ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF HAEEUN'S STORY

    ลำดับตอนที่ #17 : SF :: MISS YOU TOO

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 403
      2
      4 ส.ค. 56

     

     

     

     

     

     

     

     

    เมื่อไรหนอที่เธอจะกลับมา~~

     

    อื้อหือออ ใครวะใคร ใครหน้าไหนแม่งบังอาจเล่นเพลงนี้ อีทงเฮที่นอนขมวดคิ้วแน่นอยู่บนโซฟาในห้องลืมตาโพลงขึ้นมาทันที กวาดสายตาแล้วก็พบว่าตัวต้นเสียงนั้นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ไอ้เชี่ยคยูฮยอนเพื่อนรัก ยืนทำหน้าตากวนตีนยักคิ้วหลิ่วตาอยู่ปลายตีน ยกเท้าหมายจะยันมันให้ไปไกลๆ แต่ก็ไม่ทันไอ้เพื่อนตัวดีดีดตัวไปยืนพิงตู้หนังสือเรียบร้อยแล้ว

     

    “กวนตีนแต่เช้าเลยนะมึง”

     

    “เช้าบ้านมึงสิ นี่บ่ายโมงแล้ว”

     

    เบ้หน้าขี้เกียจจะเถียง ไอ้ห่านี่กวนตีนกันมาแต่หน้าแม่งยังไม่หล่อ เถียงไปก็เท่านั้น ทงเฮโบกมือปัดกลางอากาศเป็นเชิงยอมแพ้ ลุกขึ้นนั่งลูบหน้าลูบตาอยู่พักใหญ่ก่อนจะตั้งสติได้ กวาดตามองไปรอบๆ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเขานอนอยู่ห้องรับแขกของคอนโด โต๊ะกระจกที่เคยสะอาดสะอ้านเต็มไปด้วยกระป๋องเบียร์หลายสิบกระป๋อง ขวดเบียร์อีกหลายโหลกลิ้งอยู่โดยรอบ คยูฮยอนเขี่ยขวดนึงไปมาอยู่ที่ปลายเท้ามัน

     

    “แล้วนี่มึงมาหากูทำไม?”

     

    “มีคนใช้ให้กูมาดู”

     

    ตอบแค่นั้นทงเฮก็ไม่ต้องถามต่อว่าใคร คนที่มีกะจิตกะใจจะห่วงผู้ชายอายุ 28 ปีก็มีอยู่ไม่กี่คน หนึ่งคนอยู่ที่ฟากหนึ่งของโซล ส่วนอีกคนก็อยู่อีกฟากหนึ่งของโลกไปเลย

     

    “ก็ยังดียังไม่ตาย”

     

    “ก็ยังดี ยังเหมือนหมา ไม่ถึงกับตาย”

     

    คยูฮยอนย้อนคำพูด เล่นเอาทงเฮตวัดตามองขวับ แต่ก็อย่างว่าเป็นเพื่อนกันมา แค่นี้ไม่สะทกสะท้านอะไรนักหนาหรอก อีกอย่างอีทงเฮเวลาเป็นหมาบ้าเพราะอีฮยอกแจดูๆแล้วตลกจะตาย แหย่ได้ตลอด

     

    “เหอะ ฝากมึงมาดูกับมาดูเองมันต่างกันเยอะ”  พูดจบก็ยีหัวตัวเองระบายอารมณ์ จะลงไปนอนต่อแต่ก็ติดที่ไอ้หน้าตากวนตีนนั่นมันยังขวางหูขวางตาเลยจัดการขว้างหมอนใส่ไปสักทีแต่มันก็ยังไม่ยอมขยับไปไหน จนเขาอ่อนใจต้องลุกมานั่งคุยกันดีๆ

     

    “ว่ายังไงครับ คุณโจวคยูฮยอน จะยืนทำหน้ากวนตีนกูอีกนานมั๊ยครับ”

     

    คยูฮยอนยักไหล่ แล้วเดินมาทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาเล็กข้างๆกัน มือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโค้ทหยิบซองจดหมายสีน้ำตาลออกมาวางลงตรงหน้าเขา พยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าให้เปิดมันออก

     

    “จดหมายมึง เอามาให้กูทำไม?” เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ เมื่อหยิบขึ้นมาดูแล้วพบว่าจดหมายนั้นเป็นของซองมินส่งมาหาคยูฮยอนจากฝรั่งเศส

     

    “มึงก็เลิกใช้ปากถาม แล้วใช้มือกับตาหาคำตอบ”

     

    ทงเฮไม่เข้าใจอะไรเท่าไหร่นัก แต่ก็เปิดจดหมายที่เพื่อนโยนมาตรงหน้า เขาเห็นภาพถ่ายโปสการ์ดมากมาย มองๆแล้วก็คงเป็นเมืองไหนซักเมืองที่ซองมินไปเที่ยว แล้วถ่ายรูปมาทำเป็นโปสการ์ดส่งให้คยูฮยอน

     

     

    “มันก็โปสการ์ดธรรมดาไม่เห็นมีอะไร” วางไว้บนโต๊ะเหมือนเดิมพลางเงยหน้ามองหน้าเพื่อน เห็นคยูฮยอนส่ายหัว พร้อมๆกับมองเขาด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าโง่เต็มที แล้วขอโทษทีเถอะเจอคนมองด้วยสายตาแบบนี้แล้วอยากประเคนตีนให้ ทงเฮเป็นพวกเส้นประสาทต่อตรงกับมือเท้า กระตุกแล้วยั้งไม่ค่อยจะทัน

     

    คยูฮยอนก้มหยิบหนึ่งรูปในกองนั้นส่งนั้น ทงเฮเองก็จิ๊ปากอย่างนึกรำคาญใจ มันก็แค่รูปถ่ายของสวนสาธารณะ ไม่เห็นจะมีอะไรเป็นพิเศษ กำลังจะโยนทิ้งกลับ แต่เงยหน้ามาเจอคยูฮยอนที่ส่งสายตากึ่งเชิงบังคับให้มองต่อก็ต้องก้มไปมองต่อ  ทันทีที่สังเกตดีๆ มือหนาก็รีบคว้าภาพอื่นที่ต่อๆกันขึ้นมาดู คยูฮยอนเห็นท่าทางแบบนั้นก็กระตุกยิ้มก่อนจะลุกยืนขึ้นเต็มตัว

     

     

    “สองอาทิตย์ที่แล้ว ซองมินอยู่มาร์เซย์ กูไปล่ะ ไว้เจอกัน อย่าลืมของฝากกูล่ะ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เจอหน้า จะฟัดให้หายคิดถึงเลยคอยดู อีฮยอกแจ!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    อ่า วันนี้อากาศเย็นไปนะ

    ฮยอกแจพึมพำกับตัวเองเสียงเบา พลางกระชับเสื้อโค้ทตัวหนาให้แน่นเข้ามาอีก แก้มสีขาว เปลี่ยนป็นสีแดงเรื่อๆ เพราะอากาศที่เย็นจัดบาดเข้ากับผิวเนื้อนุ่ม ฮยอกแจพรูลมหายใจออกมาอีกเฮือก เขาเป็นคนขี้หนาว แต่ก็ชอบมันไม่แพ้กัน ฮยอกแจสอดมือเข้าในเสื้อโค้ทแล้วตัดใจก้าวเดินเร็วๆให้ถึงหน้าร้านของพี่แอรี่ ยังคงใช้ชีวิตเหมือนปกติสุข แอบมีแปลกใจนิดหน่อยที่ตอนไปถึงหน้าเคาท์เตอร์ พี่แอรี่มองเขาแล้วยิ้มแปลกๆ แต่ฮยอกแจก็ไม่ได้ใส่ใจ

     

    “เอ้อ เดี๋ยวก่อนฮยอกแจ”

     

    “ครับ พี่แอรี่”

     

    “โต๊ะประจำของนายมีแขกเค้ามาขอนั่งด้วยนะ”

     

    “อ๋อ ไม่เป็นไรครับ ผมนั่งโต๊ะอื่นก็ได้”

     

    “เค้าบอกว่าขอนั่งแค่แป๊บเดียวน่ะ”

     

    ฮยอกแจร้องอ๋อเบาๆ พลางพยักหน้าเข้าใจ แล้วก็ตัดสินใจเดินไปยังโต๊ะประจำของตัวเอง เห็นผู้ชายที่แอร์รี่บอก ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าชายตรงหน้าสวมแจ็คเก็ตตัวหนาพร้อมกับสวมฮู้ดคลุมหน้าไว้มิดชิด ซ้ำยังใส่แว่นตาดำเสียอีก ถึงอากาศข้างนอกมันจะหนาวแต่ว่าในร้านพี่แอรี่น่ะก็เปิดฮีตเตอร์อุ่นๆไว้สำหรับลูกค้าเหมือนกันนะ ผู้ชายคนนี้ไปหนาวมาจากไหนกัน

     

    “กาแฟดำที่สั่งได้แล้วค่ะ ส่วนนี่นมสตอเบอร์รี่ร้อน กับฮันนี่โทสต์ของฮยอกแจ”

     

    ประโยคแรกพูดกับชายหนุ่มที่ยังคงนั่งนิ่ง ส่วนประโยคหลังหันมาพูดกับฮยอกแจด้วยรอยยิ้ม ฮยอกแจมองหน้าพี่แอรี่อย่างงุนงง เมื่อตลอดเวลาที่มาอยู่ที่มาร์เซย์ แม้พี่แอรี่จะเป็นคนคิดเมนูสำหรับอาหารเช้าให้เขาก็เถอะ แต่ว่าเมนูนี้ไม่เคยมีใครที่รู้นอกจากคนที่อยู่เกาหลีเท่านั้น

     

    “ทำไมวันนี้เป็นเมนูนี้ล่ะครับ”

     

    “พอดีพี่อยากลองทำน่ะ”

     

    พี่แอรี่ตอบยิ้มๆแล้วก็เดินจากไป ฮยอกแจเองก็คร้านจะใส่ใจอะไรมากนัก  ใบหน้าสวยหันมาให้ความสนใจกับเจ้านมร้อนกับขนมหวานของโปรดตรงหน้า ริมฝีปากบางแย้มยิ้มออกมา พาให้คนที่แอบมองอยู่อดจะยิ้มตามไปด้วยไม่ได้ จนต้องเฉไฉยกกาแฟดำของตัวเองขึ้นมาจิบเพื่อปิดบัง  กินไปได้สองสามคำ ฮยอกแจก็ลุกออกไปยังโซนโปสการ์ด เพราะพี่แอรี่บอกว่าแฟนเขาพึ่งกลับมามีรูปใหม่ๆมาเพียบ ยืนเลือกอยู่ซักพักก็ได้มาสองสามใบ เดินกลับมาที่โต๊ะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว แล้วก็ยกเจ้าของโพลารอยด์ตัวเก่งออกมาถ่ายภาพเจ้าขนมหน้าตาน่าทาน เปลี่ยนมุมอยู่นานแต่ก็ไม่ได้มุมที่ถนัดซักที จนในที่สุดก็ตัดสินใจเรียกผู้ร่วมโต๊ะ

     

    “ขอโทษนะครับ ถ่ายรูปให้ผมหน่อยได้มั๊ย”

     

    ผู้ชายที่นั่งตรงข้ามเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อยแล้วก็เอากล้องไป ฮยอกแจเองก็ยิ้มกว้างพร้อมกับบอกให้ถ่ายตอนที่เขากำลังจะกิน

     

    “ขอบคุณมากนะครับ”

     

    “ไม่เป็นไรครับ”ได้ยินสำเนียงที่คุ้นเคยดังออกมา ทำให้ฮยอกแจอดจะแปลกใจไม่น้อย เมืองนี้ไม่ค่อยมีคนอยากมามากนัก มันเป็นเมืองชนบท คนที่รักธรรมชาติเท่านั้นถึงจะอยากมาแบบจริงๆจังๆ

     

    “อ้าวคุณเป็นคนเกาหลี มาเที่ยวที่นี่หรอครับ?”

     

    “เปล่าครับ ผมมาตามหาแฟนน่ะ”

     

    “อ้ออออ ครับผม” เมื่อเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ฮยอกแจจึงไม่ได้ถามไถ่อะไรต่อ หันมาใส่ใจกับรูปโพลารอยด์ของตัวเองที่จะแนบไปการ์ดโปสการ์ดสำหรับทงเฮใบนี้ด้วย ไม่รู้ว่าป่านนี้ ขาดใจตายไปหรือยัง เขาเลื่อนกำหนดกลับออกไปอีก ทั้งยังฝากโปสการ์ดให้แฟนพี่แอรี่ส่งให้ ทำให้ทงเฮไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนอีก แต่เอานะ มาเที่ยวทั้งที ขอใช้ให้คุ้มหน่อย

     

    “เขียนถึงแฟนหรอครับ”

     

    “ใช่ครับผม ผมหนีมาเที่ยวน่ะ ฮ่ะๆ ตอนแรกก็อยากให้มาด้วยกัน แต่แฟนผมงานยุ่ง ทั้งยังไม่ค่อยชอบอะไรแบบนี้ เลยมาคนเดียวดีกว่าครับ”

     

    “ทำไมไม่ลองชวนดูล่ะครับ”

     

    “ฮ่ะๆ แฟนผมเป็นคนชอบเที่ยวกลางคืนมากกว่าครับ ที่จริงผมอยากให้มาพักผ่อนด้วยกันที่นี่นะ ที่นี่สวยมาก ผมว่าแฟนคุณก็คงติดใจเมืองนี้อยู่เหมือนกัน มาเที่ยวนานจนคุณต้องมาตามหาเลย”

     

    “เค้าชอบหนีผมเที่ยวประจำนั่นแหละครับ”

     

    ฮยอกแจยิ้มรับ อดรู้สึกว่าที่คุยกันนั้นมันก็เข้าตัวเองไม่น้อย เขาเองก็ชอบหนีทงเฮมาเที่ยวแบบนี้ประจำ แต่จะให้มาด้วยกันสองคนทงเฮก็ไม่ชอบอีก   เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ตอบอะไร เขาเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน ตอนนี้ที่นู่นน่าจะประมาณสองทุ่ม โทรหาทงเฮซักหน่อยให้หายคิดถึงก็คงไม่เป็นไร มือเรียวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหมายเลขที่จำได้ขึ้นใจ ไม่นานก็มีการกดรับจากปลายสาย ยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็ได้เสียงตอบกลับมา

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    .”นมสตอเบอร์รี่ร้อน กับ ฮันนี่โทสต์ อร่อยมั๊ย ฮยอกแจ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    THE END OF TBC

    5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×