โลกแห่งความเหงาที่จางหาย - โลกแห่งความเหงาที่จางหาย นิยาย โลกแห่งความเหงาที่จางหาย : Dek-D.com - Writer

    โลกแห่งความเหงาที่จางหาย

    ความรักของเธอและผม จะต้องจบลงด้วยความตายน่ะหรือ?

    ผู้เข้าชมรวม

    663

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    663

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  5 พ.ค. 52 / 19:14 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    ลงเรื่องสั้นอ่านเรียกน้ำย่อย อีกไม่นานฟอล์กะวินจะมาลงเรื่องยาวนะ

    สุดท้ายรักคนอ่านทุกๆคนค่า

    _Tsukima__Tsukima__Tsukima__Tsukima__Tsukima_

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      เรื่อง...โลกแห่งความเหงา...ที่จางหาย
       ผมเคยคิดว่าโลกนี้มันสวยงาม เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่คนทุกคนมอบให้กัน แต่แล้ววันหนึ่งความรู้สึกนี้ก็หายไป พร้อมๆกับเธอ ผู้เป็นดั่งลมหายใจของผม จากไปชั่วนิรันดร์ 


      วันนี้ผมไปงานเผาศพของดรีม คนรักของผมที่จากไปเพราะโรคร้าย...โรคหัวใจที่เธอปิดเอาไว้เป็นความลับมิให้ใครล่วงรู้ จนวินาทีสุดท้ายของชีวิตเธอ

       
       ผมเพิ่งได้เรียนรู้ว่าชีวิตของผมเมื่อขาดเธอไปแล้ว เหมือนกับขาดลมหายใจ ขาดสีสัน ขาดความร่าเริงสดใสของเธอที่ทำให้ผมยิ้มได้ตลอดเวลา จนตอนนี้ผมกลายเป็นคนเก็บตัว จนไม่มีใครอยากเข้าใกล้หรือยุ่งด้วยอีกต่อไป


       ไม่ว่าจะมองไปทางไหนผมไม่เห็นเลยสักคนที่จะมองกลับมา มองด้วยสายตาห่วงใย จริงใจ อย่างที่ผมเคยได้จากเธอ ตอนนี้ไม่มีแม้คนที่ผมเคยเรียกว่าเพื่อนคอยอยู่ใกล้ๆ ไม่ใครที่เข้าใจผม ไม่มีใครใส่ใจดูแล ความรู้สึกแบบนี้รึเปล่าที่คนเขาเรียกกันว่าความเหงา แล้วเมื่อไหร่ผมจะได้หลุดพ้นจากโลกใบนี้ โลกแห่งความว่างเปล่า โลกที่เรียกว่าโลกแห่งความเหงา


      ผมนั่งย้อนนึกถึงอดีต ครั้งที่ผมเคยมีความสุข มองโลกนี้สวยงาม นึกถึงคนที่ผมเคยรัก...ไม่สิ ต้องเป็นคนที่ผมรัก และจะรักตลอดไป ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แต่เหมือนฟ้าแกล้ง เมื่อผมยิ่งนึก ความทรงจำของเธอกับผมยิ่งค่อยๆเลือนรางลงทุกที


       ‘เอ๊ะ...ที่นี่ที่ไหนนะ ทำไมมันมืดจัง’ผมคิดในใจ แล้วทันใดนั้นก็มีแสงสว่างสีขาวนวลสาดส่องไปทั่วห้อง พร้อมๆกับมีภาพผู้คนมากมายปรากฏขึ้น และเดินผ่านหน้าผมไป

       ตุ๊บ!!!

       “ขอโทษค่ะ”เสียงหวานใสเอ่ยขอโทษเมื่อตนเองเดินมาชนผม

       “ไม่เป็นไรครับ...แล้วน้องเจ็บรึเปล่า”ผมเรียกเธอว่าน้องเนื่องจากเห็นแต่งชุดนักศึกษาแสดงว่าคงอ่อนกว่า เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาผมก็ต้องตกใจเพราะเธอคนนั้นคือ.....

       “ดรีม”ผมเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ เพราะคนตรงหน้าผม เธอคือคนรักที่เพิ่งจากผมไปเมื่อ 7วันก่อน

       “คุณรู้จักฉันด้วยหรอคะ”ดรีมถามขึ้น ทำให้ผมแปลกใจ ทำไมเธอถึงจำผมไม่ได้ ผมหันหน้าไปด้านข้างที่ร้านขายของที่มีกระจกเงาตั้งอยู่ ไม่จริง ตอนนี้ผมไม่ใช่ผมแต่เป็นใครไม่รู้

       ระหว่างที่ผมกำลังงงอยู่นั้น ชายคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามา แล้วโอบไหล่หญิงสาวไว้ คนๆนั้นมันคือ...ตัวผมเอง

       “ดรีม..ใครอ่ะ คนรู้จักหรอ”ผมงง ไปหมดแล้ว มันเกิดอะไรขึ้นกับผม

       “คงงั้นล่ะวิน...เพราะเขารู้จักดรีมอ่ะ”เอาไงดีล่ะทีนี้

       “คือพี่เป็น...พี่ที่โรงเรียนมัธยมไง จำได้ไหม”ดรีมทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะถามต่อว่า

       “แล้วพี่ชื่ออะไรล่ะคะ”ชื่อ วินคือสายลม สายลม...หนาว ฤดูหนาว วินเตอร์ ใช่ชื่อเตอร์เนี่ยแหละ

       “พี่ชื่อเตอร์ครับ”

       “อ่ะค่ะ..พี่เตอร์..โอเคค่ะ ดรีมจะจำไว้ แต่ตอนนี้ขอตัวก่อนนะคะ”พูดจบดรีมก็เดินจากไป ผมจึงเดินตามไปดู

       ผมตามติดทั้ง 2 คนมาเป็นเวลา 3 วัน ความทรงจำเกี่ยวกับดรีมที่เลือนราง เริ่มกลับมาชัดเจนอีกครั้ง ผมมีความสุขมากที่ได้เห็นดรีมยิ้ม หัวเราะ มีความสุข แต่ผมก็ยังไม่รู้ว่าตอนนี้ผมอยู่ในวันที่เท่าไหร่ ถ้าผมรู้ ผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ดรีมต้องตายจากผมไปเด็ดขาด

      และวันนี้ก็เป็นวันที่ 4 ที่ผมตามทั้ง 2 คน ผมเห็นวินคนนั้นพาดรีมไปกินข้าว ดูหนัง แล้วพาไปสถานที่แห่งหนึ่ง ผมจำได้ ที่ๆผมให้ของขวัญวันเกิดชิ้นสุดท้ายแก่ดรีมนั่นแหละ...ผมเห็นวินคนนั้นใส่สร้อยคอเงินให้ดรีม ผมอยากจะวิ่งเข้าไปบอกผมในตอนนั้นว่า อีก 2 อาทิตย์เธอจะตาย ถ้านายอยากให้เธออยู่นายต้องพาเธอไปผ่าตัดเดี๋ยวนี้

      แต่ทว่าในขณะที่ผมกำลังวิ่งเข้าไปผมรู้สึกว่าร่างของผมลอยสูงขึ้น...สูงขึ้นจนมองคนทั้ง 2 ไม่เห็น ผมกลับมาอยู่ในห้องมืดที่เคยอยู่มาก่อนที่จะไปเจอดรีม แล้วผมก็ได้ยินเสียงพูดมาจากที่ไกลๆว่า
       
       “จำวันที่เรามีความสุขด้วยกันไว้นะคะ เก็บไว้ในนั้นในใจคุณ ฉันอยู่เคียงข้างคุณเสมอในใจคุณ แล้วก็........”เสียงนั้นค่อยๆเบาลงและจางหายไปในที่สุด ประโยคสุดท้ายที่เธอพูดนั้นแผ่วเบาจนเกือบจะไม่ได้ยิน ก่อนที่แสงสว่างจะค่อยๆลอดเข้ามาในสายตาของผม


       “วิน...ลูกฟื้นแล้ว เป็นไงบ้างลูก”เสียงของหญิงวัยกลางคนพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วงบุตรชาย

       “แม่”เสียงแหบพร่าของชายหนุ่มพูดขึ้น

       “ใช่ แม่เอง เป็นอะไรรึเปล่าลูก เจ็บตรงไหน ปวดตรงไหนรึเปล่า”ชายหนุ่มยิ้มก่อนจะตอบคนตรงหน้า

       “ไม่ครับ ผมไม่เป็นอะไรครับแม่”

       “ลูกซูบไปเยอะเลยนะ เดี๋ยวแม่ไปต้มโจ๊กให้กินนะวิน”

      “ครับแม่”เมื่อชายหนุ่มพูดจบร่างบางก็เดินจากไป พร้อมกับอะไรบางอย่างที่ชายหนุ่มเริ่มเข้าใจ
       
       “ผมเข้าใจแล้วดรีม จริงของคุณ ผมยังมีคนที่คอยห่วงใยผม รักผม คอยใส่ใจดูแล ขอบคุณครับที่ทำให้ผมตาสว่าง”ใช่แล้วนี่ล่ะคือคำพูดที่จางหายไปในตอนนั้น ภายในฝันของผม........

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×