ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นิยาย ปฏิบัติการลับแก็งโอตาคุ

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 4 ช่วยเพื่อน

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 57





    ตอนที่ 4 ช่วยเพื่อน


    กำลังใจ

     

    “ ตื่นได้แล้วไอ้ป่าน!!” ฟางปลุกป่านที่ยังนอนหมดแรงอยู่กะเตียง ข้างๆมีโน้ตบุ๊คและโทรศัพท์ของเจ้าตัว ฟางไม่รู้จะทำยังไง เลยคว้าโทรศัพท์มาเปิดดูขึ้นรูปล๊อกหน้าจอเป็นผู้ชายสองคนกอดก่ายกันในสภาพไม่ใช่เสื้อผ้า แต่ไม่เห็นไอ้นั่นนะ ==!

    “ ไงฟางไอ้ป่านตื่นปะ” ข้าวโอ๊ตโผล่หน้ามาถาม วันนี้ข้าวโอ๊ตกับฟางตั้งใจว่าจะพาป่านออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกเพื่อที่จะได้ไอเดียมาแต่งนิยายอย่างว่า แต่ไอ้คนแต่งดันนอนต่อไม่รู้เรื่องแล้วมันจะไหวไหมเนี่ย

    “ ฉันจัดการเองแล้วฟางทำไรอ่ะ” ข้าวโอ๊ตถามเห็นฟางวุ่นๆกับโทรศัพท์ป่าน ฟางเปิดหน้าจอล๊อกของป่านให้ข้าวโอ๊ตดู ข้าวโอ๊ตถึงกับเงิบไม่คิดไม่ฝันว่ามือขวาตนจะตั้งรูปล๊อกแบบนั้น! ทำไม่เป็นฮิบาริก็ไม่รู้ -3-

    “ ไอ้ป่าน!!!!” ข้าวโอ๊ตร้องเรียก ป่านก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น

    “ ฮ่วยน้อ!คนจะนอน อย่าฟ่าวๆ” ป่านละเมอ

    “ ถ้าเอ็งไม่ตื่นตูจะไปซื้อการ์ตูน Yaoi คนเดียวน้า  ̴” ข้าวโอ๊ตร้อง

    “ การ์ตูน Yaoi!! O[]O” ป่านลุกขึ้นพรึ่บ วิ่งหอบเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ ก่อนจะออกมาเป็นเวลาเฉลี่ยสิบนาทีกะอีกสองวิ

    “ ไปกันเถอะไปซื้อการ์ตูน >_<” ป่านดี๊ด๊า ข้าวโอ๊ตเห็นแล้วอดขำไม่ได้เวลาอยู่กับคนไม่รู้จักเจ้าตัวจะเงียบนิ่งถามคำตอบคำ แต่พอได้รู้จักจริงๆแล้วแม่งโครตติ๊งต๊องเบย -_-

    “ ก็ได้ๆแต่ต้องไปที่ๆหนึ่งก่อน”

    “ ที่ไหนอ่ะ”

    “ เดี๋ยวก็รู้ไปกันฟาง”




     

     

    +++ ร้าน ของหวาน +++



    “ น่ากินอ่ะ อันนี้ก็น่ารักอ่า >.< อ๊ายๆ” ป่านระริกระรี้เมื่อมีของหวานมาเสิร์ฟไม่ว่าจะเป็น ลาวาช็อกโกแลต สตอว์เบอร์รี่ชีทเค้ก แพนเค้ก บลาๆล้วนแต่น่าทานทั้งนั้น


    “ แป๊บนะป่านมึงอย่ากินกูอัพรูปลง Facebook กับ Instargram ก่อน” ฟางถ่ายรูปขนมหวานๆทั้งหลายอย่างสนุกสนานโดยมีป่านเป็นนางแบบให้บ้างบางรูป ทิ้งให้ข้าวโอ๊ตนั่งมองตาปริบๆ

     

    ผู้หญิงสมัยนี้จะกินต้องอัพรูปก่อนรึไง กินๆไปก็จบ ฮ่วย





     

    [ โมโหหิวนะนั่นน่ะ ={}= ]

             







              “ นี่ๆดูนี่สิช็อกโกแลตลาวาล่ะ ซอสเยิ้มเบย >O<” ป่านผ่านกลางที่เค้ก ซอสช๊อกโก้ที่อยู่ข้างในค่อยๆไหลออกมา

              “ >O< อ๊าย   ̴<< ฟาง

    -_-;;<< ข้าวโอ๊ต

    “ พี่ข้าวโอ๊ตเป็นไรอ้ะ” ป่านถามข้าวโอ๊ตหลังจากที่ทำหน้าซังกะตายมานานสองนานแล้ว ปกติป่านจะเรียกชื่อข้าวโอ๊ตห้วนๆเฉพาะเวลาหงุดหงิดเท่านั้น แต่เวลาปกติแบบนี้ก็นำหน้าด้วยคำว่าพี่ตามอายุ


    “ เมื่อไหร่จะกินสักที”

    “ ที่แท้ก็โมโหหิว -..-/” ฟางบ่น มีหรือที่ข้าวโอ๊ตจะไม่ได้ยินจัดการตบหัวฟางไปดอกหนึ่ง


     

    ผลัวะ!



     

    “ โอ๊ย!เจ็บอ่า ทำอะไรก็ไม่รู้จะไปฟ้องพี่ธารให้คืนนี้จัดการให้หนักๆเลย” ฟางคาดโทษไว้ก่อนจะหันไปสนใจกับของหวานตรงหน้าก่อน ขนมวาฟเฟิลสีน้ำตาลอ่อนราดวิปปิ้งครีมด้านบนตกแต่งด้วยเชอร์รี่สีแดงสด ข้างๆกันมีไอศกรีมช็อกโกแลตอยู่คู่ข้างๆ ที่ขาดไม่ได้คงจะเป็นกาแฟสูตรเฉพาะของทางร้าน ส่งกลิ่นหอมเข้มไปทั่ว

    “ ไม่เกรงใจเลยนะ” ฟางคว้าส้อมสีเงินตักวาฟเฟิลเข้าปาก ทันทีที่ได้รับรสชาติหวานนุ่มหอมกลิ่นวานิลลา ความมันนุ่มเนียนของวิปปิ้งครีมเข้ากับรสชาติของเนื้อแป้งได้ดี ความลงตัวอันเป็นเอกลักษณ์ของขนมวาฟเฟิลที่ใครลองก็ต้องติดใจ สมกับเป็นร้านอันดับหนึ่งของวัยรุ่นในย่านนี้เลยทีเดียว

    “ ฟางกินก่อนน่ะมือยังคาโทรศัพท์อยู่เลยชิมมั้ง” ป่านตักช็อกโกแลตลาวาเข้าปาก เนื้อนุ่มเนียนหวานเข้มผสมผสานกับซอสช็อกโกแลตเยิ้มๆที่ค่อยๆละลายในปาก รสหวานกระจายไปทั่ว เอาอะไรมาฉุดก็ไม่อาจจะพรากวิญญาณเธอไปได้

    “ ดูมันกินซะ T^T” ข้าวโอ๊ตมองขนมหวานที่วางอยู่บนโต๊ะเล็กๆสีขาวนวล ที่เหลือก็มีชีสเค้กสตอว์เบอร์รี่ แพนเค้กราดด้วยซอสผลไม้รวม โกโกร้อน คุ้กกี้นมสดกับไอศกรีมนม

    “ ทำไมไม่กินอ่ะพี่ข้าวโอ๊ตของหวานน่ะของชอบมิใช่หรือ” ป่านถาม ข้าวโอ๊ตมองตาปริบๆย้อนไปเมื่อคืนที่ผ่านมาตอนที่ธารกับเขากำลัง...กันอยู่ จู่ๆไอ้ธารก็พูดลอยๆออกมาว่า ตัวหนักขึ้นหรือเปล่าเท่านั้นแหละ เป็นจุดประกายที่ทำให้ผู้ชายโอตาคุเกมส์จีบหญิงอย่างเขาต้องไดเอตโดยด่วน เพราะฉะนั้นของหวานห้ามแตะ!!

    “ พวกเธอกินไปเถอะ พี่รอได้ T_T” ข้าวโอ๊ตฝืนยิ้มมองภาพสาวๆกำลังตักขนมหวานเข้าปากคำแล้วคำเล่า จำนวนของหวานบนโต๊ะค่อยๆหมดไปทีละน้อย ส่วนเขาได้แต่จิบน้ำเปล่ามองขนมเหล่านั้นตาปริบๆ




    ขนมของข้าวโอ๊ตตตตตตต   ̴ TOT




     

    “ อ่า..อิ่มแล้ว >O<” ทันทีที่คำสุดท้ายจบลง สองสาวก็ดูดน้ำจ๊วบๆ ข้าวโอ๊ตเหลือบมองขนมในจานก็แทบถอนหายใจ ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องแถมยังต้องไดเอตอีก เกิดเป็นข้าวโอ๊ตเม็ดน้อยๆชีวิตช่างหน้าเศร้า


    “ เป็นอะไร” ป่านถาม หลังจากที่เห็นข้าวโอ๊ตนั่งเงียบผิดปกติของหวานไม่แตะ แต่ตานี่มองแบบถ้าจะแดกหัวเธอได้คงแดกไปแล้วล่ะ สงสัยจะหิวจัด เพราะอะไรเธอก็ไม่ทราบ

    “ เปล๊า! ^^

    “ ทำไมต้องเสียงสูง”

    “ อะ..เอ่อ..”

    -_+

    “ คะ..คือ” ข้าวโอ๊ตสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ ป่านกับฟางว่าพี่อ้วนขึ้นหรือเปล่า” ข้าวโอ๊ตถาม สองสาวมองหน้าเขาอย่างอึ้งๆก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมายกใหญ่

    “ โอ๊ย..ใครบอกพี่ข้าวโอ๊ตเนี่ย อยากจะขำให้กลิ้งถ้าอย่างพี่ข้าวโอ๊ตอ้วนนะโลกนี้คงไม่มีผอมแล้วล่ะ” ฟางหัวเราะออกมาอย่างเสียงดัง ข้าวโอ๊ตอยากจะกระชากหัวมาบอกจริงๆว่าพี่ชายแกนั่นแหละ อีหัวแดง!!!

    “ ขำอ่ะ..ก๊ากกกกกกก... โอ๊ย.. แป็บนะ...ฮามากกกกกกกกกกกกกกกกก >_< อะไรทำให้คิดไปได้เนี่ยพ่อทูนหัวของพี่ข้าวฟ่าง ตัวเองอ้วนขึ้นหรือเปล่าผมเนื้อติดกระดูกแบบนี้เนี่ยนะอ้วน โอ๊ย..กูขำ” ป่านหัวเราะออกมาถึงเสียงจะดังไม่เท่าฟางแต่ระดับความสะใจมีมากกว่า

    มีการพาดพิงถึงพี่สาวฝาแฝดเขาด้วยแล้ว แทบอยากจะเอายัยนี่ไปลนไฟ จัดการเผานิยายวายมันทิ้งไหมเนี่ย แล้วผิดหรือไงที่เขาจะถามว่าตัวเองอ้วนไม่อ้วน อย่างน้อยก็ไม่เหมือนผู้หญิงบางคนเช้าชั่งกิโลเย็นก็ชั่งอีก พอน้ำหนักขึ้นเครียด ออกกำลังกายหักโหมผลสุดท้ายนอนหยอดข้าวต้มที่โรงพยาบาล =_= ข้าวโอ๊ตคิด

    “ ทำไมต้องขำด้วยใช่สิเรามันไม่ใช่คนสำคัญสินะ” ข้าวโอ๊ตว่าใส่ก่อนจะกอดอกหันหลังงอนๆใส่ ถ้าไม่มาง้อก็จะไม่หายงอนด้วย เชอะ!

     

     

    “ แกคิดเหมือนฉันไหมบีหนึ่ง”

    “ ฉันก็คิดเหมือนนายเลยบีสอง”

    “ ใช่ไหมบีหนึ่งข้าวโอ๊ตตั้งแต่มีผัวเป็นตัวเป็นตนระดับความเป็นผู้หญิงมันเพิ่มขึ้น”

    “ ถูกต้องเลยบีสองพอมีผัวแล้วเหมือนช่วงนี้จะแต๋วจัด”

    “ ไม่ใช่แต๋วธรรมดาถ้าเป็นไปได้ชีคงอยากไปทำศัลยกรรมเสริมนม เฉาะไอ้นั่นทิ้ง!

    “ หลังจากนั้นก็จะไปซื้อชุดชั้นในรัดรูปเอาให้รัดหน้าอกติ้ว กางเกงขาสั้นเสมอหู...”

    “ เฮ้ย!!พูดอะไรกูได้ยินนะ” ข้าวโอ๊ตว่า บังอาจมาหาว่าเขาเป็นตุ๊ดแต๋วกะเทยเกย์เก้งกวางไปได้

    “ โทษที..” ป่านตอบ

    “ ฮึ่ย!..”

    “ บีหนึ่งอิฉันคิดว่าข้าวโอ๊ตจะต้องรอเราไปง้อแน่ๆเลย”

    “ คิดเหมือนกันเลยบีสองแล้งเราต้องไปง้อไหม”

    “ ไม่ต้องหรอกบีหนึ่งเราออกจากร้านกันเถอะ” ฟางกระซบเบาๆก่อนจะค่อยๆลากป่านออกไป เดินออกจากร้านไปอย่างช้าๆเนิบๆ

     

    โป๊ก!!

     

     

    ฟางเปิดประตูแต่ขอบชนกับหัวตัวเอง ข้าวโอ๊ตหันขวับเห็นสองสาวจะชิ่งออกจากร้าน เขาวางเงินแล้ววิ่งตาม ฟางลากป่านวิ่งมาเรื่อยๆโดยมีข้าวโอ๊ตวิ่งตามมาติดๆ ประมาณว่าใครขายาวได้เปรียบ.. ป่านสะลัดมือฟางทิ้งกระโดดหลบที่พุ่มไม้ข้างทางคิดในใจว่า ทำไมฉันต้องหนีด้วย

    “ อ้าวไอ้ป่านหาย” ฟางเกาหัวแกรกๆแต่หางตาเหลือบเห็นข้าวโอ๊ตวิ่งตามมาเธอจึงต้องวิ่งไปก่อน

    หลังจากที่สองคนนั้นวิ่งหายลับไปกับหมู่ผู้คนแล้ว ป่านออกมาจากพุ่มไม้มองซ้ายมองขวาไม่เจอใคร เธอเดินไปเรื่อยๆปล่อยตัวให้สบายๆ



     

    เปาะแปะ...



     

    ซ่าาาาาา

     


     

    “ ฝนตกแฮะ” ป่านว่าแต่ถึงฝนจะตกอย่างไรในหน้าร้อนแต่เธอก็รู้สึกมีความสุขเพราะเป็นช่วงเวลาที่เราได้ทบทวนอะไรดีๆ เธอกางร่มสีชมพูใสเพ้นท์ลายคิตตี้อย่างน่ารักเดินไปเรื่อยๆจนจะถึงสถานี ช่วงเวลาที่เธอเดินอย่างเนือยๆก็คิดถึงเรื่องเมื่อวานจะให้แต่งนิยายอย่างนั้นหรือ..ไม่รู้ว่าท่านผู้นั้นคิดอะไรอยู่กันแน่ เขาต้องการอ่านนิยายไปทำไม อยากลองของใหม่หรือแนวใหม่ๆอย่างนั้นหรือ เธอคิดไปคิดมา..

    ใช่แล้ว ตอนนี้ไม่ควรจะคิดหาเหตุผลว่าทำไมท่านผู้นั้นถึงสั่งแบบนี้มากกว่า เวลานี้ควรจะหาเรื่องที่จะแต่งดีกว่า แล้วพลันสาตาของป่านก็สะดุดกับต้นไม้ใหญ่สีเขียวอ่อนแซมสีเขียวเข้ม หยดน้ำที่ริณไหลจากยอดไปร่วงลงสู่พื้น ใบไม้สีแดงเองก็เช่นกันสักวันมันก็ต้องเป็นสีน้ำตาลแล้วร่วงหล่นไปเช่นกัน น่าแปลก...ที่จ้องใบไม้เหล่านั้นนานๆกลับรู้สึกว่าใบไม้นั่นเหมือนกันสลัด ใบสีเขียวอ่อนก็เหมือนผักกาดแก้ว ใบสีเขียวเข้มก็เหมือนกับบล็อกโคลี่ ส่วนใบสีแดงๆนั่นก็เหมือนมะเขือเทศ เป็นสลัดที่มีสีสันใช้ได้ทีเดียว...


     

    สลัดหรือ......

     









     

    สลัด...







     

    ขบวนการโจรสลัด โกไคเจอร์...

     





     

    เธอคิดถึงขบวนการซุปเปอร์เซนไตขบวนการที่สี่สิบห้าอันเป็นขบวนการที่รวบรวมตั้งแต่ขบวนการแรกจนถึงปัจจุบัน มีเรื่องราวเกี่ยวกับเหล่าโจรสลัดที่ออกเดินทางตามหาสมบัติแห่งจักรวาล......

    ป่านรู้สึกกระปี้กระเป่าขึ้นมาในที่สุดเธอก็สามารถหาเรื่องแรกแล้ว ไว้กลับไปที่หอรีบแต่งต่อเลยดีกว่า เพราะตอนนี้ภาพการเดินทางของโจรสลัดในแบบฉบับของเธอลอยเข้ามาในหัวแล้ว





     

    ฝีเท้าเร่งจังหวะความเร็วยิ่งขึ้น เธอวิ่งไปข้างหน้า ตอนนี้ฝนเริ่มหยุดตกแล้ว เธอยังคงวิ่งต่อไปต่อให้เท้าเหยียบแอ่งน้ำจนกระเด็นโดนกระโปรงสีพีทคลุมเข่าเธอก็หาสนใจไม่

     

     


     

    ..............

     










     

     

    “ คิดออกแล้วโว้ยยยยยยยยยยย!!!” ป่านผลักประตูออกมาร้องลั่นด้วยความดีใจ ในตอนนี้มีเพียงแค่นัท เกรท ฟ้าครามและไอรีนที่อยู่ในห้อง คนอื่นๆออกไปเรียนกับทำธุระกันหมด ป่านวิ่งเข้าห้องของตัวเอง (ความจริงห้องนั้นนอนกันเฉพาะผู้หญิงอ่ะนะ หอพักจะมีสามห้องว่างๆในห้องเดียวคือห้องนอนสองและห้องโถงหนึ่ง ห้องน้ำสอง ส่วนห้องครัววางอุปกรณ์ไว้ตรงมุม) คว้าเจ้าโน๊ตบุ๊คคู่ใจขึ้นมาพิมพ์เนื้อหาที่มีอยู่ในหัวลงไป โดยที่เธอจะใช้ตัวเองและเพื่อนๆเป็นตัวดำเนินเรื่อง เรื่องนี้มันจะต้องทั้งบ้า และรั่ว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ^O^




     

    [ ทางด้านข้าวโอ๊ตและฟาง ]


    “ โอ๊ย..เหนื่อยฉิบหาย” ข้าวโอ๊ตที่วิ่งตามฟางมา วิ่งมาได้สักพักเพิ่งรู้ว่าป่านหายไป แต่ช่างยัยนั่นเหอะชอบปลีกตัวไปโน้นนี่คนเดียวอยู่แล้ว ข้าวโอ๊ตทิ้งตัวลงบนเก้าอี้สาธารณะอย่างหมดแรง มองซ้ายมองขวาเห็นว่าตอนนี้ไม่มีใครแล้ว เขาจึงนอนบนเก้าอี้ด้วยท่าฟรีสไตล์...

     

     

    Zzzzzzzzzz

     

     

    “ ข้าวโอ๊ตเปล่าววะ” ธารหรี่ตามองยังร่างๆหนึ่งที่นอนอ้าซ่าบนเก้าอี้สาธารณะ วันนี้เขาออกมาเอางานอาจารย์มาส่งถึงจะเส้นตายก็ตามที ใครมันจะไปเหมือนไอ้ข้าวโอ๊ตกันสั่งวันนั้นรุ่งขึ้นเอามาส่ง! และตอนนี้เขากำลังจะหาซื้อขนมไปฝากเจ้าตัวหน่อย ไม่รู้ป่านนี้แผนการทำให้ไอ้ป่านปิ้งไอเดียจะเป็นอย่างไร คือเอาจริงๆเขาก็กะจะเอาขนมไปฝากป่านเหมือนกัน เดี๋ยวหล่อนจะโมโหหิวแล้วเอาไปเขียนเป็นเรื่องเป็นราวแต่งให้เขาไปจูบกับกบไรแบบนั้น -_-

    ธารไม่แน่ใจแต่ก็ไม่อาจจะเสียเวลามากมายเพราะต้องรีบกลับหอจึงเดินเลี่ยงไปไม่ได้สนใจอะไรอีก

     

    สาววัยรุ่นผมสีแดงเพลิงสยายวิ่งออกมาถึงหน้าร้านเซเว่นมองซ้ายมองขวาจนแน่ใจว่าข้าวโอ๊ตไม่ตามมาจึงเข้าไปนั่งพักในเซเว่น เอามือปัดให้อากาศเย็นขึ้น ถึงแม้ว่าจะเจอสายตาอาฆาตของพนักงานเซเว่นในร้านแต่เธอก็ไม่สนนั่งพัดจนเย็นขึ้นความร้อนในร่างกายหายไปกลับถูกแทนที่ด้วยความเย็น ฟางซื้อโจ๊กกระป๋องหนึ่งเติมน้ำแล้วจ่าตังค์นั่งกินอยู่ในร้าน

     

     

    เปาะแปะ...

     

     

    ซ่าาาาาา

     



     

    ข้าวโอ๊ตลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกถึงหยดน้ำกระทบที่แก้มตน เขามองท้องฟ้าสีครามที่ตอนนี้กลายเป็นสีเทาพร้อมหยดน้ำเล็กๆที่สาดเทลงมา เขาถอนหายใจเดินดุ่มๆที่เซเว่นใกล้ๆ เขาเดินเข้ามาในร้านพร้อมเสียงของพนักงานสาวในร้านที่พูดพร้อมกันว่า

    “ ยินดีต้อนรับค่ะ!!” แทบจะแย่งกันพูด ก็ใครใช้ให้ข้าวโอ๊ตหน้าตาดีกันล่ะ ข้าวโอ๊ตยิ้มรับน้อยๆกะจะพุ่งตรงไปที่มุมขนมขอบเคี้ยวพลันสายตาสะดุดกับร่างผู้หญิงผมสีแดง ผิวขาวๆหน้าตาคล้ายๆแฟนของเขา เธอกำลังตักโจ๊กเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยหน้าฟินเต็มที่ เขามองด้วยสายตาสมเพชนิดๆก่อนจะหยิบขนมมาสามสี่ซองจ่ายเงินแล้วเดินออกไป

    ข้าวโอ๊ตมองเศษเหรียญบาทสลับกับเครืองชั่งน้ำหนักหน้าเซเว่น ว่าจะชั่งเหรือไม่ชวนให้นึกถึงคำพูดของคนรักเมื่อคืนว่าเขาหนักขึ้น เขาตัดสินใจเหยียบขึ้นบนเครื่องชั่งวันนี้เขาใส่เสื้อยืดกางเกงยีนต์ทับด้วยเสื้อกันหนาว รองเท้าก็รองเท้าผ้าใบธรรมดาไม่ได้หนักอะไรพอชั่งน้ำหนักได้

    เขาหยอดเหรียญบาทลงในช่องหยอดเหรียญ ตัวเลขสีแดงบนหน้าจอเปลี่ยนไปมาเขาจ้องมันด้วยความระทึกหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ จะน้ำหนักขึ้นไหมเนี่ย! โอ๊ย กังวลโว้ยยยยยยยยย!!!!



    ติ๊ก

     

    65. 3 กก.

     

    ลดลงไป 0.7 กิโล!!!!








     

    O[]O

    ไอ้เหี้ยธาร!!!!!!







    เบาสบถในใจอย่างดัง ก็ไหนมันบอกว่าน้ำหนักเขาขึ้นไงเล่า ทำไมถึงลดไปเกือบโลแบบนี้วะ! เขาหัวเสียแกะถุงเลย์แล้วโยนเข้าปากเคี้ยวตุ่ยๆด้วยความโมโห หนอยไอ้บ้าคอสเพลย์บังอาจมาหลอกเขาได้ กลับไปนะจะบิดหูให้แดงเลย ฮึ่ม! มันน่านัก!!!!

     

     

    “ บรื๋อออออออ  ̴รู้สึกแปลกๆวะ =_=^” ธารลูบแขนตัวเองเบาๆรู้สึกหนาวแปลกๆอย่างไรไม่รู้   มันรู้สึกร้อนๆหนาวๆสลับกันไปมาอยู่แบบนี้ทั้งๆที่เมื่อกี้ๆไม่รู้สึกอย่างว่าเลย“ ไม่มีอะไรหรอกมั้งฝนตกอยู่นี่หว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้”  เขาปลอบตัวเอง แต่กลับรู้สึกว่ากลับหอคราวนี้มันต้องมีอะไรแน่ๆเลย....


     



     

    ติดตามตอนต่อไป
     

    comment


     

    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×