ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( SF EXO ) ' Something Special '

    ลำดับตอนที่ #16 : [SF] :: Wind Blows (Chan x Hun)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 782
      2
      2 เม.ย. 56

    Wind Blows
    Chanyeol x Sehun







     

    สายลมเพื่อนยาก ยามเราเหงามีเพียงเจ้าที่อยู่ข้างกายเราเสมอ

    สายลมเพื่อนยาก เราเพียงแค่อยากให้เจ้าพัดพาความเหงาเราไปบ้าง

    สายลมเพื่อนยาก จะเป็นไปได้ไหมที่คนอย่างเราจะมีคนรักข้างกาย

    สายลมเพื่อนยาก ฝากพัดพาความรู้สึกนี้ไปหาใครคนนั้นด้วยเถิด

     
     

    “อ๋า หมวกใครติดอยู่บนต้นไม้น่ะ”

    ช่วงเย็นๆ สวนสาธารณะเงียบๆที่นี่มักจะเป็นที่ประจำของผม

    ล้มตัวลงบนสนามหญ้านุ่มปั๊ป สายตาก็สบกับสิ่งของบนต้นไม้สูง

    หมวกแก็ปใบสวยไปติดอยู่บนกิ่งไม้สูงขนาดนั้นได้ยังไงกัน

     
     

    “เอาลงมาดีไหมนะ”

    ว่าแล้วก็ยันตัวขึ้น ขยับตัวนั่งขัดสมาธิในท่าสบายๆ

    มือเรียวชูมือไปทางที่หมวกใบนั้นอยู่ ก่อนจะเพ่งสมาธิเล็กน้อย

    สายลมเอื่อยพัดมากระทบหน้าจนหน้าม้าสวยปลิวไหว

    มือเรียวโบกไปมาคล้ายจะบังคับทิศทางของลม

    หมวกแก็ปที่ติดอยู่ขยับเขยื้อนก่อนจะลอยมาพร้อมกับลมที่ร่างบางเป็นคนนำพา

     
     

    “โห สุดยอดเลยอ่ะ”

    เสียงปรบมือข้างหลังทำให้การบังคับเมื่อครู่หยุดลง หมวกแก็ปใบนั้นร่วงหล่นทันที

    คนตัวสูงที่ปรบมือตกใจกับอาการของคนที่นั่งอยู่ ขายาวรีบวิ่งไปเก็บหมวกใบนั้น

     
     

    เขาเป็นใคร เขาเห็นผมใช้พลังนั่นแล้ว เขาจะว่าผมประหลาดไหม

     
     

    ผมลุกขึ้นทันที แต่กลับโดนคนตัวสูงเมื่อครู่วิ่งมาดักข้างหน้าพร้อมจับแขนผมแน่น

    ความร้อนที่ผ่านมาทางมือเขาทำให้ผมต้องรีบบิดแขนออก

    รอยแดงจางๆเหมือนโดนของร้อนยังอยู่บนแขนของผม เขาเป็นใครกัน

     
     

    “อา โทษที แฮะๆ ฉันตื่นเต้นไปหน่อย”

    เขาเอามือมาลูบเสื้อตัวเองไปมา เหมือนกับจะทำให้มือของตัวเองเย็นลง

    คนตัวสูงยิ้มกว้าง รอยยิ้มของเขาสว่างสดใสจนผมหลีกเลี่ยงสายตาไปไม่ได้

    ไม่เคยมีใครยิ้มแบบนี้ให้ผม สายตาท่าทางของคนทั่วไปที่มองผมมีแต่หวาดกลัว

     
     

    รอยยิ้มที่ไม่รู้หน้าตาเป็นเช่นไรเวลาประดับลงบนใบหน้าของตัวเอง

    กล้ามเนื้อที่กระตุกบนใบหน้าทุกครั้งยามที่ผมอยู่คนเดียวกับสายลมเพื่อนรัก

    ตอนนี้ ต่อหน้าคนอื่น ผมรู้สึกอย่างนั้น นี่ผมกำลังยิ้มตามรอยยิ้มนั้นหรอ..

     
     

    “ฉันปาร์ค ชานยอล”

    เขาเอื้อมมือมาข้างหน้า ผมลังเลเล็กน้อยว่าจะจับมือเขาดีไหม

    แต่รอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้านั้นทำให้ผมเอื้อมมือออกไปในที่สุด

     
     

    “เซฮุน โอเซฮุน”

    เขากระชับมือผม เขย่าเล็กน้อย มือเขาไม่ได้ร้อนแล้ว

    มีแค่เพียงความอบอุ่นแผ่ซ่านออกมา ชอบจังเลย

     
     

    “เออใช่ นาย.. นายบังคับลมได้หรอ”

    ผมส่ายหน้าแทบจะทันที กลัว ผมกลัวว่าเขาจะหนีผมไปแบบหลายๆคน

    ความรู้สึกดีๆ ยังติดอยู่ที่มือของผม

    หวังว่าเขาจะเข้าใจ นี่อาจจะเป็นความรู้สึกที่ผมไม่เคยได้รับ

     
     

    “ฉันไม่กลัวนายซะหน่อย ไม่ต้องส่ายหน้าขนาดนั้น เดี๋ยวคอก็หลุดหรอก ฮ่ะๆ นี่ดูนะ”

    เขายิ้มกว้างให้ผมเหมือนเดิม ชานยอลแบมือไว้ข้างหน้า

    ลูกไฟดวงเล็กๆปรากฏสู่สายตาของผม

    ความอบอุ่นเกิดขึ้นทันที ผมพอจะเข้าใจแล้วทำไมมือของเขาถึงได้ร้อนขนาดนั้น

     
     

    “โทษทีนะเมื่อสักครู่ ฉันตื่นเต้นน่ะ ควบคุมไม่อยู่เลย นายยังเจ็บอยู่ไหม ขอฉันดูได้รึเปล่า”

    ผมส่ายหน้าเบาๆ รู้สึกชื้นใจนิดหน่อยที่เขาไม่ได้กลัวผมแล้วหนีไป

    เราเป็นเหมือนกัน.. คนที่พระเจ้าประทานพรมาให้

    ชานยอลจับแขนผมขึ้นมาแล้วเป่าลมใส่แขนของผม

    ความเย็นอ่อนๆจากปากเขาทำเอาผมยิ้มออกมา

     
     

    “ฉัน.. ไม่เป็นอะไร”

    ผมยิ้มให้เขา ผมเอามือของตัวเองมาทาบตรงรอยแดงที่แขน

    สายลมอ่อนๆพัดผ่านมาที่ฝ่ามือ ความเย็นนั้นช่วยบรรเทาความร้อนที่แขน

    รอยแดงเมื่อสักครู่เริ่มจางลงจนเป็นปกติ

     
     

    “แล้วนาย มาทำอะไรที่ตรงนี้หรอ ทำไมถึงอยู่คนเดียว”

    ผมส่ายหน้าเบาๆแล้วก้มหน้าลง

     
     

    “ที่ประจำน่ะ แล้วอีกอย่างฉันไม่มีเพื่อนหรอก

    ไม่มีใครอยากอยู่กับฉัน นายดูหน้าฉันสิ ไม่อยากมีคนคบหรอกน่า”

    ผมพูดออกไปตามที่คิด ความรู้สึกทุกครั้งเวลาต้องเผชิญหน้าเจอคนอื่นทุกๆวัน

    ทั้งในห้องเรียน และใช่ ชีวิตประจำวันเขา ช่างไร้ความสุข

    มีนะคนที่อยากเข้ามาคุย แต่ตัวเขาเองแหละที่มักจะปิดกั้นเพราะความกลัว

     
     

    “ฉันไง! อยากเป็นเพื่อนกับนายนะเซฮุน”

    ผมสะดุ้งเพราะเสียงที่เขาใช้พูดกับผมมันดังเหลือเกิน

    เหมือนเขาจะลืมตัวที่พูดออกมาเสียงดัง

    ชานยอลหัวเราะแหะๆออกมาจนผมอดไม่ได้ที่จะขำตาม

    ผมเพิ่งเจอเขาเองนะ ทำไมเขาถึงมีอิทธิพลกับความรู้สึกผมแบบนี้

     
     

    “จริง.. หรอ”

    ผมถามเขาไปอย่างประหม่า ไม่มากนักที่จะมีคนเข้ามาหาแบบนี้

    และเป็นผมเองที่ไม่สนใจ แต่ชานยอล เขาเป็นเหมือนผมนี่นะ

    ผมควรจะเปิดใจรับใครสักคนเข้ามาในชีวิตบ้าง

     
     

    “ฉันจะหลอกนายทำไม นายไม่ได้ตัวคนเดียวนะเซฮุน

    เรามีเพื่อนที่มีพลังแบบเราอีกหลายคนเลย นายอยากรู้จักเขาไหมล่ะ”

    หลังจากที่ชานยอลพูดจบ หัวใจของผมกระตุกเบาๆ

    ยังมีคนที่เป็นเหมือนผมหรอ.. ยังมีอีกหลายคนที่เข้าใจความรู้สึกผมหรอ

     
     

    “อื้อ อยาก.. ฉันอยากรู้จัก ชานยอล ชานยอลพาฉันไปด้วยนะ”

    เป็นครั้งแรกที่ผมออดอ้อนขอใครแบบนี้

    ผมจับแขนชานยอลแล้วเขย่าเบาๆ เงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นเขาส่งยิ้มหวานให้

    รู้สึกดีจังเลย ทำไมผมรู้สึกเหมือนโลกของผมมันกว้างขึ้นนะ

     
     

    “เอาสิ เจ้าคนที่เอาหมวกฉันไปทิ้งไว้ที่ต้นไม้ก็ใช้พลังได้นะ ไปกัน”

    ชานยอลจับข้อมือของผมแล้วกระตุกให้เดินตาม

    ขายาวๆของเขาก้าวเดินเป็นจังหวะไม่เร็วนักพอจะให้ผมเดินตามได้

    ความอบอุ่นที่ข้อมือทำให้ผมอุ่นวาบไปทั้งตัว

     
     

    “นี่ชานยอล.. ฉันจะเป็นเพื่อนกับทุกคนได้จริงๆหรอ”

    ระหว่างทางเดินผมก็ถามคำถามนี้ออกไป

    ผมคิดมันมาตลอดนั่นแหละ.. คิดจนเผลอเอ่ยปากถามออกมา

    ความกังวลมันมากมายเหลือเกิน ผมจะไหวไหมนะ

     
     

    “แน่นอนสิ เซฮุนของฉันน่ารักขนาดนี้ อย่ากังวลไปเลยนะ”

    เขาเอื้อมมือมาหยิกแก้มผมเบาๆ อ่า ผมเจ็บนะ

    ผมเลยบุ้ยปากออก ชานยอลหันมามองเขาหัวเราะผมอีกแล้ว

    ทำไมกัน ทำไมเขาถึงอารมณ์ดีขนาดนี้ไม่เข้าใจเลย

     
     

    “ชานยอล..”

    พออยู่กับเขาผมเหมือนไม่ใช่ตัวเองเลย

    อยากจะพูดอยากจะคุยกับเขาตลอด

    ผมไม่อยากให้การเดินทางนี้มันเงียบนัก

    ในใจของผมตอนนี้มันเต้นแรงเหลือเกิน

    ผมไม่เคยมีประวัติเป็นโรคหัวใจนี่นา

     
     

    “หือ ครับ”

    ชานยอลบีบข้อมือของผมเบาๆ

    เขาหันมาจ้องหน้าผม ตากลมโตของเขาดูสดใส

     
     

    “อย่าปล่อยมือฉันได้ไหม”

    ผมเอ่ยออกไปตามที่ตัวเองคิด ครั้งแรกที่ผมขอใครแบบนี้

    ผมไม่อยากให้เขาปล่อยมือออกไป ผมกลัว

    ผมประหม่า ผมต้องเจอใครอีกหลายคน

    แต่ชานยอลบอกแล้วว่าพวกเขาเป็นคนดี ผมพร้อมจะเชื่อ

    แต่ขอได้ไหม ขอให้เขาเป็นหลักให้ผมยืนหน่อย

     
     

    “จะจับจนเหงื่อออกเลยล่ะ”

    เขาเปลี่ยนจากจับข้อมือของผมมาเป็นกระชับที่มือจนแน่น

    นิ้วของเขาประสานกับนิ้วของผม อ่า.. มันร้อนมาถึงหน้าเลยแฮะ

     
     

    “ร้อน.. จัง”

    ผมพูดออกมาเบาๆ ให้เขารู้

    เขาใช้พลังของเขารึเปล่า ทำไมผมถึงร้อนไปทั้งตัวแบบนี้กัน

     
     

    “ฉัน ฉันหรอ ฉันไม่ได้ใช้พลังนะเซฮุน”

    ชานยอลหัวเราะเบาๆในลำคอ

    ผมขมวดคิ้วขึ้น เขาเอานิ้วมาจิ้มระหว่างคิ้วของผม

    มันได้ผล ผมรู้สึกได้ว่าคิ้วมันคลายปมเอง

    ถ้าเขาไม่ได้ใช้พลังแล้วทำไมผมถึงรู้สึกร้อนๆล่ะ

    หน้าผมร้อนขึ้นจริงๆนะ

     
     

    “อ่า เซฮุนไม่ต้องเรียกลมเลยนะ ฉันหนาวนะ”

    เขาว่าผมเบาๆ นั่นทำให้ผมหัวเราะออกมา

    ไม่เห็นจะหนาวเลย ก็แค่ลมเบาๆเอง

    นั่นสินะเขาคงจะชอบอะไรร้อนๆมากกว่าลมเย็นๆแบบนี้

     
     

    “หนาวหรอ”

    ผมถามเขา ชานยอลพยักหน้าตอบผม

    เขาหยุดเดิน นั่นทำให้ผมต้องหยุดเดินตาม

     
     

    “หยุด.. หยุดทำไมหรอ”

    ชานยอลเขยิบตัวเข้ามาชิดตัวผม

    มือของเรายังประสานกันไม่ปล่อย

     
     

    “หนาว ต้องเดินข้างกันนะเซฮุน”

    แต่ยิ่งเขาทำแบบนี้ผมกลับรู้สึกร้อนมากกว่าเดิมนะ

     

     

     

     
     

    “ทุกคน มานี่เร็ว”

    เรามาถึงแล้ว ที่นี่คงเป็นสถานที่รวมตัวอะไรทำนองนั้นมั้ง

    มันเป็นเหมือนบ้านชั้นเดียว อุปกรณ์การฝึกต่างๆวางอยู่ประปราย

    พอทุกคนได้ยินเสียงเรียกของชานยอลก็หันมามองผมเป็นทางเดียว

    มันทำให้ผมรู้สึกไม่ดี ผมเขยิบตัวหลบไปด้านหลังชานยอล

    มือของเรายังประสานกันอยู่ เหมือนผมจะได้ยินเสียงคนพูดคุยกัน

     
     

    “เซฮุนไม่ต้องกลัว นี่เพื่อนๆของฉันเอง”

    ชานยอลจับแขนผมเบาๆ เขาขยับตัวมายืนข้างผม

    ผมเลยต้องหันไปมองพวกเพื่อนของเขา

    โค้งตัวเก้าสิบองศาให้พวกเขาทุกคน ประหม่าจัง

     
     

    “สวัสดี.. ครับ โอเซฮุน ผม ผมบังคับลมได้”

    ชานยอลผายมือให้ผมเดิน

    ถึงแม้จะกล้าๆกลัวๆก็เถอะ แต่ทุกคนในที่นี้ดูเป็นมิตร

    ชานยอลเดินตามผมมา มือของเขาลูบหัวผมเบาๆ

    มันทำให้ผมคลายเครียดลงเยอะเลย

     
     

    “เซฮุน ยินดีต้อนรับนะ ฉันคริส”

    คนรูปร่างสูงใหญ่เป็นคนเอ่ยปากทักทายผมคนแรก

    น้ำเสียงของเขาดูน่าเกรงขาม มันดูมีอำนาจ

    และตามมาด้วยใครอีกหลายคน

    ผมไม่เคยเจอความรู้สึกแบบนี้เลย

    มีแต่คนอยากรู้จักผม มีแต่คนเข้ามาทักผม

     
     

    “อย่าสิทุกคน เซฮุนกลัวไปหมดแล้วนะ ฮ่าๆ”

    ชานยอลเอ่ยล้อๆพวกเขา เขาหัวเราะออกมาเสียงดัง

    ผมตื้นตันจัง รู้สึกได้ถึงความร้อนที่ขอบตา

    อา.. น้ำตาเหมือนจะไหลเลย ผมไม่เคย ไม่เคยมีคนสนใจขนาดนี้

     
     

    “เฮ้ย เซฮุนร้องไห้ทำไม”

    ผมร้องไห้หรอ แย่แล้ว ทำยังไงดี

    เขาจะว่าผมไหม ผมไม่ได้ตั้งใจ แต่ผมดีใจ

    ผมปาดน้ำตาออกแรงๆ แต่ยิ่งปาดออกก็เหมือนยิ่งไหลมากขึ้น

     
     

    “ไม่ร้องนะครับเซฮุน”

    ชานยอลก้มหัวมามองหน้าผมตรงๆ

    รอยยิ้มบางถูกส่งมาให้ผม

    มือใหญ่อีกข้างที่ไม่ได้ประสานกับมือผมนำมันมาปาดน้ำตา

    ผมคงต้องสั่งน้ำตาให้หยุดได้แล้วล่ะ มันน่าอายนะต่อหน้าคนเยอะแบบนี้

     

    “นายทำเซฮุนร้องไห้หรอชานยอล นิสัย”

    คนที่ชื่อมินซอกเอ่ยบอกกับชานยอล

    ผมเริ่มพอจะจำชื่อแต่ละคนได้แล้วล่ะ

    เขายื่นมือออกมาแล้วปาก้อนน้ำแข็งเล็กๆใส่หัวชานยอล

    ผมหลุดขำออกมากับภาพตรงหน้า

     
     

    “เย้ เซฮุนหัวเราะแล้ว”

    ชานยอลยิ้มกว้าง ทุกคนมองมาทางผม รอยยิ้มของทุกคนที่ส่งมา

    มันอบอุ่นไปถึงหัวใจ นี่ใช่ไหมคือสิ่งที่ผมต้องการมาตลอด

     
     

    “ยินดีต้อนรับ สู่ครอบครัวของเรานะเซฮุน ตอนนี้นายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแล้วนะ”

    ชานยอลเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้มกว้างกว่าเดิม ทุกคนพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้ม

    ผมมีความสุข รอยยิ้มกว้างที่สุดตั้งแต่เกิดมากำลังเผยออกให้ทุกคนได้เห็น

    ผมมั่นใจ ชีวิตหลังจากนี้ผมจะมีแต่ความสุข ผมจะไม่เหงาแล้วเพราะมีทุกคน

    ที่นี่เราไม่ใช่พวกประหลาด แต่ทุกคนได้รับพรสวรรค์จากพระเจ้า ผมเชื่ออย่างนั้น

     


     

    “ขอบคุณนะชานยอล.. ขอบคุณนะทุกคน”

     

     

    รออีกหน่อยนะ.. รออีกหน่อย สายลมเพื่อนยาก เรา เรากำลังจะได้รับความสุขใช่ไหม

     
     

    สายลมเพื่อนยาก ขอบคุณที่ทำให้เราได้รักใครสักคน

    สายลมเพื่อนยาก ขอบคุณ.. ขอบคุณที่นำพาคนอย่างชานยอลมา

    สายลมเพื่อนยาก... เซฮุนขอขอบคุณ

     

     


     

    END 

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×