ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Zelo x You] สาวใสโชคร้ายขอมัดใจนายซุปตาร์ COME BACK

    ลำดับตอนที่ #16 : Chapter 14

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ย. 56


    Chapter 14




    Zelo Part
     
     
     
    โอ๊ยยยย!! บัดซบเอ้ยยย
     
     
    ผมกู่ก้องร้องในใจอย่างหัวเสียขณะที่กำลังยืนประจันหน้ากับเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก
     
     
     
    ขอบตาดำเป็นหมีแพนด้าไม่ได้นอน ปากซีดเผือดไร้สีสัน หัวที่ปวดตุบๆและจมูกที่หายใจไม่ติดๆขัดๆ
     
     
     
    ผมทึ้งผมสีควันบุหรี่ของตัวเองเป็นรอบที่ล้านก่อนจะกระชากประตูห้องน้ำออกแล้วเดินตึงตังออกมาทิ้งตัวลงสลบเหมือดบนเตียงนอนของฮิมชานฮยอง
     
     
     
    ทันทีที่หัวถึงหมอนผมก็รู้สึกเหมือนหัวหนักอึ้งจนยากที่จะลุกขึ้นมาอีกครั้ง หัวมันปวดตุบๆเหมือนจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆทุกครั้งที่พยายามลืมตามอง ในใจมันพยายามฝืนร่างกายให้ลุกขึ้นแต่สมองผมมันเหมือนบังคับให้ผมนอนจมอยู่อย่างนี้
     
     
     
    อา~~~ให้ตายสิ 
     
     
     
    ผมรู้สึกไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะยกเปลือกตาให้เปิดขึ้น ร่างกายสั่นสะท้านถึงแม้ว่าจะห่อหุ้มตัวเองภายใต้ผ้านวมผืนหนาสีขาวแล้วก็ตาม  แดดจากข้างนอกสาดเข้ามาเป็นลำแสงกระทบกับเบ้าตาผมจนแสบไปหมด ผมไม่มีแรงจะขยับแข้งขาลุกออกไปรูดม่านให้ปิดลงแม้แต่น้อย เฮ้อ!! แค่ลืมตายังยากเลย เหอะ!!!
     
     
     
    "จุนฮงชิ!! นายเป็นอะไร!!!"ยงกุกฮยองท่าทางตกใจเมื่อเห็นสภาพของผมตอนนี้ เขารีบวิ่งเข้ามาหาผมโดยที่ยังไม่ปิดประตูด้วยซ้ำ
     
     
     
    "อ่า...ผม......แค่กๆๆๆ!"ผมพยายามจะพูดด้วยเสียงแหบพร่านี่ โอยย เจ็บคอไปหมดเลยและตอนนี้ผมก็หยุดไอไม่ได้เลยจริงๆ
     
     
     
    "นายตัวร้อนมากเลยนะ เมื่อวานใครใช้ให้ไปตากฝนแบบนั้นเล่า"มือเย็นๆของฮยองยื่นมาแตะบนหน้าผากของผมเบาๆ
     
     
     
    ".........."
     
     
     
    "งั้นวันนี้ไม่ต้องไปซ้อมละกัน"
     
     
     
    "เฮ้ยย! ผมไหวนะฮยอง แค่กๆๆๆ!"
     
     
     
    "ไหวบ้าไหวบออะไร นายอย่าดื้อดิ แค่จะพูดยังไม่มีแรง นับประสาอะไรจะไปเต้น"
     
     
     
    "........."ผมอยากจะเถียงนะแต่สังขารมันไม่เอื้อจริงๆ กลืนน้ำลายแต่ละครั้งรู้สึกเหมือนมีเข็มเล็กๆนับล้านบาดไปมาตามหลอดลม โอ๊ยย ตากฝนนิดหน่อยทำไมถึงป่วยหนักขนาดนี้วะ ไอ้ %%}^*<$$*<|#^€=•*
     
     
     
    "งั้นฉันไปแล้วนะ นายนอนไปละกัน เดี๋ยวจะบอกให้กียอนดูแล"ยงกุกฮยองพูดพลางลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปจากห้อง
     
     
     
    อะไรนะ.....กียอนเหรอ?!
     
     
     
    "เฮ้ย!!! ฮยอง!!"ไม่ทันที่ผมจะได้เรียกไว้ ยงกุกฮยองก็ปิดประตูเดินออกไปแล้ว เสียงรองเท้าสนีคเกอร์ที่กระทบพื้นค่อยๆแผ่วเบาและห่างออกไปจนไม่ได้ยินเสียงอีก
     
     
     
    จะเรียกกียอนมางั้นเหรอ? ไม่ได้นะ ผมไม่อยากให้ยัยนั่นมาเห็นผมสภาพนี้เด็ดขาด มันน่าสมเพชมากเลย ยัยนั่นน่ะคงจะเห็นแต่ลุคดีๆของผม แล้วถ้ามาเห็นผมสภาพนี้ยัยนั่นก็คงจะ....... แม่งเอ้ยยย!!%}*+%%~>¥$^*>%^
     
     
     
    แล้วอีกอย่าง..............ทำไมผู้ชายแบบผมต้องมาป่วยออดๆแอดๆแทนที่จะเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆแบบยัยกียอนด้วยยยย!!
     
     
     
    20 นาทีผ่านไป
     
     
     
    "โอปป้า! โอปป้าเป็นอะไรรึเปล่าคะ"เสียงเล็กๆดังอยู่ข้างๆหูผมทำให้ผมต้องลืมตาไปมอง
     
     
     
    เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่ผมคุ้นเคยคุกเข่าลงข้างเตียงผมช้าๆ มือเล็กเกาะขอบเตียงเอาไว้แล้วมองผมด้วยสายตาห่วงใย ตากลมโตคู่นั้นเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย อาาา~~ ทำไมวันนี้รู้สึกว่ายัยนี่น่ารักผิดปกตินะ
     
     
     
    ไม่ได้นะ...สงสัยผมคงปวดหัวจนหน้ามืดตาลาย(อ่าว พูดงี้เดี๋ยวจับปล้ำเลย 55)
     
     
     
    "ฉันไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย ทำไมต้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ด้วย"ผมพูดยิ้มๆแล้วค่อยๆเอื้อมมือไปวางปุลงบนหัวของคนข้างเตียงแล้วลูบเรือนผมนุ่มอย่างเบามือ
     
     
     
    "ก็.....ฉันเป็นห่วงโอปป้านี่นา"เธอพูดเสียงเบาในลำคอแล้วหลุบตามองพื้นด้วยใบหน้าแดงก่ำ หะๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงรู้สึกมีความสุขจังเวลาเห็นยัยนี่เขิน....เพราะผม
     
     
     
    เวลาผ่านไปเรื่อยๆอย่างเชื่องช้า อาการปวดหัวค่อยๆเบาลงบ้างแล้วเพราะกียอนไปเอาแผ่นเจลลดไข้มาติดให้ผม เธอบอกว่าเอาติดกระเป๋ามาด้วยเผื่อตัวเองป่วย แต่สุดท้ายคนที่ป่วยกลับเป็นผม น่าอายเป็นบ้า
     
     
     
    ถึงอาการปวดหัวจะหายไปบ้างแล้วแต่อาการคัดจมูกยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นมันแย่ลงด้วยซ้ำและยิ่มผมพยายามหายใจมากเท่าไหร่มันก็กลับกลายเป็นว่าผมยิ่งเพิ่มภาระให้จมูกโด่งๆ(?)ของตัวเอง เจ็บคอเว้ยย!  ไอ้ยาอมนี่ไม่ได้ช่วยอะไรผมเลย กลับรู้สึกว่ายิ่มอมก็เหมือนมันยิ่งมาบาดคอให้ระบมหนักเข้าไปอีก
     
     
     
    กียอนยังคงนั่งๆนอนๆอยู่ข้างๆผม ตอนผมหลับผมได้ยินเธอคุยโทรศัพท์กับคนที่ชื่อจงฮยอนว่าเธอจะลางานมาดูแลผม บอกตรงๆนะ ผมไม่ค่อยชอบขี้หน้าหมอนั่นเลย กวนตีนชะมัดแถมยังหล่อสู้ผมไม่ได้ ถึงกียอนจะบอกว่าหมอนั่นจะอายุมากกว่าผม แต่ผมก็ไม่อยากเรียกหมอนั่นว่าฮยองซักนิด ฮยองของผมน่ะมีแค่ 5 คนก็พอ
     
     
     
    หะๆ ผมนี่มันมารยาทแย่จริงๆ......
     
     
     
    ยัยนั่นจะรู้สึกบ้างมั้ยนะว่าผมไม่ได้หลับซักหน่อย ผมน่ะเกลียดการจมปลักอยู่กับที่เป็นที่สุดโดยเฉพาะต้องมานอนซมอยู่บนเตียงนี่ ผมเริ่มรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมมากและผมก็อยากจะไปซ้อมกับพวกฮยอง
     
     
     
    เหลืออีกแค่ 2 เดือนก็จะมีเวิร์ลทัวร์ ผมจะต้องทำออกมาให้ดีที่สุดและเพราะเหตุนี้การขาดซ้อมแม้แต่วันเดียวก็เป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับผม ป่านนี้พวกฮยองซ้อมกันไปถึงไหนแล้วไม่รู้ และที่สำคัญคือ ผมไม่ชอบเลยที่ทำให้กียอนเดือดร้อนและคอยเอาแต่โทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมป่วย จริงๆแล้วที่ผมเป็นแบบนี้ก็เพราะร่างกายผมเองที่อ่อนแอ
     
     
     
    ผมแอบลืมตาขึ้นมามองกียอนเป็นพักๆเพื่อดูว่าเมื่อไหร่เธอจะลุกออกไป แต่ไม่ว่าผมจะลืมตาขึ้นมากี่ครั้งๆก็เจอเธอนั่งอยู่ที่เดิม บางทีก็เดินวนไปวนมาบางทีก็นั่งบนโซฟาแล้วหยิบมือถือออกมาเล่น ผมน่ะเกือบจะแกล้งหลับไม่ทันตอนที่ยัยนั่นเงยหน้าขึ้นจากหนังสือแล้วมองมาที่เตียง แถมยัยนั่นยังเดินมาแตะหน้าผากผมเป็นพักๆทำเอาผมใจกระตุก 
     
     
     
    แอ๊ดดดดด แกร๊กๆ
     
     
     
    เสียงบานประตูที่ถูกเปิดออกทำให้ผมลอบยิ้มในใจตามมาด้วยเสียงประตูที่ปิดลงอย่างเบามือ สงสัยคงกลัวฉันจะตื่นสินะกียอน 
     
     
     
    ทันทีที่เสียงในห้องเงียบไปไร้วี่แววความเคลื่อนไหวของคนที่เคยเดินไปเดินมา ผมจึงค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างเชื่องช้าเพื่อดูให้แน่ใจว่าไม่มีคนอยู่ในห้องจริงๆแล้วพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งบนเตียง
     
     
     
    อาาา~~ปวดหลังชะมัด
     
     
     
    ผมจัดแจงถอดเสื้อที่ใส่อยู่ออกเหลือไว้แต่เพียงเสื้อกล้ามแนบเนื้อสีขาวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างรีบร้อน
     
     
     
    ผมใช้มือหมุนก็อกอย่างรีบร้อน น้ำไหลลงมาอย่างแรงเนื่องจากผมบิดเยอะเกินไป กระแสน้ำไหลออกจากฝักบัวขนาดใหญ่ลงมากระทบกับเรือนผมของผมจนมันลู่ลงมา ทุกๆครั้งที่น้ำไหลลงมากระทบกับไหล่กว้างของผมทำให้ผมหนาวสะท้านจนฟันกระทบกันกึกๆ ผมใช้มือดันผนังห้องน้ำเพื่ออดทนต่อความหนาวเย็นของน้ำ
     
     
     
    รีบๆอาบจะได้รีบๆเสร็จ....
     
     
     
    อาการปวดหัวของผมทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หยดน้ำเย็นๆไหลผ่านท้องผมไปเรื่อยๆจนผมรู้สึกหายใจติดขัด ไข้ขึ้นสูงจนผมรู้สึกได้ แต่ช่างมันเหอะ ผม...ไหว
     
     
     
    ผมไม่ได้โง่พอที่จะไม่รู้ว่าการอาบน้ำตอนที่ไข้ขึ้นสูงจะยิ่งทำให้อาการผมทรุด แต่ผมโง่ที่ยังฝืนตัวเอง เสียงในหัวมันตะโกนกู่ก้องแข่งกันไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้ เสียงหนึ่งพูดว่าให้ผมปิดน้ำซะแล้วกลับไปนอนที่เตียง นอนให้กียอนดูแลเหมือนเดิม และอีกเสียงหนึ่งก็ตะโกนตอบว่า ไม่ได้เด็ดขาด ผมโตพอที่จะทนกับไข้แค่นี้ได้ ผมไม่อยากให้กียอนต้องมาลำบากดูแลผม เพราะผมต่างหากล่ะที่ต้องเป็นฝ่ายดูแลเธอ
     
     
     
    ดูเหมือนร่างกายผมจะเข้าข้างเสียงแรก ภาพตรงหน้าผมเริ่มหมุนวนจนผมเริ่มยืนไม่ติดพื้น ท้องไส้ปั่นป่วนชวนให้ผมอาเจียนออกมาเป็นที่สุด เสียงปี้ดแหลมบาดแก้วหูดังขึ้นในโสตประสาท ขาที่สั่นเกร็งเริ่มไร้เรี่ยวแรงที่จะยืนผม........กำลังจะ.......
     
     
     
     
     
    "โอปป้าคะ!"เสียงเล็กๆที่ดังอยู่ภายนอกห้องน้ำบวกกับเสียงทุบประตูปึงปังทำให้สติผมกลับมาอีกครั้ง ผมรวบรวมแรงที่พอจะเหลืออยู่ปิดก็อกน้ำและหยิบเสื้อคลุมบนราวออกมาสวมอย่างรวดเร็ว
     
     
     
    "โอปป้าทำอะไรคะ"เสียงนั่นดูเป็นห่วงผมจับใจจนผมนึกออกเลยว่าตอนนี้คนที่ยืนอยู่หลังบานประตูสีหน้าเป็นยังไง
     
     
     
    "อาบน้ำ"ผมตอบกลับไปสั้นๆ พยายามควบคุมเสียงให้เป็นปกติที่สุด
     
     
     
    "เฮ้ยยย! โอปป้าเป็นหวัดอยู่นะ"
     
     
     
    "เป็นหวัดแล้วอาบน้ำไม่ได้รึไง"
     
     
     
    "ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวไข้จะยิ่งขึ้นไปอีกนะ!"
     
     
     
    ปึงๆๆ! ยัยนั่นพูดพลางทุบประตูเป็นระยะๆ คงคิดว่าผมจะตายล่ะสินะ 
     
     
     
    "ฉันจะไปซ้อม"
     
     
     
    "โอปป้าทำไมดื้อจัง ถ้าเกิดเป็นลมขึ้นมาจะทำไง รู้บ้างมั้ยว่ากำลังทำให้ฉันเป็นห่วงจนแทบจะคลั่งตายอยู่แล้วว" เสียงยัยนั่นสั่นมากขึ้นเรื่อยๆที่เธอตะโกนกลับมา มือน้อยๆยังคงทุบประตูไม่หยุด ภาพยัยนั่นน้ำตาไหลอาบแก้มผุดเข้ามาในหัวผมจนผมทนไม่ไหว
     
     
     
    ผมเดินไปกระชากประตูห้องน้ำให้เปิดออก
     
     
     
    หัวที่ปวดตุบๆทำให้ผมยากที่จะลืมตารับแสงจากภายนอก แต่ถึงอย่างไรผมก็ยังพยายามทำตัวให้ปกติที่สุดเพื่อผู้หญิงตรงหน้าผมตอนนี้จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงผมไปมากกว่านี้ รู้สึกมึนหัวเหมือนจะล้มจนต้องเอามือไปค้ำขอบประตูเอาไว้เพื่อพยุงตัวเองให้ยืนได้เป็นปกติ
     
     
     
    ยัยนั่นยืนทำหน้าอย่างกับคนเจอผี ตาลอยเหมือนคนวิญญาณออกจากร่าง หน้าแดงก่ำเป็นปื้นไปถึงใบหูที่อยู่หลังไรผมสีดำขลับ ตากลมโตจ้องมองผมตาไม่กระพริบ
     
     
     
    หะๆๆ ผมรู้ตัวว่าตอนนี้ผมดูฮอตมากแค่ไหน และผมก็อยากจะแกล้งยัยนี่ขึ้นมาเต็มทนแล้วด้วย
     
     
     
    "ถ้าอยากอาบน้ำกับฉันก็ไม่ต้องกลัวเปียกล่ะ"ผมหยักยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พลางสาวเท้าเข้าไปหาคนตัวเล็กก่อนจะก้มลงเอามือสอดเข้าใต้ข้อพับขาวๆแล้วช้อนร่างตรงหน้าไว้ในอ้อมแขนแข็งแรงของตัวเอง
     
     
     
    ยัยนี่น่ะตัวเบายิ่งกว่าอะไรดี แบบนี้ใครจะอุ้มไปไหนมาไหนก็ง่ายเลยน่ะสิ
     
     
     
    กียอนดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขน เสียงใสๆเอ่ยถามผมประโยคเดิมๆเป็นรอบที่ร้อย แต่มือของเธอก็ยังโอบรอบคอผมแน่น ผมผลักประตูห้องน้ำเข้าไปแล้ววางเธอลงบนแท่นหน้ากระจกบานใหญ่
     
     
     
    โอย.....ปวดหัว ผมจะล้มลงไปตอนนี้ดีไหมนะ แล้วถ้าผมล้มลงไปแล้วยัยนี่จะทำไง ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว
     
     
     
    ภาพตรงหน้าเริ่มพร่าเลือนเหมือนมีม่านฝ้ากระจกขนาดยักษ์กั้นระหว่างผมและกียอน ท้องไส้ปั่นป่วนบวกกับอาการปวดขมับเหมือนถูกบีบทำให้ผมยืนไม่อยู่ ผมรู้ตัวว่าตัวเองกำลังเดินเข้าไปหากียอนช้าๆ 
     
     
     
    ดวงตากลมโตมองผมด้วยแววตาที่ไม่เข้าใจ ถึงผมจะมองไม่ชัดแต่ก็ยังรับรู้ได้ว่าคนตรงหน้าหน้าแดงแค่ไหน
     
     
     
    ผมฟุบหน้าลงบนซอกคอขาวของกียอนอย่างหมดแรง สองมือวางคร่อมตัวของกียอนเอาไว้เพื่อพยุงไม่ให้ตัวเองล้มหงายหลังลงไปกับพื้น 
     
     
     
    กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆลอยออกมาแตะจมูกผมจนรู้สึกตาสว่าง ไรผมนุ่มลื่นไล้ไปมาอยู่ข้างๆแก้มของผมจนหัวใจเต้นระส่ำ กลิ่นแชมพูและกลิ่นสบู่อ่อนๆทำให้บังเกิดความคิดเกินเลยขึ้นมาในหัวผมเป็นระยะๆ
     
     
     
     
    อะไร.....นี่ผมกำลังคิดอะไร? ทำไมความรู้สึกแบบนี้ถึงเกิดกับผม ทำไมผมคิดกับกียอนแบบนี้
     
     
     
    ยิ่งริมฝีปากผมแตะกับซอกคอขาวเนียนของกียอนก็ทำให้สติผมแตกซ่าน ผมห้ามตัวเองไม่ได้อีกแล้ว ผมยกมือขึ้นมาปัดไรผมนุ่มของเธอให้ไล้ลงไปด้านหลังเผยให้เห็นซอกคอขาวเนียน ก่อนจะใช้ริมฝีปากจุมพิตเบาๆอย่างห้ามไม่ได้ก่อนจะค่อยๆบรรจงขบเม้มฝากรอยแดงไปทั่วด้วยความต้องการที่พุ่งขึ้นสูงเรื่อยๆ
     
     
     
    ผมใช้มือโอบรอบเอวเล็กของกียอนให้แนบชิดกับผมมากขึ้นในขณะที่ริมฝีปากก็ยังคงทำตามความต้องการของผม ผมค่อยๆไล้ริมฝีปากจากคอขึ้นไปเรื่อยๆบริเวณใบหูแดงระเรื่อก่อนจะค่อยๆงับมันเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว
     
     
     
    คนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมแขนของผมตัวสั่นเทา มือที่เคยดันแผงอกของผมค่อยๆอ่อนระทวยไปตามจังหวะการเล้าโลมของผม 
     
     
     
    เธอเองก็คงตกใจและประหม่า ผมเองก็เป็นเช่นนั้น ผมรู้ตัวว่าผมกำลังทำอะไร ผมรู้ตัวว่าสิ่งที่ผมทำมันส่งผลต่อหัวใจของคนตรงหน้ามากแค่ไหน
     
     
     
    ผมเองก็ใจเต้นแรงไม่ต่างจากเธอเลยนะกียอน เราใกล้กันขนาดนี้เธอจะได้ยินเสียงหัวใจฉันบ้างไหม
     
     
     
    คนตัวเล็กสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อผมใช้มือสอดเข้าไปใต้เสื้อของเธอช้าๆก่อนจะค่อยๆลูบไล้ไปตามท้องน้อยและรอบเอวขาวเนียนอย่างซุกซน สัมผัสนุ่มมือน่าขยี้ทำให้ยากที่จะห้ามใจ
     
     
     
    ผม........ผม.....ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ ผมควรจะหยุด
     
     
     
    อารมณ์ของผมพุ่งพล่านไปทั่วร่างแต่ความถูกผิดทำให้ผมหยุดชะงัก
     
     
     
    ผมอยาก.......อยากจะทำอะไรที่มันมากกว่านี้ อยากจะผลักร่างตรงหน้าให้ราบไปกับพื้น อยากจะลองลิ้มรสจูบจากริมฝีปากยั่วยวน อยากจะลองมอบรสรักอันเร่าร้อนที่ผมเองก็ไม่เคยมอบให้ใคร......
     
     
     
     
    แต่มันต้องไม่ใช่ตอนนี้ ผมจะไม่ขยี้ดอกไม้สีขาวที่ผมเฝ้าทะนุถถนอมมานานนี้เด็ดขาด
     
     
     
    มันยังไม่ถึงเวลา.........
     
     
     
    ผมหยุดการกระทำทุกอย่างที่กำลังจะเลยเถิดไว้เพียงแค่นี้ถึงแม้เสียงในหัวใจผมจะขัดขืนแค่ไหนก็ตาม ผมผละออกจากร่างตรงหน้าอย่างกระทันหัน อาการปวดหัวที่เพิ่งหายไปกลับมาจู่โจมผมอีกครั้ง 
     
     
     
    มือไม้ผมสั่นและไม่กล้าจะมองหน้ากียอนแม้แต่น้อย
     
     
     
    "ฉ.....ฉันขอโทษ"
     
     
     
    "............."
     
     
     
    "สิ่งที่ฉันทำไป เธอจะด่าจะว่าฉันยังไงก็ได้ แต่เธออย่าโกรธฉันเลยนะ"
     
     
     
    "............"
     
     
     
    "เธออย่าหนีฉันไปนะ กียอนอา...."
     
     
     
    ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาลงก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสบตาคนตรงหน้า เธอมองผมด้วยสายตาที่ผมเองก็อธิบายไม่ถูก มันดูสับสนและประหม่า
     
     
     
    ผมทึ้งหัวตัวเองอย่างหัวเสียก่อนจะรีบเดินออกจากห้องน้ำโดยไม่พูดอะไรอีกเลย
     
     
     
    ผมกลัว....กลัวว่าถ้าผมยังอยู่ใกล้เธอมากไปกว่านี้  ผมจะเผลอทำอะไรที่ไม่ดีกับเธอน่ะสิ
     
     
     
     
    เธอเข้าใจฉันใช่มั้ย?........



    ...................................................................................................................................

    เย้!! ในที่สุดก็ปั่นเสร็จ   ไรท์มีข่าวร้ายมาบอก!! อาทิตย์หน้าไรท์สอบกลางภาค !! อ้ากกกก อยากจะบ้าตาย คงได้อัพอีกทีก็ตอนนู้นนนน 555 เด็กๆทุกคนก็อย่าลืมอ่านหนังสือกันนะจ๊ะ อย่ามัวแต่ติดเซโล่กัน จุ๊บๆๆ แล้วเจอกันนะจร๊ะ

    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×