ลำดับตอนที่ #23
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : Chapter 20
Chapter 20
Jonghyun Part
"เราจะ......ได้เจอกันอีกมั้ย?"ผมถามออกไปโดยที่รู้อยู่แล้วว่าคำตอบจะเป็นเช่นไร แต่ผมก็อยากจะได้ยินเสียงเธออีกสักครั้งก่อนที่เราอาจจะไม่ได้พบหน้ากันอีกเลย
"ไม่!"
ปัง!
เสียงปิดประตูรถและสีหน้าแห่งความเกลียดชังจากคนที่ผมรักมันเป็นเหมือนมีดคมๆขนานแท้ที่พุ่งเข้ามาปักอกจนเจ็บไปหมด ผมรู้สึกชาไปทั้งหน้าราวกับโดนตบด้วยมือที่มองไม่เห็น ผมได้แค่จ้องมองแผ่นหลังคนตัวเล็กที่วิ่งหนีผมเข้าไปในหอพักโดยที่ไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมามอง
ผมเอนหลังทิ้งตัวลงบนพนักก่อนจะหลับตาเบาๆ ลมแอร์เย็นๆกระทบกับแผ่นอกและท่อนแขนผมจนมันเย็นวาบๆจนขนลุกชัน แต่นี่มันไม่ได้แม้แต่เสี้ยวนึงของความหนาวเน็บในใจผม ผมมันโง่ ผมมันบ้าไปแล้วจริงๆที่ทำอะไรไม่คิดจนมันกลายเป็นทำร้ายคนที่ผมรัก
ฉันขอโทษ...........
ต่อให้ผมพูดขอโทษอีกซักกี่ร้อยครั้งกียอนก็คงไม่ให้อภัยผม แน่สิ ก็ผมทำให้เธอเจ็บขนาดนั้น เธอคงจะไม่พูดกับผมอีก จริงๆแล้วเธออาจจะไม่มาให้ผมเห็นหน้าอีกเลยก็ได้
เฮ้อ....เธอเป็นใครกันแน่นะกียอน ทำไมเธอถึงมีอิทธิพลต่อหัวใจฉันได้ขนาดนี้ ผู้หญิงคนอื่นๆที่เคยเข้ามาเกี่ยวโยงกับผม สุดท้ายแล้วหลังจากผ่านคืนหนึ่งๆไปผมก็ลืมทุกอย่างเกี่ยวกับคนๆนั้นไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
บทสนทนาสั้นๆมักจะเกิดขึ้นในไนท์คลับที่ผมมักจะไปบ่อยๆหลังจากนั้นก็จะจบลงบนเตียง เป็นแบบนี้ซ้ำๆเกือบทุกวันจนผมเข้าใจว่าความรักจริงๆแล้วมันก็แค่ความฉาบฉวยหรือไม่ก็แค่ความใคร่ในตัวผู้หญิงและผู้ชาย
มันไม่มีอะไรมากไปกว่าคำว่า One night stand.....
แต่นับตั้งแต่วันนั้น วันที่มีผู้หญิงคนนึงเข้ามาในชีวิตผม ผู้หญิงชาวต่างชาติตัวเล็กๆที่ไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นที่ผมเคยเจอ ผมไม่เคยคิดกับเธอมากเกินกว่าคำว่าเพื่อนร่วมงานหรือลูกจ้างจนนานๆวันเธอก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผม รอยยิ้มของเธอทำให้ผมยิ้มตามได้ทุกครั้งถึงแม้จะรู้สึกแย่แค่ไหนก็ตาม
ผมทบทวนความรู้สึกซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนผมมั่นใจและกล้าบอกเธอไปว่าในใจผมนั้นจริงๆแล้วคิดกับเธออย่างไร
แต่คำตอบที่ผมได้กลับสวนทางกับสิ่งที่ผมคิด ผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ในใจผมเธอมีผู้ชายอีกคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในใจเธอเหมือนกัน และคนๆนั้นก็เป็นคนที่ผมเกลียดขี้หน้าเอามากๆด้วย
หมอนั่นน่ะไม่เคยทำอะไรผิดหรอก แต่ผมก็แค่หมั่นไส้ที่มันได้ทุกสิิ่งทุกอย่างไปในขณะที่ผมไม่ได้อะไรแม้แต่อย่างเดียว ผมยอมรับว่าสิ่งที่ผมพูดที่สวนสาธารณะวันนั้นมันก็เป็นแค่เพราะผมต้องการกวนประสาทหมอนั่นเล่นๆ แต่จริงๆผมก็ไม่ได้มีเจตนาเลวร้ายอะไรเลย
ผมไม่เคยคิดจะทำร้ายใครก่อนหรอก......
ก๊อกๆๆๆๆๆ
เสียงเคาะกระจกที่ดังอยู่ข้างๆหูทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อยและรีบลืมตาขึ้นมาดูต้นทางของเสียง
ยามในชุดเครื่องแบบสีฟ้าใสเคาะเบาๆที่ด้ายนข้างกระจกผมพร้อมกับสีหน้างงงวย ผมลดกระจกลงก่อนจะยื่นหน้าออกไปดูยามที่ยืนอยู่ข้างๆ
"มีอะไรครับลุง"
"ผมเห็นคุณจอดรถอยู่นานแล้วเลยจะลงมาดูน่ะครับ"
"อ๋อ เหรอครับ งั้นผมขอโทษแล้วกัน"ผมพูดก่อนจะรีบขึ้นกระจกแล้วขับออกมาจากหอพักนั่นอย่างรวดเร็ว ผมเหยียบคันเร่งเต็มสปีดตามอารมณ์ที่พุ่งพล่านอยู่ในอก เสียงแตรจากรถคันที่ผมขับผ่านมาบีบใส่ผมเป็นวรรคเป็นเวรแต่ผมก็ไม่ได้สนใจซักนิด
เสียงเบรกดังเป็นระยะๆ ผมหักหลบรถคันข้างหน้าไปมาจนเกือบจะทำให้รถเลนข้างๆชนท้ายรถสปอร์ตลูกรักของผมคันนี้แต่ผมคิดว่าด้วยทักษะการขับรถของผมน่ะมันไม่ชนหรอก ถึงชนคนที่ตายก็ไม่ใช่ผมแน่นอน.......
แต่ตอนนี้อยากตายชิบหายเลยว่ะ
ผมเลี้ยวรถเข้าไปจอดยังลานจอดรถลูกค้าวีไอพีของผับชื่อดังแห่งหนึ่งในใจกลางโซลจนฝุ่นตลบไปหมด ผมเดินลงจากรถก่อนจะโยนเงินค่าทิปให้เด็กเฝ้ารถแล้วเดินเข้าไปยังผับ
ผมเดินเข้ามานั่งบนเคาท์เตอร์บาร์ที่ประจำของผมก่อนจะฟุบหน้าลงบนเคาท์เตอร์อย่างเหนื่อยหน่าย เสียงเพลงจากดีเจที่ดังกระหึ่มจนปอดสะเทือนไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีแม้แต่น้อย เวลาแย่ๆแบบนี้ผมก็มักจะมาที่นี่แหละ ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมอาจจะมีผู้หญิงมาแนบข้างซักคนสองคนแต่ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์ทำอะไรแบบนั้นจริงๆ ก็คนที่ผมอยากจะให้เขาอยู่ใกล้ๆผมตอนนี้น่ะเขาเพิ่งจะวิ่งหนีผมไปเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วเอง
ในหัวผมมีแต่ภาพของกียอนลอยไปลอยมาจนผมแทบบ้า
ทำไมเธอยังยิ้มอยู่ได้กียอน เธอช่วยเลิกยิ้มเลิกหัวเราะอยู่ในหัวฉันซักนาทีไม่ได้รึไง.......
"อ้าวจงฮยอน! นึกว่าจะไม่มาที่นี่แล้วซะอีก จะเดบิวท์เป็นศิลปินอยู่แล้วมาผับมาบาร์แบบนี้มันจะดีเหรอ? หะๆๆ"บาร์เทนเดอร์คนเดิมที่ผมคุ้นเคยเอ่ยปากถามหลังจากหยุดจากภารกิจมิกซ์เหล้าแล้วหันมาสนใจผมได้ซักที
"ช่างแม่งมันเถอะ! จัดออนเดอะร๊อคมาซักชุดเลยมุนคยอง ขอแบบเพียวๆแรงๆ ไม่ต้องมิกซ์"ผมสั่งโดยที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นไปสบตากับเขา
"ทำไมวันนี้มาสภาพนี้ล่ะ ปกติเห็นนายมาอย่างกับเสือผู้หญิงมือฉกาจ แต่วันนี้ดูอย่างกับหมาหงอย หะๆๆๆๆ"มุนคยองหัวเราะเล็กๆก่อนจะหันไปสนใจเหล้าบนชั้นวางแล้วจัดการชงในแบบของเขา
"ฉันเพิ่งโดนหักอกมา......"
"ห้ะ!? นี่นายล้อเล่นอยู่รึไง คนอย่างนายเนี่ยนะจะโดนหักอก เห็นทุกทีๆนายนั่นแหละที่ไปหักอกคนอื่นเขา"
"ฉันไม่ได้โกหก ฉันพูดจริงๆ"
"ผู้หญิงประเภทไหนกันที่กล้าปฏิเสธคนอย่างนาย เห็นทุกทีๆก็มีแต่จะถวายตัวให้เพียงแค่นายกระดิกนิ้ว"มุนคยองพูดติดตลกพร้อมกับยื่นแก้วที่มีของเหลวสีเหลืองอำพันมาตรงหน้าผม ผมเงยหน้าขึ้นก่อนจะจับแก้วซดเหล้าในแก้วจนหมดรวดเดียวก่อนจะวางแก้วกลับลงไปบนเคาท์เตอร์ มุนคยองรับแก้วไปเติมเหล้าอย่างรู้งานก่อนจะยื่นมาทางผมอีกครั้ง
"ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เธอน่ะไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆที่ฉันเคยเจอหรอก"
"เหรอ? แตกต่างยังไงล่ะ?"มุนคยองเช็ดมือกับผ้าบนโต๊ะสองสามครั้งก่อนจะเดินอ้อมเคาท์เตอร์มานั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆผมเมื่อมีพนักงานอีกมารับช่วงเป็นบาร์เทนเดอร์แทน
"เวลาฉันอยู่กับเธอ ฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องแบบนั้นแม้แต่ซักครั้งเดียว เธอเหมือนผ้าสีขาวสะอาดที่ฉันไม่กล้าที่จะทำให้มันแปดเปื้อน เธอทำให้ฉันอยากนอนคุยกับเธอไปตลอดทั้งคืนเลยล่ะ"ผมอมยิ้มน้อยๆอีกครั้งเมื่อพูดถึงกียอนแต่แล้วผมก็ต้องหุบยิ้มลงและกระดกเหล้าลงคออีกครั้งเมื่อรู้ความจริงที่ว่าทุกอย่างมันก็แค่ความทรงจำที่สวยงามในอดีต
รสเหล้าขมเฝื่อนๆไหลบาดคอหอยผมจนรู้สึกแสบไปหมด อาการมึนหัวและตาลายเริ่มจู่โจมผมทีละนิดแต่ผมก็ยังคงประคองสติตัวเองได้อยู่
"ฮ่าๆๆๆๆ ผู้หญิงคนนั้นต้องมาเสียดายแน่นอนที่ทิ้งนายไป ก่อนที่นายจะไปเรียนต่อที่อเมริกานายก็ออกจะเรียบร้อยเป็นสุภาพบุรุษ พอไปเรียนต่ออเมริกานายก็เปลี่ยนไปเป็นเสือผู้หญิง แต่ตอนนี้นายกลับไปเป็นคนเดิมอีกแล้วเหรอวะ"มุนคยองหัวเราะพร้อมกับเอื้อมมือใหญ่มาตบเบาๆลงบนไหล่ผม
"เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน"
Rrrrrrrrr~ Rrrrrrrrr~
มือถือผมที่วางไว้บนเคาท์เตอร์สั่นครืดๆ ผมละสายตาจากแก้วเหล้าในมือไปสนใจมันก่อนจะสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่เมื่อเห็นรายชื่อของคนที่โทรเข้ามา
"ว่าไงครับออมม่า"ผมกรอกเสียงลงไปในสายโดยที่ควบคุมให้เสียงเป็นปกติที่สุดแต่แม่ก็คงรู้ว่าผมกำลังเมา
"(จงฮยอน ตอนนี้ลูกอยู่ที่ไหน)"
"อยู่ผับ แม่จะถามทำไมอีกในเมื่อแม่ก็รู้อยู่แล้วว่าผมอยู่นี่"
"(กลับบ้านมาหาแม่เดี๋ยวนี้ แม่มีอะไรจะพูดกับลูก)"เสียงในสายดูเย็นเยือกจนผมไม่กล้าปฏิเสธ ปกติแม่ไม่เคยโทรเรียกผมแบบนี้ แสดงว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่นอน
"ครับออมม่า......อีกครึ่งชั่วโมงผมจะไปถึง"
"(ภายใน10นาทีจงฮยอน)"เสียงของแม่เฉียบขาดผิดปกติ ผมได้แค่กลืนน้ำลายลงคอก่อนที่ปลายสายจะวางไป
ผมเก็บมือถือใส่ในกระเป๋ากางเกงก่อนจะวางเงินลงบนโต๊ะเป็นค่าเหล้าให้มุนคยอง ดูเหมือนหมอนั่นอยากจะอ้าปากถามผมแต่ผมก็รีบลุกออกมาก่อนที่หมอนั่นจะพูดอะไร
ผมเหยียบคันเร่งออกมาจากผับด้วยความเร็วสูงเหมือนที่ผมชอบขับประจำ ผมใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก่อนจะพารถเข้าจอดในโรงรถของบ้าน
ผมล๊อครถก่อนจะเดินควงกุญแจเข้ามาในบ้าน
แม่และพ่อผมนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น ท่านทั้งสองนั่งกอดอกและมองมาทางผมนิ่ง ผมถอนหายใจเบาๆก่อนจะเดินเข้าไปนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามพร้อมกับถอดถุงเท้าแล้วโยนมันลงบนพื้น
"มีอะไรครับ ท่าทางเครียดเชียว"
"แกกลับมาอยู่บ้านได้เดือนนึงแล้วนะ"พ่อผมพูดก่อนจะยกชาขึ้นจิบและวางมันลงบนจานรองเซรามิคราคาแพง
"ครับ ผมรู้"
"ปีนี้ลูกอายุเท่าไหร่แล้ว"แม่เองก็ถามผมบ้างหลักจากได้แต่มองหน้าผมนิ่ง อะไรเนี่ย เรียกมาถามคำถามไร้สาระแบบนี้น่ะเหรอ
"21 ครับ แม่ถามทำไม"
"แม่คิดว่าลูกควรจะหมั้นได้แล้ว"แม่พูดมันออกมาราวกับว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ผมเงยหน้ามองแม่นิ่งก่อนจะหลุดยิ้มออกมา แม่ต้องล้อเล่นแน่ๆ ไม่มีทางหรอก ผมจะไม่หมั้นเด็ดขาด ผมเกลียดการถูกจำกัดอิสระ ผมเกลียดที่ต้องมีผู้หญิงมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ
"แม่อย่ามาล้อเล่นน่า มันไม่ตลกเลย หะๆ"
"แม่ไม่ได้ล้อเล่น แม่พูดจริง"
"ใช่ แกควรจะหมั้นได้แล้ว แกจะได้เลิกทำตัวเหลวไหลซักที"
"เหอะ! เยจินออนนี่มาฟ้องอะไรอีกล่ะ อย่าไปเชื่อยัยป้านั่นให้มันมากน่า แก่แล้วก็ชอบเพ้อเจ้อไปเรื่อย"ผมพูดพลางยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ
"............"
"แกต้องหมั้น นี่คือคำสั่ง"
"!!!!!!!!"ผมค่อยๆหุบยิ้มลงช้าๆก่อนจะมองหน้าพ่อสลับกับแม่แต่พวกท่านก็ยังคงจิบกาแฟและดูทีวีอยู่อย่างนั้นราวกับเพิ่งพูดในสิ่งที่จะตัดสินใจกันได้ง่ายๆ
"ไม่นะครับ! ผมจะไม่หมั้นเด็ดขาด!"
"ทำไม...."พ่อพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความน่ากลัวของอำนาจผู้นำครอบครัว
"ผม......มีคนที่ผมรักอยู่แล้ว"
"งั้นเหรอ?"พ่อพูดอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแบบเดิม ท่านทำราวกับสิ่งที่ผมพูดออกไปเมื่อครู่ไม่สำคัญ นี่มันยุคไหนกันแล้ว จะมาคลุมถุงชนเหมือนสมัยก่อนผมไม่เอาด้วยหรอก
แล้วอีกอย่างเรื่องของจิตใจคนก็ไม่ได้บังคับกันง่ายๆ
"พ่อช่วยสนใจสิ่งที่ผมพูดหน่อยได้มั้ยครับ!"
"ฉันก็ฟังแกอยู่เนี่ย"
"โอเคครับ งั้นพ่อก็คงได้ยินและรับรู้แล้วว่าผมจะไม่หมั้นกับใครทั้งนั้นนอกจากคนที่ผมรัก ผมไปนอนก่อนนะครับ ผมเหนื่อย"ผมพูดก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาและหันหลังเดินออกมาจากตรงนั้นแต่แล้วใครบางคนก็ทำให้ผมชะงัก
ผู้ชายวัยกลางคนอายุราวๆ 50 ปีเดินออกมาจากห้องน้ำ รูปร่างแบบนี้ หน้าตาแบบนี้ผมจำได้เลือนลางว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแต่ผมก็นึกไม่ออกเสียที คงเป็นเพราะผมไปอยู่เมกามานานจนจำใครไม่ค่อยได้ ญาติส่วนใหญ่น่ะคิดว่ายัยเยจินน่ะเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อกับแม่ บางคนไม่รู้จักผมเสียด้วยซ้ำ เหอะ!
เขาปิดไฟห้องน้ำก่อนจะรีบมุ่งหน้าเข้ามาหาผมทันทีด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบายใจ มือที่เต็มไปด้วยริ้วร้อยแห่งกาลเวลาสัมผัสเบาๆที่ไหล่ผมก่อนที่เขาจะเปลี่ยนจากสีหน้ากังวลเมื่อครู่เป็นยิ้มให้ผม
ผมยังคงนึกไม่ออกอยู่ดีว่าลุงคนนี้เป็นใคร แต่ผมก็ต้องโค้งให้ตามมารยาท คงจะเป็นญาติซักคนหรือไม่ก็แขกของพ่อกับแม่
"สวัสดีครับ"
"จงฮยอน นายดูโตขึ้นเยอะเลยนะ จำน้อง(ชื่อของคุณ)ได้มั้ย?"ลุงคนนี้พูดด้วยรอยยิ้มและสำเนียงเกาหลีแบบแปร่งๆที่ผมดูออกว่าเขาต้องไม่ใช่คนเกาหลี
(ชื่อคุณ)........เหรอ??
ผมนึกชื่อนั้นวนๆซ้ำๆอยู่ในสมอง ผมรู้สึกเหมือนคุ้นเคยและรู้จักกับชื่อๆนี้ที่ไหนซักแห่ง แต่ไม่ว่าผมคิดยังไงผมก็นึกไม่ออกเลย มันเหมือนติดอยู่ที่ปลายลิ้น คิดสิจงฮยอน นายต้องนึกให้ออกสิ
มันคุ้นมาก.......คุ้นมากจริงๆ........
(ชื่อคุณ)....... (ชื่อคุณ)....... (ชื่อคุณ)....... (ชื่อคุณ)....... (ชื่อคุณ)....... (ชื่อคุณ).......
"กียอน!!!" ใบหน้าของเจ้าของชื่อลอยเข้ามาในหัวผมอีกครั้ง ชื่อนี้.....ชื่อที่ทำให้ผมรู้จักกับผู้หญิงคนนี้เป็นครั้งแรก เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึงที่เดินเข้ามาในร้านกาแฟของผมด้วยท่าทางเงอะงะ เธอมาด้วยชื่อแปลกๆและมาขอทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟทั้งๆที่อายุยังน้อย เธอทำให้ผมค้นพบความจริงอะไรหลายๆอย่าง และตอนนี้เธอคนนั้นก็คือคนที่ผมรักสุดหัวใจ เธอคือคนที่ผมคิดว่าจะไม่มีวันได้เจอหน้าเธออีกแล้ว
"กียอน? ใครเหรอ"
"ป.....ป่าวครับลุง ม....ไม่มีอะไรครับ"
"แล้วนายจำน้องได้มั้ย?"
"ม.....ไม่ครับ ผมไม่คุ้นชื่อเลยด้วยซ้ำ.. จริงๆแล้วผมก็จำไม่ได้ด้วยว่าลุงคือใคร ขอโทษนะครับ"ผมโกหกออกไป ลุงคนนี้มาเดินอยู่ในบ้านผมโดยที่ผมนึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าเราเคยเจอกันที่ไหน แต่ลุงคนนี้กลับพูดถึงบุคคลที่เพิ่งเกี่ยวโยงกับตัวผมและความรู้สึกของผม ลุงคนนี้เป็นใครกันแน่
"อ๋อ ลืมไปเลย คือจงฮยอนไปอยู่อเมริกาตั้งแต่เด็กๆน่ะค่ะ เลยไม่ค่อยรู้จักใครที่อยู่ที่นี่"
ผมกับลุงคนนั้นเดินมานั่งที่โซฟาตัวเดิมที่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนผมอยากจะลุกออกมาใจแทบขาด แต่ตอนนี้ผมน่ะอยากกลับไปนั่งและรับรู้เรื่องราวให้เร็วที่สุด
"นี่ลุง(ชื่อพ่อคุณ) เป็นเพื่อนกับพ่อเอง เราเจอกันเมื่อประมาณสามปีก่อนที่งานประชุมสัมนา"
"ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ"
"ตอนนี้น่ะฉันแทบบ้าตายอยู่แล้ว ลูกสาวของฉันหายไปไม่บอกอะไรฉันซักคำ หลังจากที่ฉันฝากแฟลชไดรฟ์เรื่องสำคัญให้แกเอามาให้นายแกก็ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย ฉันนึกว่าแกจะไปอยู่บ้านป้าแกแต่มันก็ไม่ใช่ นี่ก็เดือนนึงแล้ว ฉันไม่รู้จะทำยังไงเลยมาหานาย"
ใช่อย่างที่ผมคิดจริงๆ ผู้ชายคนนี้เป็นพ่อของกียอน การที่ลูกสาวหายไปไม่ยอมกลับบ้านเป็นเดือนๆไม่ว่าใครก็เป็นห่วงทั้งนั้น คงจะมาตามหาลูกสาวสินะ
ผมมองพ่อของกียอนนิ่ง เขานั่งกุมขมับอยู่ข้างๆผท เส้นเลือดขึ้นปูดแสดงถึงระดับความเครียดที่พุ่งขึ้นเรื่อยๆ ความคิดในหัวของผมตีกันยุ่งไปหมด ผมควรจะบอกเขาดีมั้ยว่าผมเจอลูกสาวของเขาแล้ว และผมควรจะบอกต่อดีมั้ย ว่าผมเพิ่งจะเกือบทำมิดีมิร้ายลูกสาวเขาไป
"จงฮยอน พ่อมีอะไรให้แกช่วย"
"อะไรครับ"
พ่อไม่ตอบแต่กลับหันหลังไปหยิบซองสีน้ำตาลที่วางอยู่ด้านหลังออกมาก่อนจะล้วงมือลงไปหยิบเอกสารจำนวนหนึ่งและอัลบั้มรูปขึ้นมาวางลงบนโต๊ะตรงหน้า พ่อดันมันมาทางผมก่อนจะยกแก้วขึ้นจิบน้ำชาอีกครั้ง
ผมยื่นมือไปหยิบเอกสารขึ้นมาดูทีละใบ มีทั้งสำเนาบัตรประชาชนของใครซักคนที่ผมเดาได้ไม่ยากถึงแม้ภาพจะเรือนลางเนื่องจากการถ่ายเอกสาร สำเนาทะเบียนบ้านและสูจิบัตรที่ประทับตราแผ่นดินของไทย ผมอ่านมันไม่ออกหรอกแต่พอเดาได้ไม่ยาก ผมวางมันลงก่อนจะหยิบอัลบั้มรูปขึ้นมาเปิดดูทีละหน้า
รูปกียอนที่ผมคาดว่าน่าจะถ่ายไว้ไม่นานทำให้ผมเผลอยิ้มออกมา ภาพเด็กผู้หญิงยิ้มสดใสในชุดยูนิฟอร์มโรงเรียน ภาพที่เธอถ่ายในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และภาพคู่กับครอบครัว
"ช่วยตามหาลูกสาวให้ลุงหน่อยได้ไหมจงฮยอน ลุงรู้ว่านายต้องหาเจอ"พ่อของกียอนสบตาผมและพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน ผมเข้าใจความรู้สึกของเขาดีทุกอย่าง ว่าการที่คนที่ตัวเองรักหายไปมันรู้สึกอย่างไร
"แกต้องพยายามหาให้เจอ เพราะผู้หญิงคนนี้............คือคู่หมั้นของแก"
อะไรนะ!!! กียอนน่ะเหรอ.... คู่หมั้นผม!?? กียอนน่ะเหรอ?? แต่เธอก็ไม่ได้รักผมนี่ แล้วถ้าเกิดเธอรู้เรื่องนี้จะทำยังไง คงต้องลำบากใจมากแน่นอน
ใจผมเต้นแรงขึ้นอีกครั้งเมื่อได้รับรู้อะไรบางอย่างที่ออกมาจากปากของพ่อตัวเอง อะไรบางอย่างที่ผมคิดไม่ถึง อะไรที่ผมคิดว่าจะมีแค่ในหนังในละครน้ำเน่าแบบที่แม่ชอบดู
"ครับ......ผมจะตามหาเธอให้เจอ"
ระหว่างคนเป็นพ่อที่รักเธอมากกว่าชีวิตตัวเอง กับ ผู้ชายที่เธอหลงรักจนหัวปักหัวปำแต่ไม่มีวันจะได้ครอบครอง..........
ถ้าหากเธอต้องเลือก เธอจะเลือกใครกียอน ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน...
..................................................................................................
To be continue
To be continue
:) Shalunla
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น