โดจิน y Inazuma eleven : เอ็นโด x อะโฟรดี้ - โดจิน y Inazuma eleven : เอ็นโด x อะโฟรดี้ นิยาย โดจิน y Inazuma eleven : เอ็นโด x อะโฟรดี้ : Dek-D.com - Writer

    โดจิน y Inazuma eleven : เอ็นโด x อะโฟรดี้

    โดย torus

    จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อจบศึกฟุตบอลฟรอนเทีย อะโฟรดี้ก็หมดประโยชน์สำหรับคาเบยาม่าแล้ว เขาเดินไปเรื่อยๆไปพบกับเอ็นโดในเย็นวันที่ฝนตกหนัก.....

    ผู้เข้าชมรวม

    6,014

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    24

    ผู้เข้าชมรวม


    6.01K

    ความคิดเห็น


    18

    คนติดตาม


    31
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 ส.ค. 54 / 22:52 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ฟิกนี้เป็นฟิกที่เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ ถ้าผลออกมาไม่ดีเท่าที่ควรก็ต้องขอภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ^^
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ดำเนินเรื่องโดย : อะโฟรดี้
      เย็นวันนี้หลังจากจบศึกฟุตบอลฟรอนเทียฝนตกหนักมาก เหมือนสวรรค์ตอกย้ำความผ่ายแพ้ของผม คนใจร้ายคาเบยาม่าคนนั้นถูกจับไปแล้วก็จริง แต่มันก็ไม่ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นเท่าไรนัก ระหว่างที่เดินไปตามถนนอย่างไร้จุดหมายใบหน้าของเด็กชายผมสีน้ำตาลใสผ้าคาดหัวสีส้มก็ผุดขึ้นมาบนหัว เอ็นโด มาโมรุ.....อยากเจอนายอีกสักครั้งจัง......
      ในขณะที่ผมเดินากฝนทนความหนาวไปเรื่อยๆ เสียงฝีเท้าของใครบางคนตรงเข้ามาด้วยความอยากรู้นิดๆเขาเองก็น่าจะคิดแบบเดียวกับผม(คนที่วิ่งมานะ) จึงหยุดฝีเท้าแล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากับนัยตาสีน้ำตาลกลมโตที่คุ้นเคย
      "อะโฟรดี้?" เอ็นโดมาโมรุนั้นเอง อย่างน้อยสวรรค์ก็ไม่ได้ใจร้ายจนเกินไปล่ะนะ....

      "เอ้านี่ผ้าเช็ดตัวจ๊ะ" ผมรับผ้าเช็ดตัวมาจากคุณแม่ของเอ็นโด ธอดูใจดีมากเลย อ้อลืมบอกไป หลังจากที่ผมเจอกับเอ็นโดเขาก็พาผมมาพักที่บ้านของเขา ซึ้งดูๆแล้วก็เป็นบ้านที่ดูอบอุ่นดีไม่เลวเลยทีเดียว
      "เอาล่ะ แม่เตรียมน้ำไว้ให้แล้วนะ เข้าไปอาบได้เลน ส่วนเสื้อผ้าก็ถอดใส่ไว้ในตระกร้าเดี๋ยวแม่จะเอาไปซักให้เองนะ เด๊ยวสิเอ็นโด!!" คุณแม่ของเอ็นโดจับคอเสื้อของเขาไว้ไม่ให้เข้าห้องน้ำไปพร้อมกับผม ทำไมนะ?
      "นี่ให้เด็กผู้หญิงเขาอาบก่อนสิ ตัวเองเป็นเด็กผู้ชายนะจะไปอาบพร้อมกันได้ยังไง ห๊ะ!?" เธอคิดว่าผมเป็นเด็กผู้หญิงงั้นเหรอ? ผมมองดูเธอที่กำลังดุเอ็นโดอยู่
      "โธ่! แม่อะโฟรดี้เป็นผู้ชายนะ!" เอ็นโดเถียงกลับพร้อมพยายามดึงมือคุณแม่ของเขาให้หลุดจากคอเสื้อ
      สีหน้าของคุณแม่ของเด็นโดบ่งบอกถึงความประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด นี่ผมดูเหมือนเด็กผู้หญิงขนาดนั้นเลยเหรอ ผมยิ้มให้เธอแล้วอธิบายให้เธอเชื่อว่าผมเป็นเด็กผู้ชายจริงๆ อยู่พักหนึ่งเธอถึงจะยอมเชื่อ เพราะทั้งสองฝ่ายยืนยันตรงกัน
      "ให้ตายสิ แม่ดูคนไม่เป็นเลยรึไง" เอ็นโดบ่นขณะเดินเข้าห้องน้ำไป ผมจึงถอดชุดที่เปียกโชกนั้นใส่ตระกร้าแล้วตามเอ็นโดเข้าไป เป็นครั้งแรกที่ผมได้อาบน้ำร่วมกับเอ็นโดสินะ
      พวกเราลงไปแช่ในอ่างอาบน้ำสำหรับผู้ใหญ่ มันจึงมีที่มากพอสำหรับเด็กอย่างพวกเรา ผมนั้นมองเอ็นโอที่นั่งก่ายตัวอยู่ที่ขอบอ่าง ผิวสีน้ำตาลอ่อนดูสมกับเป็นเอ็กผู้ชาย ผมสีน้ำตาลกระจุกหู(หมายถึงไอ้ส่วนที่ยื่นออกมาทั้งสองข้าง) ดูน่ารักดีนะ
      "นี่อะโฟรดี้?" ผมกระพริบาเรียกสติของตัวเองให้กลับมา ก็พบกับใบหน้าของเอ็นโดที่ใกล้เข้ามาในระยะฝ่ามือ ผมแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็ครางอื้มตอบรับไปว่าผมกำลังฟังอยู่ "ทำไมนายถึงไว้ผมยาวล่ะ? หน้านายก็เหมือนผู้หญิงอยู่แล้วนะ ผิวก็ขาว แถมยังไว้ผมยาวอีกก็ยิ่งดูเหมือนเด็กผู้หญิงเข้าไปใหญ่เลยล่ะ" เด็นโดยื่นมือมาสัมผัสเส้นผของผมเบาๆ
      "เป็นความชอบส่วนัวน่ะ" ผมเห็นใบหน้าไร้เดียงสาแบบนั้นก็อดที่จะแกล้งไม้ได้ "ชอบงั้นเหรอ?" ผมขยับตัวเข้าไปใกล้เอ็นโดโดยที่เจ้าตัวเริ่มจะถอยหนี น่ารักดีจริงๆด้วย ผมยิ้มยิงฟันใส่เอ็นโดแล้วใช้มือขยี้ปมสีน้ำตาลจนยุ่งไม่เป็นทรง เสียงหัวเราะดังติดต่อกัยอยู่ในห้องน้ำไปสักพักใหญ่ จนผมสองคนเริ่มจะหมดแรง
      "ฮ่ะๆ พอกันแค่นี้ก่อนดีกว่า เดี๋ยวตัวก็เปื่อยกันพอดี" เอ็นโดลุกขึ้นจากอ่างน้ำผมก็ตามขึ้นไป แต่ในจังหวะนั้นเองผมไม่สังเกตุเห็นสบู่ที่วางอยู่ที่พื้น มันจึงทำให้การทรงตัวของผมเสียหลักและล้มกระแทกพื้น ในตอนนั้นเองเอ็นโดก็หันกลับเข้ามาช่วยรับผมแต่เขาก็เสียหลักเหมือนกัน เราทั้งสองคนก็เลยล้มขมำไปด้วยกันทั้งคู่
      โครม!!
      "อูย....โทษทีนะ กะจะรับแต่ก็รับไม่ทัน" เขายิ้มแป้นเป็นเชิงแกตัว ส่วนผมในตอนนี้หน้าแดงแปร๊ดเพราะสภาพที่เป็นอยู่ในตอนนี้คือสภาพที่ผมนอนอยู่ข้างล่างโดยมีเอ็นโดคร่อมอยู่ข้างบน "อ๊ะ!!โทษทีๆ" เมื่อเขารู้ตัวว่าอยู๋ในสภาพหน้าอาย ก็รีบลุกขึ้นทันที
      "มะไม่เป็นไร....." อะไรกัน อาการที่หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะนี่ ผมน่งคิดอยู่ที่พื้นห้องน้ำอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่คุณแม่ของเอ็นโดจะเข้ามาดู
      "เกิดอะไรขึ้นนะ เสียงดังโครมครามเชียว?"
      "พอดีผมลื่นล้มนิดหน่อยนะครับ เอ็นโดก็พยายามจะเข้ามารับ แต่ก็ล้มกันทั้งคู่ครับ" ผมตอบเธอไปพร้อมลุกขึ้นหยิบผ้าเช็ดตัวจากคุณแม่ของเอ็นโดแล้วส่งให้เอ็นโดผืนหนึ่ง
      "ตายจริง แล้วเจ็บตรงไหนบ้างหรือปล่าว?"
      "ปล่าวครับ"
      "เฮ้อ ดีแล้วล่ะที่ไม่เป็นไร แม่เตรียมเสื้อผ้าไว้ให้แล้วนะคิดว่าจะใส่ได้ กินอะไรมากันแล้วหรือยัง ถ้ายังแม่เตรียมไว้ให้ที่โต๊ะแล้วนะ ดูแลเพื่อนด้วยนะแม่ชักจะเริ่มง่วงแล้วล่ะ ราตรีสวัสจ๊ะทั้งสองคน" เธอโบกมือบ่ายบ๊ายแล้วก็จากไป
      "ปกติคุณแม่ของนายนอนแต่หัวคำทุกวันเลยเหรอ?" ผนหันไปถามเอ็นโอขณะที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยชุดนอนสีเขียว
      "ก็ไม่ถึงกับทุกวันหรอก ที่นอนแต่หัวคำแบบนี้คงจะพอกหน้าอีกตามเคยนั้นแหละ" ผมมองดูเอ็นโดที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าในชุดนอนสีฟ้า "ไปกินข้าวกันเถอะ หิวแล้วล่ะ" ผมเดินตามเอ็นโดไปที่โต๊ะกินข้าว กับข้างมื้อนี้เป็นฮานามารุแฮมเบอร์
      "ว้าว! น่ากินชะมัด กินล่ะคร้าบ" เอ็นโดลงมือกับส่วนของตนเองอย่างเอร็ดอร่อย ซึ่งผมก็มองภาพตรงหน้าไปกินส่วนของตัวเองไปจนอิ่ม แล้วเราสองคนก็ช่วยกันเก็บโต๊ะล้างจานจนเสร็จ
      "ให้ฉันนอนข้างล่างก็ได้นะ" ผมพูดเพราะเกรงใจ
      "ไม่ได้หรอกมีหวังแม่ฉันตื่นขึ้นมาเห็นโดนเอ็ดแน่ ไปนอนห้องฉันก็ได้ เตียงหนึ่งน่าจะนอนได้พอสองคน" ไม่พูดมากผมก็ถูกเอ็นโดลากขึ้นไปบนห้องของเขา
      ซึ่งภายในห้องของเขาก็ดูเหมือนห้องนอนของเด็กผู้ชายธรรมดาๆ ขนาดของเตียงก็ดูใหญ่พอสำหรับสองคน ผมเหลือบไปเห็นรูปปู่ของเอ็นโดเข้า ดูๆไปแล้วเหมือนกันอย่างกับแกะเลยทีเดียว
      "นายเริ่มเล่นฟุตบอลเพราะปู่นายงั้นเหรอ?"
      "อื้ม ความใฝ่ฝันของฉันก็คือการเป็นนักฟุตบอลที่เก่งเหมือนคุณปู่ล่ะ!" ผมจ้องดูใบหน้าที่มุ่งมั่นนั้นแม้จะเป็นมุมมองจากด้านข้างก็เถอะ.....ผมคิดว่าตัวเองนั้นหลงใหลในความมุ่งมั่นที่มีต่อฟุตบอลนั้นเรียบร้อยแล้ว
      ผมขยับตัวเข้าไปใกล้เอ็นโดอย่างเงียบเชียบแล้วใช้ประโยชน์จากขนาดร่างกายที่โตกว่าเล็กน้อยกดทับร่างของเขาลงโดยไม่ให้ทันตั้งตัว
      "อะโฟรดี้?" ผมก้มลงจูบเขาเบาๆและก็เป็นไปตามที่คิดว่าใครจะยอมให้ถูกรุกรานได้ง่ายๆ ผมจับเอ็นโดล็อกแขนแล้วมัดไว้เหนือหัวด้วยผ้าโผกหัวอีกผืนหนึ่งที่วางอยู่ใกล้ๆ
      "จะทำอะไรนะ?" เขาถามผมด้วยแววตาที่ตื่นตระหนก ผมทำให้เขากลัวเหรอ? ผมไม่ได้ตอบคำถามของเขา เพียงแค่ใช้มือสัมผัสที่ใบหน้าของเขาแล้วก้มลงจูบเขาอีกครั้งเป็นรสจูบที่หวานหอม ผมไล่จูบไปตามแห้มลงไปที่ซอกคอและอก คงจะสงสัยกันสินะว่าทำไมผมจึงดูเชี่ยวชาญนัก ก็เพราะผมเคยมีประสบการณ์นะสิ....เป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายมาก แต่ก็ใช่ว่าผมจะระบายใส่เอ็นโดหรอกนะ ผมคิดว่าเขาต่างจากคนใจร้ายคนนั้น เขาดูใจดี น่ารัก และเป็นลูกผู้ชายดีมากเลยล่ะ
      กระดุมเสื้อเม็ดสุดท้ายถูกแกะออกพร้อมกับริมฝีปากของผมที่หยุดอยู่ที่สะดือของเขาพอดี จุดแข็งของเขามีอยู่เยอะจริงๆ "กลัวหรือปล่าว?" ผมลองเอ่ยถามเขา
      "อื้อ~ นิดหน่อยละมั้ง ฉันไม่เคยโดนอะไรแบบนี้นิ" ผมกะไว้แล้วเชียว นี่คงเป็นครั้งแรกของเขา "แถมนายยังมัดฉันไว้อีก ฉันกำลังคิดว่าตัวเองจะถูกฆ่ายังไงยังงั้น" ผมเบิกตาแปลกใจเล็กน้อย เขาคิดว่าผมจะฆ่าเขาเหรอเนี้ย ไร้เดียงสาจริงๆ
      "แต่ก็รู้สึกดีใช่ไหมล่ะ ฉันก็แค่มัดนายไว้ไม่ให้ขัดขืนเท่านั้นแหละ" เอ็นโดขมวดคิ้วผิดหวังเพราะคิดว่าพูดแบบนั้นแล้วผมจะแก้มัดให้ ยังหรอก มันยังไม่ถึงเวลา
      ผมเลื่อนตัวต่ำลงไปที่กางเกงของเขาแล้วค่อยๆถอดมันออกมา เอ็นโดกระตุกเฮือกด้วยความตกใจ เพราะสิ่งที่ไวต่อการสัมผัสนั้นกำลังถูกกระตุ้น "อึก...อื้อ" เขาร้องครางออกมา แน่นอนว่าผมพอใจกับอาการของเขาได้หยอกเย้ากับจุดนั้นไปเรื่อยๆอย่างนึกสนุก จึงลองทำเหมือนที่เคยถูกทำมาอย่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า และในที่สุดผลที่ปรากฎออกมาคือเสียงครางยาวของเอ็นโดและน้ำสีขาวขุ่นที่ถูกปล่อยออกมา(ดีนะที่ผมหลบหน้าออกมาทัน ทำให้มันเปื้นรดมือผมเท่านั้น)
      "อื้อ~ เจ้าบ้าทำอะไรนะ ขนาดแม่ฉันยังไม่เคยเห็นเลย...." เอ็นโดหน้าแดงก่ำเป็นลูกตำลึงไปแล้ว เขาเบนหน้าไปทางอื่นเมื่อรู้ว่าผมกำลังจ้องหน้าเขาอยู่ น่ารักมากจริงๆ ผมยิ้มอย่างพอใจ แล้วก็เริ่มจะขยับร่างกายของผมบ้าง
      เอ็นโดมีสีหน้าผวาเล็กน้อยเมื่อเห็นผมขึ้นคร่อมบนตัวเขา ในสภาพที่ถอดกางเกงออกเพื่อสดวกในขั้นตอนต่อไป "คิดจะทำอะไรนะ?"
      "นายถามฉันมาเป็นรอบที่สามแล้วนะ ไม่ต้องหวงฉันไม่ทำให้นายเจ็บหรอก นอกเสียจากว่านายจะทำให้ฉันเจ็บเสียมากกว่า" ดูเหมือนเขาจะไม่เข้าใจในคำพูดของผม ผมเลยไม่รอช้า นั้งลงบีบรัดจุดที่ไวต่อสัมผัสของเขาทันที ทั้งเขาและผมก็มีอาการกระตุกเล็กน้อยด้วยกันทั้งคู่ รู้สึกดี....เพราะขนาดของเขาไม่ทำให้ผมเจ็บ
      ผมรออยู่สักพักเพื่อให้เขาได้ปรับตัวกับสัมผัสใหม่ที่ได้รับ ก่อนจะโยกตัวช้าๆแล้วค่อยๆเร่งจั้งหวะขึ้น อย่างผมพอจะทนไม่ให้หลุดเสียงครางออกมาได้ แต่สำหรับมือใหม่อย่างเอ็นโดก็หลุดครางออกมาอย่างเย้ายวน
      "หยุดนะ อะโฟรดี้....ฉันไม่เคย...." เขาพยายามข่มเสียงครางแล้วพูดออกมาอย่างติดๆขัดๆ
      "สักพักไปเดี๋ยวนายก็จะชินเองนั้นแหละ" ผมชมเชยกับความพยายามของเขาที่จะห้ามผมด้วยการข่มเสียงครางไว้แบบนั้น ผมจึงเร่งความเร็วขึ้นอีกเพื่อให้เขาชินกับครั้งแรกให้เร็วขึ้น เป็นไปตามที่คาด ของเหลวอุ่นๆดูกปล่อยเข้ามาในตัวผม ผมจึงหยุดนิ่งเพื่อให้ทั้งเอ็นโดและตัวผมซึมซับความรู้สึกนี้ร่วมกัน.....

      ผมก้มลงมองใบหน้าของเอ็นโ เขาหลับไปแล้ว.....คงจะเพลียสินะ ก็นี่เป็นครั้งแรกนิแถมยังหลั่งตั้งสองครั้งเชียว ผมก้มลงจูบเขาอีกครั้งแล้วก็จัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองและของเอ็นโด แก้มัดให้กับเขาแล้วพยุงขึ้นไปนอนบนเตียง แย่จริงผมก็เริ่มเพลียแล้วสิ
      ผมสอดส่องสายตามองหาสวิกซ์ไฟที่อยู่ริมประตู ลุกขึ้นไปปิดแล้วก้มตัวลงนอนข้างเอ็นโด แล้วพูดประโยคหนึ่งที่ไม่รู้ว่าคนที่หลับอยู่จะได้ยินไหม
      "ฉันคิดว่าฉันชอบนายแล้วล่ะ.......เอ็นโด...." แล้วผมก็ถูกความง่วงฉุดรั้งให้เข้าสู่ห้วงนิจทรา

      ดำเนินเรื่องโดย : เอ็นโด
      เช้าวันนี้ผมตื่นขึ้นมาในสภาพที่ปวดเมื่อยไปทั้งตัว บนเตียงนอนที่ว่างปล่าว(มีผมนอนอยู่คนเดียว) อะไร? เมื่อคืนเป็นความฝันงั้นเหรอ? พอนึกถึงเรื่องของผมกับอะโฟรดี้เมื่อคืนผมก็รู้สึกได้ว่าใบหน้าของผมมันร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
      ผมจึงตัดสินใจสะบัดหน้าแรงๆ เพื่อลบมโนภาพในหัว แล้วลุกขึ้นจากเตียงอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เดินลงไปข้างล่าง
      เมื่อผมเปิดประตูเข้าไปในห้องครัวก็พบกับแม่ที่กำลังทำกับข้าวอยู่ พร้อมกับ....ลูกมือ....ในชุดแนวกรีกที่คุ้นตาทับด้วยผ้ากันเปื้อนสีชม....พู
      "อ้าว? ตื่นแล้วเหรอเอ็นโดคุง~" ผมขนลุกเล็กน้อยกับไอ้ท่าทีของอะโฟรดี้ ไอ้คำว่า'คุง' นั้นมาจากไหนกัน แถมยังผ้ากันเปื้อนสีชมพูนั้นอีก
      "นะนี่มันอะไรกัน อะโฟรดี้?"
      "โอ๊ะ! น่ารักใช่ม้า คุณแม่ของนายหาให้ใส่โดยเฉพาะเลยนะ" เขายิ้มยิ้งฟัน
      "แหม อะโฟรดี้นี่เป็นเด็กดีจังเลยนะ" แม่พูดชมเสียยกใหญ่
      "ง่ะ แม่รู้ไหมว่าเมื่อคื....." ในขณะที่ผมกำลังจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อคืนให้ฟัง(แม่ดูไม่สนใจคำพูดผมเลย เพราะมัวแต่ทำกับข้าวอยู่) อะโฟรดี้เลยเดินเข้ามาหาผมแล้วกระซิบบอกว่า "โอ๊ะๆ อย่าบอกดีกว่ามั้ง มันน่าอายออกนะ ขนาดแม่นายยังไม่เคยเห็นเลยนิ...." ผมคิดๆดูแล้วก็ขมวดคิ้วเจ็บใจเพราะรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้น
      "แถมยังสีขาวขุ่นซะขนาดนั้นนินะ" ใบหน้าของผมก็กลับมาร้อนผ่าวอีกครั้ง แต่ก็โต้กลับไม่ได้เพราะตกอยู่ในสถานการที่เป็นรอง
      "แหม ทั้งสองคนนี่สนิทกันดีจังเลยนะ" ผมอยากจะบอกความจริงให้แม่รู้จริงๆเล้ย
      ผมไม่รู้หรอกอะไรดลใจให้อะโฟรดี้ทำกับผมแบบเมื่อคืน ความทรงจำของผมมันค่อนข้างจะเลือนลางในตอนท้าย รู้แต่ว่ามีใครมากระซิบบอกอะไรที่ข้างหูนี่แหละ ผมเหลือบไปมองอะโฟรดี้ เพราะเมื่อคืนหมอนี่เป็นคนเดียวที่อยู่กับผม ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ตัวว่าถูกแอบมองก็เลยหันมามองผม ผมจึงรับหันกลับมาอย่างรวดเร็วแล้วทำกลบเกลื่อนด้วยการกินสปาเก็ตตี้อย่างเนียนที่สุด(เท่าที่จะทำได้) เสียงหัวเราะดังคิดคักมาจากอะโฟรดี้ ฮึ่ม! น่าหมั่นไส้ชะมัด

      ดำเนินเรื่องโดย : อะโฟระดี้
      ผมบอกลาและเดินทางออกมาจากบ้านของเอ็นโด โดยที่เจ้าตัวจะขอตามไปส่งที่ป้ายรถเมย์
      "แล้วนายจะไปที่ไหนต่อล่ะ?" เขาถามผม เป็นคำถามที่ผมเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้เหมือนกัน
      "ไม่รู้สิ คงจะเดินทางไปเรื่อยๆนั้นแหละ" ผมยืนนิ่งรอรถอยู่ที่บ้ายรถเมย์ ไม่นานนักรถก็มาจอดเทียบท่า "ไปก่อนละนะ" ผมโบกมือบ้ายบ่ายเอ็นโดแล้ววิ้งขึ้นรถไป แต่ในระหว่างนั้นผมคิดอะไรสนุกๆขึ้นมาได้ จึงวิ่งกลับลงมาหาเอ็นโดแล้วกระซิบบอกเขา
      "เรื่องเมื่อคืนนะ ถ้าติดใจก็เรียกใช้บริการได้อีกนะ เอ็นโด มาโมรุคุง" คำพูดของผมทำให้เอ็นโดหน้าเหวอไปเลย ฮ่ะๆ
      ผมยิ้มยิงฟันใส่เขาเป็นครั้งสุดท้ายแล้ววิ่งกลับขึ้นรถเมย์ไป หวังว่าเราคงได้พบกันอีกนะ เอ็นโด....
      วิ้ง!
      รถเมย์เคลื่อนตัวออกไปแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะอะไรผมรู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์เกี่ยวกับเรื่องไม่ดีที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า หวังว่าลางสังหรณ์ของผมนั้นมันจะไม่เป็นจริงนะ ผมจมอยู่กับความคิดของตัวเองพร้อมทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง และมีเพียงสายลมที่พัดผ่านใบหน้าเป็นเพื่อนร่วมทาง

      ...................
      จบแล้ว!!
      ปั่นแถบตาย(การบ้านก็ยังไม่ได้ทำ) ชอบไม่ชอบหรือจะติจะชมยังไงก็แล้วแต่นะค่ะ ช่วยกันคอมเม้นโดจินเรื่องแรกในชีวิตของฉันด้วยเถอะค่ะ!!! >w<
      ** อันที่จริงจะจะทำต่ออีกสองตอนนะ รวมเป็นสามตอน คือภาคของฟุตบอลฟรอนเทีย ภาคโรงเรียนเอเลี่ยน และภาคฟุตบอลอิเตอร์เนชเนล ซึ่งก็จะพยายามเขียนให้เชื่อมโยงกับเนื้อหาจริงๆ ส่วนจะเสร็จทั้งสามตอนเมื่อไหรนั้นก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์และทรงผมอีกที - - (เกี่ยวไหม? : ไม่)

      สุดท้ายนี้ก็ต้องขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านผลงานของฉันค่ะ ^^

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×