คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เลือดหยดที่ 1:ผู้มาเยือนยามรัตติกาล
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว นิทานนั้นสนุกสะใจ เดี๋ยวนะ รู้นะ ไม่เชื่อกันล่ะสิ? คงนึกถาม หนูน้อยหมวกแดงกระโดดโลดเต้นอยู่ในป่าเนี่ยนะสนุกสะใจ? ไม่เชื่อหรอก
ว่าในนิทานบทนี้แทบไม่เหลือเค้าโคงของหนูน้องหมวกแดงที่พวกคุณๆเคยรู้จัก อ้อ!แถมยิงไรเฟิลไล่ฆ่าหมาป่าและกระซวกไส้คนได้อย่างหน้าตาเฉยและไม่สนใจใครด้วยนะ!
เอาล่ะได้เวลาที่คุณต้องฉีกกระชากเนื้อเรื่องนิทานเก่าๆและโครตน่าเบื่อที่คุณรู้จักมาแล้วมาอ่านนิทานเรื่องนี้ดีกว่า เอ๋?ทำไมคุณไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มากอ่นงั้นเหรอ?ก็รู้ๆกันอยู่เพราะมันมีคนเล่าเรื่อง จากนั้นก็มีอีกคนเล่าต่อมา เล่าต่อกันไปเรื่อยๆจนเนื้อเรื่องมันเริ่มเพี้ยน ต่อมาพอพ่อแม่มาเล่าเป็นนิทานก่อนนอนให้ลูกๆฟังก็โดนตัดฉากน่ากลัวออกไปหรือก็คือตัดส่วนที่สนุกที่สุดออกไปนั่นแหละ!!บ้ามากๆเลยใช่มั้ยล่ะ!!? ท้ายสุดคุณก็ได้ฟังแค่หนูน้อยหมวกแดงที่กระโดดโลกเต้นอยู่ในป่า เอาขนมไปเยี่ยมคุณยาย น่าเบื่อเสียจนอยากหาหมอนนุ่มๆมานอนซะให้รู้แล้วรู้รอด
นี่ๆอย่าเพิ่งทำหน้าเบ้แบบนั้นสิฉันเลิกพล่ามแล้วก็ได้งั้นมาฟังนิทานกันเถอะเรื่องราวของหนูน้อยหมวดเลือดนาม ‘อเลซซ่า’ นิทายที่แสนสั่นประสาทและกวนประสาทได้ในเวลาเดียวกัน คุณจะค้นพบกับกุหลาบสีแดงที่เบ่งบานท่ามกลางซากศพ
เลือดหยดที่ 1:ผู้มาเยือนยามรัตติกาล
เด็กสาวผมบลอนพริ้วสลวยเดินอย่างไร้จุดหมายมาจนถึงเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งและท่าทางเมืองนี้จะไม่ใช่เมืองที่ดีเท่าไรนักเพราะมีทั้ง ซ่องการพนัน สิ่งเสพติด มั่วผู้หญิง และ อื่นๆอีกมากมายเด็กสาวที่ท่าทางบริสุทธิ์อย่างเธอจึงดูไม่เข้าพวกเอาเสียเลย นัยน์ตาสีมรกตมองไปรอบๆอย่างพินิจพิเคราะห์ก่อนจะไปชนกับชายร่างอ้วนผิวหมึกและกลิ่นตัวยังกับถังขยะสดที่หมักมา 1 เดือนเต็มๆยังไงยังงั้นเด็กแล้วแอบสบถเบาๆก่อนจะคลี่ยิ้มอย่างเป็นมิตรตามแบบฉบับของเธอ
“ขอโทษจริงๆค่ะฉันเดินไม่ดูทางเอง”
อเลซซ่าพยายามจะเดินออกไปแต่ชายอ้วนท่าทางไม่ยอมเลิกลาง่ายๆและยังคงตามราวีไม่เลิกรามือใหญ่ๆที่เต็มไปด้วยไขมันส่วนเกินบับไหล่บางของสาวน้อยจนเสื้อคลุมสีแดงเกิดรอยเปื้อนเล็กน้อยเด็กสาวแสยะยิ้มชวนขนลุกกว้าง
“จะหนีไปไหนไม่ทราบสาวน้อยมาเดินชนแบบนี้เรื่องไม่จบง่ายๆนะ”
นัยน์ตาสีมรกตจ้องมองรอยเปื้อนที่เสื้อคลุมของเธออย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะตวัดมีกที่ซ่อนอยู่ในเสื้อคลุมสีแดงฉานออกมาและเฉือนไปที่นิ้วอ้วนจนขาดสะบั้นรอยเปื้อนโดนแทนที่ด้วยโลหิตสีแดงกลิ่นคาวคละคลุ้งเด็กสาวไม่รอช้านำมีดสีเงินเย็นเชียบวาววับเฉือนหลอดลมของชายร่างอ้วนทันทีเพราะเธอไม่ต้องการได้ยินเสียงกรีดร้องของคนชั้นต่ำมันน่ารำคาญและไม่ไพเราะเสนาะหูเอาเสียเลยมีดสีเงินชักออกจาปากแผลทำให้เลือดสีแดงกระเซ็นพุ่งทั่วตัวของเธออีกครั้งมือเรียวยกขึ้นมาเลียเลือดที่ติดตามแขน
“เลือดของพวกชั้นต่ำนี่รสชาติห่วยแตกจริงๆ”
เด็กสาวเตะศพของชายร่างอ้วนที่ไร้ซึ่งวิญญาณเบาๆแล้วเดินสำรวจต่อไปอีกที่นี่ช่างแลดูไม่มีอะไรน่าสนใจเลยสักนิดเดียว เด็กสาวถอนหายใจอย่างเบื่อสุดขีดทั้งๆที่คิดว่าจะหาอะไรสนุกๆทำแท้ๆแต่กลับมีแต่ความน่าเบื่อ เด็กสาวหยิบคมมีดเปื้อนเลือดมาดูแวบหนึ่งแล้วเดินออกไปจากบริเวณนั้น
นัยต์ตาสีสวยเหม่อมองท้องนภาสีหม่นแล้วนำหมวกสีเลือดมาคลุมเรือนไหมสีทองที่อยู่บนหัวทันที
ท่าทางพายุจะเข้าสินะ...
เด็กสาวร่างเล็กเดินเข้ามาในโรงแรมโกโรโกโสแห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอับและตัวอาคารที่เก่าชนิดที่ว่าจะพังลงมาทับแขกและพนักงานที่พักอยู่เมื่อใดก็ไม่อาจจะทราบได้ บวกกับพนักงานหญิงที่จ้องมาทางเธอยังกับไปทำอะไรให้เขาแค้นมาชาติกว่าถ้านางคนนั้นเป็นหมาคงพุ่งมากัดเธอแล้วกระมัง ถ้าไม่ใช่เพราะอีกไม่นานข้างนอกนั่นจะมีพายุเข้าและต่อให้เธอวิ่งเต็มฝีเท้าก็คงไปเมืองต่อไปไม่ทันเวลาที่พายุจะเข้ามาแล้วให้ตายยังไงก็คงไม่มาพักที่นี่เด็ดขาด เด็กสาวเดินมาหน้าเคาน์เตอร์และรีบขอพักในห้องที่ว่างทันทีเธอรับกุญแจที่โดนโยนมาให้แล้ววางถุงเงินให้พนักงานพร้อมเดินไปที่ห้องพักของเธอในทันที
ห้อง 404 เป็นห้องที่เลขสวยดีจริงๆเด็กสาวเช็ดผมสีทองยาวสลวยถึงเอวของเธอหลังจากอาบน้ำที่ห้องน้ำในห้องพักของธอเสร็จเวลานี้พายุได้ซัดเข้ามาแล้วร่างเล็กทิ้งตัวลงนอนบนเตียง...ช่างเป็นเตียงที่เก่าโทรมจริงๆทำเอาเธอต้องถอนหายใจอีกเฮือกใจใหญ่ๆกับที่พักของเธอในค่ำคืนนี้ ร่างบางเดินไปตรวจสอบกลอนประตูและหน้าต่างว่าเรียบร้อยดีหรือไม่แล้วก็ไม่ลืมที่จะซ่อนมีดเอาไว้ในชุดเพราะหากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันหรืออะไรประมาณนั้นเกิดขึ้นกับเธอเธอจะได้นำมีดนี่กระซวกไส้ผู้ประสงค์ร้ายให้ตายห่าไปซะ
นาฬิกาหมุนวนจนถึงเวลาตี 2 เปลือกตาค่อยๆขยับขึ้นเมื่อรู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังบุกรุกห้องพักของอยู่!! มือเรียวคว้าจับมีดสีเงาวาววับเย็นเชียบใต้เสื้อ ก่อนจะไปสะดุดตาที่เรือนผมและสีตาของผู้บุกรุกที่คุ้นตา
“แบล็ก?”
อเลซซ่าเอ่ยเรียกนามของผู้บุกรุกร่างสูงโปร่งเดินออกมาจากมุมมืดเงาแสงจันทร์ตกกระทบให้เห็นดวงตาสองสีข้างซ้ายมรกตและข้างขวาสีแดง และเรือนผมสีดำราวกับท้องนภายามรัตติกาลดำสนิทเหมือนชื่อของเขาไม่มีผิดราวกับเป็นความมืดมิดที่ไร้ก้นบึ้ง ความมืดที่สามารถกลืนกินได้ทุกสิ่ง...
“ไม่ได้เจอกันนานนะ...อเลซซ่า”
เสียงทุ้มหล่อที่แอบแฝงไปด้วยความยียวนกวนประสาทเอ่ยทักเด็กสาวพร้อมทั้งโปรยยิ้มให้ อเลซซ่ารีบพูดเข้าประเด็นโดยไม่รอช้าทันที
“มีธุระอะไร?” เสียงใสเอ่ยถามทันทีโดยไม่รีรอให้อีกฝ่ายจูงออกนอกทะเลไปมากกว่านี้
“แหมๆยังเย็นชากับผมเหมือนเดิมเลยน้า~~เสียใจจัง~แต่เอาเถอะ แค่จะมาแจ้งข่าวให้เธอรู้เท่านั้นเอง....ผนึกปีศาจน่ะโดนทำลายไปอีกจุดแล้วล่ะ”
แบล็กพูดถึงจุดประสงค์ว่าทำไมตัวเองถึงมาหาเธอที่นี่แล้วยักยิ้มกวนๆให้อเลซซ่าอีกหนึ่งทีแล้วเดินไปนั่งที่หน้าต่าง พร้อมทั้งเหลือบมองนาฬิกาแขวนที่อยู่ในห้องพักแล้วยื่นใบปลิวอะไรบางอย่างให้แก่อเลซซ่า และเหม่อมองไปยังท้องฟ้าที่มืดสนิท
“สถานที่คาดว่าผนึกต่อไปอาจโดนทำลายคือที่นี่ เมืองต่อไปที่เธอจะไปไงที่นั่นมีการแข่งขันคานิวัลเกมอยู่พอดีและอาจจะมีเหตุไม่คาดฝันก็ได้นะ”
มือเรียวหยิบใบปลิวขึ้นมาดูอย่างพินิจพิเคราะห์ แล้วคลี่ยิ้มบางๆและหันไปมองแบล็ก ในที่สุดก็อาจจะได้กำจัด ‘พวกมัน’ แล้วก็ได้ เด็กสาวรู้สึกดีใจที่ในที่สุดก็มีเรื่องสนุกๆให้ทำหลังจากต้องถอนหายใจอย่างเซ็งๆที่เจอพวกชั้นต่ำมาแล้วหลายคนในวันนี้
“ขอบใจที่เอาข่าวมาบอกแล้วกันนะ~คุณตัวตลก”
“เรื่องเล็กน่อยขอรับเพราะการบอกข่าวสารให้ลูกค้าของผมทุกท่านได้รับทราบคืองานของปิเอโร่อย่างผมอยู่แล้วถ้างั้นไว้เจอกันใหม่ในโอกาสน่า...ราตรีสวัสดิ์ขอรับ..”
ร่างสูงโปร่งโค้งคำนับอย่างสุภาพก่อนจะหายไปสายหมอก อเลซซ่าล้มตัวลงนอนแล้วมองไปยังนาฬิกาอีกครั้ง..ตี 3 แล้วเหรอเนี่ย? เวลาเดินผ่านไปอย่างรวดเร็วจริงๆแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็แทบจะรอให้ไปถึงเมืองต่อไปไหวแล้ว ในที่สุดตะวันก็ท่อแสง เด็กสาวรีบเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมและออกเดินทางทันที
ขาเรียวรีบก้าวหมายจะรีบไปให้ทันเวลาการแข่งขันเริ่มแต่ก็ต้องเจอปัญหาอีกจนได้ในเมืองโกโรโกโสแบบนี้ปัญหาก็ไม่มีอะไรมากพวกนักเลงกับโจรกระจอกนั้นแหละ เด็กสาวโดนหาเรื่องอีกครั้งทำเอาเธอหงุดหงิดขึ้นเป็นสองเท่าจากเมื่อวานเพราะตอนนี้เธอต้องการจะไปงานแข่งขันให้เร็วที่สุด ริมผีปากอมชมพูเม้มแน่น ก่อนจะทำการนำมีดสีเงินตัดใบหูของผู้ที่มาหาเรื่องในทันทีแต่เธออยากเก็บแรงเอาไว้ก่อนก็เลยยังไม่เอาถึงตาย มือเรียวคว้าจิกหนังหัวมันเยิ้มของบุคคลที่มาหาเรื่องแล้วกระซิบไปยังหูข้างที่ไม่ได้โดนตัด
“ถ้าคราวหน้าโผล่มาให้ฉันเห็นอีกล่ะก็แกเตรียมตัวเป็นศพได้เลย”
คำขู่เสียงเย็นเรียบที่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะหลุดออกมาจากปากเด็กสาวในชุดคลุมสีแดงที่ท่าทางไร้เดียงสาคนนี้ได้ มือเล็กตวัดคมมีดไปที่คอของนักเลงผู้โชคร้ายแล้วแกล้งกดลงไปเบาๆเหมือนจะปาดให้คอหอยขาดสะบั้น จนนักเลงผู้นั้นฉี่ราดเลยทีเดียว เด็กสาวชักคมมีดออกและเก็บมีดหรืออาวุธประจำกายของเธอเข้าเสื้อคลุมทันที
ให้ตายสิ ไอ้กระจอก!
เด็กสาวรีบก้าวเดินไปเรื่อยๆอีกเพื่อที่จะไปยังเมืองต่อไป อเลซซ่าหยิบจี้ห้อยคอที่คล้อยรูปกระจกมาดูแวบหนึ่ง และยิ้มบางๆ
กระจกผนึกเลือดนี่...อีกไม่นานก็จะได้เลือกของไอ้ปีศาจที่ฆ่าพ่อกับแม่ได้แล้วนะคะ..
นี่น่ะมันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเพราะความบ้าคลั่ง บิดเบี้ยว ผิดเพี้ยน และ วิปริตของเธอที่แสดงในตอนนี้น่ะ...มันยังไม่ถึง 1 % เลยของทั้งหมดด้วยซ้ำ!! เอาล่ะมาติดตามกันต่อเถอะว่าเรื่องราวต่อไปจะดำเนินไปในทิศทางไหน..
to be continued
คนเล่านิทานปิดหนังสือลงแล้วเอื้อมนิ้มแตะริมฝีปาก
อยากฟังต่อกันแล้วเหรอ?แต่ตอนนี้เวลาหมดแล้วล่ะไว้ค่อยเจอกันใหม่ในคราวหน้าแล้วกันฉันรับประกันได้เลยว่าเรื่องราวของอเลซซ่าน่ะสนุกสุดๆแน่ก็นี่มันไม่ใช่หนูน้อยหมวกแดงแต่เป็นหมวกเลือดนี่นา!! งั้นก็ไว้เจอกันคราวหน้า พร้อมพบกับความบ้าคลั่งของเธอได้
และแน่นอนว่าทุกหน้าของหนังสือนิทานนี้....เลือดท่วม
BlackForest
ความคิดเห็น