ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {จบเเล้วว} [★ Fic exo ★ ChanBaek]Love of a friend (ft.HH KD)

    ลำดับตอนที่ #3 : [★ Fic exo ★ ChanBaek] Ch 2 : Nothing is better than you and me ...

    • อัปเดตล่าสุด 13 มิ.ย. 57


    :) Shalunla     
                                        
                   

    Love of a friend

    Chapter 2:

    Nothing is better than you

     

    ★★★★

     

                                                      
     
    Andy - you and me

     

                   

    Nothing is better than you baby

    ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านายแล้ว ที่รัก

    아침이 밝아도 here I am

    แม้ตอนนี้จะเป็นตอนเช้ามืด แต่ฉันก็อยู่ตรงนี้

    Nothing is better than you and me ..... forever

    ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านายกับฉัน...ตลอดไป

     

     

     

    ---------------------------------------

     

     

    I don’t know I don’t know why why 이리

    ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้ว่าทำไม ทำไม ทำไม ฉันถึงทำแบบนี้

    조금 뒤에서 걸어가는일

    เดินตามนายอยู่ข้างหลัง

    표정을 숨기며 지켜보는일

    มองนายโดยพยายามไม่แสดงสีหน้าอะไร

    괜찮은지 살펴보는일

    เพื่อดูให้แน่ใจว่านายนั้นสบายดี

    그게 나의 나의 love J

    นั่นคือรักของฉัน  J

     

    ★★★★

     

     

          

                ก๊อกๆ

     

                เสียงเคาะประตูดังขึ้นภายในห้องที่เงียบสงบ ทำให้ผมที่นอนอยู่ต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย (ปกติแม่จะไม่มาปลุกผมในวันหยุดแบบนี้หรอก แต่อาจจะมีเรื่องอะไรก็ได้นะ) ก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นนั่ง  หาวออกมาอีกครั้งอย่างไม่คิดจะยกมือขึ้นมาปิดปาก ก็ในห้องนี้มีผมคนเดียวนี่ ผมจะต้องกลัวใครเห็นลิ้นไก่ของตัวเอง จริงไหม?  ผมขยี้ตาเบาๆสองสามที ก่อนจะนวดๆ แก้มของตัวเอง ให้มันเข้าที่

     

                ครับแม่!!  แปปนึงครับผมตะโกนบอกแม่ไป ก่อนที่จะนั่งนิ่งๆมองฝ้าเพดาน

    อันที่จริงคือ ผมตื่นตั้งนานแล้วล่ะ หรือจะเรียกว่าแทบจะไม่ได้นอนดีนะ เพราะเมื่อคืน เอาแต่คิดถึงเรื่องที่ไอ้หูกาง ทำกับผมไว้ซะจนนอนไม่หลับ ครั้งสุดท้ายที่มองนาฬิกาดิจิตอลรูปหมาน้อย ก็พบว่าปาเข้าไปตีสามกว่าแล้ว แล้วผมก็รู้สึกตัวอีกทีประมาณเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว แต่ก็รู้สึกเพลียเกินกว่าจะลุกขึ้นไปทำอะไรได้ เลยนอนหลับตาอยู่อย่างไม่อยากตื่น วันนี้วันหยุดนี่ นอนทั้งวันก็ไม่เห็นเป็นไร

     

    อ่ะ...อ้าว ไอ้หูกางผมต้องรีบหดหน้าที่ชะโงกออกไปข้างนอก กลับเข้าในห้องอย่างรวดเร็ว พลางเว้นระยะห่างจาก ร่างสูงตรงหน้า

     

     มาทำอะไรแต่เช้านะ ผมได้แต่คิดในใจเท่านั้นแหละ ทำไมชานยอลถึงทำหน้ายุ่งๆใส่ผมล่ะ ??

     

    เออ ฉันเองไงไอ้ลูกหมาขี้เซา แล้วทำไมแกพึ่งตื่นล่ะ นี่มันจะสิบโมงแล้วนะเว้ย

    แกจะมาดุฉันทำไมวะ นี่มันวันหยุดนะ!!  จะตื่นกี่โมงก็เรื่องของฉันสิ

    อ้าวไอ้ลูกหมา ไมแกทำงี้วะ มานี่เลยๆชานยอลว่าแล้วเบียดตัวเข้ามาในห้องของผม จากนั้นลากผมให้ตามมันไป แล้วก็ดันตัวผมให้นั่งลงบนเตียง ตามด้วยการที่ชานยอลทิ้งตัวนั่งลงข้างๆผม

     

    ทะ..ทำอะไร ฉันทำอะไรวะ

    เอ้า นี่ ก็ฉันบอกแล้วไงว่าจะมารับ แกจำไม่ได้หรอ?” 

    หืม? บอกเมื่อไหร่กัน...ผมขมวดคิ้ว ชานยอลบอกว่าจะมารับผมหรอ? 

    ก็ตอนที่ฉันโทรมาแก แล้วแกบอกว่าถึงหน้าบ้านไงไอ้ลูกหมาชานยอลว่าแล้วผลักหัวผม

    อ่า..อ๋อ ฉันคิดว่าแกจำวันผิด ก็วันนี้มันวันหยุด แกจะมารับฉันทำไม โรงเรียนก็ไม่ต้องไปผมว่าพลางเกาหัวแกรกๆ  ผมก็คิดว่าชานยอลจำวันผิดซะอีก

    โห่ ไอ้ลูกหมา ฉันก็นั่งรอแกอยู่ข้างล่างตั้งนานชานยอลว่าพลางทำเสียงดุๆใส่ผม

    ก็แล้วทำไมไม่ขึ้นมาปลุกให้เร็วๆล่ะผมว่าพลางยู่ปากใส่ชานยอล ผมไม่ผิดสักหน่อย ทำไมต้องมาทำเหมือนดุกันด้วยล่ะ

     

     

    ก็...

     

     

     

     

    อะไร  ก็อะไร

    ก็ฉันเผลอหลับไป แกจะให้ฉันขึ้นมาปลุกแกได้ยังไงเล่า ชานยอลว่าแล้วหันหน้าหนีผมไปทางอื่นซะงั้น ท่าทางแบบนั้นมันน่ารักดีนะ แต่ออกจะตลกมากกว่าในสายตาผม

    อะไรนะ ฮ่าๆ  แกเผลอหลับไปได้ยังไง โถ่ๆ ไอ้หูกางเอ้ย ฮ่าๆผมกุมท้องหัวเราะตัวงอ มีอย่างที่ไหนมานั่งรอผมแล้วเผลอหลับไป 

    โห่ ไม่ต้องมาหัวเราะเลยไอ้ลูกหมา ไม่ให้หลับได้ไง.... ก็ฉันมานั่งรอแกตั้งแต่หกโมงประโยคหลังนั้นชานยอลพูดเบาลง แต่ผมก็ยังได้ยินมันอยู่ดี เพราอยู่ใกล้กันแค่นี้

    แก รีบตื่นมารออะไรตั้งแต่หกโมงเล่า ไอ้หูกางนี่ แปลกคน ใครเค้าจะไปเที่ยวแต่เช้ากันล่ะใครใช้ให้ตื่นมาเเต่เช้าล่ะ  แล้วทำไมผมรู้สึกเหมือนตัวเองโดนงอนล่ะ ? เอ้า ผมผิดจริงๆหรอ? 

    “......”

     

     

     

     

    “.....”

     

    “.......”

     

     

     

    “.....”

     

     

     

    เอ้า! ไอ้หูกางนี่ ตกลงฉันผิดเหรอ?” ผมพูดขึ้นมาท่ามกลางสงครามแห่งความเงียบที่เริ่มก่อตัว

    แกไม่ผิดหรอกแบคฮยอน ฉันผิดเองแหละ ที่ตื่นมาแต่เช้า มาหาแก มารอแก แกไม่ผิดที่ไม่ใส่ใจคำพูดของฉัน ฉันผิดเองแหละชานยอลว่าด้วยเสียงงึมงำๆ เหมือนจะพึมพำอยู่คนเดียว  แล้วก็ทิ้งตัวนอนลงบนที่นอนผมซะอย่างนั้น และยังไม่พอมันยังดึงเอาผ้าห่มของผมไปห่มแล้วก็สะบัดตูดหันหน้าไปอีกทางซะงั้น

     

    หะ..เห้ย สรุปคือฉันต้องง้อสินะ? ผมว่าพลางหันไปเขย่าไอ้เปรตหูกางให้หันมาคุยกับผมดีดี แต่ตัวมันใหญ่กว่าตัวผมตั้งเยอะ เรื่องที่จะทำให้มันหันมาโดยที่มันขัดขืนอยู่แบบนี้ ไม่มีทางซะล่ะ

     

     

    ไม่ต๊อง!! ก็บอกแล้วไงว่าแกไม่ผิด จะต้องมาง้อฉันทำไม

    เหอะๆ เสียงสูงขนาดนั้น ไม่ได้ประชดเลยเนอะ ฉันไม่ใช่ควายนะ ปาร์ค-ชาน-ยอล ไอ้หูกางเอ้ย

     

     

    ใครบอกว่าแกเป็นควายล่ะ แกเป็นไอ้ลูกหมาซื่อบื้อต่างหากล่ะ บยอน-แบค-ฮยอนนั่นนี่มันงอนผมอยู่นะ ยังมิวายมายอกย้อนผมอีก ตกลงมันงอนจริงๆใช่ไหม?? 

     

    นี่...ชานยอลลี่ แกอย่างอนฉันสิวะผมว่าเสียงอ่อน  หรี่ตามองแผ่นหลังของคนที่กำลังงอนบิดเป็นตุ๊ดอยู่

     

     

     

    อย่างน้อย...ถ้าจะงอน แกก็บอกฉันก่อนสิวะ ว่าต้องง้อยังไงพอผมพูดเท่านั้นแหละ มันหันขวับกลับมาเลย

     

     

     

     

     

    เอ้า ไอ้ลูกหมา แกจะซื่อบื้อไปไหนวะ แค่ง้อฉันก็ยังทำไม่เป็น โว้ย ไม่งงไม่งอนมันละ ชานยอลว่าก่อนจะพลิกตัวหันกลับมามองผมอย่างโดนขัดใจ  แล้วก็พลิกตัวกลับไปทางเดิมอีก

     

    อ้าว..คราวนี้งอนจริงๆแล้วสินะ

     

     

     

     

    คิกๆผมอดที่จะหัวเราะไม่ได้ ก็นะ ใครจะไม่รู้ล่ะ ว่าตอนนั้นมันแกล้งงอน แล้วพอผมแหย่เข้านิดๆหน่อยๆ ก็งอนจริงๆซะงั้น 

     

    หึ่ย ไม่ต้องมายุ่งเลยชานยอลว่าและสะบัดแขนผมที่พยายามจะหันตัวมันกลับมา

    เอ๊ะ ไอ้คนนี้นี่  หายงอนน๊าๆๆๆผมว่าแล้วเลื่อนมือไปที่จุดอ่อนของปาร์คชานยอล

     

     

     

    หะ..เห้ย เอามือแกออกไปอย่ามายุ่งกะตรงนั้นชานยอลว่าพลางดิ้นและพยายามจับมือของผมเอาไว้ แต่ใครจะยอมให้มันจับได้กันล่ะ

    แกก็เลิกงอนฉันก่อนสิ นะนะ ไอ้หูกาง ฉันผิดไปแล้ว ฉันขอโทษที่ไม่ได้ใส่ใจคำพูดของแก นะนะนะ ผมยู่ปากน้อยๆ และส่งสายตาที่รู้สึกผิดไปให้

    เออๆ ไม่งอนแล้วก็ได้ แต่ที่แกทำเมื่อกี้ มันคือการง้อแล้วจริงๆหรอวะ ไอ้ลูกหมาชานยอลหันมาถามผมด้วยหน้าเอ๋อๆของมัน

     

    เออ นั่นแหละ ง้อแล้ว ฉันไม่ง้อใครบ่อยๆนะเว้ย แกคือผู้โชคดีปาร์คชานยอลเลยนะ ผมว่าพลางยกยิ้มอย่างต้องการให้คนบ้าปาร์คชานยอลตรงหน้าได้รู้ถึงความสำคัญ ของมันเลยนะ J  ผมไม่ง้อใครบ่อยๆ แล้วคนที่ผมง้อ ก็จะต้องเป็นคนพิเศษของผมจริงๆเท่านั้นแหละ

     

    โห่ย ภูมิใจตายแหละ ไอ้ลูกหมาซื่อบื้อ  ได้ไงล่ะ มันไม่ได้รับรู้ถึงความสำคัญของตัวเองเลยนะเนี่ย ไม่ได้ละ ผมชักจะเดือดแล้วนะ

     

    แกไอ้บ้าหูกาง แกพูดงี้ได้ไงวะ ตายซะเถอะ!!” ผมว่าก่อนจะกระโจนเข้าใส่คนตัวสูงข้างหน้า แล้วจัดการเล่นงานจุดอ่อนของคนตัวสูงแบบไม่ต้องคิดให้ยาก

     

    หะ เห้ย! ฮ่า อร๊ากก เฮ้ย อย่าสิไอ้หมา ฮ่าๆ อร๊า หะเห้ยผมยังคงไม่หยุดจี้จุดไอ้คนตรงหน้าหรอก  หมั่นไส้มันจริงๆ

     

    มือของผมยังคงจี้ๆ ไปตามลำคอของคนตัวสูง เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง และการดีดดิ้นของร่างสูงที่ถ้าไม่หลบดีดีผมอาจจะกระเด็นตกเตียงไปได้ของมันทำให้ผมอารมณ์ดีขึ้นมาเยอะแยะเลยล่ะ

     

     

     

    ฮ่าๆ หยุดๆ เห้ย จะหะ.. ฮ่าๆ โอ้ย จะหายใจไม่ทันแล้ว อร๊าไอ้ลูกหมา

    คิกๆ  หยุดก็ได้  :P ผมหยุดแล้วแลบลิ้นใส่คนตัวสูงตรงหน้า ที่กำลังหายใจหอบด้วยความเหนื่อย

     

     

    แก!! ไอ้ลูกหมา แกพลาดแล้วล่ะ ที่หยุด ไม่ทันที่สมองของผมจะได้ประมวลผลคำพูดของชานยอล ร่างสูงตรงหน้าก็ตรงเข้าผลักผมให้นอนลงกับเตียง แล้วก็รวบแขนทั้งสองข้างของผม ตรึงไว้เนื้อศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างก็จัดการกับจุดอ่อนของผมเหมือนกัน

    อะ.เห้ย มะ..ไม่เอา ฮะ ฮ่าๆ คิกๆ โอ้ย ชะ..ชะยอล ฮ่าๆผมดิ้นขลุกขลักไปมาอย่างทรมาน หายใจแทบจะไม่ทัน เมื่อชานยอลยังคงจี้เอวผมอยู่อย่างไม่ลดละ

    เป็นไงล่ะ ไอ้ลูกหมา

    อ่ะ หะ...เห้ย ชะ..ฮ่าๆ ชะชานยอล พะ ฮ่าๆ พอ ๆ

    เป็นไงล่ะ แกล้งฉันเอาไว้ชานยอลหยุดจี้เอวผม และมองหน้าผมอย่างสมน้ำหน้า หึ่ย! แกตัวใหญ่กว่าฉันเฉยๆนะเว้ย ไม่งั้น ฉันไม่ยอมหรอก =w=

    อ่ะ...ชะ..ชานยอล คือจะว่าไงดีล่ะ ผมพึ่งรู้สึกตัวน่ะ ว่าตอนนี้ร่างสูงของชานยอลกำลังคร่อมร่างกายของผมอยู่ อีกทั้งสภาพของผมตอนนี้ก็แบบ...โดนชานยอลจี้เอว เสื้อเลยเลิกขึ้นมา ทำให้ผมรู้สึกหวิวๆ ที่หน้าท้องแปลกๆ

     

     

    อ่า..โทษทีๆเหมือนชานยอลจะรู้ตัวแล้วเหมือนกันถึงได้ผละออกไป ลุกขึ้นนั่งแล้วหันหน้าไปทางประตู

    เออ..แหะ ๆ ... ว่าแต่ ตกลงจะไปเที่ยวไหมเนี่ย ฉันจะได้ไปอาบน้ำผมลุกขึ้นนั่งเช่นกัน  ไม่กล้ามองหน้าชานยอล เพราะความรู้สึกร้อนผะผ่าวที่ข้างแก้ม ทำให้ผมรู้ว่าหน้าของตัวเองคงมีสีแดงเรื่อๆขึ้นอยู่แน่ๆ

    อ่า ไปสิ เดี๋ยวฉันนั่งรอ

    อ่า โอเคๆ แปปนะผมเกาท้ายทอยแก้เก้อ แล้วรีบเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างรีบร้อน  นี่ ถ้ามีใครเอาเครื่องขยายเสียงมาต่อกับหัวใจผมล่ะก็ คงได้ยินเสียงตึกตักๆ ดังกังวานแน่ๆ เพราะตอนนี้หัวใจของผมเต้นรัวและแรง เกินที่จะควบคุมได้แล้ว

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                แล้ว นี่แกจะพาฉันไปไหนนะ ไอ้หูกางผมถามขึ้นมา เพราตอนนี้บรรยากาศในรถมันเงียบแปลกๆ ไม่สิ มันอึดอัดและเงียบแปลกๆ ตั้งแต่ตอนที่ผมเข้าไปอาบน้ำแล้วล่ะ ให้ตายสิ แค่คิดถึงตอนนั้นก็รู้สึกร้อนๆที่ข้างแก้มอีกแล้ว

     

                ไม่ถามตอนไปถึงเลยล่ะ ไอ้ลูกหมา แล้วนี่ไม่สบายหรือไง ทำไมหน้าแดงชานยอลแล้วละสายตาจากถนนตรงหน้ามามองผม

    หะ..ห๊ะ ดะ..แดงหรอ? ไม่รู้สิผมว่าพลางลูบหน้าตัวเอง

    ตัวก็ไม่ร้อนนี่หว่า ชานยอลเอื้อมมือมาแตะหน้าผากผมเบาๆ หรือเพราะแอร์เย็นไป...ไม่สิ ถ้าแกหนาว หน้าต้องซีดสิวะ แสดงว่าแกร้อน ต้องลดอุณหภูมิหน่อยละ ชานยอลพึมพำอย่างใช้ความคิดกับตัวเอง  มันไม่รู้หรือไงวะ ว่าทำอย่างนั้นมันทำให้หน้าของผมแดงขึ้นไปอีก

     

    ไม่ต้องหรอก ฉันไม่เป็นไร แต่ฉันจะตายเพราะแกขับรถไปสอยตูดคันข้างหน้านั่น ขับต่อไปดีดีเลย ไอ้หูกาง

    ไม่เป็นไรแน่หรอวะ ทำไมหน้าแดงขึ้นกว่าเดิมล่ะ แวะคลินิกแถวนี้ก่อนไหม?” นั่นมันยังมีหน้าหันมามองผมด้วยสายตาแบบนั้นอีก จะเอาให้หน้าผมร้อนจนสุกไปเลยรึไงถึงจะพอ มันแกล้งผมใช่ไหมเนี่ย -///-

    เออ น่า บอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรสิ ..... ถึงแล้วปลุกด้วยละกันผมบอกปัดและหลับตาลง

     

    อย่างน้อยแกล้งหลับมันก็ดีกว่า โดนชานยอลทำท่าทีเป็นห่วงเป็นใยใส่ เพราะอย่างหลังน่ะ มันอาจจำทำให้หน้าผมแดงกว่าลูกมะเขือเทศ แล้วเดี๋ยวก็อดไปเที่ยวกันพอดี ดูก็พอจะรู้แหละนะ ว่าชานยอลต้องคะยั้นคะยอให้ผมไปหาหมอให้ได้แน่ๆ  แต่ผมจะต้องไปหาหมอทำไมล่ะ ในเมื่อผมไม่ได้เป็นอะไร    ที่ผมเป็นอย่างนี้เพราะใครล่ะ ต้นเหตุของอาการบ้าๆแบบนี้กลับไม่รู้อะไรสักอย่างเลย =w= แล้วตอนนั้นนะ ยังมีหน้ามาบอกว่าผมซื่อบื้อ ทั้งๆที่คนที่ซื่อบื้อจริงๆ คือคนที่นั่งหูกางอยู่ตรงที่นั่งคนขับนั่นแหละ

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ..

    .

     

    .

    ไอ้ลูกหมาๆ ตื่นๆ

    หะ..อ่ะ อ่าๆผมลืมตาขึ้นมาเมื่อได้รับแรงจากการเขย่าจากชานยอล นี่ผมเผลอหลับไปจริงๆหรอเนี่ย ที่จริงว่าจะแค่แกล้งหลับ แต่ไปๆมาๆ หลับไปจริงๆซะงั้น ผมนี่มัน .... ก็ไม่แปลกหรอกนะ เมื่อคืนผมนอนมาพอนักนี่

    แกโอเคแล้วใช่ไหม นอนหลับไปตั้งนานแหน่ะ

    อ่าโอเคมากเลยล่ะ  ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ได้เป็นอะไร ฉันแข็งแรงจะตายไป J  ผมว่าแล้วยกยิ้มให้ชานยอล ก่อนที่จะปลดเข็มขัดนิรภัยออก แล้วเปิดประตูเดินลงจากรถ

     

                เอิ่ม...จะว่าไงดี คือผมตื่นขึ้นมาก็ไม่ได้สนใจเลยว่าสถานที่ที่ชานยอลพามานี่...มันคือไหน พอผมก้าวลงจากรถมาเท่านั้นแหละ เหอะๆ =___________________= ‘’ ผมกลับไปนอนต่อที่บ้านดีไหมครับ? ผมแกล้งป่วยแล้วไปหาหมอดีไหม?  ผมน่าจะรู้ตั้งแต่ทีแรกนะ ว่าชานยอลจะพามาที่นี่...ถ้าผมรู้ สาบานให้แม่ใครก็ได้เลยตายอ่ะ ผมไม่มาแน่ๆ T.T

                นี่ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นเลยไอ้ลูกหมา

                เหอะๆ

                วันนี้แหละ ฉันจะทำให้แกชอบสวนสนุกให้ได้เลย =___=’’ ใช่แล้วล่ะ สวนสนุก สนุก สนุก สนุก ??? สนุกกับผีสิ เหอะๆ อันที่จริง มันก็โอเคนะ กับสวนสนุก มันจะโอเคมาก ถ้าผมไม่ได้มีอดีตที่เลวร้ายกับสวนสนุก 

     

                เรื่องมันก็มีแค่ว่า เมื่อสามปีก่อนตอนที่เรียนอยู่เกรด 8 ผมชานยอลและผองเพื่อน  เอิ่ม..ผอง เพื่อน คือจงอินน่ะ ผมใช้คำว่าผองเพื่อนได้ใช่ไหม? ๆ แหะๆ เออๆนั่นแหละ จะอะไรก็ช่างเถอะ เอาเป็นว่า ผม ชานยอลแล้วก็ไอ้ดำกัมจง มาเที่ยวสวนสนุกกันด้วยความคึกคะนอง ด้วยการที่ชานยอลและจงอินรู้ ว่าตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยมาเที่ยวสวนสนุกเลย พวกมันเลยจัดทริปเที่ยวเอาใจผม  แล้ว ทีนี้ด้วยความคะนองเพราะผมไม่เคยมาสวนสนุกไง ผมเลยจะลองของหนักมันชื่ออะไรนะ ทอร์นาโดบ้าบออะไรก็ไม่รู้ ผมไม่อยากจะจำแล้วล่ะ ผมจำได้ลางๆนะ ว่ามันวูบวาบและโหวงๆช่องท้องแปลกๆ รู้สึกเหมือนหัวใจจะวาย เหมือนกำลังจะบินได้และหลุดลอยออกไปชนกับตึกสูงๆที่เห็นแม้แต่แหกปากร้องแบบ คนอื่นๆผมยังร้องออกมาไม่ได้ มันจุกแน่นไปหมด และตามด้วยการที่พี่คนที่คุมเครื่องเล่นต้องหยุดเครื่องเล่นให้ผมลง คงเห็นหน้าตาท่าทางที่กำลังจะตายของผมสินะ   ผมว่ามันน่าอายมากเลยล่ะ แต่รู้ไหมผมไม่มีอารมณ์จะมาอายอะไรใครทั้งนั้นแหละ  จำได้แค่ว่าผมนี่อ้วกแตก แล้วขาพับขาอ่อนเดินไม่ไหวต้องใช้ชานยอลอุ้ม ไปนั่งพักอ่ะ แบบ โห!! แทบจะเป็นลม แล้วหลังจากวันนั้นไม่ว่าใครชวนหรืออะไร ผมก็ไม่คิดจะมาแตะสวนสนุกนรกแตกนี่อีกเลย T__T

     

     

                เอิ่ม...ชานยอล ฉันรู้สึกเวียนๆหัวอ่ะ ไปคลินิคกันเถอะ

                ฉันไม่ได้มีเขางอกออกมานะไอ้ลูกหมา เมื่อกี้แกยังบอกอยู่เลย ว่าสบายดีและแข็งแรงมาก ไม่ต้องเลยเดินเข้าไปเลย

                หะ..ชานยอลลลลลลลลลลลผมว่าพลางเขย่าแขนชานยอลและทำหน้าแบบคนอยากมีชีวิตอยู่

                ไม่ต้องเลยไอ้ลูกหมา ไม่เป็นไรหรอกน่า

     

     

                ตะ..แต่ เออ ไอ้จงอินล่ะ แกไม่ชวนไอ้จงอินมาด้วยแบบนี้ มันรู้เข้ามันงอนตายเลยนะ มันยิ่งดำๆอยู่

                เกี่ยวอะไรกะความดำของมันวะ  ทำไมต้องไปชวนมันด้วยล่ะ ฉัน.....

                ฉันอะไรล่ะ ชานยอล ป่ะ! ไปรับจงอินกัน นะนะ เดี๋ยวมันงอน

                เอ้า ! ไอ้ลูกหมานี่ ทำไมแกต้องไปคิดถึงคนอื่นตอนอยู่กับฉันด้วยวะ ตอนนี้แกอยู่กับฉันไม่ต้องไปคิดถึงคนอื่นหรอกน่า

                แต่ จงอินมันก็เพื่อนเรานะ นะนะ ไปรับมันเถอะไม่รู้แหละ อย่างน้อยไปรับจงอินก็ช่วยยื้อชีวิตผมได้สักพักก็ยังดีแล้วค่อยคิดหาวิธี ชิ่งอีกทีละกัน

                โหย แบคฮยอน แกใจร้ายว่ะ ฉันเสียใจนะเนี่ย

                อะไรของแก หะปาร์คชานยอล

     

                โอ้ย!! ไม่รู้แล้วว้อย  เออ แล้วแกไม่คิดว่ามันจะเสียเวลาบ้างเหรอวะไอ้ลูกหมา ขับรถมาถึงนี่แล้วนะ เปลืองน้ำมันรถนะเว้ย

                หือ ไม่ต้องเลย ไอ้หูกางนี่ ฉันรู้บ้านแกรวยอย่ามายึกยัก ป่ะ ไปรับจงอินผมว่าพลางลากแขนชานยอล

                ไม่ว้อย เอางี้ๆ ฉันจะโทรไปถามมันดีกว่าว่ามันจะมาไหม ถ้ามันจะมาด้วยก็ให้มันขับรถมาเองละกัน ไม่รู้แหละ

                หะ เห้ยผมหมดหนทางจะเถียงกะชานยอลละ โอ้ย ตายๆๆๆๆๆๆๆ ผมต้องตายแน่ๆ T_T

                ชานยอลคุยกับจงอินอยู่พักนึง  จาก นั้นก็วางสายแล้วหันมายิ้มให้ผมอย่างอารมณ์ดี ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนยืนอยู่ปากเหวในเวทีการประกวดเอเอฟยังไงอย่าง นั้นเลย ผมจะต้องตกรอบใช่ไหม???

     

     

                ไอ้จงอินมันไม่มาว่ะ มันบอกว่ามันต้องเฝ้าแมวขาหักอะไรของมันก็ไม่รู้ชานยอลยกยิ้มให้ผมแล้วยักไหล่

                แมวขาหักหรอ... ?” ผมเลิกคิ้วน้อยๆ แมวบ้าอะไรล่ะจะนอนขาหักอยู่ที่โรงพยาบาลคน ว่าแต่แมวตัวนั้นมันเป็นใครวะ ???

                อือ มันว่างั้นนะ ไม่ยักรู้ว่าดำๆอย่างนั้น จะเป็นคนรักสัตว์

                อ่า...งั้นเราเอาไว้รอวันหลังที่จงอินมันว่างค่อยมาไหม?” ผมว่าพลางยิ้มแห้งๆให้ชานยอล

                ไม่ได้เว้ย ต้องวันนี้เท่านั้นชานยอลว่าแล้วเอาแขนหนักๆมาพาดคอผมและออกแรงให้ผมเดินตามร่างสูงของตัวเองไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ 

     

     

                ผมรู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย เมื่อชานยอลไม่ได้พาผมไปเล่นไอ้ทอร์นาโดมหาประลัยอย่างที่กลัว  โอ เคว่าผมรู้สึกดีและสนุกมากเลยล่ะ กับการเล่นเครื่องเล่นต่างๆในสวนสนุก จนตอนนี้ก็ปาไปค่อนวันแล้ว ผมกับชานยอลเล่นเครื่องเล่นไปแทบทั้งสวนสนุกนี่ได้แล้วมั้ง ตั้งแต่รถคุณปู่ยันรถไฟเหาะตีลังกา  ชานยอลคงไม่พาผมไปเล่นทอร์นาโดอะไรนั่นหรอกเนอะ มันคงไม่อยากให้ผมตายก่อนมันหรอกนะ

                คิกๆผมกำลังขำกับท่าทางเหนื่อยล้าของชานยอล อะไรกัน นี่ผมยังเหลือแรงอีกตั้งเยอะเลยนะ

                เหมือนชานยอลจะได้ยินเสียงขำของผม มันหันขวับมามองผมที่เดินตามหลังมันอยู่แทบจะทันทีเลยล่ะ  ผมก็ได้แต่ทำหน้านิ่งๆ แล้วมองประมาณว่า มีอะไรหรอทั้งที่ในใจผมนี่ยิ้มแก้มแทบจะพัง โอ้ย ทุกคนดูสิ  ดูมันทำหน้า ฮ่าๆ จะว่าไป สีหน้าแบบนั้นน่ะ มันโอเคไหมเนี่ย ผมชักจะเป็นห่วงแล้วสิ =w=

     

     

                ฉันสบายดีนะเว้ย อย่ามาทำหน้าแบบนั้นน่า J ”  ชานยอลว่าพลางปาดเหงื่อเม็ดใสใสบนใบหน้าออก แล้วยิ้มให้ผม กว้างซะจนเห็นฟันทั้งปากมันอ่ะ

                อ่ะ...แน่ ใจนะ อือๆ แล้วมาบอกฉันทำไม ผมเลิกคิ้วให้ชานยอลแล้วก็มองไปทางอื่นอย่างไม่ได้สนใจ ความจริงผมรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกเลย ที่อย่างน้อยมันก็ยังมีแรงยิ้มให้ผม ฮ่า ๆ

                คิดว่าแกอยากรู้ซะอีก น้อยใจว่ะ L

                โถๆ ไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะ  แกไม่เป็นไรจริงๆนะผมว่าเมื่อเห็นหน้าบึ้งๆของชานยอล พลันสมองก็คิดอะไรได้อีกแล้วล่ะ ฮ่าๆ

                ฉัน สบายดีมากก ก ก ก ว่าแต่แกเถอะ เป็นไง ไหวไหมผมไม่ตอบ แต่เปลี่ยนเป็นส่งยิ้มให้ชานยอลแทน ชานยอลหันกลับไปมองทางข้างหน้า และไม่ได้ถามอะไรผมอีก

     

     

                เห้ยชานยอล แกบอกว่าแกสบายดีใช่ไหม!!!” ผมว่าแล้ว วิ่งไปกระโดดเกาะหลังชานยอล ไม่แรงมากหรอก แต่ก็ทำให้ชานยอลที่ไม่ทันตั้งตัวเกือบจะล้มทิ่มไปข้างหน้า ดีนะที่ขายาวๆของชานยอลไม่พับไปซะก่อน ไม่งั้นวันนี้ศพผมกับมันคงไม่หล่อแน่ๆ

                เห้ย!! ไอ้ลูกหมาเล่นอะไร ลงไปนะชานยอลว่าพลางพยายามแกะมือผมออกจากการกอดคอของตัวเอง

                ก็ ฉันเหนื่อยนี่ แทบไม่มีแรงเดินแล้ว อีกอย่างแกบอกว่าแกสบายดีนี่ ให้ฉันขี่หลังนะ ฉันไม่มีแรงเดินแล้วผมบอกเบาๆ พลางแกล้งทำเสียงอ่อนแรง

                โห แต่แกจะสบายไปละนะไอ้ลูกหมาชานยอลว่าแต่ก็ยังเดินต่อไป ไม่แกะมือของผมอีกแล้ว ชานยอลยอมให้ผมขี่หลังแล้วสินะ ฮี่ๆ

                เอาน่า ก็ฉันเหนื่อยนี่นาผมว่าแล้วก็อมยิ้มเล็กๆ รู้สึกดีจนอยากจะร้องตะโกนออกมาเลยล่ะ แผ่นหลังของชานยอล >O<  

                แต่ฉันว่า แกตัวเบาไปละนะไอ้ลูกหมา สงสัยต้องอะไรมาให้แกกินเยอะๆละ

                หือ พูดไปเนอะ ฉันอ้วนจะตายอยู่แล้วยังมาบอกว่าตัวเบา ....ว่าแต่ ฉันควรจะกินเยอะๆจริงหรอชานยอลผมฉีกยิ้มออกมา แกล้งชานยอลมันสนุกจริงๆนะ

                อือใช่ไง แกตัวเบาจริงๆนะ ต้องกินเยอะๆนะรู้ไหม  หึหึหึ ชานยอล ไอ้หูกางเอ้ย ไม่รู้อะไรซะแล้ว

     

     

                งั้น..ชาน ยอล พาไปซื้อไอติมตรงนั้นหน่อยสิ กินไอติมนี่น้ำหนักน่าจะขึ้นเร็วนะ ต้องหาอะไรกินแล้วล่ะ จะได้ไม่ผอมแห้งแบบนี้ ผมว่าแล้วชี้ไปทางร้านไอศกรีมที่อยู่ห่างจากตรงนี้ไกลพอสมควร  ชานยอลไม่ได้ว่าอะไรยกตัวผมที่เริ่มจะไหลลงไปขึ้นมาแล้วคล้องขาผมไว้แน่นกว่าเดิม แล้วเดินไปอย่างว่าง่าย

                ชานยอล ป๊อปคอร์นตรงนั้นน่าอร่อยจัง

                ชานยอลลลล ไส้กรอกร้านนั้นหอมมาถึงนี่เลยดูสิ

                ชานยอลฉันอยากกินน้ำปั่นร้านนั้น

                ชานยอลฉันอยากกินเป๊ปซี่

                ชานยอ..

                พอเลยๆ แกจะกินอะไรนักหนา ตกลงแกหายเหนื่อยรึยังเนี่ย

                เอ้า ก็แกบอกเองนะว่าไม่อยากให้ฉันตัวเบาแบบนี้  เหนื่อยบ้าอะไรฉันไม่ได้เหนื่อยตั้งแต่แรกแล้ว แกล้งแกเล่นไปงั้นแหละ ปล่อยฉันลงได้ละ ฮ่าๆผมว่าแล้วยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี 

     

     

                แกว่าไงนะ โห่ ไอ้ลูกหมาตัวนี้ นี่ฉันเหนื่อยนะเว้ยชานยอลว่าแล้วส่ายหัวไปมา

                ฮ่าๆ ใครใช้ให้แกเชื่อล่ะ ไอ้หูกางเอ้ย มาๆ จะลงแล้ว

                ไม่ว้อย ขึ้นมาเองได้ก็ลงไปให้ได้ดิชานยอลว่าแล้วจับผมไว้แน่นกว่าเดิม

                เหอะๆ ฉันไม่ลงก็ได้ ฉันไม่ได้เสียอะไรสักหน่อย อยู่แบบนี้ฉันได้เต็มๆผมว่าแล้วโอบรอบคอชานยอลไว้แน่นกว่าเดิม

                อ๋อ หรอ หึหึ แล้วแกจะเสียใจแบคฮยอน ที่แกล้งคนอย่างฉัน ชานยอลว่าด้วยเสียงเย็นๆ ก่อนจะเดินตรงไปทาง... ทาง... เอิ่ม... ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก รู้สึกว่าเม็ดเหงื่อใสใส เริ่มผุดขึ้นมาตามใบหน้าของตัวเอง

     

     

     

                ชะ..ชานยอล ไม่เล่นแบบนี้นะเว้ยผมว่าแล้วเอามือทุบหลังชานยอลเบาๆ

                ใคร ว่าฉันเล่นวะ ฉันเอาจริง หึหึ ที่จริงฉันไม่คิดว่าตัวเองจะต้องทำกับแกแบบนี้นะผมรู้สึกขนลุกวาบ เมื่อชานยอลเดินเข้าไปใกล้ทอร์นาโดมหาประลัยมากขึ้นทุกที

                ชาน ยอลลลลลล ไม่เอาปล่อยฉันลง ฉันไม่ไป แกจะเล่นก็เล่นไปคนเดียว ฉันไม่อาวววว ชานยอลไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ขายาวๆก้าวไปแปป เดียวก็ถึงทอร์นาโดมหาประลัย แล้วให้ผมตายสามรอบสิ T__T ตอนบ่ายๆแบบนี้ คนบางลงไปเยอะ พอเดินมาถึงก็ไม่ต้องต่อแถวอะไรนานมากมายเลย  มาปุ๊บได้ขึ้นเครื่องเล่นปั๊บ โถ่!!! ไม่ได้มีเวลาให้ผมทำใจเลยนะเนี่ย ผมยังไม่ได้บอกรักแม่เลยนะวันนี้ อร๊ากก ไม่นะ

     

     

                ชานยอล...  ผม เรียกชานยอลเสียงอ่อนเมื่อชานยอลจัดการวางผมลงกับเครื่องเล่น รัดเข็มขัดให้ผมอย่างเรียบร้อยแล้วจึงนั่งลงข้างๆกับผม พอจัดการกับเข็มขัดนิรภัยของตัวเองเสร็จแล้วก็หันมามองหน้าซีดๆของผม

                โห มันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นหรอกน่า ไอ้ลูกหมา

                แกจำครั้งที่แล้วไม่ได้หรอวะผมบอกพร้อมกับทำหน้าอยากจะร้องไห้

                เอา น่า ไม่มีอะไรหรอก ไม่เป็นไร ฉันอยู่ตรงนี้ข้างๆแกนะ ไม่ปล่อยให้แกเป็นอะไรแน่ๆ ชานยอลว่าแล้ววางมือหนาของตัวเองบนหัวผมก่อนจะลูบหัวผม สอดมือหนาของตัวเองมากุมมือของผมไว้แน่น บีบมันเบาๆ เหมือนต้องการให้ผมอุ่นใจ

                อ่า.... ผมพยักหน้าเบาๆ สูดหายใจเข้าปอดลึกๆ ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าน้ำเสียงของชานยอล คำพูดของชานยอล ความอบอุ่นจากมือหน้าของชานยอล ทุกๆอย่างของชานยอล  มันทำให้ผมอุ่นใจขึ้นจริงๆ

     

                ตอน นี้เครื่องเล่นทอร์นาโดมหาประลัยเริ่มทำงานและทำหน้าที่ของมันอย่างสุดความ สามารถ ผมรู้สึกโหวงแบบตอนนั้นเหมือนเดิมเลย ได้แต่หลับตา เมื่อความสูงเริ่มเพิ่มขึ้น

                อย่าหลับตาสิ ไอ้ลูกหมาชานยอลตะโกนและบีบมือผมอย่างให้กำลังใจ

                ลืมตาเหรอ มันน่ากลัวนะผมกำมือของชานยอลไว้แน่ก่อนจะลืมตาอย่างกลัวๆกล้า ลืมตาแล้วรู้สึกเหมือนจะกระเด็นออกไปชนตึกได้เลย .

     

     

                ไม่เป็นไรนะ ฉันอยู่ตรงนี้ข้างๆแกไงไอ้ลูกหมา รู้ไว้นะ!! ว่าตราบใดที่แกมีฉันอยู่ข้างๆ ฉันจะไม่ยอมให้แกเป็นอะไร ถึงจะเป็นจริงๆ ฉันก็จะตายไปกับแกคำพูดนั่นมันทำให้ผมใจเต้นแรง แรงกว่าตอนที่ตื่นเต้นและกลัวความสูงและความหวือหวาของทอร์นาโดซะอีก ผมหันไปยิ้มให้ชานยอลที่มองผมอยู่ก่อนแล้ว กำมือชานยอลแน่นๆอีกครั้ง ก่อนที่จะหันไปมองภาพข้างหน้า โดยที่ไม่มีความกลัวใดใด หลงเหลืออยู่แม้แต่น้อย คงเพราะความอบอุ่นจากคนข้างๆผมคนนี้แหละนะ 

                อย่า เงียบด้วย แหกปากเลย ฉันว่าแกซึมๆไปนะช่วงนี้ มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า แหกปากแล้วใช้โอกาสนี้ปลดปล่อยมันออกมาให้หมดเลย ชานยอลตะโกนแข่งกับเสียงต่างๆนานา

                ผม มองภาพข้างหน้าอย่างเต็มตา ท้องฟ้าสีฟ้าสดใสแบบที่ผมชอบ มองไปเห็นตึกสูงอย่างชัดเจน จะว่าไปมันก็สวยดีเหมือนกันนะ ผมชักจะสนุกกับไอ้ทอร์นาโดนี่ซะแล้วสิ J แค่มีปาร์คชานยอล ไอ้หูกางอยู่ข้างๆ แค่มีมือสองมือที่กุมกันไว้แบบนี้ ต่อให้จะต้องตายจริงๆ ผมก็ไม่กลัวแล้วล่ะ

     

     

     

                อร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  ทุกๆ เรื่องที่ค้างคาในใจ ทุกๆเรื่องที่ผมอึดอัดใจ ชานยอลรู้สินะ ว่าผมมีเรื่องพวกนั้นอยู่ในใจ แต่ชานยอลคนซื่อบื้อก็ยังมองไม่ออกอยู่ดีว่าที่เป็นแบบนี้ เพราะใคร   เพราะ ฉันรักแกไงไอ้หูกาง แต่แกก็พูดกรอกหูฉันอยู่ทุกวัน ว่าเราเป็นเพื่อนกันแกไม่อยากให้ความเป็นเพื่อนของเราหายไป แล้วฉันจะต้องทำยังไงวะ???  เอา เถอะ.... ในเมื่อแกอยากให้เราอยู่แบบนี้ เป็นเพื่อนกันแบบนี้ ฉันก็จะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไป จะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของแกแบบนี้ต่อไป...

                อร๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาก” ผมจะปล่อยเรื่องอึดอัดไปให้หมด ทำยังไงดี ผมอยากจะตะโกนดังๆเลยว่าผมรักชานยอล ถ้าไม่ติดว่ากลัวมันจะได้ยิน แค่อยากจะพูดคำคำนี้ คำที่ผมไม่มีสิทธ์ที่จะพูด แค่อยากจะตะโกนมันดังๆ ผมแค่คิด แค่คิดน่ะว่าสักวัน ผมอยากจะตะโกนดังๆให้ชานยอลฟัง ฮ่าๆ

     

     

     

                “อร๊า กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกเสียงทุ้มของชานยอลก็ตะโกนแข่งกันกับผมเช่นกัน ชานยอลเองก็คงมีเรื่องที่อึดอัดใจอยู่สินะ โอเคแล้วล่ะ แค่ปลดปล่อยมันไป แล้วผมจะพยายามทำตัวให้ปกติกับชานยอลที่สุด J ผมยิ้มเล็กๆเมื่อหันไปไป มองเสี้ยวหน้าของคนตัวสูงแล้วเจ้าของใบหน้าก็หันมาทางผมพอดี บอกรักชานยอลผ่านสายตามันคงไม่รู้หรอก แค่สามวิเท่านั้นนะ! ที่ผมสื่อความหมายทางสายตาไปให้ชานยอล(และแน่นอน เอ๋อและซื่อบื้อแบบนั้นไม่มีทางรู้หรอก) ก่อนที่จะหันไปมองภาพของท้องฟ้าเบื้องหน้า

     

     

     

     

                ฮ่าๆ สนุกใช่ไหมล่ะ ไอ้ลูกหมา

                อือ โอ้ย โล่งชิบเป๋งเลยว่ะ >O< ผมยิ้มและหัวเราะไปพร้อมกับชานยอล เมื่อคิดถึงเสียงแหกปากที่แสนโหยหวนของคนที่นั่งข้างๆ โดยไม่ได้คิดหรอกว่าเสียงของตัวเองมันเป็นแบบไหน

                อีกรอบไหมล่ะ?”

                ไปคนเดียวเหอะ ไม่มีอะไรจะให้ปลดปล่อยละนี่ คอจะพังแล้ว

                แต่หน้าแกซีดๆอยู่นะไอ้ลูกหมา ไหวแน่เร้อออ

                โห ไม่เป็นไรเว้ย  ไม่ต้องมาอำซะให้ยาก

                เกลียดคนรู้ทันว่ะ แกล้งไม่สนุกเลย

                หือ อยากสนุกก็ไม่บอก จะแกล้งโง่ให้ ห๊ะ!!? นี่ฉันหน้าซีดขนาดนั้นเลยหรอ ผมว่าพลางทำท่าทางตกใจแบบโอเว่อร์ ส่งผลให้คนตรงหน้าระบายยิ้มออกมาพร้อมกับเอามือหนาๆนั่นขยี้กลุ่มผมของผม เบาๆ

     

     

     

                คือแกอาจจะไม่รู้ และก็ไม่สงสัยก็ได้นะเว้ยไอ้ลูกหมา ว่าฉันพาแกมาเที่ยวทำไม

                หืม?...” ก็จริงนะ ผมไม่ได้สงสัยเลยว่าชานยอลที่อยู่ๆก็พาผมมาเที่ยวมีเหตุผลอะไร ไม่สิ! ไม่ใช่ว่าอยากจะแกล้งผมหรอกหรอ?

                คือ ... ถึงแกจะไม่รู้สึกอะไรนะเว้ย แต่แบบ ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีกับเรื่องเมื่อวานเลยว่ะ

                เมื่อวาน.... เรื่องที่ร้านไอศกรีมอ่ะนะ?” ผมว่าแล้วเลิกคิ้วอย่างงงๆ และต้องการคำอธิบายที่มากกว่านี้

                ก็ ที่ฉันขอให้แกกลับไปก่อนไง สีหน้าแกมันดูไม่ค่อยโอเคเลยนะเว้ย ไม่รู้ฉันคิดไปเองหรือเปล่าชานยอลสังเกตด้วยหรอว่าผมกำลังทำหน้าแบบไหน ชานยอลสนใจด้วยสินะ

                “........”

     

     

                ขอโทษนะ.......แบคฮยอน

     

                “.............”

                “............”

                ฉัน ไม่เป็นไรเว้ย แกคิดอะไรมากมายวะ ไอ้หูกางนี่ ผมกระตุกยิ้มบางๆที่มุมปากอย่างจะบอกว่าผมไม่ได้เป็นไรมากมายสักหน่อย ทั้งๆที่เรื่องเมื่อวานมันกวนใจผมแทบบ้า ผมคิดว่าผมปลดปล่อยมันออกไปกับการตะโกนเมื่อครู่หมดแล้วซะอีก แต่พอมีคนมาพูดถึงมัน มันทำให้ทุกความรู้สึกในตอนนั้นมันไหลกลับเข้ามาอีกแล้วล่ะ แล้วยิ่งคนที่พูดคือชานยอล มันทำให้ผมรู้สึกว่ามีก้อนอะไรแข็งๆมากองอยู่ตรงหน้าอก

                อึดอัด

                ก็นะ ไม่เป็นไรจริงนะเว้ย แล้วอีกอย่างเรื่องอี้ชิงน่ะ ฉันจัดการแล้วนะ ต่อไปนี้อี้ชิงจะเลิกยุ่งกับฉันแล้วล่ะ

                อ่า...ก็ดี แล้วแกจะมาบอกฉันทำไม

                อ่าว ก็มีเพื่อนเป็นหมาอยู่ตรงนี้คนเดียว จะให้ฉันไปบอกเพื่อนที่เป็นมนุษย์ตัวดำอย่างไอ้จงอินหรือไงเล่า เอาเป็นว่าผมงงนิดหน่อยกับประโยคบ้าๆนี่ แต่แปลกที่มันทำให้รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าหมาๆของผมอย่างอดไม่ได้

                ต่อ ไปนี้จะอยู่กับแกละว่ะไอ้ลูกหมา ไม่จีบใครไปทั่วละ เหนื่อยว่ะชานยอลว่าแล้วก็พาดแขนแกร่งที่รอบคอของผมอย่างที่ชอบทำบ่อยๆ จนผมชินแล้วล่ะ

                หือ พูดไปเถอะ แกทำไม่ได้หรอกผมว่าแล้วยู่ปากใส่ชานยอล

                จริงๆนะเว้ย จะไม่จีบไปทั่วแล้วจริงๆ ฉันแค่อยากจะคบกับใครสักคนด้วยความรักแบบที่แกพูดเมื่อวันนั้นไง

                อือ แล้วฉันจะคอยดู

                พูดจริงนะเนี่ย ตอนนี้แค่มีแกอยู่กับฉันมันก็ดีที่สุดในโลกละ  ต่อ ให้มีจางอี้ชิงอีกกี่สิบคน ก็เทียบไอ้ลูกหมาตรงนี้ไม่ได้หรอกน่า ... เพราะฉะนั้น อยู่ข้างๆฉันแบบนี้ต่อไปนะ เพราะฉันก็จะยืนอยู่ข้างๆแกแบบนี้ตลอดไปเหมือนกัน.....ไอ้ลูกหมาเพื่อนรัก

     

     

                อาจจะดูซึ้งมากใช่ไหมล่ะ ผมจะดีใจมากกว่านี้อีกจริงๆนะ ถ้าไม่มีคำคำนั้น...... เพื่อนรัก....
     


     

    TBC

    ★★★★


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×