[OS] BTS {Wendy X Irene} - [OS] BTS {Wendy X Irene} นิยาย [OS] BTS {Wendy X Irene} : Dek-D.com - Writer

    [OS] BTS {Wendy X Irene}

    เพราะโมเม้นพี่ไอรีนกับน้องซึงวานมันหวานเลยต้องแต่ง❤

    ผู้เข้าชมรวม

    1,901

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    1.9K

    ความคิดเห็น


    18

    คนติดตาม


    39
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  26 เม.ย. 58 / 10:55 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    BTS.
     {Wendy X Irene}

     

     





     



    เชิ้บบบบบบ ❤
    เพราะโมเม้นพี่ไอรีนกับน้องซึงวานมันช่างหวานหยดย้อย
    + อยากแต่งเพราะไม่มีฟิคคู่นี้เลย TT

    ปล.เรื่องนี้ลงยากมากกกก
    กว่าจะลงได้นี้เล่นเอาอารมณ์เสียไปหลายรอบมากๆ บ่นเฉยๆ5555
     



     

    @SQWEEZ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    เกลียด

    .

    .

     

    ซนซึงวานเกลียดสถานการณ์แบบนี้ที่สุด..

     

     

     

    ร้อน       อึดอัด     คับแคบ..

     

     

     

    ให้ตายเถอะ!..

    ซน ซึงวานนักศึกษาชั้นปีหนึ่งคณะอักษรศาสตร์วิ่งกระหืดกระหอบขึ้นบันไดที่ทอดยาวเข้าสู่สถานีรถไฟฟ้าอย่างรีบร้อน หลังจากที่ถูกรั้งให้อยู่ช่วยงานที่คณะจนเย็นย่ำ รู้ตัวอีกทีก็เกือบจะไม่ทันรถไฟเที่ยวสุดท้ายเสียแล้ว ยกมือขึ้นพัดใบไล่ความร้อนบนใบหน้าจากการวิ่งมาราธอนที่ยาวนาน ขมวดคิ้วพลางถอนหายใจเล็กน้อยเมื่อสำรวจจำนวนประชากรที่แออัดกันอยู่ในสถานีรถไฟแห่งนี้

     

    คนเยอะอย่างกับฝูงมด.. น่ารำคาญจริง ๆ


          .
                 .
     

    เมื่อนิสัยขี้หงุดหงิดของตัวเองกำเริบ ซึงวานจึงหลีกเลี่ยงบรรยากาศที่ไม่เหมาะสมกับสภาพอารมณ์ของเธอตอนนี้ด้วยการแวะเข้าห้องน้ำไปก่อน.. น้ำเย็น ๆ ที่ไหลผ่านหลังมือทำให้รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นส่องกระจกพลางจัดการรวบผมยาว ๆ ของตัวเองไว้ สลัดมือที่เปียกน้ำเบา ๆ หางตาจะสังเกตเห็นใครบางคนกำลังเดินเข้ามาข้างใน..

     

     

    !!!!!!!!

     

     

    ซึงวานยกมือทั้งสองข้างขึ้นจัดผมของตัวเองอย่างรีบร้อนผิดปกติ พยายามเก็บอาการและสีหน้าของตัวเองไม่ให้ดูตื่นตระหนกมากเกินไป เผลอกลั้นหายใจไปเมื่อตอนที่ใครคนนั้นเดินผ่านด้านหลังของเธอไปพร้อมกับรอยยิ้ม..

     

    รอยยิ้มสดใส ที่ไม่ว่าใครต่อใครก็ต้องหลงรัก

    รอยยิ้มของเบ จูฮยอน

     

     

    ยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองอย่างเขินอาย อาการขี้หงุดหงิดเมื่อกี้หายไปหมดแล้วจะเหลือก็แต่อาการหวิว ๆ ในช่องท้องคล้ายจะเป็นลม เงาในกระจกสะท้อนให้เห็นรอยยิ้มงี่เง่าของตัวเอง.. ซึงวานหุบยิ้มลงพลางขมวดคิ้วทันที      


                   
     ‘นี่อย่าบอกนะว่าเธอทำหน้าแบบนี้ตอนที่จูฮยอนเดินผ่านน่ะ ..?

    .

    .

    .

    เวลาผ่านไปสักพักใหญ่กว่าที่จะต่อแถวซื้อตั๋วรถไฟเที่ยวสุดท้ายแล้วเดินฝ่าฝูงชนจำนวนมหาศาลมาได้ แถวเคลื่อนตัวไปอย่างช้า ๆ  เหลือบมองนาฬิกาเรือนโตบนผนังที่กำลังบอกเวลา
    19.23 . นี่เสียเวลาต่อแถวซื้อตั๋วนานเกือบชั่วโมงเลยหรอเนี่ย? ขมวดคิ้วพลางบ่นกับระบบคมนาคมของประเทศตัวเองในใจอย่างหงุดหงิด

     

     

    แล้วนาทีของเธอก็มาถึง ประตูรถไฟเปิดออกราวกับเป็นประตูสวรรค์ ซึงวานพุ่งตัวเข้าไปข้างในอย่างรีบร้อน กวาดสายตามองหาที่นั่งที่ว่างอยู่  ล็อคเป้าหมาย!  แทบจะพุ่งเข้าไปในทันที่เมื่อมองเห็นที่ว่างแต่ก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดเมื่อความเร็วของเธอยังไม่มากพอที่จะแข่งขันกับมนุษย์ป้าคนหนึ่งที่วิ่งมาจากไหนก็ไม่รู้ตัดหน้าเธอไป.. 


     

    จึงจำเป็นที่เธอต้องเดินคอตกไปจับราวเอาไว้อย่างเซ็ง ๆ เมื่อประตูปิดรถไฟก็ออกตัว แรงกระชากจากการออกตัวทำให้เซไปด้านหลังเล็กน้อย ซึงวานถอนหายใจอย่างหงุดหงิดเมื่อรับรู้ถึงแรงชนขนาดไม่เบาที่ชนเข้ากับหลังของเธอ นึกโกรธพาลไปถึงรุ่นพี่ที่คณะที่ชอบรั้งให้อยู่ช่วยงานจนค่ำกลับบ้านไม่เป็นเวลาแบบนี้



                ไม่รู้รึไงนะว่าเวลาแบบนี้คนมันเยอะ แล้วเธอก็เป็นโรคไม่ชอบคนเยอะด้วย.

     

    คิดพลางถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยของวันก่อนจะหันไปมองหาต้นเหตุที่ให้เธอต้องมายืนทบทวนความหลังที่ไม่น่านึกถึงเท่าไหร่นัก





    !!!!!!!!!!



     

    ราวกับว่าจะหยุดหายใจไปเสียดื้อ ๆ เมื่อต้นเหตุที่ให้เธอหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้งคือคน ๆ เดียวกันกับคนที่ทำให้เธอยิ้มเหมือนคนบ้าอยู่ในห้องน้ำ เบจูฮยอน   สมองเริ่มประมวลผลอะไรไม่ถูก ซึงวานกระพริบตาปริบ ๆ อย่างเก้อเขินเมื่อ จูฮยอนเงยหน้าขึ้นมาพลางส่งยิ้มให้เธออย่างเป็นปกติ แต่จะมีก็แค่เธอนี่แหละที่ไม่ปกติ..

     

    เต้นเบาๆหน่อยได้มั้ยเล่า เดี๋ยวเค้าก็ได้ยินกันพอดี..

     

    .

    .

     

    เวลาผ่านไปพักใหญ่รถไฟชะลอตัวเข้าจอดที่สถานีถัดมา แรงกระชากจากการจอดของรถไฟทำให้เธอเซไปข้างหลังอีกครั้งพร้อมกับชนเข้ากับผู้หญิงคนเดิมอย่างแรง จนมือที่จับราวเอาไว้เกือบหลุดออก..  
     

    ขอโทษค่ะ ” 

     

    ขยับยิ้มให้ตอนที่พยายามกลั้นเสียงไม่ให้สั่นเพราะความอาย
    พูดจบก็ก้มหน้าลงซ่อนใบหน้าแดงๆของตัวเองเอาไว้
    กลิ่นหอมอ่อนๆจากร่างกายของอีกคนทำให้สติเธอเตลิดไปไกล..

     

    .

    .

     

    ซึงวานเหลือบตาลงเมื่อรู้สึกถึงแรงดึงที่ชายเสื้อนักศึกษาของตัวเอง เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่กำลังจับชายเสื้อเธอเอาไว้แน่น ส่งสายตาแทนเครื่องหมายคำถามไปให้อีกคน

     จูฮยอนกำลังดึงชายเสื้อเธออยู่..

     

           “ขอโทษนะแต่มันยืนไม่ได้”

     

               ซึงวานไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่ขยับตัวถอยหลังพลางดึงให้อีกคนเข้ามาใกล้ขึ้น 
     

    “ยืนได้มั้ยคะ?”
     

    เอ่ยถามอย่างอดทนอดกลั้นกับความประหม่าของตัวเองก่อนจะยิ้มกว้างขึ้นเมื่อได้รับรอยยิ้มหวานจากจูฮยอนเป็นการตอบแทน

     

    วันนี้หัวใจเธอทำงานหนักไปมั้ยนะ..?

     

    .

    .

     

    ตอนนี้ผ่านมาหลายสถานีคนในรถไฟก็เริ่มลดลงแล้วเช่นกัน ซึงวานมองออกไปข้างนอกหน้าต่างพลางกระชับกระเป๋าที่สะพายอยู่ในแน่นเพื่อเตรียมตัวลงไปสถานีต่อไป เสียงเปิดประตูดังขึ้นผู้คนเริ่มทยอยออกกันทีละนิด 


     

    “บ้านอยู่แถวนี้หรอคะ?”

     

    คนที่เงียบมาตลอดทางอย่างจูฮยอนพูดขึ้นทำลายความเงียบ เอียงคอรอคำตอบของอย่างน่ารัก พร้อมกับเดินข้ามประตูออกมาพร้อมกัน


     

    “ค่ะ หอพักอยู่แถวๆนี้แล้วจูฮยอนล่ะคะ?”  ขยับยิ้มตอบอย่างใจเย็น พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้อีกคนรู้ว่าเธอกำลังประหม่า

     

    “รู้จักชื่อเราแล้วหรอคะ?”  

    เท้าที่กำลังเดินอยู่หยุดชะงัก ซึงวานจับกระเป๋าของตัวเองแน่นสมองเริ่มคิดหาคำแก้ตัวอย่างหนัก 


     

    “เอ่อ.. พอดีว่าเราเป็นแฟนคลับเธอน่ะ”  ซึงวานยิ้มตอบพลางหัวเราะเบา ๆ เมื่อจูฮยอนยังคงทำหน้างุนงงไม่เข้าใจมุขของเธอ  ให้ตายเถอะ.. นี่อุตส่าห์กลั้นใจเล่นเลยนะ..


     

    “เป็นแฟนคลับแล้วอย่างลองเป็นแฟนอย่างอื่นมั้ยล่ะ?”

     
     

     “.....”

     

    “ว้าาา ไม่ตลกหรอเนี่ย..” จูฮยอนมุ้ยหน้าอย่างขัดใจเมื่อเธอทำหน้านิ่งเหมือนยังไม่เก็ท
     แต่ในความจริงแล้วหัวใจซึงวานกำลังเต้นแรงมากต่างหาก ราวกับว่ากำลังเล่นเครื่องเล่นอยู่ในสวนสนุก..
     


     

                 ‘ให้ตายเถอะ.. เล่นมุขแบบนี้ระวังเถอะนะจะได้แฟนกลับไปจริง ๆ  ซึงวานคิดพลางยกมือขึ้นทาบอกตัวเอง เมื่อสติที่มีเหลืออยู่น้อยนิดเริ่มถูกริดรอนออกไปอีกครั้งเพราะความน่ารักเกินไปของ   จูฮยอน รอยยิ้มของอีกคนช่างมีผลกับคนแบบเธอนัก แค่จูฮยอนยิ้มโลกทั้งไปของเธอก็เหมือนกับจะเสียการควบคุมไปซะดื้อ ๆ ..

     

     

    ระหว่างทางที่เดินมาไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก คนที่เคยร่าเริงสดใสพูดจาเก่งอย่างเธอ ในตอนนี้กลับเงียบสนิทราวกับว่ามีใครมาปิดสวิตซ์เอาไว้ อยากจะถามไถ่พูดคุยกับจูฮยอนอย่างเป็นปกติเพราะกลัวอีกคนจะอึดอัดแต่ก็ไม่อาจทำได้เมื่อเงยหน้าขึ้นเผลอสบดวงตาหวาน ๆ ที่ไรสมองก็เหมือนจะหยุดทำงานไปเสียดื้อ ๆ คำพูดที่คิดเอาไว้ก็ถูกกลืนหายไปในลำคอจนหมด

     

     

    “น่ารัก..”

    หลุดปากเอ่ยคำพูดที่คิดเอาไว้ในหัวเมื่อตอนที่ได้เผลอสบตาอีกครั้ง


     

                   “คะ?”
     

     

    “เอ่อ.. แมวน่ะ” 

    นี่คือตัวอย่างของการสูญเสียการควบคุมตัวเอง ซึงวานนิ่งสนิทชี้ไม้ชี้มือไปทางแมวสองตัวที่กำลังออดอ้อนกันอย่างน่ารักน่าชัง นึกขอบคุณแมวสองตัวนั้นที่เดินผ่านมาพอดี รู้สึกโล่งอกเมื่อ
    จูฮยอนละความสนใจจากเธฮไปยังแมวสองตัวนั้นพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าขึ้นมาถ่ายรูป



    “ว่าแต่เธอชื่ออะไรนะเดินมาด้วยกันตั้งนานเรายังไม่รู้จักชื่อเธอเลย”  จูฮยอนละความสนใจจากโทรศัพท์ในมือของตัวเองขึ้นมามองหน้าของเธอ
     

           “ซน ซึงวาน”  ขยับปากพูดทีละคำอย่างใจเย็น

     

           “ชื่อเหมือนผู้ชายเลยอ่ะ” หุบยิ้มลงทันที แต่ดูเหมือนว่าอาการของเธอจะไปจี้จุดอะไรบางอย่างของอีกคน เพราะตอนนี้จูฮยอนกำลังหัวเราะอย่างหนักพลางเอามือกุมหน้าของตัวเอง   
    ตลกอะไรขนาดนั้นนะ..?  เธอคิดก่อนจะหยุดเดินเพื่อยืนให้จูฮยอนหัวเราะให้เสร็จ

     
     

           “วานอา.. หน้าเธอ..”  จูฮยอนกำลังใช้ความพยายามอย่างมากในการกลั้นหัวเราะ ซึงวานขมวดคิ้วพลางคิดในใจว่าเธอกับจูฮยอนดูจะเข้ากันได้ดี และอีกคนก็ดูไม่เหมือนจะไม่เป็นเหมือนอย่างที่เคยได้ยิน

     
     

           “นี่เราขอไลน์เธอหน่อยสิ”

     

    “หื้มม?”
    ทันทีที่หยุดหัวเราะ จูฮยอนก็เงยหน้าขึ้นมาพูดอะไรแปลกๆกับเธออย่างตั้งใจ

     

           “แมวไง..”

     

           “แมว?”

     

    “ก็เนี่ยรูปแมวสองตัวนั้นไงที่เธอบอกว่าน่ารักอยากได้ป่าวเราถ่ายไว้น่ะ” จูฮยอนยิ้มกว้างพลางชูรูปแมวที่ตนเองถ่ายเอาไว้ให้ดู แม้จะอยู่ให้อาการไม่เข้าใจอะไรแต่เธอก็ไม่โง่ที่จะไม่คว้าโอกาสไว้
    ซึงวานรับโทรศัพท์จากอีกคน พิมพ์อะไรบางอย่างก่อนจะยื่นคืนให้

     
     

          “ถ่ายอะไรมาเยอะแยะเนี่ยนี่ขนาดเดินผ่านแค่แปบเดียวนะ”   ขมวดคิ้วกับจำนวนรูปภาพที่เด้งขึ้นมานาทีต่อนาที

     
     

    “ก็น่ารักนี่นา..”

    จูฮยอนตอบพลางเงยหน้าขึ้นแอบมองเสียวหน้าของอีกคนที่กำลังให้ความสนใจกับภาพในโทรศัพท์ของตัวเองอยู่ ‘ ก็น่ารักจริงๆนะ ไม่ได้โกหกซะหน่อย  ขยับยิ้มเล็กน้อยเมื่อซึงวานเงยหน้าขึ้นมาส่งสายตาแทนเครื่องหมายคำถามให้เธอ


     

    “แมวน่ะ”
     

    ขยับยิ้มตอบ ใบหน้าที่ดูมีความสุขกับอะไรทุกอย่างบนโลกทำให้จูฮยอนอดที่จะยิ้มตามไม่ได้
    หัวใจกระตุกวูบ เมื่อซึงวานเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเธอด้วยสายตางงงวยก่อนจะก้มลงไปสนในโทรศัพท์ของตัวเองอีกครั้ง จูฮยอนต้องใช้ความพยายามอย่างมากแค่ไหนนะที่จะบังคับกล้ามเนื้อบนใบหน้าของเธอไม่ให้เผลอหลุดยิ้มกว้างออกไปยามเมื่อมองหน้าของอีกคน


     

    .

    .

     

    ช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ ร่างเล็กๆของผู้หญิงสองคนกำลังเดินอยู่บนถนนด้วยกัน ซึงวานก้มหน้าลงมองรองเท้าและจังหวะการเดินของพวกเธอ ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข กับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สังเกตเห็น 

    พวกเธอสองคนกำลังเดินไปพร้อมกัน..











    BONUS.

     

    อื้ออ นอนหลับฝันดีนะวานอา..
    หลังจากบอกลาอีกคนเสร็จสรรพพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
    จูฮยอนก็เดินออกมาจากบริเวณนั้นพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะกดเข้าไปในโปรแกรมสนทนาสีเขียวๆ











    .
    .
    .
     


    THE END.

     
    Talk : 

    ลงยากจังค่ะอะไรก็ไม่รู้ #บ่น
    เค้าก็นึกว่ามันยังไม่ลงให้ก็เลยกดซ้ำตั้งสี่ห้ารอบ
    TT



    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×