คู่มือมังกร Mythology and Magick

ลำดับตอนที่ #44 : สายมังกรกับอำนาจจันทรา-Draconic Lunar Phases

อิทธิพลของดวงจันทร์-The Moons Influence

อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นเรื่องสำคัญ ที่นักเวทย์สายมังกรควรพิจารณาคือเรื่องของอำนาจจันทราครับ ต้องขอบอกก่อนว่า จันทราแต่ละเฟส-Phases หรือแต่ละดิถีนั้น ให้อำนาจทางเวทมนตร์ที่แตกต่างกัน สำหรับนักเวทย์แล้วการกำหนดฤงามยามดีนั้น จำเป็นต้องอาศัยพลังจากดวงจันทร์ด้วยส่วนหนึ่ง ดิถีของดวงจันทร์นั้นอยู่ ในรอบ 28 วัน โดยเริ่มจาก จันทร์ดับ-New Moon แล้วุเข้าสู่ จันทร์เพ็ญ-Full Moon และกลับสู่จันทร์ดับอีกครั้ง 

นักเวทย์สมัยใหม่บางคนดำเนินการอย่างเคร่งครัดตามการคำนวณทางดาราศาสตร์ โดยกำหนดเวลาการทำงานด้านเวทมนตร์จนถึงวินาทีสุดท้ายของการคำนวณทางดาราศาสตร์นั้นๆ แต่บางคนก็ทำเพียงแค่มองที่ดวงจันทร์และทำตามพลังของดิถีที่ปรากฎมิได้คำนวณอะไรเป็นพิเศษ นั่นขึ้นอยู่กับคุณ 

ความแตกต่างของอำนาจจันทราในสายมังกรกับสายทั่วไปอยู่ตรงที่ว่า สายทั่วไปนั้นดวงจันทร์จะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเทพีหรือเรื่องราวของสตรีในขณะที่ในทางสายเวทย์มังกรนั้น จันทรานั้นเชื่อมโยงกับมังกรโดยตรง ต่อไปนี้คืออำนาจของดวงจันทร์ตามแต่ละดิถี

- พระจันทร์ข้างขึ้น-Waxing Moon  ข้างขึ้น คือ ช่วงเวลาตั้งแต่พระจันทร์ขึ้นถึงพระจันทร์เต็มดวงซึ่งกินเวลาประมาณ 11 วัน เราจะมองเห็นดวงจันทร์ตอนรุ่งเช้าก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น และไม่เห็นหัวกระต่าย เสี้ยวของดวงจันทร์จะหนาขึ้นจนกระทั่งสว่างเต็มดวงในวันขึ้น 15 ค่ำ ในช่วงเวลานี้สำหรับทางเวทมนตร์มันเป็นช่วงเวลาไตร่ตรองถึงสิ่งต่างๆ และเหมาะแก่การสะสมสิ่งต่างๆ หรือทำงานชิ้นต่างๆให้บรรลุผล และจะส่งผลให้อำนาจทางเวทย์เกี่ยวกับการเยียวยา การปลุกเสก การเพิ่มพลังส่งผลได้ดียิ่งขึ้น เป็นช่วงเวลาที่ปลุกเสกชองจะทรงพลังที่สุด (แต่ไม่เหมาะกับการปลุกเสกมีดอาเธม)    

- พระจันทร์ข้างแรม-WANING MOON ข้างแรมเป็นช่วงระยะเวลาตั้งแต่พระจันทร์เต็มดวงและผ่านระยะเวลาจนเปลี่ยนไปเข้าสู่ช่วงจันทร์ดับ-New Moon แทน ซึ่งกินเวลาประมาณ 11 วัน เราจะมองเห็นดวงจันทร์ตอนเย็นก่อนดวงอาทิตย์ตก  และเห็นหัวกระต่าย  เสี้ยวของดวงจันทร์บางขึ้นจนกระทั่งมืดหมดทั้งดวงในวันแรม 15 ค่ำ ในทางเวทมนตร์ช่วงเวลานี้เหมาะแก่การเรียนรู้สรรพเวทย์เพิ่มเติม เป็นช่วงที่เสริมอำนาจหากเราเลือกที่จะนั่งสมาธิ และยังเหมาะแก้การล้างอาถรรพ์ต่างๆ หรือเป็นช่วงเวลาที่ต้องยุติสิ่งที่ทำค้างไว้ตั้งแต่ก่อนเข้าสู่ข้างแรมแล้วรอนำผลที่ทำไว้นั้นไปสรุปในภายหลัง เป็นช่วงเวลาแห่งการปลุกเสกมีดอาเธม

- จันทร์เพ็ญ-FULL MOON จันทร์เพ็ญหรือพระจันทร์เต็มดวงจะปรากฎอยู่ให้เห็นประมาณ 2-3 วัน คือวันก่อนและวันหลังวันพระจันทร์เต็มดวงตามปฏิทิน นี่เป็นช่วงของอำนาจจันทราได้มาถึงขีดสุด เป็นช่วงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจเวทมนตร์ และเหมาะทำคาถาหรือพิธีที่เกี่ยวของกับความอุดมสมบูรณ์และอำนาจทางจิตมากที่สุด

- จันทร์ดับ-NEW/DARK MOON นี่คือช่วงเวลาที่ไม่มีดวงจันทร์ปรากฏให้เห็นบนท้องฟ้า ซึ่งเป็นช่วงเวลา 3 วันระหว่างข้างขึ้นและข้างแรมของดวงจันทร์ นี่คือช่วงเวลาที่พลังงานของดวงจันทร์อยู่ในระดับที่อ่อนแอที่สุด ตามศาสตร์เวทย์มังกรไม่ควรประกอบคาถาหรือพิธีกรรมใดๆในช่วงนี้ หรือประกอบแต่พิธีกรรมหรือคาถาชุดเล็กๆ ยังเหมาะกับเรื่องการเริ่มต้นใหม่ การเรียนรู้เกี่ยวกับตนเอง

- จันทรุปราคา-LUNAR ECLIPSE จันทรุปราคา หรือ จันทรคราส เกิดขึ้นจากดวงจันทร์โคจรผ่านเข้าไปในเงาของโลก เราจึงมองเห็นดวงจันทร์แหว่งหายไปในเงามืดแล้วโผล่กลับออกมาอีกครั้ง คนไทยสมัยโบราณเรียกปรากฎการณ์นี้ว่า "ราหูอมจันทร์"    จันทรุปราคาจะเกิดขึ้นเฉพาะในคืนวันเพ็ญ 15 ค่ำ หรือคืนวันพระจันทร์เต็มดวง อย่างไรก็ตามปรากฏการณ์จันทรุปราคาไม่เกิดขึ้นทุกเดือน เนื่องจากระนาบที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์และระนาบที่ดวงจันทร์โคจรรอบโลกไม่ใช่ระนาบเดียวกัน หากตัดกันเป็นมุม 5 องศา ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะเกิดจันทรุปราคาเพียงปีละ 1 - 2 ครั้ง ในทางเวทมนตร์มันเป็นช่วงเวลาที่ดวงจันทร์มีอำนาจของทุกดิถีในตัว

- ทุติยเพ็ญ-BLUE MOON โดยปกติแล้ว พระจันทร์เต็มดวงจะเกิดขึ้นเดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น เราจึงเห็นพวกมันได้ 12 ครั้ง ใน 1 ปี แต่สำหรับบลูมูนแล้ว หากเกิดขึ้นในเดือนใด นั่นหมายความว่าเราจะได้เห็นดวงจันทร์เต็มดวงถึง 2 ครั้งในเดือนนั้น และในปีนั้น เราจะเห็นดวงจันทร์เต็มดวงได้ถึง 13 ครั้ง โดยการเกิดทุติยเพ็ญ หรือ บลูมูน แต่ละครั้งจะเกิดขึ้นห่างกันประมาณ 2-3 ปี ยกเว้นบางปีที่อาจมีบลูมูนเกิดขึ้นถึง 2 ครั้ง จึงเรียกว่า ดับเบิลบลูมูน-Double Blue Moons ดับเบิลบลูมูนเกิดขึ้นได้ 3-5 ครั้งในรอบศตวรรษ เช่น ปี 2542 และ ปี 2561 ซึ่งมีดวงจันทร์เต็มดวง 2 ครั้งในเดือนมกราคมและมีนาคม ในทางเวทมนตร์อำนาจของทุติยเพ็ญนั้นจะเสริมด้านโชคลาภ และถือว่ามีพลังเป็นสองเท่าของจันทร์เพ็ญตามปกติ 

- แบล็คมูน-BLACK MOON นิยามหนึ่งของ “แบล็คมูน” คือ ใช้เรียกการเกิดจันทร์ดับ-New Moon ครั้งที่สอง ในเดือนที่มีจันทร์ดับสองครั้ง ลักษณะเดียวกับการเกิดดวงจันทร์เต็มดวงครั้งที่สองในเดือนที่มีดวงจันทร์เต็มดวงสองครั้ง หรือที่มักเรียกว่า "บลูมูน-Blue Moon" โดยจะเกิดขึ้น ทุกๆ 10-13 ปี มันมีพลังอำนาจทางเวทมนตร์เป็นสองเท่าของจันทร์ดับตามปกติ และเป็นช่วงเวลาที่เหมาะอย่างยิ่งกับการขจัดสิ่งต่างๆออกไปจากชีวิต 

- ดวงจันทร์ไร้มุม-VOID OF COURSE ดวงจันทร์ไร้มุม หรือ ดวงจันทร์ว่างมุม หมายถึง ช่วงเวลาที่ดวงจันทร์ว่างมุม หรือไม่ทำมุมกับดาวใดๆ เลย ก่อนที่ดวงจันทร์จะย้ายเข้าสู่ราศีถัดไป ถ้าจะเปรียบเทียบให้ฟังง่ายๆ ก็เหมือนการขับรถยนต์นั่นเอง ในช่วงเวลาที่กำลังจะมีการเปลี่ยนเกียร์แล้วเข้าสู่เกียร์ว่างก่อนจะใส่เกียร์เดินหน้าต่อไป ในช่วงระยะที่มีการเข้าสู่เกียร์ว่างนี้เอง จะเปรียบเทียบไปก็คล้ายๆ กับช่วงเวลาที่ดวงจันทร์ว่างมุม ในทางเวทย์ ไม่เหมาะแก่การประกอบคาถาหรือพิธีกรรมใด อันเนื่องจากพลังงานในช่วงเวลานี้เต็มไปด้วยพลังงานแห่งวุ่นวายและไร้ระเบียบ แต่คุณยังสามารถใช้อำนาจของมังกรในช่วงเวลานี้ได้อยู่ โดยเฉพาะมังกรแห่งความโกลาหลและการทำลายล้าง เพราะมังกรเป็นผู้ดูแลพลังอำนาจทั้งมวล 

B
E
R
L
I
N