โดจิน Y Inazuma eleven : เอ็นโด x คาเซมารุ - โดจิน Y Inazuma eleven : เอ็นโด x คาเซมารุ นิยาย โดจิน Y Inazuma eleven : เอ็นโด x คาเซมารุ : Dek-D.com - Writer

    โดจิน Y Inazuma eleven : เอ็นโด x คาเซมารุ

    อีกสองวันจะถึงวันวาเลนไทน์ เด็กชายคนหนึ่งที่เริ่มรู้ตัวแล้วว่า..เขานั้นรู้สึกอย่างไรต่อเพื่อนของเขาเอง

    ผู้เข้าชมรวม

    5,388

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    29

    ผู้เข้าชมรวม


    5.38K

    ความคิดเห็น


    9

    คนติดตาม


    39
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 มิ.ย. 55 / 15:39 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    คาเซมารุ อิจิโรตะ เด็ชายชั้นม.ต้น ผู้ที่เริ่มรู้ตัวแล้วว่าตัวเองนั้นรู้สึกอย่างไรกับเพื่อนชายที่สนิทกันมานาน เอ็นโด มาโมรุ
    เขาต้องการจะสารภาพความในใจของเขาให้เอ็นโดได้รับรู้ในวันวาเลนไทน์
    แต่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย...

    เอ็นโด....นายจะเกลียดฉัน......หรือปล่าวนะ?
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ดำเนินเรื่องโดย : คาเซมารุ

      มาเข้าชมรมฟุตบอล แล้วมาเล่นฟุตบอลด้วยกันนะ คาเซมารุ!!เป็นคำพูดของเอ็นโด มาโมรุ เพื่อนที่รู้จักกันก่อนหน้านั้นเอ่ยพูดกับผมด้วยแววตาแห่งความมุ่งมั่น

      ผมยังจำเหตุการณ์ในวันนั้นได้ดี เป็นวันที่ผมตัดสินใจที่จะร่วมเดินไปบนเส้นทางเดียวกับเขา ในเมื่อเขาชวนขนาดนั้นและจากที่ผมเห็นว่าเขาพยายามฝึกซ้อมรับกับยางรถยนต์แล้ว ก็ทำให้ผมตัดสินใจที่จะเข้ารวมชมรมฟุตบอล ผมรู้สึกสนุก และมีความสุขทุกครั้งที่ได้ร่วมเล่นฟุตบอลกับเขา เขาเป็นเพื่อนสนิทที่ดีที่สุดของผมเลยล่ะ

      ...แต่ทว่า....ความรู้สึกของผมที่มีต่อเขา

      มันกลับต่างออกไปจากเมื่อก่อน....มากขึ้นทุกที...

       

      วันนี้อากาศค่อนข้างจะหนาวอยู่พอสมควร ทั้งที่เข้าสู่กลางเดือนที่สองแล้วแท้ๆ มันน่าจะเข้ารฤดูใบไม้ผลิที่อากาศเริ่มจะอุ่นได้แล้วนี่นา ผมเดินทางขึ้นรถไฟเพื่อกลับบ้าน

      “นี่ๆ อีกสองวันก็จะวันวาเลนไทน์แล้วนะเธอ” เสียงคุยกันของเด็กผู้หญิงที่นั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามดึงความสนใจของผม แต่ผมก็แทรงทำเป็นหลับเพื่อกลบเกลื่อนไม่ให้ด
      น่าสงสัย

      “อ๋า! นั้นสิน้า ปีนี้ฉันว่าจะทำซ็อคโกแล็ตทำมือล่ะ” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งในนั้นเสนอความเห็นออกมา

      “ว้าย! หวานซะไม่มีล่ะ....อ๊ะ! ถึงสถานณีแล้วรีบลงกันเถอะ!” เสียงฝีเท้าวิ่งห่างออกไป ดีจังเลยน้าเด็กผู้หญิงมอบซ็อคโกแล็ตให้กับคนที่ชอบแบบนั้น.....

      ความคิดผมชะงักกึกเมื่อนึกถึงคำว่า คนที่ชอบ  ใบหน้าของเด็กผู้ชายผมสีน้ำตาลใส่ผ้าคาดหัวสีส้มก็ผุดขึ้นมาในหัว นั้นทำให้ผมถึงกับสะดุ้งตัวลืมตาโผลงใบหน้าร้อนฉ่า

      ผมนั่งทบทวนความคิดของตัวเองอยูสักพักเพื่อหาเหตุผลมาแก้ต่างอาการของผม

      เอ็นโด....

      (นับวันที่หนึ่ง)

       

       

       

      อีกหนึ่งวันจะถึงวันวาเลนไทน์

      “ช่วงนี้นายกำลังมีปัญหาอะไรอยู่หรือปล่าว?” ผมสะดุ้งตัวเมื่อมีเสียงหนึ่งเข้ามาทัก และเมื่อผมหันไปทางต้นสียงก็พบกับคิโดที่เดินมานั่งบนที่นั่งข้างสนามด้วยกัน

      “ทะทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ?” ผมถามเหตุผลจากคนพูดด้วยสีหน้าหวาดระแวงว่าเขาจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างในตัวผมที่ผิดปกติ

      “ก็ช่วงนี้ฟรอมนายดูจะแย่ลงนะ อย่างการซ้อมวันนี้นายทำได้ไม่ดีเท่าไหรเลย” ผมหน้าซีดเล็กน้อยเพราะสิ่งที่ผมกังวลนั้นมันชัดเจนยิ่งกว่าอะไรดี

      “มะมันสังเกตุเห็นง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?” ผมหลบหน้าคิโดแล้วพูดออกมาลอยๆ ผมใช้มือดึงผมหน้าลงมาบังใบหน้าของผมเพื่อปิดกั้นตัวเองจากการจับพิรุษ ผมไม่ได้ยินเสียงคิโดพูดอะไรต่อ สักพักที่การสนทนาของเราตกอยู่ในความเงียบ

      “นี่หรือว่านาย.....” เสียงของคิโดเป็นคนเปิดประเด็นพูดอีกครั้ง “กำลังแอบชอบใครอยู่งั้นเหรอ?" คำพูดของคิโดเล่นเอาผมหน้าร้อนฉ่าขึ้นมาทันที

      “มะมะมะมะไม่ใช่สักหน่อย อะเอาความคิดนั้นมาจากไหนกันนะ!!??” ผมพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักอย่างควบคุมไม่ได้

      “ก็แค่เดา” คิโดยักไหล่อย่างไม่คิดอะไรมาก “หึ หึ แต่นายนี่เดาง่ายดีชะมัดเลยนะ” คำพูดหยอกของเขาทำให้ผมนึกเจ็บใจ ไม่น่าพลาดท่าเลยจริงๆ

      “แล้วนายรู้ได้ยังไง...?” ผมลองถามเหตุผลเขาไปว่าทำไมเขาถึงจงใจที่จะเดาว่าผมกำลังแอบชอบใครอยู่ ซึ่งมันก็เป็นคำตอบที่ถูกอะนะ

      “ที่หูนาย” คิโดใช้นิ้วชิ้ไปที่หูของผม

      “ห๊ะ!?” ผมงงกับเหตุผลของเขา เกี่ยวอะไรกับหู

      “เมื่อกี้หูนายแดงอยู่ก็เลยเดาว่างั้น” ฮ๊าก!! หูเฮงซวยนี่ผมโดนจับพิรุษได้เพราะหูแดงงั้นเหรอ?! ผมนั่งคอตกปลงกับชีวิต

      “แล้วตกลงคนที่นายชอบนั้น ใครกันล่ะ?” นั้นไง เข้าประเด็นเลยเชียวจะบอกไปดีไหมนะว่าเป็นเอ็นโด ไม่ดีกว่าบอกอ้อมๆไปล่ะกัน

      “ก็....เพื่อนนะ...แอบชอบเขามานานแล้ว.....ตั้งแต่เริ่มเล่นฟุตบอล” ผมเปร่ยออกมา นั้นสินะ...ตั้งแต่ตอนนั้นที่เอ็นโดชวนเรา...เราก็แอบชอบเขาตั้งแต่วันนั้น......เรื่อยมาเลยนินา ผมเหม่อมองไปทางเอ็นโดที่กำลังซ้อมรับลูกเตะต่างๆจากคนในทีมอยู่

      “หืม....เข้าใจล่ะ” ผมสะดุ้งตัวเล็กน้อย ระแวงกับคำพูดของเขา เข้าใจอะไรกัน? “อื้อ....ความรักกับเพื่อนนี่มันน่านักใจจังเลยน้า กับต่างเพศหรือเพศเดียวกันก็เถอะ” คิโดกอดอกแล้วพยักหน้า รอยยิ้มน้อยๆที่มุมปากนั้นทำให้ผมรู้สึกเสียวสันหลังวูบ กับต่างเพศ.....หรือเพศเดียวกัน!! ระหรือว่าเขาจะรู้ตัวแล้วว่าเราแอบชอบเอ็นโด!?

      “เอาเถอะฉันจะคอยเอาใจช่วยนะ!”คิโดวางมือบนไหล่ของผม “นี่ก็ใกล้วันวาเลนไทน์แล้วนะ เอาซ็อคโกแล็ตไปให้สิ แล้วก็บอกความในใจให้เขารู้ไปเลย”

      “แต่ฉันเป็นผู้ชายนะ ทำแบบนั้นก็เหมือนเป็นเด็กผู้หญิงนะสิ” ใช่ๆ ส่วนมากที่เห็นก็เป็นพวกเด็กผู้หญิงเท่านั้นที่ทำกัน

      “มันไม่เกี่ยวกับเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงหรอก เพราะการให้มันไม่ได้ขึ้นกับฝ่ายไหนต้องเป็นคนให้ตลอดหรือคนรับตลอดนี่นา มันขึ้นอยู่กับว่านายจะเป็นฝ่ายรอรับหรือจะเป็นฝ่ายให้เขาไปเองต่างหากล่ะ” คิโดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วก็ลุกขึ้นยืน “ถ้าตั้งใจความรู้สึกของนายจะต้องส่งไปถึงคนคนนั้นแน่ๆ พยายามเข้าล่ะ” ผมมองตามแผ่นหลังที่ผูกผ้าคลุมสีน้ำเงินกำลังค่อยๆห่างออกไป

      ผมได้ฟังคำพูดนั้นจึงเกิดแรงบัลดาลใจขึ้นมาที่จะแสดงความรู้สึกของผมออกไปให้เอ็นโดได้รับรู้

      เย็นวันนี้ผมคิดว่าจะแวะไปที่ร้านซ็อคโกแล็ตสักหน่อย ผมจึงรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่ารวดเร็วเก็บกระเป๋าเตรียมออกเดินทาง

      “อ้าว? วันนี้กลับเร็วเหรอคาเซมารุ?” เอ็นโดเดินเข้ามาถามผม ซึ่งผมก็ตอบแบบอ้อมๆไปว่า “อื้อ พอดีมีธุระต้องแวะไปทำน่ะ” เอ็นโดเอียงคอน้อยๆอย่างสงสัยเพราะทุกทีระหว่างทางผมจะไม่ค่อยได้แวะไปทำธุระที่ไหน

      ขอโทษนะเอ็นโด ธุระของฉันมันสำคัญจริงๆฉันจะต้องทำให้นายได้รู้ ว่าฉันชอบนายแค่ไหน

      ผมบอกลาทุกๆคนในทีมแล้วรีบวิ่งไปที่หน้าโรงเรียน ในระหว่างนั้นผ่านชมรมกรีฑาเก่าของผมพอดีและผมก็เจอกับรุ่นน้องคนหนึ่งที่อยู่ชมรมเก่าเดียวกันเข้าเธอจึงแวะเข้ามาทักผมทันก่อนที่ผมจะวิ่งเลยไป

      “คาเซมารุซัง จะไปไหนเหรอค่ะ?” มิยาซะกะนั้นเอง(ปล.ในโดจินเรื่องนี้ผู้แต่งของเขียนให้มิยาซากะเป็นเด็กผู้หญิงนะคะ) ผมผ่อนกำลงเป็นระยะพอประมาณแล้วหยุดตรงที่มิยาซะกะยืนอยู่พอดี “ไง มิยาซะกะ จะกลับบ้านแล้วเหรอ?” ผมถามเธอที่อยู่ในชุดนักเรียนหิ้วกระเป๋านักเรียนเตรียมกลับบ้าน

      “ค่ะ ถ้าไม่รบกวนฉันขอกลับด้วยคนได้ไหมค่ะ?” เธอเอ่ยถามด้วยนัยตาเป็นประกายด้วยความหวังผมจึงไม่อาจปฎิเสทคำขอของเธอได้

      “แต่ฉันกำลังจะไปแวะซื้อของหน่อยนะ เธอจะไปกับฉันก่อนได้หรือปล่าวล่ะ?” ผมลองถามเธอเพื่อว่าเธอจะเปลี่นใจ

      “ได้คะ ฉันไม่ได้มีธุระด่วนอะไรอยู่แล้วคะ” เธอตอบยิ้มๆ สีหน้าเธอดูมีความสุขดีนะ อื้มก็เอาเถอะนานแล้วนะที่ผมไม่ได้คุยกับเธอเดินไปด้วยกันก็คงไม่เป็นไรหรอก

      “อยู่ชมรมเป็นยังไงบ้างล่ะ?” ผมถามเธอในระหว่างที่เดินไปด้วยกัน “ก็เรื่อยๆคะ ฉันวิ่งระยะกลางสี่ร้อยเมตรเร้วขึ้นตั้งสองนาทีแน่ะ!” เธอยิ้มยิงฟันชูสองนิ้วอย่างภาคภูมิใจ

      “หืม....ก็เร็วขึ้นนินาปกติที่เธอทำได้หกนาทีเหลือสี่นาทีแล้วนิ เก่งมากเลยนะ” ผมชมเธอเพราะในสมาชิกในชมรมนั้นมีเธอที่ดูจะวิ่งได้ช้าที่สุด แต่มาเจอครั้งนี้เธอพัฒนาฝีมือได้ไม่เลวเลยทีเดียว

      “แหะๆ......แต่ก็ยังสู้คาเซมารุซังไม่ได้อยู่ดีนั้นแหละคะ” ใบหน้านั้นขึ้นสีน้อยๆด้วยความเขินอาย ดูๆไปเธอก็น่ารักดีนะ พวกเราสองคนก็เดินคุยกันไปเรื่อยๆจนถึงร้านขายซ็อคโกแล็ตที่เป็นเป้าหมายของผม

      “เอ๋? ร้านซ็อคโกแล็ต? คาเซมารุซังมาซื้อซ็อคโกแล็ตเหรอค่ะ?” เธอเอียงคอทำท่าไม่เข้าใจ ผมเองต้องปิดความลับจึงตอบเธอเลี่ยงๆไปว่า “อื้อ มาซื้อไว้กินเองนะ เพราะอย่างนั้นวันวาเลนไทน์คงไม่ได้รับซ็อคโกแล็ตจากใครหรอกอานะ” ผมเกาท้ายทอยแก้ขัดเขิน

      “มะมีสิคะ!!” เธอตะโกนคูดั้นออกมาจนผมชะงักกึก “อย่างคาเซมารุซังนะ ตะต้องมีคนให้ซ็อคโกแล็ตแน่ๆคะ” ผมแปลกใจกับอาการของเธอ ทำไมเธอถึงได้มั่นใจขนาดนั้นนะ

      “งะงั้นเหรอ ขอบใจนะที่ช่วยให้กำลังใจนะ” ผมหัวเราะแห้งๆเป็นคำตอบแทน มิยาซะกะที่รู้ตัวว่าทำอะไรแปลกๆลงไปก็เก็บอาการและดวงหน้าขึ้นสี ผมพาเธอเข้าไปในร้านแล้วเหลือกซื้อซ็อคโกแล็ตหลายๆอันเพื่อให้ดูเหมือนว่าจะซื้อเก็บไว้กินเองแล้วเลือกอันที่คิดว่าน่าจะเหมาะสมที่สุดแล้วคิดเงิน ดูท่าว่ามิยาซากะเองก็จะซื้อเหมือนกันสินะ

      รอหน่อยนะเอ็นโด.....ฉันจะต้อง..

      บอกรักนายให้ได้

       

       

       

      พรุ่งนี้จะถึงวันวาเลนไทน์

      ในย็นวันนี้ผมก็กลับมาซ้อมฟุตบอลได้ตามปกติ รูสึกดีอย่างบอกไม่ถูก อยากให้ถึงวันพรุ่งนี้เร็วๆจัง ผมทำท่ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปตามกระแสความคิด จนเสียงของอากิเรียกพักนั้นเรียกสติผมให้กลับมา

      “เอาล่ะพักได้แล้วจ้า ทกคน!” เธอโบกมือเรียกจากริมสนาม สิ่งที่เธอนำติดมือมาด้วยคือขวดน้ำเย็นๆไว้ดับกระหายกับผ้าเช็ตตัวผืนเล็กๆสีขาวไว้ซับเหงือนั้นเอง

      ผมหยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่มแล้วใช้ผ้าเช็ดตัวซับเหงือตามใบหน้าจึงเริ่มรู้สึกสดชื่นขึ้น “นายดูมีความสุขดีจังเลยนะคาเซมารุ ที่แนะนำไปนั้นนะทำแล้วล่ะสิ” คิโดเดินเข้ามาทักผม “อื้อ” ผมครางตอบเขาไปเรียบๆ

      “จะไม่ให้ดูมีความสุขได้ยังไงเล้า” คราวนี้เป็นเอ็นโดบ้างที่เดินเข้ามาทักผมกับคิโด ผมกับคิโดก็เดาทางไม่ถูกว่าเขาจะมาไม้ไหน “ก็แหมไม่เห็นต้องปิดกันเลยนินาคาเซมารุ”

      ปิด? หรือว่าเขารู้ตัวแล้วเสียงหัวใจของผมมันเริ่มเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ ไม่จริงน่าผมยังไม่เคยเสียท่าให้เขาจับพิรุษได้เลยนะ ประโยคที่เขาพูดนั้นมันหมายความว่ายังไงกัน

      “ก็นายนะ.....” ผมแทบจะหยุดหายใจเมื่อเขาหยุดประโยคพูดไว้

      “มีแฟนแล้วก็ไม่บอกกันเลยนินา”

      ผมอึ้งกับประโยคนี้ของเขามาก แฟน? ผมยังไม่มีแฟนสักหน่อยนะ เขาไปเอาความคิดนี้มาจากไหนกัน?!

      “มะไม่ใช่นะเอ็นโด ฉันยังไม่...”ผมพยายามจะพูดแก้ให้เขาเข้าใจแต่ดูท่าว่าเขาจะไม่ฟังในสิ่งที่ผมพูดเลย

      “ไม่ต้องมาปิดกันหรอกน่า ฉันเห็นเมื่อวานแล้วล่ะ นายไปอยู่กับเด็กผู้หญิงที่ชมรมกรีฑานั้นไง” มิยาซากะ?! ชื่อนั้นแวบเข้ามาในหัวผมทันที ไม่ใช่นะ...เธอเป็นแค่รุ่นน้องที่ฉันรู้จักแค่นั้นเองนะ

      “อะเอ็นโด....” ผมพยายามอีกครั้งที่จะพูดอธิบายให้เขาฟัง “ที่จริงมันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ....”

      “ก็เดินคุยกันซะหวานขนาดนั้นไม่ใช่แฟนกันแล้วจะให้คิดเป็นอะไรได้ล่ะ” เขายังคงพูดยืนยันว่าความคิดของเขานั้นถูกต้อง ไม่ใช่นะ....คนที่ฉันชอบ คือนายนะเอ็นโด ฟังกันก่อนสิ

      “เอ็นโด ฟังคาเซมารุเขาพูดก่อนสิ นายอย่าพึงด่วนสรุปเลยน่า” คิโดเองก็ช่วยผมพูดด้วยอีกคน

      “นายไม่เห็นอย่างที่ฉันเห็นนี่นาคิโด คาเซมารุดีใจด้วยนะที่มีแฟนแล้วน่ะ วันวาเลนไทน์นี่อย่าลืมซื้อซ็อคโกแล็ตให้เธอไปล่ะ พวกนายสองคนนะดูเหมาะกันมากเลยน้า” ผมกำขวดน้ำในมือแน่น เกินไปแล้วนะ....เอ็นโด

      ซ่า!! เสียงน้ำจากขวดน้ำในมือปะทะเข้ากับใบหน้าของเอ็นโดจนเปียกชุ่ม เขาเองยังทำหน้าตื่นตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแพ้คนอื่นๆที่เห็นเหตุการณ์เลย

      “คาเซรามารุ?” เอ็นโดเรียกชื่อผมเป็นเชิงขอคำอธิบาย ซึ่งในตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะอธิบายอะไรทั้งนั้น สภาพของผมในตอนนี้คือสีหน้าที่แดงจัดด้วยความโกรธและอายจนผมแทบจะร้องไห้ออกมา

      “ฉันจะกลับแล้ว” ผมม้วนตัวกลับหันหลังให้เอ็นโดแล้วเตรียมจะจากไปแต่ถูกเสียงของเขารั้งไว้ “เดี๋ยวสิคาเซมารุ!

      “นายจะคิดยังไงมันก็เรื่องของนาย แต่ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยว่าฉันยังไม่มีแฟน นายฟังฉันบ้างหรือปล่าวเอ็นโด!” ผมกลับไปตะคอกใส่เขาอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนจนเอ็นโดผงะถอยหลังไป ผมไม่ได้ตั้งใจจะตะคอกใสเขาหรอก แต่เขาไม่ฟังเหตุผลของผมเลยเนี้ยสิ ทั้งที่เมื่อก่อนจะเชื่อใจกันตลอดแท้ๆ “ทั้งที่คนเขาอุส่า.....ซื้อซ็อคโกแล็ตให้แท้ๆ” ผมก้มหน้าพูดกับเขาในประโยคที่เบาลงเรื่อยๆจนสัมผัสได้แค่ว่าพูดเท่านั้น แต่กลับส่งไปไม่ถึงใครเลย....

      ผมตัดสินใจหันหลังแล้ววิ่งหนีเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผม....ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย!!

       

       

       

      วันวาเลนไทน์

      เมื่อคืนผมร้องไห้หนักมากจนตาของผมบวมแดงมาก  แต่ผมใช้น้ำแข็งประคบมันทำให้หยุบลงไปได้เหมือนปกติแล้ว ผมถอนหายใจที่ว่าไม่น่าไปทำแบบเมื่อวานกับเอ็นโดเลย ทั้งที่วันนี้จะมอบซ็อคโกแล็ตให้แล้วสาราภาพความรู้สึกแท้ๆ

      ผู้ชายกับผู้ชายมันน่ารังเกียจไม่ใช่หรือไง

      แถมยังกับเพื่อนที่ไว้ใจเรามากที่สุดอีกด้วย

      คิดมาถึงตรงนี้น้ำตาผมมันจะเริ่มไหลอีกแล้วสิ ไม่เอาน่ามาถึงขั้นนี้แล้ว เย่าทำตัวอ่อนแอเป็นเด็กผู้หญิงหน่อยเลยน่า ผมใช้มือเช็ดน้ำตาแล้วเดินตรงไปข้างหน้าเพื่อเผชิญกับความเป็นจริง

      เมื่อมาถึงโรงเรียนแล้วผมรับรู้ได้โดยคราวๆว่าบรรยากาศในตอนนี้อบอวนไปด้วยความรักของคู่รักหลายๆคู่ เห็นแล้วก็อิจฉาจัง เป็นรักที่ดูแสนธรรมดา....

      “อรุนสวัสดิ์ คาเซมารุ” เดินเขาห้องมาคิโดเป็นคนแรกที่ทักผม ผมก็ทักเขาตอบ “ฉันอธิบายให้เอ็นโดฟังแล้วนะ หมอนั้นยอมเชื่อแล้วล่ะว่านายยังไม่มีแฟน คราวหน้าคราวหลังหลังก็ระวังด้วยล่ะ ของแบบนี้มันเข้าใจผิดกันง่ายนะ บอกรักให้สำเร็จล่ะ” คำพูดของเขาทำให้ผมตกใจ

      “นายรู้...?” คิโดไม่ตอบเพียงแค่ยิ้มและพยักหน้าเท่านั้นแล้วเดินจากไป เขารู้ตั้งแต่เมื่อไรกัน ผมนึกเจ็บใจที่เขารู้แล้วไม่ยอมบอกว่ารู้นี่แหละ ผมเดินไปนั่งที่โต๊ะเตรียมหนังสือเรียนวิชาแรก

      “เรื่องเมื่อวานขอโทษด้วยนะคาเซมารุ!!” เสียงประสานมือไหว้ดังแปะตามมาด้วยเสียงของเอ็นโดเรียกความสนใจของผมให้เงยหน้าขึ้นมา พบกับเอ็นโดที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะผมแล้วทำท่าไหว็ขอโทษขอโพยผมเสียยกใหญ่ เขามายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหรเนี้ย? “ยกโทษให้ฉันด้วยนะคาเซมารุ เรื่องเมื่อวานฉันผิดเองแหละที่ไม่ฟังเหตุผลของนาย เลยทำให้นายโกรธขอโทษด้วยจริงๆนะ!!

      “อื้อ ไม่เป็นไรหรอก ฉันเองก็ผิดที่ไปสาดน้ำใสหน้านายเรื่องนั้นก็ต้องขอโทษด้วยนะ” ผมยิ้มให้เขาเป็นเชิงรับคำของโทษ สีหน้าของเอ็นโดจึงดูสดชื่นขึ้นมาทันที

      “ขอบใจมากนะคาเซมารุ นายนี่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลยนะเนี้ย!” ผมหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อถึงตรงนี้ แต่ฉันอยากเป็นมากกว่าเพื่อน....สำหรับนายนะเอ็นโด “อ๊ะ! เสียงออดดังแล้ว ฉันไปก่อนนะเที่ยงนี้มากินข้าวด้วยกันล่ะ”

      เอ็นโดเดินกลับไปนั่งที่ของตัวเอง ตอนเย็นนี้แหละเหมาะที่สุดที่จะบอกความรู้สึกกับเขา.....เที่ยงนี้ต้องชวนเขาให้ได้!!

      ผมเฝ้ารอเวลาอย่างในจดใจจอ และแล้วในที่สุดก็มาถึงพักเที่ยงผมทำตัวให้เป็นปกติที่สุดแม้ว่าหัวใจของผมตอนนี้มันจะเต้นรั่วแค่ไหนก็ตาม มื้อเที่ยงก็ยังเป็นเหมือนเดิมทุกอย่างพวกนักเตะอินาซึมะที่อู่ห้องเดียวกันก็มานั่งกินข้าวด้วยกันทำให้ผมมีโอกาสยากหน่อยที่จะคุยกับเอ็นโด

      ผมลอบถอนหายใจโดยไม่ให้เอ็นโดที่นั่งอยู่ข้างๆรู้ตัวแล้วยกแก้วน้ำตาอุ่นๆขึ้นมาดื่มแก้กระหายหลังจากกินข้าวเสร็จ เป็นแบบนี้แล้วจะชวนเขายังไงล่ะเนี้ย

      “อ๋า! ฉันลืมเอาชามาด้วยอ่ะ คาเซมารุขอกินด้วยคนสิ” เอ็นโดทำท่าทีกระสับกระส่ายเพราะควานหากระติดน้ำจากในกระเป๋าของตัวเองไม่เจอ แล้วเขาก็หันมาผมเพื่อขอกินน้ำด้วย หา.....แต่นี่มันแก้วเดียวกันนะ

      “แต่นี่ฉันดื่มไปแล้วนะ?” ผมถามเขาเพื่อว่าเขาจะเปลี่ยนใจ

      “ไม่เป็นไรหรอกน่า” เด็นโดหยิบแก้วจากในมือผม แล้วเติมน้ำเล็กน้อยผสมจากที่ผมยังดื่มไม่หมดแล้วยกดื่มรวดเดียวหมดแก้ว “ฮ้า! ค่อยโล่งหน่อย ขอบใจมากนะคาเซมารุ”

      ผมรับแก้วจากมือเขามา เขาดื่มในส่วนของเราไปด้วย ใบหน้าของผมมันเริ่มร้อนขึ้นมานิดๆ เขาไม่รังเกียจเราเลยงั้นเหรอ?ทั้งที่เป็นส่วนที่ยังดื่มไม่หมดแท้ๆ ในช่วงแวบหนึ่งที่ผมคิดว่าแท้จริงแล้วเอ็นโดอาจจะมีใจให้ผมบ้าก็ได้....

      “อิ่มจังเลยน้า” เขาลุกขึ้นจากโต๊ะเตรียมเก็บของกลับโต๊ะของตัวเอง ผมนึกขึ้นได้ว่าผมต้องช่วนเขาให้มาคุยกันในเย็นนี้ ผมจึงใช้มือคว้าแขนเสื้อของเขาไว้

      เอ็นโดชะงักกึกแล้วหันกลับมามองผม บ้าจริงนี่ผมจะมาหลบหน้าเขาทำไม “คาเซมารุ?” เขาเรียกชื่อผมแล้ว พยายามเขาคาเซมารุ!

      “อะเอ็นโด...” ผมค่อยๆรวบรวมความกล้าเงยหน้าขึ้นมาพูดกับเขา “ยะเย็นนี้ว่างไหม? ฉะฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับนายน่ะ”

      เขากระพริบตาสองสามทีเป็นเชิงสนใจและคำตอบที่ผมได้มานั้นก็คือ “อื้ม! ได้สิ”

      และแล้วเวลาแห่งการรอคอยก็มาถึงตอนเย็นเป็นเวลาสี่โมงกว่าๆผมนั่งรอเขาตรงสถานที่นัดพบเขามานั่งคุยกันที่ม้านั่งข้างตึกที่พวกผมเรียนอยู่ ที่นี่ปลอดจากสายตาคนดีผมจึงเลือกที่นี่

      “มีอะไรถึงเรียกมาคุยกันงั้นเหรอ?” เอ็นโดวิ่งเหยาะๆเข้ามา แล้วนั่งลงข้างๆผม

      “คือ....ขอถามอะไรนายหน่อยนะเอ็นโด” เสียงครางของเขาตอบกลับมาว่ากำลังฟังอยู่ ผมจึงเริ่มพูด “นายคิดยังไงถ้าเกิด ฉันจะบอกว่าฉันไปหลงชอบเพื่อน....ที่สนิทกันมานาน แต่คนคนนั้นยังไม่รู้ว่าฉันแอบชอบเขา ในวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ คิดว่าจะเอาช็อคโกแล็ตไปให้เขา....แล้วสารภาพความในใจ.....นายคิดว่า คนคนนั้นจะตอบรับความรู้สึกของฉันหรือปล่าว?

      เขายังไม่ตอบอะไรผมในทันที เอ็นโดเงียบอยู่สักพักใหญ่ ขอร้องล่ะเอ็นโดอย่าทรมารฉันด้วยคำตอบของนายเลยนะ

      “แหมๆก็ไม่เห็นยากเลยนินา ลงมือทำซะก็สิ้นเรื่องความรักของนายมันต้องสมหวังอยูแล้วล่ะ เรื่องจริงใช่ไหมล่ะกับเด็กผู้หญิงคนเมื่อวานน่ะ” ผมชะงักกึกเป็นอีกครั้งที่เอ็นโดคิดเออเอง เมื่อไหรนายจะเข้าใจนะเอ็นโด... ผมก้มหน้ากัดฟันแน่น มาถึงตรงนี้เขายังไม่รู้ตัวอีกงั้นเหรอ...

      “พยายามเข้าน่าคาเซมารุ   ถ้านายให้ช็อคโกแล็ตไปแล้วคนที่นายชอบคงจะตอบรับนายเองนั้นแหละ” เอ็นโดยิ้มให้ผมเป็นกำลังใจ ผมกำช็อคโกแล็ตที่ซ่อนไว้ในกระเป๋าแน่นมากขึ้น นี่เป็นโอกาสแล้วนะรีบให้สิ! “อ๊ะ! ฉันคงต้องกลับแล้วล่ะ ไปล่ะนะคาเซมารุ”

      เอ็นโดทำท่าจะลุก ผมใช้จังหวะนี้ผมตัดสินใจด้วยอารมณ์ชั่ววูบแกะห่อซ็อคโกแลตแล้วกัดมันเข้าไปในปาก

      “เอ็นโด....” ผมเรียกชื่อเข้าไปการดึงความสนใจ  ซึ่งเขาเองก็หันมาและผมก็ใช้สองมือของผมประคองใบหน้าของเอ็นโดไว้แล้วจูบเขาทันที ผมใช้วิธีเผยอปากเขาให้อาออกเล็กน้อยแล้วใช้ลิ้นดันซ็อคโกแล็ตเข้าไปในปากของเขา

      ผมเห็นใบหน้าของเขาที่ดูตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออกเมื่อผมถอนจูบออก “ให้แล้วนี่ไงล่ะ....” ผมดึงมือออกจากใบหน้าของเขาช้าๆ

      “....แล้ว.....คนที่ฉันชอบจะตอบรับฉันหรือปล่าวล่ะ?” แววตาของเอ็นโดฉายแววตกใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อได้ยินคำพูดของผม  ผมตัดสินใจที่จะทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วเดินถอนตัวออกมา ทิ้งให้เอ็นโดยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นพร้อมวางห่อซ็อคโกแล็ตนั้นไว้บนม้านั่งนั้นด้วย

      หัวใจมัน...รู้สึกเจ็บแปล๊บไปหมด

      ผมสาวเท้าอย่างรวดเร็วชนิดที่เรียกว่าวิ่งได้เลยทีเดียว  หลังจากพ้นเขตโรงเรียนไปไกลพอสมควรแล้วผมจึงผ่อนกำลังลง  แล้วทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นไปเมื่อครู่นี้

      อา.......ทำลงไปแล้ว

      ผมยืนหยุดนิ่งพร้อมยกมือที่สั่นทิ่มทั้งสองข้างนั้นขึ้นมา

      แค่ให้.....ให้ธรรมดาคงไม่เป็นอะไรหรอกน่า.....แต่นี่มัน....

      ทางปาก! ทำไปได้ยังไงกัน.....!!

      ผมรู้สึกว่าใบหน้าของผมนั้นมันร้อนฉ่าไปหมด  ร้อนขึ้นมาจนถึงดวงตาของเหลวสีใสกำลังค่อยๆเพิ่มปริมาณขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ผมก้มหน้าลงแล้วเอามือสองข้างนั้นปิดบังใบหน้าของตัวเองไว้ ของเหลวสีใสเพิ่มปริมาณขึ้นจนกักเก็บไม่ไหว ไหลลงอาบใบหน้าแม้ว่าจะใช้มือปิดแล้วก็ตามของเหลวนั้นยังไหลรินแทรกฝ่านช่องว่างหยดลงสู่พื้นดิน

      เอ็นโด.....

      ....นายจะ.....เกลียดฉัน.....หรือปล่าวนะ?

      ................................................................................

      เอาล่ะเฮ้ย! คราวหน้าจะเป็นในมุมมองของเอ็นโดที่มีต่อคาเซมารุบ้างล่ะน้า

      ช่วยติดตามด้วยน้า อาจจะช้าหน่อยเพราะช่วงไอเดียไม่ค่อยพุ่งแล้วนี้ก็ใกล้สอบแล้วเวลาพักแทบจะไม่มี(แง้)

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×