ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Zelo x You] สาวใสโชคร้ายขอมัดใจนายซุปตาร์ COME BACK

    ลำดับตอนที่ #19 : Chapter 17

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ย. 56


    Chapter 17

     




     
    คุณติดกิ๊บที่หัวเป็นตัวสุดท้ายก่อนจะยิ้มให้กระจกแล้วเดินออกมาจากห้องที่นอนอยู่ประจำ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วที่คุณนอนไม่ค่อยจะหลับเพราะมีแต่เรื่องมากมายเทประดังเข้ามาในหัวทำให้คิดไม่ตก อยากรู้จังว่าทำไมจู่ๆโอปป้าถึงบอกว่าห้ามให้ไปทำงาน ต้องมีเหตุผลอะไรซักอย่างแน่นอนเพราะโอปป้าไม่น่าจะใช่คนที่ไม่มีเหตุผล
     
     
     
     
    อีกอย่างคุณก็ไม่อยากจะให้ตัวเองอยู่เป็นภาระของพวกโอปป้าแบบนี้ ไหนจะที่ซุกหัวนอนและข้าวปลาอาหารที่คุณไม่เคยจะซื้อเองจริงๆซักที อ้อ! ยังมีของใช้ต่างๆอีกด้วย แค่นี้ก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว
     
     
     
     
    กระซิกๆๆ ทำไมฉันถึงโชคดีแบบนี้ ยิ่งกว่าถูกลอตเตอร์รี่
     
     
     
     
    คุณเดินเข้ามายังห้องนั่งเล่นที่ควรจะว่างเปล่าและเงียบเชียบเหมือนอย่างทุกๆวันที่คุณตื่นมา แต่ทำไมวันนี้ถึงได้.....
     
     
     
     
    โอ้เชี่ย! ตกใจหมด 
     
     
     
     
    คุณสะดุดกึกอยู่กับที่เมื่อพบว่าโซฟากลางห้องไม่ได้ว่างเปล่าเหมือนทุกวัน แต่กลับมีร่างสูงโปร่งของใครบางคนซึ่งคุณคุ้นเคยดี ต้นคอขาวและไรผมสีเทาหม่นเหมือนเมฆตอนครึ้มฝน เห? สีเทา??! เปลี่ยนสีผมอีกแล้วเหรอว้าาาาาาา!
     
     
     
     
    ขนาดมองแค่ด้านหลังใจก็เต้นตุบๆขึ้นมาแล้ว เขาดูดีมากเมื่ออยู่ในกางเกงเดฟรัดช่วงขาแข็งแรง ผิวสว่างออร่าตัดกับเสื้อสีกรมท่าแบรนด์ดังที่เขาสวมอยู่ อ้ากกก!ทำไมหล่อแบบนี้อ่ะ ฮือ
     
     
     
     
    "ทำไม...ทำไมโอปป้าถึงมานั่งอยู่นี่ล่ะคะ"หลังจากที่คุณแอบมองอยู่นาน คุณก็ตัดสินใจเดินเข้าไปทักทายโดยไม่ลืมที่จะกลั้นยิ้มสุดชีวิต ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ยิ่งอยู่ไปนานๆคุณก็ยิ่งเขินและประหม่าที่จะต้องอยู่ใกล้เขา จริงๆมันก็ไม่ต่างอะไรกับวันแรกที่มาอยู่เลยน้า
     
     
     
     
    "เอ้า! ตื่นแล้วเหรอ"เซโล่ดูสะดุ้งไปเล็กน้อยก่อนจะหันมาทางคุณพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากทำให้ใจคุณสั่นอีกรอบ เขาใช้มือเสยผมที่ลงมาปรกหน้าให้ขึ้นไปอย่างลวกๆเผยให้เห็นใบหน้าที่กระจ่างใสรับกับแดดที่ส่องลอดม่านเข้ามาก่อนจะลุกขึ้นมายืนอยู่ข้างหน้าคุณ
     
     
     
     
    กรูคงต้องเงยหน้าคุยอีกแล้วซีนะ -.,-
     
     
     
     
    "แล้ววันนี้โอปป้าไม่ไปห้องซ้อมเหรอคะ?"
     
     
     
     
    "ฉันจะอยู่เฝ้าเธอ"เขาพูดหน้าตาย
     
     
     
     
    "ห้ะ?! ท....ทำไมเหรอคะ"
     
     
     
     
    "ก็........"เซโล่ไม่ได้พูดต่อหากแต่เขากลับก้าวขายาวๆเข้ามาหาคุณเรื่อยๆ เฮ้ยยยย จะก้าวมาทำไมอ้าาาา แค่โอปป้ายืนอยู่ไกลๆฉันก็แทบจะบ้าแล้วนะ
     
     
     
     
    ใจของคุณเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆตามจังหวะการก้าวเท้าของเซโล่ เขาหยุดที่ตรงหน้าคุณก่อนจะไล่สายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วลากมาสบตากับคุณทำเอาคุณเย็นวาบไปทั้งไขสันหลัง
     
     
     
     
    เขาค่อยๆยื่นมือหนาอ้อมเข้ามาหลังเอวคุณก่อนจะสัมผัสเบาๆที่กลางสะโพกทำเอาคุณกระตุกวูบ
     
     
     
     
    "อ.......โอปป้า"
     
     
     
     
    พรืดดดดด!
     
     
     
     
    ผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลซึ่งเป็นเครื่องแบบประจำร้านถูกปลดเปลื้องก่อนจะรูดลงมากองอยู่แทบเท้าตรงหน้าคุณ เซโล่โอปป้าก้มลงหยิบมันขึ้นมาก่อนจะม้วนเป็นก้อนแล้วโยนมันข้ามไปตกอีกฝั่งหนึ่งของโซฟา
     
     
     
     
    "โอปป้าทำไรอ่ะ"คุณยังคงงงอยู่กับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น
     
     
     
     
    "เธออย่าไปทำงานที่นั่นอีกเลยนะ"จุนฮงโอปป้าพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบาคล้ายจะอ้อนวอนทำให้คุณไม่สามารถจะปฏิเสธเขาได้เลยแม้แต่น้อย
     
     
     
     
    "โอปป้าบอกเหตุผลฉันได้มั้ย"
     
     
     
     
    "คิม จงฮยอน"เซโล่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังอีกครั้งก่อนจะจูงมือคุณให้เดินมานั่งลงบนโซฟาพร้อมๆกับเขา 
     
     
     
    ความสับสนวิ่งเข้ามารบกวนจิตใจคุณอีกครั้งหนึ่ง เกี่ยวอะไรกับจงฮยอนเหรอ หมอนั่นก็ยังคงทำงานปกตินี่นา
     
     
     
    "อยู่ให้ห่างๆหมอนั่นซะ อย่าติดต่อกันอีก"
     
     
     
     
    "โอปป้าคะ.....แต่ฉันไม่เข้าใจ"
     
     
     
     
    "หมอนั่นน่ะ ไม่ได้ดีอย่างที่เธอคิดและเป็นคนที่คนอย่างเธอไม่ควรจะไปรู้จักด้วยซ้ำ"
     
     
     
     
    "แต่เขาก็...."
     
     
     
    "เธอเชื่อใจฉันเถอะนะก่อนที่อะไรๆมันจะแย่ไปกว่านี้ หมอนั่นจ้องจะทำลายชีวิตฉันเพราะอะไรฉันก็ไม่เข้าใจ แต่ฉันไม่อยากให้เธอต้องพลอยมาเดือดร้อนไปด้วย"
     
     
     
    ทุกๆคำพูดที่เขาพูดออกมาและสัมผัสอุ่นๆที่มือจากเขาราวกับมีมนตร์สะกดให้คุณมองเพียงแค่เขาและเชื่อเพียงแค่เขา แต่ความไม่เข้าใจและสับสนมันตีกันจนสมองคุณรวนไปหมด
     
     
     
    จงฮยอนน่ะเหรอจะทำเรื่องแบบนั้น!? ทำไมล่ะ ที่ผ่านมาเขาก็ดีกับฉันมากนี่นา
     
     
     
     
    "ค่ะ ฉันจะไม่ไปพบเขาอีก"คุณพยักหน้ารับหากแต่ในใจก็ยังคงสับสนและคิดอยากจะหาคำตอบ แต่ถ้าเป็นแบบที่โอปป้าพูดจริงๆ จงฮยอนก็คงเป็นคนที่เลวมากๆ
     
     
     
     
    ใครจะรู้ล่ะ นี่มันสมัยไหนแล้ว ใครๆก็เล่นละครใส่กันทั้งนั้น หรือไม่จริง?
     
     
     
     
     
    "โทรไปลาออกซะสิ"
     
     
     
     
    "แต่ว่า......."เงินเดือนเดือนแรกยังไม่ได้เลยอ่ะ จะทำไงดีอุตส่าห์ทำงานแทบตายสุดท้ายกียอนน้อยคนนี้ไม่ได้อะไรเลยเหรอ กระซิกๆๆ
     
     
     
     
    "เรื่องเงินเดือนเธอไม่ต้องห่วงหรอก ต่อไปนี้ฉันจะเลี้ยงเธอเอง"
     
     
     
     
    "ไม่ได้นะคะโอปป้า แค่นี้โอปป้าก็เสียเงินเพื่อฉันมามากมายแล้ว ไหนจะที่อยู่ ไหนจะ...."
     
     
     
    "ย่า!!!"
     
     
     
    คุณหุบปากลงทันทีเมื่ออยู่ดีๆคนตรงหน้าก็ตะโกนขึ้นมาเป็นการเบรกไม่ให้คุณพูดต่อ เงอะ! เค้าพูดอะไรผิดเหยอ?
     
     
     
     
    "ฉันเคยบ่นซักคำรึเปล่าเรื่องที่ต้องดูแลเธอ ฉันเคยบ่นหรือถอนหายใจให้เธอฟังรึไงกัน เลิกทำเหมือนมันเป็นเรื่องอะไรใหญ่โตได้แล้ว"
     
     
     
     
    "............"
     
     
     
     
    "ฉันต่างหากล่ะที่ต้องเป็นฝ่ายขอบใจเธอ"
     
     
     
     
    "เห? เรื่องอะไรคะ??"
     
     
     
     
    "ก็เรื่องที่เธอ....มาทำให้ชีวิตในแต่ละวันของฉันมีความสุขมากกว่าเดิมน่ะสิ"เขาพูดประโยคหลังเสียงเบาลงพลางหันหน้าไปอีกทางแต่ก็ใช่ว่าคุณจะไม่ได้ยิน
     
     
     
     
    เหมือนโลกหยุดหมุน เหมือนหูอื้อและตาพร่าไปชั่วขณะ รู้สึกได้ถึงเลือดอุ่นๆที่พุ่งปรี๊ดขึ้นมากองสุมอยู่บนหน้าจนหน้าร้อนผ่าวไปหมด โอ้! เมื่อกี้ไม่ได้ฝันใช่มั้ย
     
     
     
     
    คุณตบแก้มตัวเองเบาๆเพื่อย้ำว่าสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ไม่ได้หูแว่วไปเอง เขาบอกว่าฉันทำให้เขามีความสุขเหรอ?? ฉันเนี่ยนะ!!? ฉัน!!??
     
     
     
     
    โอย....เจ็บหน้า จะไปตีให้มันแดงกว่าเดิมทำมะเขืออะไร โว๊ะ!
     
     
     
     
     
    "หะๆ ขอโทษที่พูดอะไรน่าอายออกไป"เซโล่หันมาทางคุณอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปาก เฮ้ยย! หน้าเขาแดงเหรอเนี่ย! ฉันไม่ได้ตาฝาดใช่มั้ยที่เห็นหน้าของเขากลายเป็นสีชมพูเรื่อๆน่ะ กรี๊ดดดด
     
     
     
     
    ".........."คุณได้แต่ก้มหน้างุดๆไม่กล้าแม้แต่สบตาคมคู่นั้นแม้แต่น้อยเพราะกลัวว่าตัวเองจะสติแตกไปมากกว่านี้น่ะสิ
     
     
     
     
    "แต่ที่ฉันพูดเมื่อกี้น่ะ......ฉันพูดจริงๆนะ"สายตาที่เขามองกลับมาดูจริงจังจนคุณไม่กล้าจะละสายตาไปแม้แต่ซักวินาที จริงๆแล้วคุณไม่สามารถละสายตาไปได้เลยตะหาก ใจเต้นแรงจนไม่อยากจะเปล่งเป็นคำพูดออกมาเพราะเกรงว่ามันจะสั่นเครือเพราะความเขินอาย
     
     
     
     
    Rrrrrrr~~~ Rrrrrr~~~
     
     
     
     
    มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะสั่นครืดๆจนคุณและจุนฮงโอปป้าสะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่สายตาของคุณและเขาจะลากไปหยุดอยู่ที่มือถือบนโต๊ะพร้อมๆกัน คุณค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมาดู
     
     
     
     
    'Jonghyun'
     
     
     
     
     
    คุณจ้องชื่อเด่นหราอยู่บนหน้าจอสลับกับมองหน้าจุนฮงโอปป้าราวกับจะขอความเห็นว่าจะรับสายดีหรือไม่และสุดท้ายคุณก็ตัดสินใจกดรับสาย
     
     
     
     
    "ยอโบเซโย"
     
     
     
     
    "(กียอน ! เธอไม่มาทำงานรึไง)"
     
     
     
     
    "เอ่อคือ......ฉันขอลาออก"
     
     
     
     
    "(ห้ะ! เธอจะลาออกเหรอ ทำไมล่ะ?)"
     
     
     
     
    ".............."คุณไม่รู้ว่าจะตอบเหตุผลเขาว่าอะไรเลยเลือกที่จะเงียบ ในหัวพยายามเสาะหาเหตุผลที่ดีที่สุดแต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกอยู่ดี
     
     
     
     
    "(เฮ้ ยังอยู่รึเปล่าเนี่ย กียอน!)"
     
     
     
     
     
    "อ้อ! คือ....คือฉัน......หาที่ทำงานที่ใหม่ที่เงินเยอะกว่าได้แล้วน่ะ"เออ โกหกแบบนี้แหละท่าจะเวิร์คสุด
     
     
     
     
    "(งั้นเหรอ...แต่อย่างน้อยเธอก็น่าจะมาทำงานให้ครบหนึ่งเดือนก่อนนะ)"
     
     
     
     
    "เรื่องนั้นน่ะช่างมันเถอะ งั้นแค่นี้นะ ฉันดีใจที่เคยได้ทำงานกับนาย"
     
     
     
     
    "(เฮ้! เดี๋ยวสิ!)"
     
     
     
     
    ตู๊ดๆๆๆๆๆๆ~~
     
     
     
     
     
    คุณรีบตัดสายก่อนที่เขาจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ ตัดไฟเสียแต่ต้นลมเถอะถึงแม้ว่าคุณก็ยังไม่รู้ว่าความจริงมันเป็นยังไง แต่ยังไงซะคุณก็จะเชื่อแค่จุนฮงโอปป้าคนเดียวเพราะคุณรู้ว่าเขาจะไม่มีวันทำร้ายคุณ
     
     
     
     
    "เฮ้ออออ! ขอโทษนะจงฮยอน"คุณพูดเบาๆก่อนจะวางมือถือลงบนโต๊ะแล้วทิ้งตัวลงพิงกับพนักโซฟาเต็มแรง
     
     
     
     
     
    "ถ้าเธอได้ฟังสิ่งที่มันพูดกับฉัน เธอจะไม่มีวันขอโทษมันแบบนี้"เซโล่พูดก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปในครัวโดยไม่ได้มองหน้าคุณแม้แต่น้อย อาการแบบนี้นี่มันเหมือนคนที่กำลังงอนอยู่ไม่มีผิดเลย อ้ากกก
     
     
     
     
    อะไรอ่ะ? เขาโกรธอีกแล้วเหรอ เหยยยย โกรธอะไรอ่ะ ยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ก็แค่...... 
     
     
     
     
     
    "โอปป้า~~~~"คุณลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามหลังเขาเข้าไปในครัวติดๆ คนอะร๊ายยย งอนแล้วน่ารักเป็นบ้าเลย 
     
     
     
     
    "อะไร"เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาก่อนจะเปิดตู้เย็นแล้วคุกเข่าลงควานหาอะไรซักอย่างในช่องผักโดยที่ไม่ได้สนใจคุณเลย
     
     
     
     
     
    "เขาพูดอะไรกับโอปป้าเหรอคะ? บอกฉันหน่อยสิ"
     
     
     
     
     
    "อย่าไปอยากรู้เลย เพราะยังไงเธอก็ไม่เชื่อฉันอยู่แล้วนี่"
     
     
     
     
     
    "โอปป้าอ่ะ! ฉันยังไม่ได้พูดแบบนั้นเลยนะ ฉันยังไม่ได้พูดเลยว่าฉันไม่เชื่อโอปป้า เพราะฉันเชื่อโอปป้าไงถึงลาออกไปแบบนั้น"
     
     
     
     
     
    "เธอพูดเหมือนฉันบังคับเธอเลยนะ ฉันก็แค่หวังดีกับเธอ"เซโล่หยุดคุ้ยของในตู้เย็นและหันมามองคุณเพียงแค่หางตาแสดงความเย็นชาใส่ก่อนจะหันกลับไปหาของในตู้เย็นต่อ
     
     
     
     
    "โอปป้าาาา~~ งั้นฉันขอโทษแล้วกัน"
     
     
     
     
     
    "............."ไม่มีการตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก sorry your number บลาๆๆๆ
     
     
     
     
    งื้อออออ! ทำไมง้อยากอย่างงี้เนี่ย คนอะไรงอนยากแถมง้อยากอีก
     
     
     
     
    พลันสายตาคุณก็เหลือบไปเห็นกล่องใสที่ภายในเต็มไปด้วยลูกมะเขือเทศเชอร์รี่สีแดงสดน่ากินที่ถูกบดบังอยู่ด้วยกล่องใส่ลูกอมด้านในสุดของตู้เย็น
     
     
     
     
    เอิ่มม..เอาลูกอมมาใส่ตู้เย็นเนี่ยนะ แต่ช่างเหอะ! เขาต้องหามะเขือเทศอยู่แน่ๆ! มั่นใจ
     
     
     
     
     
    คุณรีบเอื้อมข้ามไหล่จุนฮงโอปป้าไปฉวยเอากล่องนั้นมาถือเอาไว้อย่างรวดเร็วทำเอาคนตรงหน้าสะดุ้งและรีบหันมามองตามคุณโดยเร็วปานความเร็วแสง
     
     
     
     
    "เฮ้! เธอจะเอาไปไหน ของฉันนะ"เขาลุกขึ้นยืนก่อนจะพยายามที่จะเอากล่องมะเขือเทศไปจากคุณแต่คุณก็เอามันไปไว้ด้านหลังได้ทัน
     
     
     
     
     
    "โอปป้าหายโกรธฉันก่อนสิ ฉันถึงจะคืน"
     
     
     
     
     
    "อะไรกัน ฉันพูดเมื่อไหร่ว่าโกรธเธอ เอาคืนมาเดี๋ยวนี้"เขาเอื้อมมือมาด้านหลังคุณหมายจะแย่งกล่องมะเขือเทศในมือ แต่คุณก็เลี้ยงมันไปมาเพื่อไม่ให้เขาจับได้
     
     
     
     
    "ไม่ให้! นี่เหรอไม่งอน ทำไมต้องหนีด้วยอ่ะ"
     
     
     
     
    "กียอน........."เขาพูดชื่อเกาหลีของคุณช้าๆพร้อมกับสบตาคุณนิ่งด้วยใบหน้าจริงจัง เหยย อย่าทำหน้าแบบนั้นจิ
     
     
     
     
    "คะ??"คุณแกล้งทำหน้ากวนตีนใส่เขาเล่น
     
     
     
     
    "ไม่คืนใช่มั้ย??"เซโล่พูดเบาๆพลางขายาวๆก็สาวเข้ามาใกล้กับคุณเรื่อยๆจนคุณต้องถอยกรูดไปชนกับเคาท์เตอร์แต่คนตรงหน้าก็ใช่ว่าจะหยุด หัวใจคุณเริ่มเต้นแรงและถี่ขึ้นทุกครั้งที่ไปสบตากับสายตาดุดันแต่ทีเสน่ห์คู่นั้นเข้า ชักจะใกล้เกินไปแล้วน้า อีกเสี้ยวก้าวหน้าของคุณก็จะชนกับแผงอกของเขาอยู่แล้ว
     
     
     
     
    "อ....อื้ม! จนกว่าโอปป้าจะ.....ว้ายยยย!"ยังไม่ทันที่คุณจะพูดจบ เซโล่ก็ก้มลงช้อนร่างคุณขึ้นไว้ในอ้อมแขนก่อนจะพาดตัวคุณกับไหล่กว้างทำเอาคุณหัวใจแทบวายเมื่อรู้สึกได้ว่าตอนนี้ท่อนแขนแข็งแรงของเขารัดอยู่รอบต้นขาคุณแน่น ย้ากกกก! ไม่น่าใส่ขาสั้นเลยยย ยิ่งเขายกตัวคุณพาดแบบนี้กางเกงที่เหนือเข่าขึ้นมานิดหน่อยกลับถกขึ้นมาจนเหลือไม่กี่คืบเอง ว้ากกก
     
     
     
     
    "โอปป้า!! ทำอะไรอ้ะะะ! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ"เขินว้อยยยย ย้ากกกกก อยากจะร้องไห้ อยากจะกรี๊ด อยากจะหัวเราะ ทุกๆอารมณ์มันตีผสมปนเปกันมั่วไปหมด ได้สัมผัสตัวเขามากสุดก็แค่จับมือ ถ้าไม่นับตอน....... ว้ากก จะกลับมาคิดอีกทำไมกัน ตอนนั้นเขาก็คงแค่มึนๆเบลอๆเพราะพิษไข้เท่านั้นเอง เลิกคิดได้แล้ว
     
     
     
     
     
    "ฉันให้เธอตอบอีกทีว่าจะคืนหรือไม่คืน ไม่งั้นฉันโยนเธอลงไปข้างล่างนั่นแน่"เซโล่พูดพลางก้าวเท้าอย่างเร็วจนตัวคุณเด้งขึ้นลงตามจังหวะการเดิน ลมเย็นที่พัดมาปะทะกับต้นขาของคุณทำให้รู้ว่าตอนนี้คุณกำลังยืนอยู่ที่ระเบียงที่สูงจากพื้นสี่ชั้น!!
     
     
     
     
    ตกลงไปนี่ศพคงจะอนาถน่าดูเลย ฮืออออ
     
     
     
     
     
    "ไม่นะโอปป้า โอปป้าไม่กล้าหรอก"
     
     
     
     
     
    "นับหนึ่ง! สอง!!! "เซโล่ไม่ได้สนใจสิ่งที่คุณพูดหากแต่กลับโน้มตัวเข้าใกล้ระเบียงมากขึ้นเรื่อยๆ มือหนาที่เคยกอดรัดก็ค่อยๆหลวมลงจนใจแทบจะร่วงลงไปกองกันอยู่ที่ตาตุ่ม
     
     
     
     
    "คืนๆๆๆๆ!! ยอมแล้วววว โอปป้าปล่อยฉันลงน้าาา ฮืออออ"คุณหลับตาปี๋พร้อมกับจับชายเสื้อของเขาแน่นเพื่อไม่ให้ตัวเองตกลงไป ก็ไม่รู้จะเกาะอะไรนี่นา
     
     
     
     
     
    "คิก! ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"ขาของคุณยังไม่ติดพื้นตามที่คิดแต่ยังคงลอยอยู่เหนือพื้นเหมือนเดิม เสียงหัวเราะจะเป็นจะตายของเซโล่ทำให้คุณค่อยๆลืมตาขึ้นมาทีละข้างเพื่อส่องดูว่าตัวเองยังครบสามสิบสอง
     
     
     
     
    กรูยังไม่ตายใช่ม้ายยยยย~
     
     
     
     
    "โอปป้าหัวเราะอะไรเล่า! ปล่อยฉันลงได้แล้ว"
     
     
     
     
    ตุ้บ!
     
     
     
     
    เซโล่ค่อยๆย่อตัวลงและวางคุณลงบนพื้นช้าๆอย่างเบามือก่อนที่ตัวเองจะเซไปนั่งอยู่บนผ้าผืนหนาลายสก๊อตที่ปูอยู่บนพื้น ก่อนจะหัวเราะคิกๆคักๆจนหน้าแดงไปหมด คุณยืนมองเขาด้วยอาการที่เรียกว่าเอ๋อแดรกก่อนจะตั้งสติได้แล้วก้าวเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าเขา
     
     
     
     
    "ฮ่าๆๆๆ ตลกเป็นบ้าเลย เธอนี่มัน....ฮ่าๆๆๆๆๆ"
     
     
     
     
    เอาเข้าปายยยยยย~ อะไรเนี่ย มันน่าขำขนาดนั้นเลยรึไง ก็คนมันกลัวตายนี่นาเล่นแบบนี้อ่ะหัวใจจะวายอยู่แล้วนะเว้ย!
     
     
     
    "โอปป้าบ้า! ขำนักเหรอที่ได้แกล้งฉันอ่ะ"
     
     
     
     
    "ตลกชะมัด เธอคิดว่าฉันจะโยนเธอลงไปจริงๆน่ะเหรอ เพียงแค่มะเขือเทศกล่องเดียวเนี่ยนะ?! ฮ่าๆๆๆๆ"
     
     
     
     
    "ชิ! เล่นแบบนี้มันเกินไปแล้ว ถ้าฉันตกลงไปจริงๆจะทำยังไงล่ะคะ"
     
     
     
     
    "เอาน่าๆๆ ขำๆละกัน ฉันไม่มีวันปล่อยให้เธอเป็นอะไรไปหรอก"เซโล่พูดด้วยน้ำเสียงและรอยยิ้มทะเล้นก่อนจะขยิบตาให้คุณทีหนึ่งเล่นเอาคุณเกือบจะหัวใจวาย แอทแทคแบบนี้ไม่เกรงใจสภาพหัวใจหนูเลยพี่ชายย TT^TT
     
     
     
     
     
    'ฉันไม่มีวันปล่อยให้เธอเป็นอะไรไปหรอก'
     
     
     
     
    'ฉันไม่มีวันปล่อยให้เธอเป็นอะไรไปหรอก'
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
     
    'ฉันไม่มีวันปล่อยให้เธอเป็นอะไรไปหรอก'
     
     
     
     
     
    กรี๊ดดดดดดดด!! แล้วยิ่งเจอประโยคแบบนี้ขอตายแปปค่ะ คร่อก....~
     
     
     
     
    "มานั่งนี่เร็ว ฉันหิวจะแย่แล้ว"เซโล่ลุกขึ้นยืนแล้วมุ่งหน้าเข้ามาหาคุณก่อนจะวางมือลงบนไหล่แล้วดันคุณให้นั่งลงบนผ้าลายสก๊อตที่ถูกปูเอาไว้ตรงหน้า
     
     
     
     
    คุณนั่งตามแรงกดของเขาลงไปอย่างงงๆพลางสายตาก็กวาดดูรอบๆบริเวณ ถ้าจำไม่ผิดบนดาดฟ้านี้คือที่ๆเขาเคยถ่ายรูปกับจงออบฮยองและอัพมันลงอินสตาแกรม ภาพนั้นเวียนกลับเข้ามาในหัวคุณอีกครั้งราวกับรีเพลย์เพราะคุณจำทุกรูปที่เขาลงได้แม่นยำยิ่งกว่าเนื้อหาสอบ จริงๆคุณจำทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขาได้ทั้งหมดตะหากล่ะ
     
     
     
     
    เพิ่งสังเกตว่าระเบียงจะกว้างได้ขนาดนี้แถมยังสะอาดสะอ้านผิดหูผิดตา ระเบียงที่นี่ถูกตกแต่งสไตล์โมเดิร์นและมีพื้นที่ให้ทำอะไรก็ได้ เก๋ดีแฮะ
     
     
     
     
    คุณลากสายตากลับมาที่ตรงหน้าอีกครั้งเพื่อดูว่าทำไมเขาถึงให้คุณนั่งที่นี่ ข้าวกล่องลายน่ารักบ๊องแบ๊วสองกล่องถูกวางใกล้กับถาดสตรอเบอร์รี่ลูกใหญ่ยักษ์และมะเขือเทศ กล่องหนึ่งเป็นลายหน้าเด็กผู้ชายยิ้มแป้นส่วนอีกกล่องเป็นรูปหน้าเด็กผู้หญิงผมเปียผูกโบว์ มีแก้วน้ำสองใบที่ภายในมีน้ำสีส้มอยู่เกือบเต็ม
     
     
     
     
     
    "เห?"คุณเงยหน้ามองจุนฮงโอปป้าช้าๆราวกับต้องการคำอธิบายที่มากกว่านี้
     
     
     
     
    "เธอยังไม่กินข้าวเช้านี่นา ฉันกลัวว่าเธออยู่หอว่างๆทั้งวันแล้วจะเบื่อ ฉันเลยบอกให้แม่บ้านขึ้นมากวาดระเบียงและเตรียมที่นั่งปิกนิกเล็กๆไว้ให้ตอนเธอยังไม่ตื่น แต่ฉันขอโทษนะที่พามาด้วยวิธีแปลกๆไปหน่อย แต่เป็นไง น่ารักใช่มั้ยล่าาาา~"เขาพูดด้วยน้ำเสียงภูมิอกภูมิใจและแววตาเป็นประกายเหมือนเด็กคู่นั้นทำให้คุณอดไม่ได้ที่จะต้องแอบยิ้มเล็กๆ หน้าร้อนผ่าวๆเลย นี่เขาทำอะไรน่ารักๆแบบนี้เป็นด้วยเหรอ รักตายเลยล่ะ ><
     
     
     
     
    "ค่ะ น่ารักมากๆเลย ที่ไทยน่ะไม่ค่อยมีหรอกปิกนิกกลางแจ้งแบบนี้น่ะ"
     
     
     
     
    "จริงหรอ? ทำไมล่ะ พวกเขาชอบปิกนิกกันตอนกลางคืนเหรอ? แปลกดีแฮะ"
     
     
     
     
     
    "ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะโอปป้า คือแดดที่นู่นร้อนมากเลย ร้อนเกินที่จะนั่งแบบนี้ได้เลยไม่ค่อยมีใครปิกนิก"
     
     
     
     
    "อ๋อ งั้นนี่ก็คือครั้งแรกของเธอเลยน่ะสิ"
     
     
     
     
    "ค่ะ^^"คุณพยักหน้าหงึกหงักพลางสบตากับเขาด้วยแววตาที่คิดว่าแบ๊วที่สุด แบ๊วได้แค่นี้แหละกรู
     
     
     
     
    "หวังว่าจะเป็นครั้งแรกที่ประทับใจนะ งั้นเรามากินกันเถอะ ฉันหิวแล้ว"เขาพูดพลางวางข้าวกล่องลายเด็กผู้หญิงไว้ตรงหน้าคุณก่อนที่เขาจะมาสนใจข้าวกล่องบนตักและเปิดกินอย่างเอร็ดอร่อย
     
     
     
    คุณมองเขายิ้มๆก่อนจะเปิดกล่องบ้าง
     
     
     
     
    ว้าววววววว! น่ากินมวกกกกก ตาแวววาว น้ำย่อยเริ่มทำงานจนคุณทนไม่ไหวที่จะกินเป็นคำแรกและพบว่ามันอร่อยมากๆเลยล่ะ~
     
     
     
     
    "อ้อ!"
     
     
     
    คุณสะดุ้งโหยงเพราะอยู่ดีๆจุนฮงโอปป้าก็ตะโกนขึ้นมาราวกับนึกอะไรออก คุณมองหน้าเขานิ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เขาค่อยๆยิ้มบางๆที่มุมปาก
     
     
     
     
    "คราวหน้าเรามาปิกนิกกันตอนกลางคืนดีมั้ย?"
     
     
     
     
    "หา?"
     
     
     
     
    "น่าสนุกดีออก ตอนกลางคืนน่ะข้างบนนี้น่านั่งมากๆเลย บางวันฉันกับพวกฮยองก็ขึ้นมานั่งคุยกันบนนี้แหละ"เซโล่พูดพร้อมกับหลับตาลงคล้ายกับนึกภาพเก่าๆในอดีต
     
     
     
     
     
    "........"
     
     
     
     
    "แล้วฉันจะซื้อหลอดไฟน่ารักๆมาติดตามมุมพร้อมกับเปิดเพลงที่เปิดคลอเบาๆ มีอาหารที่เธอและฉันอยากกินวางอยู่ตรงหน้าคู่กับเทียน แค่คิดก็โรแมนติกมากๆแล้วล่ะ"
     
     
     
     
     
    ทุกคำพูดที่ออกมาจากปากของคนตรงหน้าแปรเปลี่ยนเป็นภาพเคลื่อนไหววิ่งวนไปมาในหัวคุณทีละฉากๆ
     
     
     
     
     
    "///////////"คุณรู้สึกได้ว่าตอนนี้หน้าตัวเองคงแดงเถือกเนื่องด้วยหัวใจที่เต้นตึกตักอยู่ในอกเหมือนมีใครมารัวกลองใส่รัวๆอย่างนั้นแหละ
     
     
     
     
    "อาาา~ อย่าสนใจที่ฉันพูดเลย กินเถอะก่อนที่มันจะเย็นชืดไปมากกว่านี้"จุนฮงโอปป้ายิ้มบางๆก่อนจะก้มลงมองกล่องข้าวบนตักต่อและถ้าคุณตาไม่ได้ฝาด คุณเห็นว่าหน้าขาวใสๆของเขาค่อยๆขึ้นสีชมพูเรื่อๆไม่ต่างอะไรจากคุณเลย
     
     

     
     
     
    อาาา~ นี่คงเป็นการปิกนิกที่ฉันคนนี้จะไม่มีวันลืมลงเลยล่ะ



    .................................................................................................................................................



    มีคนถามว่านอกจาก B.A.P แล้วไรท์เมนวงไหนอีกบ้าง ไรท์เมน EXO จร้าาาา



     
    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×