ตอนที่ 18 : ตอนที่ 18
หลังจากออกมาจากโลกวิญญาณก็ผ่านมาห้าวันแล้ว ตัวเขายังไม่ได้ทำตามข้อตกลงของอามาเทราสึที่จะหาซัมปาคุโต อาซาอุจิเล่มหนึ่งมาให้อีกฝ่าย ไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่อยากหาให้แต่จังหวะตอนนี้ตัวเขายังทำมันไม่ได้มากกว่า
ตอนนี้เขาต้องนำเวลาที่มีไปพูดคุยกับหัวหน้าอุคิทาเกะเรื่องการหายตัวไปของลูเคีย ทางหัวหน้าเองก็เห็นด้วย และได้นำเรื่องการส่งตัวราเซ็ตสึไปยังโลกมนุษย์เพื่อตามหาคุจิกิลูเคียผู้หายสาปสูญไปพูดคุยกับหัวหน้าใหญ่โดยตรง
ไม่เกินครึ่งชั่วโมงอุคิทาเกะก็ได้รับคำสั่งให้ส่งตัวราเซ็ตสึเพื่อไปยังโลกมนุษย์เพื่อสืบหาตัวตนของลูเคีย เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องร้องขอผ่านวังกลาง 46 ห้องเพียงแค่ขอจากหัวหน้าใหญ่โดยตรงทุกอย่างก็จบ
ปัจจุบันอุคิทาเกะได้มาตะเตรียมประตูเซ็นไกมงและอธิบายถึงเรื่องการกำจัดด้านพลังตั้งแต่ระดับรองหัวหน้าหน่วยขึ้นไป การจำกัดจะเป็นการรักษาและควบคุมความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการต่อสู้ภายในโลกมนุษย์
"เอาละเรื่องสุดท้ายที่ข้าอยากจะถามความเห็นของเธอ ถ้าเกิดว่าสาเหตุการหายสาปสูญในกรณีนี้คุณคุจิกิทำผิดกฎของโซลโซไซตี้ เธอจะทำยังไงต่อไป ?"
"ผมจะช่วยเหลือเธอ"
"แม้มันจะผิดกฎของโซลโซไซตี้น่ะหรือ ?"
"ผมคิดว่าเราจำเป็นต้องดูก่อนว่า สิ่งที่เธอทำลงไปมันร้ายแรงและส่งผลเสียต่อโซลโซไซตี้หรือไม่ ถ้าไม่กฎต่างๆก็ควรลดหย่อนและยืดหยุนกันบ้าง"
ราเซ็ตสึตอบอุคิทาเกะตามความรู้สึก แม้ต่อให้ลูเคียจะทำผิดกฎร้ายแรงยิ่งกว่าในต้นฉบับเขาก็พร้อมสนับสนุนเธอ แม้ว่าตัวเขาจะยังไม่ได้ตกหลุมรักอีกฝ่ายแบบทั้งใจ แต่เขาก็ยังมีความรู้สึกพิเศษต่อเธอมากเช่นกัน
"ได้ยินแบบนั้นข้าก็โล่งใจ ไปเถอะ จงออกเดินทางตามหาลูกน้องคนสำคัญของเธอ"
"ครับท่านหัวหน้า!"
ราเซ็ตสึเดินเข้าไปในเซ็นไกมง ทันทีที่เข้ามาร่างวิญญาณของเขาก็ถูกบางสิ่งกดทับ แรงดันวิญญาณของเขาถูกปิดกั้นลงจนเหลือเพียงหนึ่งในสี่ของพลังทั้งหมดที่เขามี ที่อกซ้ายมีตราประทับของหน่วยที่ 13 นี่คือการจำกัด
"เป็นประตูที่ดี"
สำหรับการใช้ของยมทูตที่มีผีเสื้อนรกไม่จำเป็นต้องวิ่งหาทางออกเหมือนพวกอิจิโกะในต้นฉบับ เพียงแค่ปรับสภาพร่างกายเสร็จ ด้านหน้าของเขาก็มีบานประตูหนึ่งคู่โผล่ออกมาและเปิดออก
บนท้องฟ้าเมืองคาราคุระมีบานประตูเลื่อนโผล่ออกมา ด้วยทักษะของราเซ็ตสึในปัจจุบันเขารีบซ่อนแรงดันวิญญาณของเขาทั้งหมดเพื่อหลบหลีกสัมผัสระดับสูงของพวกคนในโลกนี้
แต่ว่าสุดท้ายแล้วเขาก็พอทราบดีว่าทันทีที่เซ็นไกมงถูกเปิดออก อุราฮาระ คิสึเกะจะต้องรู้ตัวก่อนใครอย่างแน่นอน อีกฝ่ายเป็นถึงอดีตหัวหน้าหน่วยที่ 12 จากกองวิทยาการ ทั้งยังเป็นชายผู้สร้างโฮเงียคุสิ่งประดิษฐ์ที่ไอเซ็นต้องการ
แต่เขาไม่ได้สนใจอีกฝ่ายสักเท่าไหร่ แน่นอนว่ามันก็แค่ตอนนี้ละนะ ก่อนอื่นเขาต้องหาตัวลูเคียเสียก่อน ชายหนุ่มเริ่มหลับตาไม่นานนักรอบตัวเขาก็มีผ้าขาวจำนวนนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาจากผืนดิน
"โอ้ะ อยู่ที่นั่นเอง"
ฟึบ
ร่างของเขากระพริบวูบวาบอยู่ช่วงหนึ่งจนเขามาถึงที่หมายเขาก็สัมผัสได้ว่าตนเองเหยียบบางอย่างเข้า สิ่งที่ถูกเหยีบบจมลงสู่พื้นถนนดังตู้ม! เสียงสนั่นหวั่นไหว ชายหนุ่มก้มหน้ามองยังไปยังสิ่งที่ถูกเหยีบบก็เกาหัวอย่างช่วยไม่ได้ ผู้โชคร้ายที่ว่าก็คือฮอลโลว์ตนหนึ่ง
"คุณนี่ซวยจริงๆเลยนะครับ ดันทะเล่อทะล่ามาอยู่ใต้เท้าผมเฉยเลย"
"...ราเซ็ตสึ"
น้ำเสียงเรียกอันคุ้นดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ชายหนุ่มที่ที่กำลังก้มมองฮอลโลว์ที่ใต้เท้า หันไปมองเจ้าของเสียง ทันทีที่เขาเห็นอีกฝ่ายในสภาพไร้พลังวิญญาณก็แสร้งทำสีหน้าตึงเครียดทันที โอกาศแกล้งอีกฝ่ายหาได้ไม่ใช่ง่ายๆ โอกาศดีๆแบบนี้มีหรือเขาจะปล่อยผ่าน
"คุณคุจิกิ พลังวิญญาณของคุณ..."
"ขะ ข้า..."
"ลูเคีย ปลอดภัยหรือเปล่า!"
ไม่นานชายผมสีส้มในชุดฮากามะสีดำก็วิ่งเข้ามา ทว่าทันทีที่อีกฝ่ายเห็นชายหนุ่มผมดำหรือราเซ็ตสึ เจ้าตัวที่กำลังวิ่งเข้ามาก็เบรคแทบตีนแตก
"ยะ ยมทูต ?"
ราเซ็ตสึเหล่มองไปทางชายหนุ่มและหันกลับมามองที่ลูเคียสีหน้าของเขายังคงไร้อารมณ์เฉกเช่นปกติ แม้ที่คิ้วจะขมวดเข้าหากันเพื่อแสร้งแสดงอารมณ์ตึงเครียด เป้าหมายคือกลั่นแกล้งแม่สาวจอมเฮี้ยวนี่
"แบบนี้นี่เอง คุณได้ฝ่าฝืนกฎของโซลโซไซตี้และมอบแรงดันวิญญาณให้กับชายคนนี้สินะครับ"
"ขะ ข้า"
"เหตุผลที่คุณไม่กลับไปยังโซลโซไซตี้ทั้งที่ครบกำหนดเวลาแล้วนั่นก็เพราะพลังยมทูตของคุณยังไม่ฟื้นคืน รู้หรือเปล่าครับว่าการมอบพลังให้กับมนุษย์ มีโทษถึงขั้นประหาร..."
"ข้ารู้แต่ว่า..."
ลูเคียไม่รู้จะตอบยังไงดี ส่วนทางอิจิโกะหลังได้ยินคำพูดของราเซ็ตสึก็ ตกใจทันทีเขาไม่คิดเลยว่าการที่ลูเคียมอบพลังให้เขาจะเป็นการฝ่าฝืนกฎขั้นร้ายแรงแถมยังมีโทษถึงขั้นประหารแบบนี้
"ดูเหมือนผมคงจะพาคุณกลับไปเพื่อสารภาพความผิด โทษฐานที่ฝ่าฝืนกฎและโทษหนักจะได้กลายเป็นเบา ส่วนชายคนนี้ผมคงต้องทำลายพลังของเขา"
"ข้าจะกลับไปกลับเจ้า ดังนั้นอย่าทำร้ายเขา"
"ขอปฏิเสธครับ"
ร่างของราเซ็ตสึโผล่มาอยู่ด้านหน้าของชายหนุ่มผมส้มคุโรซากิ อิจิโกะในชั่วพริบตาอีกฝ่ายยังไม่ทันตอบสนองก็ถูกหมัดอัดกระแทกเข้าที่ท้องจนร่างของอีกฝ่ายพุ่งไปไกลหลายสิบเมตร
'โอ้ได้อัดพระเอกด้วยมือตัวเองมันรู้สึกดีแบบนี้นี่เอง'
"อิจิโกะ!!"
"แค่กๆ จุกเล็กน้อยแต่ไม่เจ็บแฮะ"
ไม่สนเสียงเรียกของลูเคีย ร่างที่ล้มนอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้นก็ลุกขึ้นมาไอ เจ้าตัวเกาหัวและมองไปที่ชายหนุ่มผมดำที่วาดดาบฟันฮอลโลว์ที่กำลังจะหลบหนีอย่างง่ายดายและหลังจากจัดการฮอลโลว์ได้เจ้าตัวก็เก็บดาบและหันมามองที่เขา
"แน่นอนอยู่แล้วครับ ถ้าผมต้องการทำลายคุณจริงๆป่านนี้คุณคงไม่มีโอกาศที่จะลุกขึ้นมานั่งเกาหัวโง่ๆ แบบนี้หรอกครับ เอาละเดี๋ยวผมขอเอาตัวคุณคุจิกิไปคุยสักเดี๋ยวนะครับ..."
เขาอุ้มยกล่างของลูเคียพาดบ่าและจากไปในชั่วพริบตาทิ้งให้อิจิโกะยืนเกาหัวอย่างไม่เข้าใจว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่อย่างน้อยเขาก็พอจะเข้าใจเรื่องหนึ่งก็คือชายคนนั้นไม่ได้เป็นศัตรูหรือคิดทำร้ายลูเคียอย่างแน่นอน กลับมาที่พวกราเซ็ตสึ หลังเขาพาลูเคียมาถึงอาคารร้างที่หนึ่งและวางร่างของหญิงสาวลงสู่พื้น เขาก็ประเคนมะเหงกใส่อีกฝ่ายทันที
โป้กก!
"โอ้ยยบ เจ้าเขกหัวข้าทำไมเจ้าเซ่อ"
ชายหนุ่มไม่ได้ตอบ การที่เขาเคาะหัวของลูเคียก็เพื่อตรวจสอบอะไรบางอย่าง และในที่สุดเขาก็ได้คำตอบ ดูเหมือนไอ้เวรนั่นจะแอบยัดโฮเงียคุใส่ลูเคียแล้ว ถ้าเป็นปกติแม้จะมอบพลังยมทูตให้คนอื่นไปจนหมดคงใช้เวลาไม่กี่วันก็น่าจะเพียงพอต่อการฟื้นฟู
แต่นี่แม้จะผ่านไปเกือบเดือนครึ่งแต่ลูเคียก็ยังไม่มีท่าทีฟื้นพลังยมทูตเลยแม้แต่นิดเดียว เหตุผลนั้นง่ายมากก็เพราะโฮเงียคุกำลังขโมยพลังยมทูตที่กำลังฟื้นคืนของลูเคียอยู่ นี่จึงทำให้ราเซ็ตสึไม่พึงพอใจเป็นอย่างมาก
'ถ้าพ่อเจอ จะฟันแม่งให้ด้วนเลย'
"เป็นอะไรไปเจ้าเซ่อ"
"ไม่มีอะไรครับ ผมแค่แปลกใจที่พลังยมทูตของคุณที่ควรจะฟื้นฟูกลับไม่มีทีท่าฟื้นขึ้นมาเลย มันน่าจะมีปัญหาเล็กน้อย ไว้ให้คุณพาผมไปหาคนขายกายหยาบให้คุณทีหลังแล้วกัน แต่เรื่องนี้ช่างก่อนเถอะครับเราควรจะเริ่มเรื่องของคุณในตอนนี้มากกว่า"
"เจ้าไม่คิดจะพาข้ากลับไปรับโทษหรือ ?"
"คำตอบนั้นผมมอบให้คุณคุจิกิก่อนที่คุณจะเดินทางมายังโลกมนุษย์แล้วนี่ครับ"
ชายหนุ่มกล่าวพร้อมนำมือลูบแก้มของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน ทางลูเคียที่ยินและสัมผัสถึงความอ่อนโยนก็แปลกใจ อย่าบอกนะว่าเขากำลังจะขัดกฏและต่อต้านโซลโซไซตี้เพื่อช่วยเหลือเธอ ?
"ไม่ได้เด็ดขาด!! เจ้าจะมาทำเพื่อข้า..."
ไม่รอให้หญิงสาวพูดจบประโยคก็ถูกนิ้วชี้ของชายหนุ่มมาบังคับไม่ให้พูดอะไรอีก เขาได้เลือกแล้วต่อให้ต้องหลุดออกจากตำแหน่งและถูกระบุว่าเป็นกบฏเขาก็พร้อมจะช่วยเหลือเธอ
"ขอแค่คุณปลอดภัยก็พอแล้ว... เป็นไงครับคำพูดผมหล่อไหม ? มาสิครับที่รักมากอดและจูบผมด้วยความรัก"
"ขะ ข้ากำลังซาบซึ้งเลยแท้ๆ จูบหมัดข้าไปก่อนแล้วกันนะไอ้เจ้าบ้าเอ้ย!!"
หมัดน้อยๆพุ่งหมายจะชกเข้าเบ้าตาของชายหนุ่ม แต่ความเร็วมันเชื่องช้าเกินไป เขาหลบมันได้อย่างง่ายดาย และใช้โอกาศนั้นจับแขนของหญิงสาวและดึงร่างเล็กเข้ามาในอ้อมแขนและกอดเธอไว้
"ฮี่ฮี่ ยังเร็วไปร้อยปีที่จะต่อยผมโดยตรงนะครับ"
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ยิ้มเลยตอนนี้
555555555 ขอบคุณมากครับ
หวานหอมกลมกล่อม จะหวานยังไงก็เอาให้สุด ฉันเอาน้ำใส่ถ้วยรองขาเตียงเอาไว้แล้ว!! ฮ่าๆๆๆๆ แค๊กๆๆ..
กลิ่นอะไรตุๆนะ... อ๋อ กลิ่นความรัก เหม็นความรักจังเลยค่าาา~
เพราะเจ้าหมวกเกี๊ยะยัดใส่ลูเคียมาโคตรนานแล้ว
ที่ทำให้พลังวิญญาณไม่ฟื้นเพราะกายหยาบดัดแปลงตะหาก