คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : [★ Fic exo ★ ChanBaek] Ch 16 : Be With U
Love of a friend
Chapter 16:
Be With You
*ชานแบคจะได้กันแล้ววววววววววววววว
♥ Jang Wooyoung - Be With You
★★★★
I just wanna love you know that I want you
ผมรักคุณนะ..รู้ใช่ไหมว่าผมต้องการคุณ
니 곁에 있을 수 있게 (come to me oh)
ผมจะอยู่ข้างคุณแบบนี้ (เขยิบเข้ามาหาผมสิ)
★★★★
:: Byun BaekHyun ::
ผมได้แต่มองใบหูกางๆของชานยอลที่โผล่พ้นกลุ่มผมสีดำน่าสัมผัสออกมาด้วยดวงตาที่ไหววูบ ความกลัวเริ่มกัดกินเข้ามาในหัวใจผมอีกแล้ว
บรรยากาศแบบนี้ผมบอกได้เลยว่าไม่ชอบเลย.. เกลียดเลยด้วยซ้ำ
ชานยอลทำเหมือนกับผมเป็นอากาศ ไม่พูดไม่จา พอกลับเข้ามาเรียนก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะเรียน และหันหน้าเข้าผนังไปแล้ว
เพื่อนในห้องหลายๆคนมองมาด้วย สายตาอยากรู้อยากเห็น บางคนก็ยิ้มให้ผมน้อยๆแล้วทำหน้าเชิงจะถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ตอนนี้เซฮุนกับจงอินหายไปไหนก็ไม่รู้ไม่ยอมมาขึ้นเรียน..
เอาเป็นว่าถ้าผมรู้ว่าต้องมาเจอกับเดดแอร์แบบนี้นะ.. ผมโดดเรียนดีกว่า
บรรยากาศในช่วงครึ่งหลังของวัน ต่างจากเมื่อเช้าอย่างลิบลับ.. ผมต้องทำยังไงถึงจะได้ชานยอลคนเดิมกลับคืนมา ผมต้องทำยังไง ถ้าทำได้ผมจะย้อนเวลาจะไม่ทำตัวงี่เง่าแบบนั้น..
แต่ไม่ทันแล้ว ชานยอลเฉยชากับผมจนใจหาย ชานยอลไม่มองหน้า ชานยอลไม่พูดไม่จา
....
เพื่อนๆในห้องทยอยกันออกไปหมด แล้ว ชานยอลก็เช่นกัน ร่างสูงโปร่งของชานยอลเดินนำหน้าเพื่อนคนอื่นไปไกล ผมได้แต่ยืนมองแผ่นหลังกว้างอยู่อย่างนั้น
ทั้งๆที่ปกติจะเป็นชานยอลที่ เดินอยู่ข้างๆ ทั้งๆที่ตอนนี้ควรจะมีมือของชานยอลกุมมือของผมเอาไว้ แล้วเดินไปด้วยกันพร้อมกับเสียงหัวเราะของร่างสูงกับใบหน้าขึ้นสีระเรื่อของ ผมเพราะชานยอลพูดจาน่ารักๆ ทั้งๆ ที่มันจะต้องมีตอนที่ผมมองชานยอลด้วยสายตาค้อนๆพร้อมกับฟาดมือลงไปที่แขน แข็งแกร่งแล้วชานยอลร้องโอดโอยส่งยิ้มกว้างมาให้ผม ตามด้วยก่อนจะก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย เพราะชานยอลขโมยหอมแก้มของผม
แต่ไม่.. แบบนี้มันไม่ใช่แล้วนะ ผมทำมันพังหมดแล้ว
“เอาล่ะเด็กๆ อาทิตย์นี้ก็เหมือนเดิมอาจารย์จะให้พวกเราหัดส่งลูกบอลเหมือนเดิมกับคู่ที่ อาจารย์จัดไว้ให้ แล้วอาทิตย์หน้าเราจะมาสอบเก็บคะแนนกัน” เสียงของอาจารย์ชาที่พูดอยู่ไม่ได้เข้าไปในสมองของผมสักนิด ผมนั่งมองเสี้ยวหน้าของชานยอลที่กำลังยกยิ้มให้เพื่อนคนหนึ่งที่เข้ามาคุย เล่นด้วย .. “เอาล่ะอาจารย์จะปล่อยให้ซ้อมกันเอง ดูแลตัวเองได้นะ อาจารย์ขอตัวก่อนอาจารย์มีประชุม” เสียงเฮของเพื่อนๆในห้องดังลั่นไม่ค่อยแสดงออกถึงความดีใจเลยที่อาจารย์ไม่อยู่
แต่ผมก็ยังคงสนใจแค่ชานยอล ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกับเพื่อนในห้องที่กำลังดีใจอยู่สักนิด
...
ผมยืนถือลูกบอลมองชานยอลที่ยัง คงนั่งอยู่กับที่.. ไม่มองมาที่ผมสักนิด จนคนถูกมองรู้ตัวและมองมาที่ผมช้าๆ ด้วยใบหน้าที่นิ่งเสียจนผมไม่อาจคาดเดาความรู้สึกของคนตัวสูง
ไม่ว่าจะทำอะไรชานยอลก็ยังคงดู ดีในสายตาของผม ชานยอลหยัดลุกขึ้นเต็มความสูงเดินเข้าไปหาจินยองกับซานดึลที่กำลังส่งบอลกัน อยู่ ก่อนจะพูดอะไรกับทั้งสองคนนั้นนิดหน่อย แล้วจินยองก็ชี้นิ้วมาที่ผม ก่อนจะเดินเข้ามาแล้วพูดสิ่งที่ทำให้ผมอยากจะร้องไห้
“ชานยอล บอกให้ฉันมาคู่กับนายแทนหมอนั่นน่ะ”
...
ผมพยักหน้าให้จินยอง ว่าผมรับรู้มันแล้ว ก่อนจะถอนหายใจระบายความอึกอัดจนแทบอยากจะกรีดร้องออกมาให้หมดสิ้น.. แต่มันก็ไม่ช่วยอะไร ผมรู้สึกโล่งได้แปปเดียวความรู้สึกหนักอึ้งและจุกแถวๆหน้าอกมันก็กลับมา อีก.. และไม่ได้น้อยลงไปกว่าเดิมเลยสักนิด
“จะเริ่มแล้วนะแบคฮยอน” เสียงจิยองดังเข้ามาในโสตประสาทของผม แต่ก็ไม่ได้เข้าไปผ่านการประมวลผลในสมองเลยสักนิด สายตาของผมยังคงจับจ้องไปที่ชานยอลที่ดูมีความสุขดีกับการส่งบอลกับซานดึล สายตาแห่งความสุขที่มักจะมองมาที่ผมเสมอ รอยยิ้มกว้างๆที่มีให้ผมตลอด
ผมควรทำยังไง ผมต้องทำอะไรถึงจะได้มันกลับมา ..
“ก็แค่อยากให้เราเป็นเหมือนเดิม..”
ปั๊ก!!!
“แบคฮยอน!!!” ผมค่อยๆล้มลงช้าๆจากแรงกระแทกของลูกบอลกับใบหน้าของผม
“ฉันขอโทษ แบคฮยอนอ่า นายเหม่ออะไรอยู่” เสียงใสใสของจินยองดังขึ้นพร้อมกับคำขอโทษแกมต่อว่า ก่อนที่ผมจะปล่อยให้น้ำตาใหลออกมาช้าๆแล้วหลับตาลง
...
ภาพความทรงจำสุดท้ายยังคงเป็น ชานยอลที่ส่งรอยยิ้มมา.. รู้ไหมแค่นี้ผมก็มีความสุขกับรอยยิ้มของชานยอลในความทรงจำ แต่มันโหดร้ายขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผมอาจจะไม่ได้รับมันอีกแล้ว
ผม ตื่นมาก็เจอกับอาจารย์ประจำห้องพยาบาลและก็ห้องสีขาวสะอาดที่ผมเริ่มคุ้นชิน ช่วงนี้ผมเข้ามาบ่อยนี่นา.. อาจารย์ห้องพยาบาลบอกว่าผมโดนบอลอัดจนสลบไป ถามไถ่อาการของผมนิดหน่อย ก่อนจะบอกให้ผมกลับบ้านดีดี ผมมองหน้าอาจารย์ด้วยความสงสัยนิดนึง แล้วก็ได้รบคำตอบออกมาทั้งๆที่ผมยังไม่ได้เอ่ยถาม
“ชานยอลพาเธอมาส่ง แล้วก็กลับไปแล้วล่ะ”
★★★★
“ไม่เป็นไรนะ แบคฮยอน อย่าร้องไห้สิ” ผมเงยหน้ามองใบหน้าเจ้าเสียงทุ้มต่ำที่เปล่งภาษาเกาหลีสำเนียงแปลกๆออกมาด้วยดวงตาที่พร่ามัว
“..ฉัน.. ทำไมฉันงี่เง่าแบบนี้ล่ะจื่อเทา” ผมเบะปากออกมาเมื่อนึกถึงท่าทีเฉยชาของชานยอล โกรธผมใช่ไหม.. สมควรแล้วแหละ
“เล่ามาเดี๋ยวนี้เลย!” ดวงตาคล้ำๆของจื่อเทาถลึงออกมานิดหน่อยราวกับจะบังคับและขู่ให้ผมบอก แต่สัมผัสตอนที่จื่อเทาใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดน้ำตาให้ผมอย่างอ่อนโยนมันทำให้ ผมไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิด
แต่ได้ระบายให้ใครสักคนฟังก็คงจะดีเหมือนกัน..
..
.
....
“นายไม่รู้จริงๆหรอแบคฮยอน ว่าควรทำยังไง” จื่อเทาขยี้กลุ่มผมของผมเบาๆ ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างแล้วมองผมที่กำลังจะร้องไห้ขึ้นมาอีกระลอกด้วยสายตาล้อ เลียน
“อะไร อย่ามาทำหน้าแบบนั้นนะจื่อเทา!!!” ผมสูดน้ำมูกที่กำลังจะไหลออกมาจนเกิดเสียง พร้อมกับต่อว่าคนที่ทำหน้าแบบนั้นทั้งๆที่ผมกำลังร้องไห้
“ฉันไม่ได้โง่นะ .. แต่ทำไมพอเป็นเรื่องของชานยอลทีไร ฉันกลับไม่รู้ว่าฉันควรเดินไปทางไหน.. ฉันไม่กล้าที่จะก้าวไปทางไหนเลย”
ถ้าผมถาม..
ถ้าผมพูดตรงๆ
ถ้าผม..
แต่
ผมไม่กล้าที่จะทำมัน..
“นายรู้ใช่ไหมว่านายผิด”
ผมพยักหน้าหงึกๆ ขบริมฝีปากล่างของตัวเองเอาไว้ก่อนที่จำกระพริบตาไล่น้ำไร้สีที่ค้างอยู่รอบดวงตา ให้มันตกลงไปที่พื้น
“ถ้านายผิด ก็แค่ไปขอโทษ..” จื่อเทาช้อนตาขึ้นมองผมที่กำลังตั้งใจมองใบหน้าของตัวเอง ก่อนจะทำสีหน้าจริงจังส่งมาที่ผม
“แล้วถ้าชานยอลยังเย็นชากับฉันล่ะ ถ้าชานยอลไม่สนใจคำขอโทษของฉัน..”
“เหตุผลไง.. นายก็บอกเหตุผลไปสิ”
เหตุผล.. หรอ?
“บอกชานยอลไปเรื่องความรู้สึกและสิ่งที่นายกำลังกลัวอยู่ตอนนี้ ถ้าชานยอลรักนายจริง มันต้องเข้าใจนาย”
“แต่..” ผมขยับปากกำลังจะพูด แต่ก็ถูกจื่อเทาสวนขึ้นมา
“แต่ถ้ามันไม่ยอมเข้าใจ แล้วยังทำแบบนี้กับนายอยู่อีก .. นายควรจะคิดทบทวนเรื่องมันใหม่แล้วล่ะ”
ผมพรูลมหายใจออกมาทางปากอย่าง คิดหนัก ก่อนจะมองไปเห็นรอยยิ้มของจื่อเทาที่ส่งมาให้พร้อมกับกำลังใจ ส่งผ่านสายตาที่บอกผมว่าอย่าไปกลัว ถ้าผมเจ็บจะยังมีเค้าคนนี้ที่คอยปลอบใจ
ระยะเวลาที่รู้จักกันมันไม่ได้สำคัญอะไรนักหรอก.. แต่คำว่า มิตรภาพ ที่จื่อเทาหยิบยื่นมาให้ .. ต่างหากคือสิ่งสำคัญ
....
“ให้ไปส่งไหมแบคฮยอน” แบคฮยอนส่งรอยยิ้มเล็กๆมาให้พรอ้มกับส่ายหน้าเบาๆ
“ไม่เป็นไรหรอก..”
“อ่า โชคดีนะแบคฮยอน” จื่อเทามองตามแผ่นหลังเล็กนั่นอย่างไม่วางตา ก่อนที่แบคฮยอนจะหันมาอีกครั้งกับรอยยิ้มกว้างจนตาเรียวเล็กหยีแทบจะปิด ทำให้คนมองหัวใจกระตุก
“ขอบใจนะ จื่อเทา!!!” แบคฮยอนตะโกนมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหันหลังกลับไปแล้วเดินไปข้างหน้า
.
.
..
จื่อเทายังคงยืนอยู่ตรงนั้น ..
มองคนน่ารักที่ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ มองทั้งๆที่ตอนนี้แบคฮยอนเดินไปไกลแล้ว ไกลจนจื่อเทาไม่สามารถเอื้อมไปถึงได้เลย
แม้จะอยากให้ชานยอลไม่เข้าใจแบ คฮยอนมากแค่ไหน แม้จะอยากให้แบคฮยอนตัดใจจากชานยอลสักเท่าไร แต่พอนึกถึงใบหน้าขาวเนียน ริมฝีปากสีสดใส จมูกเล็กที่โด่งรั้น น้ำเสียงหวานน่ารักๆของแบคฮยอน .. ก็รู้ดีเลยว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ใครจะทิ้งคนน่ารักเเบบนั้นได้ลงคอ..
เเล้วยิ่งเป็นชานยอล คนที่เเบคฮยอนยกหัวใจให้ตัวเองทั้งใจขนาดนั้น
ถ้าชานยอลกล้าทิ้งแบคฮยอนก็โง่เต็มทน ..
★★★★
조금씩 떨려오는 이 순간을 난 (waited for a long time)
ช่วงเวลานี้ที่ทำให้ว้าวุ่นอยู่นิดๆนั้น ผม.... ( ผมรอมันมาแสนนาน )
얼마나 기다렸는지 모르잖아 (I know everything you want it too)
รอคอยมาแสนนานแล้ว (ผมรู้หมดแหละว่าคุณก็ต้องการเหมือนกัน)
★★★★
ผมชั่งใจมองบ้านเดี่ยวสองชั้นสีขาวขนาดปานกลางที่ถูกกั้นด้วยรั้วสีฟ้าสดใส อยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจกดกริ่งเบาๆสองครั้ง ไม่นานร่างเพรียวที่มีใบหน้าใกล้เคียงกันกับชานยอลจะปรากฏออกมาพร้อมกับรอย ยิ้มกว้าง..
ยิ่งตอนยิ้มพี่ยูรา พี่สาวของชานยอลยิ่งเหมือนชานยอล.. เหมือนซะจนผมคิดถึงรอยยิ้มแบบนี้ของชานยอล คิดถึงตอนชานยอลยิ้มมาให้
“มาหาชานยอลหรอแบคฮยอน” พี่ยูราตรงเข้ามากอดผมก่อนจะหยิกแก้มผมแล้วทำหน้าแบบว่าหมั่นเขี้ยว
“ครับ พี่ยูรา” ผมทำได้แค่ส่งยิ้มเล็กๆให้พี่ยูรา ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ที่ผมเตรียมใจมาผมยังยิ้มอยู่ได้ แต่ตอนนี้ความกลัวที่ผมมักจะมีมันก็กลับมาอีกแล้ว
“พี่คิดถึงแบคฮยอนนะเนี่ย ไม่ได้มาบ้านนี้นานเท่าไหร่แล้วนะเรา”พี่ยูรากดผมลงกับโซฟาสีครีมก่อนจะทิ้งตัวลงมาเหมือนกัน
“ผมก็คิดถึงพี่ยูรากับคุณป้าเหมือนกันครับ”
“แล้วคิดถึงใครมากกว่ากันเนี่ย” พี่ยูราทำเสียงล้อเลียนผมนิดหน่อยตามประสาพี่สาวที่ใจดี “แต่วันนี้แม่ไม่อยู่แบคฮยอนคงไม่ได้เจอแล้วล่ะ” ผมยู่ปากเล็กๆให้พี่ยูราอย่างอดจะเสียดายไม่ได้ นานแล้วจริงๆที่ผมไม่ได้มาบ้านของชานยอล
“ฮ่าๆ พี่รู้นะว่าเราอยากกินกับข้าวฝีมือแม่ 555 ไว้วันหลังมา บอก่อนล่วงหน้าสิ รับรองแม่เคลียร์คิวรอแบคฮยอนแน่ๆ” พี่ยูรานี่รู้ใจผมดีจริงๆ ทำไมน้องชายของพี่ยูราไม่รู้ใจผมแบบนี้มั่งนะ
“ไม่เป็นไรครับ .. ว่าแต่ ชานยอล..”
“อ๋อ พี่ก็มัวแต่ชวนเราคุยลืมไปว่าเรามาหาชานยอล อยากเจอชานยอลสินะ พี่น้อยใจนะเนี่ย!” ผมทำหน้าเหวอเล็กน้อยก่อนที่พี่ยูราจะหลุดขำออกมาพร้อมกับขยี้หัวของผมเบาๆ “ฮ่าๆ อย่าทำหน้าเบเบนั้นสิพี่ล้อเล่น แบคฮยอนนี่น่ารักจริงๆเลย” พี่ยูราบอกผมก่อนจะส่งยิ้มกว้างมาให้อีกครั้ง พี่จนผมอดที่จะยิ้มตามไม่ได้กับท่าทางน่ารักๆแบบนั้น
“ชานยอลอยู่บนห้องนั่นแหละ พี่ต้องออกไปทำธุระแล้วล่ะ ฝากบอกชานยอลด้วยนะว่าพี่ไปทำธุระคืนนี้คงไม่กลับบ้าน จะนอนแล้วก็ปิดไฟในบ้านด้วยนะ”
พี่ยูราบอกก่อนจะเดินไปที่ประตูบ้านเปิดมันแล้วหันมาส่งยิ้มให้ผม ก่อนจะปิดประตูลง
ผม เดินขึ้นบันไดไปชั้นสองด้วยจิตใจที่บอกได้เลยว่ากำลังว้าวุ่นเป็นอย่างมาก จุดหมายอยู่ที่ห้องนอนของชานยอล ที่ตอนนี้คงมีคนที่ผมอยากปรับความเข้าใจมากที่สุดอยู่ข้างใน
ผมเคาะประตูเบาๆสองสามครั้งแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ ก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆตัดสินใจเอมมือไปหมุนลูกบิดประตู พบว่ามันไม่ได้ล๊อค.. ก่อนจะถือวิสาสะเดินเข้าไปข้างใน
เสียงหยดน้ำกระทบพื้นในห้องน้ำดังอยู่ บอกผมได้ดีเลยว่าชานยอลกำลังอาบน้ำ ผมมองไปรอบๆก่อนจะถอนหายใจอีกที ตอนนี้ในใจกำลังภาวะนาให้ชานยอลอาบน้ำไปนานๆ แต่ผมเคยบอกแล้วไง .. ว่าพระเจ้าไม่เคยเข้าข้างบยอนแบคฮยอน ..
เสียงน้ำหยุดไปแล้ว สักพักร่างสูงที่อยู่ในชุดนอนสบายๆก็เข้ามาอยู่ในสายตาของผม ชานยอลชะงักอยู่สักพักก่อนจะเดินผ่านผมไปเหมือนมองไม่เห็น ..
แต่ผมมาถึงที่นี่แล้ว ผมไม่ควรปล่อยให้ชานยอลเดินหนีผมอีกแล้ว ผมรู้ดี .. มือเล็กของผมจับข้อแขนของคนที่กำลังจะเดินหนีเอาไว้แน่น ชานยอลไม่ได้ขัดขืน แต่ก็ไม่พูดอะไร
ผม ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรในเมื่อสายตาว่างเปล่าของชานยอลยังคงมองมาที่ผม.. แต่เพรามันว่างเปล่า ผมเลยไม่รู้ว่ามันกำลังสื่อความหมายอะไร จนชานยอลทำท่าจะแกะมือของผมออก
“..อย่า.. เย็นชากับฉันแบบนี้สิไอ้หูกาง” ผมกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้อย่างไม่ต้องการจะร้องไห้ออกมาตอนนี้ อยากคุยกับชานยอลให้รู้เรื่องก่อน ผมกลั้นเอาไว้ทั้งๆที่น้ำตามันพร้อมจะไหลออกมาเต็มที่
“....”
“ชานยอล..” ผมเรียกชื่อชานยอลด้วยน้ำเสียงที่บอกชานยอลว่าผมเหนื่อย.. ผมกลัว “ขอโทษ..”
“แกไม่ได้ทำอะไรผิด” ชานยอลบอกไม่รู้ว่าเสียงดังมากแค่ไหน แต่ผมกลับรู้สึกว่าได้ยินมันจากที่แสนไกล กลัวว่าชานยอลจะห่างออกไป..
“ผิด...ผิด สิ ผิดที่เอาแต่กลัว ผิดที่เอาแต่ทำตัวงี่เง่า หายโกรธฉันนะ” ผมบอกด้วยน้ำเสียงที่เริ่มจะเบาหวิวเพราะแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้
ผมเข้าไปสวมกอดชานยอลแล้วซุกหน้าลงกับแผ่นหลังแข็งแกร่งตรงหน้า เพราะไม่อยากให้น้ำตาไหลออกมา
“ฉันไม่ได้โกรธแกนะแบคฮยอน.. รู้ไหม คนสุดท้ายบนโลกที่ฉันจะโกรธก็คือแก .. ไอ้ลูกหมาของฉัน” ชานยอลแกะแขนของผมที่โอบกอดเอาไว้ออกก่อนจะหันหน้ามามองผม
“หืม?” ผมเม้มปากแน่นก่อนจะมองหน้าชานยอลด้วยความสงสัยที่แทรกเข้ามา
“ฉันแค่อยากให้แกเลิกเก็บทุกอย่างไว้คนเดียว สงสัยอะไรก็บอกฉันสิ” มือหนาลูบหัวของผมเบาๆ “อย่ากลัวว่าฉันจะเปลี่ยนใจ เพราะหัวใจของฉันมันยกให้ได้แค่แก” ผมเบะปากออกเล็กน้อย
“ชานยอล ..แกล้งกันหรอกหรอ” น้ำตาของผมไหลออกมาแต่ผมไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรสักนิด กลับโล่งใจและรู้สึกดีเหมือนกำลังล่องลอยอยู่บนขนนกบางเบา “ฉันเครียดนะ ไอ้บ้า” ผมฟาดชานยอลอย่างที่ชอบทำ ผมโดนแกล้ง ผมอาจจะโกรธถ้าเป็นคนอื่น แต่กับชานยอล.. มันไม่ใช่เลยสักนิด
เพราะเค้าไม่เหมือนใคร .. ต่อให้พี่ยูราจะยิ้มแล้วเหมือนชานยอลแค่ไหน แต่เจ้าของรอยยิ้มแบบนี้ก็มีคนเดียว.. คนเดียวในใจของผม ปาร์คชานยอล ..
“หยุดร้องได้แล้วคนดี..” ชานยอลเกลี่ยน้ำตาออกจากหางตาของผมอย่างแผ่วเบาจนหยดน้ำสีใสเหือดแห้งไปราว กับมีมนตร์สะกด “ทีนี้บอกได้แล้วหรือยังว่าเป็นอะไร” ชานยอลกดผมให้นั่งลงบนเตียงเดี่ยวของตัวเอง ก่อนจะทิ้งน้ำหนักลงมาเช่นกัน
ผมมองหน้าของชานยอลอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจออกมา ตามด้วยการบอกทุกอย่างที่ค้างคาอยู่ในใจ
พอผมบอก ชานยอลก็ทำหน้าราวกับอยากจะทำร้ายตัวเอง ก่อนจะดึงผมเข้าไปกอดแน่น จมูกโด่งกดลงบนกลุ่มผมของผมก่อนจะสูดดมกลิ่นแชมพูเข้าไปทำให้หัวใจของผมเต้น ตึกตัก
แล้วคำตอบที่ได้รับกลับมาของคำ ถามที่ค้างคาใจของผม มันทำให้ผมอยากจะทึ้งหัวตัวเอง ที่เอาแต่กลัวไม่กล้าถาม ทั้งๆที่ความจริงมันไม่มีอะไร แต่ผมกลับจินตนาการไปไกล.. ชานยอลกับลู่หานไม่ได้มีอะไรกัน.. ลู่หานแค่ประชดเซฮุน แค่นั้น
“ที่จริงก็แค่หึงฉันกับเสี่ยวลู่ใช่ไหมล่ะ” ชานยอลคนเดิมกลับมาแล้ว .. ผมเองก็ยิ้มออกมาได้แล้วเช่นกัน
“เปล่าสักหน่อย! ... ว่าแต่ เซฮุนกับลู่หาน..” ผมไม่คาใจอะไรเรื่องชานยอลแล้ว แต่กลับเป็นห่วงเรื่องของเซฮุนกับลู่หานขึ้นมาแทน
“ตอนนี้อย่าพึ่งสนใจคนอื่นเลย.. เรื่องของเราน่ะ..” ชานยอลส่งนิ้วมาแตะที่ริมฝีปากของผมเบาๆราวจะให้ผมหยุดพูด ก่อนจะไล้นิ้วไปทั่วริมฝีปากของผมเบาๆ
★★★★
나도 몰래 그대에게로 조금씩 가까워지네
ผมเองก็ขยับเข้าแนบชิดคุณมากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
이제는 말로 못 전할 사랑을 하고파
ตอนนี้ผมอยากจะรักกับคุณจนไม่สามารถเอ่ยออกไปได้
촛불이 다 꺼질 때까지 그댈 알고파
อยากจะรู้จักคุณจนกว่าเปลวเทียนนั้นจะมอดดับไปจนหมด
★★★★
“แบคฮยอน รักนะ” จบคำนั้นชานยอลก็กดจูบลงมาที่หน้าผากของผมอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเลื่อนจูบจากเปลือกตาลงมารวมถึงแก้มทั้งสองข้าง ก่อนจะค่อยๆกดจูบลงมาที่ริมฝีปากผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตามด้วยทาบริมฝีปากลงมาอย่างอ่อนโยน ก่อนที่ลิ้นร้อนจะส่งเข้ามาในโพรงปากผมอย่างต้องการจะกวาดชิมความหวานในโพรง ปากทุกตารางนิ้ว ผมได้แต่หดลิ้นหนีลิ้นหนาของชานยอลที่กำลังส่งเข้ามาหยอกล้อ มือแกร่งของชานยอลยกตัวผมขึ้นมาวางบนหน้าตักของตัวเอง ทั้งๆที่ยังไม่ผละริมฝีปากออกไปด้วยซ้ำ จูบยาวนานของชานยอลทำผมแทบจะไม่มีแรงส่งตัวเลยต้องส่งแขนทั้งสองข้างไปช้อน ตัวชานยอลอีกเช่นเคย
“อือิม..” ชานยอลส่งเสียงครางอย่างพอใจในลำคอเมื่อผมเริ่มที่จะเรียนรู้และจูบตอบไป อย่างอ่อนโยนตามที่ได้สัมผัสมาก่อนที่ลิ้นร้อนของชานยอลจะเร่งจังหวะเพิ่ม อุณหภูมิในโพรงปาก และจังหวะการเต้นหัวใจของผมด้วยจูบที่ร้อนแรงยิ่งกว่าเดิมจนผมไม่สามารถสู้ ได้เลย
-----ตัดฉึบละจ้าาาาาา-------
เเอร๊วววววววว ลิ้งอยู่ในไบโอทวิตนะ
www.twitter.com/chanbaek_92
@ChanBaek_92
“ชานยอลอ่า..”แบคฮยอนซุกตัวเข้ามาในอ้อมกอดของผมเช่นกันก่อนจะผลักหมอนออกให้พ้นทางแล้วใช้แขนแกร่งของผมเป็นที่รองรับแขนของตัวเอง
ทำไมน่ารักแบบนี้นะแบคฮยอน น่ารักซะจนผมอยากจะรักอีกหลายๆรอบ
“ว่าไง..ครับคนดี?”
“ฉันรักชานยอลนะ..” กับคำพูดน่ารักๆของแบคฮยอนทำให้ผมยิ้มออกมาก่อนจะกระชับกอดให้แน่นกว่าเดิม
“รักแบคฮยอนเหมือนกัน.. เผลอๆมากกว่าด้วยซ้ำ”
“..แบคฮยอนอ่า” ผม ถามพร้อมกับลูบหลังของคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอด รออยู่นาน แต่ก็ไม่ยินเสียงตอบกลับของคนข้างกายพอหันไปมองใบหน้าหวานก็หลับตาพริ้ม พร้อมกับแผ่นอกบางที่มีรอยแดงอยู่ประปรายที่ขึ้นลงเป็นจังหวะ บอกผมได้ว่าคนตัวเล็กได้เข้าสู่นิทราไปเรียบร้อยแล้ว
กำลังนอนฝันเรื่องอะไรนะ แต่ผมรู้นะว่าในฝันของแบคฮยอนต้องมีผมอยู่แน่ๆ เพราะรอยยิ้มที่ปรากฏอยู่ที่มุมปากของแบคฮยอนตอนนี้ไงล่ะ.. J
I just wanna be with you
TBC
★★★★
ความคิดเห็น