ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คู่มือมังกร Mythology and Magick

    ลำดับตอนที่ #34 : ประเภทของมังกร-Type Of Dragons

    • อัปเดตล่าสุด 24 ส.ค. 66


      เช่นเดียวกับสัตว์ชนิดอื่นๆ มังกรไม่ได้เหมือนกันทุกตัวหรอกนะครับ ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีลักษณะพิเศษที่เฉพาะกันออกไป ซึ่งโดยปกติแล้วจะแยกประเภทของมังกรจากจำนวนแขน ขา หรือ ปีก ซึ่งเราพอจำแนกได้ดังนี้

    1.แอมฟิเทียร์-Amphitere


    แอมฟิเทียร์ ภาพ โดย William O'Connor

    มังกรประเภทแรกที่เราจะพูดถึงกันนี้ คือ แอมฟิเทียร์ มังกรสัญชาติอังกฤษครับ มันปรากฏในเรื่องเล่าพื้นบ้านของอังกฤษและอเมริกาครับ มังกรประเภทนี้เป็นมังกรพันธุ์หนึ่งที่รูปร่างเป็นกึ่งนกกึ่งมังกรมากที่สุด เพราะแอมฟิเทียร์เป็นมังกรที่เกิดจากการรวมตัวของสัตว์สองอย่างคืองูกับนก  


    ที่ว่ามีผสมของงูนั่นก็เพราะว่า ลำตัวของมันนั้นยาวและมีรูปร่างเหมือนงูครับ จากหัวถึงหางยาวประมาณ 40 ฟิต ปีกของมันมีความงดงามมากกว่ามังกรพันธ์อื่นๆ ปีกของมันมีเจ็ดสี(ก็สีเจ็ดสีของรุ้งกินน้ำนั่นล่ะ) แอมฟิทีร์มีสองพันธุ์คือพันธุ์อเมริกากับพันธุ์เม็กซิโก แต่ตำรามังกรของคนโบราณกล่าวว่า เป็นพันธุ์ แอมฟิทีร์ปีกไฟ” กับพันธุ์ แอมฟิทีร์ลายแถบ” ครับ 

    2.เดรก-Drake



    เรื่องราวของมังกรเดรกนั้นส่วนใหญ่ผมเล่าไปแล้วในบทที่ 3 แต่จะเสริมให้อีกนิดละกัน ในช่วงกลางของอังกฤษนะครับ คำว่าเดรก "Drake" แทบจะเป็นคำเดียวที่มีความหมายที่หมายถึงมังกรได้ครับ มังกรประเภทนี้ส่วนใหญ่มีสี่ขา และส่วนมากแล้วเดรกเกือบทั้งหมดจะถิอว่าเป็นมังกรเพศผู้ครับ 

    3.ไฮดรา-Hydra



    มาถึงเรื่องของไฮดรากันบ้าง ซึ่งอันที่จริงเรื่องราวของไฮดรานั้นก็เล่าไปบ้างแล้วในบทที่สอง ในบทนี้ตอนนี้เราจะมาดูเรื่อราวในส่วนอื่นๆของมันที่ผมหามาให้อ่านละกันครับ "ไฮดรา"  โดยทั่วไปแล้วคำนี้จะแสดงถึงมังกรที่หลายหัวครับ โดยไม่เจาะจงตายตัวว่าเป็นตัวไหน และโดยมาก จะถือว่าไฮดรานั้นเป็นมังกรน้ำครับ ในคัมภีร์ไบเบิลคริสเตียนไฮดราเป็นมังกรเก้าหัวและเป็นปฏิปักษ์กับนักบุญไมเคิล


    ซีเม กอรีนิช-Zmey Gorynych มังกรรัสเซียสามหัว

    มังกรตะวันออก-Eastern Dragon



    มังกรฝั่งตะวันออกนั้น มีคติที่ถือกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของภูมิปัญญาและอำนาจศักดิ์สิทธิ์์ ในด้านรูปร่างนั้นเกือบทั้งมาจากงูครับ มังกรตะวันออกเนี่ยนะครับ พบได้ในแถบทวีปเอเชีย โดยเฉพาะ อินโดนีเซีย,ฟิลิปปินส์,ญี่ปุ่น,จีน หรือแม้แต่ในไทยเราก็มีครับ(ซึ่งของไทยเราก็คือพญานาคครับ) 

    มังประเภทนี้แตกต่างจากมังกรของทางยุโรปพอสมควรตรงที่พวกมันไม่ไดคลุกคลีอยู่กับการเฝ้าสมบัติหรือตกอยู่ภายอำนาจของพ่อมดแม่มดหากแต่ผูกพันตัวเองอยู่กับความเป็นไปของมนุษย์ ดูแลและเมตตามนุษย์ และด้วยเหตุนี้มังกรทางแถบเอเชียตะวันออกจึงถือเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์และมีผู้คนเคารพอย่างมาก 

    4.ไวเวิร์น-Wyvern



    คำว่าไวเวิร์น "Wyvern" นั้น เป็นคำที่ได้มาจากภาษาแองโกล-แซกซอน ของคำว่า 'Wivere' ซึ่งหมายถึง "งู" หรือ "หนอน" ลักษณะทั่วไปที่เด่นชัดคือมีสองขา มีปีกของค้างคาว และมักมักมีหางเป็นงูครับ ปรากฏครั้งแรกในยุคกลาง ในทวีปยุโรป โดยเฉพาะอังกฤษและฝรั่งเศส 

    มังกรประเภทนี้มีความอันตรายมาก เพราะมีความดุร้ายในตัวสูง มักทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า ในช่วงยุคมืดหรือยุคกลาง ไวเวิร์นถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของซาตานและเกี่ยวข้องกับสงคราม โรคระบาดและบาป 


    5.มนุษย์มังกร-Anthropomorphic Dragon



    ก็ตามชื่อเลยครับ มังกรประเภทนี้คือมังกรที่เป็นกึ่งมนุษย์กึ่งมังกรครับ ร่างกายโดยทั่วไปคล้ายมนุษย์แต่มีพลังเยี่ยงมังกร มังกรประเภทนี้ส่วนมากวิ่งโดยใช้สี่ขาไม่ได้เพราะมือสั้น จึงได้แต่วิ่งเพียงใช้สองขาที่มีรูปแบบคล้ายมนุษย์แทนครับ 

    มังกรเหล่านี้เกิดจากเวทมนตร์และคำสาปเป็นส่วนใหญ่ หากให้ยกตัวอย่างก็เช่น "มังกรฟาฟนีร์" จากตำนานเทพไวกิ้งนั้นไงครับ ที่ตอนแรกเป็นคนแคระแต่ภายหลังกลายเป็นมังกรเพราะถูกคำสาปของแหวนครับ  



    6.มังกรไฮบริดส์-Draconic Hybrid



    มังกรไฮบริดส์หรือดราก้อนบีสต์-Dragon Beasts เป็นมังกรที่มีส่วนผสมมาจากสัตว์หลายๆชนิดรวมกัน โดยเฉพาะนกและงู และถึงแม้แม้ร่ายส่วนอื่นจะมาจากสัตว์ต่างชนิดกันแต่ส่วนก็จะคงรูปแบบหัวมังกรของมังกรยุโรปครับ มังกรประเภทนี้สามารถเปลี่ยนร่างเป็นมังกรชนิดอื่นในเวลาสั้นๆได้ ตัวอย่างของมังกรประเภทนี้ก็คือ ไคเมร่า-Chimera จากตำนานกรีกครับ 


    7.มังกรตะวันตก-Western Dragon



    มังกรประเภทนี้คือมังกรที่อาศัยอยู่ในโซนยุโรปหลากหลายประเทศ โดยเฉพาะ ในอังกฤษ,กรีก และอเมริกาครับ รูปร่างของพวกมันมีลักษณะคล้ายกิ้งก่า มีเขา มี4ขา และมีปีก มังกรประเภทนี้มีสามสีหลักๆคือ สีแดง,สีเขียว และสีน้ำเงิน ลักษณะทางร่างกายโดยทั่วไปจะเป็นแบบที่อธิบายไว้ในดราก้อนอนาโตมีนะครับ

    มังกรของยุโรปตะวันตกเป็นสัตว์ที่เป็นเสมือนตัวแทนของความชั่วร้ายหรือปีศาจ เป็นสัตว์ที่มุ่งร้ายต่อมนุษย์ และมักตกอยู่ใต้อำนาจของผู้วิเศษ(พ่อมด,แม่มด) ส่วนใหญ่มีหน้าที่เฝ้าสมบัติและหวงทรัพย์สินเหล่านั้น ต่อมาในช่วงยุคกลางมังกรประเภทนี้มักใช้เป็นตราสัญลักษณ์ของตระกูลขุนนาง อัศวิน หรือประดับบนธงของบางประเทศ เวลส์ เป็นต้น เพราะถือเป็นการแสดงถึงพลังอำนาจ



    มังกรตะวันตกสู้กับอัศวิน ภาพโดย แลร์รี เอลมอร์-Larry Elmore


    8.ลินเวิร์ม-Lindworm




    ลินเวิร์มเป็นมังกรพื้นบ้านตามตำนานของชาว อังกฤษ,เยอร์มันและสแกนดิเนเวีย รูร่างของลินเวิร์มเป็นแบบง่ายๆ คือ ส่วนมากไม่มีปีก แต่มีสองขา และมีแผงคอ นอกจากนี้มันยังมีอุ้งเท้าที่มีกรงเล็บเหมือนเหยี่ยวหรือเหมือนสิงโต นัยน์ตาของมันก็ใหญ่โตมีสีแดงราวกับเปลวไฟ ปากก็เต็มไปด้วยฟันแหลมคมราวกับใบเลื่อย ปากของมันที่มีฟันแหลมดังที่กล่าวมาก็ใหญ่พอที่จะกลืนคนเข้าไปได้แบบสบายๆ ตามตำนานของชาวยุโรปมักปรากฏเป็นเรื่องของเจ้าหญิงที่หนีจากลินเวิร์มหรือบางทีก็ว่าภายใต้ร่างของมังกรลินเวิร์มแม้จริงคือเจ้าชายรูปงามที่ถูกสาปเป็นมังกร   


    ' "พวกมันมีขาหน้าสองข้างที่อยู่ใกล้ศีรษะ แต่ไม่มีอะไรที่เท้านอกจากกรงเล็บเหมือนกรงเล็บเหยี่ยวหรือสิงโต หัวใหญ่มากและดวงตาก็ใหญ่กว่าขนมปังก้อนใหญ่ ปากมีขนาดใหญ่พอที่จะกลืนผู้ชายได้ทั้งตัวและตกแต่งด้วยฟัน [แหลม] ซี่ใหญ่" '

     

    - มาร์โคโปโล



    ลินเวิร์ม


    9.เวิร์ม-Worms



    วูม หรือ เวิร์มมีลักษณะคล้ายลินเวิร์มแต่ตัวใหญ่และยาวกว่าหลายเท่า โดยมังกรเวิร์มที่ยาวที่สุดสามารถใช้ตัวมันพันรอบภูเขาได้เลยครับ พวกมันสามารถหายใจเป็นควันพิษออกมาและเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ถื่นที่อยู่อาศัยของมังกรประเภทนี้คือ หนองน้ำบึงและสถานที่อื่นที่เปียกหรือแห้งชิ้น และบางอาจอาศัยในบ่อน้ำหรือทะเลสาบก็ได้ครับ


    10.มังกรแอฟริกัน-African Dragon




    มังกรแอฟริกันนั้นไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันเท่าใดนัก และมังกรแอฟริกันยังแตกต่างมังกรตะวันตกและมังกรตะวันออกมากครับ ขนาดเป็นสิ่งแรก มีความยาว 10.7 เมตร (35 ฟุต) และมักไม่มีปีก รูปร่างคล้ายงูแต่ใหญ่กว่ามาก บางตัวอาจมีขา และว่ากันว่ามังกรประเภทนี้ที่มีสี่ขาเท่านั้นจึงจะบินได้ 


    มังกรแอฟริกันไม่ได้สะสมสมบัติหรือโลหะมีค่าเช่นทอง แต่พวกมันมีหินพิเศษในครอบครองที่เรียกว่า "Dracontias" ทำให้มังกรสามารถบินได้และยังให้พลังเวทมนตร์แก่พวกมันอีกด้วย 


    หินนั้นมีคุณสมบัติในการรักษาและหากหมู่บ้านมนุษย์ถูกโรคระบาดผู้อาวุโสในหมู่บ้านมักจะเข้าหามังกรท้องถิ่นเพื่อขอความช่วยเหลือ พวกเขามักจะให้ของตอบแทนแก่มังกรเช่นช้างที่ดีที่สุดของหมู่บ้าน 


    อย่างไรก็ตามมังกรมักไม่ให้ความช่วยเหลือง่ายๆและหากมังกรตายหินก็ไร้ประโยชน์สูญเสียคุณสมบัติทั้งหมดไป การได้มาซึ่งสิ่งวิเศษนี้จึงเป็นเรื่องยาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีเลย นั่นคือ ถ้ามังกรตนไหนดุร้ายให้ตัดหัวกะโหลกมันและชิงหินวิเศษมา มังกรประเภทนี้จะไม่ตายทันทีในกรณีที่โดนตัดหัว


    11.ดราโกเน็ท-Dragonnet




    มังกรประเภทนี้ ลักษณะโดยทั่วไปจะคล้ายกับมังกรตะวันตก แต่มีขนาดของตัวที่เล็กกว่ามากครับ โดยปตติแล้วขนาดของมังกรประเภทนี้จะมีตั้งแต่เล็กเท่าไข่ไก่และตัวที่โตที่สุดจะมีขนาดพอๆกับมนุษย์ แต่อย่าได้ดูถูกมังกรประเภทนี้เพียงเพราะขนาดตัวของมันนะครับ เพราะดราโกเน็ทจะออกล่าเหยื่อเป็นฝูง และมีเลือดพิษที่เป็นอันตรายถึงชีวิตเมื่อมันสัมผัสกับผิวหนังของคุณ


                                                            
                                                           แม่มดให้พืชสมุนไพรเป็นอาหารแก่ดราโกเน็ท ภาพโดย แอนเน่ สโตเคส-Anne Stokes



    12.แฟร์รี่ ดราก้อน-Fairy dragon




    มังกรดราโกเน็ทว่าเล็กแล้วนะครับ แต่แฟร์รี่ แฟเรีย-Faerie หรือ เฟ ดราก้อน-Fae dragon นั้นเล็กกว่า โดยมันถือเป็นสายพันธุ์มังกรที่มีขนาดตัวเล็กที่สุดครับ โดยขนาดตัวของมันที่ใหญ่ที่สุดอยู่มีความยาวตัวมากถึง 3.2 นิ้ว (8 ซม.) และมีปีกกว้างถึง 1 ฟุต (30 ซม.)  


    ตามตำนานนั้นมันเป็นมังกรที่รักสงบ แต่บางครั้งก็ซุกซนและผูกพันธ์อยู่กับพวกแมลงและเหล่าภูตแฟร์รี่ครับ และด้วยเหตุนี้ภาพลักษณ์ของแฟร์รี่ ดราก้อนจึงเป็นมังกรที่มีปีกคล้ายปีกของแฟร์รี่ และกินพืชเป็นอาหารมากกว่าจะกินเนื้อครับ การจะหาตัวดราก้อน แฟร์รี่นั้นยาก แต่พวกมันชอบดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมซึ่งเป็นจุดที่พวกมันถูกพบมากที่สุด แต่เนื่องจากมันมีขนาดเล็กมาก เมื่อเจอแล้วก็มักจะคิดว่ามันเป็นแค่แมลงไม่ใช่มังกรจึงมักพลาดโอกาสไป 


    13.ออโรบอรอส-Ouroboros  



    ตามตำราของฝั่งตะวันตก ออโรบอรอสปรากฏขึ้นครั้งแรกในความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ ประมาณ 1600 ปีก่อนคริสตกาล แต่ในส่วนความหมายของชื่อกลับปรากฏในภาษากรีก อันมีความหมายว่า "กลืนหาง" ลักษณะโดยทั่วไปคือเป็นมังกรที่กินหางตัวเองตลอดเวลา มีปีก และมักมีสองขา ในความหมายกว้าง ออโรบอรอส-Ouroboros แสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องของชีวิตหรือความเป็นนิรันตร์ครับ บางข้อสรุปได้กล่าวอย่างน่าสนใจไว้ว่า "ออโรบอรอส คือตัวแทนของชีวิต ชีวิตของทุกชีวิตเมื่อตอนเกิดเปรียบได้กับตอนที่ออโรบอรอสเริ่มกลืนกินหางของตน และเมื่อวาระสุดท้ายของชีวิตมาถึงก็เปรียบได้กับตอนที่เจ้ามังกรกลืนกินตัวมันทั้งตัวหมด"

     ในบางความเชื่อ ออโรบอรอส ก็ไม่ใช่มังกรแต่เป็นงูแทนครับ และจะมีชื่อเรียกอีกแบบว่า "ฮูปสเนค" ครับ ส่วนเรื่องราวที่ปราฏของออโรบอรอสที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เห็นจะเป็นเรื่องที่นักเล่นแร่แปรธาตุใช้ออโรบอรอสเพื่อเป็นตัวแทนของสสารที่ไม่แน่นอน และเรื่องอีกเรื่องที่ออโรบอรอสไปเกี่ยวในเรื่องของศาสตร์การเล่นแร่แปรธาตุที่พอมีชื่อเสียงก็เห็นจะเป็น Chrysopoeia of Cleopatra ซึ่ง Chrysopoeia of Cleopatra เป็นข้อความเล่นแร่แปรธาตุที่มีชื่อเสียงที่เขียนขึ้นโดยนักปรัชญานักเขียนและนักเล่นแร่แปรธาตุชาวอียิปต์ ชื่อจริงของผู้แต่งได้สูญหายไปจากประวัติศาสตร์ แต่เป็นที่รู้กันว่าเธอไม่ได้เป็นคนเดียวกับคลีโอพัตราผู้ซึ่งราชินี - ผู้ปกครองคนสุดท้ายของอาณาจักรปโตเลมาอิคแห่งอียิปต์

    ความจริงที่ว่า ouroboros ถูกนำมาใช้ในข้อความนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ  ในการเล่นแร่แปรธาตุ Chrysopoeia เป็นคำที่บ่งบอกว่าโลหะฐานมีระดับ 'การแปลงสภาพ' เป็นโลหะชั้นสูงเช่นทองคำ แนวคิดนี้เชื่อมโยงโดยตรงกับการแสวงหาศิลาอาถรรพ์ซึ่งเป็นสารที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอมตะและการฟื้นฟู

     
                                                                    
                                                                             จากภาพ แสดงให้เห็นถึง Chrysopoeia of Cleopatra 


    14.คอคกาทริช-Cockatrice




    บางทีก็ไม่นับว่าเจ้านี้เป็นประเภทของมังกรนะครับ แต่ยกให้เป็นสัตว์ประหลาดทั่วไปเสียมากกว่า โดยทั่วไปแล้วคอคกาทริชนั้นลักษณะเด่นของมันอยู่ที่ขนบริเวณคอและหน้าท้อง มีทั้งสีแดง สีเขียว หรือ สีเหลืองครับ  พวกมันมีเกล็ดครอบคลุมร่างกายและปีก ซึ่งถือเป็นเกราะป้องกันชั้นเยี่ยม นอกจากนี้อาวุธของมันก็ยังเป็นลมหายใจที่พ่นออกมาเป็นพิษได้ และยังมีจงอยปากที่คมกริบพอที่จะตัดเหล็กได้เลยครับ บางตำรายังแถมอีกว่าหากสิ่งมีชีวิตใดจ้องตาคอคกาทริชสิ่งนั้นย่อมจะตายในทันที (คล้ายๆกับพลังของเมดูซ่าในตำนานกรีกครับ)


    ต้นกำเนิดของคอคกาทริชนั้น ว่ากันว่าเกิดจากไข่ไก่ที่โดนเจ้างูพิษร้ายฉกไปกกในรังของมันครับ เมื่อมันฟักออกมาจึงร่างกายที่ค่อนข้างประหลาด คือเป็นงูครึ่งไก่ครึ่งครับ แต่ถึงแม้คอคกาทริชจะมีรูปร่างที่ประหลาด น่าเกลียดน่ากลัวแต่มันก็มีจุดอ่อนและหามากำจัดได้ง่ายมากครับ นั่นเพราะคอคกาทริชแพ้ทางสัตว์อยู่สองอย่างครับ อย่างก็คือตัวเพียงพอนครับ เมื่อคอคกาทริชได้กลื่นตัวของเพียงพอน มันก็เปิดหนีไปไกลแล้วครับ ส่วนสัตว์อย่างที่สองก็คือ "ไก่" ครับ ไก่ธรรมดาๆนี่แหละ มีการระบุไว้ว่าหากคอคกาทริชได้ยินเสียงไก่ขัน มันก็ดิ้นชักตาย ณ ตรงนั้นเลยครับ 




    คอคกาทริชที่ปราสาท เบลเวเดียร์-Belvedere (1869) ในนิวยอร์ก เซ็นทรัลปาร์ค


    15.งูใหญ่-Great Serpent



    งูใหญ่ ภาพโดย David Caffee


    บางความเชื่อจะถือว่างูใหญ่ก็จัดเป็นประเภทหนึ่งของมังกร สำหรับตามความเชื่อของชาวตะวันตกส่วนมากจะถือว่ามังกรประเภทนี้แยกออกมาจากพันธ์มังกรเวิร์มครับ งูใหญ่นี้ว่ากันว่าแท้จริงแล้วมันเป็นบรรพบุรุษของสัตว์ทั่วๆไปหลายชนิดเลยครับ และตัวมันเอง ยังถือเป็นผู้พิทักษณ์บ่อน้ำ หรือ แหล่งน้ำ หรือพื้นที่ที่เป็นทุ่งสำคัญๆหลายแหล่งอีกด้วยครับ 


    หากให้ยกตัวอย่างงูใหญ่ก็เช่น วฤตระในช่วงต้นตำนานอินเดียและจอร์มุนกานต์ในตำนานนอร์ดิก หรือแม้แต่พญานาคของไทยเราเองก็จัดว่าเป็นงูใหญ่ประเภทหนึ่งครับ นอกจากนี้ ในยุโรปเหนือและเอเชียตะวันตกงูมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรักษาขณะที่ในบางส่วนของเอเชียใต้งูนั้นถือได้ว่าเป็นคุณสมบัติทางยาและนิยมนำมาทำเป็นยาโดยเฉพาะยาที่ช่วยในเรื่องเพศ


    16.มังกรทะเล-Sea Dragon




    มังกรทะเล หรือ งูทะเล-Sea Serpent จัดว่าเป็นหนึ่งในประเภทของมังกรครับ ตามที่เล่าขานกันมาอย่างช้านานมังกรทะเลนั้นเป็นที่หวาดกลัวของชาวเรือเป็นอย่างมาก มันอยู่ได้ทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็ม ขนาดของมันใหญ่โตกว่างูทั่วไปมาก (อาจเพราะเหตุนี้จึงทำให้มันจัดอยู่ในประเภทของมังกรก็ได้) มังกรทะเลมีความยาวได้มากที่สุดถึงร้อยฟุต ขนาดตั้งแต่ 30-300 ฟิต หนา 5-20 ฟิต เชื่อว่าหนทางป้องกันมังกรทะเลมีทางเดียว คือ ใช้ยางไม้ชนิดหนึ่งชื่อว่าอซาโฟดิต้า ได้จากไม้ที่ปลูกในเปอร์เชียและอัฟกานิสถาน มีลักษณะเป็นยางแห้งสีน้ำตาลแดง รสเปรี้ยวมีกลิ่นฉุนจัดคล้ายหัวหอม เอามาบดละเอียดเป็นผงแล้วโรยรอบๆก็ไล่มังกรทะเลได้แล้ว 



    มังกรตะวันตกสู้กับมังกรทะเล ภาพโดย ทอดด์ ล็อควู้ด-Todd Lockwood


    นอกจากนี้แล้ว  ผู้ที่ศึกษาเกี่ยวกับมังกรบางกลุ่มยังอธิบายไว้ว่าเราอาจจำแนกประเภทของมังกรตามสีหรือลักษณะพลังของพวกมันได้ด้วยโดยหากแยกประเภทตามรูปแบบที่กล่าวมาแล้วจะได้ดังนี้ 


    17.มังกรขาว-White Dragon




    กล่าวกันว่ามังกรขาวเป็นมังกรที่รักสันโดษ พวกมันมักปลีกตัวออกจากมังกรประเภทอื่นๆ โดยทั่วไปแล้วพวกมันเคลื่อนไหวค่อนข้างช้า และมักอาศัยอยู่ตามถ้ำน้ำแข็งหรือสถานที่ที่อุณหภูมิเย็นจัด มักออกล่าเหยื่อเป็นฝูง เมื่อได้เหยื่อมามันจะพ่นลมหายเป็นน้ำแข็งเพื่อตรึงเหยื่อให้อยู่กับที่แล้วจึงกินมัน



    มังกรขาว ภาพโดย Lee Wi


    18.มังกรน้ำเงิน-Blue Dragon




    มังกรน้ำเงินส่วนมากเป็นที่รู้จักกันว่าหยิ่งผยอง อาศัยอยู่ตามทะเลทรายหรือถ้ำเป็นส่วนใหญ่ พวกมันหวงอาณาเขตเป็นอย่างมากแต่มักจะปกป้องวัวควายที่อยู่ในอาณาเขตมัน หากผู้ใดล่วงล้ำมันจะจัดการผู้ละเมิดดินแดนด้วยการใช้กรงเล็บและฟันอันแหลมคมในการกำจัดศัตรู พวกมันมีความฉลาดแแกมโกงมากแถมยังเชื่อชาญในอำนาจเวทมนตร์อีกด้วย 


    19.มังกรดำ-Black Dragon




    มังกรดำนั้นเต็มไปด้วยความลับและลึกลับมากมาย แต่ว่ากันว่า เป็นมังกรที่รักสันโดษที่สุดในบรรดามังกร พวกมันอาศัยอยู่ตามภูเขาที่ห่างไกลจากอารยธรรมหรืออาศัยตามหนองน้ำต่างๆ แต่ก็มีบางครั้งที่พวกมันจะเข้าไปในป่าทึบเพื่อทำรัง มังกรประเภทนี้ฉลาดรอบรู้มาก ไหวพริบเป็นเลิศมันจะไม่เข้าโจมตีศัตรูตรงๆอย่างไม่มีหัวคิด แต่จะจัดการศัตรูด้วยกลยุทธ์ของมัน 


    พวกมันมีเสียงที่ใหญ่ แต่ไม่ค่อยพูดกับมนุษย์ แต่หากจำเป็นในการพูดขึ้นมา พวกมันก็นับว่าเป็นมังกรที่พูดมากเอาเรื่องทีเดียว อาวุธที่สำคัญอีกอย่างนอกจากมันสมองอันปราดเปรื่องของมันก็คือกรดครับ มันสามารถพ่นลมหายใจออกมาเป็นกรดเพื่อโจมตีในระยะสั้นๆได้ หากมันได้อาหารมามันจะเก็บแช่ไว้ในน้ำสักพักเพราะมันเชื่อว่าวิธีนี้เป็นการเพิ่มรสชาติให้กับอาหารครับ


    20.มังกรแดง-Red Dragon




    มังกรแดง เป็นพวกที่เล่ห์เยอะ ฉลาด และเอาแน่นอนด้วยไม่ได้ แถมยังเป็นพวกที่โลภมากในสมบัติอีก พวกมันออกเดินทางและหากที่ใดมีสมบัติพวกมันก็จะเข้ายึดครองและทำรัง และยังจำสมบัติได้ดีขนาดที่ว่าแม้จะหายไปสักชิ้นหรือสมบัติไม่อยู่ในตำแหน่งเดิมมันก็ล่วงรู้ได้ พวกนี้มักอาศัยบนถ้ำภูเขาสูง และไม่ชอบมนุษย์เท่าใดนัก บางครั้งพวกมังกรแดงจะเข้าโจมตีหมู่บ้านของมนุษย์ด้วยการพ่นไฟเผาหมู่บ้านและแย่งสมบัติเงินทองพร้อมๆกับเรียกของบรรณาการซึ่งส่วนมากก็หนีไม่พ้นหญิงสาวบริสุทธิ์ครับ 


    พวกมันมีอาณมณ์ที่เดือดเกือบตลอดเวลาและเป็นมังกรที่จัดอยู่ในประเภทที่โหดร้ายที่สุดประเภทหนึ่ง แต่หากมังกรแดงเกิดถูกใจมนุษย์ขึ้นมา มังกรแดงก็จะถือได้ว่าเป็นพันธมิตรที่ทรงพลังและภักดีมาก ลำตัวพวกมันยาวประมาณ 15  เมตร มีความยาวปีก 17 เมตรพวกมันออกล่าเหยื่อเป็นคู่และจัดการเหยื่อด้วยการฉีกร่างเป็นสองท่อน 



    การต่อสู้ของมังกรขาวและมังกรแดง


    21.มังกรเขียว-Green Dragon




    มังกรประเภทนี้เป็นมังกรที่พบได้มากสุดครับ ส่วนใหญ่แล้วจะชั่วร้ายและชอบบงการผู้อื่น พวกมันบางตัวจะหมกมุ่นอยู่กับความชั่วร้ายและทำลายทุกอย่างที่เป็นสิ่งดีงาม กระหายในการต่อสู้แม้จะไม่มีเหตุผลให้ต้องสู้ พวกมันอาศัยอยู่ในป่าที่มีอุณหภูมิอบอุ่น และปกป้องป่าจากผู้บุกรุกไม่ใช่เพราะพวกมันรักธรรมชาติ แต่เป็นเพราะหวงอาณาเขต อาหารโปรดของพวกนี้คือเผ่าพันธุ์เอลฟ์หรืออะไรก็ตามที่หลงเข้ามายังอาณาเขตของมัน พวกมันฉลาดเท่ามนุษย์และใช้เล่ห์กลเท่าที่จำเป็น ส่วนใหญ่พูดคุยกับมนุษย์ได้



    มังกรเขียว


    22.มังกรทอง-Gold Dragon 




    มังกรทอง หรือมังกรทองคำ เป็นมังกรที่ผูกพันธ์อยู่กับธาตุสามธาตุนั้นคือ ธาตุดิน,ธาตุน้ำ และธาตุไฟ มังกรเหล่านี้ใช้ธาตุที่ว่ามาได้อย่างดี พวกมันเป็นมังกรที่มีลักษณะที่พิเศษกว่ามังกรประเภทอื่นมาก เพราะมันเป็นผู้ทรงภูมิปัญญาและรักสงบ จะต่อสู้ก็ต่อเมื่อพวกมันต้องเอาชีวิตรอดเท่านั้น มังกรทองชอบสนับสนุนความยุติธรรม,ความภักดีและมีน้ำใจและมักจะช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อาวุธของมังกรทองคือการพ่นแก๊สและพ่นไฟ 


    พวกมังกรทองนี้ยังเป็นเจ้าของพลังเวทย์ที่แข็งแกร่งเป็นพวกที่มีพลังเวทย์แก่กล้ากว่ามังกรประเภทอื่นๆ แต่ก็มักเก็บไว้ไม่ใช้ ถ้าหากจะใช้ก็ใช้ทำแต่สิ่งที่ดีครับ มังกรทองอาศัยอยู่ได้ทุกที่ หรือบางทีก็อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง แต่หากให้เลือกพวกมันมักอาศัยอยู่ในภูเขาหรือปราสาทครับ พวกมันยังแปลงกายได้สารพัดและกินได้ทุกอย่างแต่ของโปรดของมังกรทองคือหินและอัญมณี 



    มังกรทอง


    23.มังกรเงิน-Silver Dragon




    มังกรสีเงินส่วนใหญ่จะมีจิตใจดี และชอบช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตอื่นโดยเฉพาะมนุษย์ พวกมันอาศัยอยู่ได้ทุกที่เช่นเดียวกับมังกรทอง และชอบปลอมตัวเป็นมนุษย์และคลุกคลีอยู่กับผู้คน พวกมันทำรังบนเมฆเท่านั้นโดยใช้พลังเวทย์ของมันให้เมฆเปลี่ยนสภาพเป็นของแข็งและทำรัง มังกรประเภทนี้รังเกียจการต่อสู้ และมักจะเลี่ยงการสู้รบแม้จะมีผู้บุกรุกมัน มันจะสู้ในกรณีเดียวคือตอนที่มันจนมุมเท่านั้น อาวุธของมังกรเงินคือลมหายใจที่เย็นเฉียบจนทำให้ศัตรูกลายเป็น้ำแข็งหรือโจมตีด้วยแก๊สที่ทำให้ผู้เคราะห์ร้ายกลายเป็นอัมพาต


    24.มังกรบรอนซ์-Bronze Dragon 




    มังกรบรอนซ์ เป็นมังกรที่อาศํยอยู่ใกล้ๆแหล่งน้ำ พวกมันมักแปลงกายเป็นสิ่งมีชีวิตต่างๆเพื่อสำรวจโลก พวกมันชอบการต่อสู้แต่ก็สู้ในแบบศิลปะการต่อสู้และมักเข้าร่วมกองทัพมนุษย์ยามเกิดสงคราม อาหารโปรดของมังกรบรอนซ์คืออาหารทะเลโดยเฉพาะปลา 


    25.มังกรทองแดง-Copper Dragon




    มังกรทองแดง พวกนี้เป็นพวกที่ชอบทำรังในทะเลทราย,ในถ้ำ หรือในสภาพอากาศที่แห้งแล้ง พวกมันเป็นมังกรที่รักสงบและเป็นมิตร ชอบคุยกับสิ่งมีชีวิตระหว่างทาง พวกมันชอบเล่าเรื่องราวของตัวเองและชอบให้ปริศนาแก่ผู้อื่น ในการล่าเหยื่อของมันมันมักจะไม่จัดการเหยื่อในทันทีแต่ค่อยๆเฝ้าดูเหยื่อหลายๆชั่วโม(เหมือนกับเก็บรายละเอียด)แล้วจึงสังหาร ซึ่งนี้อาจเป็นข้อเสียที่ทำให้เหยื่อส่วนใหญ่หลุดรอดไปได้ นอกจากนี้มังกรทองแดงส่วนใหญ่จะหวงในทรัพย์สมบัติของตนแต่ก็ยังเป็นมิตรอยู่ อาวุธของพวกมันคือกรงเล็บและฟันอันคมกริบ และยังพ่นแก๊สหรือกรดได้อีกด้วย


    26.มังกรทองเหลือง-Brass Dragon




    มังกรทองเหลืองอาศัยอยู่ตามถ้ำใต้ดินใกล้กับแหล่งน้ำขนาดใหญ่ เช่น ทะเลสาบ หรือ มหาสมุทร พวกมันเป็นมิตรและรักในการพูดคุย มักแปลงกายเป็นสัตว์เพื่อดูความเป็นไปของโลก เช่น วิถีชีวิตของสิ่งต่างๆ พวกมันมักสังหารศัตรูด้วยการกัดหรือสร้างกระแสไฟฟ้าเข้าช๊อตศัตรู หรือสร้างก๊าซจากก้อนเมฆเพื่อขับไล่ศัตรู


    27.มังกรหมอก-Mist Dragon 




    ถื่นที่อยู่อาศัยของมังกรหมอกคือบริเวณน้ำตกใกล้ๆมหาสมุทรหรือในสถานที่ที่ฝนชุก พวกมันคงรูปของตัวให้อยู่ในรูปแบบแก๊สหรือหมอกเพื่ออำพรางตัว มักใช้พลังจากเมฆและหมอก หรือน้ำเป็นอาวุธ 


    28.มังกรเมฆ-Could Dragon





    มังกรเมฆเป็นสัตว์เดียวดาย ชอบปลีกวิเวก รักความสันโดษ หากพบเห็นมังกรเมฆอยู่ด้วยกันแสดงว่ามันเป็นคู่รักกัน มังกรประเภทนี้จะอาศัยเมฆทำรังโดยใช้เวทมนตร์รูปแบบคล้ายกับมังกรหมอก พวกมันอำพรางตัวเก่งมากเพราะสีตัวมันกลืนกินไปกับก้อนเมฆ นอกจากนี้น้ำหนักตัวของมันก็แสนจะเบาหากเทียบกับมังกรอื่นๆ มันใช้เวทมนตร์ประเภทลมและอุณหภูมิเป็นอาวุธ มังกรเมฆจะเปลี่ยนสีได้ตามอารมณ์ เช่น หากมันโกรธตัวจะเปลี่ยนเป็นสีดำ

    29.มังกรเงา-Shadow Dragon



    มังกรเงานั้น ออกหากินเวลากลางคืน พวกมันมักอาศัยอยู่ตามมุมมืดหรือที่มืดสนิทพรางตัวในที่มืดได้ดี  พวกมันรักอิสระเป็นส่วนใหญ่ มังกรเงาเพศเมียจะออกไข่ 5-8 ฟองและทิ้งไว้ในที่มืดเมื่อลูกมังกรตัวแรกฟักออกมามันจะกินมังกรอื่นๆที่เป็นพี่น้องของมันเอง มังกรเงานี้ชอบการบินเป็นอย่างมาก พวกมันใช้เวทมนตร์ที่เกี่ยวกับช่วงเวลากลางคืนเป็นอาวุธ หากมันโดนแสง โดยเฉพาะแสงจากธรรมชาติมันจะอ่อนกำลังลง
    E
    R
    L
    I
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×