ลำดับตอนที่ #31
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : Chapter 26 THE END ภาค1
:) Shalunla
Chapter 26
เดือนที่แล้วคุณตัดสินใจละพวกเขาไว้ด้านหลังแล้วเลือกที่จะอยู่กับคนที่คุณรัก อาาา มันฟังดูไม่ค่อยดีแต่ทุกๆการกระทำย่อมมีเหตุผลของมัน...ถึงวันนี้จนได้ แม้เคยคิดทำใจแต่ก็ไม่สามารถลบความหวั่นไหวนี้ไปได้เลยซักนิด หากคุณเดินหน้าเข้าไปบอกตรงๆ จะสำเร็จมั๊ยนะ? หรือ จะไม่ได้เจอโอปป้าที่รักคุณอีกแล้ว...ตลอดกาล ความสัมพันธ์ระหว่างคุณและเขาคงจำกัดแค่'แฟนคลับ'
คุณสูดหายใจลึก หลายคืนที่คุณเฝ้าภาวนาไม่ให้วันนี้มาถึง...หึ..สุดท้ายมันกลับพังครืน ด้วยประโยคสั้นๆ
ณ วินาทีนึง ประตูบานใหญ่ที่ปิดสนิทแลดูเย็นเฉียบไร้จิตใจ
ทว่ามันกลับอบอุ่นทันที ที่รอยยิ้มของใครบางคนปรากฎ ตอนนั้นเขาอยู่บนเวที...และตอนนี้เขาบอกว่าจะอยู่เคียงข้างคุณ...ขอบคุณนะคะที่ทำให้รู้จักรัก....มุมปากหยักขึ้นอย่างไร้สาเหตุ คุณผลักประตูตรงหน้า ความกลัวจางหายไปแล้ว มันแทนด้วยจิตมุ่งมั่น พ่อคะ โปรดเข้าใจหนูด้วยนะคะ
ทันทีที่ประตูตรงหน้าเปิดออก คนที่นั่งอยู่ด้านในต่างหันขวับมาทางคุณเป็นตาเดียว ผู้ชายคนเดิมที่คุณรู้จักมักคุ้นมาตลอดชีวิตหันมามองคุณพร้อมกับดวงตาเบิกกว้าง พ่อดูโทรมไปมากหลังจากวันที่เขามาส่งคุณที่สนามบินครั้งก่อน พ่อลุกขึ้นยืนจากโซฟาก่อนที่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งวัยจะหยักยิ้มดีใจ
"(ชื่อคุณ)"เขาเอ่ยเสียงเบา ราวพึมพัมให้ตัวเองได้ยิน...ตลอดชีวิตที่ผ่านมา..นี่เป็นครั้งแรก...ดวงตาแบบนั้น คุณไม่เคยเห็นมันมาก่อน ถึงจะเจือไปด้วยความโกรธแต่ก็มีเส้นบางๆชี้ชัดให้เห็นว่าเป็นห่วงฉายให้คุณประจักษ์บนดวงตาของพ่อผู้เข้มงวด
เขารีบปรี่เขามา กอดฉันเอาไว้ เบาๆ พลางใช้มือสั่นๆคู่นั้น ลูบหลังของฉัน อย่างคิดถึง
"พ่อ..."ทำไมถึงพูดได้แค่นี้แถมยังสั่นขนาดนี้ ความมุ่งมั่นเมื่อครู่หดหายไปเฉยๆซะงั้น อ้อมกอดจากคนที่ห่างหายไปนานเท่าไรไม่รู้แน่นกว่าเดิม ก่อนจะคลายออกหลงเหลือเพียง ใบหน้า..โกรธๆ...ที่เห็นมาแทบจะทั้งชีวิต
พ่อมองคุณสักพัก
"มานี่หน่อย..."เขาตัดสินใจพูดแล้ว นำหน้าเพื่อเดินไปที่ประตู...ผ่านโซฟาที่ญาติหลายคนรวมทั้งพ่อแม่และพี่สาวของจงฮยอนที่นั่งรวมกันมองการพบกันของพ่อลูก คุณทำเป็นไม่เห็นแล้วตามไปทั้งๆที่มีคำถามเป็นพันรอให้คุณตอบอยู่
พ่อเดินตรงมาที่โถงทางเดิน ที่ๆมีหน้าต่างกระจกรายล้อมและผ้าม่านพริ้วไหวไปตามลม
"....พ่อ..คือว่า...หนู..มีบางอย่าง.."
พ่อยืนหันหลัง นิ่งๆตรงหน้าต่าง แสงสุดท้ายใกล้ลับขอบฟ้า ภายในห้องหม่นแสงสร้างบรรยากาศตึงเครียดให้แผ่โดยรอบเจ้าของเงาซึ่งทอดตัวยาวมาถึงเท้าของคุณ
"พอเหอะ"
พ่อเอ่ยออกมาก่อนคุณจะต่อประโยคให้จบ แล้วทิ้งความเงียบงันไว้ คุณจับความรู้สึกไม่ได้ น้ำเสียงเย็นชาแบบนั้นพ่อคงโกรธมากจริงๆ
"ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น"
"................"
"มีบางอย่างเหมือนกันที่พ่อต้องบอกแก"เงายาวขยับเล็กน้อย พ่อหันกลับมาพร้อมใบหน้ารวดร้าวที่นิ่งสนิท
"พ่อคะ....หนูรู้ว่าพ่อโกรธแต่หนูก็มีเหตุผล"
พ่อพิงขอบหน้าต่าง ลมวูบใหญ่พัดเข้ามา คล้ายปลอบประลอม คุณยืนนิ่งเตรียมเผชิญ กับสิ่งต่อจากนี้ราวนักโทษคดีประหาร
"ลูก อยากจะบอกว่า...ไม่อยากแต่งงานกับจงฮยอนสินะ.."เขามองหน้าลูกสาวตัวเองด้วยสายตายากคาดเดา คุณพยักหน้า ชั่วขณะนึงคุณสัมผัสได้ว่าเสียงไร้ความรู้สึกของพ่อสั่นเครือเล็กน้อย
"....งั้นหรอ..."
"พ่อ....."
"....."
คุณรอและหวังกับพยางค์ต่อไป
"พ่อคงทำตามลูกไม่ได้"
"....ทะ.."
"บอกแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น"เสียงนั่นไม่เกรียวกราด ทว่าเปี่ยมไปด้วยหลากความรู้สึกที่กระจุกอยู่....คุณหยุดนิ่งอีกครั้ง ทิ้งตัวตนใจร้อนอย่างวันวานไป แล้ว ปิดปากเงียบ....
"เหตุผล....คือ ทั้งหมดนี้เพื่อลูก ลูกน่ะคงอยากหาใครสักคนที่ลูกปักใจเชื่อว่านั่นคือความรักจากนั้นก็อยู่ด้วยกัน อนาคตอันงดงามถูกวาดขึ้น มันต้องงดงาม ลูกคิดแบบนั้นรึเปล่า?"
"....."
"นั้นแหละ สิ่งที่พ่อกลัว...มันงดงามเกินไป อนาคตที่ไร้สีสันอาจเกิดขึ้นเพราะองค์ประกอบที่รวมตัวขึ้นเป็นสิ่งที่เรียกว่า ไม่สมบูรณ์พร้อม"
"จงฮยอน พ่อเฝ้ามอง เขา...ทุกๆอย่าง...ที่พ่อได้ประสบมา บอกให้พ่อเลือกเขาให้กับลูก เชื่อพ่อเถอะนะ ฐานะ การวางตัว ในวันข้างหน้าเมื่อเขาเรียนจบก็มีบริษัทรอยคอยให้บริหาร เขาจะมั่นคงต่อลูกแน่ พร้อมๆกับลูกของพ่อที่มีความสุข เขารักลูกนะ ในตาของเขาบอกแบบนี้ทุกครั้งที่พ่อพูดเรื่องลูกกับเขา ถ้าลูกเลือกที่จะปฏิเสธล่ะก็ พ่อคงวางใจปล่อยลูกให้คนข้างนอกอีกหลายคนหลอก ทำให้เจ็บ หรือมีน้ำตา...ไม่ได้ พ่อปล่อยลูกไป ให้เผชิญกับมันไม่ได้"
พ่อพล่ามอะไรของพ่อ......พ่อไม่รู้นิสัยหมอนั่นดี ที่พ่อเห็นมันก็แค่เปลือกนอกที่เขาอยากให้พ่อเห็น เท่านั้นเอง
"...วางใจ ในการเลือกของพ่อ แล้ว จงมีความสุขไปกับมันเถอะนะ.."
ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ พ่อเงยหน้าขึ้นมองตรงมายังคุณ สายตาแสดงความจริงใจนั่นหนักแน่นและบริสุทธิ์ เบื้องหลังถ้อยคำหว่านล้อมของพ่อเต็มไปด้วยการบังคับ เขาเข้มงวดกับคุณมาตลอด ไม่ค่อยตามใจ คุณรู้เสมอว่าพ่อเป็นห่วง...แต่ไม่คิดว่าพ่อจะทำถึงขนาดนี้...
"พ่อไม่ได้ต้องการคำตอบตอนนี้...ลูกคิดทบทวนนะ "
"...แต่..."
"พ่อทำเพื่อ อนาคตที่ลูกจะไม่เสียใจ "
"พ่อคะ..."
"พ่อขออยู่เงียบๆคนเดียวได้มั้ย"พ่อระบายยิ้มฝืนๆ สติความรับรู้ในวินาทีนี้ของคุณ คุณเลือกที่จะเดินออกมาทิ้งให้พ่อยืนมองนอกหน้าต่างที่เป็นสวนหย่อมหรูหราแต่ไร้ความเป็นธรรมชาติของบ้านตระกูลคิม
ความรู้สึกยากเกินเข้าใจประเดประดังเข้ามากอบกุมหัวใจคุณ คุณไม่เสียใจแต่...สงบ...สับสน...ทุกอย่างปนเปกันจนเละเทะ คุณเดินออกมาในห้องนั่งเล่นห้องเดิมที่ตอนนี้โซฟาว่างเปล่า อ้อ! จริงๆมันว่างแน่ถ้าคุณทำเป็นไม่เห็นจงฮยอนซะ ก็ดีเหมือนกัน เพราะตอนนี้คุณไม่อยากจะพูดอะไรกับใครทั้งนั้น
"กียอน..."
จู่ๆมือคู่นึงก็มอบอ้อมกอดเบาๆให้ คุณทิ้งมือนิ่งไม่กอดตอบ แต่พิงทั้งตัวบนแผ่นอกกว้าง เขามักละลายความสับสนทิ้งไปให้เหลือเพียงความว่างเปล่าบนความอบอุ่น ราวแสงแดดยามบ่ายในฤดูใบไม้ร่วง ...ตอนนี้มันยังคงให้ความรู้สึกเช่นนั้น...หากแต่ในคราวนี้ลึกๆแล้ว อ้อมกอดเนิ่นนานนี้แฝงไปด้วยความเจ็บปวด เขาคงไม่รู้ว่าอีกไม่นานเราต้องจากกัน...
คุณ พยายามไม่ปล่อยน้ำตาให้ไหลรื้นลงมา
"กียอน...เกิดอะไรขึ้น?"โอปป้าเอ่ยถามคล้ายกับว่าคำตอบจากปากคุณจะเปลี่ยนบางอย่างที่เขาคิดได้....คุณเบือนหน้าหนี สลัดตัวออกจากความอบอุ่น..แล้วยืนก้ม ใบหน้าตอนนี้ของคุณจะเป็นเช่นไรกัน เจ็บปวดรวดร้าวหรือนิ่งสนิทอย่างจำยอม คุณแอบดีใจนิดๆที่วงศ์ษาคณาญาติไม่อยู่แล้ว
"กียอน จุนฮง"จงฮยอนเอ่ยขึ้นด้านหลังโอปป้า เขานั่งบนโซฟามองเพดานสบายๆ
"เข้าไปคุยให้รู้เรื่องจะดีกว่านะ"จงฮยอนพูดแบบนั้นหลังเงียบไปสักพัก....
"ไปยืนยันเหอะว่าเธอคิดยังไง พ่อเธอโกรธก็จริงแต่ยังไงเธอก็คือลูก เขาต้องยอมฟังเธอแน่นอน"
"นายด้วย..."ว่าจบก็ลุกขึ้นเดินตรงมายังประตูเบื้องหลังคุณ ก้าวย่างมั่นคงสร้างความสบายใจเล็กๆพร้อมกับความมุ่งมั่นที่จุดประกายอีกครั้ง...
"ขอบคุณนะ"
"อืม"ชายหนุ่มพยักหน้าให้คุณแล้วเปิดประตูบานเดิมให้เปิดกว้าง
เงาร่างคุ้นเคยริมหน้าต่างนิ่งงันไม่ไหวติง พ่อคงหยุดจมลึกให้ห้วงความคิดอันยาวนานอยู่ ไม่ได้มีแค่คุณที่เจ็บปวดภาพตรงหน้าแสดงสิ่งนี้ให้เห็น
คุณหันไปพยักหน้าให้จุนฮงโอปป้าเบาๆแล้วก้าวเท้าย่างกรายเข้าหาพ่อพร้อมๆกับโอปป้า จงฮยอนเดินตามออกมายืนอยู่ไกลๆ
มืออุ่นจากคนข้างๆเลื่อนมากุมมือของคุณไว้ โอปป้าคงกำลังส่งกำลังให้คุณแม้ว่ามือเขาจะสั่นไหวก็ตาม เราเดินพร้อมกันมาหยุดอยู่ด้านหลังพ่อ เหมือนพ่อจะรู้การมาของคุณและเขาแต่พ่อก็ได้แค่ถอนหายใจเบาๆ
"มีอะไรหรอ?"พ่อหันกลับมามอง และทันทีที่สายตาพ่อไปหยุดอยู่ที่ผู้ชายร่างสูงโปร่งเจ้าของใบหน้าขาวและริมฝีปากน่าสัมผัสนั่น พ่อทำหน้างงๆ พร้อมส่งสายตาสงสัยไปให้จุนฮงโอปป้า
"คุณพ่อครับ....ผมเป็นคนรักของกียอนครับ"เขาเริ่มเปิดประเด็นแบบนั้นทำให้พ่อยิ่งขมวดคิ้วใหญ่
"กียอน? อ่อลูกสาวฉันสินะ "พ่อหันกลับมาเต็มตัวเพื่อสบตากับเขาตรงๆ บรรยากาศมาคุเริ่มทำให้คุณรู้สึกอึดอัดยิ่งกว่าอยู่ในห้องแคบๆไร้อากาศหายใจ
"ครับ...ถ้าคุณพ่ออยากให้เธอแต่งงานกับจงฮยอน ผมอยากได้เหตุผล.."จุนฮงโอปป้าบีบมือคุณแน่นเขาไม่กลัวที่จะสบตา ระหว่างพ่อคุณกับโอปป้าจึงกลายเป็นการแข่งจ้องตาไปแล้ว
"..เหตุผล..?ก็รู้ๆกันอยู่ ฉันน่ะเลือกคนที่จะไม่ทำให้ลูกสาวของฉันเสียใจโดยเด็ดขาดโดยเฉพาะกับใครไม่รู้อย่างนาย"
พ่อเน้นหนักตรงประโยคสุดท้าย จุนฮงโอปป้า ยิ้มอย่างมั่นใจ
"งั้นเชื่อใจผมเถอะนะครับ ผมจะไม่มีทางทำเช่นนั้น"เขากล่าวเช่นนั้นพร้อมยิ้มชวนฝัน ดวงตาจ้องไปข้างหน้า เขาเริ่มเอาจริงแล้วสินะ มือข้างที่กุมมือคุณอยู่หยุดสั่น
"งั้นหรอ..? นายมั่นใจขนาดนั้นเลยหรอ...แล้วทำไมเมื่อกี้ปล่อยให้เธอเดินมาหาฉันคนเดียว? หลังที่จู่ๆก็หายไปแบบนั้น นายคิดว่าฉันจะไม่โกรธหรอ?"
คุณรู้สึกรนจนแทบควบคุมให้ตัวเองอยู่นิ่งไม่ได้ คุณอยากจะบอกให้พ่อหยุดเล่นสงครามประสาท คุณมองไปทางโอปป้าอย่างขอความเห็น แต่โอปป้าจ้องตอบพ่อด้วยสายตาไม่ลดละ
"ครับ...ผมยอมรับว่าไม่ควรปล่อยให้เป็นแบบ นั้น..แต่ตอนนั้นผมมีเรื่องต้องสะสาง"
บรรยากาศเริ่มไม่ธรรมดาแล้ว คุณทำตัวไม่ถูก กระอักกระอ่วน ไม่รู้ว่าควรพูดตอนไหน ...
"มีเรื่องที่สำคัญกว่าลูกสาวฉันสินะ? "จุนฮงโอปป้ายังคงยิ้มเช่นเดิม
"ครับ...ถ้ามันทำให้เธอไม่จากผมไป ล่ะก็นะ"
พ่อมองเขา แววตาสงสัยผุดขึ้นช่วงครู่แล้วหายไป หึ พ่อพ่นลมออกมาเบาๆ
"จะว่าไป นายชื่ออะไร? "
"ชเว จุนฮงครับ"
"มารยาทไม่ดีเลยนะ..."
"ขอโทษครับ พอดีเรื่องกียอนมันสำคัญกว่าชื่อผม"
"หึ ช่างต่อปากต่อคำจริงๆ ว่าแต่ทำงานอะไรล่ะ?"
"ผมเป็นศิลปินครับ" เรื่องนี้ดูท่าจะยาวนาน คุณนึกไม่ออกเลยว่าคนทั้งคู่ต้องการจะทำอะไรกันแน่ ถามไปตอบมา มันวนเวียนแบบนี้มาสักพักแล้วนะ
"อ่อก็พอเดาได้จากบุคลิกหน้าตาและคำพูดคำจาที่ดูมั่นใจแบบนั้น อาชีพไรความมั่นคงรอวันดับ.."
จุนฮงโอป้ายังคงยิ้ม แม้เพิ่งจะโดนดูถูกอาชีพที่เขาสร้างมันมากับมือและแสนภาคภูมิใจ หากคุณเป็นเขาคงอดไม่ได้ที่จะปรี่เข้าไปต่อยสักหมัด
"ครับ...แต่สร้างเงินได้เดือนละหลายล้านวอน"
"นั้นนะ ยังไงก็ได้แค่ระยะสั้น สามสิบไปก็ไม่มีใครมาติดต่อทำงาน แล้วชื่อนายก็หายไปจากความทรงจำทุกคน"บางครั้งพ่อก็ดูโหดร้าย...แต่จุนฮงโอปป้าไม่แม้จะหวั่นไหวเลย คุณนับถือเขาจากใจจริง
"มันก็จริงครับ แต่ผมไม่ได้อยากเป็นนักร้องตลอดไปนี่ครับ เมื่อผมเก็บเงินได้มากพอแล้วผมจะสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง ผมไม่โง่พอจะให้ตัวเองอับจนหรอกครับ"เขายังคงตอบยิ้มๆราวกับเป็นแค่คำถามง่ายๆ คุณทำตัวไม่ถูกแล้วจริงๆเรื่องมันดูร้ายแรงขึ้นทุกทีๆ
พ่อเงียบไปซักพักก่อนจะถามต่อ
"นายอายุเท่าไหร่"
"18 ครับยังห่างไกลกว่า30อีกเยอะ "จุนฮงโอปป้าดูได้เปรียบกว่าในตอนนี้ หากพูดเรื่องอายุแล้วล่ะก็เขาน่ะเป็นหนึ่งในวัยรุ่นที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย พ่อของคุณยังคงเยือกเย็น เขายกยิ้มเล็กๆเช่นเดียวกัน
"นายรู้จักโลกใบนี้มากแค่ไหนล่ะ?"คุณหันหน้าไปหาพ่อสลับกับโอปป้า พวกเขาต้องการอะไรกันแน่? ทำไมไม่เข้าประเด็นกันซะที คุณใจร้อนเพราะด้วยบรรยากาศแปลกๆที่ทั้งคู่แผ่ออกมา
"มากพอจะรู้ว่า...ผมประมาทกับอะไรไม่ได้เด็ดขาด และ..พอจะไม่หลงระเริงกับความสุขมากไปจนลืมความทุกข์ครับ"
".........."
"หากสุขมากไปก็เหมือนว่าวตัวนึงที่บินขึ้นสูงจนติดลมบน ถ้าหากร่วงตกลงมันจะร่วงดิ่งไร้การควบคุม แล้วกระแทกพื้นอย่างแรงสุดท้ายมันจะพังไปทั้งอย่างนั้น"
จุนฮงโอปป้าบอกพ่อของคุณเช่นนั้น เขาไม่ลืมที่จะยิ้มแล้วจ้องตาอย่างจริงใจ
"หึ...นั้นสินะ..แล้วเคยรู้สึกทุกข์ที่สุดมั้ยล่ะ?"
"ไม่ครับ..."เขาสูดลมหายใจเข้าเฮือกหนึ่ง
"แต่กำลังจะเกิด....เพราะต้องเสียกียอนไปครับ"คุณเผลอบีบมือโอปป้าแน่น หน้าเริ่มร้อนผ่าวจนรู้สึกได้...รู้สึกคล้ายๆจะร้องไห้ คุณรีบเบือนหน้าไปทางอื่นหวังกลบเกลื่อน
"หึ...หรอ?...รักมากพอจะแย่งชิงเธอไปจากมือพ่อแท้ๆไหมล่ะ"
------- 75% -------
------- 75% -------
Continue
“พอซักที!! ขอร้องหยุดเถอะ……” ฟางเส้นสุดท้ายขาดผึงลง คุณล้มลงนั่งกับพื้นก่อนจะปล่อยให้น้ำตาแห่งความอึดอัดไหลลงมาอาบแก้ม หัวใจเต้นแรงจนรู้สึกเจ็บไปทั้งอก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นความผิดของคุณ คุณคิดเช่นนั้น ถ้าหากไม่สะเพร่าสลับของสำคัญของพ่อกับของขวัญของโอปป้า ป่านนี้เรื่องมันก็คงดีกว่านี้
ภาพความทรงจำทั้งหมดไหลเข้ามาในสมองเหมือนฟิล์มหนังเก่าๆที่รีเพลย์ซ้ำไปซ้ำมา ภาพแห่งความสุข ความทรงจำ ความรักที่หล่อเลี้ยงหัวใจของคุณมันทำให้มีความสุขมากจนไม่อยากให้มันจบลง
ไม่รู้เลยว่าน้ำตาที่กำลังไหลอยู่เป็นเพราะอะไร….. ไม่รู้จริงๆ
คุณกำหมัดแน่นก่อนจะลุกขึ้นยืน สายตามองตรงไปยังใบหน้าที่มีเค้าของความเหน็ดเหนื่อยฉายอยู่บนนั้น
“ป๊า…..ทั้งหมดนี่หนูผิดเอง แต่หนูขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย”
“……….” พ่อยืนแน่นิ่ง ไม่ตอบ
“ในแฟลชไดรฟ์นั่นมีอะไรอยู่คะ แล้ว…ทำไมพ่อต้องแก้ปัญหาโดยการให้หนูหมั้นกับคนที่ไม่ได้รัก”
“แกอยากรู้ไปทำไม มันไม่ใช่เรื่องของเด็ก ที่แกต้องทำมีแค่ทำตามที่ฉันสั่ง ไม่มีพ่อของไหนอยากทำร้ายลูกหรอก” พ่อไม่ตอบแต่เบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น สายตาคู่นั้นมีแววแห่งความกังวลและความรู้สึกผิด
“สิ่งที่พ่อกำลังทำมันเหมือนฆ่าหนูให้ตายทั้งเป็น ….”
“ในแฟลชไดร์ฟนั่น…”
ความรู้สึกของชายวัยกลางคนเหมือนโดนก้อนหินทุบหนักๆจนแทบจะล้มลงเมื่อเห็นใบหน้าแห่งความเศร้าของลูกสาวตัวเอง สิ่งที่พูดมามันโกหก จริงๆแล้วมันก็แค่คำแก้ตัวของพ่อผู้เห็นแก่ตัวคนหนึ่งเท่านั้น
“เป็นข้อมูลการถ่ายโอนธุรกิจที่พ่อกำลังทำกับบริษัทบ้านจงฮยอนแบบลับๆ……ถ้าไม่มีข้อมูลนั่น พ่อจะล้มละลาย”
“!!!!!”
“ทางเดียวที่สามารถแก้ไขมันคือเราต้องดองกับบริษัทจงฮยอน เพื่อพ่อจะได้ไม่โดนเขาฟ้องล้มละลาย……. ลูกไม่เข้าใจหรอก ที่พ่อทำไปทุกอย่างเพราะปากท้องของครอบครัว”
“…….”
“ตอนนี้พ่อของจงฮยอนป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เขากำลังจะตาย…..”
“!!!!!”
“ธุรกิจที่พ่อทำมันช่วยให้พวกเขาไว้ใจในตัวพ่อ เขาไม่อยากให้ธุรกิจนี้มันตายไปกับตัวเขา…. หุ้นเกือบทั้งหมดเขายกให้ลูกชายนั่นก็คือจงฮยอน ลูกแต่งงานกับเขาก็คือการดองสมบัติแบบที่คนสมัยก่อนเขาทำกัน พ่อจะทำหน้าที่ช่วยบริหารธุรกิจร่วมกับลูกชายของเขา พวกเขากลัวว่าจงฮยอนจะทำทุกอย่างพัง”
“ให้ผมแต่งงานกับกียอนเพราะกลัวผมทำบริษัทพังเนี่ยนะ!!! เห็นผมเป็นไอ้โง่ขนาดนั้นเลยรึไง”
ร่างสูงก้าวเข้ามาด้วยใบหน้าโกรธจัดระคนผิดหวัง เขารู้มาโดยตลอดว่าพ่อของเขากำลังจะตาย เขารู้มาตลอดว่าที่บ้านไม่ไว้ใจให้เขาทำธุรกิจต่อ ที่พ่อให้หุ้นในบริษัทกับเขาเยอะเพราะกลัวว่าพี่เยจินจะโดนสามีฮุบสมบัติ
จงฮยอนกำมือแน่นจนรู้สึกปวดไปทั้งแขน เขาเดินไปยังห้องโถงใหญ่ที่มีพ่อแม่และพี่สาวของเขาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา คุณวิ่งตามไปแต่ดูเหมือนจะไม่สามารถตามทันคนขายาวแบบนั้นได้
“พ่อรู้มั้ยว่าผมไม่ใช่ไอ้โง่!!!”
“จงฮยอน! เป็นบ้าไปแล้วเหรอ” พี่เยจินลุกขึ้นยืน ใบหน้าสวยฉายแววโกรธ มือเรียวยาวดันแผงอกกว้างของน้องชายให้ออกห่างตัวพ่อกับแม่ คุณและคุณนายคิมก้มหน้านิ่ง
“พ่อกับแม่ไม่ไว้ใจผมถึงขนาดจะทำสัญญาให้คนนอกมาจับตามองธุรกิจของผมเลยเหรอ”
“จงฮยอน เราแค่จะช่วยเหลือครอบครัวเขา ลูกไม่เข้าใจหรอกว่ามันคือการให้โอกาส และมันก็เป็นการขยายธุรกิจไปในตัวด้วย”
“หยุดพูดซักที! พ่อกับแม่ไม่เห็นเหรอว่ากียอนเค้าไม่ได้รักผม!” ร่างสูงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยโทสะชี้มาทางคุณที่ยืนอยู่ด้านหลัง แววตาคู่นั้นถึงจะมีความโกรธแต่มันกลับแฝงไปด้วยความเสียใจ ความสงสาร ความรู้สึกผิด ความรักที่เขามีให้คุณอย่างล้นหัวใจ
“พ่อกับแม่ไม่เห็นเหรอ…..ว่าเค้ารักใคร มันไม่ใช่ผม….” ใบหน้าคมก้มลงเพื่อบดบังความเศร้าและน้ำตาที่กำลังรื้นขึ้นมา ทุกครั้งที่พูดคำว่าไม่ได้รักมันเหมือนมีมีดมากรีดแทงใจเขาให้เป็นแผล ถึงมันจะเจ็บปวดแต่นี่ก็คือสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาจะให้คนที่เขารัก
“ถ้ามีข้อมูลในแฟลชไดรฟ์นั่น….ทุกอย่างจะจบใช่มั้ย” จงฮยอนพึมพำบางอย่างเงียบๆก่อนจะวิ่งออกมาจากห้องโถง ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปไหน ถึงแม้จะอยากตามแค่ไหนแต่เวลานี้ไม่มีใครหยุดเขาได้ ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบงันอีกครั้ง ความอึดอัดค่อยๆก่อตัวขึ้นช้าๆจนคุณอยากจะออกไปเสียให้พ้นๆแต่ก็ทำไม่ได้
จงฮยอนเดินกลับเข้ามาในห้องโถงอีกครั้ง มือหนากำซองเอกสารสีขาวที่ไม่มีรอยยับเหมือนไม่เคยผ่านการเปิด เขาเดินมายังโต๊ะที่พ่อกับแม่นั่งอยู่ก่อนจะโยนมันลงไปบนโต๊ะ มือเหี่ยวแห้งของคุณคิมค่อยๆหยิบมันขึ้นมา ร่องรอยของโรคร้ายทำให้มือของเขาขาวซีด ดวงตาอิดโรยมองตรงมายังลูกชายที่ยืนอยู่ก่อนจะก้มลงไปมองเอกสารที่ถืออยู่ในมือ แผ่นกระดาษสีขาวหลายแผ่นที่มีตราบริษัทประทับและข้อความต่างๆมากมายที่มีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่รู้ เขากวาดสายตาเร็วๆก่อนที่มือจะอ่อนแรงลง เอกสารตกลงบนพื้นก่อนที่ร่างของชายวัยกลางคนจะค่อยๆพิงพนักโซฟา
.”ดูสิพ่อ ความคิดของพ่อเองที่บอกว่าผมไม่สนใจอะไรเกี่ยวกับบริษัทเลย วันๆเอาแต่เที่ยวเตร่ พ่อจะด่าผมก็ได้ที่ผมแอบเข้าไปในห้องทำงานพ่อเพื่อดูว่าอะไรมันถึงทำให้พ่อเครียดจนโรคบ้าๆนี่มันเข้ามาทำร้ายตัวพ่อได้!”
“จงฮยอน….”
“ที่ผมทำตัวเละเทะไม่เอาการเอางานเพราะผมรู้ไงครับว่าพ่อกำลังจะตาย ผมแค่อยากจะลืมมัน พ่อกับแม่โกหกผมตลอดไปไม่ได้หรอก พ่อคิดจริงๆเหรอว่าผมจะปล่อยให้บริษัทที่พ่อกับแม่สร้างมันขึ้นมากับมือให้พังลงไป”
“จงฮยอนพ่อขอโทษ…..”
เสียงแหบพร่าของผู้เป็นพ่อเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกผิดที่แท้จริง ความจริงแล้วยังมีอีกมายมายที่เป็นเหตุผลให้เอกสารชุดนี้สำคัญมากแต่เขาไม่อยากให้ลูกชายของเขารับรู้มัน เขาไม่เคยคิดว่าลูกคนนี้จะทำบริษัทพัง เขาแค่อยากเห็นจงฮยอนเติบโตขึ้น มีเขาช่วยเรื่องธุรกิจเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะจากโลกนี้ไป เขาเองก็รู้สึกผิดที่ทำเหมือนลูกชายคนนี้ไม่มีอะไรดีแต่นี่เป็นตัวเลือกสุดท้ายที่เขาจะทำได้
เขายาวอ่อนแรงลมก่อนที่จะพาร่างสูงให้คุกเข่าลงกับพื้น ตอนนี้ทุกคนมีความเจ็บปวดที่ต่างกันแต่จะมีใครหนอที่เจ็บปวดเท่าเขา เขากำลังจะเสียคนที่เขารักไปถึงสองคน อีกคนคือคนที่เขารักและเทิดทูนมาทั้งชีวิตกำลังจะจากเขาไปแบบไม่มีวันกลับ อีกคนคือคนที่เปลี่ยนโลกของเขาให้สวยขึ้นแต่ตอนนี้เธอกำลังจะเดินจากชีวิตเขาไปแบบไม่รู้เลยว่าจะกลับมาอีกหรือไม่ สิ่งที่เขาทำกับเธอมันร้ายแรงเกินกว่าจะให้อภัยได้จริงๆ
“คุณพ่อครับ ขอโทษที่พูดจาไม่ดี ยกโทษให้ผมด้วยครับ” จุนฮงโอปป้าพูดก่อนจะโค้งหัวลงเป็นการถ่โทษต่อชายวัยกลางคนตรงหน้า
“ถ้านายรักลูกสาวฉันจริง นายต้องพิสูจน์ให้ฉันเห็น” พ่อพูดเบาๆ คุณไม่ได้หันมาสนใจเลยด้วยซ้ำเพราะมัวแต่สนใจจงฮยอน
“ยังไงครับ ผมทำได้ทุกอย่าง”
“มาคุยกันเดี๋ยวสิ”
จุนฮงโอปป้าพยักหน้าก่อนจะเดินตามพ่อไป ทั้งสองคนเดินออกไปแบบไม่ให้คุณรู้
ติดตามต่อภาค2ได้เร็วๆนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น