คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : First Paper : My Valentine's ...♥ (35%)
‘ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน... เราก็ต้องได้พบกันอีก ฉันสัญญาว่าจะกลับมา อย่าลืมมารอละ’
‘อย่าเผลอลืมฉันไปก่อนแล้วกัน’
‘ฮะๆ คนที่ลืมน่ะ อาจเป็นเธอมากกว่านะ’
‘อะไรกัน! แล้ว...ถ้านายเป็นฝ่ายลืมละ?’
‘บอกแล้วไงว่า...ฉันไม่มีทางลืมหรอก และ ฉันจะเตือนเธอเองนะ ไม่ต้องห่วงไป’
ภายในห้วงแห่งความทรงจำ ได้ผุดพรายซึ่งภาพ สัญญา และรอยยิ้มของ’เธอ’และ’เขา’ ภาพอันเลือนลางที่ถูกปิดผนึกไว้ใต้ก้นบึ้งหัวใจอย่างดีมาตลอด ไม่มีใคร...สามารถไปรื้อค้นและขโมยสิ่งเหล่านี้ไปจากใจของทั้งคู่ได้ แม้แต่...เจ้าของเอง ก็มิอาจจะฟื้นคืนชีพให้กับมันได้เท่าที่ควรเลย เศษเสี้ยวเล็กๆนี้ จึงฉายซ้ำไปซ้ำมา อย่างไม่มีทีท่าว่า...อีกครึ่งหนึ่งที่สูญหายไปจะกลับมา
“มันมีอะไรแย่กว่านี้อีกมั๊ย!!!!!!”
น้ำเสียงหวานถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากของเด็กสาวนางหนึ่งที่ตอนนี้เจ้าตัวดูไม่สนใจสิ่งรอบข้างแม้แต่น้อย คาดว่าระดับเสียงคงมีความถี่เกิน 190 เดซิเบลเป็นแน่ หรือก็คือ เป็นน้ำเสียงที่อยู่ในระดับที่กล่าวได้ว่า’เป็นอันตราย’ต่อโสตประสาทของบุคคลรอบข้างหรือแม้แต่ตัวต้นกำเนิดเสียงเอง...
ภายหลังจากที่เด็กสาวปลดปล่อยซึ่งความอัดอั้นตันใจภายในออกมาจนหมด เจ้าตัวก็ล้มฟุ่บลงกับโต๊ะ จนหน้าผากเนียนๆของเธอกระแทกโต๊ะเสียงดัง’ปัง!’ แต่อย่างน้อยสิ่งนี้...ก็ช่วยให้เด็กสาวตื่นจากสติที่เลื่อนลอยเสียที
“เป็นอะไรของเธออีกเนี่ย วิโซล่า”
น้ำเสียงทุ้มเบาที่ต่างจากเสียงกรีดร้องของเด็กสาวเมื่อสักครู่ ถูกเอ่ยมาจากเด็กหนุ่มเรือนผมสีเพลิงคนหนึ่งที่ตอนนี้ ตัดสินใจมานั่งอยู่ด้านหน้าของเด็กสาวผู้ที่ตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนในห้อง...มือของเด็กหนุ่ม ค่อยๆเลื่อนขึ้นมาเขย่าตัวเพื่อนสาวเจ้าปัญหาเพื่อหวังจะสะกิดให้เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมาบ้าง แต่ทว่า...
... ไร้ผลลัพธ์การตอบสนอง
คราวนี้ มืออีกข้างหนึ่งของเด็กหนุ่มก็ต้องยกขึ้นมากุบขมับ ด้วยหมดปัญญาที่จะเรียกสติของเด็กสาวตรงหน้าให้กลับมา... ให้กลับมาหาเขา...
จู่ๆก็ร้องขึ้นมา แล้วก็ฟุ่บหน้าลงไปจนหน้าผากกระแทกโต๊ะ แต่ก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา... จะอะไรนักหนาอีกนะ! -*-
เด็กหนุ่มได้แต่นึกบ่นเจ้าของร่างเบื้องหน้าอยู่ในใจ เพราะถึงพูดออกไป เขาก็ไม่ต่างจากคนบ้าที่พูดอยู่คนเดียวนักหรอก เพื่อนสาวตัวดีคนนี้ ยังไงก็คงไม่เงยหน้าขึ้นมาพูดอีก จนกว่าคุณเธอจะพอใจ...
“วิโซล่า!!!!”
เด็กนุ่มตัดสินใจเรียกชื่อเพื่อนสาวของเขาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ดังมาก (สำหรับเขา) แม้จะดังไม่เท่าเสียงของ’วิโซล่า’เมื่อสักครู่ แต่เขาก็ตะโกนด้วยเสียงที่ดังที่สุดเท่าที่เขาพอทำได้(?) ซึ่งมันเป็นระดับเสียง ที่คนทั้งห้องต้องหันมามองอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าเสียงมันดังมากหรอกนะ แต่ทุกคนตกใจที่คนอย่าง’เอ็นมะ’พูดเสียงดังขนาดนี้
แม้ทั้งห้องจะหันมามอง แต่กระนั้น ก็ยังหลงเหลือเพียง เด็กสาวหนึ่งคนที่มีดวงตาหนึ่งคู่เท่านั้น ที่ยังไม่ไยดี ไม่คิดจะชายตามองเขาเลยสักนิด จนขณะนี้...ความอดทนของเขา...ก็ใกล้จะหมดแล้วด้วยสิ ถึงเอ็นมะจะมีความอดทนสูงอย่างไร ก็ย่อมมีขีดจำกัดที่รับได้มากที่สุดเหมือนกันนะ
“ก็ได้ๆ ถ้าเธอไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา...ฉันจะบอกความลับของเธอให้ทั้งโรงเรียนรู้ซะ...”
เอ็นมะกล่าวเสียงเรียบ มันเป็นการช่วยไม่ได้จริงๆ ที่เขาจะต้องงัดไม้ตายนี้มาใช้ แต่ถ้าไม่ใช้ ยัยตัวดีจอมก่อปัญหาเบื้องหน้าเขาก็คงไม่โผล่หัวขึ้นมาแน่ แม้จะเป็นเสียงเรียบๆ แต่มันกลับมีน้ำเสียงที่ทุ้ม และช้ามากขึ้น สร้างความขนลุกให้กับอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก ถ้าหากเด็กสาวยอมเงยหน้าขึ้นมา ก็แสดงว่าเธอคงไม่ได้ขนลุกกับเนื้อใจความสำคัญเท่านั้น แต่เธอยังขนลุกไปกับน้ำเสียงของเอ็นมะด้วยแน่ ...และ...ได้ผล!
“อย่าเด็ดขาดนะ!!! ห้ามบอก ไม่ว่ายังไงก็ห้ามบอกใครทั้งสิ้น!!”
ในที่สุด...วิโซล่าก็ยอมเงยหน้าขึ้นมาสักที แต่ที่แย่ก็คงเป็น...’เอ็นมะ’ เพราะตอนนี้วิโซล่าลุกลี้ลุกลนมาก ถึงขนาดที่รีบกุลีกุจอเอามือของเธอมาปิดปากเขาเอาไว้อย่างเร็วไว จนเขาแทบจะหายใจไม่ออก ไม่ใช่แค่นั้น...เธอยังสะดุดขาเก้าอี้จนล้มทับเขาอีกต่างหาก! เจ็บน่าดูเลยนะ เอ็นมะ ^ ^
ก็เข้าใจนะว่าไม่อยากให้ความลับแตกออกมา แต่ทำแบบนี้...เกินไปหน่อยไหม?
“อะ โอ๊ย...”
เสียงครวญครางดังลอดออกมาจากริมฝีปากบางของวิโซล่าอย่างแผ่วเบา ก็แหงละ!คนที่เจ็บจริงๆไม่ใช่เธอนี่นา... ใต้ร่างของเธอยังมีผู้รอดชีวิตอีก 1 ศพ(?) ที่น่าจะเจ็บหนักกว่าเธอหลายเท่านัก ไหนจะโดนน้ำหนักตัวของเธอทับ ไหนจะต้องรับแรงกระแทกจากพื้นที่แผ่นหลัง และ ไหนจะน้ำหนักของโต๊ะ ที่ยัยเพื่อนสาวทำล้มลงอีก!
“โอ๊ย..นี่มันวันอะไรกันแน่?”
เด็กหนุ่มโอดครวญเบาๆตามประสา พร้อมค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาสบตาตัวปัญหาผู้เป็นเจ้าของเรื่องทั้งหมด มือข้างหนึ่งยันตัวเองให้นั่งลงกับพื้น ส่วนอีกข้างก็เลื่อนขึ้นมาสัมผัสบริเวณศีรษะของตน เพื่อตรวจสภาพ(?)ตนเอง แต่แล้ว...ก็ไม่มีส่วนไหนได้รับบาดแผลเลยสักนิด คงจะมีก็แต่รอยขีดข่วนเล็กๆที่ปรากฏบนบริเวณเรือนหน้าและมือของเขา ช่างโชคดีเสียจริง!
“วันนี้...วันวาเลนไทน์น่ะ”
เด็กสาวพูดอย่างอารมณ์ดีเพื่อเบี่ยงประเด็น และเพื่อสร้างความสนุกสนาน แต่ดูท่าว่า...อีกฝ่ายคงไม่ได้ชอบใจกับมุกของเธอเท่าไหร่นัก
“เอ่อ...ขอโทษนะ เอ็นมะ”
“ไม่เป็นไรหรอก อย่างน้อยก็ไม่มีใครบาดเจ็บ อีกอย่าง...เธอก็ยิ้มแล้วนี่”
เอ็นมะพูดพร้อมส่งยิ้มให้ ใช่แล้ว!เขาต้องการแค่รอยยิ้มของเธอนี่นา... แต่ประโยคของเขากลับทำให้เด็กสาวเบื้องหน้า ใบหน้าขึ้นสีแดงเรื่อๆทันที เพราะความหวังดีที่แฝงมากับรอยยิ้มของเขา ทำเอาเธอกลับรู้สึกอายและรู้สึกผิดมากขึ้น ที่ทำให้บุคคลซึ่งเป็นห่วงเธอมากขนาดนี้ ต้องเจ็บตัว เนื่องจากความซุ่มซ่ามของเธอ!
“อ้าว!หลังจากฟื้นสติ ก็เป็นไข้เลยหรอ?”
“บ้าสิ!นายน่ะ ไม่รู้เนื่องหรอกน่า!”
“แล้ว...ทำไม เมื่อกี้ เธอถึง...จู่ๆก็ร้องเสียงดัง แล้วก็ฟุ่บหน้าลงละ”
“กะ ก็...ก็มัน...”
ความคิดเห็น