คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Special Zelo part
ผมนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นมืดๆนี่มานานแล้ว หนังเรื่อง Step up ที่ซื้อมาเมื่อวันก่อนก็ยังคงดำเนินต่อไปแต่จิตใจผมกลับไม่ได้จดจ่ออยู่ที่มันเลย ผมโยนรีโมททีวีขึ้นลงเป็นรอบที่ล้านแล้วก็ยังไม่เห็นยัยนั่น ไม่รู้ว่าป่านนี้จะสนุกไปถึงไหนผมเองก็ชักจะง่วงขึ้นมาแล้ว
ก็พวกฮยองน่ะสิ บอกว่าให้ผมรอจนกว่ากียอนจะกลับมาไม่รู้ว่าจะให้ผมรอทำไม เฮ้ออ! อะไรๆก็ผมตลอดเลย ชิ!
ผมแหงนมองนาฬิกาสีขาวที่แขวนอยู่บนผนัง เข็มสั้นและเข็มยาวตีบอกเวลาเที่ยงคืนสิบห้านาที เลยเวลาเลิกงานของยัยนั่นมาแล้วสี่ชั่วโมงกว่าๆ นี่จะให้ผมรอไปถึงไหนกัน หนังก็จะจบแล้วด้วย
ผมยกมือขึ้นมาปัดผมสีควันบุหรี่ของผมที่ลงมาปรกหน้าอย่างรำคาญๆ ผมจะรอยัยเพี้ยนนั่นอีกแค่ 20 นาที ถ้ายังไม่โผล่มาล่ะก็ผมจะไปนอนแล้วจริงๆ เคยมีสไตล์ลิสต์คนนึงชื่ออะไรแล้วผมก็จำไม่ได้ เขาเคยบอกว่าต้องห้ามนอนดึกเพราะจะทำให้สิวขึ้นและหน้าหมองเหมือนโดนคนเล่นของใส่ และผมก็ไม่อยากให้ผมเป็นแบบนั้นด้วย ฟังแล้วน่ากลัวเป็นบ้า
แอ๊ดดดดด~
เสียงประตูถูกเปิดออกเพราะใครบางคนที่มีคีย์การ์ดเปิดมันเข้ามา และแน่นอนว่าเป็นใครไปไม่ได้นอกซะจากกียอน เพราะนอกจากคนในวงก็ไม่มีใครแล้วที่มีคีย์การ์ด เอิ่มม จริงๆคีย์การ์ดนั่นมันเคยเป็นของผมต่างหาก
ผมหันขวับไปยังต้นเสียงเพื่อที่จะเตรียมตัวดุคนที่กลับมาช้าเกินไป แต่แล้วสิ่งที่ผมเห็นก็ทำให้ผมตกใจพอสมควรจนผมต้องลุกขึ้นยืน
ยัยเพี้ยนนั่นเดินโซซัดโซเซเข้ามาในห้องเหมือนคนเมา หน้าแดงไปหมดแถมยังดูสลึมสลือเหมือนคนเพิ่งตื่น จนผมกลัวว่ายัยนั่นจะล้มหัวฟาดพื้นตาย ผมเลยต้องรีบทิ้งรีโมทแล้ววิ่งเข้าไปประคองยัยนั่นโดยเร็ว
“เฮ้ยยย! ทำไมเมากลับมาแบบนี้เนี่ย”ผมพูดขณะที่มือทั้งสองข้างของผมก็พยุงยัยนั่นให้ยืนได้แบบเป็นผู้เป็นคน อื้อหือ~ กลิ่นโซจูนี่หึ่งเลย ถ้าจะให้ผมเดานะยัยนี่ต้องเป็นคนคออ่อนแน่ๆ
“โอปป้ายางไม่นอนหราค้าาาา~”ยัยนั่นพูดด้วยน้ำเสียงงุ้งงิ้งก่อนจะเอามือทั้งสองข้างมาสวมกอดที่เอวผมแน่น ยังไม่พอนะยังเอาหน้ามาซบที่อกผมด้วย
“เฮ้ยยยย! ใครเป็นคนเอาโซจูให้เธอกินจนเมาเละเทะแบบนี้เนี่ย”ผมพยายามแกะมือเล็กๆที่รัดแน่นอยู่รอบเอว แต่จะแกะยังไงยัยนั่นก็ไม่ยอมปล่อย กอดแน่นชะมัดเลย ผมเพิ่งจะอาบน้ำมานะทำแบบนี้ตัวผมก็เหม็นหมดน่ะสิ อากาศหนาวๆแบบนี้กว่าจะอาบน้ำได้มันทรมานแค่ไหนรู้บ้างมั้ย ฮึ่ยย!
“อื้อออ เค้ายังไม่มาววววว ใครว่าเค้ามาวกันล่าาา!”
ยัยนี่ชักจะพูดไม่รู้เรื่องแล้วแฮะแถมยังกอดผมไม่ปล่อยอีกด้วย ผมจึงต้องลากยัยนั่นมายังโซฟาหน้าทีวี
“กียอน ปล่อยฉันก่อนนะเดี๋ยวเอาน้ำมาให้กิน”ผมยังพยายามคิดหาอุบายเพื่อแกะมือเล็กๆของยัยนี่ออก
“ไม่อาว ไม่กินน้ามมม จะกอดโอปป้าาา”มันเป็นอย่างนี้เองเหรอเนี่ย พูดกับคนเมาก็เหมือนพูดกับลม พูดไปก็ไม่เข้าใจหรอก เอาไงดีวะเนี่ยย เอาน้ำมาสาดเลยดีมั้ยจะได้ตื่น แต่ถ้าผมทำอย่างนั้นคงโดนพวกฮยองฆ่าตายแน่
“กอดๆๆๆๆๆ โอปป้าตัวหอมอ่า ขอกอดที ถ้าให้กอดแล้วกียอนจะปล่อย น้าๆๆๆ”ยัยนั่นเงยหน้ามาพูดกับผมเบาๆด้วยน้ำเสียงงุ้งงิ้ง มือก็ยังจับชายเสื้อผมแน่นไม่ปล่อยเลย เออๆๆ กอดก็กอด เอาวะ ยัยนี่เมาอยู่ พรุ่งนี้เช้าก็คงจะลืม
“กอดแล้วจะปล่อยใช่มั้ย”
ยัยนั่นไม่ตอบแต่กลับพยักหน้าหงึกหงัก ผมถอนหายใจอย่างเอือมๆก่อนจะใช้สองมือกดแผ่นหลังของยัยนั่นให้แนบชิดกับตัวผมมากขึ้น และแน่นอนว่าเมื่อผมกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ยัยนั่นก็กอดผมแน่นอีกตามเคย นอกจากแม่แล้วผมก็ไม่เคยกอดผู้หญิงคนไหนเลยตั้งแต่เกิดมา ยัยนี่คงเป็นคนที่สองของผม ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพอได้กอดทำให้ผมรู้ว่าคนในอ้อมแขนตอนนี้ตัวเล็กกว่าที่คิดไว้เยอะ ถ้ากอดแน่นกว่านี้กระดูกจะหักมั้ยนะ หะหะ
“พอได้ยังกียอน”ผมถามเบาๆ
“……………………..”ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก เงียบซะงั้นอ่ะ หรือว่าจะหลับไปแล้ว น่าจะหลับไปแล้วจริงๆ ผมจึงค่อยๆผละออกจาอ้อมกอดแล้วก้มลงมองคนตรงหน้า
อะไรวะ ก็ไม่หลับนี่นา แต่แค่สลึมสลือ ตาไม่ได้ปิดสนิทไปซะทีเดียว แถมยัยนี่ยังนั่งอมยิ้มเหมือนคนบ้าอีกประกอบกับหน้าแดงๆเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์แล้วยิ่งทำให้ยัยนี่ดูเพี้ยนมากกว่าเก่า
“โอปป้าอยู่เฉยๆน้าาา~”ยัยนั่นพูดพลางปล่อยมือจากชายเสื้อของผมแล้วเอื้อมมือขึ้นไปถอดที่คาดผมรูปหูแมวแอ๊บแบ๊วที่อยู่บนหัวของตัวเองแล้วค่อยๆเอามาใส่ให้ผม
เฮ้ยย! ใส่หัวผมเนี่ยนะ ไม่เอาๆๆๆๆ ผมไม่ใช่เด็กสามขวบซักหน่อย ผมจะถอดออกให้ได้เลย
“น่ารักมากๆเลยย โอปป้าใส่อารายก็น่ารักไปหมดด ฮ่าๆๆๆ”ยัยนั่นมองดูผมแล้วยิ้มหัวเราะออกมาพร้อมกับตบมือแปะๆชอบใจ เฮ้ออ! ชักจะเอือม แต่ยอมคนเมาซักวันคงไม่เสียหายหรอก
“เดี๋ยวฉันเอาน้ำมาให้กินนะ”ผมพูดพลางลุกขึ้นยืนแล้วตรงดิ่งเข้ามาในครัว ผมเปิดตู้เย็นก่อนจะหยิบน้ำออกมาหนึ่งขวดแล้วจัดการรินใส่แก้วให้เรียบร้อย เฮ้ออ~ ผมเพลียจริงๆแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ยัยนั่นอายุยังไม่เท่าไหร่ริอาจกินโซจูขนาดผมเองมีชีวิตมาแล้ว 17 ปียังไม่เคยได้รู้เลยว่าโซจูรสชาติเป็นยังไง
ผมถือแก้วน้ำแล้วเดินตรงเข้ามายังโซฟาในห้องนั่งเล่น อ้าวว! ยัยนั่นหลับไปแล้วเหรอ นอนหลับคอพับเชียวนะ สรุปผมเอาน้ำมาให้ใครกินเนี่ย
“กียอน กียอนอา หลับแล้วเหรอ?”ผมสะกิดๆที่แขนยัยนั่นเบาๆแต่แล้วเธอก็ยังไม่ไหวติง สงสัยคงหลับไปแล้วจริงๆนั่นแหละ แล้วผมจะทำไงต่อดีเนี่ย ปล่อยให้ยัยนี่นอนอยู่ตรงนี้ถึงเช้าก็คงไม่ได้ด้วย
“งืมๆๆๆๆ~~ @#^&%^(&(*@^$%#@*^ ”ดูเหมือนยัยนั่นจะละเมอแฮะ ละเมอว่าไรว้าผมฟังไม่เห็นรู้เรื่องเลย แต่หน้าตานี่ดูฟินสุดๆเลย สงสัยคงจะละเมอเป็นภาษาบ้านเกิด ยัยนี่จะคิดถึงพ่อกับแม่บ้างมั้ยนะ จากมาไกลขนาดนี้
“$^%$%#$@$%$^%&^*&()(*”
ผมยังคงฟังสิ่งที่เธอบ่นออกมาโดยที่ไม่ได้ไปไหน ภาษาไทยนี่ก็น่าฟังดีแฮะ คล้ายๆกับภาษาถิ่นของเกาหลีเลย พี่ยงกุกเคยสอนผมแร็พครั้งหนึ่งล่ะ
นี่ก็จะตีหนึ่งแล้ว ปล่อยให้ยัยนี่นอนอยู่ที่นี่ไม่ได้แน่ เห็นทีคงต้องปลุกให้ยัยนี่ตื่นแล้วกลับไปนอนที่ห้องตัวเองได้แล้ว ไม่สิ มันคือห้องของผมต่างหาก แต่ก็เอาเหอะเพราะผมก็ชักจะง่วงๆขึ้นมาแล้ว ผมจะได้กลับไปนอนซักที
“กียอน ตื่นๆๆๆ ไปนอนให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้นะ”ผมเขย่าร่างเล็กนั่นเบาๆแต่เธอก็ยังคงหลับตาพริ้มและละเมอออกมาไม่หยุด ตื่นเซ่ๆ ผมจะได้ไปนอน ง่วงแล้วนะเว้ย
เอาไวดีวะ เห็นทีคงจะปลุกให้ตื่นง่ายๆไม่ได้แน่ๆเลย ทำไงดีนะ
แล้วความคิดบางอย่างก็แวบเข้ามาในหัวผม ผมควรจะอุ้มยัยนี่ไปนอนเพราะจะรอให้ยัยนี่ตื่นเองแล้วเดินไปนอนเองคงเป็นไปไม่ได้ เอาก็เอา ก็แค่อุ้มไปส่งที่ห้องมันคงไม่ยากอะไร ดูๆไปแล้วยัยนี่ก็คงไม่หนักเท่าไหร่
ผมกระพริบตาสองสามครั้งก่อนจะก้มลงไปช้อนร่างเล็กๆที่ตอนนี้นอนหลับคอตกไม่ไหวติงขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน ฮึบ! โอ้ยยย ตัวหนักกว่าที่คิดแฮะ เกิดมายังไม่เคยอุ้มผู้หญิงเลยนะเนี่ย ยัยนี่เป็นรายแรกเลย
ผมพยายามอุ้มให้ดีที่สุดเพื่อจะได้ไม่ให้ยัยนี่เจ็บและผมเองก็จะไม่เจ็บด้วย ผมก้มลงมองหน้าคนในอ้มแขนด้วยสายตาเป็นห่วง ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผมถึงต้องห่วงยัยนี่ด้วยทั้งๆที่เธอก็เป็นแค่คนๆหนึ่งที่โชคร้ายจนต้องมาพึ่งพาผม
ผมอุ้มยัยนี่มายังหน้าห้องนอนก่อนจะค่อยๆใช้มือข้างที่ถนัดเอื้อมไปเปิดประตู ปวดแขนชะมัด แต่ก็ยังดีที่ไม่ได้ล็อกห้องเอาไว้ ผมวางร่างเล็กๆนี่ลงบนเตียงก่อนจะจัดการดึงผ้าห่มออกมาห่มร่างนั้นไว้
ผมของกียอนที่เคยม้วนขึ้นไปเป็นมวยเริ่มหลุดลุ่ยจนลงมาปรกหน้า ผมจึงค่อยๆเอื้อมมือไปปัดไรผมที่ลงมาปรกหน้าออกเผยให้เห็นใบหน้าของหญิงสาวที่หลับใหลไม่รู้สึกตัว หน้าของเธอยังคงแดงด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
ตึกตักๆๆๆๆ
ผมยืนมองคนตรงหน้าอยู่นานจนหัวใจผมเริ่มเต้นแรงขึ้นมาเองโดยไม่รู้สาเหตุ อะไรกันเนี่ย มันเกิดอะไรขึ้นกับผม ทำไมจู่ๆผมถึงรู้สึกอยากแตะต้องตัวกียอนมากขนาดนี้ ทำไมผมถึงอยากจะเฝ้ายัยเพี้ยนนี่เพราะกลัวว่าเธอจะตื่นขึ้นมาโดยที่ไม่เจอใคร และทำไม……ทำไมหัวใจผมถึงเต้นแรงกว่าทุกครั้งล่ะ
ผมสะบัดหนีจากใบหน้าหลับใหลของหญิงสาวตรงหน้าก่อนจะจำใจเดินออกมาแล้วปิดประตู
“ฝันดีนะ…..กียอน”ผมพึมพำอยู่หน้าประตูห้องเดิมของผมก่อนจะเดินไปยังห้องของฮิมชานฮยองด้วยความรู้สึกที่ผมเองก็ไม่อาจเข้าใจ
..........................................................................................................
To Be Continue
ความคิดเห็น