ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] BTS-Kookmin > IsolateP

    ลำดับตอนที่ #23 : SF|Sole -Kookmin [60%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.06K
      6
      25 มี.ค. 58

    Sole

    Pairing 
        |  Kookmin
    Category | Romantic-Drama
    Rate        |  PG 13+

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    แสงแดดยามเช้ากระทบใบหน้าหวานทำให้ต้องลืมตาตื่นอย่างช่วยไม่ได้ ตาเรียวเล็กกระพริบถี่เพื่อปรับสายตาให้เข้ากับแสงในขณะนี้ แขนขาวที่ถูกคลุมไว้ด้วยเสื้อยืดสีเหลืองอ่อนดันผ้าห่มสีกรมท่าออกจากตัว เขาลุกขึ้นคว้าเสื้อโค้ทข้างเตียงมาสวม หยิบกระเป๋าเป้ขึ้นมาสะพาย และเดินออกจากห้องที่ผนังและพื้นห้องถูกแต่งแต้มไปด้วยสีขาว มีเพียงเตียงสีน้ำเงินตั้งอยู่เท่านั้น จุดสีน้ำเงินท่ามกลางพื้นที่สีขาวคือรอยด่างพร้อยในอดีต

    “ห้อง118ครับ”

    “ครับ.. คุณปาร์ค จีมินนะครับ ค่าห้อง  £12 ครับ”

    อากาศที่ไม่ถึงกับหนาวจัด ทำให้จีมินสามารถเดินบนทางเท้าได้ มีรถยนต์วิ่งผ่านอยู่เป็นระยะ บางครั้งก็โบกมือทักทายคนที่ขี่จักรยานผ่านบ้าง ไม่นานก็ถึงเป้าหมาย สถานีรถไฟที่แน่นไปด้วยผู้คน ร่างเล็กถอนหายใจเล็กน้อย พร้อมกับเดินเข้าไปต่อแถวซื้อตั๋วรถไฟ

    “สก็อตแลนด์ ชั้นปกติ หนึ่งที่ครับ”

    -----------SOLE-----------

    ขอบคุณ และขอโทษสำหรับทุกอย่าง

    โพสต์วันที่ 1 Sep 2013 by Park Minji’

    ข้อความในบล็อกสุดท้ายของปาร์ค มินจี ที่ถูกโพสต์โดยปาร์ค จีมิน ที่ถูกกดเปิดอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ไม่มีโพสต์อะไรเพิ่มมาเกือบปีแล้ว พอส่งข้อความไปก็ไม่มีคนตอบ ไม่มีทั้งมินจี และจีมิน ทั้งที่ความจริงเขาอาจจะไม่ต้องนั่งเหงาอย่างนี้หากวันนั้นเขาคิดได้สักนิด

    -----------SOLE-----------

    คนฉลาดมักจะโง่ในเรื่องง่ายๆ
    จองกุกไม่ใช่คนโง่ แต่ก็ไม่ได้ฉลาด เขาหยิบรูปมินจีที่ปริ้นท์มาเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาดู มันเหมือนกับใบหน้าของคนที่หลอกลวงเขามาเป็นปีจนแทบแยกไม่ออก ตอนนี้จองกุกไม่มีคนมาปลอบใจเหมือนเมื่อก่อน รูปของมินจีเปียกไปด้วยน้ำใสๆที่ไหลออกจากตาของจองกุก

    “หลายปีที่เราคุยกันมา ฉันมีความสุขมากๆเลยนะ... ไม่สิ..ฉันต้องโคตรมีความสุขมากกว่า ที่ได้คุยกับเธอ ต่อไปนี้เราก็ไม่ได้คุยกันแล้วสินะ แต่ทำไมตอนนี้ฉันกลับรู้สึกเหมือนแทบไม่เคยคุยกับเธอเลยล่ะ?” จองกุกหลับตาลงนึกถึงประโยคที่จีมินพูดเมื่อสองชั่วโมงก่อน

    ...ตอนนี้น้องชายของพี่มินจีถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว พร้อมกับชายแปลกหน้า จากประเทศบ้านเกิดที่พี่ทิ้งไว้ให้..

    “มินจี.. ฉันเคยคุยกับเธอจริงๆกี่ครั้ง?” จองกุกลุกขึ้นไปหยิบโน้ตบุ้คขึ้นมาวางไว้บนตัก เขาเปิดหาข้อความที่คุยกันช่วงแรกๆของมินจีกับเขา เขาจำได้ว่ามินจีเคยหายไปสัปดาห์นึง หลังจากคุยกันได้ไม่นาน

    “มินจี หลังจากตอนนั้นฉันก็คุยกับน้องของเธอมาตลอดเลยใช่มั้ย? ฉันรักน้องของเธองั้นหรือ?”

    -----------SOLE-----------

    “จีมิน นายหายไปไหน?” คำถามที่ถามตัวเองมาเกือบปี ช่องทางที่เคยใช้ติดต่อหากันถูกเอาออกมาใช้ทุกอย่าง แต่กลับไม่มีการตอบรับแม้แต่นิดเดียว เขารู้สึกว่าจิตใจมันกระวนกระวายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่คลิ๊กไปคลิ๊กมาอยู่ระหว่างบล็อกของเขา และมินจี

    “อ๊ะ..” อยู่ๆเมาส์ของเขาก็เผลอคลิ๊กไปโดนปุ่ม Following ของมินจี มันน่าแปลกที่ว่าเขากดติดตามคนแค่สองคน

    JUNGKOOK’s

    PJM’s World

    PJM’s World.. .ใช่ตัวย่อปาร์ค จีมินหรือเปล่าวะ?” จองกุกตัดสินใจคลิ๊กลงไปที่บล็อก เมื่อหน้าเว็บโหลดเสร็จ ก็ปรากฎพื้นเว็บสีดำสนิท มีการโพสต์รูปเยอะแยะมากมายในบล็อกนี้ เป็นที่ๆคนตัวเล็กของเขาถ่ายในสถานที่ต่างๆที่เหมือนไม่ใช่ประเทศเดียวกัน จองกุกค่อยๆเลื่อนเมาส์ลงดูรูปทีละรูป

    ล่าสุด

    สก็อตแลนด์
    อากาศที่นี่ดีมากเลย ตลอดทางมีแต่คนเป่าขลุ่ยแหละ เพราะมาก ทุกคนในเมืองใจดีสุดๆเลยนะ ถนนและตึกของที่นี่เต็มไปด้วยอิฐเก่าๆ เข้ากับบรรยากาศเก่าๆมาก ว่าจะซื้อกระโปรงลายสก็อตมาใส่บ้าง แต่ก็เขินๆอยู่นะ คิดว่าจะพักอยู่ในเมืองนี้สักสัปดาห์นึง แล้วค่อยกลับลงไปอังกฤษใหม่
    J

    พร้อมกับรูปภาพจีมินชูสองนิ้วท่ามกลางผู้คนที่เดินผ่านไปมา

    จองกุกไม่รอช้า คว้ากระเป๋าเป้สีแดงสดในตู้เสื้อผ้ามาจัดกระเป๋าทันที เสื้อผ้าสองสามชุดถูกยัดใส่กระเป๋า จองกุกสวมเสื้อขนเป็ด แล้ววิ่งออกจากห้องไปทันที ถนนที่เต็มไปด้วยรถมากมาย จองกุกยกมือขึ้นมาโบกแท็กซี่ ใช้เวลาไม่นานก็มีรถแท็กซีมาจอด จองกุกรีบวิ่งไปเปิดประตูทันที

    “ไปสนามบินครับ”

    -----------SOLE-----------

    อิฐเก่าๆสีคล้ำกำลังกลืนหายไปกับความมืด ขาที่ก้าวย่างอย่างมั่นใจค่อยๆเดินช้าลงเรื่อยๆ และสุดท้ายก็หยุดเดิน ร่างเล็กมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เริ่มกลายเป็นสีม่วง แสงของดวงอาทิตย์กำลังหายไป เขาถอนหายใจเล็กน้อยแล้วเดินต่อ แสงไฟตามทางเท้าค่อยๆถูกเปิดขึ้นเป็นระยะทำให้พอมองเห็นทางได้บ้าง แม้จะไม่สว่างนัก และหากเป็นเมื่อก่อนจีมินคงจะทรุดนั่งลงกับพื้นแล้วร้องไห้ออกมา เพราะเขากลัวความมืด

    การอยู่คนเดียวในความมืดคือสิ่งที่กลัวที่สุด แต่วันนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น จีมินเริ่มชินกับความมืดนี้แล้ว

    โฮเตลตรงหน้าคือจุดหมายของร่างเล็ก เขาเดินเข้าไปเช็คอินทันที แต่ก็พบว่าห้องเต็ม จึงได้ขอนอนที่โซฟาห้องล็อบบี้ ซึ่งพนักงานก็ไม่ได้ใจร้ายอะไร จีมินหยิบหมอนอิงสีแดงคล้ำมากอดไว้ และหยิบโทรศัพท์ออกมาอัพบล็อกเล็กๆของเขา ที่มีคนตามอยู่ไม่กี่ร้อยคน

    วันนี้นอนที่โฮเตลเล็กๆข้างทาง เสียดายเหมือนกันที่ห้องเต็ม แต่พนักงานที่นี่ใจดีมาก ให้นอนที่ล็อบบี้ J

    จีมินทิ้งตัวลงนอนบนโซฟา เสื้อโค้ทที่ใส่มาทั้งวันถูกถอดมาห่มตัว ดวงตาที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันค่อยๆปิดลง พร้อมเจอกันเรื่องใหม่ๆในวันพรุ่งนี้

    -----------SOLE-----------

    สนามบินกลาสโกว์คือสถานที่ๆจองกุกลงเครื่อง ทันทีที่ลงเครื่องเขาก็รีบวิ่งไปที่สายพานเพื่อคว้ากระเป๋าของตน และหาสัญญาณอินเตอร์เน็ตทันที เขาเปิดไปที่บล็อกของจีมิน

    ปราสาทเอดินเบิร์ก ผมเคยได้ยินเรื่องเล่ามาด้วยนะว่ามีผีน่ะ ตอนกลางคืนจะมีผีสุนัขมาเดินเฝ้าสุสาน ที่มีคนตายจากโรคระบาดด้วย อยู่แค่ข้างหน้าพอละกัน กลัวผีอ่า ~__~  about  23mins ’

    แนบรูป จีมินเซลฟี่ชูสองนิ้วหน้าปราสาท

    จองกุกดูนาฬิกาที่โทรศัพท์ที่ถูกปรับเป็นเวลาท้องถิ่นโดยอัตโนมัติ แล้วรีบเรียกแท็กซี่ไปปราสาททันที ขณะนั่งอยู่บนรถเขาก็เลื่อนดูโพสต์เก่าๆของจีมิน มันถูกเริ่มหลังวันที่จีมินโพสต์ในบล็อกของมินจีได้สัปดาห์นึง แต่ละโพสต์จะเช็คอินในที่ต่างๆที่แทบไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละสัปดาห์

    โพสต์แรกเลยนะ ผมอยู่อเมริกา ความจริงผมอาศัยอยู่ที่นี่นานแล้วล่ะ แต่ผมไปทำธุระมา พึ่งกลับมาเมื่อสัปดาห์ก่อน ตอนนี้ผมจะเริ่มเดินทางแล้วนะ ที่แรกผมคงจะย้อนไปญี่ปุ่นนะ

    โหห ผมพึ่งเคยมาญี่ปุ่นครั้งแรก สำเนียงอังกฤษที่นี่แปลกไปหน่อย แต่ก็พอฟังออก ทุกคนใจดีมากๆเลยล่ะ

    พี่มินจี วันนี้ผมมาซื้อหนังสือการ์ตูนที่พี่ชอบด้วยล่ะ เสียดายเนอะ เราคงไม่ได้อ่านด้วยกันแล้ว

    ภูเขาไฟฟูจี! ตอนแรกก็กลัวนะ กลัวเดินอยู่ดีๆมันจะระเบิดแหละ แต่ก็นึกถึงตอนที่ครูสอนได้ว่ามันเป็นภูเขาไฟที่ดับแล้ว โง่ฟรีเลย55555555555’

    วันนี้จะเดินทางไปจีแล้วนะ บ๊ายบายเจแปน~’

    จองกุกนั่งยิ้มบางๆให้กับโพสต์ของจีมินที่ดูน่ารักและไร้เดียงสา ฉับพลันก็นึกถึงตอนที่จีมินเล่าเรื่องให้เขาฟัง

    ตอนนี้น้องชายของพี่มินจีถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว พร้อมกับชายแปลกหน้า จากประเทศบ้านเกิดที่พี่ทิ้งไว้ให้..

    “ตอนนี้นายยังอยู่คนเดียวอยู่สินะ.. ขอโทษนะจีมิน” จองกุกพูดเบาๆ ในที่สุดนิ้วของเขาก็เลื่อนขึ้นมาถึงโพสต์บนสุดที่จีมินโพสต์ เขาจ้องมองใบหน้าของจีมินที่ยิ้มให้กล้อง มันเป็นยิ้มแบบเดียวกับที่เขายิ้มให้จองกุกตอนอยู่ด้วยกัน ไม่ถึงกับสดใส เหมือนกับมีอะไรที่หวาดกลัวอยู่ลึกๆ

     

    ทันทีที่รถจอด จองกุกก็ยื่นเงินส่งให้คนขับแล้วออกจากรถ สายตาคมเลยกวาดสายตาไปทั่วบริเวณหน้าปราสาท กว่าจะมาถึงจีมินก็คงจะเดินไปที่อื่นแล้วล่ะ คิดได้อย่างนั้นเขาก็เริ่มเดินตามข้างทางที่ผ่านมา ทุกอย่างเป็นไปตามที่จีมินเล่าไว้ในโพสต์จริงๆด้วย ทั้งถนน และตึกบางส่วนที่เป็นอิฐ คนเดินในตอนนี้ค่อนข้างพลุกพล่าน จองกุกยกโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คบล็อกของจีมินอีกครั้ง ก็พบว่ามีโพสต์ใหม่เสียแล้ว

    เดินไปเดินมาก็หิวแล้วสิ ผมเจอร้านอาหารจีนด้วยล่ะ ลองแวะเข้าไปหน่อยนะ  about 15 mins’

    “แล้วอาหารจีนร้านนี้มันอยู่ตรงไหนวะ” จองกุกพูดออกมาอย่างหัวเสีย เขาหันซ้ายหันขวาก็ไม่พบร้านอาหารจีนอยู่แถวนี้ ก็ได้แต่เดินแล้วยกโทรศัพท์ให้คนโน้นคนนี้ดู แล้วถามว่าเคยเห็นร้านนี้มั้ย เคยไปร้านนี้มั้ย จนเสียเวลาไปเกือบๆชั่วโมง กว่าจะรู้ว่าร้านอยู่ตรงไหน ก็เสียเวลาหลงตอนเดินไปอีก

    -----------SOLE-----------

    คลาดกันหลายต่อหลายครั้งจนจองกุกรู้สึกหงุดหงิด เขาช้ากว่าคนตัวเล็กก้าวนึงเสมอ จนเวลามาถึงตอนกลางคืน ที่ต่างประเทศดวงอาทิตย์ลงช้ากว่าปกติ ทำให้จองกุกเดินเตามรอยจีมินจนลืมเวลา เขายกโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คบล็อกของจีมินอีกครั้ง และพบว่าไม่มีการอัพเดทอะไรเลยมาเกือบสามชั่วโมง ได้แต่ถอนหายใจเล็กน้อย  เห็นทีว่าต้องหาที่พักในคืนนี้เสียก่อน พรุ่งนี้เช้าค่อยตามหาต่อ

    เดินไปเรื่อยๆก็เจอโรงแรมเล็กๆข้างทาง ตัดสินใจอยู่นานสุดท้ายก็เดินเข้าไปเช็คอินที่เคาท์เตอร์ที่ดูเป็นโต๊ะไม้เล็กๆเสียมากกว่า รับกุญแจที่ถูกยื่นส่งมาให้แล้วเดินขึ้นห้องทันที

     

    “ขอโทษนะครับ มีห้องเหลือมั้ย?” ขาสั้นๆที่ก้าวเดินอยู่ทั้งวัน ในที่สุดก็หยุดเดินเมื่อเจอโรงแรมเล็กๆข้างทาง จีมินเดินเข้าไปข้างในทันที

    “มีครับ”

    “ปาร์ค จีมินครับ หนึ่งคืน” จีมินรับกุญแจเก่าๆแล้วเดินขึ้นห้องทันที ทางเดินที่ถูกปูด้วยพรมสีแดง คาดว่าเมื่อก่อนคงจะสวยสดใสกว่านี้มาก แต่ตอนนี้มันออกเป็นสีตุ่นๆและมีรอยขาดเสียแล้ว จีมินเดินลงน้ำหนักเท้าไม่มากเพื่อไม่ให้เกิดเสียงดัง ห้องแต่ละห้องรอบข้างที่เดินผ่านบางห้องก็ปิดไฟไปแล้ว ทันทีที่ถึงห้องของตัวเองก็เดินเข้าไปวางกระเป๋าและทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนเก่าๆ ก่อนจะเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปสภาพหัวเตียงที่มีเลขห้องติดอยู่

    คืนนี้กับเตียง29’

     

    การเดินทางหลายชั่วโมงด้วยเครื่องบิน ผสมกับการเดินรอบเมืองทั้งวันทำให้ความเหนื่อยล้าลุกลามจากที่ปลายเท้า ขึ้นมาถึงหนังตาที่กำลังจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ จองกุกพยายามดึงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงเพื่อเช็คบล็อกของจีมินรอบสุดท้ายก่อนนอน แต่สุดท้ายก็ทนความง่วงไม่ไหว เปลือกตาสีขาวค่อยๆปิดลงช้าๆ และเข้าห้วงนิทราแทบทันที

     

     

     

    ยิ่งเข้าใกล้ กลับยิ่งห่างกัน
    ทันทีที่ตื่นมาจองกุกก็รีบเช็คโทรศัพท์ทันที

     

    เมื่อคืนเขานอนห้องข้างจีมิน จองกุกรีบวิ่งออกจากห้องไปเคาะประตูห้องข้างๆทันที แต่กลับไม่มีคนเปิดให้ สุดท้ายก็วิ่งลงไปที่เคาท์เตอร์เมื่อคืน บรรยากาศตอนนี้ค่อนข้างมืดครึ้ม เมื่อจองกุกมองออกไปนอกหน้าต่าง

    “ขอโทษนะครับ คนที่พักห้อง 29 ออกไปนานยังครับ?”

    “อ่า... ขอเช็คก่อนนครับ.. พึ่งออกไปเมื่อสิบนาทีก่อนเองครับ”

    จองกุกรีบวิ่งออกไปตามถนนทันที ท้องฟ้ามืดครึ้มกว่าที่เค้าเห็นข้างในตึกทันที คาดว่าอีกไม่นานฝนก็คงจะตกลงมา ตามข้างทางมีแต่ผู้คนที่ถือร่มราวกับเตรียมการมาไว้ล่วงหน้าแล้ว  สายตาของจองกุกยังคงสอดส่องไปเรื่อยๆตามท้องถนน ไม่แน่ว่าเขาอาจจะวิ่งมาคนละทางกับจีมินก็ได้

     

    ถ้าโลกนี้ไม่ใจร้ายจนเกินไป..
    จองกุกทรุดตัวนั่งยองๆลงกับฟุตบาธ ปล่อยให้คนที่ไม่รู้จักเดินผ่านเขาไปเรื่อยๆ ผ่านไปแบบไม่มีวันกลับหันมามอง จนกระทั่งมีเสียงดังขึ้น พร้อมกับสัมผัสเบาๆที่ไหล่ข้างซ้าย

    “ขอโทษนะครับ เอ่อ.. เป็นอะไรหรือเปล่า?”

    จองกุกค่อยๆหันหน้าไปมองผู้หวังดี และทำหน้าตกใจใส่
    ผู้หวังดีก็ทำหน้าตกใจใส่เขาเหมือนกัน มือที่จับอยู่บนไหล่รีบดึงกลับทันที แต่ไม่ทันกับมือของจองกุกที่คว้ามันเอาไว้ทัน

    “จีมิน..”

    “...ปล่อย” จีมินพยายามดึงมือของตัวเองออกจากจองกุก แต่ก็ไม่สำเร็จ จองกุกค่อยๆลุกขึ้นยืน

    “จีมิน ฟังฉันก่อน”

    “อย่ามาจับฉัน!

    “ถ้าฉันปล่อย นายก็จะหนีฉันไปอีก”

    “ฉันไม่เคยหนีคุณ จองกุก..”

    “...”

    “ฉันใช้ชีวิตอยู่ในส่วนของฉัน นายก็ใช้ชีวิตอยู่ในส่วนของนาย เราไม่ได้รู้จักกัน และฉันก็จะไม่มีเหตุผลที่จะหนีนาย” มืออีกข้างของจีมินเลื่อนขึ้นมาแกะมือของจองกุกออก ดวงตาเล็กเริ่มชื้นไปด้วยน้ำตาที่พร้อมจะไหลลงมาพร้อมกับสายฝนที่เริ่มตกลงมาปรอยๆ ผู้คนที่เดินอยู่ข้างทางเริ่มเดินเข้าไปหลบฝนกัน บางคนก็ถือร่มเดินผ่านไป

    “เรารู้จักกัน.. เราเคยคุยกัน ฉันรู้เรื่องทุกอย่างของนาย”

    “คุณไม่รู้! คุณรู้จักตัวฉันในฐานะพี่มินจี ไม่ใช่ตัวฉัน ไม่ใช่จีมิน!

    “ฉันขอโทษที่เคยไล่นาย มาเริ่มกันใหม่ได้มั้ย?”

    “คุณคิดว่ามันตลกไปมั้ย กับความเจ็บปวดที่ฉันเก็บเอาไว้คนเดียว ฉันควรจะชินกับการอยู่คนเดียวหลังจากมินจีตายไป แต่ฉันกลับโง่ไปคุยกับคนๆนึงที่พี่ของฉันแนะนำ คนที่ฉันคิดว่าจะช่วยให้หายเหงาได้ คนที่คิดว่าเขาจะเป็นเพื่อนกับฉันได้ แต่สุดท้ายมันก็แค่คิด..”

    “จีมิน..”

    “ฉันคิดว่า เราไม่ควรคุยกันตั้งแต่แรก”

    “ฟังฉันก่อน..”

    “หนึ่งปีที่ฉันอยู่คนเดียวมา ฉันว่าการที่มีใครสักคนมาเพิ่มในชีวิต เป็นสิ่งที่ฉันไม่ต้องการแล้ว”

    “ฉันขอโทษจริงๆ ขอร้องล่ะ เริ่มกันใหม่เถอะนะ..”

    “คิดซะว่าเจ๊ากันเถอะ ฉันขอโทษเรื่องที่ฉันหลอกคุณ และคุณก็ขอโทษเรื่องที่คุณว่าฉัน ตอนนี้เราไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว” จีมินกระชากข้อมือตัวเองออกมาอย่างไวในขณะที่จองกุกไม่ทันได้ตั้งตัว แล้วออกวิ่งไปทางถนนใหญ่ทันที

    “จีมิน!

    ฝนค่อยๆตกหนักขึ้นเรื่อยๆ
    กลบเสียงบีบแตร และเสียงร้องของความเจ็บปวด ร่างเล็กกลิ้งคลุกกับโคลนบนพื้นเข้าข้างทาง น้ำฝนค่อยๆล้างเลือดสีแดงสดจนจางเหมือนสีหน้าของจองกุก

     

    จีมินถูกรถชน....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “คนไข้ต้องได้รับการฟื้นตัวสักสัปดาห์จึงจะออกจากโรงพยาบาลได้ครับ”

    “แล้วเขาจะฟื้นเมื่อไหร่ครับ?”

    “เร็วๆนี้ครับ แต่อาจจะมีผลข้างเคียงเล็กน้อย”

    “อะไรครับ?”

    “ไว้คุณจะรู้เองตอนเขาฟื้นนะครับ มันเป็นไปได้ 50/50 เท่านั้น”

     

     

     

    จีมินถูกใส่เสื้อของโรงพยาบาลสีชมพูอ่อน หน้าผากเล็กถูกพนด้วยผ้าพันแผลสีขาว ตามตัวมีแผลถลอก และพลาสเตอร์ ใบหน้าหวานหลับตาพริ้ม จองกุกเดินเข้าไปลูบหัวของจีมินเบาๆ

     

    จีมินเจ็บอีกแล้ว..
    และครั้งนี้ก็เป็นเพราะเขาอีก

     

     

    ใบหน้าหวานที่หลับสนิท มีเพียงหน้าอกเล็กที่ยกขึ้นลงตามจังหวะการหายใจเท่านั้นที่ทำให้จองกุกรับรู้ว่าจีมินยังมีชีวิต และอยู่ตรงหน้าของเขา จองกุกคอยเอาดอกทิวลิปมาเปลี่ยนให้จีมินทุกเช้าจนเวลาผ่านไปเกือบสัปดาห์ ร่างกายที่มีชีวิตอยู่ด้วยสายน้ำเกลือก็ยังคงนอนนิ่ง

     

    “นี่.. นายกำลังฝันดีอยู่หรือไงกันนะ? ฉันจำได้นะว่านายเคยบอกฉันว่านายชอบนอนเล่นน่ะ แต่ตอนนี้มันไม่นานไปหน่อยหรือไงกัน? หลับนานไปแล้วนะจีมินอ่า.. ตื่นมาคุยกับฉันได้แล้ว” จองกุกจับมือเล็กๆของจีมินและบีบเบาๆ “ปาร์ค จีมินอ่า.. ฉันเหงามากๆเลยนะ ฮึก.. มาคุยกันเถอะ.. ”

     

    “จีมินอ่า ฉันเอาเพลงมาเปิดให้ฟัง เพลงเดียวกับที่นายเต้นบนรถของฉันไง.. ตื่นมาเต้นเร็วๆสิ”

     

    “นี่จีมิน พอนายตื่นแล้วเราไปอังกฤษกันนะ ฉันอยากให้นายเป็นไกด์พาฉันเที่ยวจังเลย ตื่นเถอะน่า อากาศช่วงนี้ดีมากเลยนะ.. จีมินอ่า.. ดูสิ ดอกทิวลิปของนายน่ะตื่นมาดูหน่อยสิ ฉันซื้อมาให้นายทุกวันเลยนะ ใจร้ายจัง จะไม่ตื่นมาดูสักนิดเลยหรอ ฉันมั่นใจมากเลยนะว่านายต้องชอบ เพราะนายเคยบอกฉันนี่นา”

    “...”

    “นี่ ฉันจำได้ทุกอย่างที่นายเคยบอกฉันเลยนะ.. ให้โอกาสฉันชดใช้ความผิดหน่อยสิ ตื่นมาให้อภัยฉันได้แล้ว..”

    “แค่ก..”

    “ห้ะ?”

    “แค่กๆ” เสียงไอดังขึ้นมาจากปากเล็ก ที่ดวงตายังคงปิดสนิท จองกุกเบิกตาโตอย่างตกใจ มือที่จับจีมินอยู่เปลี่ยนเป็นจับไหล่เล็กที่สั่นไปตามแรงไอ แล้วค่อยๆยันร่างเล็กขึ้นพิงหัวตียงเมื่อเห็นว่าจีมินค่อยๆลืมตาขึ้น ร่างเล็กโอนอ่อนไปตามแรงพยุง

    “จีมิน จีมิน” จองกุกเรียกชื่อจีมินอย่างตื่นเต้น เมื่อใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมามองเขา “อ..เอาน้ำมั้ย?”

    “อ..อืมม” แก้วเปล่าที่เคาท์เตอร์ถูกรินใส่ด้วยน้ำใส พร้อมถูกประคองมาที่เตียงผู้ป่วย หลอดเล็กถูกหย่อนลงในแก้วอย่างรีบร้อน และส่งให้ปากเล็กที่แห้งผาก จีมินค่อยๆดูดน้ำช้าๆ

    “จีมิน.. เป็นไงบ้าง?” ทันทีที่หยุดดื่มน้ำ จองกุกก็รีบถามขึ้นทันที แต่ร่างเล็กตรงหน้ากลับมองเขาด้วยสายตาที่คาดเดาไม่ได้ จีมินขมวดคิ้วมองจองกุก ปากเล็กๆค่อยๆขยับอย่างยากลำบาก เสียงเล็กที่ดังออกจากปากนั้นเบามากจนแทบไม่ได้ยิน แต่จองกุกกลับได้ยินมันยังชัดเจน มือหนาที่ถือแก้วใสอยู่ล่วงหล่นลงบนพื้นทันที

     

    “คุณ.. เป็นใคร?”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “นี่คือผลข้างเคียงจากการรักษาที่เกิดได้ 50-50เท่านั้น โชคร้ายที่คุณปาร์ค จีมินได้รับผลข้างเคียงนี้พอดี”

    “...มีวิธีรักษามั้ยครับ?”

    “วิธีรื้อฟื้นความจำคือการให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตแบบที่เคยใช้ ลองพยายามเล่าเรื่องราวต่างๆที่คุณกับเขาเคยอยู่ด้วยกัน”

     

     

    “นี่จีมิน..”

    “อ้าวจองกุก ฉันติดต่อพี่มินจีไม่ได้อ่ะ”

    “ห้ะ..?”

     

    “คนไข้บางรายเลือกที่จะจำช่วงเวลาที่มีความสุขเอาไว้”

     

    “นี่จองกุก ฉันติดต่อพี่มินจีไม่ได้จริงๆนะ”

    “...พี่เขาอาจจะไม่ว่างรับสายก็ได้มั้งจีมิน”

    “งั้นหรอ? แล้วจองกุกจะพาฉันไปไหนอ่ะ?”

    “ก็... ไม่รู้สิ” จองกุกยังคงจับมือจีมินเดินไปเรื่อยๆตามท้องถนน หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลได้สามวัน จองกุกก็พาจีมินเข้าไปอยู่ในโรงแรมเล็กเท่านั้น ร่างเล็กพยายามติดต่อมินจีอยู่ตลอดเวลาแต่ก็ไม่สำเร็จ

    “นี่ แล้วจองกุกเป็นอะไรหรอ ทำไมเรารู้จักกันล่ะ?”

    เรื่องมันยาวน่ะจีมิน และฉันคิดว่านายยังไม่ควรรู้ตอนนี้”


     

    ร่างเล็กถูกจับให้นั่งลงในห้องสีขาวที่อากาศถ่ายเทค่อนข้างดี หลังจากที่จองกุกพาจีมินกลับเกาหลีก็ได้มีการทำความสะอาดห้องครั้งยิ่งใหญ่ จองกุกเลือกที่จะพาจีมินกลับมารักษาตัวที่เกาหลีแทน

    “คุณจองกุก ฉันว่าฉันไปอเมริกาก็ได้นะ บ้านฉันกับพี่สาวของฉันอยู่ที่นั่น อยู่ที่นี่จะรบกวนคุณเสียเปล่า” จีมินพูดเมื่อจองกุกยกข้าวผัดกิมจิขึ้นมาให้ถึงเตียง เจ้าตัวพยายามปฏิเสธหลายครั้งว่าจะกลับอเมริกาเอง แต่จองกุกกลับดึงดันจะให้จีมินมาที่นี่แทน

    “อยู่ที่นี่ดีแล้วล่ะจีมิน ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณด้วย”

    “อืม” จีมินครางตอบเบาๆ เขามองไปรอบบ้านของจองกุกที่เต็มไปด้วยต้นไม้ ทำให้อากาศค่อนข้างร่มรื่น

     

    “จีมินดื่มน้ำผลไม้มั้ย?”

    “อืม”

    “อ้ะ นายอาจจะจำไม่ได้ว่านายชอบกินน้ำพันช์ เพราะฉะนั้นก็รู้ไว้นะว่านายน่ะชอบกินน้ำพันช์” จองกุกยื่นแก้วที่บรรจุของเหลวสีส้มให้จีมิน มือเล็กรับมันมา พร้อมกับฟังสิ่งที่จองกุกพูด เขายิ้มพยักหน้าเล็กน้อย แล้วค่อยๆดื่มจนหมดแก้ว แต่อยู่ๆก็มีภาพบางอย่างแวบเข้ามาในสมองจนต้องปล่อยแก้วน้ำลงกับพื้น มือเล็กทั้งสองข้างกุมหัวตัวเองแน่นจนจองกุกตกใจ

     

    เพล้ง

    ภาพสนทนาค่อยๆเกิดขึ้นมาเป็นฉากๆ
    ใบหน้าของเขากำลังยิ้มอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ที่ห้องนอนที่อเมริกา มือของเขากำลังพิมพ์ข้อความส่งไปหาคนๆนึงในแชท สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นเมื่อคุยกับคนในนั้น นิ้วที่กดแป้นพิมพ์แต่ละตัวดูเต็มไปด้วยความตั้งใจ

    นี่ๆๆๆๆ

     

    หื้มม ว่าไงมินจี?

     

    วันนี้มินจีได้ส่วนลดซื้อน้ำพันช์มาด้วยแหละ อร่อยมากๆๆๆๆๆเลย

    มินจีชอบดื่มน้ำพันช์หรอ?

     

    ใช่แล้วล่ะ ลองซื้อมาดื่มบ้างนะ เวลาอ่านหนังสือสอบ สมองจะได้สดชื่นไง

     

    “จอง.. จองกุก ปว.. จีมินปวดหัว..” นิ้วมือเล็กเกร็งและจิกหัวของตัวเองอย่างแรง เหงื่อค่อยๆไหลมาตามใบหน้าของจีมิน ฟันขาวกัดนานจนได้ยินเสียงกรอด จนจองกุกต้องรีบพุ่งเข้าไปจับมือทั้งสองไว้ ใบหน้าหวานแสดงอาการเจ็บปวดออกมาอย่างชัดเจน จนจองกุกเริ่มกลัว มือหนาค่อยๆลูบผมของจีมินเบาๆเพื่อปลอบโยน

    “ดีขึ้นมั้ยจีมิน? ...กินยาดีมั้ย?”

    “ไม่.. ฮึก ไม่เอา จองกุกกอดจีมินไว้นะ อย่าพึ่งไปไหนนะ” จีมินกอดจองกุกไว้แน่น เสียงสะอื้นยังคงดังอยู่เรื่อยๆ มือที่ลูบหัวค่อยๆเลื่อนไปลูบหลังเล็กที่สั่นไหวเล็กน้อย

     

    สุดท้ายจีมินก็ยอมกินยา แล้วนอนหลับไป จองกุกเริ่มรื้อของในกระเป๋าเป้ของจีมินออกมาจัดใหม่ภายในห้องของจีมิน และไปทำอาหารเย็นให้ อาหารที่อยู่ในตู้เย็นซื้อตั้งแต่ก่อนไปสก็อตแลนด์ทำให้สุดท้ายต้องเดินไปซื้อของสดที่ซุปเปอร์มาเก็ต มือหนาคว้าเสื้อคลุมสีแดงสดตัวโปรดขึ้นมาสวมใส่แล้วตรงออกไปทันที

     

     

     

    “อืมม” เสียงครางดังขึ้น พร้อมกับการบิดตัว จีมินค่อยๆลืมตามองไปรอบๆห้อง

     

    ไม่เห็น..
    ไม่เห็นอะไรเลย รอบตัวของเขามืดสนิท..

     

    “จอง.. จองกุกอยู่ไหน?” เสียงเล็กพูดออกมาเบาๆ เท้าถูกห้อยลงมาแตะพื้น จีมินค่อยๆยันตัวลุกขึ้น มือค่อยๆคลำไปรอบๆเพื่อหาประตู ภาพหลายๆอย่างค่อยๆซ้อนขึ้นมาเป็นฉากๆ จนจีมินกรีดร้องลั่นไปทั่วห้องเงียบ ขาสั้นเริ่มวิ่งไปทั่วพร้อมกับมือที่คลำไปตามกำแพงจนเจอกลอนประตู  ก็จับบิดแล้ววิ่งออกไปอย่างเร็ว ทั้งห้องบนและห้องล่างไม่พบจองกุกอยู่เลย น้ำตาค่อยๆไหลผสมกับเหงื่อ อาการปวดหัวยังประดังมากขึ้นเรื่อยๆ จนร่างเล็กกัดฟันกรอดวิ่งออกไปที่ประตูหน้าบ้าน


    “จองกุก.. ฮึก จองกุกอยู่ไหน!?” จีมินตะโกนเสียงดัง รอบๆบ้านมีเพียงแสงไฟสลัวๆจากเสาไฟฟ้าเท่านั้น เท้าเล็กๆที่ไม่ได้ใส่รองเท้าค่อยๆก้าวช้าๆ มือที่เริ่มข้าวซีดจิกหัวตัวเองแน่นจนเลือดซิกเมื่อยังเห็นภาพในหัวอยู่เรื่อยๆ สุดท้ายร่างเล็กก็ทรุดลงกับพื้นปูน

     

     

    “ฮึก.. พี่มินจี ถ้าพี่ไม่อยู่แล้วจีมินจะอยู่กับใคร..?”
    มือที่ผอมแห้งติดกระดูกค่อยๆลูบบนกลุ่มผมนุ่มสีดำสลวยของเด็กชายตรงหน้า รอยยิ้มบางๆถูกส่งให้ใบหน้าที่เหมือนกับเขาราวกับฝาแฝด แต่น่าเสียดายที่ใบหน้านั้นมีน้ำตา

    “พี่จะทิ้งจีมินไปแบบพ่อกับแม่ไม่ได้นะ!

    “....”

    “พี่บอกจีมินสิว่าพี่อยากอยู่กับจีมินน่ะ... ฮึก ฮืออ”

    “พี่.. พี่ก็อยากอยู่กับจีมินนะ แต่พี่ม.. ไหวแล้ว.. จีมินเข้าไปในแช... พี่ ........แค่กๆ .. คุยกับแทฮ... คนดี ดีจริงๆ”

    “ไม่! พี่ต้องอยู่กับจีมินสิ!” รอยยิ้มหวานค่อยๆเจื่อนลง ใบหน้าขาวซีดส่ายหัวช้าๆ จีมินร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิม แขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อค่อยๆโอบกอดรัดตัวหญิงสาวบนเตียงแน่น ใบหน้าซบลงที่ซอกคอที่ซีดจนเห็นเส้นเลือด

    “ฮึก.. จีมินรักพี่นะ..”

    “พี่ก็รั...”

     

    ตื้ดดดดดดดดดดดดดดดดดด

     

    ห้องมืด..
    ตอนนี้ทุกอย่างเป็นสีดำไปหมด ยกเว้นเสื้อของเขาเท่านั้นที่เป็นสีขาว แขนที่เคยอุดมสมบูรณ์เปลี่ยนเป็นซูบผอม แขนทั้งสองข้างกอดหัวเข่าแน่น ใบหน้าหวานซุกลงไม่อยากรับรู้อะไรทั้งสิ้น มีเพียงเสียงร้องไห้ที่ดังออกมา ดวงตาที่บวม และแดงก่ำ จมูกที่เต็มไปด้วยรอยแดง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา

     

    ความมืดมันน่ากลัว..
    และน่ากลัวยิ่งกว่าเมื่อเรารู้ว่าเราอยู่แค่คนเดียวในความมืดเหล่านั้น..

     

    ภาพพ่อแม่ และพี่สาวที่ทิ้งกันไปต่อหน้าต่อตา ทิ้งกันไปแบบไม่มีวันกลับมา
    ห้องตึกสิบกว่าชั้นที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เงียบสงัด ราวกับถูกกลืนเข้าไปในความมืด ร่างเล็กตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างที่ถูกปิดด้วยผ้าม่านเก่าๆ มือขาวค่อยๆเปิดมันออกช้าๆ และมองลงไปข้างล่าง

     

    “พ่อ แม่ พี่.. ผม.. ฮึก ผมเห็นแสงไฟแล้ว.. มันสวย สวยมากจริงๆ สวยจนอยากจะลงไปสัมผัส ผมขอลงไปได้มั้ยครับ..? หึ ทุกคนคงตอบผมไม่ได้สินะ... ฮึก ผมจะลงไปหาแสงพวกนั้นแล้วนะ” ขาสั้นๆค่อยปีนออกนอกหน้าต่างช้าๆ ความสูงไม่ต่ำกว่าร้อยเมตรทำเอาใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนเลือดในร่างกายพลุ่งพล่าน นี่เขากำลังจะฆ่าตัวตายใช่มั้ย?

     

    “กลัวเจ็บจัง.. พ่อแม่กับพี่ต้องคอยรับผมอยู่ข้างล่างด้วยนะ..”

     

     

    ไม่สิ.. ไม่สิจีมิน..

    “.....”

    “คุย.. คุยกับจองกุก.. พี่รั.. เขา”

    “...”

    “เขาต้อ.. รักน... คุยกับเข.. อยู่กับ.. เขา”

     

    “จีมิน พี่มีเพื่อนใหม่แล้วนะ”

    “ใครหรอครับ?”

    “ชื่อจองกุกน่ะ น่ารักมากๆเลย”

     

    จีมินคุยกับจองกุกสิ

    จีมินคุยกับแทฮยอง.....

     

    ไม่.. จีมินต้องอยู่กับจองกุก!!

     

     

    เฮือกกก
    ร่างเล็กสะดุ้งลุกขึ้นมาอย่างแรง เขาตื่นขึ้นมาบนเตียงที่พึ่งลุกออกไปเมื่อครู่ ใบหน้าหวานซ่กไปด้วยเหงื่ออีกครั้ง หันไปทางซ้ายและทางขวา ห้องสว่าง..

     

    “อ้าว จีมินตื่นแล้วเหรอ?”

    “จองกุก..”

    “อื้ม จองกุกเอง มีอะไรหรือเปล่า?” จองกุกนั่งลงข้างจีมิน พร้อมกับลูบผมของจีมินเบาๆ

    “เมื่อกี้.. ฮึก.. ห้อง.. ห้องมันมืด” จีมินคว้าเสื้อที่จองกุกใส่แล้วขยำไว้แน่น “จองกุกไม่อยู่.. จีมินวิ่งหาทั่วบ้าน หาไม่เจอ แล้ว...” ไม่ทันจะพูดต่อก็เหมือนนึกอะไรได้ เสื้อเชิ้ตของจองกุกที่ใส่ตั้งแต่มาถึงไม่สามารถปิดหัวเข่าได้ จีมินเปิดผ้าห่มขึ้นมาดูก็พบว่าไม่มี.. ไม่มีแผลที่หัวเข่าตอนล้ม มือที่จับผ้าห่มกำแน่นและเริ่มสั่น

     

    “จีมินเป็นอะไร?”

    “ไม่.. ไม่เป็นไร.. จองกุก จีมินปวด.. ฮึก จีมินปวดหัว”

    “ไม่เป็นไรนะจีมิน.. นอนต่อสิ”

     

    “จองกุก รู้จักพี่มินจีใช่มั้ย?” คำถามที่ทำให้จองกุกที่กำลังจะรินน้ำชะงัก ใบหน้าคมค่อยๆหันมามองร่างเล็กที่อยู่บนเตียงช้าๆ นัยน์ตาเล็กที่เต็มไปด้วยความสงสัย จองกุกได้แต่ยืนอึ้งอยู่นาน สุดท้ายก็ตัดสินใจส่ายหน้ากลับไป พร้อมกับพูดเบาๆ

     

    “ไม่จีมิน.. ฉัน.. ไม่รู้จักมินจีหรอก”

    “อืม... จีมินหิวแล้วล่ะจองกุก”

    “... อ่าฮะ กินข้าวกันเถอะจีมิน” มื้อเย็นที่ทั้งคู่เงียบสนิท จีมินกินไปเพียงนิดเดียวก็ขอตัวไปอาบน้ำ

     

    น้ำเย็นๆที่ไหลผ่านผมจนเปียกลู่ใบหน้าไหลไปทั่วตัว ไม่ได้ช่วยให้จีมินรู้สึกจิตใจโปร่งขึ้น หนำซ้ำภาพต่างๆในฝันกลับยังคงอยู่ในความคิด มีเสียงสองเสียงที่กำลังซ้อนกันอยู่ มันทั้งหลอนและติดหู

    ตอนนี้จองกุกกำลังมีเรื่องที่กำลังปิดบังเขาอยู่ และตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าพี่มินจีตายไปแล้ว

     

    และแทฮยอง คือใคร?

    --------------------------------------------------------------------
    TALK
    นี่เป็นภาคต่อของ Multiple นะคะ
    ขออีก 5 เม้นท์ >> http://my.dek-d.com/dekdee/story/viewlongc.php?id=1197165&chapter=22 จะเป็น 20 เม้นท์
    ไหวมั้ย?55555555 ครบแล้วจะอัพนะงือออ
    เม้นท์ในนี้ด้วยก็ดีนะ.____. แล้วเดี๋ยวเจอกันนะคะ 
    อย่าลืมแท็กน่ารักๆของเรา #กุกจี้ฟรุ้งฟริ้ง

    TALK2
    เอาไปก่อน 20% นะคะ เดี๋ยวตอนนี้ยังไม่ค่อยมีอะไร แต่ต่อไปจะเริ่มดราม่าต่อแล้ว <<เลว
    แบบโดนรถชน ความจำเสื่อมไรงี้ ล้อเล่น555555555
    ขอบคุณทุกเม้นท์เลยน้า จะรีบอัพร้อยเปอร์ค่า ช่วงนี้เรียนดึก เลิกเกือบสามทุ่มT-T
    มันอาจจะมึนๆหน่อยนะ รีบไปนิด..
    ตามทวงได้ที่ @lovelyjimin_ หรือแท็ก #กุกจี้ฟรุ้งฟริ้ง น้อออ


    TALK 3
    จีมินความจำเสื่อมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
    โอยตันหลายเรื่องมาก5555555555 แก้ขัดก่อนนะคะ.. อาจจะมีแก้ไปบางส่วน

    TALK 4 
    ปมเยอะจริงจัง....
    ที่อ่านอยู่อาจจะมีอะไรมากกว่านั้นก็ได้นะคะ แต่อ่านในโทรศัพท์อาจจะไม่ค่อยเห็นตัวเน้นนะ


    #กุกจี้ฟรุ้งฟริ้ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×