ลำดับตอนที่ #20
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : CB:19
"กูทำขนาดนี้แล้วยังไม่ชัดอีกหรอแบค"ความเงียบที่ปกคลุมไปทั่วรถเมื่อสักครู่นี้ถูกทำลายลง ตาของร่างสูงจ้องลึกลงมาที่ดวงตาของผมอย่างไม่ละไปไหน
"ใครจะไปรู้ บางทีคุณอาจจะทำแบบนี้กับทุกคนก็ได้นี่คับ"
"กูทำแบบนี้กับมึงคนเดียวเพราะกูชอบมึงไง ชัดพอยัง"ชัดคับและผมก็คิดว่ามันชัดเกินไป มันกระทันหันซะจนผมตกใจตั้งรับไม่ทัน อะไรมันจะพูดออกมาได้ง่ายขนาดนั้นและเพราะคำพูดของเขาที่ทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจมันแปลกออกไปมันเต้นอย่างกับคนที่ไม่เคยออกกำลังกายแล้วอยู่ๆไปออก เต้นเร็วจนผมคิดว่าถ้ามันระเบิดได้หรือกระเด็นออกมาได้คงเป็นไปแล้วอ่ะจริงๆ
"...."
"ตามึงพูดบ้างเหอะ ให้กูพูดคนเดียวคิดว่ากูไม่เขินรึไง"คำพูดของเขาทำให้ผมตื่นจากภวังค์
"ก็เออคือเหมือนกันแหละคับ"ผมที่อึกอักกับคำพูดพวกนี้เสตาหลบไปมองกระจกด้านข้างแทนอย่างไม่รู้จะทำตัวยัง อะไรไหนเขาบอกผมว่าเขินไงแต่ก็ไม่เห็นมีอาการอะไรเลยนี่
"อะไรเหมือนกัน เขินหน่ะหรอ"ยัง ยังไงยังไม่เลิกเซ้าซี้อีก
"ก็ทั้งหมดนั้นแหละคับ"ผมพูดไปทั้งๆที่ตาก็ยังคงมองกระจกข้างทางอยู่
"ก็แล้วมันอะไรบ้างล่ะ"เสียงของร่างสูงดูมีความติดตลกจนผมคิดว่าตอนนี้หน้าของเขาต้องยิ้มอยู่แน่ๆ
"คุณก็รู้แล้วนี่ ผมไม่พูดหรอกนะคับ"พอจบประโยคผมก็จัดท่านั่งตัวเองเอนเบาะลงไปเตรียมจะนอนหนีความเขินอายจนทำอะไรไม่ถูกนี้ เขาที่รู้ว่าผมจะหนีความอายก็ได้แต่หัวเราะออกมาอย่างได้ใจ พร้อมกับเหยียบคัดเร่งให้รถได้เคลื่อนที่ออกไป
เช้าที่สดใสเพราะเป็นวันที่ผมสอบวันสุดท้ายของพวกเราแถมวันนี้เฮียคริสกับเจ๊อี้ชิงก็กลับมาจากที่ไปฝึกงานอยู่ที่จีนอีกซะด้วย คืนนี้เราก็เลยนัดฉลองปาร์ตี้อยู่ที่ร้านแอลดีซะเลยแถมยังมีแพลนไว้ว่าจะไปต่อที่บ้านของผมอีก แหมจุใจกันเลยทีเดียววว
"เหยย แบควิชาของอาจารย์ป้าอ่ะมึงง ชีทที่กูเก็งข้อสอบไว้แม่งหายเอาของมึงมาอ่านหน่อยดิ"คยองซูที่พึ่งมาถึงก็ตรงเข้ามาเขย่าแขนผมอย่างเอาเป็นเอาตาย อะไรจะขนาดนั้น
"เออๆใจเย็นดิวะ"ผมส่งชีทให้มันมันก็รีบรับไปอ่านทันที เหลือเวลาตั้งชั่วโมงนึงผมก็คงว่างไปยาวๆเลยดิ ผมเป็นพวกที่ไม่อ่านหนังสือเกินสองรอบต่อวันอยู่แล้วเพราะถ้ายิ่งอ่านมันก็ยิ่งจะจำไม่ได้แถมยังต้องกดดันตัวเองอีกผมก็เลยเลือกที่จะอ่านทุกวันแต่วันล่ะสองรอบเท่านั้นเพราะคนเราพอทำอะไรไปหรือเห็นอะไรหลายๆวันติดกันมันก็จะจำได้ไปเองโดยที่ไม่ต้องพยายามอะไรมาก
"แบค กูไม่เคยเห็นมึงอ่านหนังสือสอบเลยนะ"ผมเงยหน้ามองไปทางเซฮุนที่เอ่ยถามผมที่กำลังนั่งเเล่นเกมส์ในมือถืออยู่อย่างสงสัย
"เออนั้นดิแล้วมึงทำข้อสอบได้ป้ะเนี้ย"ตามด้วยคู่หูของมันนั้นก็คือไอ้จงแด
"โอ้ยย เอาตัวเองให้รอดก่อนที่จะไปถามเด็กสามจุดแปดขึ้นดีกว่าแม้ะ"แต่กอ่นที่ผมจะพูดอะไรออกไปก็กลายเป็นไอ้เทาก็พูดขัดขึ้นมาก่อน แล้วจำเป็นที่จะต้องเอาเกรดผมมาเรียกแทนชื่อมั๊ยคับเนี้ย
"โอโหงั้นเชิญคุณอัจฉริยะนั่งเล่นเกมส์ต่อเลยคับ"พอเซฮุนพูดเสร็จก็หันไปท่องหนังสือในมือมันต่อคับ อย่าใช้คำว่าอ่านสำหรับคนอย่างมันเลยให้เรียกท่องเลยดีกว่า
"เบื่อล่ะ กูไปเดินเล่นก่อนนะเดี๋ยวกลับมา"ผมที่เบื่อสุดก็ได้ขอตัวออกมาจากลุ่มเพื่อนที่กำลังเคร่งเครียดกับการสอบในอีกไม่นานนี้ออกมาเดินเล่นซะเลย
ที่ที่ผมกำลังเดินอยู่นั้นก็คือสวนของคณะเกษตรที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของมหาลัยนี้และเป็นที่ที่เงียบสงบเพราะถึงมันจะสวยคนก็ไม่ค่อยมาที่นี้เยอะกันนักเหตุผลก็เพราะมันไกลที่สุดหน่ะสิรถก็เอาเข้ามาไม่ได้เพราะต้องการให้ที่นี้เป็นธรรมชาติมากที่สุด แต่ผมชอบที่นี้ไงมันอยู่ใกล้กับคณะผมนะถ้าขับรถมาแต่ถ้าให้เดินมาก็ยังคงไกลอยู่ดี
ผมเป็นคนชอบธรรมชาติก็เลยชอบมาที่นี้ไปด้วยเลย เวลามาก็คงจะเป็นตอนที่ผมเบื่อๆโลกเบื่อๆสังคมแหละแต่ก็ไม่ได้มาบ่อยๆคือเอาจริงๆนะเพื่อนผมยังไม่รู้เลยว่าผมชอบมาอยู่ที่นี้ถึงจะรู้ว่าผมชอบอยู่กับธรรมชาติก็เถอะ เพราะผมไม่เคยพูดว่าการเดินเล่นของผมผมจะไปไหนแถมยังไม่เคยพูดถึงที่นี้สักครั้งอีกต่างหาก ผมนั่งลงที่เปเชือกที่ผูกติดกับต้นไม้ที่ผมชอบนั่งทุกครั้งที่มาเล่นที่นี่ เห้อ ไม่ว่าจะมากี่ครั้งที่นี่ก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนี่เป็นเสนห์ของที่นี่อีกอย่างนึงที่ผมหลงไหลผมค่อยเอนตัวลงนอนราบไปกับเป หลับตาลงช้าๆอย่างที่ทำเป็นประจำแต่หลับตาลงไม่นานผมก็รู้สึกว่ามีใครยืนมองผมอยู่ทำให้ผมต้องขมวดคิ้วอย่างขัดใจเวลาแบบนี้ไม่ควรมีอะไรมาขัดป้ะ
"พี่แบคฮยอนคะ"เสียงร่างบางที่ผมคุ้นเคยดีเรียกชื่อผมขึ้น ทำให้ผมต้องถอนหายใจแรงๆพร้อมกับลืมตาขึ้นอย่างเสียไม่ได้
"คับ"ผมลุกขึ้นนั่งก่อนจะตอบคนตรงหน้าออกไป
"เออ..หนูขอโทษนะคะที่มารบกวนเวลาพักผ่อนของพี่"เธอโค้งตัวขอโทษผม
"คับ ขอบคุณคับที่รู้ตัว"ผมตอบไปเสียงเรียบพร้อมกับหยิบมือถือออกมาเขี่ยเล่น
"พี่แบคฮยอนรีบมั๊ยคะ"
"รีบสิผมมีสอบนะ ขอตัว"ผมเลือกที่จะกลับไปใช้สรรพนามพวกนี้ตั้งแต่ทะเลาะกับชานยอลเมื่อวาน ผมไม่อยากยุ่งกับใครอีกแล้วตั้งแต่รู้สึกแบบนั้นกับร่างสูงเขา
"แต่หนู.."
"คุณก็รู้แล้วนี่ว่าผมมีสอบ หรือคุณยังไม่เข้าใจว่ามันต้องรีบแค่ไหน"คำพูดของผมแทรกประโยคของเธออย่างตั้งใจ พร้อมกับร่างกายของผมที่ลุกยืนขึ้นเต็มความสูงของตัวเองและรีบก้าวเท้าเดินผ่านหน้าเธอไปอย่างรวดเร็ว
"แต่หนูท้องนะคะ พี่จะไม่รับผิดชอบหน่อยหรอ"คำพูดของเธอทำให้ขาของผมหยุดชะงักอย่างตกใจ พอผมได้ยินประโยคที่ทำให้อึ้งไปชั่วขณะนี้หน้าของชานยอลก็ลอยมาเต็มหัวรู้สึกปัญหานี้มันจะหนักเกินไปสำหรับตวามสัมพันธ์ของเรารึเปล่า เราทั้งคู่ต้องเลิกกันมั๊ย พ่อแม่เราสองคนต้องผิดหวังในตัวผมแน่ๆเลยใช่มั๊ย เพื่อนๆผมเขาจะโกรธผมมากแค่ไหนที่ทำให้เพื่อนของพวกเขาอีกคนต้องเจ็บปวดกับการกระทำของผม
แต่ทุกคนคงไม่รู้สินะว่าจริงๆแล้วผมเป็นคนเห็นแก่ตัวแค่ไหน มากกว่าที่คิดก็แล้วกัน
"แน่ใจแล้วใช่มั๊ยกับสิ่งที่คุณพูดออกมาทั้งหมด"จะว่าผมแย่ยังไงก็ได้นะที่ถามแบบนี้ออกไปแต่ขนาดผมเป็นคนทำแท้ๆผมยังไม่คิดว่าเขาเป็นลูกผมเลย
"พี่พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง หนูไม่ได้สำส่อนเหมือนพี่นะคะ"คับ ยอมรับแล้วคับว่าสำส่อนแต่ก็ป้องกันนะคับ
"ผมพูดอะไร ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะคุณหน่ะคิดมากถ้าเป็นลูกผมจริงๆผมก็จะรับดูแลแต่ใช่ว่าผมจะต้องหย่ากับชานยอลและคุณก็ไม่มีสิทธิ์เอาเรื่องนี้ไปบอกใครด้วย"ผมจ้องมองลึกลงไปในสายตาคนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง
"งั้นหนูจะต้องเป็นเมียเก็บพี่หน่ะหรอ เหอะ"ไปๆมาๆนิสัยคนตรงหน้าก็จะออกลายแล้วแหละ
"หัวไวเหมือนกันนะคับเนี้ย:)"
ตอนนี้สั้นไปหน่อยยเพราะตั้งใจจบแบบนี้อ่ะตอนหน้าค่อยยาวๆเลยทีเดียวเน้อะ555555555555
ขอโทษที่หายไปนานเน้อออ แล้วก็ไม่มีอะไรจะแก้ตัวด้วยอ่ะขอน้อมรับคำด่าเลยอ่ะงื้อออ เดี๋ยวมาต่อให้เรื่อยๆแต่ไม่เทเรื่องนี้แน่นอนน้าาา
#ไม่ได้แก้คำผิดอ่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น