ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #260 : เล่ม 9 - ตอนที่ 121 - สถานการณ์พลิกผัน (6)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.57K
      3
      19 ม.ค. 52

    /> /> />

    องค์ราชินีเจสสิกา เทล เดวารอสมิได้เสด็จประทับลงที่พระราชบัลลังก์ตามเดิม แต่ทรงยืนตรัสด้วยพระสุรเสียงก้องกังวานว่า “ด้วยความดีความชอบเหลือล้นในการรักษาป้อมปราการด่านสุดท้ายไว้มิให้ข้าศึกบุกเข้าทำลายกรุงเดว่า ในนามของเจสสิกา เทล เดวารอส ขอมอบเหรียญตราเกียรติยศที่แสดงถึงเกียรติยศอันสูงสุดแก่บลู วอลทซ์ และขอประกาศว่านับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ชื่อของบลู วอลทซ์จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ในฐานะของวีรบุรุษแห่งลาเวนดิส”

    เสียงขุนนางชั้นผู้น้อยดังขึ้นต่อไปว่า “อันเชิญเหรียญตราเกียรติยศ”

    ปรากฏร่างของนางกำนัลผู้หนึ่งถือพานออกมาจากด้านข้าง วางไว้ด้วยเหรียญตราสีขาวที่ทำจากทองคำขาวแท้ๆแกะสลักเป็นลวดลายสวยงามล้อมรอบตราสัญลักษณ์ของราชวงศ์เดวารอส

    องค์ราชินีเจสสิกาทรงประดับเหรียญนั้นไว้ที่อกเสื้อของบุรุษหนุ่มด้วยพระองค์เอง เสื้อผ้าที่ทอจากผ้าราคาถูกจนมิอาจเรียกได้ว่าเป็นเครื่องแบบด้วยซ้ำ แต่กลับประดับไว้ด้วยเหรียญตราที่แสดงเกียรติยศสูงที่สุดในราชอาณาจักร วีรบุรุษแห่งลาเวนดิส

    เมื่อพระราชพิธีประดับเหรียญตราเสร็จสิ้น พระองค์จึงตรัสว่า “ตั้งแต่ที่มีการสถาปนาราชอาณาจักรลาเวนดิส บุรุษผู้นี้เป็นสามัญชนคนแรกที่ได้รับตำแหน่งวีรบุรุษแห่งลาเวนดิส สาเหตุที่ไม่เคยปรากฏสามัญชนผู้ใดที่ได้รับเกียรติยศระดับนี้มิใช่เป็นเพราะมีการแบ่งชนชั้นวรรณะ แยกระหว่างชนชั้นสูงกับชนชั้นสามัญ แต่เป็นเพราะยังไม่มีสามัญชนผู้ใดที่กระทำคุณงามความดีที่สมควรที่จะได้รับเกียรติอันสูงสุด หากปราศจากท่านมาร์ควิสลูเชียสการป้องกันสุดท้ายของกรุงเดว่าจะต้องแตกพ่าย แต่ถ้าหากปราศจากบุรุษสามัญชนผู้นี้ผลลัพธ์ก็คงมิได้แตกต่างกัน เราเจสสิกา เทล เดวารอสขอยืนยันว่าจะไม่มีการแบ่งชนชั้นวรรณะในเรื่องความดีความชอบ ไม่ละเลยผลงานของชนชั้นสูงหรือสามัญชนใดๆ ผู้ใดกระทำความดีย่อมได้รับผลตอบแทนที่เท่าเทียมเสมอไป”

    จากนั้นองค์ราชินีจึงตรัสกับวีรบุรุษแห่งลาเวนดิสคนใหม่เป็นการส่วนพระองค์ว่า “เราต้องขอบคุณท่านที่กระทำเพื่อราชอาณาจักรอย่างสุดความสามารถ นับตั้งแต่วันนี้ท่านจะเป็นตัวแทนของสามัญชนทั้งหลาย เป็นแบบอย่างให้กับชาวบ้านทุกคน ลดช่องว่างระหว่างชนชั้นลง ยกระดับความเท่าเทียมของไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ พัฒนาความเป็นอยู่ของชาวลาเวนดิสขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง เราอยากจะให้ท่านกล่าววาจาสักเล็กน้อยต่อหน้าที่ประชุมนี้” องค์ราชินีเบือนพระพักตร์มาที่บรรดาขุนนางทั้งหลาย ตรัสว่า “ซึ่งเราเองก็เชื่อว่าพวกท่านทั้งหลายในที่นี้อยากที่จะได้ยินวาจาของท่านบลูเช่นกัน”

    เสียงตอบรับหลายร้อยเสียงดังขึ้นพร้อมเพรียงกัน ปิดกั้นโอกาสที่บลูจะตอบปฏิเสธไปสิ้น บุรุษหนุ่มลอบถอนหายใจเบาๆ ปฏิบัติตนตามน้ำกระทำตามสถานการณ์ที่พาไป

    ไอเวอเรียสที่ยืนฟังอยู่คำนึงในใจว่า การเชิดชูสามัญชนขึ้นมาเป็นวีรบุรุษเช่นนี้เป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาทั้งเรื่องการใช้อำนาจบาตรใหญ่ของชนชั้นสูง พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถยิ่งที่ยกกรณีนี้ขึ้นมาได้ ประสานรอยแผลที่เกิดจากความไม่เท่าเทียมกันของประชาชนภายในประเทศ อีกทั้งเป็นการปลอบขวัญกำลังใจจากการสูญเสียแม่ทัพคนสำคัญอย่างมาร์ควิสลูเชียส โดยที่ไม่มีต้นทุนอะไรเลยนอกเสียจากเครื่องประดับเพียงสองชิ้น การกระทำเช่นนี้นับเป็นการยิงกระสุนนัดเดียวได้นกถึงสามตัว

    บลูหันหน้าเข้าหาบรรดาขุนนาง กล่าววาจาว่า “ต้องขออภัยทุกท่านที่ด้อยปัญญาความรู้จำเป็นต้องกล่าววาจาตามภาษาชาวบ้าน เดิมทีข้าเป็นเพียงผู้คุ้มกันภัยคนหนึ่งที่หากินอยู่ในต่างแดน ด้วยความที่โชคช่วยและผลงานของท่านมาร์ควิสลูเชียสจึงทำให้ข้าสามารถต่อสู้ต้านทานข้าศึกไว้ได้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง จนกระทั่งกองทัพของท่านลาร์กยกมาช่วยเหลือไว้ได้ทันการณ์ ตามประสาชาวบ้านผู้หนึ่งข้าไม่เคยคิดว่าจะได้รับเกียรติยศสูงส่งถึงเพียงนี้ ตอนนี้ข้ารู้สึกตื้นตันใจในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง ข้าไม่ทราบว่าจะกล่าวอะไรนอกเสียจากคำว่า ทรงพระเจริญ

    ทันทีที่เสียงกล่าวของบลูสิ้นสุด เสียงตะโกน “ทรงพระเจริญ” จากชาวลาเวนดิสที่อยู่ในห้องโถงไม่ว่าจะเป็นชนชั้นสูงหรือสามัญชนดังขึ้นติดต่อกันหลายสิบครั้ง เสียงตะโกนเหล่านี้มาจากใจของบุคคลทั้งหลาย ก้องกระหึ่มพระราชวังฟ้าประทานจนไปถึงอาณาบริเวณรอบข้าง

    พระองค์ทรงซื้อใจคนทั้งหมดได้แล้วไอเวอเรียสส่ายศีรษะเมื่อเห็นสีหน้าของบลูเมื่อครู่ การแสดงเจ้าประสบผลสำเร็จอย่างใหญ่หลวง เพียงเท่านี้เหล่าขุนนางฝ่ายที่มิได้ร่วมรบก็จะยึดถือว่าเจ้าเป็นบุรุษนอกกรุงโง่งมคนหนึ่ง ผู้ทำคุณงามความดีถวายองค์ราชินีอย่างสัตย์ซื่อจนได้รับเกียรติขั้นสูงสุด ส่วนบรรดาแม่ทัพนายกองที่เห็นฝีมืออันแก่กล้าของเจ้าจะยึดถือเจ้าเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณธรรม ตัวแทนแห่งความซื่อสัตย์และจงรักภักดีอย่างหาที่เปรียบมิได้ ขุนนางสามัญชนทั้งหลายจะเปลี่ยนมุมมองต่อพระองค์เป็นอีกมุมหนึ่งในทันที ต่างคนต่างทำงานอย่างถวายชีวิตรับใช้เพื่อที่จะได้รับเกียรติเช่นนั้นบ้าง ด้วยคติที่ว่าในเมื่อบุรุษหนุ่มผู้มิได้ถวายการรับใช้อย่างเป็นทางการคนหนึ่งกระทำได้แล้วเหตุใดตัวเองที่เป็นขุนนางหรือสังกัดกองทัพจะทำไม่ได้ ต่อจากนี้หากสามัญชนทำคุณงามความดีได้รับการเลื่อนชั้นบ่อยเข้า อำนาจบาตรใหญ่ที่ตกอยู่ที่ชนชั้นสูงจะเจือจางลงเรื่อยๆ นับเป็นการสร้างขั้วอำนาจอีกขั้วหนึ่งขึ้นมาถ่วงดุลย์โดยที่ชนชั้นสูงทั้งหลายไม่รู้ตัว หรือถึงรู้ตัวก็ไม่สามารถคัดค้านผลงานที่มีต่อชาติบ้านเมืองได้ การแก้ปัญหาเรื่องความเท่าเทียมอย่างสันติเช่นนี้ นับเป็นหลักการปกครองอันประเสริฐสุด

    ทอดสายตาทั้งแผ่นดินไม่มีใครรู้จักพระราชินีองค์นี้เทียบเท่ากับบลูอีกแล้ว เขาทราบเหตุผลเบื้องหลังการกระทำของเจสทั้งหมดกระจ่างชัด จึงร่วมแสดงละครตบตาเมื่อครู่เชิดชูนางให้เป็นสิ่งสูงสุด พระราชพิธีมอบเหรียญตราวีรบุรุษแห่งลาเวนดิสจึงประสบความสำเร็จอย่างงดงาม พร้อมกับความจริงที่ปฏิเสธมิได้ว่า

    นางลืมเลือนข้าไปแล้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×