ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {EXO} NEVER :Chanbaek Ft.EXO

    ลำดับตอนที่ #13 : CB:13

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 819
      9
      24 เม.ย. 59







           ฟึ่บ โอ้ยย!! 
           เมื่อผมขยับตัวเพื่อที่จะเข้าไปซุกตัวหลบความหนาว ก็พบว่าร่างกายส่วนช่วงร่างของผมมันเจ็บระบมไปหมด เจ็บชนิดที่ไม่รู้จะเอาไปเปรียบเทียบกับอะไรเลยล่ะคับ รวดร้าวมากคับคุณผู้อ่านทุกท่าน ปกติเคยทำแต่เขาแม่งพอเจอกับตัวแล้วแบ่บอยากจะร้องไห้ ฮืออ กูจะไม่ให้มึงทำอีกแล้ววว วอทเดอะฟัคค
           "อ้ะ ชานยอลล"ผมเอ่ยเรียกร่างสูงที่ตื่นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่ามันกำลังไซร้ซอกคอผมอยู่นี่สิ เมื่อคืนนี้ไม่พอใช่มั๊ย 
           "อืออ ขออีกนิดเถอะ นะนะ"คิดว่าอ้อนแล้วจะให้รอ แค่นี้ผมก็จะเดินไม่ไหวแล้วมั๊ย
           "ไม่ได้คับ"ผมบอกเสียงแข็งพร้อมกับผลักร่างสูงออกเต็มแรงและยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง
           "อะไร นี่มึงฟันแล้วทิ้งหรอ"แหม พูดเหมือนกูเป็นคนฟันมึง
           "ผมไม่คุยกับคุณแล้ว จิ้"ผมจิ้ปากอย่างอารมณ์เสีย ก่อนที่จะหายเข้าไปในห้องน้ำเป็นเวลานานแสนนานจนจำไม่ได้ ถุยยย
           

           เมื่อผมกับร่างสูงเดินลงมาก็ต้องแปลกใจกับภาพที่เห็นในห้องทานอาหารของบ้านผม ห้องที่ตอนนี้น่าจะมีคนอยู่แค่สี่คนแต่ตอนนี้มันกลัลพุ่งพ่านไปหมด ด้วยร่างหนาๆของคนที่ผมคุ้นเคยทั้งนั้น ทำไมพวกมันยังอยู่กันอีกล่ะเนี้ยย
           "ไงมึง เคลียร์กับผัวได้แล้วดิถึงลงมาช้าอ่ะ"อ่ะจ้า กูยอมใจคำทักมึงเลยจริงๆจองกุก โอ้ะผมลืมเล่าไปเลยว่าชานยอลรู้จักเพื่อนผมทุกคนที่มางานวันเกิดผมแล้วเมื่อวาน และก็ได้ทำการนั่งคุยกันจนรู้ที่มาที่ไปของรูปนั้นแล้วเขาจึงหายโกรธผมแล้ว คือแค่คุยนี่ไม่เท่าไหร่แต่มึงนี่เล่นสนิทกับเพื่อนกูทุกคนเลยไง แหมอะไรจะเข้ากับคนง่ายปานนั้น และก็เพราะเหตุผลนี่แหละคับจากที่พวกมันสนิทกันทุกคนแล้ว พวกมันก็เลยอยากพูดอะไรก็ได้ที่มันอยากพูดโดยไม่ต้องเกรงใจใคร
           "อุ้ต้ะ คนมีผัวมาแล้วหรอค่ะ"จิมินทักบ้าง
           "โหห พอคืนดีกันแล้วนี่หายหัวไปเลยนะเจ้าของวันเกิด"จิน
           "พวกมึงก็ไปแซวมัน ไปนั่งๆๆๆ เออแบคแล้วมึงจะนั่งได้มั๊ยวะ"อีกนิดมึงเกือบดีล่ะเทา
           "ถ้าพวกมึงไม่หุบปาก ก็ไปแดกข้าวที่อื่น"ผมปรายตามองทุกคนพร้อมกับประโยคที่ได้ยินแล้วก็ต้องเงียบ และใช่มันเงียบกันทั้งโต๊ะก้มหน้าก้มตากินข้าวไปเรื่อยๆรวมทั้งตัวผมด้วย 
           "ฮยอง สามแฝดล่ะคับ"ผมหันไปถามคนเป็นพี่ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ
           "ไปเรียนหน่ะ"อ้าา ลืมไปเลยนะเนี้ยว่าสามแฝดนั้นต้องเรียนด้วยเหมือนกัน
           "แล้วทำไม พวกมึงยังอยู่"ผมหันกลับไปถามพวกมันบ้าง
           "ก็เล่นเมาหัวราน้ำทุกคนจะให้กลับบ้านได้ยังไงคับคุณแบคฮยอน"น้ำเสียงล่อตีนมากคับ
           "อย่ามากวนส้นตีนหวังแจ็คสัน"ผมบอกมันเสียงเรียบ
           "มึงมีเรียนหรอวะ"ซูก้าที่นั่งเงียบอยู่นานถามผมขึ้นมา ทำให้ทุกคนที่ไม่ได้สนใจชุดนักศึกษาที่ผมใส่ตั้งแต่ทีแรกเริ่มสนใจมันขึ้นมาทันที
           "เออเด่ะ มีตอนสิบโมงเนี้ย"ผมบอกออกไปพร้อมกับเบ้ปากออกมาหน่อยๆ
           "นี่เก้าโมงครึ่ง"เสียงนิ่งๆของชานยอลทำให้ผมเบิกตากว้างออกมา
           "เชี้ยล่ะ เห้ยไปก่อนนะ"ผมรีบลุกขึ้นและวิ่งออกไปจากบ้านไปทีจอดรถทันที และเพราะว่ารีบแบบนี้ไง ผมถึงลืมกุญแจเนี้ย โอ้ย ซวยจริงยิ่งวิชานี่เป็นของอาจารย์ป้าซะด้วยไปช้าโดนบ่นหูชาแน่
           "เดี๋ยวกูไปส่ง"ชานยอลที่พึ่งวิ่งมาถึงก็รีบขึ้นไปประจำตำแหน่รับบทเป็นคนขับรถทันที


           "ขอบคุณมากคับ"ผมไม่รอให้ร่างสูงได้พูดอะไร ก็ทำการปิดประตูรถทันทีที่พุ่งตัวออกจากรถมาได้และรีบวิ่งไปที่ลิฟท์ สภาพนี้คงขึ้นบันไดไม่ไหวหรอกคับมันเจ็บเกินไปทำใจมิทันนี่รีบวิ่งขนาดนี้ใช่ว่าจะไม่เจ็บนะคับ แต่ทำไงได้วะ ไม่รีบก็ซวยดิ
           "อาจารย์ป้าล่ะวะ"ผมถามขึ้นทันทีที่นั่งลงบนโต๊ะเลคเชอร์ข้างคยองซูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นร่างของคนที่ทำให้ผมรีบมาเรียนขนาดนี้อยู่ในห้องเลยแม้แต่เงา
           "กูก็ไม่รู้ว่ะ มาก่อนมึงได้ไม่ถึงห้านาทีเอง"มันตอบมาออกมาอย่างหน่ายๆ
           "เชรดโด้ วันนี้จารย์ป้าแม่งงดคลาสว่ะพวกมึง"อยู่ดีๆไอ้อามี้ที่เป็นประธานรุ่นก็ตะโกนขึ้นมา รู้แม่งทุกเรื่องจริงๆคับไอ้เนี้ย เรื่องจริงเรื่องปลอมแม่งก็รู้หมดจนผมไม่รู้จะชื่อมันดีรึเปล่าแล้วเนี้ย
           "มึงรู้ได้ไงวะ"ร่างบางข้างผมตะโกนถามออกไป ดีมากเพื่อนกูก็อยากรู้เหมือนกัน
           "โอ้ยย พวกมึงก็อยู่กันสองคนนี่ กูบอกกี่ครั้งๆแล้วว่าให้เข้าไลน์กลุ่มบ้างจะได้รู้เรื่องอะไรกับเขา"ไอ้อามี้มันหลากเสียงยาวอย่างรำคาญพวกผมอย่างเต็มทน แต่น้ำเสียงฟังดูล่อตีนมากเป็นพิเศษ แต่จริงๆมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ไงพวกผมอาจจะอคติกับมันมากเกินไป 
           "แค่บอกว่ารู้ได้ไงมันจะตายรึไงวะ"คยองซูมันไม่ชอบไอ้นี่มาตั้งแต่ปีหนึ่งล่ะ เหตุผลหน่ะหรอ พูดมากไปไม่ถูกชะตาด้วยเหตุผลเดียวกันกับผมเด้ะ
           "กูก็แค่บอกให้พวกมึงเข้าไลน์กลุ่ม"อะไรกันนี่เรากำลังจะมีเรื่องกันเพราะเข้าไลน์กลุ่มเนี้ยนะ
           "อย่ามาเสือกกับสิทธิการใช้ไลน์ของกู"คยองซูตอบหน้านิ่งแต่น้ำเสียงนี่เอาเรื่องสุดๆ
           "งั้นมึงก็ไม่ต้องมาอยากรู้เรื่องอะไรจากไลน์ของคนอื่นหรอกสัส"อามี้เดี๋ยวมึงได้รู้จักนรก
           "กูแค่ถามป้าววะ มึงจะทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ทำไม"คยองซูลุกขึ้นยืนและเดินไปประจันหน้ากับไอ้อามี้จังๆ เชี้ยล่ะไง
           "มึงจะทำไม!ก็กูเป็นของกูแบบนี้ อย่าคิดว่ามีผัวแล้วกูไม่กล้าทำอะไรนะเพราะมึงมันไม่ใช่ผู้หญิง!"ปากดีๆของมึงนี่หุบซะทีได้มั๊ยช่วยดูด้วยว่าตอนนี้คยองซูโกรธแค่ไหน ตอนนี้เพื่อนร่างเล็กของผมกำมือแน่นเริ่มขบกรามจนหน้าเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆแล้ว คยองซูเป็นคนใจเย็นมาตลอดล่าสุดก็จำได้ว่าโกรธแบบนี้แต่หนักกว่านี้ก็เมื่อสองปีมาแล้ว 
           "กูก็ไม่เคยบอกนี่ว่ากูเป็นผู้หญิง"คยองซูตะคอกกับไปบ้างอย่างเหลืออด
           "ใจเย็นก่อน"ผมที่ทนฟังมานานก็เดินเข้าไปไกล้เพื่อนร่างเล็ก ตบบามันลงเบาๆอย่างเตือนสติ
           "มึงดูมันพูดดิแม่งพูดทีนี่รู้สันดานหมดอ่ะว่าชั่วแค่ไหน"มันหันมาพูดกับผมแต่ผมก็ตอบไปแค่การส่ายหัวน้อยๆให้มัน
           "มึงหัดดูเพื่อนมึงไว้ด้วยอีผิดเพศ!!"เส้นฟางเส้นสุดท้ายที่ผมถนอมเอาไว้เมื่อกี้ก็ได้ขาดลงไปเมื่อคำพูดที่สุดแสนจะเหี้ยนั้นออกมาจากปากของไอ้อามี้ เพราะตอนนี้คยองซูเข้าไปคว้าขอเสื้อพร้อมกับจัดหมัดเล็กๆแต่หนักเอาการใส่หน้าโดยไม่ยั้ง
           "ดีโอมึง ใจเย็น"ผมพยายามลากมันขึ้นมาแต่ก็ต้องเสียหลักล้มลงไปกระแทกกับโต๊ะเลคเชอร์ที่อยู่ไกล้ๆด้วยการสะบัดแขนออกของร่างบาง ช่วงล่างผมที่เจ็บอยู่แล้วก็เจ็บยิ่งขึ้นแต่จะให้มานั่งดูอย่างนี้ก็ไม่ได้ป้าววะ
           "เฮ้ย มึงจะรุมเพื่อนกูหรอสัสเจอพวกกูรุมก่อนมั๊ย"เพื่อนไอ้อามี้วิ่งมาที่ตัวผมที่กำลังจะเข้าไปห้างคยองซูไว้ก็ถูกดักเอาไว้ก่อน 
           "กูไม่ได้จะรุม..ตุ้บบ"ไม่รอให้ผมพูดจบหมัดแรงควายของมันก็กระแทกเข้าหน้าผมเต็มๆ เฮ้ยไรวะกูจะเข้าไปห้ามนี่ผิดด้วยหรอ แต่ผมก็ไม่รอช้ารีบสวนกลับไปอย่างอย่างเต็มแม็ก แต่ด้วยพวกมันที่มีเยอะกว่าผมจึงไม่ได้วางมือตั้งแต่หมัดแรกที่สวนกลับไปแต่มันต่อเนื่องกันมาเรื่อยๆอ่างไ่ยอมหยุดจนกว่าจะตายกันไปข้างนึง และ...
           "เฮ้ยย อาจารย์มาา!!"เหตุผลนี่ด้วย เราหยุดชะงักกันไปและรีบผละออกจากกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ผมก้มลงไปหยิบกระเป๋าทั้งของผมและคยองซูพร้อมกับยื่นให้มัน มันที่กำลังยืนเช็ดเลือดตรงมุมปากอยู่ก็ต้องรับไปหลังจากนั้นเราทั้งสองคนก็เดินออกจากห้องไปทั้งอย่างนั้น 


           ขณะที่พวกผมกำลังเดินไปที่โรงอาหารรวมที่เป็นจุดนัดพบของกลุ่มในวันนี้ก็ต้องถูกมองด้วยแววตาสงสัยและกระซิบนินทากันมาตลอดทางจนถึงตอนนี้ตอนที่นั่งเก้าอี้รอพวกมันอยู่ 
           "ไงพวกมึงมาซะเร็วเชียว เฮ้ยย"ไอ้เทาที่มาถึงตอนนแรกเห็นแค่หลังก็ทักดีๆนี่แหละแต่พอเกห็ฯหน้าเท่านั้นแหละ สะดุ้งเชียวมึง
           "เร็วเหี้ยไรมึงนั้นแหละช้า"ผมตอบออกไปอย่างหน่ายๆพร้อมกับยกแก้วกาแฟที่แวะซื้อเมื่อกี้ขึ้นจิบ
           "แบคมึงพาไอ้คยองซูไปมีเรื่องกับใครมาา"โอโหเทามึงเห็นกูเป็นคนยังไง
           "มึงคิดว่ากูเปิดหรอ ถามมันก่อนมั๊ย"ผมเหลือบไปมองคนข้างตัวก่อนจะตวัดตาไปมองหน้าไอ้เทาอย่างหงุดหงิด จะไม่ให้หงุดหงิดได้ไงวะอยู่ดีไม่ว่าดีก็ต้องโดนลากไปเอี่ยวด้วยเนี้ย
           "ก็ใช่น่ะสิ แต่เดี๋ยวนะเงียบแบบนี้ นิ่งแบบนี้ สายตาแบบนี้มึงเป็นคนเริ่มหรอวะดีโอ"ตอนแรกมันก็ทะเล้นอยู่หรอกนะ แต่ฟังจากที่เรียกมันว่าดีโอเสียงแข็งแบบนี้คงจริงจังแล้วสินะ 
           "จ้ะเอ๋ เชี้ยย!"เล่นใหญ่ไปอีกข้าลู่หานเพื่อนกู 
           "ช้าจังนะ"ผมหันไปหาคนมาใหม่
           "ใครเป็นคนเริ่ม!"ลู่หานที่มาใหม่เปลี่ยนอารมณ์ทันทีที่เห็นใบหน้าของพวกเราสองคน
           "ดีโอ"และเทาก็เป็นคนตอบดูจากสรรพนามที่ใช้แล้วพวกมันคงโกรธน่าดูที่พวกผมไปมีเรื่องกันแบบนี้
           "กูบอกกี่ทีแล้วว่าไม่ว่าจะยังไงก็ห้ามไปปีเรื่องชกต่อยกับใคร พวกมึงจำกันไม่ได้หรอ"ลู่หานพูดออกมานิ่งๆ แต่ก็เพราะความนิ่งๆของมันนั้นแหละที่ทำให้ผมตัวเกร็งขึ้นมา 
           "กูขอโทษ"ผมพูดออกไปเสียงแผ่ว
           "กูก็ขอโทษพวกมึงเหมือนกัน มึงด้วยแบคกูขอโทษ"คยองซูที่นั่งเงียบมาตั้งนานเอ่ยขึ้น
           "อืม กูอยู่มาได้ก็เพราะพวกมึงนะขอล่ะอย่าให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอยอีกครั้งเลย กูขอร้องจริงๆ"ลู่หานเข้ามากอดพวกผมสองคนรวดและเอ่ยคำขอร้องที่ฟังดูแล้วสงสารจับใจเมื่อได้ยินถึงคำพูดที่ทำให้หวนกลับไปหาอดีตที่เจ็บปวดของคนหน้าสวย


           

           หลังจากเกิดเหตุการ์ณนั้นขึ้นนี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว แต่ตอนที่ชานยอลเห็นหน้าผมที่เต็มไปด้วยรอยหมัดนะร่างสูงดูโกรธมากถึงกับจะไปกระทืบไอ้คนที่ต่อยผมด้วยซ้ำแต่ผมห้ามไว้ก่อนพร้อมกับบอกว่าจำหน้าคนต่อยไม่ได้ ชานยอลจึงลดละไปแต่ก็ไม่วายบ่นผมอย่างกับพ่อ 
           "แบคมานี่มา"ร่างสูงเรียกผมพร้อมกับตบดังปุปุให้ผมเข้าไปนั่ง ผมที่ว่านอนสอนง่ายก็เดินเข้าไปนั่งอย่างไม่อึกอักอะไรทั้งนั้น ร่างสูงหยิบหลอดยาที่เตรียบไว้อยู่แล้วขึ้นมาและบีบให้เนื้อครีมยาออกมาและค่อๆแตะลงมาเบาๆตรงที่เป็นรอยเหมือนทุกๆวันทุกๆครั้งที่ถึงเวลาทายาตั้งแต่ผมโดนต่อยมาน่ะนะ
           "งื้ออ มันจะหายแล้วนี่นา"พอทาเสร็จก็เอาหัวเล็กของผมไปฟุบที่ไหล่หนาพร้อมกับถูไถอย่างที่ชอบทำ 
           "ก็แค่จะมั๊ยล่ะ หื้ม"ร่างสูงกระชับอ้อมกอดแน่นพร้อมกับเอาคางมาเกยไว้นิ่งๆที่ไหล่ผมเช่นกัน
           "วันนี้แบคมีทำกิจกรรมที่มอตอนสิบโมงนะคับ"ผมผละออกมาจ้องตาเขานิ่งๆ
           "หื้ม ให้ไปส่งมั๊ย"ผมส่ายหัวทันทีที่ได้ยินคำถาม ทำให้ร่างสูงขมวดคิ้วอย่างสงสัย
           "ไม่รู้ว่าเสร็จกี่โมงคับ"
           "ก็แค่โทรบอกนี่"
           "ไม่เอาหรอก แบคอยากขับรถไปเองบ้างนี่"
           "นี่เหตุผลหรอ ฮะๆๆ"หัวเราะอะไรของเขา
           "ง่ะ หัวเราะอะไรอ่ะ"ดูแต๋วขึ้นทุกวันเลยคับผมเนี้ย
           "ก็น่ารักนี่ อยากขับรถไปเองมั๊ย"ผมรับพยักหน้าลงอย่างรวดเร็ว "จูบก่อน" หื้มมม นี่แค่จะขับรถไปเองนี่ถึงกับต้องเปลืองตัวขนาดนั้นเชียว
           "แต่ว่า.."
           "จูบก่อน"ง่ะ อะไรของเขาเนี้ย
           "ไม่ใช่คือแบ่บ.."
           "จะจูบไม่จูบ"คือรอให้ผมพูดจบสักประโยคหน่อยเถอะ
           "คืองี้.."
           "ถ้างั้นไปส่ง..อืมมม"ไม่รอให้เขาได้ขัดผมอีกครั้ง ผมทาบทับริมฝีปากเขาลงอย่างแผ่วเบาและกำลังจะผละออกแต่ก็ทำแบบที่ใจคิดไม่ได้เพราะเมื่อริมฝีปากเราแนบชิดกันหัวของผมก็ถูกล็อกไว้ไม่ให้ขยับหนีไปไหนได้ด้วยฝีมือของร่างสูงตรงหน้า ลิ้นร้อนของเขาเริ่มแทรกเข้ามาในโพรงปากของผมทีละนิดละเมียดละไมทีละหน่อย เป็นจูบที่ค่อยๆเป็นค่อยๆไปไม่ดุดันรุนแรงเหมือนทุกทีแต่มันกลับอ่อนโยนหอมหวานอย่างบอกไม่ถูก จนผมคิดว่าถ้าทำแบบนี้บ่อยๆผมต้องเสพติดการจูบของเขาแน่ดีไม่ดีอาจจะเสพติดร่างสูงไปด้วยเลยก็ได้
      

           กว่าผมจะได้ขับรถออกมาเองนี่คิดดูดิต้องเปลืองตัวไปแล้วเท่าไหร่ เห้ออ พอผมจอดรถเสร็จก็รีบวิ่งไปที่ซุ่มกิจกรรมทันที 
           Rrrrr Rrrrrr 
           "มีไร"ผมกรอกเสียงใส่มือถือเครื่องสวยอย่าห้วนๆ
           (มาหากูที่ยิมบริหารหน่อยดิ)อะไรของมันวะ
           "กูต้องทำกิจกรรม"คือมีงานมีการต้องทำไง
           (กูมีธุระจะคุยด้วย)
           "ทางนี้เหอะ มึงอย่ามารับลมคมใน"
           (กูกราบเหอะแบค)ท่าทางจะสำคัญจริงๆแหะ
           "อืม รอแป๊บ"วางสายเสร็จผมก็รีบมุ่งหน้าเดินไปที่ที่มันนัดไว้เมื่อกี้เลยคับ

           "มีไร"พอผมเข้ามาในยิมแล้วก็ต้องเจอกับร่างคนนัดที่คุ้นเคยรอออยู่แล้ว
           "กูแค่แปลกใจ ทำไมมึงอยู่กับไอ้ชานยอลได้วะ"พอมันเริ่มถามผมก็ชะงักทันที ผมก็ไม่รู้เหมือนกันทำไมถึงอยู่กับเขาได้
           "นี่คือเรื่องที่มึงเรียกกูมาคุย"ผมเลี่ยงที่จะตอบแต่เปลี่ยนเป็นการถามกลับแทน
           "ก็ประมาณนั้นแหละ"
           "มึงอย่าถามอะไรที่มึงก็รู้ มันไม่ต่างไปจากเดิมหรอก"ผมบอกมันไปแค่นั้น และหันหลังเตรียมเดินออกไปแต่ก็ต้องชะงักกับประโยคที่มันพูดขึ้นมาซะก่อน
           "เลิกเล่นเกมส์นี่มั๊ย กูสงสารมัน!"
           "อย่ามาปัญญาอ่อนจื่อเทา เตรียมของพนันไว้ดีๆเถอะเพราะคนที่จะชนะก็คือกู"










           จบไปแล้วไงตอนนี้ ไม่มีอะไรมากเลย แต่ตอนต่อไปนี่ต้องรอลุ้นกันนะจ้ะ อิอิ
           ด่าได้แต่อย่าแรง #ไม่ได้แค่คำผิดง่ะ
           
     
      


           
           
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×