คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 6
19.00 น.
“คุณเยจินคะ ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”คุณเดินเข้าไปหาผู้จัดการร้านคนสวยที่ตอนนี้กำลังง่วนอยู่กับการสรุปรายได้ประจำวัน
“อื้มๆ แล้วพรุ่งนี้เจอกันใหม่นะ(ชื่อคุณ)”เธอกล่าวยิ้มๆแล้วก้มหน้าลงไปเขียนต่อ คุณโค้งให้เธอแล้วคุณก็เดินออกมา
“กลับยังไงล่ะ(ชื่อคุณ)”จงฮยอนเงยหน้ามาถามคุณเมื่อคุณกำลังจะเปิดประตูออกจากร้านไป
“อ๋อ เอิ่มมมมม……”ตอบว่าไงดีวะเนี่ย จะตอบว่าเดี๋ยวจุนฮงโอปป้ามารับก็ไม่ได้ด้วย
“หืม? ให้ฉันไปส่งมั้ย”
“เอิ่ม มะ….ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยว….พี่ชายฉันมารับน่ะ แหะๆๆ” คุณหัวเราะแห้งๆให้กับจงฮยอน คุณเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าคุณคังเคยพูดอะไรเอาไว้เมื่อวันก่อน เขาบอกว่าให้คุณตอบทุกคนว่าเซโล่เป็นพี่ชายของคุณ
อืมม…..พี่ชายก็ไม่เลวนะ คริๆ
“อื้มๆ งั้นกลับดีๆนะ”เขาส่งยิ้มเป็นมิตรมาให้คุณ คุณพยักหน้ารับแล้วเดินผ่านเขามา
คุณผลักประตูร้านออกมาเพื่อมารอจุนฮงโอปป้า ดูเหมือนเขาจะยังไม่มาแฮะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวหาที่นั่งรอแถวนี้ก็ได้ ก็เขาบอกให้คุณรอนี่เนอะ คุณก็ต้องรอเขาอยู่แล้วแหละ ฮ่าๆๆ
คุณเลือกม้านั่งสีขาวที่ห่างจากร้านไม่มากนักเพื่อเป็นสถานที่นั่งคอย บรื๋อออ~ ทำไมวันนี้อากาศมันหนาวอย่างนี้เนี่ย เมื่อวานว่าหนาวแล้ววันนี้หนาวยิ่งกว่า ไม่รู้ว่าหิมะจะตกรึเปล่า ถ้าตกแล้วแย่แน่เลยเพราะการทำกิจวัตรของคุณคงไม่สะดวกเท่าไหร่
คุณหยิบเสื้อหนาวที่พันอยู่รอบเอวตัวเองออกมาก่อนจะกางมันแล้วคลุมไหล่ ถ้าคุณรู้ก่อนหน้านี้ว่ามันจะหนาวแบบนี้ คุณคงใส่เสื้อที่หนากว่านี้มาแล้วล่ะ เฮ้อ~ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวจุนฮงโอปป้าก็มา ลมหายใจเริ่มจะเป็นไอแล้ว
คุณถูมือไปมาเพื่อเพิ่มความอุ่นก่อนจะแตะที่แก้มเบาๆ ไอ้ชุดพนักงานนี่ก็ไม่ได้ช่วยคลายหนาวขึ้นมาซักนิดเลย หนาวจะตายอยู่แล้วเนี่ย
คุณปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ตลอดเวลาที่คุณนั่งคอยคุณก็เดินออกไปดูตรงฟากถนนเป็นระยะๆ หวังว่าจะเห็นผู้ชายตัวสูงผมสีควันบุหรี่เดินมาบ้าง แต่คุณก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา
คุณเบ้ปากพลางหยิบมือถือในกระเป๋าเพื่อดูเวลา
20.30 น.
อะไรวะเนี่ย นี่ฉันรอเขามาชั่วโมงนึงแล้วเหรอ นั่งรอจนจะแข็งตายอยู่แล้วทำไมเขายังไม่โผล่หัวมาอีก หรือว่าเขาจะเบี้ยวนัด แบบแกล้งอำคุณเล่นแล้วตัวเองก็นอนขลุกอยู่ในหอกับพวกฮยอง ฮึ่ย! เป็นไปไม่ได้หรอก เขาจะต้องมาแน่นอน ก็เขาเป็นคนนัดเองนี่นา คิดในแง่ดีเอาไว้เขาอาจจะซ้อมหนักเลยเลิกช้าก็ได้
“อ้าว(ชื่อคุณ)! ยังไม่กลับอีกเหรอ ฉันนึกว่าเธอกลับไปแล้วเสียอีก”จงฮยอนสีหน้าตกใจนิดๆเมื่อมองเห็นคุณ เขาสวมเสื้อโค๊ดตัวสีดำคลุมเข่า ในมือเขาถือถ้วยกาแฟที่มีควันลอยกรุ่นออกมาเป็นระยะๆ
“คือ…พี่ชายฉันยังไม่มารับเลย”คุณหันไปยิ้มให้เขา
“งั้นเดี๋ยวฉันจะรอเป็นเพื่อนนะ”เขาพูดพลางเดินมานั่งลงบนม้านั่งใกล้ๆกับคุณ เขาจัดได้ว่าเป็นคนที่ดูดีมากคนหนึ่งเลยล่ะ เห็นแล้วนึกถึงเจปาร์คยังไงไม่รู้ ทรงผมก็คล้ายๆกันด้วย ฮ่าๆ
“ไม่เป็นไรหรอกจงฮยอน เดี๋ยวพี่ชายฉันก็มาแล้ว” คุณไม่อยากให้จงฮยอนรู้ว่าพี่ชายที่คุณบอกเขาคือชเว จุนฮง มักเน่แห่งบีเอพี คุณเลยต้องพูดแบบนั้นไป แต่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะไม่สนใจเลยซักนิด
“เธอไม่รู้เหรอว่าตอนนี้ที่นี่เริ่มจะหนาวแล้ว ทำไมถึงไม่ใส่เสื้อให้หนากว่านี้ล่ะ แจ๊คเกตบางๆตัวเดียวเอาไม่อยู่หรอก”เขาพูดพลางจิบกาแฟในมือก่อนจะเปิดกระเป๋าของตัวเองแล้วหยิบผ้าพันคอสีดำดูนุ่มนิ่มมาให้คุณ
“ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวฉันก็ถึงบ้านแล้วล่ะ”คุณกล่าวยิ้มๆ ในใจอยากจะดึงมันมาห่อตัวให้กลายเป็นหนอนไปเลย แต่คุณก็ต้องวางฟอร์มเอาไว้ก่อน ฮ่าๆๆ หนาวจะตายหองแล้ว
“เอาไปเหอะน่า ปากเธอสั่นขนาดนั้นเดี๋ยวก็ป่วยแย่หรอก พรุ่งนี้ค่อยซักมาคืนฉันก็ได้”จงฮยอนยังยืนยันที่จะยื่นผ้าพันคอให้คุณ
“ขอบคุณค่ะ”คุณยื่นมือไปหยิบมันมาจากมือเขาแล้วก็เอามากอดไว้ อุ่นขึ้นมานิดหนึ่งแหละ
“กียอน! ขอโทษที่มาช้านะ”เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลัง เสียงที่คุณรู้จักดีและคลั่งไคล้มานาน จุนฮงโอปป้านั่นเอง
เขาใส่เสื้อโค๊ดสีดำยาวคล้ายๆกับตัวที่เขาใส่ในเอ็มวี one shot ที่คอมีผ้าพันคอขนแกะสีฟ้าอ่อนๆพันอยู่ คุณจ้องเขาตาไม่กระพริบเลยล่ะ
แม่เจ้า! วันนี้เขาเหมือนพระเอกในซีรีย์เกาหลีสุดๆไปเลย แอร๊ยย>< คุณชายขร๋าาาาาา
“ทำไมพี่มาช้านักล่ะ ฉันรอจนจะหนาวตายอยู่แล้ว”คุณลุกขึ้นโวยวายทันทีเมื่อเห็นคนตัวสูงผมสีควันบุหรี่ตรงหน้า
“อย่าบ่นมากได้มั้ย เอานี่ไปซะ”ดูเหมือนว่าเซโล่จะไม่สนใจสิ่งที่คุณพูดซักนิด เขาดึงผ้าพันคอสีฟ้าอ่อนออกมาจากคอตัวเองก่อนจะยื่นมาให้คุณ
คุณรับมันมาถือเอาไว้ ตอนนี้คุณถือผ้าพันคอของผู้ชายสองคนอยู่ ผืนหนึ่งเป็นของเพื่อนร่วมงานสุดหล่อ ผืนหนึ่งเป็นของซุปตาร์เอเชีย คุณมองมันสลับกันไปมา จะสวมของใครดีล่ะ ถ้าคุณสวมของเซโล่ จงฮยอนก็อาจจะเสียความรู้สึก และถ้าคุณสวมของจงฮยอน แน่นอนว่าเซโล่จะต้องโกรธคุณแน่
“พี่ชายเธอมาแล้วก็ดี งั้นฉันขอผ้าพันคอคืนได้มั้ย”จงฮยอนลุกขึ้นยืนมองคุณด้วยสายตานิ่งๆก่อนจะแบมือออกมาตรงหน้าคุณ คุณยิ้มแห้งๆให้เขาแล้วตั้งผ้าพันคอสีดำลงบนมือของเขาเบาๆ จงฮยอนเอามันไปพันที่คอของตัวเองแล้วยิ้มให้คุณนิดๆก่อนจะเดินล้วงกระเป๋าไปอีกทาง
บ๊ายบายยย~
แล้วจงฮยอนก็เดินหายไป
“ทำงานไม่กี่วันนี่มีแฟนแล้วเหรอ?”คนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างๆคุณถามเสียงนิ่ง หลังจากที่ยืนเงียบมานาน
“ไม่ใช่นะคะโอปป้า นั่นเพื่อนฉันต่างหาก เค้าชื่อจงฮยอน” คุณพูดพลางเอาผ้าพันคอขึ้นมาพันเพื่อบรรเทาอาการหนาว อุ่นขึ้นเยอะเลยอ่ะ ไม่ค่อยหนาวแล้ว
“เหรอ?”เซโล่พูดเสียงเรียบนิ่งแล้วเดินไปโดยที่ไม่ได้รอคุณ อะไรของเค้าแวะ
คุณวิ่งเพื่อให้ทันคนขายาวที่เดินนำไปแล้ว วันนี้เขาหล่อมากจริงๆนะ น่ากอดเป็นบ้าเลยอ่ะ ถ้ากอดได้ป่านนี้คุณคงขี่คอเขาไปแล้ว ฮ่าๆๆๆ
“โอปป้าอย่าเดินไวนักสิ ฉันตามไม่ทันนะ”คุณเริ่มต้นโวยวายเมื่อเดินขนาบข้างกับเขาเรียบร้อยแล้ว เซโล่เหล่ตาลงมามองคุณนิดหน่อยก่อนจะอมยิ้มออกมา
“ฮ่าๆๆ เธอขาสั้นเองตะหาก”
“ใช่ซี่! ใครมันจะไปขายาวแบบโอปป้าล่ะ คนอะไรไม่รุ อายุแค่ 17 แต่สูงกว่าคนอายุ 23 อีก”
“ฮ่าๆ ฉันเองก็ไม่ได้อยากสูงขนาดนี้ซักหน่อย”เขาพูดพลางเอามือล้วงลงไปในกระเป๋า
“ว่าแต่…..ทำไมวันนี้โอปป้าถึงมาช้าจัง ถ้าโอปป้ามาช้ากว่านี้ฉันจะเดินกลับเองแล้ว”คุณพูดยิ้มๆแล้วมองใบหน้าด้านข้างของเซโล่
“วันนี้ซ้อมเลิกช้าไปหน่อย เธอเดินกลับเองไม่ได้หรอก ทางมันเปลี่ยวจะตายไป”
“โอปป้ากลัวฉันโดนฉุดเหรอ?”
“ฮ่าๆๆ ยัยบ้า อย่างเธอใครมันจะฉุด ไม่เห็นมีอะไรน่าดึงดูดใจเลยซักนิดเดียว”
กรี๊ดดด! นี่เขากำลังว่าฉันนมแบนทางอ้อมใช่ม้ายยยย!!
คุณก้มลงไปมองหน้าอกตัวเองแล้วถอนหายใจออกมา เฮ้อ! จะว่าไปแล้วฉันมันก็จอแบนจริงๆ ชิ! นมเล็กแล้วยังไง นมเล็กก็หาแฟนได้เหมือนกันแหละ
“ถึงฉันจะไม่เซ็กซี่ แต่ฉันก็ท้องให้ผู้ชายได้เหมือนผู้หญิงคนอื่นนั่นแหละค่ะ” คุณพูดตัดพ้อออกมาเบาๆ ซึ่งนั่นทำให้คนตัวสูงถึงกับหยุดเดินแล้วหันมามองหน้าคุณตาโต
“อะ…อะไรเหรอโอปป้า ทะ….ทำไมมองหน้าฉันแบบนั้น”
“ฮ่าๆๆๆ ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนกล้าพูดกับฉันแบบนี้เลยนะ ตลกจัง ฮ่าๆๆๆ”คราวนี้เขาหัวเราะออกมาอีกแล้ว ทำไมเขาเป็นคนที่หัวเราะง่ายจัง แต่ก็น่ารักดีนี่นา
“มันตลกตรงไหนเหรอคะ ฉันแค่พูดออกมาตามความจริง”
คุณกระชับผ้าพันคอให้แน่นขึ้นแล้วเดินไปพร้อมๆกับเขา รู้สึกโรแมนติคดีจัง เหมือนกำลังถ่ายซีรีย์อยู่เลยล่ะ
“โอปป้าฉันหิว~”คุณเขย่าแขนของคนข้างๆไปมาแล้วทำหน้าตาบ๊องแบ๊วเหมือนลูกหมา จริงๆมันคือการหลอกแต๊ะอั๋งเขาทางอ้อมดีๆนี่เอง อิอิอิ ได้เกาะแขนเขาแบบนี้ก็อุ่นดีนะ อุ่นทั้งกายทั้งใจเลย~
“หะๆ ฉันก็กำลังจะพาเธอไปทานข้าวอยู่นี่ไง”
“โอปป้าคะ โอปป้าออกมาเดินกับฉันโดยที่ไม่ปิดหน้าแบบนี้มันจะดีเหรอ”
“ไม่เห็นมีอะไรต้องให้ห่วง ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อยนี่ ”เขาพูดโดยที่ไม่ได้คิดอะไรมาก
ฮึก! ฉันผิด~ ที่เข้าจายผิด~ ผิดที่คิดว่าเรารักกัน~ T^T เริ่มจะเพี้ยนแระ แต่มันก็จริงของเขานี่นา คุณไม่ได้เป็นอะไรกับเขาซักหน่อย เขาก็ไม่เห็นต้องกังวลอะไร ว้า~ ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เหอะ แต่ก็แอบเจ็บไม่ได้อยู่ดี
ถ้าสวรรค์พังครืนลงมาตอนนี้ก็คงดีเนอะ จะได้รู้สักทีว่านี่มันคือฝัน อยากจะกรี๊ดดังๆให้ฟุตบาทข้างทางพังซะเหลือเกินค่ะ
อ๊ายยย! เขินอ่ะ คิดดูสิคุณกำลังได้เดินอยู่กับไอดอลที่ชอบและหลงใหลสุดๆอยู่ เดินข้างๆแทบจะชิดติดกัน นี่ๆ โอปป้าคะ จับมือกันก็ได้นะเค้าไม่หวง อ๊า~ โอปป้าจะรู้มั้ยนะว่าเราเขินเขาแทบตาย ไม่ได้ๆ ใจเย็นไว้ก่อน อย่าเพิ่งข่มขืนใครตอนนี้ (ห้ะ?)
คุณและเซโล่เดินมาเรื่อยๆเพื่อมาหาร้านอาหาร ตอนนี้เป็นเวลาที่ค่อนข้างจะมืดค่ำแล้วแต่คนที่นี่กลับยังดูครึกครื้น ดูเหมือนยิ่งดึกก็ยิ่งครึกครื้นด้วยซ้ำไป อา~ จะมีใครเห็นหน้าแดงๆของฉันตอนได้เดินกับโอปป้าบ้างมั้ยนะ
รอบกายรายล้อมไปด้วยร้านอาหารมากมาย กลิ่นของอาหารตามแบบฉบับของเกาหลีลอยมาตามอากาศ หอมฟุ้งตลบอบอวลไปหมด อา~ เดี๋ยวจะแดกแมร่งให้หมด ฮ่าๆๆ
“เฮ้! เธออยากกินอะไรเหรอ?”คนร่างสูงข้างกายถามคุณด้วยสีหน้าที่แลดูแล้ว…น่ากอด ว้าย คิดไรอ่า ไม่ๆๆๆ ตอนนี้ตอบตอบก่อน ว่าแต่จะกินร้านไหนดีเนี่ย ดูน่ากินไปหมดเลย
“เออออ ร้านไหนก็ได้ค่ะโอปป้า ฉันกินได้หมด”คุณตอบกลับไปพร้อมกับหันมองรอบกาย จริงๆแล้วอยากจะตอบว่าอยากจะกินหมดทุกร้านเลย โอปป้าอ๊ากกก! แต่หากคุณตอบไปแบบนั้นมีหวังคุณโดนเรียกว่าตะกละแทนคำว่ากียอนแน่นอน ไม่มีวันให้เป็นแบบนั้นหรอก แค่คำว่ายัยบ้า ยัยเพี้ยนก็เกินจะทนแล้ว ฮ่าๆ
“งั้นเหรอ? อืมมม งั้นเอางี้ หลับตาเลือกกัน!”จุนฮงโอป้าหันมาเอ่ยกับคุณด้วยรอยยิ้มขี้เล่น คุณเงยหน้ามองคนตัวสูงพร้อมเอียงคอด้วยองศาที่คิดว่าน่ารักที่สุด ฮ่าๆๆๆๆๆ
“ไม่เข้าใจหรอ …..อืม เอ้า”
จู่ๆมือใหญ่ๆก็เลื่อนมาปิดตาคุณโดยที่คุณยังไม่ทันได้ตั้งตัว อา….จะจำไปจนตายเลยว่ากลิ่นของโอปป้ามันหอมละมุนยุ่นละไมขนาดไหน หวาๆ
“นี่ไงล่ะ คราวนี้ก็ชี้ซะ”เขาก้มหน้าลงมากระซิบที่ข้างหูคุณเบาๆ โฮกก สิบชาติจะพอให้ตายมั้ยเนี่ย คุณเองก็ได้แต่นิ่งเงียบด้วยความเขินแต่ก็ไม่ลืมที่จะชี้ออกไปมั่วๆสักทาง แอร๊ยย อยากจะให้โอปป้าอยู่ใกล้ๆฉันแบบนี้ตลอดไปจัง ด้วยควมคิดนี้คุณจึงแกล้งชี้ไปทางโน้นทางนี้ทีจนคนข้างๆเริ่มบ่น
“เฮ้ยย! เลือกมันซักร้านดิ ฉันหิวจะแย่แล้วนะ” มือคุณก็ยังคงชี้ต่อไปพร้อมกับเสียงบ่นของคนข้างๆ เออๆๆ เลือกก็เลือกวะ คุณหยุดนิ้วที่ชี้อยู่ไปข้างหน้า มือใหญ่ๆของเซโล่ก็ค่อยๆถอยห่างจากตาของคุณ คุณหันไปมองเซโล่อยากขอความเห็น
“อืมมม ร้านนั้นน่ะฉันเคยมากิน ก็เป็นร้านรามยอน แต่ว่า…….”เซโล่เงียบไปชั่วครู่หนึ่งก่อนจะหลับตาพริ้มเหมือนคิดอะไรอยู่ในหัว อา~ พี่จะรู้มั้ยว่ายิ่งทำหน้าแบบนั้นพี่ยิ่งดูน่ากอดขึ้นเป็นกองเลย
“คนแก่ๆจะชอบนั่งกันน่ะ แต่รามยอนที่นั่นอร่อยมากเลย”เขาพูดพลางลืมตาขึ้นแล้วหันมองมาทางคุณ
เหมือนเขาจะคิดว่าจะนั่งดีไหม สีหน้าเขามันบ่งบอกทุกอย่างเลยอ่ะ แต่ถึงคนแก่เยอะก็ไม่เห็นเป็นไร ต่อให้ต้องกินข้าวในห้องน้ำ แต่ถ้ากินกับโอปป้าฉันพร้อมเสมอแหละค่ะ ฮ่าๆๆ
“ฉันว่าร้านคนแก่เยอะๆก็ดีนะคะ จะได้ไม่มีใครมาแอบถ่ายโอปป้าไปลงเน็ตไง”
เซโล่พยักหน้ารับก่อนจะลากคุณเข้าไปในร้านโดยเร็ว อ่าว! ตกลงใครกันแน่ที่หิวข้าวเนี่ย
คุณและเซโล่เดินเข้ามาในร้าน และเป็นไปตามคาด คุณเห็นคนแก่นั่งอยู่เต็มไปหมดเลย แต่ละคนดูอิ่มเอมเปมปรีดากันมาก แล้วก็อดยิ้มไม่ได้แฮะ
“เชิญค่ะ”คุณและเซโล่หันพร้อมกันไปยังต้นเสียง หญิงวัยกลางคนท่าทางภูมิฐานยืนอยู่หลังเคาท์เตอร์ผายมือไปยังโต๊ะตัวหนึ่ง
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าคนหนุ่มสาวจะมานั่งกินร้านแบบนี้ด้วย เด็กสมัยนี้น่ะไม่ค่อยจะมาหรอก ส่วนใหญ่ก็ไปอยู่ตามผับตามบาร์กันหมด เชิญนั่งเลยค่ะ”
ป้าคนนั้นยิ้มอย่างใจดี โอปป้าเองก็ยิ้มตอบเธอไป ช่างเป็นยิ้มที่ละลายโลกอะไรแบบเน้!! คุณทั้งคู่เดินไปนั่งที่โต๊ะตัวนั้นทันที คุณเลือกที่จะนั่งฝั่งตรงข้ามกับเซโล่ จะได้มองหน้าเขาได้ชัดๆไง
“เอารามยอนอะไรก็ได้ที่อร่อยที่สุดในร้านมาสองที่นะครับ”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวป้ายกมาให้นะคะ”ป้าส่งยิ้มเป็นมิตรมาให้ก่อนจะเดินออกไป
คุณเปลี่ยนสายตาจากมองป้าคนเมื่อกี้มามองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแทน วันนี้เขาหล่อมากเลย จริงๆเขาก็หล่อแบบนี้ทุกวันอยู่แล้วล่ะ ดูริมฝีปากสีชมพูนั่นสิ ถ้าได้สัมผัสซักครั้งจะรู้สึกยังไงกัน นี่ชีวิตนี้เกิดมาเขารู้จักคำว่าสิวมั้ยนะ หน้าใสยิ่งกว่าฉันอีก อุ๊ย พูดแล้วอายเลย
“อะไร เธอมองหน้าฉันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ”เซโล่เอามือขึ้นมาโบกไปมาแถวๆหน้าคุณเพื่อเรียกสติที่ตอนนี้ลอยไปไกลถึงฟินแลนด์แล้ว ฮ่าๆๆๆ
“เฮ้อ~ ฉันอิจฉาโอปป้าจัง”
“เธออิจฉาอะไรฉันล่ะ แต่ละคนมีดีไม่เหมือนกันหรอกนะ”
“ก็โอปป้าอ่ะดูมีความสุขสุดๆเลย ได้รับความรักจากคนรอบข้าง ทั้งจากแฟนคลับและจากครอบครัว แถมยังมีเงินตั้งเยอะตั้งแยะ คนดังน่ะน่าอิจฉาจะตายไป”
“ถึงฉันจะเป็นคนดังแต่เธอรู้มั้ยว่ากว่าจะมีวันนี้ฉันผ่านอะไรมาบ้าง”
“……………”คุณสบตาคนตรงหน้านิ่ง แววตาของเขาดูมีอะไรมากมายที่คุณยังไม่รู้
“ตอนเด็กๆฉันต้องคอยซ้อมวันละสิบชั่วโมงเพื่อให้ตัวเองเก่งขึ้น คนบางคนมองว่าเวลา 24 ชั่วโมงที่พวกเขามีมันอาจจะพอดีแล้ว แต่สำหรับฉัน…..มันกลับดูน้อยมากๆจนฉันอยากจะให้มันมีเพิ่มอีกสัก 10 ชั่วโมงก็ยังดี”
“…………….”
“ฉันต้องออดิชั่นตามค่ายเพลงต่างๆมากมายเพื่อตามความฝัน แต่ฉันก็โดนพวกเขาปฏิเสธกลับมาทุกครั้งเพียงเพราะเหตุผลงี่เง่าที่ว่า……..ฉันยังเด็กเกินไป และคำปฏิเสธเหล่านั้นก็เป็นไฟผลักดันให้ฉันซ้อมมากขึ้นอีกเพื่อลบความเชื่อเดิมๆที่พวกเขามี สุดท้ายฉันก็สามารถพิสูจน์ให้คนทั้งโลกได้รู้ว่า เด็กอายุ 15 อย่างฉันก็สามารถทำตามความฝันของตัวเองได้เหมือนกัน”
“………….....”
“หะๆ ถึงแม้ว่าพวกเราจะเหนื่อยสายตัวแทบขาดแค่ไหนแต่เมื่อต้องมาเจอกับแฟนคลับพวกเราก็ต้องแสร้งทำเป็นยิ้มเพื่อให้พวกเขามีความสุข บางครั้งเราต้องบินไปทัวร์คอนเสิร์ตที่นั่นที่นี่จนไม่มีเวลานอนด้วยซ้ำ เบื้องหลังของความสำเร็จที่พวกเธอเห็นน่ะมันยังมีอะไรอีกมากมายที่พวกเธอยังไม่รู้ ”
“โอปป้า…….”คุณเรียกชื่อคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
“ฮ่าๆๆๆ ชั่งมันเถอะ ไม่ต้องสนใจสิ่งที่ฉันพูดหรอก มากินกันดีกว่า”เซโล่เปลี่ยนจากสีหน้าตึงเครียดเมื่อครู่มาเป็นรอยยิ้มเล็กๆประดับหน้า คุณเดาไม่ออกเหมือนกันว่ารอยยิ้มนี้เขาแสร้งทำรึเปล่า
ป้าคนเมื่อครู่ยกรามยอนควันกรุ่นมาวางลงบนโต๊ะ ทั้งคุณและเซโล่ต่างหิวกันมากและเมื่ออาหารมาเสิร์ฟ บทสนธนาก็เงียบลงทันทีเพราะต่างคนก็ต่างกิน
อ๊าาาาา~ อิ่มจังงง
คุณและเซโล่เดินออกมาจากร้านรามยอนพร้อมกัน คนที่จ่ายเงินค่ารามยอนก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากจุนฮงโอปป้า ถึงคุณจะยืนยันว่าจะจ่ายยังไงสุดท้ายเขาก็เลี้ยงคุณอีกตามเคยนั่นแหละ
“เราจะไปไหนต่อดีล่ะคะ”คุณเงยหน้าไปถามคนตัวสูงที่เดินเป่าหมากฝรั่งอยู่ข้างๆอย่างชิวๆ
“ฉันว่าจะไปดูร้านขายซีดีซักหน่อย เธอง่วงแล้วเหรอ”เขาก้มลงมาถามคุณ เอ่ออ ก็คนมันเตี้ยอ่ะให้ทำไงได้เล่า
“ป่าวค่ะ ไม่ง่วงเลยค่ะ แหะๆ”คุณยิ้มพลางเกาหัวแกรกๆ
คุณทั้งคู่เดินด้วยกันมาเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่ร้านซีดีแห่งหนึ่ง ไม่อยากจะพูดว่าตลอดเวลาที่เดินมาน่ะ เวลาเดินสวนกับพวกวัยรุ่นผู้หญิงทีไรคุณรู้สึกร้อนๆหนาวๆยังไงไม่รู้ อย่างกับโดนแช่ง พวกชีก็จะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายแชะๆๆๆๆตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองคุณจึงต้องแกล้งเดินตามหลังเซโล่โอปป้าบ้างล่ะ ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้จักให้เนียนที่สุดถึงแม้ใจจริงคุณอยากจะเดินไปควงแขนเขาแล้วพูดว่า ’ฉันมากับเขาย่ะพวกหล่อน’ แค่ไหนก็ตาม
ที่ร้านซีดี
“เธอมาช่วยเลือกDVDหน่อยสิ เอาเรื่องอะไรดีน้า”เซโล่เม้มปากสีหน้าครุ่นคิด มือก็ยกซีดีแผ่นนั้นทีแผ่นนี้ทีขึ้นมาดู แต่ก็ไม่หยิบออกมาซักเรื่อง
คุณจำได้ว่าเคยอ่านแฟคในเน็ตว่าเขาชอบดูหนังเรื่อง Step up นี่นา คุณจึงเดินไปหาหนังเรื่องนี้ตามชั้นต่างๆ คุณพลิกไปพลิกมาจนในที่สุดก็เจอ คุณหยิบมันขึ้นมาอย่างเร็วเหมือนกลัวว่าจะมีใครหน้าไหนแย่งมันจากคุณไป
“เอาเรื่องนี้ดีมั้ยโอปป้า”คุณโบกแผ่นDVDไปมาตรงหน้าของคนตัวสูง เขาละสายตาจากหนังในมือแล้วหันมามองคุณ
เมื่อเขาเห็นสิ่งที่อยู่ในมือคุณ เขาก็ผุดยิ้มกว้างออกมาแล้วแย่งDVDแผ่นนั้นออกจากมือคุณไปถือไว้อย่างเร็ว
“ฮึ่ยย! เธอรู้ได้ไงน่ะว่าฉันกำลังหาหนังเรื่องนี้อยู่”เขาดูตื่นเต้นมากเหมือนเจอสิ่งที่หามานาน เขาพลิกDVDแผ่นนั้นไปมาอย่างตื่นเต้น น่าหยิกแก้มเป็นบ้าเล้ยย
“ฉันก็….เดาๆเอาน่ะค่ะ แหะๆ”
คุณพูดก่อนจะเดินออกมาจากโซนหนังแล้วเดินมายังฝั่งที่เป็นเพลงแทน ที่นี่แบ่งล็อกของซีดีได้เป็นระเบียบมากเลย ทำให้คุณสามารถเลือกชนิดเพลงที่จะฟังได้ไม่ยากแถมยังมีหูฟังเอาไว้ให้ลองฟังเพลงดูด้วย
คุณยืนดูเพลงของฝั่งตะวันตกไปเรื่อยเปื่อย คุณไม่คิดที่จะซื้อหรอกนะเพราะเห็นราคาแล้วมันปวดใจเหลือเกิน แพงอิ๊บอ๋ายเลยล่ะ
สวบ!
คุณรู้สึกเหมือนมีใครเอาหูฟังมาครอบเอาไว้ที่หูของคุณทั้งสองข้างโดยที่คุณยังไม่ทันได้ตั้งตัว คุณรีบหันขวับไปด้านหลังทันทีด้วยความตกใจ เฮือกกกกกก! จุนฮงโอปป้า!!
เมื่อคุณหันไปคุณก็เจอกับแก้มขาวใสของคนร่างสูงที่ดูเหมือนจะก้มลงมาให้อยู่ในระดับเดียวกับคุณ เฮือก! ไรผมสีควันบุหรี่ของเขาลู่ไปมาบนปลายจมูกของคุณจนได้กลิ่นแชมพูอ่อนๆ จะเป็นลม!!
“อยู่นิ่งๆสิ ฉันจะฟังด้วย”เขาเอาหูของเขามาแนบกับหูฟังที่คุณสวมอยู่เบาๆ มือของเขาก็เอื้อมมาเลื่อนเพลงไปมาจากข้างหลังคุณทำให้ดูเหมือนว่าคุณกำลังถูกสวมกอดจากคนตัวสูง ไม่อยากจะบรรยายความรู้สึกเลย คุณกับเขาอยู่ใกล้กันมากจนคุณได้กลิ่นน้ำหอมที่เขาฉีดมาอย่างชัดเจน หน้าฉันแดงไปหมดแล้วแน่ๆเลย
게으름의 노예 흔들어 고개를 노력도 없는 놈들은 당장 잠에서 깨 방구석에 앉아서 높은 자리를 원해이건 게임이 아닌데 현실들을 구분 못해 oh yeah go around a track 시간은 계속 돌고 돌아 so far away 준비된 자만이 진짜로 말을 해제자리는 후회 뿐이야니가 눈을 감을 때 whoa
เอ๋!? เขาเปิดท่อนแร็พเพลง one shot ของตัวเองให้ฉันฟังเนี่ยนะ เพื่อ!!!?? คุณรู้สึกเสียดายนิดๆที่เพลงที่เขาให้ฟังไม่ใช่เพลงรักหวานแหววเหมือนที่คุณคิด แต่การฟังเพลง one shot ครั้งนี้ ให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนครั้งก่อนๆเลยล่ะ
ก็เจ้าของเสียงที่ดังอยู่ในหูฟังน่ะ เขายืนอยู่ข้างๆฉันตอนนี้ไงล่ะ…..
................................................................................................................................................................
To be continue
ความคิดเห็น