ฟ้าฤาไร้ดาว - นิยาย ฟ้าฤาไร้ดาว : Dek-D.com - Writer
×

    ฟ้าฤาไร้ดาว

    เขาเป็นของเธอตั้งแต่เธอยังคูณและหารเลขไม่เป็น จนถึงตอนนี้ที่เธอแก้สมการแคลคูลัสขั้นสูงได้แล้ว แต่เขาก็ยังคงไม่สนใจเธอ แต่เขาเป็นของเธอนะ ทำยังไงเขาถึงจะรักเธอไม่ต้องมากเหมือนที่เธอ รักเขาหรอก

    ผู้เข้าชมรวม

    165

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    165

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  22 เม.ย. 51 / 23:26 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูรายการอีบุ๊กทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทนำ
     
    "ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ช่วยด้วยค่ะ"  เสียงตะโกนที่เหมือนจะแผดก้องนี้   ความเป็นจริงไม่ดังเท่าไรเนื่องจากเจ้าของเสียงมีปอดขนาดเล็กที่เหมาะสมกับวัยแปดขวบของเจ้าตัว ถึงเวลานี้หน้าตาเด็กหญิงเริ่มบิดเบี้ยว
    เมื่อข่มกลั้นความหวาดกลัวและความตะหนกไม่ได้อีกต่อไป เมื่อพี่ชายแปลกหน้าที่เธอพยายามเรียกให้คนช่วยยังคงมีเลือดไหลออกจากบาดแผลที่ท้องไม่หยุด "พี่คะ ได้ยินใจฟ้ามั๊ยคะ ใจฟ้าจะรีบไปตามคนมาช่วยพี่   พี่รอแป๊บเดียวนะคะใจฟ้าจะรีบมา" เด็กหญิงละล่ำละลักบอกกับเด็กหนุ่มพร้อมกับปาดน้ำตาหยดโตที่เริ่มหลั่งไหลไม่หยุด เพราะขวัญเสียเต็มที่ พร้อมค่อย ๆ เอามือเล็ก ๆ ของเธอลูบใบหน้าที่มีเหงื่อซึมของเด็กหนุ่มอย่างแผ่วเบา พี่ชายที่เธอพยายามช่วยเหลือตอนนี้นอนหงายแผ่ไม่ไหวติง ใบหน้าซีดเผือด ริมฝีปากขาวซีดไม่มีสีเลือด เสื้อนักเรียนสีขาวตอนนี้เปื้อนเลือดจนชุ่ม ผ้าเช็ดหน้าผืนน้อยที่ก่อนหน้าเด็กหญิงจะหยิบจากกระเป๋ากางเกงตัวเองมากดที่บาดแผลเด็กหนุ่ม เดิมเคยมีสีฟ้าสด แต่ตอนนี้ชุ่มเลือดสีแดงจนไม่อาจคาดเดาสีเดิมอีกแล้ว "พี่คะ ใจฟ้าไปนะคะ จะรีบพาคนมาช่วยพี่ค่ะ ใจฟ้าสัญญา" เด็กหญิงหันมาย้ำกับร่างที่นอนนิ่งอยู่ริมขอบถนนอีกครั้ง ก่อนจะรีบปั่นจักรยานไปที่ป้อมยามประจำหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว
     
    ก่อนหน้านี้เพียงครึ่งชั่วโมงเด็กหญิงใจฟ้า สิระถานนท์ ยังเพิ่งมีความสุขกับไอศกรีมรสนม ที่พี่เลี้ยงสาววัยยี่สิบปีซื้อให้ถึงสองแท่งแต่เมื่อไอศกรีมหมดเด็กหญิงก็เริ่มเบื่อ พี่เลี้ยงสาวของเธอแวะเอาไอศกรีมมาให้พี่ยามตัวสูงเหมือนที่ทำบ่อย ๆ ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาและตอนนี้ทั้งคู่ก็กำลังคุยกันอย่างมีความสุขอยู่ที่สนามหญ้าเล็ก ๆ ข้างป้อมยามใหญ่ปากทางเข้าหมู่บ้านธนวดี หมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ย่านชานเมืองฝั่งตะวันตกของกรุงเทพ
     
    "พี่จิตคะ เรากลับกันเถอะ" เด็กหญิงเบื่อที่จะรออย่างไม่มีกำหนด ที่สำคัญอยากรีบกลับไปดูการ์ตูนเรื่องโปรดที่กำลังจะฉายในอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้า
    "เอาอีกแล้ว คุณใจฟ้า งอแงอีกแล้วนะคะ ไหนสัญญากับพี่จิตว่าถ้าพามาด้วยจะไม่งอแงไงคะ" จิตราหันมาดุเด็กหญิงด้วยหน้าตาหงิกงอเพราะขัดเคืองอารมณ์ เธอและยงยุทธ ยามหนุ่มรูปหล่อเพิ่งทำสัญญาใจกันได้ไม่ถึงสามวัน หลังจากแอบแลกสายตาหวานซึ้งรวมถึงอาหารหวานคาวต่างๆ มานานร่วมสัปดาห์ แล้วตอนนี้ที่เธอเพิ่งจะเริ่มได้ซักไซ้ถึงความหลังครั้งเก่าของแฟนหนุ่ม เด็กหญิงที่เธอจำใจต้องมาทำหน้าที่ดูแลก็จะมาเร่งให้พากลับบ้านเสียแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด ฝืนข่มอารมณ์พร้อมคิดหาหนทางยืดเวลาความหวานชื่นตรงนี้ให้ยืดยาวออกไปอีก ทั้งที่วันนี้หนทางปรอดโปร่งเหมือนสวรรค์จะเป็นใจให้กับความรักครั้งใหม่ของเธอ เพราะนายแพทย์กฤตเมศและคุณอริสา บิดาและมารดาของเด็กหญิงใจฟ้าต้องอยู่เข้าค่ายร่วมกับเด็กหญิงศิศิรา พี่สาวของเด็กหญิงใจฟ้าที่จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทางโรงเรียนของเด็กหญิงทั้งสองจัดขึ้นเพื่อให้ผู้ปกครองได้มีโอกาสรู้จักกับเพื่อนนักเรียนของลูก ผู้ปกครองท่านอื่น ๆ รวมถึงคณาจารย์ผู้สอนอย่างดียิ่งขึ้น ที่สำคัญคุณปรางทิพย์ แม่บ้านที่เป็นผู้ดูแลทุกอย่างของครอบครัวสิระถานนท์ ก็ยังอยู่ในช่วงลากลับบ้านที่ต่างจังหวัด คนอื่นที่เหลืออยู่ตอนนี้เธอไม่เกรงกลัวใครทั้งสิ้น เพราะถือว่าเป็นลูกจ้างระดับเดียวกัน เมื่อคิดได้อย่างนี้หน้าตาจึงค่อยคลายความบึ้งตึงลง คุกเข่าจนใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกับเด็กหญิง แล้วปั้นเสียงให้ดูน่าเห็นใจ
     
    "คุณใจฟ้าคะ พี่จิตยังไม่อยากกลับเลย ยังคุยธุระกับพี่ยุทธไม่เสร็จพี่จิตอยากรู้เรื่องที่บ้าน ก็อย่างที่พี่จิตเคยเล่าให้ฟังไงคะ พี่จิตไม่ค่อยได้กลับบ้าน พี่จิตก็ต้องอยากรู้ใช่มั๊ยละคะว่าคนที่บ้านพี่จิตเค้าเป็นยังไงกันมั่ง" พูดขอร้องพร้อมทำหน้าเศร้า ด้วยรู้นิสัยเด็กหญิงดีว่าเป็นเด็กใจอ่อน ขี้สงสารเพียงใดและเธอก็เดาถูก เมื่อเด็กหญิงใจฟ้าพยักหน้าเข้าใจ
     "เอาอย่างนี้มั๊ยคะ คุณใจฟ้าค่อย ๆขี่จักรยานกลับไปก่อนแล้วพี่จิตจะรีบขี่ตามไป ถ้าพี่จิตขี่ไม่ทันคุณใจฟ้า คุณใจฟ้าก็เข้าบ้านไปก่อนเลยไม่ต้องรอพี่จิต" เด็กหญิงครุ่นคิดพักหนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ พยักหน้า
     
     "ก็ได้ค่ะ งั้นใจฟ้า ขี่จักรยานกลับบ้านเองก็ได้ ใจฟ้าจะขี่ช้า ๆ ค่ะพี่จิตจะได้ตามมาทัน" เด็กหญิงเอ่ยปากออกไปแล้วก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เพราะยังไม่เคยไปไหนเพียงลำพังมาก่อน แต่ก็คิดว่าตัวเองน่าจะทำได้และในเวลาบ่ายสี่โมงเย็นอย่างนี้ ก็ไม่มีอะไรให้น่ากลัวซักนิดแดดยังแรงจนร้อนด้วยซ้ำ เด็กหญิงปลุกปลอบใจตัวเองก่อนจะเดินไปที่จักรยานคันเล็กสีฟ้าแต่ราคาแพงมากของตนเอง แล้วค่อย ๆ ปั่นจักรยานโดยลัดเลาะมาตามริมถนน บ้านในหมู่บ้านนี้พื้นที่น้อยที่สุดคือสองร้อยตารางวา ทำให้รั้วบ้านแต่ละหลังห่างกันค่อนข้างมาก ยิ่งเมื่อเริ่มเข้ามากลางหมู่บ้านเนื้อที่ของบ้านแต่ละหลังมีไม่ต่ำกว่าหนึ่งไร่ ดังนั้นซอยของหมู่บ้านนี้บางซอยมีบ้านเพียงแค่สี่หลังเท่านั้นซึ่งก็รวมถึงซอยแปดที่เด็กหญิงค่อย ๆ ขี่จักรยานอ้อมผ่าน จริง ๆ ถ้าเด็กหญิงปั่นจักรยานตัดตรงเข้าซอยบ้านของเธอที่ซอยสิบสองก็จะใช้เวลาน้อยกว่านี้มาก แต่ที่ซอยแปดนี้บ้านหลังที่สองด้านซ้ายมือ เจ้าของบ้านแต่งสวนสวยจึงตั้งใจโชว์สวนของตัวเองเต็มที่ รั้วบ้านจึงเป็นรั้วเหล็กโปร่ง มองเห็นสวนสวยชัดเจน แต่ที่เด็กหญิงติดใจไม่ใช่สวนสวยนั้น แต่เป็นปุกปุย สุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลที่เจ้าของเลี้ยงแบบปล่อยอิสระ ซึ่งมันชอบมานอนที่ศาลาหินอ่อนติดริมรั้ว และทุกครั้งที่มันเห็นใครเข้าใกล้รั้วบ้านมันจะวิ่งไล่พร้อมเห่าเสียงแหลม ซึ่งในสายตาของใจฟ้าแล้วเด็กหญิงคิดว่ามันน่ารักมากกว่าน่ากลัว เด็กหญิงยังคงหัวเราะค้างอยู่เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นคนนอนอยู่ข้างรั้วทึบของบ้านฝั่งตรงข้ามบ้านปุกปุยซึ่งบ้านหลังนี้มองเห็นเพียงหลังคาบ้านอยู่ลิบ ๆ ทำให้รู้ว่าตัวบ้านอยู่ลึกห่างจากรั้วมาก รั้วรอบบริเวณบ้านก่อด้วยอิฐมอญสวยแปลกตา ตัวรั้วก่ออิฐสูง ประตูใหญ่สำหรับรถยนต์ผ่านเข้าออกก็เป็นอัลลอยด์สลักลายละเอียดจนไม่สามารถมองเข้าไปเห็นทัศนียภาพภายในบ้านได้ เด็กหญิงรีบจอดจักรยานแล้ววิ่งตรงเข้าไปหาร่างที่นอนอยู่อย่างไม่นึกกลัวอะไรเลย ใจฟ้ามองร่างเด็กหนุ่มที่นอนเอามือกุมท้อง นัยย์ตาปิดด้วยใจที่เต้นถี่รัว เธอค่อย ๆ เข้าไปเขย่าแขนเรียก "พี่คะ พี่เป็นอะไรคะ" จนเมื่อเห็นเลือดไหลซึมออกจากมือที่เด็กหนุ่มกดปิดแผลบริเวณท้อง เธอก็พยายามข่มกลั้นไม่ร้องไห้โฮออกมา เด็กหญิงเงียบงันทำอะไรไม่ถูกจนเมื่อเด็กหนุ่มส่งเสียงครางแผ่วระโหย จึงรู้สึกตัวว่าควรรีบไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่น เด็กหญิงจึงวิ่งอ้อมไปที่บ้านปุกปุยแล้วตะโกนขอความช่วยเหลือเสียงดังแต่ก็ไม่มีใครออกมาดูเธอเลยซักคน     พยายามมองหากริ่งประตูแต่ก็มองไม่เห็นเด็กหญิงไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่ในใจของเด็กหญิงเธอรู้สึกว่ามันนานมาก เมื่อรู้แน่ว่าคงไม่ได้รับความช่วยเหลือ บ้านหลังใหญ่ทางด้านขวามือก็หมดหวัง เธอรีบวิ่งกลับมาหาเด็กหนุ่มพร้อมหยิบผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋ากางเกง ค่อย ๆยัดผ้าใส่มือเด็กหนุ่มที่กดค้างอยู่ที่ท้อง แตะมือเล็ก ๆของเธอกับมือของเขาก่อนตัดสินใจตะโกนขอความช่วยเหลือเต็มเสียงอีกครั้ง

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น