไหลลงมา แล้วฉันจึงบอกเขาไปว่า
      "นายไม่รักก็ไม่ต้องมาหลอกฉัน หลอกให้ฉันรัก มันสนุกมากใช่ไหมล่ะ ห๊ะ ฉันไม่ไช่หุ่นยนต์นะที่จะไม่เจ็บ ฉันเจ็บและเจ้บมาก นายคิดว่าฉันหลอกอะไรก็ได้งั้นเหรอ ตลอดเวลาฉันคิดว่านายเป็นคนที่ฉันไว้ใจที่สุด แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ และอีกอย่างเรื่องนี้ใช่ไหมที่ทำให้นายต้องหนีมาน่ะ ฮึก ฮึก พอกันทีไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีกเลย เราเลิกกันเถอะ
      "




















      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×