Singular Fiction : My Big fan - นิยาย Singular Fiction : My Big fan : Dek-D.com - Writer
×

    Singular Fiction : My Big fan

    |SingularFic|ดูเหมือนว่าผมจะชอบแฟนคลับตัวยงของตัวเองเข้ายังไงไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็ถอยยากซะแล้วสิ แถมน้องก็ดูเหมือนไม่อยากจะเล่นด้วยเลยจะเลิกเป็นแฟนคลับกันไปอีก ไม่เป็นไรงั้นผมจะไปตามกรี๊ดน้องเองแล้วกัน

    ผู้เข้าชมรวม

    2,517

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    24

    ผู้เข้าชมรวม


    2.51K

    ความคิดเห็น


    115

    คนติดตาม


    36
    จำนวนตอน :  16 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  31 ม.ค. 57 / 14:09 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    Ep00

     

                    ผมเป็นนักศึกษาธรรมดาที่ชีวิตปกติทั่วๆไป  อาจจะพิเศษนิดหน่อยตรงค่อนข้างเป็นที่รู้จักของคนในหมาลัยซักหน่อย  เพราะผมตอ้งช่วยงานมหาลัยบ่อยๆ  อย่างวันนี้ที่ผมต้องเป็นคนถ่ายรูปให้งานปฐมนิเทศนักษึกษาใหม่  จริงๆผมชอบงานนี้นะ  ผมชอบถ่ายรูป  แต่เหตุผลที่ทำให้ผมเป็นที่รู้จักมันมาจากตำแหน่งเดือนที่บังเอิญได้มากับเล่นดนตรีให้วงของคณะบ้าง  เลยมีแฟนคลับกะเค้าอยู่เหมือนกัน^^

                    “ณัฐๆ  ช่วยอาจารย์ยกเก้าอี้พวกนี้ออกไปหน่อย”  แน่นอนถ่ายรูปแล้วยังต้องใช้แรงงานด้วยนิดหน่อย

                    “ณัฐๆ  มึงเอาเมมมาเยอะมั้ย  กูยืมหน่อย” ให้เพื่อนยืมของด้วย

                    “ณัฐๆ  ขึ้นไปถ่ายคณะบดีแทนพี่หน่อย  พี่ไปห้องน้ำแปปนึง” ทำงานที่คนอื่นไม่อยากทำด้วย

                    “ณัฐๆ  ของของมึง” รวมถึงรับของฝากที่แฟนคลับกลุ่มเล็กๆของผมคอยติดตามเอามาฝากด้วย

                    “ณัฐๆ” ผมได้ยินคำนี้พวกนี้พร้อมๆกับคำขอความช่วยเหลือตลอดช่วงเช้า  ผมค่อนข้างจะเป็นคนของประชาชนอย่างที่เพื่อนๆผมมันแซวนั่นแหละ  แต่ว่าก็ไม่เป็นไรผมไม่ได้ลำบากนี่นา  ช่วยได้ก็ช่วย  ติดธุระก็ไม่ได้ช่วยสลับกันไปแล้วแต่โอกาส  อย่างงานนี้ที่ผมอยู่ช่วยได้แค่ภาคเช้า  บ่ายก็ต้องกลับแล้ว

                    ผมกำลังเก็บกล้องตัวเก่งลงในกระเป๋า  เลนส์ที่ตอนแรกกะว่าจะถอดแยกไว้ก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะเสียงแปลกๆที่มันดังแว่วมาเข้าหู 

                    เสียงชัตเตอร์ที่ฟังรู้เลยว่าคนละค่ายกับผมกำลังดังอย่างต่อเนื่อง  ฟังจากที่มาของเสียงกับความชำนาญพื้นที่ของผม  ผมว่าเดาได้ไม่ยากเลยว่าคนที่กำลังแอบถ่ายผมอยู่มันซุ่มอยู่ที่ไหน

                    ผมยังแกล้งเก็บกล้องต่อไปให้คนไร้มารยาทมันได้ถ่ายอีกซักสองสามช็อต  ก่อนจะหันกลับไปยิงใส่อีกฝ่ายบ้าง

                    “เหวอ!!!” พอโดนรัวชัตเตอร์ใส่บ้าง  ไอ้คนที่ปีนบันไดช่างไฟอยู้ก็หงายเงิบร่วงลงมาบนพื้นหอประชุมทันที  มันอดจะขำไม่ได้จริงๆแต่ต้องเก็กหน้าขรึมใส่

                    “เอาเมมมาเดี๋ยวนี้นะ”  ผมเดินอาดๆเข้าไปก้มมองคนที่นั่งกุมข้อเท้าสีหน้าเจ็บปวดอยู่ 

                    “..////////////...” มันไม่ได้ตอบหรือทำตามที่ผมขอ  แค่เงิยหน้ามามองแล้วก็ก้มลงไปมองข้อเท้าตัวเอง  หน้าแดงแป๊ดนั่นผมยาวๆไม่มีทางปิดมิดหรอก 

                    “ซิน  คราวนี้พี่พูดจริงเอาเมมมา”

                    “ไม่ให้” นั่น  พอเสียงเครียดใส่มันก็เงิยหน้ามาเถียงแถมมือเล็กๆยึดกล้องไว้แน่นอีก 

                    “แล้วทำไมต้องแอบถ่ายด้วยห๊ะ  เห็นมั้ยเนี่ยตกลงมาเจ็บตัวเลย”

                    “ก็ใครล่ะทำเราตกใจ”

                    “เออกูผิดอีก  เอ้าๆลุกไหวมั้ย” ผมดึงแขนผอมๆให้มันลุกขึ้นยืน  ดูซิเนี่ยตัวก็แค่นี้ชอบปีนป่ายไปอยู่ที่แปลกๆแล้วก็ตามผมไปทุกๆที่เนี่ย

                    “........” ลุกขึ้นยืนได้แต่ก็ไม่ยอมพูดอะไร  มือก็ยังประคองกล้องสุดรักอยู่  ผมมองเลนส์ที่มันใช้แล้วได้แต่ส่ายหน้าระอาใส่มัน  กะซูมเห็นขนจมูกเลยหรือไงนะ

                    “ตกลงจะตามไปทุกที่เลยมั้ย”

                    “......”

                    “เฮ่อ  เรานี่นะ” ผมล่ะไม่เข้าใจจริงๆ  ได้แต่เอากำปั้นทุบหัวมันเบาๆอย่างหมั่นใส้  มันตามผมตั้งแต่มันผมแค่ประบ่า  จนตอนนี้ยาวถึงกลางหลังแล้ว  ตามผมต้อยๆไปทุกที่  แต่ไม่ยักกะเข้ามาคุยด้วย  ไม่อยากจะเชื่อว่านี่น่ะแฟนคลับตัวยงของผมเลย  เอาจริงๆผมเจอมันบ่อยกว่าเจอเพื่อนอีก  ไม่รู้ว่าติดใจอะไรนักหนาแต่พอเจอกันตัวต่อตัวแบบนี้ก็เอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา  สิ่งเดียวที่ทำให้ผมรู้ว่ามันชอบผมมากก็ตรงแก้มแดงๆนี่แหละ  ไม่งั้นผมคงนึกว่ามันแอบถ่ายไปขายให้แฟนคลับสาวๆผมนะเนี่ย

                    “ไม่พูด  งั้นพี่ไปนะ”

                    “เดี๋ยวฮะ”

                    “อะไรอีกห๊ะไอ้จอมวุ่นวาย”

                    “อะให้” ดู๊ดูมัน ค้อนใส่ที่ถูกว่า  แต่ก็กำลังยื่นน้ำอัดลมให้ผม  ดูจากหยดน้ำที่เกาะข้างกระป๋อง  คงมาซุ่มนานแล้วสิ

                    “ไม่เย็นแล้วเก็บไว้กินเองเถอะ” ผมก็แกล้งพูดใจร้ายใส่ไปอย่างงั้น  ผมอาจจะโรคจิตนะ  เพราะพอผมปฏิเสทจะรับของฝากจากมันทีไร  ตากลมโตนั่นมีแววเสียใจวูบทันที...ไม่รู้ทำไมที่ชอบเห็นแววตาสุขใสที่มันเปลี่ยนไปในชั่วอึดใจนั่นซะจริงๆ 

                    “.....”

                    “ล้อเล่นน่า  ขอบใจนะ  กลับดีๆล่ะพี่ต้องไปธุระต่อแล้ว” ผมคว้ากระป๋องนั้นมาถือแล้วก็ตบหัวมันเบาๆเหมือนเอ็นดูลูกหมาตัวน้อยๆ  มันเองดูรุกรี้รุกรนวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วเหมือนทุกที อดขำไม่ได้แฮะ 

                    ตั้งแต่มันเข้าปีหนึ่งมาเป็นรุ่นน้องที่คณะจนตอนนี้ก็สองปีแล้ว  ผมล่ะไม่เข้าใจว่าไปทำอะไรให้มันปราบปลื้มขนาดนั้น  เพื่อนเลวของผมหลายๆคนยุให้จีบเพราะนับวันน้องมันน่าเอ็นดูขึ้นทุกที  แต่พวกมันคงลืมว่าน้องเป็นเด็กชายอกแบนราบมีช้างน้อยเหมือนเราๆ  -*- 

                    “ไปยังวะ  กูสวนกับบิ๊กแฟนมึงที่หน้าหอประชุมด้วย  แหมเหนียวแน่นนะคนนี้”

                    “หึ  ไปเถอะกูนัดพี่โย่งพี่เมื่อยไว้  ว่าจะซ้อมก่อนขึ้นเปลี่ยนลิสแบบนี้กูกลัวพี่เมื่อยกับพี่โย่งมันดำน้ำแข่งกัน”

                    “ไปดิ  กูก็มาตามมึงเนี่ยกว่าแวะไปเอาของบ้านมึงอีก  ร้านใหม่ทั้งทีกูก็กลัวแป็กว่ะ”

                    “อืม”

     

                    “เอ้า  เฟอะฟะจริง” เชื่อมั้ยผมมีของสะสมอย่างนึงเป็นของของไอ้เด็กบิ๊กแฟนของผม  มันทำของตกไว้บ่อยๆบางทีแกล้งเดินตามมันมันก็ยังไม่รู้ตัวแถมบางวันมันกินข้าวเสร็จก็หยิบกระเป๋าเดินไปวางสมุดเลคเชอร์ไว้เฉยเลยเก็บไว้ให้นึกว่ามันจะกลับมาตามหาแต่ก็เปล่า  ผมว่ามันคงทำของหายเป็นประจำแน่ๆ  ผมเลยมีของของมันหลายอย่าง

    อย่างพวงกุญแจตุ๊กตาถักน้องกระต่ายที่ตรงพุงปักชื่อไว้ Sincere อันนี้...มันจะเข้าบ้านยังไงผมอยากจะรู้จริงๆ 

    2BC

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น